โปรดเก็บไว้
ข้อแนะสำหรับการเสนอจุลสาร
ข้อแนะต่าง ๆ ที่อยู่ในใบแทรกนี้อาจช่วยคุณเตรียมวิธีเสนอจุลสาร. คุณอาจปรับให้เข้ากับสภาพการณ์ในท้องถิ่น. อาจใช้วิธีเสนอแบบอื่นได้ด้วย. อาจเตรียมวิธีเสนอจุลสารฉบับอื่นที่ไม่ได้พิจารณาในใบแทรกนี้โดยอาศัยข้อแนะดังต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง.—ดูพระราชกิจของเรา เดือนมกราคม 2005 หน้า 8.
ข้อแนะแต่ละอย่างในหน้านี้ประกอบด้วย (1) คำถาม ที่กระตุ้นความคิดเพื่อเริ่มการสนทนา, (2) เลขหน้าและวรรค ในจุลสารที่พูดถึงเรื่องที่กำลังสนทนา, และ (3) ข้อคัมภีร์ ที่เหมาะสมที่อาจจะอ่านได้ระหว่างการสนทนา. ส่วนที่เหลือของการเสนอคุณอาจใช้คำพูดของคุณเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบรับของเจ้าของบ้าน.
เกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อเราตาย?
“เมื่อคนที่เรารักเสียชีวิต เป็นธรรมดาที่เราอาจสงสัยว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนและจะได้พบกับเขาอีกไหม. คุณเคยสงสัยเรื่องนี้บ้างไหม?”—คำถามที่ปกหลัง; โยบ 14:14, 15.
ทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตที่น่าพอใจ?
“ตลอดทั่วโลก ผู้คนต่างเสาะหาชีวิตที่ดีกว่า. คุณคิดว่า เป็นไปได้ไหมที่จะมีชีวิตที่น่าพอใจจริง ๆ?”—หน้า 29 วรรค 6; 2 เป. 3:13.
เพลิดเพลินกับชีวิตบนแผ่นดินโลกตลอดไป!
“หลายคนคิดว่าเขาจะต้องอยู่บนสวรรค์เท่านั้นจึงจะมีชีวิตตลอดไปได้ แต่คุณคิดอย่างไรเรื่องการมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลกตลอดไป?”—ภาพหน้าปก; วิ. 21:4.
เมื่อคนที่คุณรักเสียชีวิต
“วันนี้เรากำลังเสนอจุลสารเล่มนี้ ซึ่งเคยให้การปลอบโยนและให้ความหวังแก่ผู้คนนับล้านที่สูญเสียผู้เป็นที่รักไป. คุณเคยสงสัยไหมว่ามีความหวังอะไรสำหรับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว?”—หน้า 26 วรรค 3; โย. 5:28, 29.
“คุณเคยสงสัยไหมว่าจะปลอบโยนคนที่สูญเสียผู้เป็นที่รักอย่างไร?”—หน้า 20 วรรค 1; สุภา. 17:17.
หนังสือสำหรับทุกคน
“คุณคิดว่าคัมภีร์ไบเบิลมีคำแนะนำที่ใช้ได้จริงสำหรับสมัยของเราไหม?”—ข้อความที่เป็นตัวเอนใต้หัวเรื่องในหน้า 22; วรรค 3 ในกรอบหน้า 23; สุภา. 25:11.
“นี่แน่ะ! เรากำลังสร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่”
เมื่อคุยกับคนสูงอายุอาจพูดว่า:
“คุณอาจรู้สึกกังวลเหมือนผมในเรื่องแนวคิดที่เสื่อมทรามซึ่งมีอยู่มากมายในปัจจุบันและผลกระทบที่แนวคิดเหล่านั้นมีต่อลูกหลานของเรา. เหตุใดจึงมีการทำผิดศีลธรรมเพิ่มมากขึ้นในหมู่เด็กวัยรุ่น? [เปิดโอกาสให้ตอบ.] คุณทราบไหมว่า มีหนังสือเล่มหนึ่งที่บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ซึ่งหนังสือนี้เขียนมานานก่อนที่จะมีศาสนาอิสลาม, คริสต์, และฮินดูเสียอีก? [อ่าน 2 ติโมเธียว 3:1-3.] ขอให้สังเกตว่าสภาพการณ์เช่นนี้มีอยู่ดาษดื่นทั้ง ๆ ที่ผู้คนศึกษาเล่าเรียนกันไม่หยุดหย่อนด้วยซ้ำ. [อ่านข้อ 7.] หนังสือนี้ได้ช่วยผมให้เข้าใจความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้. คุณอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ไหม?”—พระราชกิจ 8/99 หน้า 8.
ข้อแนะสำหรับการเสนอ
พระเจ้าทรงใฝ่พระทัยในพวกเราจริง ๆ หรือ?
หลังจากพูดถึงข่าวหนึ่งที่น่าสลดใจ คุณอาจพูดว่า:
“คุณเคยสงสัยไหมว่า ถ้าองค์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดหรือพระเจ้าทรงใฝ่พระทัยในพวกเราจริง ๆ เหตุใดพระองค์จึงยอมให้มนุษย์มีความทุกข์? [เปิดโอกาสให้ตอบ.] จุลสารนี้ตอบคำถามดังกล่าวได้อย่างจุใจ และช่วยให้เรารู้ว่าพระเจ้าจะทรงทำอะไรในอนาคตอันใกล้. [ให้ดูภาพหน้า 27 และอ่านบทเพลงสรรเสริญ 145:16 จากวรรค 22.] พระเจ้าจะขจัดความทุกข์ทั้งสิ้นที่มนุษยชาติเคยประสบมาอย่างไร? คราวหน้าผมจะกลับมาเยี่ยมคุณอีกเพื่อตอบคำถามนี้.” เสนอจุลสารและนัดหมายเพื่อกลับเยี่ยม.
เมื่อกลับเยี่ยมคุณอาจพูดว่า:
“ครั้งที่แล้วที่คุยกับคุณ เราอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ด้วยกัน. [อ่านหรือยกข้อความจากบทเพลงสรรเสริญ 145:16.] และคำถามที่ทิ้งท้ายไว้ก็คือ พระเจ้าจะขจัดความทุกข์ทั้งสิ้นที่มนุษยชาติเคยประสบมาได้อย่างไร?” เชิญเจ้าของบ้านหยิบจุลสารมาดูด้วยกัน. จากนั้น เปิดไปที่หน้า 27-28 และพิจารณาวรรค 23-25. เสนอการศึกษาพระคัมภีร์ หรือนัดหมายเพื่อพิจารณาวรรค 26-27 ในการเยี่ยมคราวหน้า.
ผู้ประกาศที่เป็นเยาวชนอาจพูดว่า:
“คนรุ่นเดียวกับผมหลายคนเป็นห่วงว่า โลกจะมีสภาพอย่างไรในอีก 10 หรือ 15 ปีข้างหน้า. คุณคิดว่าในตอนนั้นชีวิตจะเป็นอย่างไร? [เปิดโอกาสให้ตอบ.] ปัญหาต่าง ๆ ที่เราเห็นในทุกวันนี้บ่งชี้ว่า เรากำลังมีชีวิตอยู่ในสมัยสุดท้าย. [อ่าน 2 ติโมเธียว 3:1-3.] จุลสารนี้จะตอบคำถามต่อไปนี้. [อ่านคำถามที่หน้าปกและเสนอจุลสาร.] คราวหน้าถ้าคุณพอมีเวลา ผมอยากจะให้ข้อคิดที่หนุนใจในเรื่องที่ว่า ความเจ็บป่วยและความแก่ชราจะไม่มีอีกต่อไป.” นัดหมายเพื่อกลับเยี่ยม.
เมื่อกลับเยี่ยม คุณอาจพูดว่า:
“คราวที่แล้วที่เราคุยกัน ผมบอกคุณว่าความเจ็บป่วยและความแก่ชราจะไม่มีอีกต่อไป. เรื่องนั้นอยู่ตรงนี้.” เชิญเจ้าของบ้านหยิบจุลสารมาดูด้วยกัน. จากนั้น พิจารณาวรรค 6-7 ในหน้า 23-24. นัดหมายเพื่อจะพิจารณาวรรค 8-9 ในการเยี่ยมคราวหน้า.
เมื่อออกประกาศกับเด็ก ผู้ใหญ่อาจแนะนำตัวเองและเด็ก แล้วพูดว่า:
“จะขอให้_____อ่านพระคัมภีร์ข้อหนึ่งให้คุณฟัง. [ให้เด็กอ่านบทเพลงสรรเสริญ 37:29 และให้ความเห็นสั้น ๆ.] จุลสารนี้พิจารณาว่า พระเจ้าจะทำอย่างไรเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อมนุษยชาติและแผ่นดินโลกสำเร็จเป็นจริง. [ให้ดูภาพหน้า 24-27.] คราวหน้าเมื่อเรากลับมา ผมจะให้คุณดูคำสัญญาที่ยอดเยี่ยมจากคัมภีร์ไบเบิลเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย.” เสนอจุลสารและนัดหมายเพื่อกลับเยี่ยม.
เมื่อกลับเยี่ยม ผู้ใหญ่อาจพูดว่า:
“เมื่อคราวที่แล้ว เราได้อ่านบทเพลงสรรเสริญ 37:29 และผมบอกว่าจะให้คุณดูสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้ในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย. ขอสังเกตสิ่งที่กล่าวไว้ที่นี่.” เชิญเจ้าของบ้านหยิบจุลสารมาดูด้วยกัน. จากนั้น พิจารณาวรรค 12-14 ในหน้า 24-25. เสนอการศึกษาพระคัมภีร์ หรือนัดหมายเพื่อพิจารณาวรรค 15-16 ในการเยี่ยมคราวหน้า.
ข้อแนะสำหรับการเสนอจุดมุ่งหมายของชีวิตคืออะไร?—คุณจะพบได้อย่างไร?
หลังจากแนะนำตัวกับเจ้าของบ้านแล้ว คุณอาจพูดว่า:
“ชีวิตของผู้คนในทุกวันนี้ต่างเจอปัญหาและความผิดหวังอย่างเลี่ยงไม่พ้น. คุณคิดว่า ชีวิตคนเราต้องเป็นอย่างนี้ไหม? [เปิดโอกาสให้ตอบ.] จุลสารนี้ช่วยเราให้เห็นว่า พระประสงค์แรกเดิมของพระเจ้าเกี่ยวกับมนุษย์และแผ่นดินโลกจะสำเร็จเป็นจริงในที่สุด. [พิจารณาภาพหน้า 20-21. แล้วอ่านวรรค 9 ให้เน้นที่ยะซายา 14:24 และ 46:11.] เมื่อผมกลับมาคราวหน้า ผมจะให้คุณดูจากคัมภีร์ไบเบิลที่บอกว่าพระเจ้าจะทรงฟื้นฟูแผ่นดินโลกให้เป็นอุทยาน.” เสนอจุลสารและนัดหมายเพื่อกลับเยี่ยม.
เมื่อกลับเยี่ยม คุณอาจพูดว่า:
“คราวที่แล้วผมบอกว่า พระเจ้ามีพระประสงค์ให้มนุษย์มีชีวิตตลอดไปบนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน. [เปิดให้ดูภาพหน้า 20-21 อีกครั้ง.] ขอสังเกตว่า พระเยซูและผู้เขียนพระคัมภีร์คนอื่น ๆ กล่าวเช่นไรเกี่ยวกับอุทยาน.” เชิญเจ้าของบ้านหยิบจุลสารมาดูด้วยกัน. จากนั้น เปิดไปที่หน้า 21-22 และพิจารณาวรรค 10-13. เสนอการศึกษาพระคัมภีร์ หรือนัดหมายเพื่อจะกลับมาพิจารณาหัวข้อย่อยอันใดอันหนึ่งในหน้า 29-30 ในการเยี่ยมครั้งถัดไป.
ผู้ประกาศที่เป็นเยาวชนอาจพูดว่า:
“คนรุ่นเดียวกับผมหลายคนรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในอนาคต. คุณคิดว่าคนรุ่นต่อไปจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ไหม? [เปิดโอกาสให้ตอบ.] คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงอนาคตที่สดใสซึ่งมีไว้ให้แก่มนุษย์ทุกคน. [เปิดให้ดูภาพหน้า 31 ของจุลสารและอ่านคำบรรยายภาพ. จากนั้น อ่าน 2 เปโตร 3:13.] จุลสารนี้บอกให้ทราบว่า พระเจ้าจะทรงอวยพรมนุษย์เช่นไรบ้าง. [เน้นที่หัวเรื่องย่อยต่าง ๆ ที่เป็นตัวหนาในหน้า 29-30 และเสนอจุลสาร.] ผมอยากกลับมาอีกเพื่อคุยกับคุณเรื่องที่พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ให้มีสงครามอีกต่อไป.” นัดหมายเพื่อกลับเยี่ยม.
เมื่อกลับเยี่ยม คุณอาจพูดว่า:
“คราวที่แล้ว เราคุยกันสั้น ๆ ว่า พระเจ้ามีพระประสงค์ที่จะฟื้นฟูแผ่นดินโลกให้เป็นอุทยาน. [อ้างถึงภาพหน้า 31 อีกครั้ง.] ผมอยากทราบความเห็นของคุณ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ให้มีสงครามอีกต่อไป.” เชิญเจ้าของบ้านหยิบจุลสารมาดูด้วยกัน. จากนั้น อ่านและพิจารณาวรรค 3-6 ในหน้า 29. นัดหมายเพื่อจะกลับมาพิจารณาวรรค 7-8 ในการเยี่ยมคราวหน้า.
เมื่อออกประกาศกับเด็ก ผู้ใหญ่อาจแนะนำตัวเองและเด็ก แล้วพูดว่า:
“จะขอให้_____ เปิดภาพหนึ่งให้คุณดูและอ่านพระคัมภีร์ข้อหนึ่ง. [ให้เด็กเปิดภาพหน้า 31 และอ่านคำบรรยายภาพ แล้วอ่านวิวรณ์ 21:4.] จุลสารนี้อธิบายว่า พระเจ้าจะจัดการปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้อย่างไร. [ชวนให้สนใจหัวเรื่องย่อยต่าง ๆ ที่เป็นตัวหนาในหน้า 29-30 แบบคร่าว ๆ และเสนอจุลสาร.] คราวหน้าผมจะให้คุณดูว่าคัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้อย่างไรเรื่องที่ว่าจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอีก.”
เมื่อกลับเยี่ยม ผู้ใหญ่อาจพูดว่า:
“คราวที่แล้วที่เราคุยกัน ผมบอกว่าจะให้คุณดูสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้ในเรื่องที่ว่าจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอีก. ขอสังเกตสิ่งที่กล่าวไว้ที่นี่.” เชิญเจ้าของบ้านหยิบจุลสารมาดูด้วยกัน. จากนั้น และพิจารณาวรรค 9-14 ในหน้า 29-30. เสนอการศึกษาพระคัมภีร์ หรือนัดหมายเพื่อจะพิจารณาวรรค 15-17 ในการเยี่ยมคราวหน้า.
จุลสารและแผ่นพับสำหรับคนที่ไม่ใช่คริสเตียน
จุลสารการทรงนำจากพระเจ้า—หนทางสู่อุทยาน
เมื่อคุยกับมุสลิม คุณอาจพูดว่า:
“ผมตั้งใจมาคุยกับมุสลิมโดยเฉพาะ. ผมเข้าใจว่า มุสลิมเชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวและเชื่อในนบีทุกท่าน. ผมเข้าใจถูกไหม? [เปิดโอกาสให้ตอบ.] ผมอยากคุยกับคุณเรื่องคำทำนายในสมัยโบราณที่มีบอกไว้ล่วงหน้าในเรื่องการเปลี่ยนแปลงแผ่นดินโลกให้เป็นอุทยาน. ผมขออ่านสิ่งที่นบีท่านหนึ่งเขียนไว้นะครับ. [อ่านยะซายา 11:6-9.] คำทำนายนี้ทำให้ผมนึกถึงข้อความจากคัมภีร์กุรอานที่ยกขึ้นมากล่าวในจุลสารนี้.” เปิดไปที่หน้า 9 ของจุลสาร และอ่านข้อความที่พิมพ์ตัวหนา. ถ้าเจ้าของบ้านสนใจ ให้สนทนาต่อโดยพิจารณาวรรค 7-9 ในหน้า 8.—พระราชกิจ 11/99 หน้า 8.
แผ่นพับวิธีพบหนทางสู่อุทยาน
เมื่อคุยกับมุสลิม คุณอาจพูดว่า:
“ผมดีใจที่ได้คุยกับมุสลิม. ผมเคยอ่านเกี่ยวกับศาสนาของคุณและเห็นพ้องกับคุณในหลายจุด (เช่น ที่ว่ามีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่คู่ควรกับการนมัสการ และเราไม่ควรใช้รูปจำลองใด ๆ ในการนมัสการพระองค์.) และอยากมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับมุสลิมเกี่ยวกับคำสัญญาของพระเจ้าที่จะประทานแผ่นดินที่มีสภาพเป็นสวนที่สวยงามให้แก่บ่าวของพระองค์เป็นที่อาศัยถาวร. ข้อความนั้นอยู่ในพระคัมภีร์ คุณจำข้อความนั้นได้ไหม? [ให้เขาตอบ แล้วจากนั้นหยิบแผ่นพับวิธีพบหนทางสู่อุทยานออกมา] ข้อความนั้นยกมากล่าวไว้แล้วในแผ่นพับนี้ ซึ่งอ่านว่า “เราได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ที่เราลงให้ [ซะบูร์] . . . ว่า ‘แท้จริง แผ่นดินนั้น มวลข้าทาสผู้ประพฤติตัวดีของข้าเท่านั้นที่จะทำการสืบทอดมัน’” ข้อความที่อ่านไปนี้ยกมาจากคัมภีร์กรุอาน ซูเราะห์ (บทที่) 21 อายะฮที่ (ข้อที่) 105. คุณสังเกตไหมว่าในที่นี้มีการยกข้อความมากล่าวจากคัมภีร์ซะบูรฺ. ผมอยากให้คุณได้ดูข้อความนั้นจากคัมภีร์ซะบูรฺโดยตรง. [ยื่นแผ่นพับให้เขาถือ จากนั้นเปิดไปที่ เพลง. 37:29 แล้วอ่านพร้อมกับชี้ข้อความนั้นให้เขาดู] คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาจะมอบให้คนสัตย์ธรรมเป็นมรดกนี้? [เปิดโอกาสให้ตอบ] แผ่นพับนี้รวบรวมข้อความส่วนหนึ่งจากพระคัมภีร์ที่อธิบายว่าแผ่นดินนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร ผมยินดีให้แผ่นพับนี้ให้กับคุณ.”
หรือคุณอาจพูดว่า: “ผมดีใจเป็นพิเศษที่ได้คุยกับมุสลิม เพราะเราต่างมีความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวเหมือนกัน. คุณคงเห็นด้วยว่า ไม่ว่าเรานับถือศาสนาอะไร มนุษย์เราต่างประสบกับปัญหาต่าง ๆ มากมายที่ทำให้หนักใจ. คุณคิดว่าปัญหาต่าง ๆ ในทุกวันนี้ เช่น สังคมมนุษย์ที่แตกแยกกัน สงครามและความรุนแรง จะมีวันหมดไปไหม? [เปิดโอกาสให้ตอบ] และคุณคิดว่าจะเป็นอย่างนั้นได้โดยวิธีใด? [ให้เขาตอบ พร้อมกับหยิบแผ่นพับวิธีพบหนทางสู่อุทยานออกมา] ผมรู้สึกได้กำลังใจจากพระวจนะของพระเจ้าว่า ในอีกไม่ช้า โลกของเราจะมีสภาพเป็นเหมือนกับอุทยานที่สงบสุขในภาพนี้. แผ่นพับนี้จะอธิบายว่าทำไมเราแน่ใจได้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอีกไม่ช้านี้. ผมยินดีให้แผ่นพับนี้กับคุณใบหนึ่งด้วย.” [ยื่นแผ่นพับให้เขา]
[กรอบหน้า 6]
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม
ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเรียกว่ามุสลิม ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเชื้อสายแขกเสมอไป. มุสลิมเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวที่เรียกในภาษาอาหรับว่าอัลลอฮฺ และยอมรับไม่ได้กับความคิดที่ว่าพระเจ้ามีบุตร. หลักศรัทธาข้อหนึ่งของศาสนาอิสลามเรียกร้องให้มุสลิมศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ซึ่งรวมถึงคัมภีร์เตารอต ที่ประทานแก่นบีมูซา (โทราห์ ประทานแก่ผู้พยากรณ์โมเซ) คัมภีร์ซะบูรฺ ที่ประทานแก่นบีดาวูด (บทเพลงสรรเสริญ ประทานแก่ผู้พยากรณ์ดาวิด) คัมภีร์อินญีล ที่ประทานแก่นบีอีซา (กิตติคุณของพระเยซู). อย่างไรก็ตาม มุสลิมส่วนใหญ่เชื่อว่าคัมภีร์ไบเบิลถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขเนื้อความไปจนเสียหาย อัลลอฮฺจึงประทานคัมภีร์กุรอานมาแทน แล้วยกเลิกคัมภีร์ที่ได้ประทานมาก่อน ๆ นั้นทั้งหมด แต่ความเชื่อนี้ขัดกับคำสอนในคัมภีร์กุรอาน. คำที่หมายถึงอุทยานหรือสวนธรรมชาติในภาษาอาหรับได้รับการแปลว่า ‘สวนสวรรค์’ ในกุรอานภาษาไทย.