อย่าให้สิ่งใดทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา
“จงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด.”—ยโฮ. 24:15
1-3. (ก) ทำไมยะโฮซูอะจึงเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา? (ข) เราควรจำอะไรไว้เมื่อต้องตัดสินใจ?
การเลือกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก. คนที่มีทางเลือกสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่งว่าชีวิตของเขาจะมุ่งไปในทิศทางใด. เพื่อเป็นตัวอย่าง: ขอให้นึกภาพชายคนหนึ่งที่กำลังเดินไปตามถนนและพบว่าถนนเส้นนั้นแยกออกเป็นสองทาง. เขาต้องเลือกว่าจะไปทางไหน. เขาคงเลือกทางที่จะพาเขาไปใกล้จุดหมายปลายทางแทนที่จะเลือกทางที่จะพาเขาให้ห่างจากจุดหมายปลายทางของเขา.
2 คัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างของหลายคนที่เผชิญกับสถานการณ์คล้าย ๆ กัน. ตัวอย่างเช่น คายินต้องตัดสินใจว่าจะควบคุมความโกรธของเขาหรือไม่. (เย. 4:6, 7) ยะโฮซูอะต้องเลือกว่าจะนมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ต่อไปหรือจะนมัสการพระเท็จ. (ยโฮ. 24:15) ยะโฮซูอะมีเป้าหมายที่จะรักษาสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวา ท่านจึงเลือกทางเดินที่จะช่วยท่านให้ทำอย่างนั้น. คายินไม่ได้มีเป้าหมายเช่นนั้น และเขาเลือกทางที่ทำให้เขาห่างเหินจากพระยะโฮวา.
3 บางครั้ง เราก็ต้องตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญเพื่อจะรักษาตัวให้อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง. เราต้องจำไว้ว่าสิ่งที่เราเลือกอาจทำให้พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญและช่วยเราให้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ได้ หรืออาจทำให้เราห่างเหินจากพระองค์ก็ได้. (อ่านฮีบรู 3:12) ในบทความนี้และบทความถัดไป เราจะพิจารณาเจ็ดแง่มุมในชีวิตที่เราต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าการตัดสินใจเลือกของเราจะไม่ทำให้เราห่างเหินจากพระยะโฮวา.
งานอาชีพ
4. ทำไมการหาเลี้ยงชีพจึงเป็นเรื่องสำคัญ?
4 คริสเตียนมีพันธะที่จะเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าถ้าใครไม่ยอมเลี้ยงดูครอบครัว เขาก็เลวยิ่งกว่าคนที่ไม่มีความเชื่อ. (2 เทส. 3:10; 1 ติโม. 5:8) ดังนั้น งานอาชีพเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเรา. แต่ถ้าคุณไม่ระวัง การตัดสินใจของคุณในเรื่องงานอาชีพอาจทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวาได้. เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?
5. คุณควรคิดถึงเรื่องอะไรบ้างก่อนจะตอบรับข้อเสนอให้ทำงาน?
5 สมมุติว่าคุณกำลังมองหางานทำ. ถ้าคุณอยู่ในประเทศที่หางานทำได้ยาก คุณอาจถูกล่อใจให้ตอบรับงานใดก็ตาม ที่มีคนเสนอให้คุณทำ. แต่จะว่าอย่างไรถ้าลักษณะของงานนั้นขัดกับหลักการในคัมภีร์ไบเบิล? หรือจะว่าอย่างไรถ้างานนั้นเรียกร้องเวลามากจนทำให้คุณไม่มีเวลาพอสำหรับครอบครัวหรือที่จะทำกิจกรรมของคริสเตียน? คุณควรตอบรับข้อเสนอนั้นไหมโดยคิดว่ามีงานที่ไม่ดีก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำเลย? ขอให้จำไว้ว่า การเลือกที่ไม่ดีอาจทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวาได้. (ฮีบรู 2:1) ไม่ว่าคุณกำลังหางานทำหรือคิดจะเปลี่ยนงาน คุณจะตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุมได้อย่างไร?
6, 7. (ก) เหตุผลหลักสองอย่างอะไรที่อาจทำให้คนเราตอบรับข้อเสนอให้ทำงาน? (ข) การเลือกอย่างไหนที่จะทำให้เขาใกล้ชิดพระยะโฮวายิ่งขึ้น และเพราะเหตุใด?
6 ดังที่กล่าวไปแล้ว ขอให้ระลึกถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้เสมอ. จงถามตัวเองว่า ‘ฉันอยากได้อะไรจากงานอาชีพที่เลือกจะทำ?’ ถ้าเหตุผลหลักที่คุณทำงานคือเพื่อเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวเพื่อจะรับใช้พระยะโฮวาได้ พระองค์จะทรงอวยพรความพยายามของคุณ. (มัด. 6:33) พระยะโฮวาทรงรู้วิธีที่จะช่วยคุณเมื่อคุณตกงานหรือเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำอย่างไม่คาดคิด. (ยซา. 59:1) พระองค์ “ทรงรู้วิธีช่วยคนที่เลื่อมใสพระองค์ให้รอดชีวิตจากการทดสอบ.”—2 เป. 2:9
7 จะว่าอย่างไรถ้าเหตุผลหลักที่คุณทำงานคือเพื่อจะมีเงินมาก ๆ? คุณอาจทำตามเป้าหมายนั้นได้. แต่นับว่าเป็นอันตรายที่จะทำงานเพียงเพื่อจะมั่งคั่งร่ำรวย. (อ่าน 1 ติโมเธียว 6:9, 10) การเน้นมากเกินไปในเรื่องความมั่งคั่งและงานอาชีพมีแต่จะทำให้คนเราห่างเหินจากพระยะโฮวา.
8, 9. พ่อแม่ควรถามตัวเองเช่นไรเกี่ยวกับงานอาชีพ และเพราะเหตุใด?
8 ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ อย่าลืมว่าลูก ๆ เรียนจากวิธีที่คุณตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ. ลูก ๆ เห็นว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ. งานอาชีพหรือว่ามิตรภาพของคุณกับพระยะโฮวา? ถ้าพวกเขาเห็นว่าเกียรติยศชื่อเสียงและความมั่งคั่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ พวกเขาอาจติดตามคุณไปในเส้นทางที่มุ่งสู่ความหายนะไหม? พวกเขาอาจนับถือคุณในฐานะพ่อแม่น้อยลงไหม? คริสเตียนสาวคนหนึ่งกล่าวว่า “เท่าที่จำได้ พ่อของดิฉันหมกมุ่นอย่างมากกับงานของท่าน. ตอนแรก ดูเหมือนว่าท่านทำงานหนักเพราะอยากให้ครอบครัวได้รับสิ่งที่ดีที่สุด. ท่านต้องการดูแลเราอย่างดี. แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีบางสิ่งเปลี่ยนไป. ท่านเอาแต่ทำงาน แล้วก็ซื้อของหรูหราฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็นเลย. ผลก็คือ ใคร ๆ ก็มองครอบครัวเราว่าร่ำรวย แต่ไม่ได้มองว่าเป็นครอบครัวที่หนุนใจคนอื่น ๆ ให้รับใช้พระยะโฮวา. ดิฉันอยากให้พ่อสนับสนุนครอบครัวเราให้ใกล้ชิดพระยะโฮวามากกว่าที่จะทำงานมาก ๆ และมีเงินมาก ๆ.”
9 พ่อแม่ทั้งหลาย อย่าทำให้ตัวคุณเองห่างเหินจากพระยะโฮวาโดยการเน้นงานอาชีพมากเกินไป. จงวางตัวอย่างให้ลูก ๆ เห็นว่าคุณเชื่ออย่างแท้จริงว่าการมีสายสัมพันธ์กับพระยะโฮวามีความสำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองมาก.—มัด. 5:3
10. คนหนุ่มสาวควรคิดถึงอะไรก่อนจะเลือกงานอาชีพ?
10 ถ้าคุณเป็นคนหนุ่มสาวที่กำลังคิดเกี่ยวกับงานที่คุณอยากทำเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณจะเลือกงานที่ดีได้อย่างไร? ดังที่พิจารณากันไปแล้ว คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณอยากให้ชีวิตของคุณมุ่งไปทางไหน. ถ้าคุณคิดถึงการเรียนหลักสูตรระยะสั้นเพื่อจะทำงานอย่างหนึ่ง งานนั้นจะช่วยให้การรับใช้พระยะโฮวาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณไหม หรือว่างานนั้นจะทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา? (2 ติโม. 4:10) คุณต้องการเป็นเหมือนผู้คนในโลกที่มีความสุขเฉพาะเมื่อพวกเขามีเงินมาก ๆ เท่านั้นไหม? หรือว่าคุณจะมีความเชื่อมั่นในพระยะโฮวาเช่นเดียวกับดาวิด? ดาวิดเขียนไว้ว่า “ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นคนหนุ่ม, จนบัดนี้เป็นคนชราแล้ว; ข้าพเจ้าก็ยังไม่เคยเห็นคนสัตย์ธรรมต้องถูกละทิ้งเสีย, ไม่เคยเห็นพงศ์พันธุ์ของเขาขอทาน.” (เพลง. 37:25) การเลือกดังกล่าวเป็นเหมือนกับการเลือกว่าจะเดินบนถนนเส้นไหน. จำไว้ว่า การเลือกเส้นทางหนึ่งจะทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา ในขณะที่อีกเส้นทางหนึ่งจะนำคุณไปถึงชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะมีได้. (อ่านสุภาษิต 10:22; มาลาคี 3:10) คุณจะเลือกเดินทางไหน?a
นันทนาการและความบันเทิง
11. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้อย่างไรในเรื่องนันทนาการและความบันเทิง แต่เราควรจำอะไรไว้?
11 คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าความสนุกสนานเป็นเรื่องผิด และไม่ได้บอกว่านันทนาการและความบันเทิงเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า. เปาโลเขียนถึงติโมเธียวว่า “การฝึกทางกายมีประโยชน์เล็กน้อย.” (1 ติโม. 4:8) คัมภีร์ไบเบิลยังบอกด้วยซ้ำว่ามี “เวลาหัวเราะ” และ “เวลาเต้นรำ” และสนับสนุนให้คนเราพักผ่อนให้เพียงพอ. (ผู้ป. 3:4; 4:6, ล.ม.) แต่ถ้าคุณไม่ระวัง นันทนาการและความบันเทิงอาจทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวาได้. เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? โดยที่คุณเลือกนันทนาการและความบันเทิงที่ไม่ดี หรือโดยที่คุณใช้เวลามากเกินไป กับสิ่งเหล่านั้น.
นันทนาการจะเป็นประโยชน์ต่อเราเมื่อเราเลือกอย่างดีและใช้เวลาอย่างเหมาะสม
12. คุณควรคิดถึงอะไรบ้างเมื่อเลือกนันทนาการและความบันเทิง?
12 ก่อนอื่น ขอให้เราพิจารณาเกี่ยวกับนันทนาการและความบันเทิงที่เราควรเลือก. คุณสามารถเลือกนันทนาการและความบันเทิงที่ดีได้อย่างแน่นอน. แต่ก็ต้องยอมรับว่าความบันเทิงส่วนใหญ่ในโลกเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง เรื่องที่เกี่ยวกับผีปิศาจ และการผิดศีลธรรมทางเพศ. ดังนั้น คุณต้องเลือกนันทนาการและความบันเทิงให้ดี. ความบันเทิงนั้นมีผลต่อคุณอย่างไร? ความบันเทิงนั้นทำให้คุณเป็นคนรุนแรง ชอบแข่งขันชิงดีชิงเด่น หรือนิยมชาติไหม? (สุภา. 3:31) ความบันเทิงที่คุณเลือกทำให้คุณต้องเสียเงินจำนวนมากไหม? ความบันเทิงนั้นอาจทำให้คนอื่นสะดุดไหม? (โรม 14:21) การเลือกนันทนาการและความบันเทิงของคุณทำให้คุณคบหาสมาคมกับคนแบบไหน? (สุภา. 13:20) การคบหาสมาคมนั้นจะกระตุ้นให้คุณอยากทำสิ่งที่ผิดไหม?—ยโก. 1:14, 15
13, 14. คุณควรพิจารณาอะไรในเรื่องเวลาที่คุณใช้ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจ?
13 นอกจากนั้น ขอให้คิดถึงเวลาที่คุณใช้ไปกับนันทนาการและความบันเทิงด้วย. ขอให้ถามตัวคุณเองว่า ‘ฉันใช้เวลาไปกับการพักผ่อนหย่อนใจมากจนแทบไม่มีเวลาที่จะไปประกาศและไปประชุมไหม?’ ถ้าคุณใช้เวลามากเกินไปกับนันทนาการและความบันเทิง คุณก็จะพบว่ากิจกรรมที่คุณทำนั้นไม่ได้ให้ความสดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น. ที่จริง คนที่ควบคุมตัวเองเพื่อจะไม่ใช้เวลามากเกินไปในการพักผ่อนหย่อนใจจะรู้สึกชื่นชมกับกิจกรรมที่เขาทำมากกว่า. ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะพวกเขารู้ว่าตนได้ทำ ‘สิ่งที่สำคัญกว่า’ เป็นอันดับแรก พวกเขาจึงไม่รู้สึกผิดเมื่อทำกิจกรรมที่เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ.—อ่านฟิลิปปอย 1:10, 11
14 แม้ว่าการใช้เวลามาก ๆ ในการพักผ่อนหย่อนใจอาจดูเหมือนเป็นเรื่องน่าสนุก แต่การทำอย่างนั้นอาจทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวาได้. พี่น้องหญิงวัย 20 ปีคนหนึ่งที่ชื่อคิมเคยมีประสบการณ์อย่างนั้น. เธอเล่าว่า “เมื่อก่อนดิฉันเคยไปงานปาร์ตี้ทุกงาน ทุก ๆ วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์. แต่เดี๋ยวนี้ดิฉันเห็นว่ามีหลายสิ่งที่ควรทำซึ่งสำคัญกว่ามาก. ตัวอย่างเช่น ในฐานะที่ดิฉันเป็นไพโอเนียร์ ดิฉันต้องตื่นนอนตอนหกโมงเช้าเพื่อไปเขตประกาศ ดิฉันจึงไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์จนถึงตีหนึ่งตีสองไม่ได้. ดิฉันรู้ว่างานเลี้ยงสังสรรค์ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีไปเสียทั้งหมด แต่ว่างานเลี้ยงเหล่านี้อาจทำให้เราเขวได้มากเลยทีเดียว. เช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ เราต้องระวังที่จะไม่ใช้เวลามากเกินไปกับเรื่องนี้.”
15. พ่อแม่จะช่วยลูก ๆ ให้เลือกนันทนาการที่ดีได้อย่างไร?
15 พ่อแม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการหาเลี้ยงตัวเองและลูก ๆ. ทั้งสองมีหน้าที่รับผิดชอบที่จะช่วยครอบครัวให้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาและช่วยทุกคนในครอบครัวให้มีความสุขด้วย. ถ้าคุณเป็นพ่อหรือแม่ อย่าคิดว่านันทนาการทุกอย่างไม่ดี. แน่นอน มีนันทนาการและความบันเทิงบางอย่างที่ไม่ดี. (1 โค. 5:6) แต่ถ้าคุณพยายามเลือกให้ดี ๆ คุณก็จะสามารถหานันทนาการและความบันเทิงที่ทำให้ครอบครัวคุณรู้สึกสดชื่นอย่างแท้จริงได้.b เมื่อทำอย่างนั้น ความบันเทิงที่คุณเลือกจะไม่ทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา.
ความสัมพันธ์ในครอบครัว
16, 17. อะไรทำให้พ่อแม่หลายคนปวดร้าวใจ และเรารู้ได้อย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเขา?
16 พ่อแม่กับลูกมีความรักและความผูกพันกันมาก. พระยะโฮวาตรัสว่าพระองค์ทรงรักประชาชนของพระองค์เหมือนแม่รักลูก. (ยซา. 49:15) เมื่อคนในครอบครัวละทิ้งพระยะโฮวาเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะรู้สึกเสียใจมาก. พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ลูกสาวถูกตัดสัมพันธ์กล่าวว่า “ดิฉันเสียใจอย่างมาก. ดิฉันไม่เข้าใจเลยว่า ‘ทำไมเธอทิ้งพระยะโฮวา?’ ดิฉันรู้สึกผิดและโทษตัวเอง.”
17 พระยะโฮวาทรงเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร. พระองค์เอง “ทรงปวดร้าวพระทัย” เมื่อทรงเห็นบุตรของพระองค์ที่เป็นมนุษย์ขืนอำนาจ. พระองค์ทรงเสียพระทัยด้วยเมื่อผู้คนที่มีชีวิตก่อนน้ำท่วมโลกไม่สนใจฟังเมื่อโนอาห์ประกาศ. (เย. 6:5, 6, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ) คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้อาจไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้ทำให้ปวดร้าวใจขนาดไหน. ถึงกระนั้น นับว่าไม่ฉลาดที่จะปล่อยให้การทำผิดของสมาชิกในครอบครัวที่ถูกตัดสัมพันธ์ทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา. คุณจะรับมือได้อย่างไรกับความเศร้าเสียใจที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนในครอบครัวละทิ้งพระยะโฮวา?
18. เหตุใดพ่อแม่ไม่ควรตำหนิตัวเองถ้าลูกละทิ้งพระยะโฮวา?
18 อย่าตำหนิตัวเองที่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น. สมาชิกครอบครัวแต่ละคนที่อุทิศตัวและรับบัพติสมาแล้วต้อง “แบกภาระของตนเอง” และเลือกว่าเขาจะรับใช้พระยะโฮวาหรือไม่. (กลา. 6:5) พระยะโฮวาทรงถือว่าคนที่ทำผิดต้องรับผิดชอบในเรื่องที่พวกเขาเลือก. พระองค์ไม่ทรงตำหนิคุณ. (ยเอศ. 18:20) นอกจากนั้น อย่าตำหนิคนอื่น ๆ. จงแสดงความนับถือต่อวิธีที่พระยะโฮวาทรงตีสอนประชาชนของพระองค์. อย่าตำหนิผู้ปกครองที่ทำหน้าที่ปกป้องประชาคม. จงต่อสู้พญามาร อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา.—1 เป. 5:8, 9
ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะหวังว่าคนที่คุณรักจะกลับมาหาพระยะโฮวา
19, 20. (ก) พ่อแม่ที่ลูกถูกตัดสัมพันธ์อาจทำอะไรเพื่อจะทนรับความปวดร้าวใจได้? (ข) พ่อแม่เหล่านี้ควรมีความหวังเช่นไร?
19 ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองพระยะโฮวาเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกของคุณ นั่นจะทำให้คุณห่างเหินจากพระองค์. จริง ๆ แล้ว สมาชิกครอบครัวที่คุณรักต้องมองเห็นอย่างชัดเจนว่าคุณจะรักพระยะโฮวายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด รวมทั้งสายสัมพันธ์ในครอบครัว. ดังนั้น เพื่อจะรับมือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ จงพยายามรักษาสายสัมพันธ์ของคุณกับพระยะโฮวาให้มั่นคงอยู่เสมอ. อย่าปลีกตัวจากพี่น้องชายหญิงที่ซื่อสัตย์. (สุภา. 18:1) ระบายความรู้สึกของคุณกับพระยะโฮวาในคำอธิษฐาน. (เพลง. 62:7, 8) อย่าหาข้อแก้ตัวที่จะคบหากับคนในครอบครัวที่ถูกตัดสัมพันธ์หรือติดต่อกับเขาทางโทรศัพท์หรืออีเมล. (1 โค. 5:11) จงหมกมุ่นอยู่กับการรับใช้พระยะโฮวา. (1 โค. 15:58) พี่น้องหญิงที่กล่าวถึงไปแล้วบอกว่า “ดิฉันรู้ว่าดิฉันต้องทำตัวให้ยุ่งอยู่กับการรับใช้พระยะโฮวาและรักษาความเชื่อให้เข้มแข็ง. เมื่อลูกสาวดิฉันกลับมาหาพระยะโฮวา ดิฉันจะได้ช่วยเธอได้.”
20 คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าความรัก “หวังทุกสิ่ง.” (1 โค. 13:4, 7) ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะหวังว่าคนที่คุณรักจะกลับมาหาพระยะโฮวา. แต่ละปี ผู้ทำผิดหลายคนกลับใจและกลับมาหาองค์การของพระยะโฮวา. พระยะโฮวาไม่ทรงขุ่นเคืองเขาอีกต่อไปเมื่อพวกเขากลับใจแล้ว. ตรงกันข้าม พระองค์ทรง ‘พร้อมที่จะยกความผิด.’—เพลง. 86:5
จงเลือกอย่างฉลาด
21, 22. คุณตั้งใจจะเลือกอย่างไรในชีวิต?
21 พระยะโฮวาทรงโปรดให้มนุษย์มีสิทธิ์ที่จะเลือก. (อ่านพระบัญญัติ 30:19, 20) แต่นี่หมายความว่าเรามีหน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องเลือกให้ดีด้วย. คริสเตียนแต่ละคนควรถามตัวเองว่า ‘ฉันได้เลือกอย่างที่จะทำให้ฉันอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องเสมอไหม? ฉันได้ปล่อยให้งานอาชีพ นันทนาการและความบันเทิง หรือสายสัมพันธ์ของครอบครัวมาทำให้ฉันห่างเหินจากพระยะโฮวาไหม?’
22 ความรักที่พระยะโฮวามีต่อประชาชนของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยน. ทางเดียวที่จะทำให้เราห่างเหินจากพระยะโฮวาก็คือเราเองเลือกเดินในทางที่ไม่ถูกต้อง. (โรม 8:38, 39) แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น! ขอให้คุณตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดทำให้คุณห่างเหินจากพระยะโฮวา. บทความถัดไปจะพิจารณาอีกสี่แง่มุมในชีวิตที่คุณจะแสดงความตั้งใจแน่วแน่เช่นนั้นได้.
a สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกงานอาชีพ โปรดดูหนังสือคำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 2.
b สำหรับข้อแนะเพิ่มเติม โปรดดูตื่นเถิด! พฤศจิกายน 2011 หน้า 17-19.