การประชุมวิธีปฏิบัติงานสำหรับเดือนมกราคม
สัปดาห์ซึ่งเริ่มวันที่ 30 ธันวาคม
เพลงบท 201
5 นาที: คำประกาศของประชาคมและคำประกาศที่เหมาะสมจากพระราชกิจของเรา.
25 นาที: “คริสต์จักรสมัยแรกสอนว่าพระเจ้าคือตรีเอกานุภาพไหม?” คำบรรยายอาศัยหอสังเกตการณ์ 1 พฤศจิกายน 1991 หน้า 19–24.
15 นาที: “จงให้คนทั้งปวงรู้จักข่าวดีที่จะทำให้เขามีความสุข.” หลังจากกล่าวคำนำสั้น ๆ พิจารณาสำนวนสำหรับเชื่อมโยงแต่ละสำนวนและสาธิตการใช้สำนวนนั้นโดยผู้ประกาศที่เตรียมตัวอย่างดีเท่าที่มีเวลา. หากทำได้ คงเป็นการดีที่จะให้เยาวชนเป็นผู้สาธิตสำนวนที่ 2. สำนวนที่สามเป็นสำนวนที่ให้ผู้ประกาศฝากข้อคิดจากพระคัมภีร์อย่างน้อยหนึ่งอย่างไว้ในใจเจ้าของบ้าน. สนับสนุนพี่น้องอย่างอบอุ่นให้ใช้คำนำที่มีแนะไว้ในหน้า 3 สักแบบหนึ่ง และสำนวนที่แนะไว้สักสำนวนหนึ่ง.
เพลงบท 30 และคำอธิษฐาน.
สัปดาห์ซึ่งเริ่มวันที่ 6 มกราคม
เพลงบท 126
5 นาที: คำประกาศของประชาคม.
10 นาที: “วิธีการที่ดีในการเตรียมตัวเพื่อการประกาศ.” พิจารณาบทความกับผู้ฟัง และจากนั้นขอผู้ประกาศสามสี่คนซึ่งมอบหมายไว้ล่วงหน้าให้ออกความเห็นว่าวิธีการเหล่านี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาในทางใดบ้าง. ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจออกความเห็นเกี่ยวกับการเสนอในหลาย ๆ แบบ, แนวทางต่าง ๆ ที่เนื้อเรื่องอาจปรับให้เข้ากับเขตทำงาน, การรู้จักยืดหยุ่น หรือว่าวิธีการนี้อนุญาตให้ผู้ประกาศเลือกเนื้อเรื่องที่เขาเห็นว่าเสนอได้สบาย. สนับสนุนพี่น้องให้นำพระราชกิจของเรา มาด้วยในการประชุมเพื่อการประกาศ.
18 นาที: “คำนำที่จะทำให้เจ้าของบ้านฟัง.” พิจารณาองค์ประกอบของเขตทำงานอย่างสั้น ๆ. ประเด็นอะไรที่สำคัญต่อเจ้าของบ้าน? เพ่งเล็งที่คำนำและการเสนอที่ดูเหมือนเป็นไปได้มากที่สุดที่จะประสบผลสำเร็จในท้องถิ่น. ให้ผู้ประกาศที่เตรียมตัวอย่างดีสาธิตการเสนอนี้และเสนอหนังสือข่าวดี. ผู้ประกาศควรทำการเสนอดังที่มีเค้าโครงให้ไว้ในบทความ. แล้วเยาวชนในวัยเรียนอาจสาธิตการเสนอเดียวกันและจบด้วยการเสนอวารสารแก่ผู้ที่สนใจ. จงสนับสนุนทุกคนให้พยายามใช้วิธีนี้ในการประกาศ.
12 นาที: เอกสารทางการแพทย์. เลขาธิการแจกเอกสารทางการแพทย์แก่สมาชิกของประชาคมที่รับบัพติสมาแล้วและพิจารณาโดยถี่ถ้วนในจดหมายเกี่ยวกับเอกสารทางการแพทย์สำหรับผู้ประกาศที่รับบัพติสมาแล้วและบัตรประจำตัวผู้เยาว์ที่ยังไม่ได้รับบัพติสมาที่มีบิดามารดาเป็นพยานฯ. ในการเตรียมตัว จงทบทวนจดหมายลงวันที่ 1 มกราคม 1989 เพื่อจะมีจุดต่าง ๆ ที่เหมาะสมตรงกับความจำเป็นของประชาคม. เน้นว่าพี่น้องสองคนที่เซ็นชื่อเป็นพยานในเอกสารนั้นควรเฝ้าสังเกตดูเมื่อมีการเซ็นชื่อ แล้วเขาก็เซ็นชื่อด้วยตนเอง. ชี้แจงเหตุผลกับผู้ฟังว่าทำไมจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นด้วยความระมัดระวังเพื่อทำให้บัตรนั้นทำหน้าที่ป้องกันตัวเราได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด.
เพลงบท 130 และคำอธิษฐาน.
สัปดาห์ซึ่งเริ่มวันที่ 13 มกราคม
เพลงบท 176
10 นาที: คำประกาศของประชาคมและข่าวระบอบการของพระเจ้า. รวมทั้งรายงานบัญชีและการตอบรับเกี่ยวกับการบริจาค.
15 นาที: “งานรับใช้ประเภทไพโอเนียร์เป็นงานที่ฉันทำได้ไหม? ในประเทศนี้ ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประกาศทั้งหมดเป็นไพโอเนียร์ประจำหรือพิเศษ. บอกจำนวนไพโอเนียร์ในประชาคมเพื่อเปรียบเทียบ. พวกเราจำนวนมากขึ้น รวมทั้งเยาวชนที่จะสำเร็จการศึกษาในอีกไม่ช้าด้วย จะสามารถจัดเวลาเพื่อรับใช้เต็มเวลาได้ไหม? สัมภาษณ์ไพโอเนียร์ประจำสามคน คงจะดีถ้าเป็นเยาวชน, แม่บ้าน, และผู้ที่เกษียณแล้ว. (หากไม่มีไพโอเนียร์ประจำ อาจสัมภาษณ์ไพโอเนียร์สมทบหรือผู้ประกาศซึ่งเคยเป็นไพโอเนียร์ได้.) พิจารณาเรื่องการเงิน. งานบางส่วนของเวลาแบบใดบ้างที่พอจะทำได้ในเขตที่คุณอยู่? แต่ละคนทำให้รายรับรายจ่ายสมดุลกันได้อย่างไร? พวกเขาได้ทำการเปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายอย่างไรบ้าง? พิจารณาตารางเวลาเพื่อทำให้ได้ตามจำนวนเวลาที่มีการเรียกร้อง. มีใครบ้างไหมที่มีปัญหาด้านสุขภาพ? พวกเขารับมือกับปัญหานั้นอย่างไร? มีข้อท้าทายอื่น ๆ อีกไหมที่พวกเขาได้รับมืออย่างประสบผลสำเร็จ? การสัมภาษณ์ควรเป็นแบบเสริมสร้างและหนุนกำลังใจ. ทำให้เป็นที่ดึงดูดใจผู้ฟังอย่างอบอุ่นเพื่อให้พิจารณาสภาพแวดล้อมส่วนตัวเพื่อทราบว่าจะมีผู้ที่สามารถรับเอางานรับใช้เต็มเวลามากขึ้นหรือไม่.
20 นาที: “วิธีที่บิดาหรือมารดาฝ่ายเดียวสามารถช่วยลูก ๆ ของเขา.” คำนำสั้น ๆ และตามด้วยการสาธิตเกี่ยวกับการที่มารดาซึ่งมีลูกสองคนเตรียมตัวสำหรับการประกาศ. ปัจจุบัน ในองค์การมีครอบครัวที่มีบิดาหรือมารดาแต่ฝ่ายเดียวมากยิ่งกว่าแต่ก่อน. วิธีซึ่งมารดาและยายของติโมเธียวป้อนความจริงลงในท่านได้จัดให้มีแบบอย่างอันดียิ่งสำหรับให้บิดามารดาปฏิบัติตาม. (2 ติโม. 1:5; 3:14, 15) การสาธิต: คุณแม่, ลูกสาววัยรุ่น, และลูกสาวคนเล็กลงไปนั่งที่โต๊ะในครัว เพิ่งรับประทานอาหารค่ำเสร็จ. คุณแม่พูดว่าก่อนจะล้างจานพวกเขาจะพิจารณาการเสนอสำหรับการประกาศและบอกว่าเธอจะเป็นเจ้าของบ้าน. ลูกสาวคนเล็กยกเอาคำนำจากพระราชกิจของเรา หน้า 3 และใช้พูดกับคุณแม่. คุณแม่ชมลูกสาวคนเล็กที่ทำได้ดีและขอให้เธออ่านข้อพระคัมภีร์ที่สมาคมได้แนะนำไว้. ลูกสาวคนเล็กเปิดที่ยะซายา 9:6, 7 อย่างรวดเร็วและอ่านข้อนั้น. แล้วคุณแม่ถามลูกสาวคนโตถึงวิธีที่เธอจะเสนอหนังสือ. ลูกสาวเลือกข้อแนะสำนวนหนึ่งจากพระราชกิจของเรา หน้า 1 และเสนอกับคุณแม่. คุณแม่ชมเชยเธอและสนับสนุนลูกสาวทั้งสองให้ฝึกหัดการใช้คำนำและข้อแนะนั้น ๆ เพื่อเสนอหนังสือในการประกาศ. คุณแม่บอกให้ลูกสาวทั้งสองฝึกซ้อมต่อไปอีกสักหน่อยแล้วค่อยล้างจาน. ผู้ปกครองสรุปส่วนนี้โดยสนับสนุนทุกครอบครัวในประชาคมจัดให้มีการช่วยเหลือด้วยความรักแก่พวกลูก ๆ ของตน.
เพลงบท 183 และคำอธิษฐาน.
สัปดาห์ซึ่งเริ่มวันที่ 20 มกราคม
เพลงบท 197
15 นาที: ผู้ปกครองทำส่วนคำประกาศของประชาคมและพิจารณาความจำเป็นของประชาคม. เท่าที่เวลาอำนวย จงอภิปรายจุดสนทนาต่าง ๆ จากวารสารล่าสุด. เลือกจุดหนึ่งซึ่งจะเชื่อมโยงเป็นอย่างดีกับคำนำที่มีการแนะไว้และกับข้อแนะต่าง ๆ ในพระราชกิจของเรา. จากนั้นให้ผู้ประกาศที่เตรียมตัวอย่างดีแสดงการใช้คำนำและข้อแนะ โดยเสนอวารสารแก่ผู้สนใจ. ชี้ให้เห็นว่าโดยการให้ผู้คนตามบ้านได้มีส่วนในการสนทนาและการใช้การเสนอที่มีแนะนำไว้ ก็ไม่ยากนักที่จะระบุตัวคนที่สนใจ.
18 นาที: “จงรับเอาความรับผิดชอบแห่งการกลับเยี่ยมเยียน.” ถาม–ตอบ. หนุนใจทุกคนอย่างอบอุ่นให้มีส่วนเต็มที่ในการกลับเยี่ยมเยียน. สนับสนุนทุกคนมาในการประชุมวิธีปฏิบัติงานสัปดาห์หน้าเมื่อจะมีการพิจารณาสิ่งที่จะพูดเมื่อทำการกลับเยี่ยมเยียน.
12 นาที: การพิจารณาเกี่ยวกับ “การแท้ง” จากหนังสือการหาเหตุผล หน้า 25–26. หลังจากกล่าวคำนำอย่างสั้น ๆ แล้ว แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นข่าวอย่างไรในทุกวันนี้และผู้คนหลายล้านคนรู้สึกเป็นห่วงอย่างไร แนะนำฉากที่พี่น้องหญิงกำลังนำการศึกษารายหนึ่ง. นักศึกษาใหม่บอกพี่น้องหญิงถึงความวิตกกังวลอย่างมากของเธอเกี่ยวกับการตั้งครรภ์. เธออธิบายว่าเธอวิตกมากจริง ๆ เนื่องจากภาวะการเงินของครอบครัวเธอไม่ค่อยดี. ญาติของเธอเร่งเร้าให้เธอรีบ ๆ ทำแท้ง. พี่น้องหญิงแนะนำให้เปิดหนังสือการหาเหตุผล และค้นดูข้อพระคัมภีร์เพื่อจะเห็นว่าพระยะโฮวาทรงมีทัศนะอย่างไรต่อชีวิตของทารกที่ยังไม่เกิดและพระองค์ทรงถือว่าการทำแท้งเป็นสิ่งถูกต้องหรือไม่. ก่อนอื่น พวกเขาพิจารณาคำจำกัดความของการแท้ง. แล้วก็พิจารณาคำถาม, ข้อพระคัมภีร์, และความคิดเห็นต่าง ๆ ในหน้า 25–26. พี่น้องหญิงควรช่วยนักศึกษาให้มีเหตุผลและตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต.
การแท้ง
คำจำกัดความ: การแท้งคือการขับออกมาซึ่งทารกในครรภ์ซึ่งโดยปกติแล้วไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ภายนอกครรภ์มารดา. การแท้งโดยธรรมชาติอาจเนื่องมาจากความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์หรือเนื่องจากอุบัติเหตุ. การแท้งโดยจงใจเพียงเพื่อไม่ให้ทารกที่ไม่ต้องการนั้นเกิดมา เป็นการทำลายชีวิตมนุษย์โดยเจตนา.
บ่อเกิดแห่งชีวิตมนุษย์ควรมีผลกระทบต่อแง่คิดของเราอย่างไรในเรื่องนี้?
กิจ. 17:28 (ล.ม.) : “เพราะโดยพระองค์ [พระเจ้า] เรามีชีวิตและเคลื่อนไหว.”
เพลง. 36:9: “ด้วยน้ำพุแห่งชีวิตดำรงอยู่กับพระองค์ [พระยะโฮวา].”
โรม 14:12 (ล.ม.) : “เหตุฉะนั้น เราแต่ละคนจะให้การต่อพระเจ้าด้วยตัวเอง.”
พระยะโฮวาทรงถือว่าชีวิตทารกเป็นสิ่งมีค่าไหมแม้อยู่ในช่วงแรก ๆ ของการเติบโตภายหลังการปฏิสนธิ?
เพลง. 139:13–16 (ล.ม.) : “พระองค์ [พระยะโฮวา] ทรงดูแลให้ข้าพเจ้าปิดคลุมไว้ในครรภ์มารดาของข้าพเจ้า. . . . พระเนตรของพระองค์เห็นกระทั่งตัวอ่อนของข้าพเจ้าด้วยซ้ำ และทุกส่วนของตัวอ่อนนั้นถูกเขียนลงในสมุดของพระองค์”
พระเจ้าเคยตรัสไว้หรือไม่ว่าคนเราจะถูกเรียกมาให้การสำหรับการทำร้ายแก่ทารกซึ่งยังไม่ได้กำเนิด?
เอ็ก. 21:22, 23 (ล.ม.) : “และในกรณีที่ผู้ชายตีกันและโดนหญิงมีครรภ์ จนลูกของเธอออกมาแต่ไม่เกิดเหตุถึงตาย เขาจะต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นแน่ ตามแต่ผู้ครองหญิงนั้นจะเรียกร้องจากเขา; และเขาต้องให้ผ่านทางผู้พิพากษา. แต่ถ้าเกิดเหตุถึงตาย เจ้าจะต้องให้จิตวิญญาณแทนจิตวิญญาณ.” (ตามฉบับแปลบางฉบับ ดูเหมือนว่าในกฎหมายนี้ สิ่งสำคัญคือว่าเกิดอะไรขึ้นกับมารดา ไม่ใช่ทารกในครรภ์. อย่างไรก็ตาม ต้นฉบับภาษาฮีบรูหมายถึงอุบัติเหตุถึงตาย ไม่ว่าจะเกิดกับมารดาหรือทารกในครรภ์.)
การเอาชีวิตมนุษย์เนื่องด้วยเหตุผลที่พระเจ้าไม่ทรงยินยอมเป็นเรื่องร้ายแรงเพียงไร?
เย. 9:6: “ผู้ใดฆ่ามนุษย์ให้โลหิตไหล มนุษย์จะฆ่าผู้นั้นให้โลหิตไหลเหมือนกัน เพราะพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของพระองค์.”
1 โย. 3:15 (ล.ม.) : “ผู้ฆ่าคนไม่มีชีวิตนิรันดร์อยู่ในตัวเลย.”
เอ็ก. 20:13: “อย่าฆ่าคน.”
ความคิดเห็นของแพทย์ที่ว่าการยอมให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปจนครบกำหนดอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมารดานั้นจะทำให้การทำแท้งเป็นเรื่องถูกต้องไหม?
บางครั้งความเห็นทางการแพทย์ก็ผิด. จะเป็นการถูกต้องหรือที่จะฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพราะคนนั้นอาจ เป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ของเขาอีกคนหนึ่ง? หากในขณะที่เด็กจะคลอด จะต้องทำการเลือกระหว่างชีวิตของมารดากับชีวิตเด็ก นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจะทำการเลือกเอง. อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าในกระบวนการทางการแพทย์ในหลายประเทศได้ทำให้สภาพการณ์เช่นนี้แทบจะไม่มีเลย.
หากบางคนพูดว่า—
‘แต่ฉันมีสิทธิจะตัดสินใจในเรื่องที่มีผลกระทบต่อร่างกายของฉันนี่นา.’
คุณอาจตอบว่า: ‘ผม (ดิฉัน) เข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร. ทุกวันนี้สิทธิของเรามักจะถูกคนอื่นเหยียบย่ำ หลายคนไม่คำนึงถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น ๆ. แต่พระคัมภีร์จัดให้มีคำชี้แนะซึ่งปกป้องเราไว้. แต่เพื่อจะได้ประโยชน์จากคำแนะนำนั้น เราต้องรับเอาความรับผิดชอบด้วย.’ จากนั้นก็อาจกล่าวเพิ่มเติมว่า: (1) ‘คนที่ตั้งครรภ์หลายคนถูกพ่อของเด็กทอดทิ้ง. แต่ในครอบครัวที่สามีและภรรยาอยู่กันโดยอาศัยมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิล สามีจะรักภรรยากับลูกของเขาอย่างแท้จริงและอยู่กับพวกเขาด้วยความซื่อสัตย์ และหาเลี้ยงพวกเขา. (1 ติโม. 5:8; เอเฟ. 5:28–31)’ (2) ‘ถ้าหากเราจะได้รับความรักและความนับถือเช่นนั้นละก็ เราเช่นกัน ต้องนำมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิลไปใช้ในการมีทัศนะต่อสมาชิกครอบครัวของเรา. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าเราควรมองดูลูก ๆ ที่เราได้ให้กำเนิดนั้นอย่างไร? (เพลง. 127:3; เทียบกับ ยซา. 49:15.)’
เพลงบท 164 และคำอธิษฐาน.
สัปดาห์ซึ่งเริ่มวันที่ 27 มกราคม
เพลงบท 92
10 นาที: คำประกาศของประชาคม. สนับสนุนผู้ประกาศให้วางแผนไว้แต่เดี๋ยวนี้เพื่อเป็นไพโอเนียร์สมทบในเดือนมีนาคมและเมษายน. สนับสนุนครอบครัวและผู้ประกาศวัยเยาว์ซึ่งจะหยุดภาคฤดูร้อนในเดือนมีนาคมและเมษายน ให้มองดูว่าพวกเขาจะสามารถทำการจัดเตรียมอะไรบ้างเพื่อจะมีส่วนมากขึ้นในกิจกรรมการประกาศ.
20 นาที: “คุณจะพูดอย่างไรเมื่อคุณกลับเยี่ยมเยียน?” อภิปรายกับผู้ฟังและให้ผู้ประกาศที่เตรียมตัวอย่างดีสาธิตการใช้คำแนะนำในวรรคต่าง ๆ ขณะที่พวกเขาพิจารณากัน. การสาธิตสั้น ๆ เหล่านี้ควรมีการฝึกซ้อมไว้ล่วงหน้า.
15 นาที: “การให้เพื่อนคริสเตียนยืมเงิน.” คำบรรยายโดยผู้ปกครอง จากหอสังเกตการณ์ 15/10/91 หน้า 25–28.
เพลงบท 147 และคำอธิษฐาน.