การเริ่มการศึกษาโดยใช้หนังสือข่าวดีที่จะทำให้ท่านมีความสุข
1 พระเยซูตรัสว่า “กิตติคุณจะต้องประกาศทั่วประเทศทั้งปวงก่อน.” (มโก. 13:10) นั่นหมายความว่าบรรดาสาวกของพระองค์จะต้องติดต่อกับประชาชนต่างภาษา, ขนบธรรมเนียมประเพณี, และพื้นเพทางศาสนา. และยังหมายความด้วยว่าบรรดาสาวกของพระองค์ในทุกวันนี้ พยานพระยะโฮวา จะได้รับมอบหมายการงานสั่งสอนผู้คนทุกชนิด.
2 เนื่องจากพระยะโฮวาเป็นแหล่งแห่งสันติสุขแท้เพียงผู้เดียว ประชาชนทั้งหลายจำต้อง “ขึ้นไปยังภูเขาแห่งพระยะโฮวา” รับการสั่งสอนเกี่ยวกับวิถีทางของพระองค์เพื่อจะดำเนินในแนวทางของพระองค์และจะได้ประสบสันติสุขแท้นั้น. (มีคา 4:2) พวกเขาจะเรียนรู้ว่าพระยะโฮวาจะทรงนำสันติสุขแท้มาสู่แผ่นดินโลกโดยทางราชอาณาจักรของพระองค์. แต่เราจะช่วยประชาชนให้เรียนรู้เกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้าได้อย่างไร?
3 เราแน่ใจว่าหนังสือข่าวดีที่จะทำให้ท่านมีความสุข จะช่วยผู้คนที่มีหัวใจสุจริตให้พบพระเจ้าเที่ยงแท้ได้ และยอมรับเอาแนวทางแห่งความจริงของพระองค์. (โย. 4:21–24) เราจึงออกไปพบผู้คนตามบ้าน บอกเล่าให้พวกเขาทราบถึงเรื่องพระยะโฮวาและราชอาณาจักรของพระองค์ และเสนอหนังสือเล่มนี้ให้เขาอ่าน. แต่ดังในกรณีของขันทีชาวเอธิโอเปียนั้นแสดงว่าจำต้องมีการอธิบาย การสั่งสอน บุคคลนั้นจึงจะมีความเข้าใจและหยั่งรู้ค่าต่อพระยะโฮวาและตัดสินใจเข้ามาดำเนินในแนวทางแห่งสันติสุขแท้ได้ (กิจ. 8:26–31). สิ่งนี้เรียกร้องให้เราพยายามมากขึ้นในการเริ่มการศึกษากับผู้ที่แสดงความสนใจในข่าวดี.
4 แต่การเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์เรียกร้องความพยายามด้วยความเต็มใจ. นั่นหมายถึงการทำงานหนักในงานรับใช้ตามบ้านพร้อมด้วยเป้าหมายที่แน่ชัดเพื่อเสาะหาบุคคลซึ่งปรารถนาจะศึกษาพระคัมภีร์. เราต้องขยันหมั่นเพียรในการกลับเยี่ยมพร้อมด้วยการเตรียมตัวอย่างดี. การเริ่มต้นการศึกษาพระคัมภีร์อาจทำได้ในการเยี่ยมครั้งแรกเลยก็ได้ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของเจ้าของบ้าน. เราจะเริ่มการศึกษาโดยการใช้หนังสือข่าวดี ได้อย่างไร?
วิธีเริ่มการศึกษา
5 การวางพื้นฐานสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์อาจทำได้ในการเยี่ยมครั้งแรก. ในการเยี่ยมครั้งแรก คุณอาจนำความสนใจของเจ้าของบ้านไปยังบทหนึ่งหรือข้อใดข้อหนึ่งโดยเฉพาะ. ต่อจากนั้นหรือในการกลับเยี่ยมเยียนคราวต่อไป ก็อาจใช้จุดสนใจเดียวกันนั้นเป็นสะพานเชื่อมการสนทนาซึ่งนำไปสู่การศึกษาได้. โดยการใช้คำถามตอนท้ายหน้า คุณก็จะมีรากสำหรับการกระตุ้นความคิดและการอภิปรายต่อไป. แน่นอน ที่เราสนใจนั้นไม่ใช่การยั่วยุให้มีการถกเถียงกัน แต่ตรงกันข้าม เพื่อการพิจารณาหาเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ.
6 คุณอาจทดลองดูข้อแนะต่อไปนี้. หลังจากอ่านและพิจารณาข้อคัมภีร์ในหัวเรื่องสำหรับการสนทนาแล้ว ดึงความสนใจของเจ้าของบ้านไปที่หน้า 8–10. หากเขามีเวลา เปิดดูข้อคัมภีร์บางข้อที่มียกขึ้นอ้างไว้และชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะทำซึ่งผู้นำทางการเมืองของโลกไม่มีความสามารถจะทำได้. แล้วอ่านข้อ 7. จากนั้นถามเจ้าของบ้านว่าเขาต้องการจะพิจารณาอีกบางจุดต่อไปอีกไหม? โดยวิธีนี้ คุณอาจเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์ได้ในตอนนั้นเลย. หรือคุณอาจเริ่มการศึกษาในการกลับเยี่ยมเยียนคราวต่อไปได้.
7 เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่ามนุษย์ไม่สามารถนำมาซึ่งสันติสุขแท้ได้. เพื่อจะมีความหวังที่มั่นใจได้สำหรับอนาคต ประชาชนจำต้องมีความเชื่อในพระเจ้าองค์เที่ยงแท้. แต่ “คนที่ยังไม่ได้ยินถึงพระองค์ เขาจะเชื่อในพระองค์อย่างไรได้? และเมื่อไม่มีใครประกาศให้เขาฟัง เขาจะได้ยินถึงพระองค์อย่างไรได้? (โรม 10:14) เวลาเหลือน้อยลงทุกทีสำหรับผู้คนที่อยู่ในโลกที่ตกอยู่ในความมืดมนฝ่ายวิญญาณที่พวกเขาจะมีโอกาสหันเข้าหาแหล่งแห่งสันติสุขและความปลอดภัยแท้. ขอให้เราพยายามสุดความสามารถในการประกาศพร้อมด้วยมีเป้าหมายที่จะเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์.