ทำงานกับพระเจ้าทำให้เรามีความสุข
“เนื่องจากได้ร่วมงานกับพระองค์ เราจึงวิงวอนท่านทั้งหลายอีกว่า อย่ารับพระกรุณาอันใหญ่หลวงของพระเจ้าแล้วพลาดจุดมุ่งหมายของพระกรุณานั้น”—2 โค. 6:1
1. ถึงแม้พระยะโฮวาเป็นพระผู้สูงสุด แต่พระองค์เชิญคนอื่น ๆ ให้มาทำอะไร?
พระยะโฮวาเป็นพระผู้สูงสุด เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์มีสติปัญญาและพลังอำนาจไม่จำกัด หลังจากพระเจ้าช่วยโยบให้รู้จักพระองค์ โยบบอกว่า “ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพระองค์ทำได้ทุกอย่าง และทุกสิ่งที่พระองค์คิดไว้จะต้องสำเร็จ” (โยบ 42:2, ล.ม.) พระยะโฮวาสามารถทำทุกอย่างที่พระองค์ตั้งใจจะทำโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร แต่พระองค์ก็ยังแสดงความรักโดยเชิญคนอื่น ๆ มาทำงานกับพระองค์เพื่อให้ความตั้งใจของพระองค์สำเร็จ
2. พระยะโฮวาเชิญพระเยซูให้มาทำงานสำคัญอะไร?
2 พระเจ้าสร้างพระเยซูลูกชายของพระองค์ก่อนที่จะสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้น พระยะโฮวาก็ให้พระเยซูช่วยสร้างสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมด (โย. 1:1-3, 18) อัครสาวกเปาโลเขียนเกี่ยวกับพระเยซูว่า “พระองค์เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงใช้ให้สร้างสิ่งอื่นทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่ประจักษ์แก่ตาและไม่ประจักษ์แก่ตา ไม่ว่าบัลลังก์ ผู้เป็นนาย ผู้ปกครอง หรือผู้มีอำนาจ สิ่งอื่นทั้งหมดนั้นพระเจ้าทรงใช้พระองค์ให้สร้าง และให้สร้างขึ้นเพื่อพระองค์” (โกโล. 1:15-17) พระยะโฮวาไม่เพียงมอบหมายงานสำคัญให้พระเยซู แต่พระองค์บอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับงานที่พระเยซูทำด้วย พระเจ้าให้เกียรติพระเยซูจริง ๆ!
3. พระยะโฮวาเชิญอาดามให้ทำงานอะไร? ทำไมพระองค์ทำอย่างนั้น?
3 พระยะโฮวายังเชิญมนุษย์มาทำงานกับพระองค์ด้วย ตัวอย่างเช่น พระเจ้าเชิญอาดามมาตั้งชื่อสัตว์ (เย. 2:19, 20) ลองคิดดูว่า อาดามมีความสุขขนาดไหนที่ได้ทำงานนี้ อาดามคงพยายามดูว่าสัตว์แต่ละอย่างมีหน้าตาและท่าทางอย่างไร แล้วเขาก็ค่อยตั้งชื่อให้สัตว์แต่ละชนิด ที่จริง พระยะโฮวาเป็นผู้สร้างสัตว์ทุกชนิด พระองค์จะตั้งชื่อให้พวกมันเองก็ได้ ถึงอย่างนั้น พระองค์อยากให้อาดามรู้ว่าพระองค์รักอาดามมาก พระองค์จึงให้เขาตั้งชื่อสัตว์ต่าง ๆ และก็ยังให้อาดามทำงานเปลี่ยนโลกนี้ให้เป็นอุทยานด้วย (เย. 1:27, 28) แต่อาดามกลับเลือกที่จะไม่ทำงานกับพระเจ้า การเลือกครั้งนี้ทำให้ทั้งตัวเขาและลูกหลานของเขาต้องเจอกับความทุกข์มากมาย—เย. 3:17-19, 23
4. คนอื่น ๆ ได้ทำงานร่วมกับพระเจ้าและมีส่วนทำให้ความต้องการของพระองค์สำเร็จอย่างไร?
4 หลังจากนั้น พระเจ้าก็เชิญคนอื่น ๆ มาทำงานกับพระองค์ด้วย โนอาห์ได้รับเชิญให้สร้างเรือที่ช่วยชีวิตเขาและครอบครัวตอนที่เกิดน้ำท่วม โมเซได้มาช่วยชาติอิสราเอลให้รอดพ้นจากอียิปต์ ยะโฮซูอะได้นำชาติอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา โซโลมอนได้สร้างวิหารในเยรูซาเล็ม ส่วนมาเรียก็ได้เป็นแม่ของพระเยซู คนที่ซื่อสัตย์เหล่านี้และคนอื่น ๆ อีกหลายคนได้ทำงานร่วมกับพระยะโฮวาและมีส่วนทำให้ความต้องการของพระองค์สำเร็จ
5. เราสามารถร่วมงานอะไรได้? จำเป็นจริง ๆ ไหมที่พระยะโฮวาต้องขอความช่วยเหลือจากเราให้ทำงานนี้? (ดูภาพแรก)
5 ในทุกวันนี้ พระยะโฮวาเชิญพวกเราให้ทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อสนับสนุนงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลของพระองค์ เราสามารถรับใช้พระเจ้าได้หลายวิธี ถึงแม้ว่าพวกเราทุกคนไม่สามารถรับใช้พระเจ้าในแบบเดียวกันได้ แต่เราทุกคนสามารถประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าได้ ที่จริง พระยะโฮวาจะทำงานนี้ด้วยตัวพระองค์เองก็ได้ พระองค์สามารถพูดกับผู้คนโดยตรงจากสวรรค์ พระเยซูยังบอกด้วยว่าพระยะโฮวาสามารถให้ก้อนหินบอกคนอื่นเกี่ยวกับกษัตริย์ของรัฐบาลพระองค์ (ลูกา 19:37-40) แต่พระยะโฮวาให้โอกาสเราเป็นเพื่อนร่วมงาน (1 โค. 3:9) อัครสาวกเปาโลบอกว่าพวกเราได้ “ร่วมงานกับพระองค์ เราจึงวิงวอนท่านทั้งหลายอีกว่า อย่ารับพระกรุณาอันใหญ่หลวงของพระเจ้าแล้วพลาดจุดมุ่งหมายของพระกรุณานั้น” (2 โค. 6:1) พวกเราได้รับเกียรติอย่างสูงจริง ๆ ที่พระเจ้าเชิญเราให้ทำงานกับพระองค์ ขอเรามาดูเหตุผลว่าทำไมการได้ร่วมงานนี้จะทำให้เรามีความสุขมาก
ทำงานกับพระเจ้าทำให้เรามีความสุข
6. พระเยซูรู้สึกอย่างไรที่ได้ทำงานร่วมกับพระเจ้า?
6 ผู้รับใช้ของพระเจ้ามีความสุขเสมอที่ได้ทำงานกับพระองค์ ก่อนที่พระเยซูลูกชายคนโตของพระเจ้าจะลงมาบนโลก ท่านบอกว่า “พระยะโฮวาสร้างเราก่อนสิ่งอื่นทั้งหมด . . . เราเป็นนายช่างอยู่ข้างพระองค์แล้ว พระองค์รักเราทุกวัน เรามีความสุขที่ได้อยู่กับพระองค์ตลอดเวลา” (สุภา. 8:22, 30, ล.ม.) ตอนที่พระเยซูทำงานกับพ่อของท่าน พระเยซูมีความสุขมากเพราะท่านได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างจนเสร็จ และท่านรู้ว่าพระยะโฮวารักท่าน แล้วเราล่ะ?
7. ทำไมการทำงานประกาศทำให้เรามีความสุข?
7 พระเยซูบอกว่าเรามีความสุข ทั้งตอนที่ได้ให้และได้รับ (กิจ. 20:35) แน่นอน ตอนที่เราได้รู้ความจริงเรามีความสุข แต่ทำไมตอนที่เราแบ่งปันความจริงก็ทำให้มีความสุขด้วย? เพราะเมื่อผู้คนเข้าใจจริง ๆ ว่าคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไร และเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า พวกเขาก็มีความสุข และนั่นก็ทำให้เรามีความสุขด้วย เราตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นผู้คนเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและวิธีใช้ชีวิตของเขา งานประกาศเป็นงานสำคัญที่สุด และเป็นงานที่ทำให้เรามีความสุขที่สุดที่เราทำได้ในตอนนี้ งานนี้ช่วยให้หลายคนมาเป็นเพื่อนกับพระเจ้าและมีชีวิตตลอดไป—2 โค. 5:20
8. บางคนพูดอย่างไรเกี่ยวกับความสุขที่พวกเขาได้รับเมื่อได้ทำงานกับพระยะโฮวา?
8 ตอนที่เราช่วยคนอื่นให้เรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวา เราก็รู้ว่าเรากำลังทำให้พระองค์พอใจ และพระองค์ก็เห็นคุณค่าความตั้งใจของเราที่พยายามรับใช้พระองค์ เมื่อคิดอย่างนี้ก็ทำให้เรามีความสุข (อ่าน 1 โครินท์ 15:58) มาร์โกพี่น้องที่อยู่ในอิตาลีพูดว่า “ผมมีความสุขที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ผมรู้ว่าได้ให้สิ่งดีที่สุดกับพระยะโฮวา ไม่ใช่กับคนอื่นที่จะลืมสิ่งที่ผมทำ” คล้ายกัน ฟรังโกพี่น้องอีกคนหนึ่งที่รับใช้อยู่ในอิตาลีก็พูดว่า “เวลาอ่านคัมภีร์ไบเบิล และรับประโยชน์จากความรู้ต่าง ๆ ที่ผ่านมาทางองค์การ ผมรู้สึกว่าพระยะโฮวาบอกรักผมทุกวัน ถึงแม้บางครั้งเราอาจคิดไปเองว่าสิ่งที่เราพยายามทำไปนั้นไม่มีค่าอะไร แต่พระองค์ช่วยผมให้รู้ว่าทุกสิ่งที่ผมทำเพื่อพระองค์นั้นสำคัญ การทำงานกับพระเจ้าทำให้ผมมีความสุขและมีชีวิตที่มีความหมาย”
ทำงานกับพระเจ้าช่วยเราให้ใกล้ชิดกับพระองค์และกับคนอื่น ๆ
9. พระเยซูมีความสัมพันธ์แบบไหนกับพระยะโฮวา? ทำไมเราถึงพูดได้อย่างนั้น?
9 ถ้าเราได้ทำงานกับคนที่เรารัก เรากับเขาก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เราจะได้รู้จักลักษณะนิสัยของคนคนนั้น ได้รู้ว่าเขามีเป้าหมายอะไรในชีวิต และกำลังพยายามทำอะไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น พระเยซูมีโอกาสทำงานกับพระยะโฮวาเป็นเวลานานอาจเป็นพัน ๆ ล้านปี พระยะโฮวาและพระเยซูรักกันมาก ไม่มีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์นี้ได้เลย พระเยซูอธิบายถึงความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับพระยะโฮวาว่า “เรากับพระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” (โย. 10:30) พระเยซูเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าจริง ๆ และทำงานร่วมกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
10. ทำไมการประกาศช่วยเราให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าและกับคนอื่น ๆ?
10 พระเยซูขอให้พระยะโฮวาช่วยดูแลสาวก ทำไมท่านขออย่างนั้น? ท่านอธิษฐานว่า “เพื่อพวกเขาจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนข้าพเจ้ากับพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” (โย. 17:11) ถ้าเราใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระเจ้า และออกไปประกาศ เราก็จะรู้จักคุณลักษณะที่ดีของพระเจ้ามากขึ้น เราจะได้เรียนรู้ว่าทำไมดีกว่าที่จะวางใจพระเจ้าและทำตามคำแนะนำของพระองค์ เมื่อเราทำอย่างนี้เราจะใกล้ชิดกับพระเจ้า และพระองค์ก็จะใกล้ชิดกับเรา (อ่านยาโกโบ 4:8) นอกจากนั้น เราสามารถใกล้ชิดและสนิทกับพี่น้องของเราได้ด้วย เพราะพวกเราทุกคนต้องเจอกับปัญหาเหมือนกัน เจอกับเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขเหมือนกัน และพวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน เราทำงานด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน และอดทนเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยกัน ออกทาเวียที่อยู่ในอังกฤษเล่าว่า “การได้ทำงานกับพระยะโฮวาช่วยให้ฉันสนิทกับคนอื่น ๆ” เธออธิบายว่ามิตรภาพในตอนนี้เกิดขึ้นเพราะ “เป้าหมายในชีวิตที่เหมือน ๆ กัน” เราทุกคนก็คิดแบบนี้ ดังนั้น ถ้าเราได้เห็นว่าพี่น้องของเราพยายามมากขนาดไหนเพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ เราก็จะใกล้ชิดและสนิทกับพวกเขามากขึ้น
11. ทำไมในโลกใหม่เราจะสนิทกับพระยะโฮวาและพี่น้องของเรามากขึ้น?
11 ตอนนี้เรารักพระเจ้าและพี่น้องของเรามาก แต่ที่โลกใหม่ในอนาคต ความรักนี้จะเพิ่มมากขึ้นไปอีก ลองคิดดูว่ามีงานที่น่าตื่นเต้นอะไรบ้างที่เราจะทำ เราจะได้ต้อนรับคนที่ฟื้นขึ้นจากตาย ได้สอนพวกเขาให้รู้จักพระยะโฮวา เราจะได้ช่วยกันทำให้โลกนี้เป็นอุทยาน เราต้องมีความสุขมากแน่ ๆ ที่ได้ทำงานด้วยกัน เราจะค่อย ๆ กลายเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ และอยู่ใต้การปกครองของพระเยซู มนุษย์ทุกคนจะสนิทกันมากขึ้น และจะสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้นด้วย พระเจ้าจะ “ทำให้ทุกชีวิตอิ่มสมปรารถนา”—เพลง. 145:16, ล.ม.
การทำงานกับพระเจ้าช่วยปกป้องเรา
12. การประกาศช่วยปกป้องเราได้อย่างไร?
12 เราต้องปกป้องความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระยะโฮวาไว้ให้ดีที่สุด เราอยู่ในโลกที่ซาตานควบคุมและตัวเราก็ไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น ง่ายที่เราจะคิดหรือทำบางอย่างเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในโลก สถานการณ์ของเราอาจเป็นเหมือนการอยู่ในกระแสน้ำเชี่ยว กระแสน้ำนั้นพยายามพัดเราไปในที่ที่เราไม่อยากไป เมื่อเจออย่างนี้ เราต้องออกแรงว่ายทวนกระแสน้ำ คล้ายกัน เราต้องออกแรงเพื่อจะไม่ถูกอิทธิพลที่ไม่ดีต่าง ๆ ในโลกของซาตานมาควบคุม การประกาศจะช่วยปกป้องเราได้อย่างไร? ตอนที่เราพูดคุยกับคนอื่นเรื่องพระยะโฮวาและคัมภีร์ไบเบิล เราก็กำลังเพ่งความสนใจไปที่สิ่งดีที่สำคัญกว่า ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ความเชื่อของเราน้อยลง (ฟิลิป. 4:8) การประกาศยังช่วยเราให้มีความเชื่อมากขึ้นเพราะเวลาเราไปประกาศ เรากำลังเตือนตัวเองเกี่ยวกับคำสัญญาของพระเจ้าและมาตรฐานที่พระองค์ให้เราทำตามด้วยความรัก นอกจากนั้น งานประกาศยังช่วยเราให้มีลักษณะนิสัยที่ดีซึ่งลักษณะนิสัยแบบนี้จะช่วยปกป้องเราจากซาตานและโลกที่มันควบคุม—อ่านเอเฟโซส์ 6:14-17
13. พี่น้องคนหนึ่งในออสเตรเลียรู้สึกอย่างไรกับงานประกาศ?
13 ถ้าเรายุ่งอยู่กับงานประกาศ การไปศึกษา และการทำสิ่งต่าง ๆ ให้พี่น้องในประชาคม เราก็ได้รับการปกป้องเพราะเราจะไม่มีเวลามานั่งห่วงกังวลเรื่องของตัวเอง โจเอลที่อยู่ในออสเตรเลียเล่าว่า “งานประกาศช่วยผมให้มองโลกตามความเป็นจริง งานนี้ช่วยเตือนผมให้รู้ว่าคนอื่น ๆ ก็มีปัญหาเหมือนกัน และผมได้เห็นประโยชน์ที่ได้ใช้หลักการต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล งานประกาศช่วยผมให้พยายามเป็นคนถ่อมตัว และยังให้โอกาสผมพึ่งพระยะโฮวาและพี่น้องคนอื่น ๆ ด้วย”
14. ทำไมการที่เราอดทนทำงานประกาศต่อไปเป็นวิธีพิสูจน์ว่าพลังของพระเจ้าอยู่กับเรา?
14 งานประกาศยังช่วยเราให้มั่นใจมากขึ้นว่าพลังของพระเจ้าอยู่กับเรา เพื่อเป็นตัวอย่าง ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องทำงานแจกขนมปังให้กับผู้คนในชุมชน คุณไม่ได้เงินจากงานนี้แถมยังต้องเสียค่ารถค่าน้ำมันเองด้วย นอกจากนั้น คนส่วนใหญ่ไม่อยากได้ขนมปังที่คุณเอามาแจก บางคนถึงกับเกลียดที่คุณทำงานนี้ คุณคิดว่าจะทำงานแบบนี้ได้นานแค่ไหน? ไม่นานคุณคงหมดกำลังใจและเลิกทำงานนี้แน่ ๆ แต่ลองคิดดูว่า พวกเราหลายคนยังทำงานประกาศต่อ ๆ ไปไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี ถึงแม้การทำงานนี้จะทำให้เราเสียเวลา เสียเงิน แถมบางคนยังหัวเราะเยาะและโมโหเรา นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าพลังของพระเจ้าคอยช่วยเราอยู่จริง ๆ
การทำงานกับพระเจ้าเป็นการแสดงว่าเรารักพระองค์และคนอื่น ๆ
15. การประกาศข่าวดีเกี่ยวข้องอย่างไรกับความตั้งใจของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์?
15 งานประกาศเกี่ยวข้องอย่างไรกับความตั้งใจของพระยะโฮวาที่มีต่อมนุษย์? พระเจ้าอยากให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ตลอดไป และถึงแม้อาดามได้ทำบาปแต่ความตั้งใจนี้ของพระองค์ยังไม่เปลี่ยนแปลง (ยซา. 55:11) พระเจ้าเตรียมวิธีที่เราทุกคนจะรอดพ้นจากบาปและความตาย โดยวิธีใด? พระเยซูมาที่โลกและเสียสละชีวิตของท่าน แต่เพื่อจะได้รับประโยชน์จากค่าไถ่ของพระเยซู มนุษย์จะต้องเชื่อฟังพระเจ้า นี่เป็นเหตุผลที่พระเยซูมาสอนผู้คนให้รู้ว่าพระเจ้าอยากให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร และพระเยซูก็สั่งสาวกให้ออกไปสอนคนอื่น ๆ แบบนี้เหมือนกัน ในทุกวันนี้ ตอนที่เราไปประกาศและช่วยคนอื่นให้มาเป็นเพื่อนกับพระเจ้า เราก็กำลังทำงานร่วมกับพระเจ้าเพื่อสนับสนุนการจัดเตรียมของพระองค์ งานนี้ช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากบาปและความตาย
16. การประกาศของเราเกี่ยวข้องอย่างไรกับกฎหมายข้อที่สำคัญที่สุด?
16 ตอนที่เราช่วยคนอื่นให้มีชีวิตตลอดไป เราก็กำลังแสดงว่าเรารักพวกเขาและรักพระยะโฮวา พระองค์ “ประสงค์ให้คนทุกชนิดรอดและได้รับความรู้ถ่องแท้เรื่องความจริง” (1 ติโม. 2:4) ตอนที่พวกฟาริซายถามพระเยซูว่ากฎหมายข้อไหนเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุด พระเยซูก็ตอบพวกเขาไปว่า “‘จงรักพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดหัวใจของเจ้า ด้วยสุดชีวิตของเจ้า และด้วยสุดความคิดของเจ้า’ นี่เป็นบัญญัติข้อสำคัญที่สุดและเป็นบัญญัติข้อแรก บัญญัติข้อที่สองก็เช่นกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’” (มัด. 22:37-39) โดยการประกาศข่าวดี เรากำลังแสดงว่าเราเชื่อฟังกฎหมายสองข้อนี้—อ่านกิจการ 10:42
17. เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างไรที่ได้ประกาศข่าวดี?
17 พระเจ้าอวยพรพวกเราจริง ๆ! พระยะโฮวาให้เรามีงานที่ทำให้มีความสุข งานที่ช่วยเราให้ใกล้ชิดกับพระองค์และพี่น้องของเรา แถมงานนี้ยังช่วยปกป้องความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้าด้วย งานนี้ช่วยเราให้มีโอกาสแสดงความรักกับพระเจ้าและคนอื่น ๆ พระยะโฮวามีผู้รับใช้ของพระองค์หลายล้านคนทั่วโลก และพวกเขาแต่ละคนต้องเจอกับสภาพการณ์ในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าเราจะยังหนุ่มหรือแก่ รวยหรือจน แข็งแรงหรืออ่อนแอ เราก็สามารถบอกเล่าความเชื่อของเรากับคนอื่น ๆ ได้ เรารู้สึกเหมือนพี่น้องชองเทลจากฝรั่งเศส เขาเล่าว่า “พระเจ้าที่มีความสุข ผู้ที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในเอกภพ ผู้ที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างบอกผมว่า ‘ไปประกาศเรื่องของเรา ประกาศจากใจของเจ้า เราให้พลังและคัมภีร์ไบเบิลกับเจ้า เราสนับสนุนเจ้าจากสวรรค์ ให้เจ้ามีเพื่อนร่วมงานบนโลก ให้การฝึกอบรม และให้คำแนะนำที่ตรงเวลากับเจ้า’ เป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ที่เราได้ทำสิ่งที่พระยะโฮวาต้องการ และได้ทำงานกับพระเจ้าของเรา”