ความฝัน
คำจำกัดความ: ความคิด หรือ จินตภาพของบุคคลในขณะหลับ. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงความฝันตามธรรมชาติ, ความฝันที่มาจากพระเจ้า, และความฝันที่เกี่ยวข้องกับการทำนาย.—โยบ 20:8; อาฤ. 12:6; ซคา. 10:2.
ความฝันต่าง ๆ ในสมัยของเรามีความหมายเป็นพิเศษไหม?
พวกนักวิจัยเรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับความฝัน?
สารานุกรมเวิลด์บุก (1984 เล่ม 5 หน้า 279) กล่าวว่า “ทุกคนฝัน. ผู้ใหญ่ส่วนมากฝันประมาณ 100 นาทีในช่วงเวลาแปดชั่วโมงที่นอนหลับ.” ดังนั้นการฝันจึงเป็นประสบการณ์ปกติของมนุษย์.
ดร. แอลลัน ฮอบสัน แห่งวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์เวิร์ดกล่าวว่า “ความฝันเป็นสิ่งกระตุ้นที่ยากจะเข้าใจซึ่งอาจอธิบายอย่างไรก็ได้แล้วแต่ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดจะมีแนวโน้มเอียงในทางใด. ความหมายอยู่ที่ทัศนะของคนที่มองดูความฝัน—ไม่ใช่ในตัวความฝันเอง.” เมื่อรายงานเรื่องนี้ บทความ “ไซเยนซ์ไทมส์” ของหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ กล่าวเสริมว่า “ภายในวิทยาลัยที่จัดให้ความฝันมีคุณค่าสูงยิ่งนั้นมีวิธีการหลายอย่างเพื่อหาข่าวสารทางจิตวิทยาจากความฝัน ซึ่งแต่ละอย่างสะท้อนถึงทัศนะที่ต่างกันออกไปแล้วแต่การคาดคะเน. นักจิตวิเคราะห์ตามทฤษฎีของฟรอยด์จะพบความหมายอย่างหนึ่งในความฝันนั้น ในขณะผู้ที่เชื่อหลักจิตวิทยาของยุง ก็พบความหมายอีกแบบหนึ่ง และนักจิตวิทยาแบบ เกสทาลต์ ก็พบความหมายอีกอย่างหนึ่ง . . . . แต่ทัศนะที่ว่าความฝันจะมีความหมายทางจิตวิทยาหรือไม่นั้นได้รับการโจมตีอย่างหนักจากพวกนักวิทยาศาสตร์ทางระบบประสาท.”— 10 กรกฎาคม 1984, หน้า ซี 12.
เป็นไปได้ไหมว่าความฝันต่าง ๆ ที่ดูเหมือนว่าให้ความรู้พิเศษจะมาจากแหล่งอื่นนอกจากพระเจ้า?
ยิระ. 29:8, 9: “ยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย . . . . ได้ตรัสดังนี้ว่า อย่าให้พวกทำนายแลพวกหมอดู . . . ที่ได้อยู่ในท่ามกลางพวกเจ้านั้น . . . ล่อลวงพวกเจ้า หรืออย่าให้เจ้าเชื่อฟังเอาตามความฝันที่ . . . [เขา]ทั้งหลายได้กระทำให้ฝันเห็นนั้นเลย เพราะเขาทั้งหลายได้ทำนายเป็นความเท็จให้แก่พวกเจ้าด้วยนามกรของเรา เราไม่ได้ใช้คนจำพวกนั้น พระยะโฮวาได้ตรัส.”
พจนานุกรมคัมภีร์ไบเบิลของฮาร์เปอร์ (ภาษาอังกฤษ) บอกเราว่า “ชาวบาบูโลนวางใจในความฝันมากถึงขนาดที่ว่าในคืนก่อนที่จะมีการตัดสินสำคัญ ๆ พวกเขาจะนอนในวิหารต่าง ๆ โดยหวังว่าจะได้รับคำแนะนำ. ชาวกรีกซึ่งปรารถนาการชี้แนะด้านสุขภาพจะนอนตามอารามต่าง ๆ ของเทพเจ้าแห่งการแพทย์แอสคิวลาพิอุส [ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นงู] และชาวโรมันในวิหารต่าง ๆ ของเซราพิส [บางครั้งเกี่ยวข้องกับงูที่ขดอยู่]. ชาวอียิปต์ได้ผลิตหนังสือต่าง ๆ อย่างละเอียดประณีตเพื่อใช้ในการอธิบายความหมายของความฝัน.”—(นิวยอร์ก 1961), เมเดลีน มิลเลอร์ และ เจ. เลน มิลเลอร์ หน้า 141.
ในอดีต พระเจ้าทรงให้คำเตือน คำแนะนำ และคำพยากรณ์โดยทางความฝัน แต่เดี๋ยวนี้พระองค์ทรงนำไพร่พลของพระองค์ด้วยวิธีนั้นหรือไม่?
คำกล่าวถึงความฝันต่าง ๆ ดังกล่าวซึ่งพระเจ้าทรงบันดาลนั้นมีอยู่ที่มัดธาย 2:13, 19, 20; 1 กษัตริย์ 3:5; เยเนซิศ 40:1–8.
เฮ็บ. 1:1, 2: “เมื่อคราวก่อนพระเจ้าได้ตรัสทางพวกผู้พยากรณ์ทีละเล็กทีละน้อยด้วยอาการหลายวิธี [รวมทั้งความฝัน] แก่บรรพบุรุษ แต่ในคราวที่สุดนี้ได้ตรัสแก่เราทางพระบุตร [พระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งมีคำสั่งสอนบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล].”
1 โก. 13:8: “แม้จะมีคำพยากรณ์ [และในบางครั้งพระเจ้าทรงถ่ายทอดคำพยากรณ์ต่าง ๆ ให้แก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์โดยทางความฝัน] ก็จะเสื่อมศูนย์ไป.”
2 ติโม. 3:16, 17: “พระคัมภีร์ทุกตอนพระเจ้าได้ทรงประสาทให้ย่อมเป็นประโยชน์สำหรับสั่งสอน . . . เพื่อคนของพระเจ้าจะได้เป็นผู้รอบคอบคือเป็นผู้ที่ได้ ถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว สำหรับการดีทุกอย่าง.”
1 ติโม. 4:1: “ฝ่ายพระวิญญาณได้ตรัสไว้โดยแจ่มแจ้งว่า ภายหลังจะมีบางคนทิ้งความเชื่อเสีย แล้วไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง [ซึ่งบางครั้งถ่ายทอดทางความฝัน] และฟังคำสอนของพวกผีปิศาจ.”