ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต90 8/11 น. 18-21
  • การสืบหาสังคมในจินตนาการ

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • การสืบหาสังคมในจินตนาการ
  • ตื่นเถิด! 1990
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • สังคม​ใน​จินตนาการ​ของ​มาร์กซ์​และ​มอร์
  • เส้น​ทาง​จาก​ระบอบ​ทุน​นิยม​สู่​ระบอบ​สังคม​ใน​จินตนาการ
  • ยูโตเปีย​โดย​การ​ปฏิวัติ​หรือ​การ​วิวัฒน์?
  • ระบอบ​คอมมิวนิสต์​นำ​ศาสนา​ไป​ใช้​อีก​ครั้ง
  • “กลาสนอสต์” และ “เปเรสตรอยกา”
  • ศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ ไหม?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1991
  • ตอนที่ 19: ศตวรรษที่ 17 ถึง 19 คริสต์ศาสนจักรดิ้นรนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
    ตื่นเถิด! 1990
  • ตอนที่ 4 การปฏิวัติอุตสาหกรรม—นำไปสู่อะไร?
    ตื่นเถิด! 1992
  • ‘และกำแพงก็พังลงมา’
    ตื่นเถิด! 1991
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1990
ต90 8/11 น. 18-21

การ​ปกครอง​ของ​มนุษย์​นำ​ขึ้น​ชั่ง​แล้ว

การ​สืบ​หา​สังคม​ใน​จินตนาการ

สังคม​นิยม: ระบบ​สังคม​ที่​สนับสนุน​กรรมสิทธิ์​ของ​รัฐ​ใน​ทรัพย์​สิน​และ​ควบคุม​วิธี​การ​ผลิต​ซึ่ง​พวก​คอมมิวนิสต์​มอง​ดู​ว่า​เป็น​สถานะ​ที่​อยู่​กึ่งกลาง​ระหว่าง​ระบอบ​ทุน​นิยม​กับ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์; คอมมิวนิสต์: ระบบ​สังคม​ที่​สนับสนุน​การ​ไม่​มี​ชน​ชั้น การ​มี​กรรมสิทธิ์​ร่วม​กัน​ใน​เครื่อง​มือ​การ​ผลิต​และ​ปัจจัย​ใน​การ​ยัง​ชีพ และ​การ​แบ่ง​สัน​ปัน​ส่วน​สินค้า​ทาง​เศรษฐกิจ​อย่าง​ยุติธรรม.

เทพนิยาย​กรีก​มี​เรื่อง​เล่า​ว่า​พระเจ้า​แผ่นดิน​กรีก​องค์​หนึ่ง​ชื่อ​โครนุส ซึ่ง​ใน​รัชกาล​ของ​เขา​นั้น​ประเทศ​กรีซ​ได้​ประสบ​ยุค​อัน​รุ่ง​โรจน์. หนังสือ ดิกชันนารี ออฟ เดอะ ฮิสตอรี ออฟ ไอเดียส์ อธิบาย​ถึง​ยุค​นั้น​ว่า “ทุก​คน​ได้​มี​ส่วน​ใน​ทรัพย์​สิน​ร่วม​กัน​อย่าง​ยุติธรรม ทรัพย์​สิน​ส่วน​ตัว​ไม่​มี และ​สันติภาพ​และ​ความ​สงบ​ปก​คลุม​ไป​ทั่ว​ไม่​มี​อะไร​รบกวน.” ปรากฏ​ชัด​ว่า จาก​การ​คร่ำ​ครวญ​ถึง​ยุค​อัน​รุ่ง​โรจน์​ที่​สูญ​ไป​แล้ว​นี้ หนังสือ​เล่ม​เดียว​กัน​เสริม​ว่า “ร่องรอย​แรก​ของ​ระบอบ​สังคม​นิยม​ก็​ปรากฏ​ขึ้น.”

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ยัง​ไม่​ทัน​ถึง​ตอน​ต้น​ทศวรรษ​ปี 1850 ระบอบ​สังคม​นิยม​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ฐานะ​เป็น​ขบวนการ​ทาง​การ​เมือง​สมัย​ใหม่. ระบอบ​นี้​มี​ผู้​พร้อม​จะ​รับ​เอา​อยู่​แล้ว โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ประเทศ​ฝรั่งเศส ซึ่ง​การ​ปฏิวัติ​ฝรั่งเศส​ได้​สั่น​สะเทือน​แนว​ความ​คิด​แบบ​ประเพณี​นิยม​อย่าง​รุนแรง​ที​เดียว. เช่น​เดียว​กับ​ประเทศ​อื่น ๆ ใน​ยุโรป การ​ปฏิวัติ​อุตสาหกรรม​ได้​ก่อ​ให้​เกิด​ปัญหา​อัน​ขมขื่น​ทาง​สังคม. ประชาชน​พร้อม​อยู่​แล้ว​สำหรับ​แนว​ความ​คิด​เรื่อง​กรรมสิทธิ์​ส่วน​รวม​ใน​ทรัพยากร แทน​ที่​จะ​เป็น​โดย​ส่วน​ตัว นั้น​ย่อม​ดี​กว่า​ที่​จะ​ทำ​ให้​มวลชน​สามารถ​มี​ส่วน​ใน​ผล​ของ​แรงงาน​ร่วม​กัน​อย่าง​ยุติธรรม.

ระบอบ​สังคม​นิยม​ไม่​ใช่​แนว​ความ​คิด​ใหม่. นัก​ปราชญ์​ชาว​กรีก​เช่น​อาริสโตเติล​และ​พลา​โต​เคย​เขียน​ไว้​แล้ว​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​นี้. ต่อ​มา​ใน​ช่วง​ของ​การ​ปฏิรูป​ลัทธิ​โปรเตสแตนต์​เมื่อ​ศตวรรษ​ที่ 16 โทมัส มุนต์เซอร์ บาทหลวง​คาทอลิก​หัวรุนแรง​ชาว​เยอรมัน ได้​เรียก​ร้อง​ให้​มี​สังคม​ที่​ไม่​มี​การ​แบ่ง​ชน​ชั้น. แต่​ความ​คิด​เห็น​ของ​เขา​ได้​รับ​การ​โต้​แย้ง โดย​เฉพาะ​ที่​เขา​เรียก​ร้อง​ให้​ปฏิวัติ​หาก​มี​ความ​จำเป็น​เพื่อ​จะ​บรรลุ​เป้าหมาย​นี้. ใน​ศตวรรษ​ที่ 19 ชาว​อังกฤษ​ชื่อ โรเบิร์ต โอเวน ชาว​ฝรั่งเศส ชื่อ​เอติแอนน์ คาเบต์ กับ ปิแอร์ โจเซฟ พรูดอง และ​นัก​ปฏิรูป​สังคม​อีก​จำนวน​หนึ่ง มี​นัก​เทศน์​นัก​บวช​ที่​ทรง​อิทธิพล​รวม​อยู่​ด้วย ได้​สอน​ว่า​ระบอบ​สังคม​นิยม​ก็​คือ​ศาสนา​คริสเตียน​ใน​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​นั่น​เอง.

สังคม​ใน​จินตนาการ​ของ​มาร์กซ์​และ​มอร์

หนังสือ​อ้างอิง​ที่​เอ่ย​ไว้​ข้าง​ต้น​กล่าว​ว่า “ไม่​มี​สัก​คน​ใน​พวก​ผู้​ซึ่ง​พูด​แทน​ลัทธิ​สังคม​นิยม​เหล่า​นี้​จะ​ก่อ​ผล​กระทบ​เทียบเท่า​กับ​อิทธิพล​ของ​คาร์ล มาร์กซ์ ผู้​ซึ่ง​ข้อ​เขียน​ของ​เขา​ได้​กลาย​มา​เป็น​มาตรฐาน​การ​คิด​และ​การ​กระทำ​ของ​นัก​สังคม​นิยม.”a มาร์กซ์​สอน​ว่า​โดย​อาศัย​การ​ต่อ​สู้​เรื่อง​ชน​ชั้น ประวัติศาสตร์​ได้​ก้าว​ไป​ที่​ละ​ขั้น ๆ ครั้น​มี​การ​ค้น​พบ​ระบอบ​ทาง​การ​เมือง​ใน​อุดมการณ์ ประวัติศาสตร์​ในแง่​คิด​นี้​ก็​จะ​ยุติ​ลง. ระบอบ​ใน​อุดมการณ์​นั้น​จะ​แก้ไข​ปัญหา​ทั้ง​หลาย​ของ​สังคม​ต่าง ๆ ที่​อยู่​ก่อน​หน้า​นี้. ทุก​คน​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ด้วย​สันติ​สุข เสรีภาพ​และ​เจริญ​รุ่งเรือง โดย​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​รัฐบาล​หรือ​กำลัง​ทหาร.

แนว​ความ​คิด​นี้​ฟัง​ดู​คล้าย​กับ​สิ่ง​ที่ เซอร์ โทมัส มอร์ นัก​การ​เมือง​ชาว​อังกฤษ​ได้​อธิบาย​ไว้​ใน​ปี 1516 ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ชื่อ​ยูโตเปีย. คำ​นี้ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ภาษา​กรีก​บัญญัติ​ศัพท์​ขึ้น​โดย​มอร์ หมาย​ความ​ว่า “สถาน​ที่​ซึ่ง​ไม่​มี​ตัว​ตน” (โอว–โทโปส) และ​เป็น​ไป​ได้​ที่​อาจ​มี​ความ​หมาย​อีก​นัย​หนึ่ง​ว่า “สถาน​ที่​ดี” ตาม​การ​ออก​เสียง​ที่​คล้าย​กัน​คือ​อูว–โทโปส. ยูโตเปีย​ที่​มอร์​เขียน​ถึง​นั้น​เป็น​ประเทศ​ใน​จินตนาการ (สถาน​ที่​ซึ่ง​ไม่​มี​ตัว​ตน) แต่​กระนั้น​ก็​เป็น​ประเทศ​ใน​อุดมคติ (สถาน​ที่​ดี). ดัง​นั้น “ยูโตเปีย” จึง​มี​ความ​หมาย​ว่า “สถาน​ที่​แห่ง​ความ​สมบูรณ์​พร้อม​ใน​อุดมคติ​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ด้าน​กฎหมาย รัฐบาล และ​สภาพ​สังคม.” หนังสือ​ของ​มอร์​เป็น​หนังสือ​ที่​ฟ้อง​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​สภาพ​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​ซึ่ง​มี​อยู่​แพร่​หลาย​ใน​ยุโรป​สมัย​ของ​เขา​ด้อย​กว่า​สภาพ​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​ใน​อุดมคติ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ประเทศ​อังกฤษ และ​ต่อ​มา​สภาพ​เช่น​นั้น​ก็​ได้​ส่ง​เสริม​การ​พัฒนา​ระบอบ​สังคม​นิยม​ขึ้น.

ทฤษฎี​ของ​มาร์กซ์​ก็​ได้​สะท้อน​เช่น​เดียว​กัน​ถึง​ความ​คิด​เห็น​ของ​นัก​ปรัชญา​ชาว​เยอรมัน​ชื่อ เกออร์ก วิลเฮล์ม ฟรีดริค เฮเกิล. ตาม ดิกชันนารี ออฟ เดอะ ฮิสตอรี ออฟ ไอเดียส์ บอก​ว่า “รูป​แบบ​คล้าย​ศาสนา​ที่​มี​การ​เผย​ให้​เห็น​ของ​ลัทธิ​สังคม​นิยม​แบบ​มาร์กซ์​นั้น​ถูก​นวด​ปั้น​ขึ้น​โดย​ยึด​ตาม​หลัก​ปรัชญา​ใน​รูป​แบบ​ใหม่​ของ​เฮเกิล​ซึ่ง​เกี่ยว​กับ​หลัก​เทววิทยา​พื้น​ฐาน​ของ​คริสเตียน.” นัก​ประพันธ์ เกออร์ก ซาบิเน อธิบาย​ว่า โดย​อาศัย “หลัก​เทววิทยา​พื้น​ฐาน” นี้ เป็น​หลัง​ฉาก​มาร์กซ์​ได้​พัฒนา​ความ​ดึงดูด​ใจ​ทาง​ศีลธรรม​อัน​ทรง​อิทธิพล​ขึ้น​มา และ​หนุน​หลัง​โดย​ความ​เชื่อ​มั่น​คล้าย​รูป​แบบ​ศาสนา. สิ่ง​นั้น​ไม่​น้อย​กว่า​การ​จูง​ใจ​ให้​เข้า​ร่วม​ใน​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​อารยธรรม​และ​ความ​ถูก​ต้อง.” ระบอบ​สังคม​นิยม​เป็น​คลื่น​แห่ง​อนาคต บาง​คน​อาจ​คิด​ว่า ระบอบ​นี้​เป็น​ศาสนา​คริสเตียน​ที่​กำลัง​ก้าว​ไป​สู่​ชัย​ชนะ​ภาย​ใต้​ชื่อ​ใหม่​จริง ๆ!

เส้น​ทาง​จาก​ระบอบ​ทุน​นิยม​สู่​ระบอบ​สังคม​ใน​จินตนาการ

มาร์กซ์​มี​ชีวิต​ถึง​แค่​การ​จัด​พิมพ์​งาน​เขียน​เล่ม​แรก​ของ​เขา​เท่า​นั้น​ซึ่ง​มี​ชื่อ​ดาส คาปิตัล อีก​สอง​เล่ม​ต่อ​มา​มี​การ​เรียบเรียง​และ​จัด​พิมพ์​ขึ้น​ใน​ปี 1885 และ 1894 โดย​ผู้​ร่วม​งาน​ที่​ใกล้​ชิด​เขา​ที่​สุด​คือ ฟรีดริค เองเกิล นัก​ปรัชญา​และ​นัก​สังคม​นิยม​ชาว​เยอรมัน. หนังสือ​ดาส คาปิตัล​มุ่ง​อธิบาย​ถึง​ภูมิหลัง​ทาง​ประวัติศาสตร์​ของ​ระบอบ​ทุน​นิยม ซึ่ง​เป็น​ลักษณะ​จำเพาะ​ของ​ระบบ​เศรษฐกิจ​แบบ​ประชาธิปไตย​ตะวัน​ตก​ที่​มี​ผู้​แทน. ต่าง​กับ​การ​ค้า​ที่​ไม่​มี​กฎเกณฑ์​และ​การ​แข่งขัน​โดย​ไม่​มี​การ​ควบคุม​ของ​รัฐ แต่​ระบอบ​ทุน​นิยม​อย่าง​ที่​มาร์กซ์​อธิบาย​ไว้​นั้น​รวม​กรรมสิทธิ์​สำหรับ​สิ่ง​ที่​ใช้​ใน​การ​ผลิต​และ​จำหน่าย​เข้า​เป็น​ส่วน​ของ​บุคคล​และ​กลุ่ม​บุคคล. ตาม​หลัก​ของ​มาร์กซ์ ระบอบ​ทุน​นิยม​ทำ​ให้​เกิด​มี​ชน​ชั้น​กลาง​และ​ชน​ชั้น​แรงงาน​ขึ้น ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​การ​เป็น​ปฏิปักษ์​ระหว่าง​สอง​ชน​ชั้น​นั้น​และ​นำ​ไป​สู่​การ​กดขี่​ชน​ชั้น​หลัง. โดย​อาศัย​งาน​เขียน​ของ​นัก​เศรษฐศาสตร์​ขนาน​แท้​เพื่อ​สนับสนุน​ความ​คิด​เห็น​ของ​เขา มาร์กซ์​โต้​แย้ง​ว่า​ระบอบ​ทุน​นิยม​นั้น​ที่​จริง​แล้ว​ไม่​ใช่​ประชาธิปไตย​อย่าง​แท้​จริง และ​ว่า​ระบอบ​สังคม​นิยม​เป็น​แบบ​ประชาธิปไตย​ที่​สมบูรณ์​ที่​สุด ให้​ประโยชน์​แก่​ประชาชน​โดย​การ​ส่ง​เสริม​ความ​เสมอ​ภาค​และ​เสรีภาพ​ของ​มนุษย์.

ยูโตเปีย (สังคม​ใน​จินตนาการ) คง​จะ​มี​การ​บรรลุ​ถึง​ครั้น​เมื่อ​ชน​ชั้น​กรรมาชีพ​ได้​ลุก​ฮือ​ขึ้น​ทำ​การ​ปฏิวัติ​และ​ขจัด​ออก​ไป​ซึ่ง​ความ​กดขี่​แห่ง​ชน​ชั้น​นาย​ทุน โดย​จัด​ตั้ง​สิ่ง​ที่​มาร์กซ์​เรียก​ว่า “ระบอบ​เผด็จการ​ของ​ชน​ชั้น​กรรมาชีพ.” (ดู​กรอบ​หน้า 21) อย่าง​ไร​ก็​ตาม ทัศนะ​ของ​เขา​อ่อน​ลง​ตาม​เวลา. เขา​เริ่ม​ยอม​ให้​กับ​แนว​ความ​คิด​แห่ง​การ​ปฏิวัติ​สอง​อย่าง​ที่​แตกต่าง​กัน อย่าง​หนึ่ง​เป็น​แบบ​รุนแรง​และ​อีก​อย่าง​เป็น​แบบ​ค่อย​เป็น​ค่อย​ไป​และ​ถาวร. การ​นี้​ก่อ​ให้​มี​คำ​ถาม​ที่​น่า​สนใจ​ขึ้น​มา.

ยูโตเปีย​โดย​การ​ปฏิวัติ​หรือ​การ​วิวัฒน์?

คำ​ว่า “คอมมิวนิสต์” มา​จาก​คำ​ลาติน คอมมิวนิส ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า “ร่วม​กัน เป็น​ของ​ทุก​คน.” เช่น​เดียว​กับ​ลัทธิ​สังคม​นิยม ลัทธิ​คอมมิวนิสต์​อ้าง​ว่า​ธุรกิจ​ที่​ดำเนิน​การ​โดย​เสรี​นำ​ไป​สู่​การ​ว่าง​งาน ความ​ยาก​จน วัฏจักร​เศรษฐกิจ และ​ความ​ขัด​แย้ง​ระหว่าง​ลูกจ้าง​กับ​นาย​ทุน. การ​แก้ไข​ปัญหา​นี้​ก็​คือ​การ​แจก​จ่าย​โภคทรัพย์​ของ​ประเทศ​อย่าง​เสมอ​ภาค​และ​ยุติธรรม​มาก​ขึ้น.

แต่​ใน​ตอน​ปลาย​ศตวรรษ​ที่​แล้ว ผู้​นิยม​ลัทธิ​มาร์กซ์​ทั้ง​หลาย​ไม่​ลง​รอย​กัน​เสีย​แล้ว​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​จะ​บรรลุ​ขั้นสุด​ท้าย​ตาม​เป้าหมาย​ที่​ตก​ลง​กัน​ไว้. ใน​ตอน​ต้น​ทศวรรษ​ปี 1900 ความ​เคลื่อน​ไหว​ของ​นัก​สังคม​นิยม​ใน​ส่วน​ซึ่ง​ต่อ​ต้าน​การ​ปฏิวัติ​แบบ​รุนแรง​และ​สนับสนุน​การ​ดำเนิน​งาน​ตาม​ระบบ​รัฐสภา​ของ​ประชาธิปไตย​นั้น​ก็​มี​พลัง​มาก​ขึ้น วิวัฒน์​ไป​สู่​สิ่ง​ที่​ปัจจุบัน​เรียก​กัน​ว่า​ระบอบ​สังคม​นิยม​ประชาธิปไตย. นี้​คือ​ระบอบ​สังคม​นิยม​ที่​พบ​เห็น​กัน​ทุก​วัน​นี้​ใน​ระบอบ​ประชาธิปไตย​ของ​สหพันธ์​สาธารณรัฐ​เยอรมนี ฝรั่งเศส และ​อังกฤษ เป็น​ต้น. สำหรับ​เจตจำนง​และ​ความ​มุ่ง​หมาย​ทุก​อย่าง​แล้ว กลุ่ม​ประเทศ​เหล่า​นี้​ได้​ปฏิเสธ​แนว​ความ​คิด​ของ​ผู้​นิยม​ลัทธิ​มาร์กซ์​ขนาน​แท้​และ​เพียง​มุ่ง​ความ​สนใจ​อยู่​ที่​การ​ก่อ​ตั้ง​รัฐ​สวัสดิการ​ขึ้น​เพื่อ​ประชากร.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​ที่​อุทิศ​ตัว​ให้​กับ​ลัทธิ​มาร์กซ์​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เชื่อ​ว่า​ยูโตเปีย​แบบ​คอมมิวนิสต์​จะ​บรรลุ​ได้​ก็​โดย​การ​ปฏิวัติ​แบบ​รุนแรง​เท่า​นั้น​คือ​เลนิน. คำ​สอน​ของ​เขา ควบ​คู่​ไป​กับ​ลัทธิ​มาร์กซ์ และ​เป็น​พื้น​ฐาน​สำหรับ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ขนาน​แท้​ใน​ปัจจุบัน. เลนิน​ซึ่ง​เป็น​นามแฝง​ของ วลาดิเมีย อิลิค อุลยานอฟ เกิด​เมื่อ​ปี 1870 ใน​ที่​ซึ่ง​ปัจจุบัน​นี้​คือ​สหภาพ​โซเวียต. เขา​ได้​เปลี่ยน​มา​ถือ​ลัทธิ​มาร์กซ์​ใน​ปี 1889. ตั้ง​แต่​ปี 1900 ภาย​หลัง​ที่​ถูก​เนรเทศ​ไป​อยู่​ไซบีเรีย​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง เขา​อาศัย​อยู่​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ตก​เป็น​ส่วน​ใหญ่. พอ​การ​ปกครอง​ใน​ระบอบ​ซาร์​ถูก​โค่น​ล้ม เขา​กลับ​สู่​รัสเซีย จัด​ตั้ง​พรรค​คอมมิวนิสต์​รัสเซีย​ขึ้น และ​ได้​เป็น​ผู้​นำ​การ​ปฏิวัติ​บอลเชวิก​ใน​ปี 1917. หลัง​จาก​นั้น​เขา​ได้​ดำรง​ตำแหน่ง​ประมุข​สูง​สุด​แห่ง​สหภาพ​โซเวียต​จน​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต​ใน​ปี 1924. เขา​มอง​พรรค​คอมมิวนิสต์​ว่า​มี​วินัย​อย่าง​สูง​เป็น​แกนกลาง​ของ​เหล่า​ผู้​ปฏิวัติ ทำ​หน้า​ที่​เป็น​กอง​หน้า​ของ​ชน​ชั้น​กรรมาชีพ. พวก​เมนเชวิกส์​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​เรื่อง​นั้น.—ดู​กรอบ​หน้า​21.

เส้น​แบ่ง​ระหว่าง​การ​ปฏิวัติ​กับ​การ​วิวัฒน์​ไม่​ได้​มี​การ​กำหนด​อย่าง​ชัดเจน​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว. ใน​ปี 1978 หนังสือ คอมแพริง โพลิทิคัล ซีสเตมส์: พาวเวอร์ แอนด์ โพลิซี อิน ทรี เวิลด์ส ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า: “ระบอบ​คอมมิวนิสต์​เกิด​มี​ความ​ขัด​แย้ง​กัน​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​วิธี​บรรลุ​เป้าหมาย​ตาม​หลัก​สังคม​นิยม. . . . ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​กับ​ระบอบ​สังคม​นิยม​ประชาธิปไตย​ได้​ลด​ลง​มาก​ที​เดียว.” ปัจจุบัน ใน​ปี 1990 ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​ยิ่ง​มี​ความ​หมาย​เพิ่ม​ขึ้น​ใน​ขณะ​ที่​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ประสบ​การ​เปลี่ยน​แปลง​อย่าง​ขนาน​ใหญ่​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ออก.

ระบอบ​คอมมิวนิสต์​นำ​ศาสนา​ไป​ใช้​อีก​ครั้ง

“เรา​ต้องการ​ค่า​นิยม​ฝ่าย​วิญญาณ . . . ค่า​นิยม​ทาง​ศีลธรรม​ที่​ศาสนา​ก่อ​ขึ้น​และ​ครอบ​งำ​มา​เป็น​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​นั้น​สามารถ​ช่วย​ใน​งาน​ฟื้นฟู​ประเทศ​ของ​เรา​ได้​เช่น​กัน.” น้อย​คน​นัก​ที่​คิด​ว่า​เขา​จะ​ได้​ยิน​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​จาก​ปาก​ของ​เลขาธิการ​พรรค​คอมมิวนิสต์​แห่ง​สหภาพ​โซเวียต. แต่​เมื่อ​วัน​ที่ 1 ธันวาคม 1989 นาย​มิคาอิล กอร์บาชอพ​ได้​แถลง​ถึง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ท่าที​ที่​มี​ต่อ​ศาสนา​อย่าง​ชัดเจน​นี้​ใน​ระหว่าง​การ​เยี่ยม​สันตะปาปา ณ กรุง​โรม.

อาจ​เป็น​ได้​ไหม​ว่า​สิ่ง​นี้​สนับสนุน​ข้อ​คิด​เห็น​ที่​ว่า​พวก​คริสเตียน​สมัย​แรก​เอง​นั้น​เป็น​คอมมิวนิสต์​ใน​รูป​แบบ​สังคม​นิยม​คริสเตียน? บาง​คน​อ้าง​เช่น​นี้​โดย​ชี้​ไป​ที่​พระ​ธรรม​กิจการ 4:32 ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ชน​คริสเตียน​ใน​ยะรูซาเลม​ว่า: “ของ​ทั้ง​หมด​เป็น​ของ​กลาง.” แต่​การ​ค้นคว้า​เผย​ให้​เห็น​ว่า​นั้น​เป็น​เพียง​เรื่อง​ชั่ว​คราว​ที่​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​สถานการณ์​ซึ่ง​ไม่​ทราบ​ล่วง​หน้า ไม่​ใช่​เป็น​ระบอบ​สังคม​นิยม​คริสเตียน​ที่​ใช้​อย่าง​ถาวร. เพราะ​พวก​เขา​แบ่ง​ปัน​วัตถุ​สิ่ง​ของ​ต่าง ๆ แก่​กัน​ด้วย​แนว​ทาง​แห่ง​ความ​รัก จึง “ไม่​มี​ผู้​ใด​ขัดสน.” ถูก​แล้ว มี​การ “แจก​จ่าย​ให้​ทุก​คน​ตาม​ที่​ต้องการ.”—กิจการ 4:34, 35.

“กลาสนอสต์” และ “เปเรสตรอยกา”

นับ​ตั้ง​แต่​ช่วง​ท้าย​แห่ง​ทศวรรษ​ปี 1980 สหภาพ​โซเวียต​กับ​รัฐบาล​ต่าง ๆ ใน​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ของ​ยุโรป​ตะวัน​ออก​ได้​ประสบ​กับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ครั้ง​ใหญ่​ทาง​การ​เมือง​ซึ่ง​ทำ​ให้​ตลึงงัน. เนื่อง​ด้วย​นโยบาย​กลาสนอสต์ หรือ​นโยบาย​แบบ​เปิด การ​เปลี่ยน​แปลง​เหล่า​นี้​จึง​เป็น​ที่​เห็น​ได้​โดย​ทั่ว​ไป. ประเทศ​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ออก​ได้​เรียก​ร้อง​การ​ปฏิรูป​ต่าง ๆ อย่าง​กว้างขวาง​ซึ่ง​ได้​มี​การ​เห็น​ชอบ​ด้วย​ถึง​ระดับ​หนึ่ง. ผู้​นำ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ได้​ยอม​รับ​ความ​ต้องการ​ใน​ระบอบ​ที่​มี​มนุษยธรรม​และ​มี​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​มาก​ขึ้น​และ​ได้​เรียก​ร้อง​ให้​มี​การ “ฟื้นฟู​ระบอบ​สังคม​นิยม​ขึ้น​มา​ใน​แบบ​ที่​ต่าง​ออก​ไป ใน​รูป​แบบ​ที่​ก้าว​หน้า​ขึ้น​และ​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น” ดัง​ที่​นัก​เศรษฐศาสตร์​ชาว​โปแลนด์​คน​หนึ่ง​ได้​กล่าว​ไว้.

ผู้​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​กลุ่ม​ผู้​นำ​เหล่า​นี้​คือ​กอร์บาชอพ ผู้​ซึ่ง​หลัง​จาก​ได้​ขึ้น​มา​มี​อำนาจ​ไม่​นาน ก็​ได้​เสนอ​แนว​ความ​คิด เปเรสตรอยกา (การ​ปรับ​ปรุง​ใหม่) ขึ้น​มา. ใน​การ​เยือน​ประเทศ​อิตาลี เขา​ได้​กล่าว​สนับสนุน​นโยบาย เปเรสตรอยกา ว่า เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​เผชิญ​กับ​ข้อ​ท้าทาย​ต่าง ๆ แห่ง​ทศวรรษ​ปี 1990. เขา​กล่าว​ว่า: “การ​ที่​ได้​เริ่ม​ดำเนิน​บน​เส้น​ทาง​แห่ง​การ​ปฏิรูป​อย่าง​ถอน​ราก​ถอน​โคน​นั้น ประเทศ​สังคม​นิยม​ทั้ง​หลาย​กำลัง​ข้าม​เส้น​แบ่ง​ซึ่ง​ไม่​มี​วัน​จะ​หวน​กลับ​สู่​อดีต​อีก. แต่​ถึง​กระนั้น เป็น​การ​ไม่​ถูก​ต้อง​ที่​จะ​ยืนกราน​ดัง​ที่​ประเทศ​ทาง​ตะวัน​ตก​ทำ​กัน ว่า​นี้​เป็น​การ​พัง​ทลาย​ของ​ระบอบ​สังคม​นิยม. ตรง​กัน​ข้าม หมาย​ความ​ว่า​ขบวนการ​ทาง​สังคม​นิยม​ใน​โลก​นี้​จะ​แสวง​หา​พัฒนาการ​ต่อ​ไป​ใน​รูป​แบบ​อัน​หลาก​หลาย.”

ดัง​นั้น​กลุ่ม​ผู้​นำ​ใน​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ทั้ง​หลาย​จึง​ไม่​พร้อม​จะ​เห็น​ด้วย​กับ​การ​ประเมิน​ที่​ได้​ทำ​เมื่อ​ปี​ที่​แล้ว​โดย​นัก​เขียน​บทความ​ชื่อ​ชาลส์ ครอท​แฮมเมอร์ ซึ่ง​เขียน​ไว้​ว่า: “ปัญหา​ซึ่ง​มี​สืบ​เนื่อง​มา​ตลอด​เวลา​ที่​ทำ​ให้​นัก​ปรัชญา​ทาง​การ​เมือง​ทุก​คน​ต้อง​ยุ่งยาก​ใจ นับ​แต่​พลา​โต​เป็น​ต้น​มา ที่​ว่า—อะไร​คือ​รูป​แบบ​การ​ปกครอง​ที่​ดี​ที่​สุด?—ได้​รับ​คำ​ตอบ​แล้ว. หลัง​จาก​หลาย​พัน​ปี​ที่​ได้​พยายาม​ทดลอง​ดู​ระบอบ​การ​ปกครอง​ทุก​รูป​แบบ เรา​ก็​ปิด​ฉาก​รอบ​พัน​ปี​นี้​ด้วย​ความ​รู้​อัน​แน่นอน​ที่​ว่า​ใน​ระบอบ​ประชาธิปไตย​แบบ​เสรี​นิยม แบบ​แบ่ง​อำนาจ​และ​แบบ​ทุน​นิยม​นี่​เอง ที่​เรา​ได้​พบ​สิ่ง​ซึ่ง​ใฝ่​หา​มา​เป็น​เวลา​นาน.”

กระนั้น​ก็​ตาม หนังสือ​พิมพ์​เยอรมัน​ชื่อ ดี ไซต์​ยอม​รับ​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ถึง​ภาพ​อัน​น่า​เศร้า​ที่​ประชาธิปไตย​แบบ​ตะวัน​ตก​เผย​ให้​เห็น โดย​ชี้​ไป​ยัง​สภาพ “การ​ว่าง​งาน การ​ติด​สุรา​และ​ยา​เสพย์ติด การ​เป็น​โสเภณี การ​ตัด​ทอน​ลง​ซึ่ง​สวัสดิการ​ทาง​สังคม การ​ลด​อัตรา​ภาษี และ​การ​ขาด​งบประมาณ” ครั้น​แล้ว​ก็​ถาม​ว่า “นี่​คือ​สังคม​ที่​สมบูรณ์​จริง ๆ หรือ​ซึ่ง​ได้​มี​ชัย​ชนะ​เหนือ​ระบอบ​สังคม​นิยม​มา​ตลอด?”

สุภาษิต​บท​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ที่​คุ้น​เคย​กัน​ดี​กล่าว​ว่า​ผู้​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เรือน​กระจก​ไม่​ควร​จะ​ขว้าง​ก้อน​หิน. การ​ปกครอง​ที่​ไม่​สมบูรณ์​ของ​มนุษย์​ใน​รูป​แบบ​ใด​ล่ะ​ที่​สามารถ​จะ​วิพากษ์วิจารณ์​ข้อ​อ่อนแอ​ของ​รูป​แบบ​การ​ปกครอง​อื่น​ได้? ข้อ​เท็จ​จริง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ระบอบ​การ​ปกครอง​อัน​สมบูรณ์​พร้อม​ของ​มนุษย์—ยูโตเปีย—ไม่​มี​อยู่​เลย. พวก​นัก​การ​เมือง​ยัง​คง​ค้น​หา​เพื่อ​จะ​พบ “สถาน​ที่​ดี” นั้น​อยู่. แต่​ก็​ยัง​เป็น “สถาน​ที่​ซึ่ง​ไม่​มี​ตัว​ตน” ให้​พบ​เลย.

[เชิงอรรถ]

a มาร์กซ์ ซึ่ง​มี​บิดา​มารดา​เป็น​ชาว​ยิว เกิด​เมื่อ​ปี 1818 ใน​ที่​ซึ่ง​ปัจจุบัน​นี้​คือ​สหพันธ์​สา​ธาร​ณ​รัฐ​เยอรมนี ได้​รับ​การ​ศึกษา​และ​ทำ​งาน​เป็น​นัก​หนังสือ​พิมพ์​ที่​นั่น หลัง​จาก​ปี 1849 เขา​ใช้​ชีวิต​ส่วน​ใหญ่​ใน​ลอนดอน ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​เขา​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1883.

[กรอบ​หน้า​21]

คำ​ศัพท์​เฉพาะ​ของ​ลัทธิ​สังคม​นิยม​และ​คอมมิวนิสต์

บอลเชวิกส์/เมนเชวิกส์: พรรค​กรรมกร​ใน​ระบอบ​สังคม​นิยม​ประชาธิปไตย​ของ​รัสเซีย ก่อ​ตั้ง​ขึ้น​ใน​ปี 1898 และ​ได้​แยก​เป็น​สอง​กลุ่ม​ใน​ปี 1903; บอลเชวิกส์ ตาม​ตัว​อักษร​หมาย​ความ​ว่า “สมาชิก​แห่ง​คน​ส่วน​ใหญ่” ภาย​ใต้​การ​นำ​ของ​เลนิน นิยม​การ​ให้​พรรค​มี​ขนาด​เล็ก พร้อม​กับ​มี​นัก​ปฏิวัติ​จำนวน​จำกัด​ซึ่ง​มี​วินัย; เมนเชวิกส์ หมาย​ความ​ว่า “สมาชิก​แห่ง​คน​ส่วน​น้อย” นิยม​พรรค​ซึ่ง​มี​สมาชิก​จำนวน​มาก​กว่า​โดย​ใช้​หลักการ​ทาง​ประชาธิปไตย.

ชน​ชั้น​นาย​ทุน/ชน​ชั้น​กรรมาชีพ: มาร์กซ์​สอน​ว่า​ชน​ชั้น​กรรมกร (ผู้​ใช้​แรงงาน) จะ​ล้ม​ล้าง​พวก​นาย​ทุน (ชน​ชั้น​กลาง รวม​ทั้ง​พวก​เจ้าของ​โรง​งาน) ก่อ​ตั้ง “ระบอบ​เผด็จการ​แห่ง​ชน​ชั้น​กรรมาชีพ” ขึ้น​มา แล้ว​ตั้ง​สังคม​ที่​ไม่​มี​ชน​ชั้น​ขึ้น.

โคมินเทิร์น: เป็น​ชื่อ​ย่อ​ของ​องค์การ​คอมมิวนิสต์​สากล (หรือ​ขบวนการ​สากล​ที่ 3) เป็น​องค์การ​ซึ่ง​ตั้ง​ขึ้น​โดย​เลนิน​ใน​ปี 1919 เพื่อ​ส่ง​เสริม​ลัทธิ​คอมมิวนิสต์ ยุบ​เลิก​ไป​ใน​ปี 1943 องค์การ​นี้​มี​ขึ้น​ภาย​หลัง​ขบวนการ​สากล​ที่​หนึ่ง (1864–1876) ซึ่ง​ให้​กำเนิด​แก่​กลุ่ม​คอมมิวนิสต์​ยุโรป​หลาย​กลุ่ม และ​ขบวนการ​สากล​ที่​สอง (1889–1919) ซึ่ง​เป็น​สภา​สากล​แห่ง​บรรดา​พรรค​สังคม​นิยม.

คอมมิวนิสต์ แมนิเฟสโต: เป็น​คำ​แถลง​การณ์​ของ​มาร์กซ์​และ​เองเกิลส์​ใน​ปี 1848 เกี่ยว​กับ​หลักการ​สำคัญ​ต่าง ๆ ของ​ระบอบ​สังคม​นิยม​วิทยาศาสตร์​ซึ่ง​ได้​ใช้​เป็น​พื้น​ฐาน​สำหรับ​พรรค​สังคม​นิยม​และ​พรรค​คอมมิวนิสต์​ใน​ยุโรป​มา​เป็น​เวลา​นาน.

ยูโร​คอมมิวนิสซึม: คือ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์​ของ​พรรค​คอมมิวนิสต์​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ตก​ไม่​ขึ้น​กับ​สหภาพ​โซเวียต​และ​ยินดี​เข้า​ร่วม​ใน​รัฐบาล​ผสม พวก​เขา​ให้​เหตุ​ผล​ว่า “ระบอบ​เผด็จการ​แห่ง​ชน​ชั้น​กรรมาชีพ” นั้น​ไม่​จำเป็น​อีก​แล้ว.

วิทยาศาสตร์/ระบอบ​สังคม​นิยม​แบบ​ยูโตเปียน: เป็น​คำ​ที่​มาร์กซ์​ใช้​เพื่อ​แยกแยะ​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​คำ​สอน​ของ​เขา ซึ่ง​คาด​กัน​ว่า​มี​รากฐาน​จาก​การ​ตรวจ​สอบ​ประวัติศาสตร์​ทาง​วิทยาศาสตร์​และ​การ​ดำเนิน​งาน​ของ​ระบอบ​ทุน​นิยม กับ​คำ​สอน​ทาง​สังคม​นิยม​แบบ​ยูโตเปีย​แท้ ๆ แห่ง​บรรพบุรุษ​ของ​เขา.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์