แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 13-19 มกราคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | ปฐมกาล 3-5
“ผลเสียหายร้ายแรงของการโกหกครั้งแรก”
(ปฐมกาล 3:15-19) เราจะให้เจ้ากับผู้หญิงเป็นศัตรูกัน และให้ลูกหลานของเจ้ากับลูกหลานของเธอเป็นศัตรูกัน เขาจะบดขยี้หัวเจ้าและเจ้าจะทำให้ส้นเท้าเขาฟกช้ำ” 16 พระองค์พูดกับผู้หญิงว่า “เราจะให้เจ้ามีความลำบากมากขึ้นเมื่อเจ้าท้อง เจ้าจะคลอดลูกด้วยความเจ็บปวด เจ้าจะต้องคอยพึ่งสามี และเขาจะใช้อำนาจกับเจ้า” 17 พระองค์ก็พูดกับอาดัมว่า “เพราะเจ้าฟังภรรยาและกินผลไม้จากต้นที่เราสั่งว่า ‘ห้ามกิน’ เจ้าจึงทำให้แผ่นดินถูกสาปแช่ง เจ้าจะหากินบนแผ่นดินด้วยความยากลำบากไปตลอดชีวิต 18 จะมีต้นหนามและวัชพืชงอกขึ้นมา และเจ้าจะกินพืชที่งอกขึ้นบนแผ่นดิน 19 เจ้าจะหากินจนเหงื่อไหลโซมจนกว่าจะกลับเป็นดิน เพราะเจ้าถูกสร้างจากดิน เจ้าเกิดจากดิน เจ้าจะต้องกลับเป็นดินอีก”
it-2-E น. 186
เจ็บท้องคลอด
เมื่อพูดถึงความทุกข์ทรมานที่มาพร้อมกับการคลอดลูก พระเจ้าบอกกับเอวาผู้หญิงคนแรกหลังจากที่เธอทำบาปว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอคลอดลูก ถ้าเธอเชื่อฟังพระเจ้าก็จะอวยพรเธอต่อไปและการคลอดลูกก็จะมีความยินดีมากมายเพราะ “พรจากพระยะโฮวาทำให้มั่งคั่ง และจะไม่ทำให้ปวดร้าวใจเลย” (สภษ 10:22) แต่ตอนนี้ ความเจ็บปวดตอนคลอดลูกเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ การทำงานของร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แบบจะทำให้เกิดความเจ็บปวด เหมือนที่พระเจ้าบอกไว้ในปฐมกาล 3:16 ว่า “เราจะให้เจ้ามีความลำบากมากขึ้นเมื่อเจ้าท้อง เจ้าจะคลอดลูกด้วยความเจ็บปวด” (นี่ก็เหมือนกับหลาย ๆ ครั้งที่บอกว่าพระเจ้าเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น แต่จริง ๆ แล้วพระเจ้าแค่ยอมให้เกิดขึ้น)
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
(ปฐมกาล 4:23, 24) ลาเมคพูดเป็นบทกวีกับอาดาห์และศิลลาห์ภรรยาของตัวเองว่า “ภรรยาทั้งสองของลาเมค ฟังให้ดี ตั้งใจฟังที่ฉันพูด ฉันได้ฆ่าชายคนหนึ่งที่ทำร้ายฉัน คือคนหนุ่มที่ทุบตีฉัน 24 ถ้าคนที่ฆ่าคาอินต้องรับโทษหนักเป็น 7 เท่า คนที่ฆ่าลาเมคก็ต้องรับโทษเป็น 77 เท่า”
it-2-E น. 192 ว. 5
ลาเมค
บทกวีที่ลาเมคแต่งให้พวกภรรยาของเขา (ปฐก 4:23, 24) สะท้อนถึงความรุนแรงที่มีในสมัยนั้น บทกวีของลาเมคบอกว่า “ภรรยาทั้งสองของลาเมค ฟังให้ดี ตั้งใจฟังที่ฉันพูด ฉันได้ฆ่าชายคนหนึ่งที่ทำร้ายฉัน คือคนหนุ่มที่ทุบตีฉัน ถ้าคนที่ฆ่าคาอินต้องรับโทษหนักเป็น 7 เท่า คนที่ฆ่าลาเมคก็ต้องรับโทษเป็น 77 เท่า” เห็นได้ชัดว่าลาเมคพูดแบบนี้เพื่อป้องกันตัวเขาเอง เขาแก้ตัวว่าเขาไม่ได้เจตนาฆ่าคนเหมือนที่คาอินทำ ลาเมคอ้างว่าการที่เขาฆ่าผู้ชายคนหนึ่งที่ทุบตีและทำร้ายเขานั้นเป็นการป้องกันตัว ดังนั้น บทกวีของลาเมคเป็นข้ออ้างเพื่อป้องกันใครก็ตามที่อยากแก้แค้นเขาแทนคนที่ตาย
วันที่ 27 มกราคม–2 กุมภาพันธ์
(ปฐมกาล 11:9) เมืองนั้นจึงถูกเรียกว่าบาเบล เพราะที่เมืองนั้น พระยะโฮวาทำให้ภาษาของคนทั้งโลกยุ่งเหยิง และพระยะโฮวาทำให้คนจากเมืองนั้นกระจัดกระจายไปทั่วโลก
it-2-E น. 472
ชาติต่าง ๆ
พอถึงตอนนั้น ความแตกต่างด้านภาษาได้ทำให้ผู้คนแบ่งแยกกัน แต่ละกลุ่มภาษาก็สร้างวัฒนธรรม ศิลปะ ธรรมเนียม ลักษณะนิสัย และศาสนาของตัวเองขึ้น (ลนต 18:3) เนื่องจากแยกตัวจากพระเจ้า ผู้คนมากมายจึงทำรูปพระต่าง ๆ ตามตำนานของพวกเขาขึ้นมา—ฉธบ 12:30; 2พก 17:29, 33