กำหนดการโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าสำหรับปี 2008
คำแนะนำ
ต่อไปนี้เป็นการจัดเตรียมสำหรับการดำเนินโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าระหว่างปี 2008.
แหล่งข้อมูล: คัมภีร์ไบเบิล, หอสังเกตการณ์ [หอฯ], การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า [โรงเรียน], “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์” [ทุกตอน], และจงเข้าใกล้พระยะโฮวา [จงเข้าใกล้].
โรงเรียนควรเริ่มตรงเวลาด้วยการร้องเพลง, อธิษฐาน, และคำกล่าวต้อนรับ จากนั้นให้ดำเนินตามที่ชี้แจงข้างล่างนี้. หลังจากแต่ละส่วน ผู้ดูแลโรงเรียนจะเป็นผู้แนะนำส่วนต่อไป.
ลักษณะการพูด: 5 นาที. ผู้ดูแลโรงเรียน, ผู้ช่วยให้คำแนะนำ, หรือผู้ปกครองคนอื่นที่มีคุณวุฒิจะพิจารณาลักษณะการพูดโดยอาศัยคู่มือโรงเรียน. (ในประชาคมที่มีผู้ปกครองจำกัด อาจให้ผู้ช่วยงานรับใช้ที่มีคุณวุฒิทำส่วนนี้ได้.)
ส่วนมอบหมายที่ 1: 10 นาที. ส่วนนี้ควรมอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้ที่มีความสามารถ และจะอาศัยหนังสือการรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า, หรือ “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์.” ส่วนนี้จะนำเสนอในรูปของการบรรยายให้ความรู้สิบนาที. เป้าหมายไม่เพียงเพื่อครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด แต่ให้เพ่งความสนใจไปยังคุณค่าของการปฏิบัติตาม ข้อมูลที่กำลังพิจารณา โดยเน้นสิ่งที่จะเป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับประชาคม. ควรใช้หัวเรื่องที่มอบหมายให้. เป็นที่คาดหมายว่าพี่น้องซึ่งได้รับส่วนนี้จะระวังไม่ทำเกินเวลา. อาจมีการให้คำแนะนำเป็นส่วนตัวตามที่จำเป็น.
จุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์: 10 นาที. ในห้านาทีแรก ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้ที่มีความสามารถควรนำเนื้อหามาประยุกต์ใช้ในแบบที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาคม. เขาอาจพูดถึงจุดใดก็ได้ในคัมภีร์ไบเบิลที่มอบหมายให้อ่านสำหรับสัปดาห์นั้น. ส่วนนี้ไม่ควรเป็นเพียงการสรุปเรื่องราวที่ได้รับมอบหมายให้อ่าน. เป้าหมายหลักคือ เพื่อช่วยผู้ฟังให้เข้าใจว่าเรื่องราวที่ได้อ่านนั้นมีคุณค่าเพราะเหตุใด และมีคุณค่าอย่างไร. ผู้บรรยายควรระมัดระวังที่จะไม่ใช้เวลาเกินห้านาทีสำหรับส่วนแรก. เขาต้องไม่ลืมว่าห้านาทีหลังจัดไว้ให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม. ควรเชิญผู้ฟังให้ออกความเห็นสั้น ๆ (30 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น) ว่า จากการอ่านพระคัมภีร์มีจุดใดบ้างที่เขารู้สึกหยั่งรู้ค่าและได้ประโยชน์. จากนั้น ผู้ดูแลโรงเรียนจะให้นักเรียนแยกย้ายไปยังห้องเรียนที่กำหนดไว้.
ส่วนมอบหมายที่ 2: 4 นาที หรือน้อยกว่านั้น. ส่วนนี้เป็นการอ่านที่มอบหมายให้พี่น้องชาย. นักเรียนควรอ่านเรื่องราวที่มอบหมายให้โดยไม่ต้องกล่าวคำนำหรือคำลงท้าย. ผู้ดูแลโรงเรียนจะสนใจเป็นพิเศษในการช่วยนักเรียนให้อ่านด้วยความเข้าใจ, คล่องแคล่ว, เน้นความหมายที่ถูกต้อง, มีท่วงทำนอง, เว้นวรรคตอนอย่างเหมาะสม, และเป็นธรรมชาติ.
ส่วนมอบหมายที่ 3: 5 นาที. ส่วนนี้จะมอบหมายให้พี่น้องหญิง. จะมีการกำหนดฉากให้นักเรียนที่ได้รับมอบหมายหรือไม่ก็ให้เลือกเองจากรายการที่ปรากฏในหน้า 82 ของคู่มือโรงเรียน. นักเรียนควรใช้หัวเรื่องที่มอบหมายให้และเตรียมเรื่องให้เข้ากับแง่มุมหนึ่งของงานประกาศที่ตรงกับความเป็นจริงและที่พี่น้องจะนำไปใช้ได้ในเขตทำงานของประชาคม. หากไม่ได้บอกแหล่งข้อมูล นักเรียนจะต้องหาข้อมูลสำหรับส่วนนี้เองโดยค้นจากสรรพหนังสือของเรา. นักเรียนใหม่ควรได้รับส่วนมอบหมายที่มีการบอกแหล่งข้อมูลสำหรับค้นคว้า. ผู้ดูแลโรงเรียนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อวิธีที่นักเรียนเตรียมเรื่องราวและวิธีที่เธอช่วยเจ้าของบ้านให้หาเหตุผลจากพระคัมภีร์และเข้าใจจุดสำคัญที่เธอนำเสนอ. ผู้ดูแลโรงเรียนจะมอบหมายผู้ช่วยคนหนึ่งให้.
ส่วนมอบหมายที่ 4: 5 นาที. นักเรียนควรเตรียมจากหัวเรื่องที่มอบหมายให้. หากไม่ได้บอกแหล่งข้อมูลสำหรับค้นคว้า นักเรียนจะต้องหาข้อมูลสำหรับส่วนนี้เองโดยค้นจากสรรพหนังสือของเรา. เมื่อมอบหมายให้พี่น้องชาย เขาจะนำเสนอส่วนนี้ในลักษณะของการบรรยายต่อผู้ฟังในหอประชุม. หากพี่น้องหญิงได้รับส่วนนี้ เธอควรนำเสนอตามคำชี้แนะที่ให้ไว้สำหรับส่วนมอบหมายที่ 3 เสมอ. ผู้ดูแลโรงเรียนอาจให้พี่น้องชายทำส่วนมอบหมายที่ 4 เมื่อเห็นว่าเหมาะสม. โปรดสังเกตว่าหัวเรื่องที่มีเครื่องหมายดอกจัน (*) ควรมอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้นซึ่งจะนำเสนอในลักษณะคำบรรยาย. หากในประชาคมของคุณมีผู้ปกครองและผู้ช่วยงานรับใช้มากพอที่จะเอาใจใส่ส่วนต่าง ๆ ในโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า นับว่าดีกว่าที่จะมอบส่วนที่มีเครื่องหมายดอกจันให้กับผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้ตามที่เป็นไปได้.
คำแนะนำ: 1 นาที. ผู้ดูแลโรงเรียนจะไม่ประกาศล่วงหน้าว่านักเรียนกำลังเอาใจใส่จุดใดของลักษณะการพูด. หลังจากผู้ได้รับส่วนมอบหมายที่ 2, 3, และ 4 ทำเสร็จแล้ว ผู้ดูแลโรงเรียนจะกล่าวถึงแง่มุมที่น่าชมเชยซึ่งเขาได้สังเกตเห็นจากการนำเสนอส่วนนั้น ๆ. จุดมุ่งหมายของเขาไม่ใช่แค่พูดคำว่า “ทำได้ดีมาก” แต่ควรมุ่งความสนใจไปยังเหตุผลเฉพาะเจาะจงที่ว่าทำไมแง่มุมที่มีการนำเสนอนั้นจึงใช้ได้ผล. หลังการประชุมหรือในเวลาอื่นอาจให้คำแนะนำเพิ่มเติมเป็นส่วนตัวตามความจำเป็นของนักเรียนแต่ละคน คำแนะนำนั้นควรเป็นแบบที่เสริมสร้าง.
การกะเวลา: ทุกส่วนไม่ควรทำเกินเวลา รวมทั้งคำพูดของผู้ให้คำแนะนำก็ไม่ควรเกินเวลาด้วย. เมื่อส่วนมอบหมายที่ 2 ถึงที่ 4 ทำเกินเวลา ควรบอกให้หยุดอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา. ถ้าพี่น้องชายที่ให้คำบรรยายแรกเกี่ยวกับลักษณะการพูด, หรือส่วนมอบหมายที่ 1, หรือส่วนจุดเด่นจากการอ่านคัมภีร์ไบเบิลทำเกินเวลา ควรให้คำแนะนำเขาเป็นส่วนตัว. ทุกคนควรรักษาเวลาให้ดี. ระเบียบวาระทั้งหมดใช้เวลา 45 นาที ไม่รวมเพลงและคำอธิษฐาน.
แบบฟอร์มคำแนะนำ: อยู่ในคู่มือโรงเรียน.
ผู้ช่วยให้คำแนะนำ: ถ้าสามารถหาได้ คณะผู้ปกครองอาจเลือกผู้ปกครองคนหนึ่งที่มีความสามารถให้ช่วยผู้ดูแลโรงเรียนเพื่อดูแลส่วนมอบหมายในฐานะผู้ช่วยให้คำแนะนำ. ถ้ามีผู้ปกครองหลายคนในประชาคม ก็อาจให้ผู้ปกครองที่มีคุณวุฒิผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่นี้ในแต่ละปี. ผู้ช่วยให้คำแนะนำมีหน้าที่ให้คำแนะนำเป็นส่วนตัวแก่พี่น้องที่ทำส่วนมอบหมายที่ 1 และผู้ที่เสนอจุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์ หากส่วนนั้นมีจุดที่จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำ. ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องให้คำแนะนำทุกครั้งเมื่อเพื่อนผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้ทำส่วนดังกล่าว.
การทบทวน: 30 นาที. ทุก ๆ สองเดือนผู้ดูแลโรงเรียนจะทำการทบทวน. รายการนี้จะเริ่มด้วยการพิจารณาลักษณะการพูดและจุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์ตามที่แนะไว้ข้างต้น. การทบทวนจะอาศัยเรื่องที่พิจารณาในโรงเรียนตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมารวมทั้งสัปดาห์ที่มีการทบทวนด้วย. ถ้าประชาคมของคุณมีการประชุมหมวดในสัปดาห์ที่มีการทบทวน ควรเลื่อนการทบทวนดังกล่าว (รวมทั้งรายการอื่นในสัปดาห์นั้น) ไปอีกหนึ่งสัปดาห์ และนำเอากำหนดการการประชุมของสัปดาห์ถัดไปมาใช้ในสัปดาห์แห่งการประชุมหมวด. หากผู้ดูแลหมวดจะเยี่ยมประชาคมของคุณในสัปดาห์ที่มีการทบทวน ก็ให้มีการร้องเพลง, คำบรรยายลักษณะการพูด, และจุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์ตามกำหนดการ. ส่วนคำบรรยายแนะนำ (ซึ่งเป็นส่วนที่ทำต่อจากคำบรรยายลักษณะการพูด) ให้ใช้จากกำหนดการของสัปดาห์ถัดไป. รายการโรงเรียนตามระบอบของพระเจ้าในสัปดาห์ถัดไปจะเริ่มด้วยคำบรรยายลักษณะการพูดและจุดเด่นจากพระคัมภีร์ตามกำหนดการ แล้วตามด้วยการทบทวน.
กำหนดการ
7 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: มัดธาย 1-6 เพลงบท 62
ลักษณะการพูด: ให้คำอธิบายที่จำเป็น (โรงเรียน หน้า 228 ว. 2-3)
ที่ 1: บทนำพระธรรมมัดธาย (ทุกตอน หน้า 218-220 ว. 1-10)
ที่ 2: มัดธาย 5:1-20
ที่ 3: ทำไมความยุติธรรมของพระยะโฮวาทำให้เราอยากเข้าใกล้พระองค์? (จงเข้าใกล้ หน้า 117 ว. 21-22)
ที่ 4: วิธีที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าช่วยเรา
14 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: มัดธาย 7-11 เพลงบท 224
ลักษณะการพูด: วิธีที่หัวใจเข้ามาเกี่ยวข้อง (โรงเรียน หน้า 228 ว. 4-6)
ที่ 1: จงปีติยินดีในพระคำของพระเจ้า (โรงเรียน หน้า 9 ว. 1-5)
ที่ 2: มัดธาย 10:1-23
ที่ 3: ทำไมจึงคุ้มค่าที่จะเป็นคนสัตย์ซื่อ?
ที่ 4: พระยะโฮวาทรงมีทัศนะเช่นไรต่อความอยุติธรรม? (จงเข้าใกล้ หน้า 118-120 ว. 1-6)
21 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: มัดธาย 12-15 เพลงบท 133
ลักษณะการพูด: ให้ความรู้แก่ผู้ฟัง (โรงเรียน หน้า 230 ว. 1-6)
ที่ 1: จงอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน (โรงเรียน หน้า 10 ว. 1-หน้า 12 ว. 3)
ที่ 2: มัดธาย 14:1-22
ที่ 3: ทำไมพระเจ้ายอมให้มีความอยุติธรรม? (จงเข้าใกล้ หน้า 120-123 ว. 7-11)
ที่ 4: ใครคือผู้ต่อต้านพระคริสต์?
28 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: มัดธาย 16-21 เพลงบท 176
ลักษณะการพูด: การทำให้คำบรรยายเต็มไปด้วยความรู้โดยการค้นคว้า (โรงเรียน หน้า 231 ว. 1-3)
ที่ 1: “จงเอาใจใส่ว่าท่านทั้งหลายฟังอย่างไร” (โรงเรียน หน้า 13 ว. 1-หน้า 14 ว. 5)
ที่ 2: มัดธาย 17:1-20
ที่ 3: การยอมให้มีความอยุติธรรมเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องความซื่อสัตย์มั่นคงของมนุษย์อย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 123-125 ว. 12-15)
ที่ 4: อะไรคือสิ่งที่คริสเตียนถือว่าศักดิ์สิทธิ์?
4 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: มัดธาย 22-25 เพลงบท 151
ลักษณะการพูด: การอธิบายข้อคัมภีร์ (โรงเรียน หน้า 231 ว. 4-5)
ที่ 1: การฟัง ณ การประชุมประจำประชาคมและการประชุมใหญ่ (โรงเรียน หน้า 15 ว. 1-หน้า 16 ว. 5)
ที่ 2: มัดธาย 23:1-24
ที่ 3: ชีวิตตลอดไปจะไม่น่าเบื่อ
ที่ 4: เหตุผลที่ความยุติธรรมของพระยะโฮวาเหนือกว่าความยุติธรรมของมนุษย์ (จงเข้าใกล้ หน้า 125-126 ว. 16-18)
11 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: มัดธาย 26-28 เพลงบท 110
ลักษณะการพูด: การอธิบายความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ (โรงเรียน หน้า 231 ว. 6)
ที่ 1: พระธรรมมัดธาย—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 224-225 ว. 29-33)
ที่ 2: มัดธาย 27:1-22
ที่ 3: ทำไมการแค่เชื่อว่ามีพระเจ้ายังไม่พอ?
ที่ 4: ทำไมเราต้องมั่นใจในความยุติธรรมของพระยะโฮวา? (จงเข้าใกล้ หน้า 126-127 ว. 19-21)
18 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: มาระโก 1-4 เพลงบท 167
ลักษณะการพูด: การหาเหตุผลจากข้อคัมภีร์ต่าง ๆ (โรงเรียน หน้า 232 ว. 1-3)
ที่ 1: บทนำพระธรรมมาระโก (ทุกตอน หน้า 226-228 ว. 1-11)
ที่ 2: มาระโก 2:1-17
ที่ 3: พระยะโฮวาผู้ประทานกฎหมายองค์สูงสุด (จงเข้าใกล้ หน้า 128-129 ว. 1-4)
ที่ 4: วิธีที่ความรักเสริมความกล้าหาญ
25 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: มาระโก 5-8 เพลงบท 72
ลักษณะการพูด: การเลือกข้อมูลที่จะทำให้ผู้ฟังของคุณได้รับประโยชน์ (โรงเรียน หน้า 232 ว. 4-หน้า 233 ว. 4)
การทบทวน
3 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: มาระโก 9-12 เพลงบท 195
ลักษณะการพูด: จงใช้เนื้อหาตามที่กำหนดให้ (โรงเรียน หน้า 234 ว. 1-หน้า 235 ว. 3)
ที่ 1: คุณสามารถปรับปรุงความจำให้ดีขึ้นได้ (โรงเรียน หน้า 17 ว. 1-หน้า 19 ว. 1)
ที่ 2: มาระโก 11:1-18
ที่ 3: ทำไมพระเจ้าตรัสมุสาไม่ได้?
ที่ 4: พระบัญญัติของโมเซยกย่องพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 129-130 ว. 5-7)
10 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: มาระโก 13-16 เพลงบท 87
ลักษณะการพูด: การใช้คำถามอย่างบังเกิดผล (โรงเรียน หน้า 236 ว. 1-5)
ที่ 1: พระธรรมมาระโก—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 232 ว. 31-33)
ที่ 2: มาระโก 14:1-21
ที่ 3: พระบัญญัติของโมเซสนับสนุนมาตรฐานของพระยะโฮวาในเรื่องความบริสุทธิ์อย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 130-131 ว. 8-10)
ที่ 4: ทำไม “ความโกรธของมนุษย์ไม่ได้กระทำให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า?” (ยโก. 1:20)
17 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 1-3 เพลงบท 13
ลักษณะการพูด: การใช้คำถามเพื่อนำเข้าสู่ความคิดสำคัญ (โรงเรียน หน้า 237 ว. 1-2)
ที่ 1: บทนำพระธรรมลูกา (ทุกตอน หน้า 233-235 ว. 1-9)
ที่ 2: ลูกา 1:1-23
ที่ 3: ทำไม “ความเชื่อที่ปราศจากการประพฤตินั้นไม่เกิดผล”? (ยโก. 2:20)
ที่ 4: พระบัญญัติของโมเซสนับสนุนความยุติธรรมอันสมบูรณ์ของพระยะโฮวาอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 131-133 ว. 11-12)
24 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 4-6 เพลงบท 156
ลักษณะการพูด: การใช้คำถามเพื่อหาเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องหนึ่ง (โรงเรียน หน้า 237 ว. 3-หน้า 238 ว. 2)
ที่ 1: บทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเรื่องการช่วยจำ (โรงเรียน หน้า 19 ว. 2-หน้า 20 ว. 3)
ที่ 2: ลูกา 4:1-21
ที่ 3: พระบัญญัติของโมเซเน้นความเมตตาอย่างไรในการตัดสินความ? (จงเข้าใกล้ หน้า 133-134 ว. 13-15)
ที่ 4: ความเกรงกลัวพระเจ้าสามารถยับยั้งเราไว้จากการทำบาป
31 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 7-9 เพลงบท 122
ลักษณะการพูด: การใช้คำถามเพื่อดึงความรู้สึกภายในออกมา (โรงเรียน หน้า 238 ว. 3-5)
ที่ 1: ทำไมคุณควรเอาใจใส่การอ่าน? (โรงเรียน หน้า 21 ว. 1-หน้า 23 ว. 3)
ที่ 2: ลูกา 7:1-17
ที่ 3: หลักฐานที่แสดงว่าพระเจ้าทรงรักเราและอยากให้เรามีความสุข
ที่ 4: พระบัญญัติของโมเซคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 134 ว. 16-18)
7 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 10-12 เพลงบท 68
ลักษณะการพูด: การใช้คำถามเพื่อช่วยเน้น (โรงเรียน หน้า 239 ว. 1-2)
ที่ 1: วิธีเอาใจใส่การอ่าน (โรงเรียน หน้า 23 ว. 4-หน้า 26 ว. 5)
ที่ 2: ลูกา 11:37-54
ที่ 3: พระบัญญัติของโมเซให้การปกป้องแก่สมาชิกทุกคนในครอบครัวอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 135-136 ว. 19-21)
ที่ 4: เราควรเข้าใจวิวรณ์ 17:17 อย่างไร?
14 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 13-17 เพลงบท 86
ลักษณะการพูด: การใช้คำถามเพื่อเผยความคิดที่ไม่ถูกต้อง (โรงเรียน หน้า 239 ว. 3-5)
ที่ 1: วิธีศึกษา (โรงเรียน หน้า 27 ว. 1-หน้า 31 ว. 2)
ที่ 2: ลูกา 16:1-15
ที่ 3: พระบัญญัติของพระเจ้าเรื่องการเก็บข้าวตกสอนอะไรแก่เรา?
ที่ 4: เราจะแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเรา “รักข้อกฎหมาย” ของพระยะโฮวา? (จงเข้าใกล้ หน้า 136-137 ว. 22-23)
21 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 18-21 เพลงบท 182
ลักษณะการพูด: อุปมาและอุปลักษณ์ที่ใช้สอน (โรงเรียน หน้า 240 ว. 1-หน้า 241 ว. 1)
ที่ 1: พระธรรมลูกา—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 239-240 ว. 30-35)
ที่ 2: ลูกา 18:1-17
ที่ 3: ทำไมค่าไถ่เป็นสิ่งจำเป็น? (จงเข้าใกล้ หน้า 138-139 ว. 1-5)
ที่ 4: การ “ทำทุกสิ่งต่อ ๆ ไปโดยปราศจากการบ่นพึมพำ” หมายความเช่นไร? (ฟิลิป. 2:14)
28 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: ลูกา 22-24 เพลงบท 218
ลักษณะการพูด: การใช้ตัวอย่าง (โรงเรียน หน้า 241 ว. 2-4)
การทบทวน
5 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: โยฮัน 1-4 เพลงบท 31
ลักษณะการพูด: ตัวอย่างในพระคัมภีร์ (โรงเรียน หน้า 242 ว. 1-2)
ที่ 1: บทนำพระธรรมโยฮัน (ทุกตอน หน้า 241-243 ว. 1-9)
ที่ 2: โยฮัน 3:1-21
ที่ 3: เราเรียนอะไรได้จากการที่ดาวิดไม่ยอมสังหารกษัตริย์ซาอูล?
ที่ 4: ค่าไถ่คืออะไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 139-141 ว. 6-9)
12 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: โยฮัน 5-7 เพลงบท 150
ลักษณะการพูด: จะเป็นที่เข้าใจไหม? (โรงเรียน หน้า 242 ว. 3-หน้า 243 ว. 1)
ที่ 1: การศึกษาให้บำเหน็จ (โรงเรียน หน้า 31 ว. 3-หน้า 32 ว. 3)
ที่ 2: โยฮัน 6:1-21
ที่ 3: บันทึกเกี่ยวกับอะนาเนียและซับไฟเรสอนอะไรแก่เรา?
ที่ 4: “ค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียมกัน” (จงเข้าใกล้ หน้า 142-143 ว. 10-12)
19 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: โยฮัน 8-11 เพลงบท 102
ลักษณะการพูด: ตัวอย่างเปรียบเทียบจากเหตุการณ์ที่คุ้นเคย (โรงเรียน หน้า 244 ว. 1-2)
ที่ 1: วิธีค้นคว้าโดยใช้คัมภีร์ไบเบิล (โรงเรียน หน้า 33 ว. 1-หน้า 35 ว. 2)
ที่ 2: โยฮัน 11:38-57
ที่ 3: ใครจัดเตรียมค่าไถ่? (จงเข้าใกล้ หน้า 143-144 ว. 13-15)
ที่ 4: ทำไมพระเจ้าประทานพระบัญญัติข้อที่สิบ เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะบังคับใช้หรือลงโทษผู้ละเมิดพระบัญญัติข้อนี้?
26 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: โยฮัน 12-16 เพลงบท 3
ลักษณะการพูด: ตัวอย่างเปรียบเทียบที่เหมาะกับผู้ฟังของคุณ (โรงเรียน หน้า 244 ว. 3-หน้า 245 ว. 4)
ที่ 1: การเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือค้นคว้าอื่น ๆ (โรงเรียน หน้า 35 ว. 3-หน้า 38 ว. 4)
ที่ 2: โยฮัน 12:1-19
ที่ 3: พระเยซูทำให้งานไถ่ของพระองค์เสร็จสิ้นอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 145 ว. 16-17)
ที่ 4: เราทอดภาระไว้กับพระยะโฮวาโดยวิธีใด? (เพลง. 55:22)
2 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: โยฮัน 17-21 เพลงบท 198
ลักษณะการพูด: การใช้อุปกรณ์ช่วยสอนอย่างบังเกิดผล (โรงเรียน หน้า 247 ว. 1-2)
ที่ 1: พระธรรมโยฮัน—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 247-248 ว. 30-35)
ที่ 2: โยฮัน 21:1-14
ที่ 3: ทำไมจึงเชื่อในพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น?
ที่ 4: ผลประโยชน์ของค่าไถ่ (จงเข้าใกล้ หน้า 146-147 ว. 18-20)
9 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 1-4 เพลงบท 92
ลักษณะการพูด: พระเยซูทรงใช้อุปกรณ์ช่วยสอนอย่างไร? (โรงเรียน หน้า 247 ว. 3)
ที่ 1: บทนำพระธรรมกิจการ (ทุกตอน หน้า 249-250 ว. 1-8)
ที่ 2: กิจการ 1:1-14
ที่ 3: ทำไมพระเยซูทนไม่ได้กับพวกพ่อค้าและคนรับแลกเงินที่พระวิหาร? (จงเข้าใกล้ หน้า 148-149 ว. 1-4)
ที่ 4: “การพูดอย่างสะดวกใจ” หมายรวมถึงอะไรบ้าง? (ฮีบรู 3:6)
16 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 5-7 เพลงบท 2
ลักษณะการพูด: วิธีใช้อุปกรณ์ช่วยสอน (โรงเรียน หน้า 248 ว. 1-3)
ที่ 1: การเตรียมโครงเรื่อง (โรงเรียน หน้า 39-42)
ที่ 2: กิจการ 5:1-16
ที่ 3: ทำไมพระเยซูมีความสำนึกเรื่องความยุติธรรมอย่างแรงกล้า? (จงเข้าใกล้ หน้า 149-151 ว. 5-7)
ที่ 4: ทำไมความเกรงกลัวพระยะโฮวาเป็นต้นเหตุให้เกิดสติปัญญา? (เพลง. 111:10)
23 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 8-10 เพลงบท 116
ลักษณะการพูด: การใช้แผนที่, ใบระเบียบวาระสำหรับการประชุมใหญ่, และวีดิทัศน์ (โรงเรียน หน้า 248 ว. 4-หน้า 249 ว. 2)
ที่ 1: การเตรียมส่วนมอบหมายนักเรียนในรายการโรงเรียน (โรงเรียน หน้า 43 ว. 1-หน้า 44 ว. 3)
ที่ 2: กิจการ 8:1-17
ที่ 3: พระเยซูจะ “ช่วยคนขัดสน” อย่างไร? (เพลง. 72:12)
ที่ 4: พระเยซูต่างจากพวกอาลักษณ์และฟาริซายอย่างไรในเรื่องการทำให้ “ความหมายของความยุติธรรม” กระจ่างชัด? (จงเข้าใกล้ หน้า 151-153 ว. 8-13)
30 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 11-14 เพลงบท 79
ลักษณะการพูด: การใช้อุปกรณ์ช่วยสอนกับผู้ฟังกลุ่มใหญ่ (โรงเรียน หน้า 249 ว. 3-หน้า 250 ว. 1)
การทบทวน
7 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 15-17 เพลงบท 203
ลักษณะการพูด: ทำไมการพูดแบบหาเหตุผลจึงสำคัญ? (โรงเรียน หน้า 251 ว. 1-3)
ที่ 1: การดำเนินเรื่องและฉาก (โรงเรียน หน้า 44 ว. 4-หน้า 46 ว. 1)
ที่ 2: กิจการ 16:1-15
ที่ 3: เหตุผลสำหรับการรับใช้พระยะโฮวาโดยปราศจากความกลัว
ที่ 4: แนวทางชีวิตของพระเยซูส่งเสริมความยุติธรรมอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 154-156 ว. 14-19)
14 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 18-21 เพลงบท 32
ลักษณะการพูด: จะเริ่มตรงไหน (โรงเรียน หน้า 251 ว. 4-หน้า 252 ว. 3)
ที่ 1: การเตรียมคำบรรยายสำหรับประชาคม (โรงเรียน หน้า 47 ว. 1-หน้า 49 ว. 1)
ที่ 2: กิจการ 20:1-16
ที่ 3: พระเยซูทรง “ตั้งความยุติธรรมไว้บนแผ่นดินโลก” อย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 156-157 ว. 20-23)
ที่ 4: เราเรียนอะไรได้จากคำสั่งห้ามในเอ็กโซโด 23:19ข?
21 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 22-25 เพลงบท 200
ลักษณะการพูด: เมื่อไรจะเป็นฝ่ายยอม (โรงเรียน หน้า 252 ว. 4-หน้า 253 ว. 2)
ที่ 1: การเตรียมส่วนสำหรับการประชุมการรับใช้ และการเตรียมคำบรรยายอื่น ๆ (โรงเรียน หน้า 49 ว. 2-หน้า 51 ว. 2)
ที่ 2: กิจการ 22:1-16
ที่ 3: พยานพระยะโฮวาทำให้โยฮัน 13:34, 35 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
ที่ 4: เราต้องทำอย่างไรเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราติดตาม ‘ความชอบธรรมที่แท้จริง’? (จงเข้าใกล้ หน้า 158-160 ว. 1-7)
28 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: กิจการ 26-28 เพลงบท 29
ลักษณะการพูด: การตั้งคำถามและการให้เหตุผล (โรงเรียน หน้า 253 ว. 3-หน้า 254 ว. 2)
ที่ 1: พระธรรมกิจการ—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 254-256 ว. 32-40)
ที่ 2: กิจการ 26:1-18
ที่ 3: การประกาศข่าวดีเกี่ยวข้องอย่างไรกับความยุติธรรมของพระเจ้า? (จงเข้าใกล้ หน้า 160-161 ว. 8-11)
ที่ 4: เหตุผลที่พระยะโฮวาทรงอดกลั้นพระทัย
4 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: โรม 1-4 เพลงบท 170
ลักษณะการพูด: เหตุผลที่มีน้ำหนักยึดมั่นกับพระคำของพระเจ้า (โรงเรียน หน้า 255 ว. 1-หน้า 256 ว. 2)
ที่ 1: บทนำพระธรรมโรม (ทุกตอน หน้า 257-258 ว. 1-7)
ที่ 2: โรม 3:1-20
ที่ 3: ทูตสวรรค์ปกป้องและเสริมกำลังผู้รับใช้ของพระเจ้าอย่างไร?
ที่ 4: เราจะสำแดงความยุติธรรมของพระเจ้าในการปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 161-163 ว. 12-15)
11 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: โรม 5-8 เพลงบท 207
ลักษณะการพูด: สนับสนุนเหตุผลด้วยการหาพยานหลักฐานอื่นมายืนยัน (โรงเรียน หน้า 256 ว. 3-5)
ที่ 1: การเตรียมคำบรรยายสาธารณะ (โรงเรียน หน้า 52 ว. 1-หน้า 54 ว. 1)
ที่ 2: โรม 6:1-20
ที่ 3: ความชอบธรรมสามารถปกป้องเราอย่างไร?
ที่ 4: a ผู้ปกครองรับใช้ “เพื่อความยุติธรรม” (จงเข้าใกล้ หน้า 164-167 ว. 16-22)
18 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: โรม 9-12 เพลงบท 152
ลักษณะการพูด: การให้หลักฐานอย่างเพียงพอ (โรงเรียน หน้า 256 ว. 6-หน้า 257 ว. 3)
ที่ 1: พระธรรมโรม—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 261-262 ว. 20-25)
ที่ 2: โรม 9:1-18
ที่ 3: การซุบซิบและการแพร่ข่าวลือเป็นอันตรายอย่างไร?
ที่ 4: สติปัญญาของพระยะโฮวาถูกทดสอบอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 169-170 ว. 1-4)
25 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: โรม 13-16 เพลงบท 16
ลักษณะการพูด: การพยายามเข้าถึงหัวใจ (โรงเรียน หน้า 258 ว. 1-5)
การทบทวน
1 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: 1 โครินท์ 1-9 เพลงบท 199
ลักษณะการพูด: การดึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของผู้คนออกมา (โรงเรียน หน้า 259 ว. 1-3)
ที่ 1: บทนำพระธรรม 1 โครินท์ (ทุกตอน หน้า 262-263 ว. 1-7)
ที่ 2: 1 โครินท์ 4:1-17
ที่ 3: สติปัญญาของพระเจ้าคืออะไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 170-171 ว. 5-8)
ที่ 4: ความมั่งคั่งฝ่ายวัตถุเป็นหลักฐานแสดงถึงพระพรจากพระเจ้าไหม?
8 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: 1 โครินท์ 10-16 เพลงบท 35
ลักษณะการพูด: การกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกในทางที่ดี (โรงเรียน หน้า 259 ว. 4-หน้า 260 ว. 1)
ที่ 1: พระธรรม 1 โครินท์—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 266-267 ว. 23-26)
ที่ 2: 1 โครินท์ 13:1–14:6
ที่ 3: ผู้ปฏิบัติตามพระคำมีความสุขเพราะเหตุใด?
ที่ 4: สติปัญญาของพระเจ้าปรากฏชัดอย่างไรในร่างกายมนุษย์? (จงเข้าใกล้ หน้า 171-173 ว. 9-12)
15 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: 2 โครินท์ 1-7 เพลงบท 58
ลักษณะการพูด: การช่วยคนอื่น ๆ ให้ปลูกฝังความเกรงกลัวพระเจ้า (โรงเรียน หน้า 260 ว. 2-3)
ที่ 1: บทนำพระธรรม 2 โครินท์ (ทุกตอน หน้า 268 ว. 1-4)
ที่ 2: 2 โครินท์ 1:1-14
ที่ 3: สติปัญญาของพระเจ้าปรากฏชัดอย่างไรในอาณาจักรสัตว์? (จงเข้าใกล้ หน้า 173 ว. 13-14)
ที่ 4: ทำไมคริสเตียนแท้ชื่นชมยินดีเมื่อถูกข่มเหง?
22 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: 2 โครินท์ 8-13 เพลงบท 12
ลักษณะการพูด: การประพฤติของเราเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพระเจ้า (โรงเรียน หน้า 260 ว. 4-หน้า 261 ว. 1)
ที่ 1: พระธรรม 2 โครินท์—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 271 ว. 18-20)
ที่ 2: 2 โครินท์ 9:1-15
ที่ 3: เหตุผลที่คริสเตียนแท้ไม่เป็นส่วนของโลก
ที่ 4: สติปัญญาของพระเจ้าปรากฏชัดอย่างไรในเอกภพ? (จงเข้าใกล้ หน้า 175 ว. 15-16)
29 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: กาลาเทีย 1-6 เพลงบท 163
ลักษณะการพูด: การช่วยคนอื่นให้ทำการตรวจสอบ (โรงเรียน หน้า 261 ว. 2-4)
ที่ 1: บทนำพระธรรมกาลาเทีย และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 272-275 ว. 1-6, และ 14-18)
ที่ 2: กาลาเทีย 1:1-17
ที่ 3: พระยะโฮวา “ผู้ทรงสัพพัญญูแต่องค์เดียว” (จงเข้าใกล้ หน้า 176-177 ว. 17-20)
ที่ 4: ความรักสามารถเอาชนะความกลัวหน้ามนุษย์ได้อย่างไร?
6 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: เอเฟโซส์ 1-6 เพลงบท 99
ลักษณะการพูด: การสนับสนุนให้เชื่อฟังจากหัวใจ (โรงเรียน หน้า 262 ว. 1-4)
ที่ 1: บทนำพระธรรมเอเฟโซส์ และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 275-279 ว. 1-8, และ 16-19)
ที่ 2: เอเฟโซส์ 3:1-19
ที่ 3: การขอโทษไม่ใช่เครื่องหมายของความอ่อนแอ
ที่ 4: ทำไมแนวคิดเรื่องการลิขิตชีวิตไว้ล่วงหน้าจึงขัดกับสติปัญญาของพระเจ้า? (จงเข้าใกล้ หน้า 178 ว. 21-23)
13 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: ฟิลิปปอย 1–โกโลซาย 4 เพลงบท 123
ลักษณะการพูด: การร่วมงานกับพระยะโฮวาในการเข้าถึงหัวใจของผู้คน (โรงเรียน หน้า 262 ว. 5)
ที่ 1: บทนำพระธรรมฟิลิปปอย และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 279-282 ว. 1-7, และ 12-14)
ที่ 2: ฟิลิปปอย 3:1-16
ที่ 3: การที่พระเจ้าประทานพระคำเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงถึงสติปัญญาของพระองค์อย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 179-181 ว. 1-6)
ที่ 4: b พระธรรมโกโลซาย—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 285 ว. 12-14)
20 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: 1 เทสซาโลนิเก 1–2 เทสซาโลนิเก 3 เพลงบท 161
ลักษณะการพูด: การกะเวลาและแบ่งคำบรรยายอย่างเหมาะสม (โรงเรียน หน้า 263 ว. 1-หน้า 264 ว. 4)
ที่ 1: บทนำพระธรรม 1 และ 2 เทสซาโลนิเก และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 286-289 ว. 1-5, 13-15; หน้า 289-291 ว. 1-4, 10-11)
ที่ 2: 1 เทสซาโลนิเก 1:1–2:8
ที่ 3: ทำไมพระเจ้าใช้มนุษย์เขียนคัมภีร์ไบเบิล? (จงเข้าใกล้ หน้า 182-183 ว. 7-10)
ที่ 4: c พระธรรม 1 และ 2 ติโมเธียว—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 294-295 ว. 15-19; หน้า 298 ว. 10-12)
27 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: 1 ติโมเธียว 1–2 ติโมเธียว 4 เพลงบท 69
ลักษณะการพูด: การกระตุ้นเตือนอย่างบังเกิดผล (โรงเรียน หน้า 265 ว. 1-3)
การทบทวน
3 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: ทิทุส 1–ฟิเลโมน เพลงบท 149
ลักษณะการพูด: การกระตุ้นเตือนโดยอาศัยความรัก (โรงเรียน หน้า 266 ว. 1-4)
ที่ 1: บทนำพระธรรมทิทุส และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 299-301 ว. 1-4, 8-10)
ที่ 2: ทิทุส 1:1-16
ที่ 3: ทำไมคัมภีร์ไบเบิลเป็นหนังสือเกี่ยวกับผู้คน? (จงเข้าใกล้ หน้า 183-185 ว. 11-15)
ที่ 4: d พระธรรมฟิเลโมน—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 302-303 ว. 7-10)
10 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: ฮีบรู 1-8 เพลงบท 144
ลักษณะการพูด: การกระตุ้นเตือนที่อาศัยพระคัมภีร์ (โรงเรียน หน้า 266 ว. 5-หน้า 267 ว. 1)
ที่ 1: บทนำพระธรรมฮีบรู (ทุกตอน หน้า 303-305 ว. 1-9)
ที่ 2: ฮีบรู 3:1-19
ที่ 3: ทำไมคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้แจกแจงรายละเอียดทุกอย่าง? (จงเข้าใกล้ หน้า 185-186 ว. 16-19)
ที่ 4: ความแตกต่างระหว่างความถ่อมใจแท้และความถ่อมใจแบบเสแสร้ง
17 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: ฮีบรู 9-13 เพลงบท 28
ลักษณะการพูด: การกระตุ้นเตือนแบบที่พูดได้อย่างสะดวกใจ (โรงเรียน หน้า 267 ว. 2-3)
ที่ 1: พระธรรมฮีบรู—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 308-309 ว. 23-27)
ที่ 2: ฮีบรู 10:1-17
ที่ 3: คัมภีร์ไบเบิลเป็นหนังสือแห่งสติปัญญาที่ใช้ได้จริง (จงเข้าใกล้ หน้า 187-188 ว. 20-24)
ที่ 4: การให้อภัยส่งเสริมเอกภาพอย่างไร?
24 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: ยาโกโบ 1-5 เพลงบท 88
ลักษณะการพูด: เหตุผลที่การหนุนใจเป็นเรื่องสำคัญ (โรงเรียน หน้า 268 ว. 1-3)
ที่ 1: บทนำพระธรรมยาโกโบ และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 309-313 ว. 1-7, 15-17)
ที่ 2: ยาโกโบ 1:1-21
ที่ 3: วิธีเผย “ความลับอันศักดิ์สิทธิ์” แสดงถึงพระปัญญาของพระเจ้าอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 189-191 ว. 1-6)
ที่ 4: “ความเมตตาปรีดาในชัยชนะเหนือการพิพากษา” อย่างไร? (ยโก. 2:13)
1 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: 1 เปโตร 1–2 เปโตร 3 เพลงบท 18
ลักษณะการพูด: การเตือนให้นึกถึงสิ่งที่พระยะโฮวาเคยกระทำ (โรงเรียน หน้า 268 ว. 4-หน้า 269 ว. 1)
ที่ 1: บทนำพระธรรม 1 เปโตร และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 313-316 ว. 1-5, 11-13)
ที่ 2: 1 เปโตร 2:1-17
ที่ 3: เราเรียนรู้อะไรจาก “สัญญาไมตรีกับอับราฮาม”? (จงเข้าใกล้ หน้า 192 ว. 7-8)
ที่ 4: e พระธรรม 2 เปโตร—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 319 ว. 8-10)
8 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: 1 โยฮัน 1–ยูดา เพลงบท 50
ลักษณะการพูด: การแสดงให้เห็นวิธีที่พระยะโฮวาทรงช่วยประชาชนของพระองค์ (โรงเรียน หน้า 269 ว. 2-4)
ที่ 1: บทนำพระธรรม 1, 2, และ 3 โยฮัน และเหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 320-323 ว. 1-5, 11-13; หน้า 323-324 ว. 1-3, 5; หน้า 325-326 ว. 1-3, 5)
ที่ 2: 1 โยฮัน 4:1-16
ที่ 3: สัญญาไมตรีกับอิสราเอลมีบทบาทอะไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 192-193 ว. 9-11)
ที่ 4: f พระธรรมยูดา—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 328 ว. 8-10)
15 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: วิวรณ์ 1-6 เพลงบท 219
ลักษณะการพูด: การแสดงความชื่นชมยินดีสำหรับสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำอยู่ในขณะนี้ (โรงเรียน หน้า 270 ว. 1-หน้า 271 ว. 1)
ที่ 1: บทนำพระธรรมวิวรณ์ (ทุกตอน หน้า 329-330 ว. 1-6)
ที่ 2: วิวรณ์ 3:1-13
ที่ 3: สัญญาไมตรีเรื่องราชอาณาจักรกับดาวิดเผยให้เห็นอะไรบ้าง? (จงเข้าใกล้ หน้า 194 ว. 12-14)
ที่ 4: ทำไมความอดกลั้นพระทัยและความเมตตาของพระเจ้ามีขีดจำกัด?
22 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: วิวรณ์ 7-14 เพลงบท 21
ลักษณะการพูด: ได้รับประโยชน์เต็มที่จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า (โรงเรียน หน้า 5 ว. 1-หน้า 8 ว. 1)
ที่ 1: พระธรรมวิวรณ์—เหตุที่เป็นประโยชน์ (ทุกตอน หน้า 334-336 ว. 28-34)
ที่ 2: วิวรณ์ 8:1-13
ที่ 3: ความลับอันศักดิ์สิทธิ์เปิดเผยเมื่อไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 195 ว. 15-16)
ที่ 4: วลีที่ว่า “พระเจ้าก็ยังทรงเป็นใหญ่กว่าใจของเรา” หมายถึงอะไร? (1 โยฮัน 3:20)
29 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: วิวรณ์ 15-22 เพลงบท 60
ลักษณะการพูด: การอ่านอย่างถูกต้อง (โรงเรียน หน้า 83 ว. 1-หน้า 84 ว. 1)
การทบทวน
a มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น.
b มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น.
c มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น.
d มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น.
e มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น.
f มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น.