กำหนดการโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าสำหรับปี 2009
คำแนะนำ
ต่อไปนี้เป็นการจัดเตรียมสำหรับการดำเนินโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าระหว่างปี 2009.
แหล่งข้อมูล: คัมภีร์ไบเบิล, “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์” [ทุกตอน], จงเรียนจากครูผู้ยิ่งใหญ่ [จงเรียนจากครู], และจงเข้าใกล้พระยะโฮวา [จงเข้าใกล้].
โรงเรียนควรเริ่มตรงเวลาด้วยคำกล่าวต้อนรับ จากนั้นให้ดำเนินตามที่ชี้แจงข้างล่างนี้. หลังจากจบแต่ละส่วน ผู้ดูแลโรงเรียนจะแนะนำส่วนถัดไป.
จุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์: 10 นาที. สี่นาทีแรก ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้ที่มีความสามารถควรพิจารณาจุดต่าง ๆ ในพระคัมภีร์จากการอ่านคัมภีร์ไบเบิลประจำสัปดาห์. แต่เมื่อการอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์เริ่มด้วยบทแรกของหนังสือในพระคัมภีร์ ผู้บรรยายจะไม่ยกจุดต่าง ๆ จากพระคัมภีร์ขึ้นมาพิจารณา. ในกรณีเช่นนั้น เนื้อหาสำหรับสี่นาทีแรกควรยกจากหนังสือ “ทุกตอน.” ยกตัวอย่าง ในสัปดาห์ของวันที่ 5 มกราคมจะมีการพิจารณาห้าบทแรกของเยเนซิศ ผู้บรรยายควรเลือกจุดสำคัญสองสามจุดจากบทนำของพระธรรมเยเนซิศที่อยู่ในหนังสือ “ทุกตอน.” เขาควรนำเนื้อหานั้นมาประยุกต์ใช้ในแบบที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาคม. ไม่ว่าเป็นการพิจารณาการอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์หรือจุดต่าง ๆ จากหนังสือ “ทุกตอน” เป้าหมายหลักคือเพื่อช่วยผู้ฟังให้เข้าใจว่าเรื่องราวที่ได้อ่านนั้นมีคุณค่าเพราะเหตุใด และมีคุณค่าอย่างไร. ผู้บรรยายควรระมัดระวังที่จะไม่ใช้เวลาในส่วนแรกเกินสี่นาที. เขาต้องไม่ลืมว่าหกนาทีหลังจัดไว้ให้ผู้ฟังออกความเห็นสั้น ๆ 30 วินาทีหรือน้อยกว่านั้นเกี่ยวกับสิ่งที่เขาหยั่งรู้ค่าในการอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์. จากนั้น ผู้ดูแลโรงเรียนจะให้นักเรียนแยกย้ายไปยังห้องเรียนที่กำหนดไว้.
ส่วนมอบหมายที่ 1: 4 นาทีหรือน้อยกว่านั้น. ส่วนนี้เป็นการอ่านที่มอบหมายให้พี่น้องชาย. นักเรียนควรอ่านเรื่องที่ได้รับมอบหมายโดยไม่ต้องกล่าวคำนำหรือคำลงท้าย. ผู้ดูแลโรงเรียนจะสนใจเป็นพิเศษในการช่วยนักเรียนให้อ่านด้วยความเข้าใจ, คล่องแคล่ว, เน้นความหมายที่ถูกต้อง, มีท่วงทำนอง, เว้นวรรคตอนอย่างเหมาะสม, และเป็นธรรมชาติ.
ส่วนมอบหมายที่ 2: 5 นาที. ส่วนนี้จะมอบหมายให้พี่น้องหญิง. จะมีการกำหนดฉากให้นักเรียนหรือไม่ก็ให้เลือกเองจากรายการที่ปรากฏในหน้า 82 ของหนังสือการรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า. นักเรียนควรใช้หัวเรื่องที่ได้รับมอบหมายและเตรียมเรื่องให้เข้ากับแง่มุมหนึ่งของงานประกาศที่ตรงกับความเป็นจริงและนำไปใช้ได้ในเขตทำงานของประชาคม. หากไม่ได้บอกแหล่งข้อมูล นักเรียนจะต้องหาข้อมูลสำหรับส่วนนี้เองโดยค้นจากสรรพหนังสือของเรา. ผู้ดูแลโรงเรียนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อวิธีที่นักเรียนขยายเนื้อเรื่องและวิธีที่เธอช่วยเจ้าของบ้านให้หาเหตุผลจากพระคัมภีร์และช่วยให้เข้าใจจุดสำคัญที่นำเสนอ. ผู้ดูแลโรงเรียนจะมอบหมายให้มีผู้ช่วยคนหนึ่ง.
ส่วนมอบหมายที่ 3: 5 นาที. อาจมอบหมายส่วนนี้ให้พี่น้องชายหรือพี่น้องหญิง. นักเรียนควรขยายหัวเรื่องที่ได้รับมอบหมาย. หากไม่ได้บอกแหล่งข้อมูล นักเรียนจะต้องหาข้อมูลสำหรับส่วนนี้เองโดยค้นจากสรรพหนังสือของเรา. เมื่อมอบหมายให้พี่น้องชาย เขาจะนำเสนอส่วนนี้ในลักษณะของการบรรยายต่อผู้ฟังในหอประชุมราชอาณาจักร. เมื่อพี่น้องหญิงได้รับส่วนนี้ เธอควรนำเสนอตามคำชี้แนะที่ให้ไว้สำหรับส่วนมอบหมายที่ 2 เสมอ. โปรดสังเกตว่าหัวเรื่องที่มีเครื่องหมายดอกจัน (*) ควรมอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้นซึ่งจะนำเสนอในลักษณะคำบรรยาย และเมื่อไรก็ตามที่ทำได้ ควรมอบหมายส่วนนี้ให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
คำแนะนำ: 1-2 นาที. ผู้ดูแลโรงเรียนจะไม่ประกาศล่วงหน้าว่านักเรียนจะเอาใจใส่ลักษณะการพูดจุดใด. หลังจากจบส่วนมอบหมายที่ 1, 2, และ 3 แล้ว ผู้ดูแลโรงเรียนจะกล่าวถึงแง่มุมที่น่าชมเชยซึ่งเขาได้สังเกตเห็นจากการนำเสนอส่วนนั้น และมุ่งความสนใจไปยังเหตุผลเฉพาะเจาะจงที่ว่าทำไมแง่มุมที่มีการนำเสนอนั้นจึงใช้ได้ผลรวมทั้งอ้างถึงตำราโรงเรียนการรับใช้ บ่อย ๆ. หลังการประชุมหรือในเวลาอื่นอาจให้คำแนะนำที่เสริมสร้างเพิ่มเติมเป็นส่วนตัวตามความจำเป็นของนักเรียนแต่ละคน.
การกะเวลา: ทุกส่วนไม่ควรทำเกินเวลารวมทั้งความเห็นของผู้ให้คำแนะนำด้วย. เมื่อส่วนมอบหมายที่ 1-3 ทำเกินเวลา ควรบอกให้หยุดอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา. ถ้าพี่น้องชายที่ทำส่วนจุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์ทำเกินเวลา ควรให้คำแนะนำเขาเป็นส่วนตัว. ทุกคนควรรักษาเวลาให้ดี. ระเบียบวาระทั้งหมดใช้เวลา 30 นาที.
แบบฟอร์มคำแนะนำ: อยู่ในคู่มือโรงเรียนการรับใช้.
ผู้ช่วยให้คำแนะนำ: ถ้าสามารถหาได้ คณะผู้ปกครองอาจเลือกผู้ปกครองคนหนึ่งที่มีความสามารถให้ช่วยผู้ดูแลโรงเรียนเพื่อดูแลส่วนมอบหมายในฐานะผู้ช่วยให้คำแนะนำ. ถ้ามีผู้ปกครองหลายคนในประชาคม ก็อาจให้ผู้ปกครองที่มีคุณวุฒิผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่นี้ในแต่ละปี. ผู้ช่วยให้คำแนะนำมีหน้าที่ให้คำแนะนำเป็นส่วนตัวแก่พี่น้องที่เสนอจุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์ หากส่วนนั้นมีจุดที่ต้องได้รับคำแนะนำ. ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องให้คำแนะนำทุกครั้งเมื่อเพื่อนผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้ทำส่วนดังกล่าว.
การทบทวน: 20 นาที. ทุก ๆ สองเดือน ผู้ดูแลโรงเรียนจะนำการทบทวน. รายการนี้จะเริ่มด้วยจุดเด่นจากการอ่านพระคัมภีร์ตามที่แนะไว้ข้างต้น. การทบทวนจะอาศัยเนื้อหาที่พิจารณาในโรงเรียนตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมารวมทั้งเนื้อหาในสัปดาห์ที่มีการทบทวนด้วย. ถ้าประชาคมของคุณมีการประชุมหมวดหรือการเยี่ยมของผู้ดูแลหมวดในสัปดาห์ที่มีการทบทวน ก็ควรเลื่อนการทบทวนไปอีกหนึ่งสัปดาห์ และนำส่วนมอบหมายที่ 1-3 ของสัปดาห์ถัดไปมาใช้ในสัปดาห์นั้น. ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกำหนดการอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์หรือการเสนอจุดเด่นจากพระคัมภีร์.
กำหนดการ
5 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 1-5
ที่ 1: เยเนซิศ 3:1-15
ที่ 2: เหตุที่พระเยซูเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ (จงเรียนจากครู บท 1)
ที่ 3: อะไรคือสิ่งที่ไม่ไร้ประโยชน์? (1 โค. 15:58)
12 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 6-10
ที่ 1: เยเนซิศ 9:1-17
ที่ 2: สัญญาไมตรีใหม่ก่อให้เกิดผลอะไรบ้าง? (จงเข้าใกล้ หน้า 196-197 ว. 18-20)
ที่ 3: จดหมายจากพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรัก (จงเรียนจากครู บท 2)
19 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 11-16
ที่ 1: เยเนซิศ 14:1-16
ที่ 2: พระผู้สร้างสิ่งสารพัด (จงเรียนจากครู บท 3)
ที่ 3: พระยะโฮวาทรงนวดปั้นเราอย่างไร? (ยซา. 64:8)
26 มกราคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 17-20
ที่ 1: เยเนซิศ 17:1-17
ที่ 2: ความลับอันศักดิ์สิทธิ์แสดงให้เห็นสติปัญญาของพระเจ้าในทางใดบ้าง? (จงเข้าใกล้ หน้า 197-198 ว. 21-23)
ที่ 3: พระเจ้าทรงมีพระนาม (จงเรียนจากครู บท 4)
2 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 21-24
ที่ 1: เยเนซิศ 22:1-18
ที่ 2: “นี่คือบุตรของเรา” (จงเรียนจากครู บท 5)
ที่ 3: a วิธีที่เราเปิดใจให้กว้างเพื่อจะรักคนอื่น ๆ (2 โค. 6:11-13)
9 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 25-28
ที่ 1: เยเนซิศ 25:1-18
ที่ 2: ครูผู้ยิ่งใหญ่รับใช้ผู้อื่น (จงเรียนจากครู บท 6)
ที่ 3: เหตุใดเราแน่ใจได้ว่าพระยะโฮวาทรงถ่อมพระทัย? (จงเข้าใกล้ หน้า 199-200 ว. 1-3)
16 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 29-31
ที่ 1: เยเนซิศ 29:1-20
ที่ 2: เหตุใดเราควร “เลิกวิตกกังวล”? (มัด. 6:25)
ที่ 3: การเชื่อฟังป้องกันคุณไว้ (จงเรียนจากครู บท 7)
23 กุมภาพันธ์ การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 32-35
การทบทวน
2 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 36-39
ที่ 1: เยเนซิศ 39:1-16
ที่ 2: ผู้อื่นสูงส่งกว่าเรา (จงเรียนจากครู บท 8)
ที่ 3: เหตุใดความถ่อมจึงไม่ใช่ความอ่อนแอ? (จงเข้าใกล้ หน้า 200-201 ว. 4-5)
9 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 40-42
ที่ 1: เยเนซิศ 40:1-15
ที่ 2: เราต้องต้านทานการล่อลวง (จงเรียนจากครู บท 9)
ที่ 3: b จงระวังน้ำใจเอกเทศ!
16 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 43-46
ที่ 1: เยเนซิศ 44:1-17
ที่ 2: อำนาจของพระเยซูเหนือปีศาจ (จงเรียนจากครู บท 10)
ที่ 3: มีความสัมพันธ์กันอย่างไรระหว่างความอ่อนโยนกับสติปัญญา? (จงเข้าใกล้ หน้า 201-202 ว. 6-7)
23 มีนาคม การอ่านพระคัมภีร์: เยเนซิศ 47-50
ที่ 1: เยเนซิศ 48:1-16
ที่ 2: เราควรกลัวพญามารไหม?
ที่ 3: ความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ของพระเจ้า (จงเรียนจากครู บท 11)
30 มีนาคม: การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 1-6
ที่ 1: เอ็กโซโด 1:1-19
ที่ 2: พระเยซูสอนเราให้อธิษฐาน (จงเรียนจากครู บท 12)
ที่ 3: ทำไมเป็นเรื่องน่าทึ่งที่พระยะโฮวาเต็มพระทัยจะมอบหมายหน้าที่และรับฟัง? (จงเข้าใกล้ หน้า 202-203 ว. 8-10)
6 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 7-10
ที่ 1: เอ็กโซโด 9:1-19
ที่ 2: คนที่ได้มาเป็นสาวกของพระเยซู (จงเรียนจากครู บท 13)
ที่ 3: c เราจะทำให้กาลาเทีย 6:2 ประสานกับกาลาเทีย 6:5 ได้อย่างไร?
13 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 11-14
ที่ 1: เอ็กโซโด 12:21-36
ที่ 2: ทำไมเราควรให้อภัย? (จงเรียนจากครู บท 14)
ที่ 3: อับราฮามได้มาเข้าใจความถ่อมของพระยะโฮวาโดยวิธีใด? (จงเข้าใกล้ หน้า 203-204 ว. 11-12)
20 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 15-18
ที่ 1: เอ็กโซโด 15:1-19
ที่ 2: การอยู่ห่างจากการนมัสการเท็จเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง?
ที่ 3: บทเรียนเรื่องการแสดงความกรุณา (จงเรียนจากครู บท 15)
27 เมษายน การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 19-22
การทบทวน
4 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 23-26
ที่ 1: เอ็กโซโด 24:1-18
ที่ 2: อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง? (จงเรียนจากครู บท 16)
ที่ 3: พระยะโฮวาทรงมีเหตุผลไหม? (จงเข้าใกล้ หน้า 204-205 ว. 13-15)
11 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 27-29
ที่ 1: เอ็กโซโด 29:1-18
ที่ 2: วิธีที่จะมีความสุข (จงเรียนจากครู บท 17)
ที่ 3: d ความภักดีที่ไม่ถูกทางและอันตรายที่ตามมา
18 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 30-33
ที่ 1: เอ็กโซโด 31:1-18
ที่ 2: พระยะโฮวาทรงแสดงความมีเหตุผลอย่างไรเมื่อปฏิบัติต่อโลตและต่อชาวนีเนเวห์? (จงเข้าใกล้ หน้า 205-206 ว. 16-18)
ที่ 3: คุณไม่ลืมพูดขอบคุณใช่ไหม? (จงเรียนจากครู บท 18)
25 พฤษภาคม การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 34-37
ที่ 1: เอ็กโซโด 37:1-24
ที่ 2: ถูกไหมที่จะต่อสู้กัน? (จงเรียนจากครู บท 19)
ที่ 3: e การทำตามอำเภอใจคืออะไร และเหตุใดเราควรหลีกเลี่ยง?
1 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: เอ็กโซโด 38-40
ที่ 1: เอ็กโซโด 40:1-19
ที่ 2: คุณต้องการเป็นที่หนึ่งเสมอไหม? (จงเรียนจากครู บท 20)
ที่ 3: พระยะโฮวาทรงปฏิบัติต่อเราอย่างมีเหตุผลและด้วยความอ่อนโยนอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 206-208 ว. 19-21)
8 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 1-5
ที่ 1: เลวีติโก 4:1-15
ที่ 2: เราควรโอ้อวดไหม? (จงเรียนจากครู บท 21)
ที่ 3: f คริสเตียนควรใช้อำนาจอย่างไร?
15 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 6-9
ที่ 1: เลวีติโก 8:1-17
ที่ 2: พระเยซูได้สติปัญญาจากที่ไหน? (จงเข้าใกล้ หน้า 209-211)
ที่ 3: ทำไมเราไม่ควรโกหก? (จงเรียนจากครู บท 22)
22 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 10-13
ที่ 1: เลวีติโก 11:29-45
ที่ 2: เหตุที่ผู้คนเจ็บป่วย (จงเรียนจากครู บท 23)
ที่ 3: สาวกที่รับบัพติสมาแล้วได้รับพระพรอะไรบ้าง?
29 มิถุนายน การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 14-16
การทบทวน
6 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 17-20
ที่ 1: เลวีติโก 19:1-18
ที่ 2: ทำไมคำแนะนำของพระเยซูจึงใช้การได้เสมอ? (จงเข้าใกล้ หน้า 211-212 ว. 4-5)
ที่ 3: อย่าเป็นขโมย! (จงเรียนจากครู บท 24)
13 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 21-24
ที่ 1: เลวีติโก 22:17-33
ที่ 2: คนที่ทำชั่วจะเปลี่ยนแนวทางของตนได้ไหม? (จงเรียนจากครู บท 25)
ที่ 3: วิธีที่คริสเตียนแท้แสดงความห่วงใยต่อคนจน
20 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: เลวีติโก 25-27
ที่ 1: เลวีติโก 25:39-54
ที่ 2: ทำไมจึงยากที่จะทำดี? (จงเรียนจากครู บท 26)
ที่ 3: พระเยซูทรงให้คำแนะนำเช่นไรเพื่อเลิกวิตกกังวล? (จงเข้าใกล้ หน้า 212-213 ว. 6-8)
27 กรกฎาคม การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 1-3
ที่ 1: อาฤธโม 3:1-20
ที่ 2: เหตุใดเพื่อจะแสดงความอ่อนโยนจึงต้องควบคุมตนเอง?
ที่ 3: ใครคือพระเจ้าของคุณ? (จงเรียนจากครู บท 27)
3 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 4-6
ที่ 1: อาฤธโม 4:1-16
ที่ 2: จะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรเชื่อฟังใคร? (จงเรียนจากครู บท 28)
ที่ 3: พระเยซูทรงใช้อุทาหรณ์และคำถามอย่างมีทักษะอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 213-214 ว. 9-12)
10 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 7-9
ที่ 1: อาฤธโม 9:1-14
ที่ 2: งานเลี้ยงทุกอย่างเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าไหม? (จงเรียนจากครู บท 29)
ที่ 3: เราจะแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวาในทางใดได้บ้าง?
17 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 10-13
ที่ 1: อาฤธโม 13:17-33
ที่ 2: สิ่งที่ช่วยให้เอาชนะความกลัว (จงเรียนจากครู บท 30)
ที่ 3: อุปมาเรื่องเพื่อนบ้านชาวซะมาเรียสะท้อนให้เห็นสติปัญญาของพระเยซูอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 214-216 ว. 13-15)
24 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 14-16
ที่ 1: อาฤธโม 14:26-43
ที่ 2: การรักข้อกฎหมายของพระเจ้าหมายความเช่นไร? (เพลง. 119:97, ล.ม.)
ที่ 3: ที่ซึ่งจะพบการปลอบใจ (จงเรียนจากครู บท 31)
31 สิงหาคม การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 17-21
การทบทวน
7 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 22-25
ที่ 1: อาฤธโม 22:20-35
ที่ 2: วิธีที่พระเยซูได้รับการคุ้มครอง (จงเรียนจากครู บท 32)
ที่ 3: รูปแบบชีวิตของพระเยซูสะท้อนให้เห็นสติปัญญาอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 216-217 ว. 16-18)
14 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 26-29
ที่ 1: อาฤธโม 27:1-14
ที่ 2: การปลูกฝังแนวคิดคืออะไร และทำไมจึงสำคัญ? (เอเฟ. 6:4)
ที่ 3: พระเยซูปกป้องคุ้มครองเราได้ (จงเรียนจากครู บท 33)
21 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 30-32
ที่ 1: อาฤธโม 32:1-15
ที่ 2: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราตาย? (จงเรียนจากครู บท 34)
ที่ 3: เหตุใดเราควรเลียนแบบบุคลิกภาพของพระเยซู? (จงเข้าใกล้ หน้า 217-218 ว. 19-21)
28 กันยายน การอ่านพระคัมภีร์: อาฤธโม 33-36
ที่ 1: อาฤธโม 33:1-23
ที่ 2: เราจะเป็นขึ้นจากตายได้! (จงเรียนจากครู บท 35)
ที่ 3: ราชอาณาจักรของพระเจ้าเหนือกว่ารัฐบาลทั้งสิ้นของมนุษย์ในทางใดบ้าง?
5 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 1-3
ที่ 1: พระบัญญัติ 2:1-15
ที่ 2: เราเรียนรู้อะไรจากสติปัญญาของโซโลมอน? (จงเข้าใกล้ หน้า 219-220 ว. 1-3)
ที่ 3: ใครจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย? พวกเขาจะอยู่ที่ไหน? (จงเรียนจากครู บท 36)
12 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 4-6
ที่ 1: พระบัญญัติ 4:15-28
ที่ 2: การระลึกถึงพระยะโฮวาและพระบุตรของพระองค์ (จงเรียนจากครู บท 37)
ที่ 3: เมื่อไรที่สามารถพูดได้ว่ามีทรัพย์น้อยดีกว่า? (สุภา. 15:16)
19 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 7-10
ที่ 1: พระบัญญัติ 9:1-14
ที่ 2: ทำไมเราควรรักพระเยซู? (จงเรียนจากครู บท 38)
ที่ 3: มีข้อเรียกร้องอะไรบ้างเพื่อจะได้สติปัญญาจากพระเจ้า? (จงเข้าใกล้ หน้า 220-221 ว. 4-8)
26 ตุลาคม การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 11-13
การทบทวน
2 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 14-18
ที่ 1: พระบัญญัติ 15:1-15
ที่ 2: การเกรงกลัวพระเจ้าหมายรวมถึงอะไรบ้าง?
ที่ 3: พระเจ้าทรงระลึกถึงพระบุตร (จงเรียนจากครู บท 39)
9 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 19-22
ที่ 1: พระบัญญัติ 22:1-19
ที่ 2: วิธีที่จะทำให้พระเจ้ามีความสุข (จงเรียนจากครู บท 40)
ที่ 3: สติปัญญาจากพระเจ้าบริสุทธิ์และก่อให้เกิดสันติสุขอย่างไร? (จงเข้าใกล้ หน้า 221-223 ว. 9-11)
16 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 23-27
ที่ 1: พระบัญญัติ 25:1-16
ที่ 2: เด็ก ๆ ที่ทำให้พระเจ้ามีความสุข (จงเรียนจากครู บท 41)
ที่ 3: g สิ่งใดบ้างที่เราควรถือว่าศักดิ์สิทธิ์?
23 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 28-31
ที่ 1: พระบัญญัติ 30:1-14
ที่ 2: ทำไมเราต้องทำงาน? (จงเรียนจากครู บท 42)
ที่ 3: เหตุใดเราจึงพูดได้ว่าสติปัญญาจากพระเจ้ามีเหตุผลและพร้อมที่จะเชื่อฟัง? (จงเข้าใกล้ หน้า 223-224 ว. 12-14)
30 พฤศจิกายน การอ่านพระคัมภีร์: พระบัญญัติ 32-34
ที่ 1: พระบัญญัติ 32:1-21
ที่ 2: “วันใหญ่ของพระยะโฮวา” คืออะไร? (ซฟัน. 1:14)
ที่ 3: ใครคือพี่น้องชายหญิงของเรา? (จงเรียนจากครู บท 43)
7 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: ยะโฮซูอะ 1-5
ที่ 1: ยะโฮซูอะ 5:1-15
ที่ 2: เพื่อน ๆ ของเราควรรักพระเจ้า (จงเรียนจากครู บท 44)
ที่ 3: ราชอาณาจักรของพระเจ้าคืออะไร? และวิธีแสดงว่าเราต้องการราชอาณาจักรนั้น (จงเรียนจากครู บท 45)
14 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: ยะโฮซูอะ 6-8
ที่ 1: ยะโฮซูอะ 8:1-17
ที่ 2: มหาอุทกภัยทำลายโลก—จะเกิดขึ้นอีกไหม? (จงเรียนจากครู บท 46)
ที่ 3: เหตุใดท่านผู้ประกาศ 7:21, 22 จึงเป็นคำแนะนำที่ใช้ได้ผล?
21 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: ยะโฮซูอะ 9-11
ที่ 1: ยะโฮซูอะ 9:1-15
ที่ 2: เรารู้ได้อย่างไรว่าอาร์มาเก็ดดอนมาใกล้แล้ว? (จงเรียนจากครู บท 47)
ที่ 3: โลกใหม่อันสงบสุขของพระเจ้า—คุณจะอยู่ที่นั่นได้ (จงเรียนจากครู บท 48)
28 ธันวาคม การอ่านพระคัมภีร์: ยะโฮซูอะ 12-15
การทบทวน
[เชิงอรรถ]
a มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
b มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
c มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
d มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
e มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
f มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.
g มอบหมายให้พี่น้องชายเท่านั้น ถ้าเป็นได้มอบให้ผู้ปกครองหรือผู้ช่วยงานรับใช้.