การประชุมภาคปี 1992 “ผู้ถือความสว่าง”
1 พระเยซูได้ตรัสว่าเหล่าสาวกของพระองค์จะเป็น “ความสว่างของโลก.” (มัด. 5:14) ในทางตรงกันข้าม ความมืดทึบฝ่ายวิญญาณและศีลธรรมของโลกกลับถมทวียิ่งขึ้นขณะที่วันเวลาล่วงไป. (ยซา. 60:2; โรม 1:21) ความรับผิดชอบของเราในฐานะผู้ถือความสว่างยิ่งมีความหมายมากขึ้นขณะที่เราคืบใกล้อวสานของระบบนี้. เมื่อตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญยิ่งของเราในแง่นี้ เราจึงคอยท่าที่จะเข้าร่วมการประชุมภาค 1992 “ผู้ถือความสว่าง” ด้วยการคาดล่วงหน้าอย่างกระหาย. แห่งแรกของการประชุมภาคชุดนี้ในประเทศไทยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม.
2 การประชุมภาคสามวัน: ปีนี้ เราได้วางแผนให้มีการประชุมภาค 3 แห่งในประเทศไทย. โปรดดูที่หน้า 31 ของวารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม 1992 เพื่อทราบรายการทั้งหมด. ระเบียบวาระจะเริ่มในวันศุกร์ เวลา 10:20 น. และจบลงด้วยการร้องเพลงและคำอธิษฐานในวันอาทิตย์ ประมาณ 16:15 น. ไพร่พลทั้งหลายของพระยะโฮวาคงต้องการจะอยู่ร่วมด้วยตลอดทุกระเบียบวาระ. คุณได้ตัดสินใจเป็นส่วนตัวหรือยังที่จะอยู่ที่นั่นตลอดสามวัน? จงแน่ใจที่จะอธิษฐานต่อพระยะโฮวาเพื่อพระองค์จะทรงอวยพระพรความพยายามของคุณ
3 ตั้งแต่คำบรรยายเริ่มการประชุมจนกระทั่งคำบรรยายสุดท้ายในบ่ายวันอาทิตย์ เราควรเอาใจจดจ่อกับระเบียบวาระทั้งหมด. จะมีการจัดเตรียมความรู้ที่กระตุ้นหนุนใจและเสนอในรูปของคำบรรยาย, การสาธิต, การสัมภาษณ์, และละคร. จงวางแผนจะนั่งประจำที่ของคุณก่อนที่ระเบียบวาระจะเริ่มในวันศุกร์. ตามปกติแล้ว จะต้องใช้เวลาในวันแรกมากกว่าวันอื่นเพื่อจอดรถ, หาที่นั่ง, และอื่น ๆ. ฉะนั้น จงให้ตนเองมีเวลามากพอ. โดยการรับฟังทุกรายการและอยู่ตลอดถึงการร้องเพลงและอธิษฐานจบการประชุม เราก็จะได้รับประโยชน์เต็มที่จากการประชุมและแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อสิทธิพิเศษที่ได้รับใช้ในฐานะผู้ถือความสว่าง.
4 “ข้าพเจ้าตั้งใจสดับข้อเตือนใจทั้งปวงของพระองค์อยู่เสมอ. ข้าพเจ้ารักข้อกฎหมายของพระองค์มากเพียงใด! ข้าพเจ้าคำนึงถึงตลอดวัน.” (เพลง. 119:95ข, 97) ทุกโอกาสที่เราชุมนุมกันเพื่อรับการสั่งสอนจากพระยะโฮวา เราจำต้องเอาใจจดจ่อและฟังไม่เพียงด้วยหู แต่ด้วยหัวใจของเรา. กระนั้น ความจำเป็นในเรื่องนี้ยิ่งจริงจังมากขึ้นอีก เมื่อเข้าร่วมการชุมนุมขนาดใหญ่อย่างเช่นการประชุมภาค. มีมากมายหลายสิ่งที่ตาจะต้องดูและหูจะต้องฟัง. ช่างเป็นการสูญเสียสำหรับตนเองเพียงไรถ้าเราทุ่มเทเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าร่วมการประชุมภาคเพียงเพื่อกลับบ้านพร้อมด้วยการจำจุดดี ๆ ได้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีที่เราจะสามารถปรับปรุงแก้ไขตัวเราในฐานะผู้ถือความสว่าง! เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อต่อต้านสิ่งที่ทำให้เขวหากเราจะรับประโยชน์เต็มที่จากระเบียบวาระการประชุม. เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความรู้นั้นจะฝังแน่นอยู่ในหัวใจและจิตใจของเราเมื่อถึงตอนสิ้นสุดการประชุม?
5 การฟังเป็นศิลปะอย่างหนึ่งซึ่งต้องมีการปลูกฝังและฝึกฝน. คำว่า “ฟัง” หมายถึง “การได้ยินด้วยความเอาใจใส่และไตร่ตรอง.” ขอให้พิจารณาข้อแนะต่อไปนี้: (1) จงพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะมาถึงสถานที่การประชุมทุกเช้าด้วยมีการพักผ่อนอย่างดี. การทำเช่นนี้ต้องมีการวางแผนและความร่วมมือจากครอบครัว. ถ้าคุณเหนื่อยล้าเนื่องจากนอนไม่พอและหิวเพราะไม่ได้รับประทานอาหารเช้า หรือหากประสาทคุณเครียดเพราะต้องรีบเร่ง คุณก็จะได้ประโยชน์จากระเบียบวาระน้อยมาก. (2) จงสร้างความคาดล่วงหน้าเกี่ยวกับวิธีที่อรรถบทการประชุมจะดำเนินไป. สักสองสามสัปดาห์ก่อนหน้าการประชุม ขณะอยู่ในของการศึกษาประจำครอบครัวคุณน่าจะให้สมาชิกในครอบครัวออกความเห็นว่าอะไรคือความหมายของการเป็นผู้ถือความสว่าง. เมื่ออยู่ที่การประชุมภาค จงดูล่วงหน้าในแต่ละส่วนของการประชุมวันนั้นก่อนที่ระเบียบวาระจะเริ่ม. (3) จงแต่งกายอย่างเหมาะสม และงดการกินและดื่มระหว่างการประชุม. มีการสังเกตเห็นบางคนในหอประชุมหรือในที่นั่งสนามกีฬากำลังกินหรือดื่มระหว่างการประชุม. นี่เป็นการกระทำที่ขาดความนับถือ, ทำให้คนอื่นเขว, และแสดงถึงการขาดการบังคับตน.—โปรดดูหอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 15 พฤศจิกายน 1991 หน้า 8-18.
6 เราต้องการเอาใจใส่เป็นพิเศษในเรื่องการจดบันทึก. หากมีการทำอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว ก็จะช่วยคุณให้ติดตามผู้บรรยายอย่างละเอียดถี่ถ้วนยิ่งขึ้นและจดจำสิ่งที่คุณได้ยินได้ฟังเอาไว้. เนื่องจากเราคิดได้เร็วกว่าพูดถึงสี่เท่า วิธีดีที่สุดเพื่อป้องกันการใจลอยก็คือการจดบันทึก. ดังที่นักเขียนคนหนึ่งได้ให้ข้อสังเกตว่า “การฟังคำบรรยายมักยากกว่าการให้คำบรรยาย.” คุณอาจจำได้ว่าคริสเตียนสมัยแรกเป็นที่รู้จักกันว่าได้นำแผ่นดินเหนียวเผาไปที่การประชุมด้วยและใช้หมึกจดข้อพระคัมภีร์ลงบนนั้น. น่ายินดีที่เราสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างสะดวกด้วยสมุดบันทึกขนาดพอเหมาะกับปากกาหรือดินสอ. การจดบันทึกอย่างชำนาญหมายถึงการจดเพียงข้อความที่มากพอจะจับแนวความคิดหลักได้ แต่ไม่มากเกินไปจนต้องเขียนตลอดเวลา. การเขียนตลอดเวลาก็จะทำให้วัตถุประสงค์ของเราล้มเหลวและยังผลด้วยการพลาดจุดสำคัญที่ผู้บรรยายพิจารณา. จงเขียนเฉพาะถ้อยคำสำคัญ ๆ และใช้คำย่อ. บันทึกของคุณจะเกิดผลมากที่สุดต่อเมื่อคุณทบทวนดูบันทึกในเย็นวันนั้นและอีกครั้งก่อนหน้าการพิจารณากับประชาคมเกี่ยวกับจุดเด่นต่าง ๆ ของการประชุมภาคในการประชุมวิธีปฏิบัติงาน.
7 การร้องเพลงและอธิษฐานที่ออกมาจากหัวใจ: การร้องเพลงสรรเสริญพระยะโฮวาและการเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยความเคารพยำเกรงในคำอธิษฐานเป็นส่วนประกอบแห่งการนมัสการของเรา. (2 โคร. 30:21, 27) สิ่งเหล่านี้เป็นลักษณะสำคัญของการประชุมภาคซึ่งเราทุกคนสามารถมีส่วนด้วยได้. ระหว่างการประชุมภาค “ผู้ถือความสว่าง” สามวัน เราจะร้องเพลง 18 บทเพื่อสรรเสริญพระยะโฮวาและร่วมกันทูลอธิษฐานต่อพระบิดาของเราซึ่งอยู่ในสวรรค์ถึงแปดครั้ง. สิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิพิเศษอันหาค่ามิได้จริง ๆ. พระยะโฮวาทรงประทานการสั่งสอนและการฝึกอบรมให้แก่เราถึงกว่า 12 ชั่วโมง. ในช่วงไม่กี่นาทีที่กำหนดไว้สำหรับการร้องเพลงและอธิษฐาน เราขอบพระคุณพระยะโฮวาและสรรเสริญพระองค์สำหรับการที่พระองค์ทรงประทานด้วยพระทัยเอื้อเฟื้อ. เนื่องจากที่เราเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวาในคำอธิษฐานอยู่ในฐานะที่ฝูงชนที่ร่วมชุมนุมกัน เราอยากให้พระองค์มองดูเราเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือไม่สำนึกบุญคุณกระนั้นหรือ เนื่องจากเราไม่ได้ร่วมในการร้องเพลงและอธิษฐานเพียงเพราะการวางแผนที่ไม่ดี? อีกประการหนึ่ง สรรพหนังสือในปีนี้ก็จะมีมากเหลือเฟือในแต่ละการประชุม ฉะนั้น คนที่อยู่ประจำที่ของตนอย่างเหมาะสมจนการประชุมจบจะไม่พลาดในการได้รับ. ทำนองเดียวกัน ไม่ควรมีใครออกไปก่อนการประชุมจบลงเพื่อจะได้เข้าแถวรับประทานอาหารก่อนคนอื่น.—มัด. 7:12; โรม 12:10; ฟิลิป. 2:1-4.
8 จงกระทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติยศแด่พระยะโฮวา: ทุกปี เราได้รับข้อเตือนใจอย่างกรุณาเกี่ยวกับความสำคัญของกิริยามารยาทที่ดีและการประพฤติอย่างเหมาะสม ณ การประชุมภาค. พวกเราส่วนใหญ่ควรได้รับคำชมเชยสำหรับการปฏิบัติตามข้อเตือนใจเหล่านั้นอย่างจริงจัง. ขณะที่ระบบนี้ใกล้จะถึงจุดจบ เราถูกบีบคั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ให้เข้าร่วมกับผู้คนในที่ทำงานหรือที่โรงเรียนซึ่งความประพฤติของพวกเขาเป็นดังที่ได้มีบอกไว้ล่วงหน้าที่ 2 ติโมเธียว 3:1-5. การคบหาเช่นนั้นอาจมีอิทธิพลในทางไม่ดีต่อเราหากเราไม่ระวังป้องกัน. อย่าให้เราเป็นเหตุให้ใคร ๆ ‘พูดต่อต้านเราว่าเป็นคนทำชั่ว’ เลย. (1 เป. 2:12, ล.ม.) การทำเช่นนี้เรียกร้องเราให้เอาใจใส่มากกว่าปกติต่อบุคลิกแบบคริสเตียนของเรา. ทุกคนควรระวังความประพฤติของตนทั้งที่การประชุมภาคและในที่สาธารณะไม่ว่าที่ใด ๆ เช่นที่โรงแรมและร้านอาหาร. ผู้ปกครองจะสนใจพี่น้องทุกคน. (ฟิลิป. 2:4) พวกเขามีส่วนช่วยและชมเชยพี่น้องสำหรับความประพฤติอันดีของเขา. ผู้ปกครองควรพร้อมจะให้คำแนะนำอันเปี่ยมด้วยความรักหากจำเป็น ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักคุ้นเคยเป็นส่วนตัวกับพี่น้องชายหญิงคนนั้นก็ตาม. ปัญหาร้ายแรงใด ๆ ที่สังเกตเห็นควรรายงานต่อฝ่ายบริหารงาน ณ การประชุมภาค.
9 อะไรบ้างที่เราจะต้องจดจำไว้? บุคลากรของโรงแรมต้องได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติและด้วยความนับถือ. แผนกที่พักได้ทำงานหนักเพื่อจะหาห้องพักในราคาที่ถูกกว่าปกติมากทีเดียว. หากเราเรียกร้องมากเกินไปหรือทิ้งห้องให้อยู่ในสภาพไม่น่าดู ฝ่ายจัดการของโรงแรมก็อาจไม่ยอมให้พยานพระยะโฮวาเข้าพักในการประชุมภาคคราวหน้าอีก. พวกเราบางคนยังคงต้องได้รับคำเตือนในเรื่องนี้. เพียงไม่กี่คนเท่านั้นก็ทำลายชื่อเสียงของคนส่วนใหญ่.
10 บุคลิกลักษณะใหม่ดังที่กล่าวไว้ในเอเฟโซ 4:24 เป็นเสมือนเครื่องแต่งกายที่คนเราสวมใส่หลังจากถอดบุคลิกลักษณะเก่าทิ้งไปแล้ว. การเปลี่ยนแปลงบุคลิกลักษณะเช่นนี้ควรสะท้อนให้เห็นในเครื่องแต่งกายจริง ๆ ของเราเช่นกัน. เคยมีการสังเกตว่าพี่น้องชายหญิงบางคน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว แต่งกายตามสบายเกินไป บางครั้งถึงกับแต่งกายไม่สุภาพ. บางคนถอดรองเท้าออกและยกเท้าขึ้นวางบนพนักพิงของที่นั่งข้างหน้า หรือเดินไปมาโดยไม่สวมรองเท้า. เราวางตัวเช่นนั้นไหมที่หอประชุม? นอกจากนั้น คนที่จะรับบัพติสมาบางคนสวมเสื้อยืดที่มีคำขวัญหรือคำโฆษณาฝ่ายโลกหรือพิมพ์เครื่องหมายโฆษณาสินค้าต่าง ๆ. ผู้ปกครองซึ่งทบทวนคำถามกับผู้ที่เตรียมตัวสำหรับการรับบัพติสมาควรทำให้แน่ใจว่า คนเหล่านั้นที่จะรับบัพติสมาเข้าใจสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในเรื่องเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับโอกาสนั้น.—โปรดดู w 1/6/85 หน้า 30 และ w 15/4/73 หน้า 254-255.
11 อุปกรณ์บันทึกภาพหรือเสียง: แม้ว่าจะอนุญาตให้ใช้กล้องวิดีโอ เราขอสนับสนุนให้ผู้ที่ใช้กล้องเหล่านั้นคำนึงถึงผู้อื่น จงเลือกสิ่งที่จะบันทึก และเคารพสิทธิของผู้ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพเขาขณะรับประทานอาหาร, หรือกำลังฟังการประชุม, หรือระหว่างการอธิษฐาน. ใครก็ตามที่บันทึกภาพหรือใช้เครื่องบันทึกเสียงควรหลีกเลี่ยงการทำให้หมู่ผู้ฟังไขว้เขวหรือก่อความรบกวน. ไม่มีข้อห้ามการบันทึกรายการประชุมจากที่นั่งของคุณ. แต่ระหว่างการประชุม คงไม่เหมาะที่ใครก็ตามจะเดินไป ๆ มา ๆ ตามทางเดินระหว่างที่นั่งและข้างหน้าผู้ฟังเพื่อบันทึกรายการ. หากจำเป็น เจ้าหน้าที่ต้อนรับแขกควรพูดกับคนนั้น ๆ ที่ไม่ได้แสดงความรักฉันพี่น้องในเรื่องนี้. โปรดจำไว้ว่ากล้องหรืออุปกรณ์บันทึกภาพหรือเสียงใด ๆ จะต้องไม่ต่อเข้ากับระบบไฟฟ้าหรือระบบเสียงของการประชุมภาค และจะไม่มีการวางอุปกรณ์ใด ๆ บนทางเดิน หรือบริเวณที่มีการสัญจรไปมา.
12 บิดามารดา: เราขอเน้นอีกครั้งถึงความสำคัญของการที่บิดามารดาจะควบคุมดูแลลูก ๆ ของตนตลอดเวลา ไม่ว่าในบริเวณการประชุมภาคหรือที่โรงแรม. (สุภา. 29:15ข; ลูกา 2:48) ขณะที่ระเบียบวาระการประชุมดำเนินไป จงแน่ใจว่าลูก ๆ ของคุณกำลังตั้งใจฟังและจดบันทึก. ระหว่างการพัก ก็มีโอกาสที่จะไปเยี่ยมพบปะกับเพื่อน ๆ จากประชาคมอื่น ๆ ได้.
13 เพื่อยกตัวอย่างประกอบถึงความสำคัญของการรู้อยู่ตลอดเวลาว่าลูกของคุณอยู่ที่ไหน คนขับรถแท็กซี่คนหนึ่งในเมืองแห่งการประชุมภาคแห่งหนึ่งรายงานต่อพี่น้องชายคนหนึ่งว่าเขาได้รับเด็กผู้หญิงสองคนที่สนามการประชุมภาค. ดูเหมือนเธอทั้งสองกำลังวางแผนจะหลบออกไปตลอดช่วงบ่ายและบอกคนขับว่ามารดาของพวกเธอจะไม่คิดถึงพวกเธอจนกระทั่ง 5 โมงเย็น. คนขับแท็กซี่คนนี้รู้สึกวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเธอ แต่มารดาของพวกเธอล่ะรู้สึกเช่นนั้นไหม? ช่างน่าสลดใจเพียงไรหากจะเกิดภัยใด ๆ ขึ้นกับพวกเธอ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงคำสบประมาทอันจะมีแก่พระนามของพระเจ้าและไพร่พลของพระองค์!
14 ไพร่พลของพระยะโฮวารู้สึกหยั่งรู้ค่าที่สามารถพบปะชุมนุมกันในสถานที่อันดีเยี่ยมเพื่อรับประโยชน์จากระเบียบวาระฝ่ายวิญญาณที่ได้จัดให้มีขึ้น. พวกเราเช่นกัน รู้สึกหยั่งรู้ค่าการบริการและความสะดวกต่าง ๆ มากมายที่ได้จัดให้มีขึ้น ณ การชุมนุมเช่นนี้. สมาคมให้การเอาใจใส่อย่างมากและเสียค่าใช้จ่ายสูง ในการจัดเตรียมต่าง ๆ เพื่อจะมีที่นั่งเพียงพอ การติดตั้งระบบเสียงราคาสูง การดำเนินงานด้านบริการอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริการด้านอื่น ๆ อีกมากซึ่งทำให้การเข้าร่วมการประชุมภาคเป็นสิ่งที่น่าเพลิดเพลินและยังความสดชื่นฝ่ายวิญญาณ.
15 จงเข้าร่วมการประชุมภาค “ผู้ถือความสว่าง”: โดยเข้าร่วมการประชุมภาค “ผู้ถือความสว่าง” เราคงตื่นเต้นที่จะฟังเหตุผลที่ว่าทำไมการเป็นผู้ถือความสว่างจึงเป็นเกียรติและสิทธิพิเศษอันใหญ่หลวง. เราจะได้รับคำเตือนว่านั่นเป็นความรับผิดชอบอันสำคัญด้วย. โดยการเอาใจใส่ให้มากกว่าปกติต่อสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ณ การประชุมภาค เราก็จะปรับปรุงทั้งความชำนาญและความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของเราในฐานะผู้ถือความสว่าง. จงวางแผนเสียแต่บัดนี้เพื่ออยู่พร้อมสำหรับทุกส่วนของการประชุม ตั้งแต่เพลงเปิดการประชุมในวันศุกร์จนถึงการอธิษฐานปิดการประชุมในบ่ายวันอาทิตย์.