แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 4-10 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | ปฐมกาล 36-37
“โยเซฟกลายเป็นเหยื่อของความอิจฉา”
(ปฐมกาล 36:1) นี่เป็นบันทึกประวัติของเอซาวซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่าเอโดม
it-1-E น. 678
เอโดม
(เอโดม) [แดง], ชาวเอโดม
เอโดมเป็นอีกชื่อหนึ่งของเอซาว พี่ชายฝาแฝดของยาโคบ (ปฐก 36:1) ที่เรียกเอซาวอย่างนี้เพราะเขาขายสิทธิลูกคนโตเพื่อแลกกับซุปแดง (ต้มถั่วเลนทิล) (ปฐก 25:30-34) และเอซาวก็บังเอิญเกิดมามีขนสีแดงขึ้นอยู่เต็มตัว (ปฐก 25:25) นอกจากนั้นแผ่นดินที่เขาและลูกหลานจะไปอาศัยอยู่ก็เป็นสีแดงด้วย
(ปฐมกาล 37:29-32) หลังจากนั้น พอรูเบนกลับมาที่บ่อน้ำแล้วเห็นว่าโยเซฟไม่อยู่ในบ่อแล้ว เขาก็ฉีกเสื้อที่ใส่อยู่ด้วยความเสียใจ 30 เขากลับมาหาน้อง ๆ และตะโกนว่า “เด็กนั่นหายไปแล้ว! ทำยังไงดี?” 31 พวกเขาเลยฆ่าแพะตัวผู้ตัวหนึ่ง แล้วเอาเสื้อยาวของโยเซฟจุ่มในเลือดของมัน 32 พวกเขาใช้คนเอาเสื้อยาวตัวพิเศษนั้นไปให้พ่อดูและให้บอกว่า “พวกเราพบเสื้อตัวนี้ ลองดูสิครับว่าเป็นเสื้อยาวของลูกชายคุณหรือเปล่า”
it-1-E น. 561-562
การกักขัง, พันธะหน้าที่ในการดูแล
เมื่อคนเลี้ยงแกะหรือคนเลี้ยงสัตว์บอกว่าจะดูแลสัตว์ เขาก็กำลังแสดงว่าเขายอมรับพันธะหน้าที่ตามกฎหมายเรื่องการดูแลสัตว์ เขายืนยันกับเจ้าของสัตว์ว่าจะดูแลสัตว์อย่างดีและไม่ให้ถูกขโมย ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องชดใช้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณี เพราะกฎหมายนี้ไม่ครอบคลุมสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้ เช่น การถูกสัตว์ป่าทำร้าย แต่เพื่อจะไม่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น คนเลี้ยงต้องให้หลักฐานกับเจ้าของสัตว์ เช่น ซากสัตว์ เมื่อเจ้าของตรวจดูหลักฐานแล้ว เขาก็จะไม่เอาเรื่องคนเลี้ยงที่ไม่ได้ทำผิด
หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับการมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สิน รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น พี่ชายคนโตมีพันธะหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลน้อง ๆ เราเลยเข้าใจได้ว่าทำไมรูเบนที่เป็นพี่ชายคนโตถึงเป็นห่วงชีวิตของโยเซฟ ตามที่บอกในปฐมกาล 37:18-30 เมื่อพี่ชายคนอื่น ๆ ชวนกันฆ่าโยเซฟ “รูเบนพูดว่า ‘อย่าไปฆ่ามันเลย . . . อย่าไปฆ่ามัน . . . ไม่ต้องไปทำร้ายมัน’ รูเบนพูดอย่างนี้เพราะตั้งใจจะช่วยโยเซฟให้พ้นจากเงื้อมมือพวกเขา จะได้พาโยเซฟกลับไปหาพ่อ” เมื่อรูเบนรู้ว่าโยเซฟหายไปและรู้ว่าตัวเองอาจต้องรับผิดชอบ เขากังวลมากจน “ฉีกเสื้อที่ใส่อยู่ด้วยความเสียใจ” แล้วตะโกนว่า “เด็กนั่นหายไปแล้ว! ทำยังไงดี?” เพื่อจะไม่ต้องรับผิดชอบ พวกพี่ชายของโยเซฟจึงสร้างหลักฐานปลอมเพื่อให้เข้าใจว่าโยเซฟถูกสัตว์ป่าฆ่าตาย พวกเขาเอาเสื้อยาวของโยเซฟจุ่มในเลือดแพะ แล้วเอาไปให้ยาโคบพ่อของพวกเขาตัดสิน พอยาโคบตรวจดูเสื้อของโยเซฟที่เปื้อนเลือดแพะแล้ว เขาก็ตัดสินให้รูเบนพ้นผิดโดยสรุปว่าโยเซฟถูกฆ่า—ปฐก 37:31-33
วันที่ 11-17 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | ปฐมกาล 38-39
“พระยะโฮวาไม่เคยทิ้งโยเซฟ”
(ปฐมกาล 38:9, 10) แต่โอนันรู้ว่าลูกที่เกิดมาจะไม่ได้เป็นลูกของตัวเอง ดังนั้น ตอนที่เขามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาพี่ชาย เขาก็ให้น้ำอสุจิตกลงที่พื้น จะได้ไม่ต้องมีลูกให้พี่ชาย 10 พระยะโฮวาเห็นว่าสิ่งที่โอนันทำนั้นเป็นเรื่องที่ชั่วช้า พระองค์จึงประหารชีวิตเขาด้วย
it-2-E น. 555
โอนัน
(โอนัน) [ความหมายตามรากศัพท์ คือ “แหล่งกำเนิดพลังงาน พลังงานมหาศาล”]
ลูกชายคนที่สองของยูดาห์ที่เกิดจากลูกสาวของชูอาชาวคานาอัน (ปฐก 38:2-4; 1พศ 2:3) เนื่องจากเอร์พี่ชายของโอนันไม่มีลูกและถูกพระยะโฮวาประหารเพราะทำผิด ยูดาห์เลยบอกให้โอนันรับทามาร์ภรรยาม่ายของเอร์มาเป็นภรรยา ลูกชายที่เกิดมาจะไม่ใช่ผู้สืบตระกูลของโอนัน และสิทธิลูกคนโตจะตกเป็นของลูกชายคนนี้ในฐานะทายาทของเอร์ แต่ถ้าโอนันไม่มีลูกกับทามาร์ เขาก็จะเป็นคนได้รับสิทธิลูกคนโต เมื่อโอนันมีเพศสัมพันธ์กับทามาร์ เขา “ให้น้ำอสุจิตกลงที่พื้น” แทนที่จะให้อยู่ในตัวเธอ สิ่งที่เขาทำไม่ใช่การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ท้องเรื่องบอกว่า “ตอนที่เขามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาพี่ชาย” เขาทำน้ำอสุจิตก นั่นคือการ “หลั่งภายนอก” เห็นได้ชัดว่าโอนันตั้งใจไม่หลั่งน้ำอสุจิภายในตัวทามาร์—ปฐก 38:6-10; 46:12; กดว 26:19
วันที่ 25-31 พฤษภาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | ปฐมกาล 42-43
“โยเซฟควบคุมตัวเองอย่างมาก”
(ปฐมกาล 42:21, 22) พวกเขาพูดกันว่า “นี่คงเป็นเพราะพวกเราได้ทำผิดต่อน้องแน่ ๆ ตอนที่เขาอ้อนวอนขอให้เราสงสารเขานั้นพวกเราเห็นแล้วว่าเขาเจ็บปวดใจแค่ไหน แต่พวกเราก็ไม่ฟังเขาเลย พวกเราถึงได้มาทุกข์ลำบากอย่างนี้” 22 รูเบนพูดกับน้อง ๆ ว่า “เห็นไหม พี่บอกแล้วว่า ‘อย่าทำร้ายน้องเลย’ แต่ก็ไม่มีใครฟังพี่ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องชดใช้ความผิดที่ทำให้น้องตายแล้ว”
it-2-E น. 108 ว. 4
โยเซฟ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกพี่ชายของโยเซฟเริ่มคิดว่าพระเจ้าลงโทษที่ขายโยเซฟไปเป็นทาสเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่โยเซฟอยู่ต่อหน้าพวกพี่ชาย พวกเขาจำโยเซฟไม่ได้และคุยกันถึงความผิดที่เคยทำเอาไว้ โยเซฟได้ยินคำพูดของพวกพี่ชายที่แสดงว่ากลับใจ เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวจนต้องออกไปร้องไห้ พอกลับเข้ามา เขาจับสิเมโอนมัดไว้จนกว่าพวกพี่ชายจะกลับมาพร้อมกับน้องชายคนเล็ก—ปฐก 42:21-24
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
(ปฐมกาล 42:22) รูเบนพูดกับน้อง ๆ ว่า “เห็นไหม พี่บอกแล้วว่า ‘อย่าทำร้ายน้องเลย’ แต่ก็ไม่มีใครฟังพี่ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องชดใช้ความผิดที่ทำให้น้องตายแล้ว”
(ปฐมกาล 42:37) แต่รูเบนบอกพ่อว่า “ผมจะเป็นคนดูแลเบนยามินเอง ผมจะพาเขากลับมาหาพ่อให้ได้ ถ้าผมพาเขากลับมาไม่ได้ พ่อก็เอาชีวิตลูกชายสองคนของผมไปได้เลย”
it-2-E น. 795
รูเบน
เราเห็นคุณลักษณะที่ดีบางอย่างของรูเบนตอนที่เขาโน้มน้าวน้องชายทั้ง 9 คนให้โยนโยเซฟลงในบ่อที่ไม่มีน้ำแทนที่จะฆ่าให้ตาย และเขาตั้งใจกลับมาช่วยโยเซฟจากบ่อโดยไม่บอกใคร (ปฐก 37:18-30) มากกว่า 20 ปีต่อมา เมื่อพวกน้องชายคุยกันว่า การที่พวกเขาถูกกล่าวหาว่ามาสอดแนมที่อียิปต์เป็นเพราะเคยทำไม่ดีไว้กับโยเซฟ รูเบนบอกน้อง ๆ ว่าตัวเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนั้นเลย (ปฐก 42:9-14, 21, 22) และอีกครั้ง ตอนที่ยาโคบไม่ให้เบนยามินเดินทางไปกับพวกพี่ ๆ ในการไปอียิปต์ครั้งที่ 2 รูเบนก็เป็นคนบอกยาโคบว่า “ผมจะพา [เบนยามิน] กลับมาหาพ่อให้ได้ ถ้าผมพาเขากลับมาไม่ได้ พ่อก็เอาชีวิตลูกชายสองคนของผมไปได้เลย”—ปฐก 42:37