ตู้ปัญหา
• ก่อนได้รับการเห็นชอบสำหรับการรับบัพติสมา ผู้ประกาศที่ยังไม่ได้รับบัพติสมาควรจะเข้าส่วนในการประกาศถึงขีดไหน?
คนหนึ่งซึ่งมีคุณวุฒิเป็นผู้ประกาศที่ยังไม่ได้รับบัพติสมาได้แสดงให้เห็นแล้วในหลาย ๆ วิธีความปรารถนาอันแรงกล้าของเขาที่จะเป็นพยานพระยะโฮวา. (เพลง. 110:3) การศึกษาพระคัมภีร์ที่ขยันขันแข็งนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในความคิด เจตคติ และวิถีชีวิตของเขา. เนื่องจากความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะทำให้พระยะโฮวาพอพระทัยและกระทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์ นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่เอาจริงเอาจังเช่นนั้นจึงคบหาสมาคมเป็นประจำกับพลไพร่ของพระยะโฮวา ณ การประชุมต่าง ๆ ของประชาคม การประชุมหมวดและการประชุมภาค. (เฮ็บ. 10:24, 25) นอกเหนือจากการเข้าร่วมเป็นประจำ ณ การประชุมต่าง ๆ ดังกล่าวของคริสเตียนแล้ว เขาคงได้รับการกระตุ้นจากหัวใจที่จะทำการประกาศอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความเชื่อของเขาโดยการออกความคิดเห็นในการประชุม และเขาคงได้ลงชื่อสมัครในโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบการของพระเจ้า.—เพลง. 40:9, 10; จัดระเบียบฯ หน้า 96.
ครั้นนักศึกษาพระคัมภีร์คนหนึ่งรับเอาความจริง และแสดงให้เห็นว่าเขาหยั่งรู้ค่าอย่างแท้จริงต่อคุณค่าแห่งข่าวสารเรื่องราชอาณาจักร เขาก็อาจมีสิทธิพิเศษของการเข้าร่วมในงานประกาศตามบ้าน. นี้เป็นงานสำคัญอันดับแรกของพยานพระยะโฮวา. (มัด. 24:14; 28:19, 20; จัดระเบียบฯ หน้า 145) ในเรื่องนี้ ทั้งผู้ประกาศที่กำลังนำการศึกษาและผู้ปกครองมีความรับผิดชอบอย่างสำคัญที่จะทำให้แน่ใจว่าแนวชีวิตของนักศึกษาทั้งหมดเข้าประสานลงรอยกับหลักการคริสเตียน. เขาควรมีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะเป็นพยานพระยะโฮวาคนหนึ่งและหยั่งรู้ค่าสิทธิพิเศษของการเข้าร่วมในการประกาศเรื่องราชอาณาจักรและงานทำให้คนเป็นสาวก.—ฆลา. 6:6; หอฯ 15/11/88 หน้า 19; จัดระเบียบฯ หน้า 128-130, 226.
ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานมากนับแต่เมื่อนักศึกษาพระคัมภีร์มีคุณวุฒิจะเข้าร่วมกับเราในงานรับใช้จนกระทั่งเขาสามารถเสนอตัวสำหรับการรับบัพติสมา. ในตอนนี้แนวทางชีวิตของเขาได้ประสานลงรอยกับหลักการต่าง ๆ ของคริสเตียนอย่างเต็มที่แล้ว แต่เขาขาดประสบการณ์ในงานประกาศแก่สาธารณะ. ควรให้เวลาเขาพอเพียงที่จะแสดงว่าเขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะมีส่วนเป็นประจำและกระตือรือร้นในงานประกาศ.—เพลง. 40:8; โรม 10:9, 10, 14, 15.
ครั้นคนนั้นพร้อมแล้วสำหรับการรับบัพติสมา เขาคงจะเข้าร่วมในการบอกข่าวดีแก่คนอื่น ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว และใช้เวลามากกว่าเพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมงในงานประกาศในแต่ละเดือน. (หอฯ 15/11/84 หน้า 9 ข้อ 2) แน่นอน สภาพแวดล้อมส่วนตัวของแต่ละคนที่ขอรับบัพติสมาควรได้รับการคำนึงถึง ควรพิจารณาภูมิหลัง อายุ ข้อจำกัดต่าง ๆ และอื่น ๆ. ผู้ปกครองคงจะต้องการได้รับการชี้แนะจากคำแนะนำที่ให้พวกเขาไว้ในหนังสือจัดระเบียบฯ หน้า 227 ที่ว่า: “เราสนใจในคนเหล่านั้นผู้ซึ่งหันหัวใจของเขาเข้าหาพระยะโฮวา และผู้ซึ่งได้มาเข้าใจความหมายในด้านความจริงขั้นพื้นฐานในพระคัมภีร์. ด้วยความช่วยเหลือที่ท่านให้อย่างรักใคร่ คนเหล่านั้นที่จะรับบัพติสมาก็จะได้รับการสนับสนุนและการช่วยเหลือให้เข้าสู่งานรับใช้ฝ่ายคริสเตียน โดยที่เขาเตรียมพร้อมอย่างพอเพียงที่จะสัมฤทธิ์ผลในงานมอบหมายอันสำคัญนั้น.”—มัด. 16:24; โย. 4:34; 1 เป. 2:21.