ทำให้คนหันจากความมืดสู่ความสว่าง
1 ความมืดมนฝ่ายวิญญาณครอบคลุมโลกนี้ไว้. (ยซา. 60:2) ตั้งแต่มนุษยชาติตกอยู่ในความบาป ซาตาน “พระเจ้าของระบบนี้” ได้กักมนุษย์ไว้ในความมืดมนฝ่ายวิญญาณ และความเสื่อมทรามด้านศีลธรรมก็เป็นผลตามมา.—2 โก. 4:4.
2 บัดนี้เมื่อเราได้รับความสว่างด้วยความจริงแล้ว เรารู้สึกสงสารผู้คนดังที่พระเยซูทรงรู้สึกไหม? (มัด. 9:36) ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็จะหยั่งรู้ความสำคัญของหน้าที่มอบหมายที่พระองค์ทรงมอบแก่อัครสาวกเปาโลให้ ‘เปิดตาผู้คนทั้งหลาย และทำให้เขาหันจากความมืดสู่ความสว่างและจากอำนาจซาตานสู่อำนาจพระเจ้า.’—กิจ. 26:16–18.
ทำให้หัวใจและจิตใจสว่าง
3 เนื่องจากซาตานทำให้จิตใจของมนุษย์มืดไปและทำให้หัวใจของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเฉื่อยชา เราอาจทำอะไรได้เพื่อช่วยพวกเขา? เราจำเป็นต้องเข้าถึงจิตใจและหัวใจของเขาด้วยพระคำของพระเจ้า. เปาโลทูลอธิษฐานเพื่อ ตาใจของชาวเอเฟโซจะสว่างขึ้น. (เอเฟ. 1:17, 18) ไม่มีอะไรจะมีพลังอำนาจไปกว่าพระคำของพระเจ้าในการเข้าถึงหัวใจ. (เฮ็บ. 4:12) การที่ทราบเรื่องนี้น่าจะกระตุ้นเราให้พัฒนาความชำนิชำนาญในการใช้พระคัมภีร์เมื่อพูดคุยกับคนอื่น.
4 คำตอบของคุณสำหรับคำถามต่อไปนี้อาจช่วยคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงานรับใช้. คุณเตรียมตัวอย่างดีเพื่อการประกาศไหม? คุณมีเวลาฝึกซ้อมเพื่อจะคุ้นเคยกับการเริ่มการสนทนาซึ่งจะจับความสนใจของเจ้าของบ้านไหม? คุณถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทราบหัวเรื่องสำหรับการสนทนาล่าสุดและพยายามใช้มันไหม? คุณพยายามจะหาเหตุผลเกี่ยวกับพระคัมภีร์อย่างเป็นที่ดึงดูดใจในการไปตามบ้านไหม?—กิจ. 17:2.
วารสารหอสังเกตการณ์ เป็นเครื่องช่วย
5 วารสารหอสังเกตการณ์ ได้ช่วยหลายล้านคนให้หันจากความมืดมนมาสู่ความสว่าง. วารสารนี้แสดงให้เราเห็นถึงวิธีใช้หลักศีลธรรมในพระคัมภีร์ วิธีเข้าใจคำพยากรณ์ต่าง ๆ สำหรับทุกวันนี้ และความผิดแผกระหว่างศาสนาแท้และเท็จเพื่อว่าจะดำเนินในแนวทางที่พระยะโฮวาทรงพอพระทัย.
6 ความจริงของพระคัมภีร์ดังที่มีการส่งเสริมในวารสารหอสังเกตการณ์ นั้นได้ก่อให้เกิดอะไรขึ้น? ผู้คนทุกชนิดได้รับการช่วยเหลือให้มาสู่ความรอดโดยทางความรู้ถ่องแท้เกี่ยวกับพระเจ้าและพระบุตรของพระองค์. (โย. 17:3; 1 ติโม. 2:4) ผู้อ่านคนหนึ่งเขียนมาว่า: ‘ผมรู้สึกหยั่งรู้ค่าวารสารหอสังเกตการณ์ มากจริง ๆ! บทความต่าง ๆ น่าจะช่วยทุกคนให้มองเห็นชัดเจนถึงเวลาและฤดูกาลที่เรามีชีวิตอยู่. ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการค้นคว้า, การศึกษา, และการงานต่าง ๆ ซึ่งดำเนินไปสู่การเตรียมวารสารหอสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณแท้.’
จงใช้วิจารณญาณ
7 ในระหว่างเดือนที่สองของการรณรงค์หาบอกรับวารสารหอสังเกตการณ์ เราจำต้องหาโอกาสในการหันเหผู้คนจากความมืดสู่ความสว่าง. การพิจารณาพระคัมภีร์กับผู้คนที่เราไปเยี่ยมตามบ้านช่วยเราให้ทำสิ่งนี้. เมื่อเราพบผู้คนที่แสดงความสนใจแท้ต่อข่าวสารเรื่องราชอาณาจักร เราอาจชี้ให้เขาเห็นถึงผลประโยชน์ของการอ่านวารสารหอสังเกตการณ์ เป็นประจำ. ขณะที่คุณเยี่ยมบุคคลนั้นต่อ ๆ ไปเพื่อปลูกฝังความสนใจ คุณอาจมีโอกาสเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์กับเขา.
8 ขณะที่เราไปตามบ้าน เข้าส่วนในการให้คำพยานตามถนน หรือให้คำพยานอย่างไม่เป็นทางการกับเพื่อนร่วมงาน, เพื่อนนักเรียน, และญาติพี่น้อง เราก็มีส่วนในการแผ่ขยายความจริงซึ่งสามารถทำให้คนเราเป็นอิสระ. (โย. 8:32) วารสารหอสังเกตการณ์ เป็นเครื่องมือพิเศษที่สามารถช่วยพวกเขาให้ได้รับชีวิตนิรันดร์ โดยทำให้พวกเขาหันจากความมืดมาสู่ความสว่าง.