การเพ่งดูโลก
พิบัติภัยทวีขึ้น
หนึ่งในผลข้างเคียงที่น่ารังเกียจของโรคระบาดเอดส์ คือการเพิ่มของโสเภณีเด็ก. ตามรายงานของสำนักข่าว แอสโซซิเอเตด เพรส จากเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ นั้นเป็นการสรุปผลของรายงานชิ้นใหม่ของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน. รองศาสตราจารย์ทางกฎหมายของประเทศไทย วิทิต มันตาภรณ์ ผู้เรียบเรียงรายงานนี้กล่าวว่า จำนวนเด็กอายุเก้าหรือสิบปีที่ถูกบังคับเป็นโสเภณี “เพิ่มขึ้นทุกวัน.” ดูเหมือนว่าลูกค้าจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ชอบโสเภณีเด็ก โดยเฉพาะที่เป็นพรหมจารี เพราะคิดว่าจะป้องกันเขาไว้จากเอดส์. แต่อนิจจา ท่านรองศาสตราจารย์ให้ข้อสังเกตว่า หลายประเทศในเอเชีย โสเภณีเด็กหลายคนติดเชื้อเอดส์. บิดามารดาบังคับทั้งบุตรชายและหญิงให้ทำการค้าที่เสื่อมทรามนี้ แต่เด็กหญิงประสบบ่อยกว่า.
ยาสูบมีประโยชน์หรือ?
เมื่อพิจารณาถึงความตายทั้งหมดซึ่งเกิดจากการใช้ยาสูบอย่างผิด ๆ ยาสูบมีทางใช้ที่เกิดประโยชน์ไหม? ตามบทความที่ลงในนิตยสารแห่งแอฟริกาใต้ชื่อ เอนเดนเจอเรด ไวลด์ไลฟ์ ชี้ว่าอาจเป็นได้. ยาสูบสามารถนำมาใช้เป็นยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติ. น้ำต้มของยาสูบบดและน้ำสบู่เมื่อพ่นบนพืชผักจะฆ่าตัวหนอน, แมลงวัน, และเพลี้ยต่าง ๆ. ถ้าใช้น้ำยาสูบต้มนี้แปรงบนหนังแกะ, วัว, และแพะ มันจะกำจัดตัวไร, ตัวหมัดอย่างมีประสิทธิภาพ. อย่างไรก็ตาม บทความนั้นให้คำเตือนสติดังต่อไปนี้: “สารละลายของยาสูบนี้เป็นพิษตามธรรมชาติอย่างแรง. ไม่ควรให้มนุษย์หรือสัตว์ดื่มเป็นอันขาด. อย่าเก็บสารละลายนี้ไว้ในบ้าน. พืชผักที่ฉีดไม่ควรเก็บเกี่ยวเป็นเวลาอย่างน้อย 4 วันหลังจากการฉีด และควรล้างอย่างดีด้วยน้ำสะอาดก่อนรับประทาน.”
การทำให้ฉลามสะดุ้ง!
เป็นเวลานานมาแล้วที่ได้มีการแสวงหาวิธีขับไล่ฉลามอย่างที่ได้ผล. ตาข่ายกั้นฉลาม นอกจากทำความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมโดยก่อให้เกิดอันตรายกับสัตว์น้ำ เช่น ปลาโลมาและเต่าแล้ว ยังจะต้องมีการบำรุงรักษา โดยเฉพาะหลังจากเกิดพายุรุนแรง. อย่างไรก็ตาม การไล่ฉลามโดยใช้ระบบแม่เหล็กไฟฟ้าดูเหมือนว่าประสบผลสำเร็จ. นอร์มัน วีนน์ เจ้าหน้าที่ประจำ เนตัล ชาร์กส์ บอร์ด ในแอฟริกาใต้อธิบายว่า “เราพบว่า [ฉลาม] ไวอย่างยิ่งต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่เฉพาะ.” การทดสอบ 250 ครั้งกับฉลามหลายตัวแสดงว่าในแต่ละครั้งฉลามถูกขับไล่ออกไปด้วยอุปกรณ์ใหม่นี้. ปรากฏว่าอุปกรณ์นี้ไม่ทำความเสียหายใด ๆ ต่อสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ. ผลิตภัณฑ์นี้ซึ่งจะออกวางตลาดในไม่ช้ามีขนาดเล็กพอที่จะเหน็บไว้ที่เข็มขัดหรือเหมาะที่จะติดบนกระดานโต้คลื่น.
มาลาเรียคุกคามกัมพูชา
สงครามยี่สิบปีได้ทิ้งให้ชนบทของกัมพูชาเต็มไปด้วยกับระเบิดนับล้าน ๆ ลูก. แต่อันตรายที่ร้ายแรงกว่าซึ่งคุกคามอยู่ได้แก่มาลาเรียพันธุ์ใหม่ซึ่งดื้อต่อยาที่เคยใช้กันตามปกติ. ตามกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชารายงานว่า มาลาเรียคร่าชีวิตประมาณ 15 ถึง 25 คนต่อวัน—สิบเท่าของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกับระเบิด. องค์การอนามัยโลกเกรงว่าโรคนี้อาจจะแพร่กระจายไม่เพียงในเขตร้อนของเอเชียอาคเนย์เท่านั้น แต่ตลอดทั่วโลกด้วย. กองทหารรักษาสันติภาพ 16,000 คนแห่งสหประชาชาติประจำการอยู่ในเขตนั้น และวิตกกันว่าเมื่อเขากลับบ้าน บางคนจะพาปรสิตตัวใหม่นี้มาในกระแสเลือดด้วย ซึ่งจะถูกแพร่ต่อไปยังเหยื่อรายอื่น ๆ โดยยุง. อนึ่ง ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาราว 360,000 คนซึ่งจะกลับบ้านจากค่ายลี้ภัยในประเทศไทยก็ถูกคุกคามด้วย. ควินินและเตตราไซคลิน ต่อสู้เชื้อตัวใหม่นี้ได้ผลดีที่สุด. แต่ยาทั้งสองชนิดรวมทั้งการขนส่งและเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมมีไม่เพียงพอในกัมพูชา และผู้คนเสียชีวิตเนื่องจากขาดการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง.
ผลประโยชน์จากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การให้ลูกเลิกกินนมแม่ก่อนเวลาอันควรเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดสำหรับความตายของทารกในโลกที่กำลังพัฒนา ตามวารสารของบราซิลชื่อ ซูเปอร์ อินเตเรสซันเต. มารดาชาวบราซิลครึ่งหนึ่งเลิกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในเดือนที่สองแทนที่จะเลี้ยงอย่างน้อยถึงเดือนที่หก. วารสารนั้นเสริมอีกว่า “จากการที่ขาดซึ่งภูมิต้านทานโรคที่ติดตัวมาแต่กำเนิดและการอยู่ภายใต้สภาพอนามัยตามมีตามเกิด เด็ก ๆ จึงเสียชีวิตเนื่องด้วยโรคซึ่งเขาจะสามารถต้านทานได้หากได้รับการเลี้ยงด้วยนมแม่.” นายแพทย์สาขากุมารเวช โฮเซ มาร์ตินส์ ฟิลโฮ อ้างว่า “ผู้หญิงเพียงห้าคนในหนึ่งร้อยคนไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพราะปัญหาทางร่างกาย.”
การออกกำลังกายและสุขภาพ
นักวิทยาศาสตร์ยังคงค้นพบประโยชน์ต่อไปจากการออกกำลังกายพอประมาณ. วารสาร อเมริกัน เฮลธ์ รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ถึงการศึกษาตลอด 30 ปีในผู้ชาย 17,000 คน. คนเหล่านั้นที่เผาผลาญมากกว่า 1,000 แคลอรีต่อสัปดาห์โดยการออกกำลังกายดูเหมือนจะมีโอกาสเป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่เพียงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ทำ. การศึกษาที่ใช้เวลา 19 ปีในผู้ชายชาวสวีเดนมากกว่าหนึ่งล้านคน พบว่าคนเหล่านั้นที่นั่งทำงานมากกว่าครึ่งหนึ่งของเวลางานมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับคนที่นั่งทำงานน้อยกว่าร้อยละ 20 ของวันทำงาน. การศึกษาโดยมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด ในผู้หญิง 5,400 คนพบว่าคนเหล่านั้นที่ออกกำลังกายพอประมาณขณะที่อยู่ในวิทยาลัยมีอัตราเป็นมะเร็งเต้านมครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับคนในชั้นเดียวกันที่ออกกำลังกายน้อยกว่า ซึ่งในทางกลับกันพวกหลังนี้เป็นมะเร็งในระบบสืบพันธุ์มากกว่า 2.5 เท่า. การออกกำลังกายพอประมาณกระทั่งมีหลักฐานว่าช่วยเสริมระบบภูมิต้านทาน, ช่วยต่อสู้ขับไล่ไวรัสออกไปเร็วขึ้น. แต่การออกกำลังสุดขีด—เช่นวิ่งมาราธอน—ดูเหมือนจะให้ผลในทางตรงข้าม คือระงับภูมิต้านทานไว้ชั่วคราว.
บาทหลวงที่มีใจกำหนัดในผู้เยาว์
“เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทำร้ายทางเพศต่อเด็กที่ทวีขึ้น เป็นเหตุให้คริสต์จักรโรมันคาทอลิกต้องลงมือทำการสำรวจอย่างกว้างขวางกรณีบาทหลวงที่มีใจกำหนัดต่อเด็ก—ปรากฏการณ์ซึ่งผู้วิพากษ์วิจารณ์บอกว่า ฝ่ายปกครองคริสต์จักรได้ปิดบังไว้เป็นเวลานาน” ตามรายงานของ เดอะ เฮรัลด์-นิวส์ แห่งโจลิแอต รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐ. “ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านไป บาทหลวงเจ็ดคนในละแวกชิคาโกถูกย้ายจากเขตคริสต์จักรท้องถิ่นและคนหนึ่งถูกดำเนินคดีเนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการประพฤติผิดทางเพศต่อเด็ก.” คาร์ดินัล โจเซฟ เบอร์นาร์ดิน ได้แต่งตั้งคณะดำเนินการประกอบด้วยสมาชิกสามคนเพื่อดูว่าจะจัดการกับปัญหาอย่างไร ซึ่งตามคำพูดของโฆษกคริสต์จักรแห่งหนึ่ง “เป็นปัญหาลึกซึ้งกว่าที่ใคร ๆ คิดเอาไว้มากนัก” และคาดว่าพัวพันกับบาทหลวงหลายร้อยคนทั่วประเทศ. ขณะนี้มีความพยายามที่จะถอดถอนบาทหลวงผู้ประพฤติผิดซึ่งเมื่อก่อนได้ถูกย้ายไปยังเขตคริสต์จักรอีกแห่งหนึ่ง. แต่บางคนก็ยังไม่หายประหวั่นพรั่นพรึง. “พวกเขาไม่เข้าใจความลึกของบาดแผลทางจิตใจเมื่อผู้คนได้รับจากใครคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนของคริสต์จักร ซึ่งเราเชื่อว่าได้นวดปั้นค่านิยม, หลักศีลธรรม, และหลักการของเรา” จากคำพูดผู้เป็นมารดาของเด็กคนหนึ่งที่ถูกทำร้าย.
การสมรสหรือการอยู่กินด้วยกัน
การที่คู่ชายหญิงอยู่ด้วยกันก่อนสมรสหรืออยู่ด้วยกันแทนที่จะสมรสกันเป็นสิ่งที่มีให้เห็นมากขึ้นในบางประเทศ. ถึงขนาดที่หนังสือ นิว ซีแลนด์ เฮรัลด์ เตือนว่า “การสมรสในยุโรปอาจหมดความหมาย.” หนังสือนั้นรายงานว่า ในสวีเดนและเดนมาร์ก สถิติชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงเพียงครึ่งเดียวจะสมรส. ในส่วนอื่นของยุโรปคาดกันว่า หนึ่งในสามจะไม่สมรส. กระนั้น การศึกษาค้นคว้าได้พิสูจน์ว่า การอยู่ด้วยกันก่อนสมรสไม่ได้ประกันว่าการสมรสจะมีคุณภาพ ดังที่เคยคิดกันเมื่อก่อน. รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ใน เจอร์นัล ออฟ แมเรจ แอนด์ เดอะ แฟมิลี พบว่า “คู่ชายหญิงซึ่งอยู่กินด้วยกันก่อนการสมรสรายงานถึงการสมรสที่มีคุณภาพด้อยกว่า, การผูกพันต่อสถาบันการสมรสต่ำกว่า . . . และความเป็นไปได้มากกว่าที่จะหย่ากันเมื่อเทียบกับคู่ที่ไม่ได้อยู่กินด้วยกันก่อนสมรส.”
การกันดารอาหารในแอฟริกา
การกันดารอาหารและสงครามกลางเมืองทำให้ชาวโซมาเลียและเอธิโอเปียต้องหนีจากบ้านเกิดของตนและแสวงหาอาหารรวมทั้งที่อยู่อาศัยตามค่ายลี้ภัยในเคนยา. ตามคำพูดของเจ้าหน้าที่ประจำสหประชาชาติคนหนึ่งที่ยกมาอ้างใน เดอะ สตาร์ แห่งแอฟริกาใต้ “คนส่วนใหญ่ฟุบแฟบเมื่อมาถึงหลังจากที่ได้เดินประมาณ 600 กิโลเมตรโดยมีอาหารและน้ำเพียงเล็กน้อย. พวกเขาอยู่ในสภาพที่น่าขนลุก บางคนมีแต่หนังหุ้มกระดูกและหลายคนมีบาดแผลถูกยิง.” ในค่ายที่แออัดแห่งหนึ่งเฉลี่ยแล้ว 15 คนตายทุกวัน. ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก. ขณะเดียวกัน ทางทิศใต้ในซิมบับเว ความแห้งแล้งทำให้การขโมยอาหารเพิ่มมากขึ้น ตามรายงานใน ซันเดย์ ไทมส์ แห่งฮาราเร ซิมบับเว. ขโมยบางคนอับจนถึงขนาดแล่เนื้อจากวัวที่ยังเป็น ๆ เอาดื้อ ๆ ปล่อยให้วัวเหล่านั้นทนทรมานจนกระทั่งเจ้าของต้องจบชีวิตมันด้วยความอาลัย.