การช่วยคนอื่น ๆ ขณะอยู่ในการประกาศ
1 ตั้งแต่เริ่มแรก ประชาคมคริสเตียนเป็นองค์การแห่งผู้เผยแพร่ข่าวดี. พระเยซูทรงฝึกอบรมสาวกของพระองค์เป็นส่วนตัวในกิจกรรมการประกาศสั่งสอนและ “ใช้เขาให้ไปพวกละสองคน.” (มโก. 6:7; ลูกา 8:1) อัครสาวกเปาโลได้กล่าวถึง “เพื่อนร่วมการ” ของท่านในประชาคมฟิลิปปอยซึ่งได้ ‘ต่อสู้ร่วมกันกับท่านในกิตติคุณ.’ (ฟิลิป. 4:3) แม้ว่าจะไม่จำเป็นเสมอไปที่จะมีเพื่อนร่วมงานในการประกาศ พวกเราส่วนใหญ่ก็เห็นคุณค่าของการมีคนอื่นไปด้วยกันกับเรา. (ผู้ป. 4:9) ดังนั้นแล้ว เราจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ให้การหนุนใจและเป็นประโยชน์แก่กันและกันได้อย่างไรขณะที่เราไปประกาศ?
2 จุดประสงค์อย่างหนึ่งของการประชุมเพื่อการประกาศคือเพื่อให้การช่วยเหลือแก่คนใหม่ ๆ และผู้ประกาศที่ยังไม่ชำนาญ. (จัดให้เป็นระเบียบฯ หน้า 100, 127) แม้แต่ไพโอเนียร์ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งก็อาจต้องการจะทำงานกับผู้ประกาศที่มีประสบการณ์มากกว่าหรือกับผู้ปกครองหรือผู้รับใช้. เป็นโอกาสอันดียิ่งจริง ๆ เพื่อ “หนุนใจซึ่งกันและกัน”!—โรม 1:12.
3 ด้วยเหตุผลในเรื่องความปลอดภัย อาจเป็นการเหมาะสมที่ผู้ประกาศจะทำงานด้วยกันในบางท้องที่. หรือบางครั้งอาจเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการที่วางไว้ล่วงหน้าเพื่อจะทำงานกับบางคนเพื่อให้เหมาะกับผู้ประกาศที่มีประสบการณ์น้อยซึ่งร่วมในการประชุมเพื่อการประกาศด้วย. ถ้าเราได้รับการขอร้องให้ทำเช่นนั้น นั่นคงจะเป็นแนวทางแห่งความรักแท้สำหรับเราในการปรับเปลี่ยนใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อจะ “ช่วยคนที่มีกำลังน้อย” แม้ว่าตามปกติเราอาจทำงานกับเพื่อนร่วมงานคนใดคนหนึ่งเป็นประจำก็ตาม.—กิจ. 20:35.
ทำงานประสานกัน
4 เมื่อไรก็ตามที่เราประกาศร่วมกับพี่น้องคนอื่น ๆ เราปรารถนาจะทำงานประสานกันเป็นทีม. (เทียบ 1 โก. 3:6, 9) ทั้งสองคนสามารถมีส่วนในการให้คำพยาน อาจสลับกันพูดเริ่มการสนทนาที่ประตูบ้าน. เราจะแสดงมารยาทที่ดีโดยการฟังอย่างสุภาพและตั้งใจเมื่อเพื่อนร่วมงานของเรากำลังพูด.
5 ถึงแม้บางครั้งอาจเหมาะสมที่เราจะร่วมด้วยในการสนทนาในขณะที่เพื่อนร่วมงานของเรากำลังนำในการสนทนาอยู่ การทำเช่นนี้จำต้องมีการวินิจฉัยที่ดี. เราไม่ต้องการขัดจังหวะการหาเหตุผลที่กำลังทำอยู่เพื่อผลดีแก่เจ้าของบ้าน. แน่นอน หากผู้ประกาศที่ไม่ชำนาญเริ่มประสบความยุ่งยากในการจัดการกับข้อคัดค้านละก็ ไม่ต้องสงสัยว่าเขาคงหยั่งรู้ค่าการช่วยเหลือด้วยเจตนาดีนั้น.—ผู้ป. 4:12.
6 เราอาจใช้เวลาระหว่างเดินจากบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่งให้เป็นประโยชน์เพื่อพิจารณาถึงวิธีที่เราอาจปรับปรุงการเสนอข่าวดีของเราได้. บางทีการใช้คำนำข้อหนึ่งในหนังสือการหาเหตุผล หรือข้อเสนอแนะที่มีบอกไว้ในพระราชกิจของเรา อาจได้ผลมากกว่าก็ได้. การทำงานด้วยกันยังทำให้เรามีโอกาสรู้จักกันดีขึ้นอีก ซึ่งเป็นการทำให้สายสัมพันธ์ความเป็นพี่น้องกันเหนียวแน่นยิ่งขึ้น.
7 งานรับใช้ของเราเป็นสมบัติอันล้ำค่าอย่างแท้จริง. (2 โก. 4:1, 7) ขณะที่เรามีโอกาสทำงานกับคนอื่น ๆ ในการประกาศ เราสามารถเสริมสร้างความหยั่งรู้ค่าอันลึกซึ้งต่องานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ในกันและกันได้. ในขณะเดียวกัน เราก็จะรับการหนุนใจและได้เรียนรู้จากกันและกันด้วย. ซึ่งยังผลเป็นความชื่นชมยินดีที่เพิ่มขึ้น การให้คำพยานที่บังเกิดผลยิ่งขึ้น และความรู้สึกอิ่มใจพอใจในเอกภาพกับพี่น้องชายหญิงของเรา.—เพลง. 133:1.