งานของเราไม่ไร้ประโยชน์ (ฮีบรู 6:10)
(จากหนังสือประจำปี 2013 หน้า 113-115)
‘เดินขึ้นเขา’
รัฐฉิ่นอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 900 ถึง 1,800 เมตร มีภูเขาบางลูกที่สูงถึง 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล. ภูเขาหลายลูกปกคลุมด้วยป่าทึบที่เต็มไปด้วยต้นสักสูงใหญ่ ต้นสนที่สูงตระหง่าน ต้นโรโดเดนดรอนสีสันสดใส และกล้วยไม้ที่งดงาม. ภูมิประเทศเป็นป่าดิบที่กว้างใหญ่ซึ่งทำให้การเดินทางยากลำบาก. เมืองต่าง ๆ ในแถบนั้นเชื่อมโยงกันโดยถนนดินที่คดเคี้ยวซึ่งสัญจรลำบากมากเมื่อเฉอะแฉะ และมักถูกตัดขาดเนื่องจากดินถล่ม. หมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลหลายแห่งเข้าถึงได้โดยการเดินเท่านั้น. แต่อุปสรรคเหล่านี้ไม่ได้ขัดขวางผู้รับใช้ของพระยะโฮวาซึ่งตั้งใจนำข่าวดีไปถึงผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้.
เอเอทิต ซึ่งรับใช้กับสามีในงานเดินหมวดที่รัฐฉิ่น เล่าว่า “เนื่องจากเติบโตมาในแถบที่ราบลุ่มสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี ดิฉันจึงรู้สึกครั่นคร้ามเมื่อเห็นภูเขาที่สวยงามหลายลูกในรัฐฉิ่น. ดิฉันเดินขึ้นภูเขาลูกแรกอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อถึงยอดเขาก็เหนื่อยหอบจนล้มพับ. เมื่อเดินขึ้นเขาลงเขาอีกหลายลูกหลังจากนั้น ดิฉันก็หมดแรงจนคิดว่าตัวเองกำลังจะตายแล้ว. ในที่สุด ดิฉันก็ได้เรียนรู้วิธีเดินขึ้นเขาโดยค่อย ๆ เดินและออมแรงไว้. ไม่ช้า ดิฉันก็เดินได้ถึงวันละ 30 กิโลเมตรในการเดินทางซึ่งใช้เวลาหกวันหรือนานกว่านั้น.”
ตลอดหลายปี พี่น้องในรัฐฉิ่นใช้หลายวิธีในการเดินทาง เช่น ล่อ ม้า รถจักรยาน. และเมื่อไม่นานมานี้เองพวกเขาบางคนใช้รถจักรยานยนต์ รถบรรทุกโดยสาร และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ. แต่พี่น้องส่วนใหญ่ใช้การเดินเท้า. ตัวอย่างเช่น เพื่อจะไปถึงหมู่บ้านต่าง ๆ ที่อยู่รอบเมืองมะทูพี ไพโอเนียร์พิเศษสองคน คือ คยอ วิน กับ เดวิด ซามา ต้องเดินอย่างเหนื่อยอ่อนขึ้นเขาลงเขาเป็นระยะทางนับไม่ถ้วน. เพื่อจะเข้าร่วมการประชุมใหญ่ในฮาคา ซึ่งอยู่ไกลกว่า 270 กิโลเมตร พี่น้องในประชาคมมะทูพีต้องใช้เวลาเดินไปหกถึงแปดวัน และเดินกลับอีกหกถึงแปดวัน. ขณะที่เดิน พวกเขาร้องเพลงราชอาณาจักรไปด้วย และเสียงเพลงของพวกเขาดังก้องไปทั่วภูเขาที่งดงาม.
ในการเดินทางอันแสนเหนื่อยยากเช่นนั้น พี่น้องต้องเผชิญไม่เพียงสภาพอากาศที่เลวร้ายบนภูเขา แต่ยังต้องเจอฝูงยุงและแมลงที่น่าขนลุกทุกชนิดที่ไต่ยั้วเยี้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝน. มยินต์ ลวิน ซึ่งเป็นผู้ดูแลหมวด เล่าว่า “ขณะเดินผ่านป่า ผมเห็นทากดูดเลือดไต่ขึ้นมาบนขาผม. เมื่อผมดึงมันออก อีกสองตัวก็ไต่ขึ้นมา. ผมกระโดดขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ที่ล้มอยู่ แต่พวกทากก็เริ่มไต่ยั้วเยี้ยขึ้นมาบนขอนไม้. ด้วยความตกใจกลัว ผมวิ่งเตลิดเปิดเปิงออกจากป่า. ในที่สุด เมื่อผมมาถึงถนนก็เห็นว่ามีทากเกาะอยู่เต็มไปหมด.”
อย่างไรก็ดี เหล่านักเดินทางในรัฐฉิ่นไม่เพียงกล้าผจญกับพวกทากเท่านั้น แต่ยังกล้าผจญกับหมูป่า หมี เสือดาว และเสือโคร่งด้วย. และตามที่กล่าวไว้ในหนังสืออ้างอิงบางเล่ม เมียนมาร์มีงูพิษชนิดต่าง ๆ มากกว่าประเทศใด ๆ ในโลก! เมื่อเดินเขาไปเยี่ยมประชาคมต่าง ๆ ในรัฐฉิ่น ผู้ดูแลภาคที่ชื่อกุมจา นอว์ กับแนน ลู ภรรยาของเขาใช้วิธีก่อกองไฟไว้รอบ ๆ ในตอนกลางคืนเพื่อกันสัตว์ป่าไม่ให้เข้ามาใกล้!
ผู้เผยแพร่ข่าวดีที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเหล่านี้ได้ละมรดกที่ยั่งยืนไว้. บราเดอร์มอริซ ราช กล่าวว่า “พวกเขารับใช้พระยะโฮวาอย่างสุดกำลัง. และแม้แต่เมื่อออกจากรัฐฉิ่นไปแล้ว พวกเขาก็ยังพร้อมจะกลับมาอีก. ความพยายามของพวกเขาทำให้พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญอย่างแท้จริง!” ในปัจจุบัน แม้ว่ารัฐฉิ่นเป็นภูมิภาคที่มีประชากรอยู่เบาบาง แต่ก็มีประชาคมคริสเตียนเจ็ดประชาคมและมีกลุ่มโดดเดี่ยวหลายกลุ่ม.