เมื่อน้ำใจเอื้อเฟื้อมีล้นเหลือ
หากคุณมีโอกาสถวายของขวัญแก่กษัตริย์ คุณจะถวายอะไร? ถ้ากษัตริย์ทรงเป็นผู้ปกครองที่มั่งคั่งที่สุดและฉลาดที่สุดในโลกล่ะจะว่าอย่างไร? คุณคิดออกไหมว่าของขวัญอะไรจะทำให้พระองค์พอพระทัย? ประมาณสามพันปีมาแล้ว ราชินีแห่งชีบาต้องใคร่ครวญปัญหาเหล่านี้ในขณะที่เตรียมการเพื่อไปเยือนผู้ปกครองเช่นว่านั้นแหละ คือกษัตริย์ซะโลโมแห่งยิศราเอล.
คัมภีร์ไบเบิลบอกเราว่าของขวัญของพระนางรวมถึงทองคำ 120 ตะลันต์ “กับน้ำมันหอมมากมายอีกทั้งอัญมณีต่าง ๆ.” ตามราคาปัจจุบัน เฉพาะทองคำก็มีค่าประมาณ 1,500,000,000 บาทแล้ว. ส่วนน้ำมันหอมซึ่งเป็นทั้งน้ำมันหอมและน้ำมันยานั้นถือกันว่ามีค่าเทียบเท่าทองคำซึ่งเป็นสินค้าล้ำค่า. ขณะที่คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าราชินีองค์นี้ถวายน้ำมันหอมแก่ซะโลโมมากเท่าใด แต่ก็บอกเราว่าของขวัญของพระนางนั้นยังคงไม่มีของขวัญใดเทียบได้เลย.—1 กษัตริย์ 10:10, ล.ม.
เห็นได้ชัดว่าราชินีแห่งชีบาเป็นสตรีผู้มั่งคั่งและใจกว้าง. ยิ่งกว่านั้น ความใจกว้างของพระนางได้รับการตอบแทน. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “พระราชาซาโลมอน พระราชทานทุกอย่างแก่พระราชินีแห่งเชบาตามที่พระนางทรงมีพระประสงค์ ไม่ว่าพระนางจะทูลขอสิ่งใด นอกเหนือไปจากสิ่งที่พระนางนำมาถวายพระราชา.” (2 โครนิกา 9:12, ฉบับแปลใหม่) จริงอยู่ นั่นอาจเป็นราชประเพณีในการแลกเปลี่ยนของขวัญ ถึงกระนั้น คัมภีร์ไบเบิลกล่าวเจาะจงถึง “พระทัยเอื้อเฟื้อ” ของซะโลโม. (1 กษัตริย์ 10:13, ล.ม.) ซะโลโมเองเขียนไว้ดังนี้ “จิตวิญญาณที่ใจกว้างนั้นเองจะถูกทำให้อ้วนพี และผู้ที่ให้น้ำผู้อื่นอย่างไม่อั้น ตนเองจะได้รับน้ำอย่างไม่อั้นเช่นกัน.”—สุภาษิต 11:25, ล.ม.
แน่นอน ราชินีแห่งชีบาก็ได้สละเวลาและทุ่มเทความพยายามมากด้วยเพื่อมาเยือนซะโลโม. ดูเหมือนว่าชีบาเคยตั้งอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันนี้คือสาธารณรัฐเยเมน; ดังนั้น ราชินีผู้นี้กับขบวนอูฐของพระนางได้เดินทางถึง 1,600 กว่ากิโลเมตรมายังยะรูซาเลม. ดังที่พระเยซูตรัสว่า “พระนางนั้นได้มาแต่ที่สุดปลายแผ่นดินโลก.” เหตุใดราชินีแห่งชีบาจึงเพียรพยายามมากมายขนาดนั้น? อันดับแรกคือ พระนางเสด็จมา “เพื่อจะฟังสติปัญญาของซะโลโม.”—ลูกา 11:31.
พระธรรมหนึ่งกษัตริย์ 10:1, 2 (ฉบับแปลใหม่) บอกว่า ราชินีแห่งชีบา “เสด็จมาทดลอง [ซะโลโม] ด้วยปัญหายุ่งยากต่าง ๆ. . . . พระนางก็ทูลเรื่องในใจต่อพระองค์ทุกประการ.” ซะโลโมตอบอย่างไร? “ซาโลมอนตรัสตอบปัญหาของพระนางทั้งสิ้นไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนอยู่พ้นพระราชาซึ่งพระองค์จะทรงอธิบายแก่พระนางไม่ได้”—1 กษัตริย์ 10:3, ฉบับแปลใหม่.
ด้วยความตื่นตะลึงในสิ่งที่พระนางได้ยินและได้เห็น พระนางทูลอย่างถ่อมพระองค์ว่า “ราชบริพารเหล่านี้ซึ่งยืนอยู่ใกล้ชิดพระองค์เสมอ, และได้ยินพระสติปัญญาของพระองค์ก็เป็นสุขสำราญ.” (1 กษัตริย์ 10:4-8) พระนางไม่ได้ทูลว่าข้าราชบริพารของซะโลโมเป็นสุขเพราะพวกเขาเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง—แม้ว่าพวกเขามั่งคั่งก็ตาม. แต่ข้าราชบริพารของซะโลโมได้รับพระพรเพราะพวกเขาสามารถได้ฟังเสมอถึงพระสติปัญญาที่พระเจ้าทรงประทานแก่ซะโลโม. นับเป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมจริง ๆ ที่ราชินีแห่งชีบาวางไว้ให้ไพร่พลของพระยะโฮวาในทุกวันนี้ซึ่งได้รับความยินดีในพระสติปัญญาของพระผู้สร้างเอง และพระสติปัญญาของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ด้วย!
ที่พึงสนใจด้วยก็คือถ้อยคำต่อไปซึ่งพระนางตรัสแก่ซะโลโมที่ว่า “สาธุการแก่พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพระองค์.” (1 กษัตริย์ 10:9) ดูเหมือนว่าพระนางได้เห็นพระหัตถ์แห่งพระยะโฮวาในสติปัญญาและความเจริญรุ่งเรืองของซะโลโม. เรื่องนี้สอดคล้องกับสิ่งที่พระยะโฮวาได้ตรัสสัญญากับชาติยิศราเอลเมื่อก่อนโน้น. พระองค์ตรัสว่า ‘การรักษาบัญญัติของเราจะแสดงสติปัญญาและความเข้าใจของเจ้าทั้งหลายต่อหน้าชนประเทศทั้งปวง, ซึ่งจะได้ยินบรรดาข้อกฎหมายเหล่านี้, และเขาจะว่า, แท้จริงชนประเทศอันใหญ่นี้เป็นคนมีสติปัญญาและความเข้าใจ.’—พระบัญญัติ 4:5-7.
การมาหาพระผู้ทรงประทานสติปัญญา
ในสมัยปัจจุบัน หลายล้านคนก็ถูกชักนำมายังองค์การของพระยะโฮวาเช่นกันเพราะพวกเขาเข้าใจว่า ที่ “ยิศราเอลของพระเจ้า” เป็น “คนมีสติปัญญาและความเข้าใจ” นั้นไม่ใช่เป็นมาแต่เกิด แต่เพราะกฎหมายและหลักการอันสมบูรณ์พร้อมของพระเจ้าชี้นำพวกเขา. (ฆะลาเตีย 6:16) ที่จริง จำนวนผู้รับบัพติสมาแสดงว่าในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีสาวกใหม่หลายแสนคนในแต่ละปีได้พูดกับชนยิศราเอลฝ่ายวิญญาณดังนี้: “เราจะไปด้วยท่าน, เพราะเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับท่านแล้ว.” (ซะคาระยา 8:23) คนใหม่เหล่านี้จะรู้สึกทึ่งสักเพียงไรเมื่อได้เห็นการเลี้ยงอาหารฝ่ายวิญญาณซึ่งพระยะโฮวาทรงจัดไว้ต่อหน้าเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์! พวกเขาไม่เคยเห็นอาหารฝ่ายวิญญาณอย่างนี้มาก่อนเลยในศาสนาที่พวกเขาเคยนับถือ.—ยะซายา 25:6.
การถวายแด่พระผู้ให้องค์ใหญ่ยิ่ง
ด้วยเหตุที่ได้รับมากเหลือเกิน เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ซึ่งหยั่งรู้ค่ารู้สึกสงสัยว่าเขาจะสามารถถวายอะไรตอบแทนแด่พระยะโฮวาพระเจ้า พระมหากษัตริย์และพระผู้ให้องค์ใหญ่ยิ่ง. คัมภีร์ไบเบิลเผยให้เห็นว่าของถวายดีที่สุดที่เราสามารถถวายแด่พระยะโฮวาคือ “คำสรรเสริญเป็นเครื่องบูชา.” (เฮ็บราย 13:15, ล.ม.) เพราะเหตุใด? เพราะเครื่องบูชานี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการช่วยชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่พระยะโฮวาทรงถือว่าสำคัญยิ่งในสมัยสุดท้ายนี้. (ยะเอศเคล 18:23) นอกจากนั้น การที่คนเราใช้กำลังและเวลาเพื่อช่วยคนที่เจ็บป่วย, คนซึมเศร้า, และคนอื่น ๆ ก็เป็นเครื่องบูชาที่ทรงพอพระทัยรับเอา.—1 เธซะโลนิเก 5:14; เฮ็บราย 13:16; ยาโกโบ 1:27.
การบริจาคเงินมีบทบาทสำคัญ. เงินเหล่านั้นทำให้เป็นไปได้ที่จะมีการผลิตคัมภีร์ไบเบิล, สรรพหนังสือที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิล, และการได้มาซึ่งสถานที่ที่คริสเตียนจะประชุมกันได้. (เฮ็บราย 10:24, 25) นอกจากนี้ การบริจาคยังทำให้มีกองทุนบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสงครามและภัยพิบัติจากธรรมชาติด้วย.
เพื่อชี้นำเราในเรื่องการให้ พระคำของพระเจ้าวางหลักการดีเยี่ยมบางประการไว้. ตัวอย่างเช่น พระคำของพระเจ้าสอนว่า คริสเตียนให้ไม่ใช่ตามที่มีการกำหนดไว้ แต่ให้สิ่งที่พวกเขาสามารถให้อย่างสมเหตุสมผล พวกเขาให้โดยสมัครใจ และให้ด้วยใจยินดี. (2 โกรินโธ 9:7) บางคนให้ได้มาก ส่วนคนอื่น ๆ อาจให้ได้เพียงเล็กน้อยเหมือนหญิงม่ายที่ขัดสนในสมัยพระเยซู. (ลูกา 21:2-4) น่าทึ่งมิใช่หรือที่พระยะโฮวา—เจ้าของเอกภพทั้งสิ้น—ทรงถือว่าของถวายด้วยเจตนาดีและการเสียสละทุกอย่างที่ทำในพระนามของพระองค์นั้นล้วนมีค่า?—เฮ็บราย 6:10.
เพื่อพวกเขาจะให้ด้วยใจยินดี ไพร่พลของพระยะโฮวาได้รับแจ้งอยู่เสมอในเรื่องความจำเป็นต่าง ๆ และวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อจะสนองความจำเป็นเหล่านั้นได้. แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาจะกระตุ้นผู้มีหัวใจสมัครให้ตอบรับ. ในยิศราเอลสมัยโบราณ มีการปฏิบัติตามวิธีการนี้ในการสร้างพลับพลาประชุม และต่อมาก็พระวิหาร. (เอ็กโซโด 25:2; 35:5, 21, 29; 36:5-7; 39:32; 1 โครนิกา 29:1-19) ในศตวรรษแรก วิธีการอย่างเดียวกันนั้นทำให้คริสเตียนสามารถมีโภคทรัพย์ที่จำเป็นเพื่อนำข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรไปยังนานาชาติและเพื่อสนับสนุนพี่น้องในยิศราเอลในช่วงกันดารอาหาร.—1 โกรินโธ 16:2-4; 2 โกรินโธ 8:4, 15; โกโลซาย 1:23.
ทุกวันนี้ก็เช่นเดียวกัน พระยะโฮวาทรงอวยพรประชาชนของพระองค์ และพระองค์จะทรงอวยพรพวกเขาต่อ ๆ ไปโดยทรงประทานสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องมีเพื่อทำให้งานประกาศและสั่งสอนอันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยเห็นมาสำเร็จครบถ้วน.—มัดธาย 24:14; 28:19, 20.
อะไรคือสิ่งจำเป็นในขณะนี้?
ในไม่กี่ปีมานี้ พยานพระยะโฮวาได้รับการจดทะเบียนในหลายประเทศซึ่งก่อนหน้านี้งานของพวกเขาถูกจำกัด. ผลคือ จำนวนผู้ประกาศในประเทศเหล่านี้หลายประเทศเพิ่มพูนขึ้นอย่างน่าตื่นตะลึง. จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าคัมภีร์ไบเบิลและหนังสือที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นที่ต้องการอย่างมากทีเดียว.
หอประชุมราชอาณาจักรก็เช่นกัน. ในขณะนี้จำเป็นต้องมีหอประชุมใหม่อีกประมาณ 9,000 หลังทั่วโลก. ถ้าจะสร้างหอประชุมวันละหลัง คงต้องใช้เวลามากกว่า 24 ปีเพื่อสนองความจำเป็นในปัจจุบัน! ขณะเดียวกัน มีประชาคมใหม่ถูกตั้งขึ้นวันละประมาณเจ็ดประชาคม ประชาคมเหล่านี้หลายแห่งอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของโลกซึ่งมีข้อจำกัดด้านการเงิน. แต่สถานที่เหล่านั้นหลายแห่งไม่จำเป็นต้องมีอาคารราคาแพง. ในบางแห่ง หอประชุมซึ่งสนองความจำเป็นและทำหน้าที่ให้คำพยานอย่างดีแก่ชุมชนอาจสร้างเสร็จได้โดยใช้เงินแค่ 200,000 กว่าบาท.
ในศตวรรษแรก คริสเตียนบางคนมีฐานะการเงินดีกว่าคนอื่น ดังนั้น อัครสาวกเปาโลจึงเขียนว่า “เป็นการให้กันไปให้กันมา, คือยามพวกท่านมีบริบูรณ์เช่นเวลานี้, ท่านจะช่วยคนเหล่านั้นที่ขัดสน และยามเขามีบริบูรณ์, เขาจะได้ช่วยพวกท่านเมื่อขัดสนอยู่.” (2 โกรินโธ 8:14) ทุกวันนี้ “การให้กันไปให้กันมา” คล้ายกันนั้นกำลังทำให้มีเงินทุนที่จำเป็นเพื่อจัดให้มีคัมภีร์ไบเบิล, สรรพหนังสือเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล, หอประชุม, การบรรเทาทุกข์, และสิ่งอื่น ๆ ในหลายส่วนของโลก. การให้เช่นนั้นเป็นพระพรจริง ๆ—ทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ!—กิจการ 20:35.
ดังที่มีแสดงให้เห็นในจดหมายที่สมาคมฯ ได้รับจากผู้ที่มีใจเอื้อเฟื้อ ผู้อ่านวารสารนี้หลายคนอยากจะยื่นมือช่วยแต่ไม่แน่ใจว่าจะบริจาคได้ด้วยวิธีใดบ้าง. ไม่ต้องสงสัยว่ากรอบในบทความนี้จะช่วยตอบข้อข้องใจของพวกเขา.
ระหว่างรัชสมัยอันรุ่งโรจน์ของซะโลโม “บรรดากษัตริย์ทั่วโลก” ซึ่งได้ยินเรื่องพระองค์ต่างเสด็จมาเยือน. ถึงกระนั้น คัมภีร์ไบเบิลเอ่ยชื่อผู้ครองดินแดนผู้เดียวเท่านั้น คือ ราชินีแห่งชีบา. (2 โครนิกา 9:23) พระนางได้ทุ่มเทจริง ๆ! แต่พระนางก็ได้รับตอบแทนอย่างอุดมล้นเหลือ—มากถึงขนาดที่พอถึงตอนสิ้นสุดการเยือนของพระนาง พระนางถึงกับ “นิ่งอึ้งและอัศจรรย์ใจ.”—2 โครนิกา 9:4, ฉบับแปล ทูเดส์ อิงลิช.
ในอนาคต พระยะโฮวา พระมหากษัตริย์และพระผู้ให้องค์ใหญ่ยิ่ง จะทรงทำยิ่งกว่าที่ซะโลโมเคยทำได้นั้นมากนักสำหรับผู้ที่เสียสละเพื่อพระองค์. คนเหล่านั้นจะยืน “นิ่งอึ้งและอัศจรรย์ใจ” เพราะพระยะโฮวาไม่เพียงจะทรงคุ้มครองพวกเขาผ่านวันพิพากษาอันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์เท่านั้น แต่หลังจากนั้น พระองค์จะทรง “แบพระหัตถ์ของพระองค์ และทรงสนองความปรารถนาของทุกสิ่งที่มีชีวิต.”—บทเพลงสรรเสริญ 145:16, ล.ม.
[กรอบหน้า 22]
วิธีต่าง ๆ ที่บางคนเลือกใช้
เพื่อบริจาคแก่งานทั่วโลก
หลายคนกันเงินหรือจัดงบประมาณไว้จำนวนหนึ่งซึ่งเขาจะใส่ในกล่องบริจาคที่ติดป้ายว่า “เงินบริจาคสำหรับงานทั่วโลกของสมาคมฯ—มัดธาย 24:14.” แต่ละเดือน ประชาคมต่าง ๆ จะส่งเงินเหล่านั้นไปยังสำนักงานกลางในบรุกลิน นิวยอร์ก หรือไม่ก็ส่งถึงสำนักงานสาขาในประเทศ.
นอกจากนั้น การบริจาคเงินโดยสมัครใจอาจส่งตรงถึงแผนกเหรัญญิกโดยจ่าหน้าถึง Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania, 25 Columbia Heights, Brooklyn, New York 11201-2483 หรือถึงสำนักงานของสมาคมฯ ซึ่งดำเนินงานในประเทศคุณ. อาจบริจาคอัญมณีหรือของมีค่าอื่น ๆ ได้ด้วย. ควรแนบจดหมายสั้น ๆ ไปกับของบริจาคโดยมีข้อความว่า ของนั้นเป็นของที่ยกให้โดยสิ้นเชิง.
บริจาคแบบมีเงื่อนไข
อาจฝากเงินไว้กับสมาคมว็อชเทาเวอร์โดยมีข้อตกลงพิเศษว่าจะคืนเงินให้ผู้บริจาคหากผู้บริจาคมีความจำเป็น. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อแผนกเหรัญญิกตามจ่าหน้าที่อยู่ข้างต้น.
การให้แบบเตรียมการ
นอกจากเงินที่ยกให้โดยสิ้นเชิงและการบริจาคแบบมีเงื่อนไขแล้ว ยังมีวิธีการให้แบบอื่นอีกเพื่อประโยชน์แก่งานราชอาณาจักรทั่วโลก. วิธีให้เหล่านี้รวมถึง:
เงินประกัน: อาจระบุชื่อสมาคมว็อชเทาเวอร์ [ในประเทศไทย: มูลนิธิส่งเสริมการศึกษาพระคัมภีร์] ให้เป็นผู้รับประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิต หรือเงินบำเหน็จบำนาญ.
บัญชีเงินฝาก: บัญชีเงินฝาก, ใบรับฝากเงินที่เปลี่ยนมือได้, หรือบัญชีเงินบำนาญส่วนบุคคลอาจมอบไว้ในความดูแล ของสมาคมว็อชเทาเวอร์ หรือกำหนดให้ใช้เงินเมื่อสิ้นชีวิต แก่สมาคมว็อชเทาเวอร์ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารท้องถิ่น.
หุ้นและพันธบัตร: อาจบริจาคหุ้นและพันธบัตรแก่สมาคมว็อชเทาเวอร์ด้วยการยกให้โดยสิ้นเชิง หรือโดยมีข้อตกลงให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้บริจาคต่อไป.
อสังหาริมทรัพย์: อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายได้ก็อาจบริจาคแก่สมาคมว็อชเทาเวอร์ ไม่ว่าด้วยการยกให้โดยสิ้นเชิง หรือโดยการสงวนสิทธิเก็บกินในที่ดินตลอดชีวิตไว้สำหรับผู้บริจาคซึ่งจะอาศัยในบ้านหรือที่ดินนั้นตลอดชีวิต. เขาควรติดต่อกับสมาคมฯ ก่อนจะทำการโอนอสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ให้สมาคมฯ.
พินัยกรรมและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน: อาจยกทรัพย์สินหรือเงินให้แก่สมาคมว็อชเทาเวอร์ [หรือมูลนิธิฯ] ด้วยการทำพินัยกรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือระบุชื่อสมาคมฯ เป็นผู้รับประโยชน์ตามข้อตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน. กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอันเป็นประโยชน์ต่อองค์การศาสนาอาจมีข้อดีตรงที่ได้รับยกเว้นภาษี.
ตามความหมายของสำนวนที่ว่า “การให้แบบเตรียมการ” ผู้บริจาคตามวิธีเหล่านี้คงต้องวางแผนอยู่บ้าง. เพื่อช่วยแต่ละคนซึ่งประสงค์จะให้สมาคมฯ [มูลนิธิ] ได้รับประโยชน์จากการให้แบบเตรียมการบางประเภทนั้น สมาคมฯ จึงจัดเตรียมจุลสารภาษาอังกฤษชื่อ การให้แบบเตรียมการเพื่องานราชอาณาจักรทั่วโลก. จุลสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อตอบคำถามหลายข้อที่สมาคมฯ ได้รับซึ่งเกี่ยวกับการให้, พินัยกรรม, และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน. จุลสารนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน, การเงิน, และภาษีอีกด้วย. และจุลสารนี้ถูกออกแบบเพื่อช่วยผู้คนในประเทศสหรัฐซึ่งวางแผนจะยกทรัพย์สินให้สมาคมฯ ในเวลานี้หรือจะทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้เมื่อตนเสียชีวิต ให้เลือกวิธีการที่เป็นประโยชน์ที่สุดและได้ผลที่สุดโดยคำนึงถึงครอบครัวของตนและสภาพการณ์ส่วนตัว. จะรับจุลสารนี้ได้โดยเขียนไปขอโดยตรงจากแผนกการให้แบบเตรียมการ.
หลังจากอ่านจุลสารนี้แล้วและปรึกษาแผนกการให้แบบเตรียมการ หลายคนจึงสามารถสนับสนุนสมาคมฯ และขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์สูงสุดในเรื่องการเสียภาษี. ควรส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมเหล่านี้และแจ้งให้แผนกการให้แบบเตรียมการทราบ. ถ้าคุณสนใจการจัดเตรียมเรื่องการให้แบบเตรียมการประเภทใดประเภทหนึ่ง คุณควรเขียนหรือโทรศัพท์ถึงสมาคมฯ ตามที่อยู่ข้างล่างนี้ หรือติดต่อสำนักงานของสมาคมฯ ซึ่งดำเนินงานในประเทศของคุณ.
CHARITABLE PLANNING OFFICE
Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
100 Watchtower Drive,
Patterson, New York 12563-9204
Telephone: (914) 306-1000
[รูปภาพหน้า 23]
กิจกรรมของพยานพระยะโฮวาได้รับการสนับสนุนโดยการบริจาคด้วยความสมัครใจ