ได้ประโยชน์เต็มที่จากการประชุมภาค 1993 “การสอนจากพระเจ้า”
1 “ข้าแต่พระยะโฮวา ขอทรงสั่งสอนข้าพเจ้า.” (เพลง 86:11) นี่ควรเป็นคำวิงวอนอย่างจริงจังของผู้รับใช้ที่อุทิศตัวแล้วทุกคนของพระเจ้า. เราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่มีวันเลิกเรียนรู้และไม่มีวันเลิกนำสิ่งที่เราเรียนรู้นั้นไปใช้. บางครั้ง เราต้องได้รับการปรับปรุง เช่นเดียวกับท่านผู้ประพันธ์บทเพลงสรรเสริญ เราต้องทูลขอพระเจ้าเพื่อทำให้หัวใจเราเป็นหนึ่งเดียวเพื่อหัวใจจะไม่แบ่งแยก. ระเบียบวาระในการประชุมภาค “การสอนจากพระเจ้า” จะจัดให้มีคำแนะนำและการปรับปรุงที่ทำตามได้จริงซึ่งเราจำเป็นต้องได้รับเพื่อจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ท่ามกลางความกดดันต่าง ๆ ของระบบนี้.
2 การประชุมภาคสี่วัน: จะมีการจัดการประชุมภาคขึ้นในประเทศไทยในสามแห่งที่สะดวก. หอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1993 มีแจ้งสถานที่และวันที่มีการประชุมภาคทั้งสามแห่งไว้. ระเบียบวาระจะเริ่มวันพฤหัสบดี เวลา 13:20 น. และสิ้นสุดลงบ่ายวันอาทิตย์ประมาณเวลา 16:15 น.
3 มีอะไรไว้ให้เราบ้าง? จะมีการเสนออาหารแข็งฝ่ายวิญญาณอันบริบูรณ์ด้วยวิธีหลายหลาก: คือคำบรรยาย, การสาธิต, การสัมภาษณ์, และละครสองเรื่อง. อย่าพลาดคำสั่งสอนอันสำคัญนี้แม้สักรายการเดียว! นอกจากนี้ เราคอยท่าการเสริมกำลังคนที่รู้จักคุ้นเคยแต่เก่าก่อนขึ้นใหม่และการทำให้มีเพื่อนใหม่ ๆ เข้ามา.
4 คุณจะนำส่วนสิบชักหนึ่งมาไว้ในคลังไหม? ที่มาลาคี 3:10 พระยะโฮวาทรงสัญญากับชนยิศราเอลว่าถ้าพวกเขาเต็มใจทดลองดูพระองค์และนำบรรดาส่วนสิบชักหนึ่งทั้งหมดมาไว้ในคลัง พระองค์จะทรงเทพระพรลงมาจนเกินความต้องการ.
5 สำหรับบางคน การทดลองดูพระยะโฮวาหมายความถึงการเข้าพบนายจ้างโดยเร็วเท่าที่เป็นได้เพื่อขอลาพักผ่อนหรือลากิจเพื่อเข้าร่วมการประชุมภาค. บางครั้ง พี่น้องลังเลที่จะทำเช่นนี้ เดาเอาว่านายจ้างของเขาคงไม่อนุญาตให้เขาเข้าร่วมการประชุมภาค. กระนั้น ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งฝ่ายวิญญาณ พวกเขากลับมีความยุ่งยากเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในการให้นายจ้างทราบถึงสิ่งที่เขาต้องการจะทำ.
6 เราน่าจะถามตัวเองว่า ถ้าเพื่อนรักคนหนึ่งกำลังจะสมรสอยู่ในที่อีกแห่งหนึ่ง เราจะเข้าพบนายจ้างของเราไหมและขอลางานเพื่อไปร่วมงานสมรสนั้น? และถ้าดูเหมือนเขารีรอ เราจะอธิบายด้วยความนับถือไหมว่าการที่จะไปในงานนั้นได้เป็นสิ่งมีความหมายแค่ไหนต่อเรา? แน่นอน การได้รับการสั่งสอนจากพระยะโฮวาสำคัญกว่าการเข้าร่วมงานสมรสมากนัก! ถ้าเราเชื่อมั่นว่าระเบียบวาระการประชุมภาคมีความสำคัญยิ่งต่อการเจริญเติบโตฝ่ายวิญญาณของเรา นั่นก็จะง่ายขึ้นที่เราจะทำให้นายจ้างของเราอนุญาตให้เราลางานเพื่อเข้าร่วมการประชุมภาค.—ยโก. 1:7, 8.
7 ส่วนสิบชักหนึ่งในยิศราเอลประกอบด้วยวัตถุสิ่งของที่สนับสนุนสถานนมัสการพระยะโฮวา. ในสมัยของเรา ส่วนสิบชักหนึ่งหมายถึงเวลา, กำลัง, และเงินทุนที่ใช้โดยตรงในการรับใช้พระยะโฮวาและสนับสนุนราชกิจ. ส่วนสิบชักหนึ่งรวมถึงเวลาที่เราใช้ในการประชุมต่าง ๆ, การประชุมหมวด, และการประชุมภาค และในการบำรุงรักษาและทำความสะอาดที่ประชุมของเรา. การประชุมภาค “การสอนจากพระเจ้า” จะให้โอกาสมากมายแก่เราเพื่อนำบรรดาส่วนสิบชักหนึ่งมาไว้ในคลังฝ่ายวิญญาณของพระยะโฮวา. สิ่งเหล่านั้นมีอะไรบ้าง?
8 เราสามารถนำส่วนสิบชักหนึ่งเข้ามาไว้ได้โดยการตั้งใจฟัง ระเบียบวาระการประชุมภาค, โดยการร่วมร้องเพลงราชอาณาจักรด้วยความกระตือรือร้น, และโดยการฟังคำอธิษฐาน อย่างดี เพื่อว่าเราจะกล่าวคำอาเมนได้ด้วยความรู้สึกจากหัวใจ.
9 ความก้าวหน้าของเราในความจริงขึ้นอยู่กับวิธีที่เราฟังอย่างมากทีเดียว. ในหอประชุมขนาดใหญ่ เป็นการง่ายที่ใจจะเขวไปเนื่องจากสิ่งที่คนอื่นกำลังทำอยู่รอบตัวเรา และเนื่องจากเหตุนี้ เราจึงต้องรักษาแนวความคิดของเราให้แน่วแน่เสมอ. จงแน่ใจจะมายังการประชุมภาคด้วยการเตรียมพร้อม มีพระคัมภีร์ของคุณ, ปากกากับกระดาษบันทึก, และหอสังเกตการณ์ ฉบับที่ศึกษาในสัปดาห์นั้น. เป็นประโยชน์ที่จะบันทึกจุดสำคัญและข้อพระคัมภีร์ต่าง ๆ ที่ผู้บรรยายแต่ละคนใช้. จงบันทึกแบบสั้น ๆ การบันทึกมากเกินไปอาจทำให้ไม่อาจจดจ่อ. เยาวชนก็เช่นกันควรได้รับการฝึกให้เป็นผู้ที่ฟังอย่างตั้งใจ. เด็ก ๆ ก็สามารถนำส่วนสิบชักหนึ่งมาพร้อมกับบิดามารดาได้โดยการติดตามระเบียบวาระอย่างใกล้ชิดเท่าที่ทำได้.
10 บิดามารดาบางคนจัดเวลาเงียบ ๆ ที่บ้านทุกวันเมื่อคาดหมายให้ลูกเล็ก ๆ อ่านหรือดูรูปภาพในหนังสือของสมาคมเล่มใดเล่มหนึ่ง. การฝึกอบรมอันดีเช่นนี้ทำให้ง่ายขึ้นมากที่เด็ก ๆ จะนั่งอย่างสงบระหว่างการประชุมต่าง ๆ ประจำสัปดาห์และการประชุมภาค. บิดามารดาซึ่งได้เลี้ยงดูลูก ๆ ที่เป็นแบบอย่างอันดีบอกว่าเขาไม่เคยอนุญาตให้ลูกเล็ก ๆ ของเขาเอาของเล่นหรือสมุดวาดรูปมาที่การประชุม. แม้แต่เด็กที่เล็กมากก็เรียนรู้ได้ว่าเหตุผลสำหรับการเข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ คือการนมัสการพระยะโฮวา. บิดามารดาซึ่งสอนลูกเล็ก ๆ ของเขาว่าการจะนำบรรดาส่วนสิบชักหนึ่งมาไว้ในคลังหมายความอย่างไรสำหรับเขานั้นเป็นผู้ที่น่าชมเชยอย่างแท้จริง!
11 นอกจากนั้น เรายังจะนำส่วนสิบชักหนึ่งมาได้ด้วยโดยการอาสาสมัคร ใช้เวลาและกำลังของเราเพื่อช่วยในการจัดระเบียบการประชุมภาค. ณ สถานที่ประชุมภาคส่วนใหญ่มีการกำหนดวันทำความสะอาดสถานที่ก่อนการประชุมภาคจะเริ่มหนึ่งหรือสองวัน. ถ้าคุณอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง ก็น่าจะจัดให้ทั้งครอบครัวได้ร่วมด้วยไม่ใช่หรือ? พี่น้องบางคนพานักศึกษาพระคัมภีร์ที่ก้าวหน้าไปด้วยเพื่อว่า แม้แต่ก่อนที่เขารับบัพติสมา คนใหม่ ๆ นั้นก็สามารถเรียนรู้ได้ว่ามีอะไรเกี่ยวข้องอยู่ด้วยบ้างในการสนับสนุนการนมัสการพระยะโฮวา. มีมากมายหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าการประชุมภาคจะดำเนินไปอย่างราบรื่น. เราน่าจะอาสาสมัครกันเป็นครอบครัวมิใช่หรือ?
12 การที่เราสนับสนุนด้านการเงิน แก่การประชุมภาคก็เป็นอีกทางหนึ่งแห่งการนำส่วนสิบชักหนึ่งมา. ในการชี้แจงว่าจะให้การสนับสนุนด้านวัตถุอย่างไรแก่การนมัสการบริสุทธิ์ พระยะโฮวาทรงมีพระบัญชาแก่ชาติยิศราเอลดังนี้: “คนทั้งหลายที่มาต่อพระพักตร์พระยะโฮวานั้นอย่าให้มามือเปล่า. ทุกคนจงนำเอาของมาตามกำลังของเขา ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้ทรงอวยพระพรประทานแก่เขานั้น.” (บัญ. 16:16, 17) ไม่ว่าคนเราจะให้ได้มากหรือน้อยก็ตาม การที่เขาให้โดยเตรียมไว้ล่วงหน้านั้นเป็นที่ชอบพระทัยพระยะโฮวา. ในทำนองคล้ายกัน พี่น้องหลายคนคิดคำนึงพร้อมด้วยการอธิษฐานถึงการบริจาคที่เขาจะทำ ไม่ว่าด้วยเงินสดหรือด้วยเช็ค (สั่งจ่าย “หอสังเกตการณ์”). คุณเคยให้ลูกเล็ก ๆ ของคุณใส่เงินลงในกล่องบริจาคไหม?
13 จงประดับคำสอนของพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้รอดของเรา: โดยมารยาทและความประพฤติอันดีงามของเรา เราสามารถ “ประดับโอวาทของพระเจ้าผู้เป็นที่รอดของเราทุกประการ.” (ติโต 2:10) พูดอีกอย่างคือ ณ การประชุมภาคนี่แหละที่เราจะแสดงให้เห็นได้ว่าเรานำคำสอนของพระเจ้ามาใช้ในชีวิตของเรา.
14 มารยาท ของเราเป็นอย่างไร? ในโลกทุกวันนี้มีการคำนึงถึงผู้อื่นน้อยมาก. แต่ไพร่พลของพระยะโฮวาซึ่งได้รับการชี้นำโดยหลักการในพระคัมภีร์จะคิดถึงไม่เพียงประโยชน์ของตนเท่านั้น แต่คิดถึงผลประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ด้วย. (ฟิลิป. 2:4) เราสำนึกถึงผู้คนรอบข้าง. เราไม่ผลักหรือดันเมื่อเข้าแถวซื้ออาหารหรือรับหนังสือ. เราคำนึงถึงผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ๆ ซึ่งอาจรอในแถวกับบิดามารดาและซึ่งอาจถูกคนที่โตกว่าซึ่งไม่ทันสังเกตดันได้ง่าย. ในร้านอาหาร เราสุภาพและมีมารยาทกับพนักงาน ไม่หยาบคายหรือเรียกร้องมากเกินไปหากการบริการไม่ทันใจเรา.
15 ความประพฤติอย่างคนที่เลื่อมใสในพระเจ้า มีผลกระทบอย่างแท้จริงต่อผู้คนรอบข้างเรา. ในเมืองแห่งการประชุมภาคแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นตำรวจมา 21 ปีบอกดังนี้: “ผมรู้สึกประทับใจกับระเบียบวินัยของพวกคุณ. [พวกเขา] ดูโดดเด่น พวกเขาเก็บขยะโดยไม่ต้องมีใครขอให้เขาทำและพวกเขามีระเบียบและการประชุมของคุณก็จัดระเบียบอย่างดี.” เขาพูดอีกว่า “พอพวกคุณเห็นเรา เขายิ้ม. นั่นเป็นนิมิตหมายอันดี. เรามองหาสิ่งนั้นแหละ. นั่นเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นมิตรและไม่มีอะไรเคลือบแฝง. และเรายังสังเกตเห็นด้วยถึงวิธีที่เด็ก ๆ อยู่กับบิดามารดาของเขาและมีวินัยดี. เชื่อผมเถอะ ผมรู้สึกประทับใจจริง ๆ. น่ายินดีที่ได้รับมอบหมายให้มาอยู่ที่นี่.”
16 เจ้าหน้าที่บางคนได้เดินทางไปที่เบเธลเป็นพิเศษเพื่อเสนอคำเชิญให้จัดการประชุมภาคในเมืองของเขา. สมาคมได้ตอบรับคำเชิญอย่างกรุณาเช่นนั้น และพวกสมาชิกสภาเทศบาลก็ไม่ผิดหวัง. รองผู้จัดการเทศบาลกล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากที่มีกลุ่มคนที่ทรงเกียรติอย่างพวกคุณมาชุมนุมกันในเมืองของเรา. เราได้พยายามอย่างมากทีเดียวที่จะให้คุณมาที่นี่ . . . และเรามีความยินดีที่สุด.” ด้วยความประพฤติอันดีเยี่ยมของเขา พี่น้องชายหญิงแต่ละคนได้ส่งเสริมการให้คำพยานอันดียิ่งที่นั่น.
17 ตัวคุณจะประดับคำสอนของพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเราโดยความประพฤติอันเป็นแบบอย่างที่ดีของคุณไหม? ต่อไปนี้เป็นวิธีต่าง ๆ ที่จะทำเช่นนั้นได้:
เสื้อผ้าและการประดับตัว: ในช่วงเวลาที่เรากำลังเข้าร่วมการประชุมภาค เราไม่ควรถือว่าเรากำลังลาพักผ่อน. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เรากำลังเสนอตัวต่อพระยะโฮวาเพื่อรับการสอนจากพระองค์. ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราควรแต่งตัวอย่างที่เราจะแต่งเมื่อเข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ ที่หอประชุมมิใช่หรือ? (1 ติโม. 2:9, 10) นอกจากนั้น เราควรคิดอย่างรอบคอบถึงสิ่งที่เราจะสวมใส่หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น. เมื่อกลับที่พักของเราแล้ว จะเป็นการเสมอต้นเสมอปลายไหมที่เรา ไม่ว่าอายุเท่าไร จะเปลี่ยนจากชุดมาประชุมภาคที่สุภาพ สง่างาม ไปเป็นเสื้อผ้าที่รุ่มร่ามไม่เรียบร้อยและไม่สะอาดแบบชาวโลก? นี่จะไม่เป็นการให้ความประทับใจหรอกหรือว่าเครื่องแต่งกายมาประชุมของเราก็ไม่ต่างอะไรไปจากชุดละคร แทนที่จะสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเรา? จำไว้ว่า เราถือพระนามของพระยะโฮวา และเราทุกคนต้องระมัดระวังไม่ให้มีข้อกล่าวหาที่ฟังขึ้นต่อแนวทางแห่งความจริง.
ผู้ที่จะรับบัพติสมาควรได้รับการเตือนว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะใส่เสื้อยืดที่พิมพ์คำขวัญหรือคำโฆษณาฝ่ายโลกหรือเครื่องหมายโฆษณาสินค้าในโอกาสอันศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้น. ผู้ปกครองควรทำให้แน่ใจว่าได้มีการทบทวนคำถามสำหรับการรับบัพติสมาแล้วเป็นอย่างดีและผู้จะรับบัพติสมาได้รับแจ้งในเวลาอันควรแล้วว่าเขาได้รับอนุมัติให้รับบัพติสมาหรือไม่. (เมื่อพิจารณาคำถาม คงเป็นเวลาเหมาะที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับชุดที่เหมาะสมและสุภาพสำหรับการรับบัพติสมา.) ไม่จำเป็นที่ผู้จะรับบัพติสมาซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะผู้ปกครองแล้วจะลงชื่อที่การประชุมภาค.
โรงแรม: จงแสดงผลแห่งพระวิญญาณเมื่อเข้าพักที่โรงแรม. บุคลากรของโรงแรมอาจไม่พร้อมจะดำเนินการให้คนกลุ่มใหญ่ในเวลาสั้น. จงอดทน, ให้ความเห็นใจ, ให้ทิปตามความเหมาะสม.
เด็ก ๆ ก็ทำส่วนของตนได้โดยแสดงความนับถือต่อทรัพย์สินของโรงแรมและโดยการเชื่อฟังกฎที่ควบคุมการใช้สระว่ายน้ำและอุปกรณ์อื่น ๆ. คงช่วยได้มากหากบิดามารดาใช้เวลาบ้างก่อนหน้าการประชุมเพื่อทบทวนกับลูก ๆ ถึงแบบความประพฤติที่ตนคาดหมายจากพวกเขา เตือนเขาว่าเขามีความรับผิดชอบเป็นส่วนตัวที่จะปฏิบัติสอดคล้องกับมาตรฐานความประพฤติของคริสเตียน.
อุปกรณ์บันทึกภาพหรือเสียง: แม้ว่าจะอนุญาตให้ใช้กล้องวีดิโอ เราก็ทราบว่าคุณคงคำนึงถึงผู้อื่น. คงไม่เป็นการแสดงความรักถ้าจะบังการมองของผู้เข้าร่วมการประชุมภาคด้วยกันในขณะที่บันทึกรายการประชุม. หากคุณบันทึกภาพอย่างระมัดระวังจากที่นั่งของคุณ ก็จะไม่มีข้อคัดค้านที่คุณจะทำเช่นนั้น. แต่กรุณาจำไว้ว่าจะไม่มีการต่อกล้องหรืออุปกรณ์บันทึกภาพหรือเสียงใด ๆ เข้ากับระบบไฟฟ้าหรือระบบเสียงของการประชุมภาค และไม่ควรวางอุปกรณ์ใด ๆ บนทางเดินหรือบริเวณที่มีการสัญจรไปมา.
ที่นั่ง: โปรดจำไว้เสมอว่าจะจองที่นั่งไว้เฉพาะสำหรับสมาชิกครอบครัวของคุณและคนที่จะเดินทางกับรถคุณเท่านั้น. กรุณาคำนึงถึงผู้สูงอายุด้วย.
แผนกบริการอาหารและแผนกสรรพหนังสือ: เราทุกคนต้องการแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อของประทานอันดีจากพระเจ้า โดยมองดูสิ่งนั้นว่าไม่ควรมีอะไรเสียเปล่า. (โย. 6:12) บิดามารดาควรพูดกับลูก ๆ ถึงการไม่ให้อาหารเสียเปล่า. โปรดแสดงความรักห่วงใยต่อคนอื่น ๆ เมื่อมีการจำหน่ายหนังสือ.
18 ด้วยการคำนึงถึงคนอื่น ๆ ด้วยความรัก จงวางแผนจะมาถึงแต่เช้าทุกวัน โดยเฉพาะในวันพฤหัสบดีในเมื่อดูเหมือนจะใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อหาที่จอดรถและหาที่นั่ง.
19 เป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่เราจะได้รับการสอนจากพระยะโฮวา! การที่เราใช้เวลา, พลังงาน, และโภคทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการประชุมภาค “การสอนจากพระเจ้า” นี้จะยังผลด้วยประโยชน์ฝ่ายวิญญาณอันถาวรทั้งต่อตัวเราและครอบครัวของเรา.