การเพ่งดูโลก
การโฆษณาบุหรี่เอาเปรียบสตรี
“เธอไปได้สวย แม่น้องสาว!” เป็นเวลาหลายปีแล้วในสหรัฐ ที่สตรีผู้สูบบุหรี่ถูกสนับสนุนให้สูบต่อไปโดยคำขวัญโฆษณาชวนเชื่อเช่นว่านี้. สตรีเหล่านี้ถูกเอาเปรียบ เป็นคำโอดครวญของ แคธี ฮาร์ตี หัวหน้าโครงการป้องกันการสูบบุหรี่สำหรับรัฐหนึ่งทางภาคเหนือ. ฮาร์ตีเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมก่อเกิดการรณรงค์โฆษณาทางทีวีและวิทยุ ซึ่งเน้นข่าวสารเรื่องนี้. หนึ่งในโฆษณาต่อต้านการสูบบุหรี่แสดงภาพสตรีรูปงามคนหนึ่งกำลังขยี้บุหรี่ให้ดับบนหัวล้านของผู้อำนวยการโฆษณาคนหนึ่ง. การโฆษณาทางวิทยุแสดงถึงสตรีคนหนึ่งกำลังพูดกับบรรดาผู้ผลิตบุหรี่ว่า “ขอบคุณที่ทำให้เรือนผมของเรามีกลิ่นเหม็นเหมือนที่เขี่ยบุหรี่. ขอบคุณที่ทำให้ฟันของเราติดคราบบุหรี่และทำให้เราจ่ายค่าซักแห้งของเราสูงขึ้น. ขอบคุณสำหรับโรคมะเร็งปอด 52,000 รายในสตรีทุก ๆ ปี. พวกเราก็เพียงแต่หวังว่าจะตอบแทนความเอื้อเฟื้อนี้ได้สักวันหนึ่ง.” ฮาร์ตี อธิบายว่า “เราต้องการให้ [พวกผู้หญิง] คิดแล้วคิดอีกว่า ‘ฉันต้องการบุหรี่มวนนี้จริง ๆ หรือ? จริง ๆ แล้วฉันต้องการทำให้คนอื่นรวยและตัวฉันเองป่วยหรือ?’”
จงล้างมือของคุณ!
แม้ว่าความก้าวหน้าทางเทคนิคของวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ได้ทำอะไร ๆ มากมายในการต่อสู้โรคต่าง ๆ นักวิทยาศาสตร์บอกว่าการล้างมือของคุณแบบง่าย ๆ ด้วยสบู่และน้ำยังคงเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อป้องกันการแพร่ของโรคติดเชื้อหลายชนิด. หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส เลอ ฟิกาโร รายงานว่า การศึกษาค้นคว้ารายหนึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับนิสัยทางสุขอนามัยในฝรั่งเศส, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์และสวิตเซอร์แลนด์ นักค้นคว้าวิจัยปลอมตัวเป็นช่างซ่อมหรือพนักงานทำความสะอาดในสุขาสาธารณะของโรงแรม, ภัตตาคาร, สำนักงาน, โรงเรียน และโรงงาน. พวกเขาพบว่า 1 ใน 4 คนไม่ได้ล้างมือหลังจากใช้ส้วมและหนึ่งในสี่ของคนที่ล้างมือไม่ใช้สบู่. นักวิทยาศาสตร์บอกว่ามือมนุษย์ยังคงเป็นวิธีแพร่เชื้อโรคที่มีให้เห็นดาษดื่นทั่วโลก.
ผ่าตัดทางโทรทัศน์ในอนาคต?
“คนป่วยอยู่ในกรุงโรม ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดจากเมืองมิลาน” เป็นคำอธิบายของ อิล เมสซาเกโร หนังสือพิมพ์รายวันในอิตาลี เมื่อพรรณนา “การทดลองผ่าตัดทางโทรทัศน์ครั้งแรกเท่าที่เคยมีโดยใช้หุ่นยนต์.” ในระยะทางที่ห่างกันหลายร้อยกิโลเมตร โดยการเชื่อมโยงทางโทรศัพท์และจอรับภาพจากกล้องวิดีโอ ศัลยแพทย์จะชี้ “จุดตัดผ่าที่แน่นอน, ส่งสัญญาณให้ลงมือได้ แล้วหุ่นยนต์ก็จะเริ่มดำเนินการ. แขนกลที่ถือมีดผ่าตัดค่อย ๆ เคลื่อนลงบนร่างของคนป่วยและตัดผ่า.” ในสาธิตการผ่าตัดครั้งนี้ที่แสดง ณ การประชุมศัลยกรรมโรม ’92 ผู้ป่วยเป็นแค่หุ่นเนื่องจากกฎหมายของอิตาลีไม่อนุญาตให้เครื่องจักรทำการผ่าตัดมนุษย์ แต่ภายในหกหรือเจ็ดปีข้างหน้า การผ่าตัดทางโทรทัศน์ หรือ “ศัลยกรรมควบคุมจากระยะไกล” อาจเป็นจริงก็ได้. ตามคำกล่าวของ ลิชินิโอ อันเกลินี ศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมทั่วไปประจำมหาวิทยาลัย ลา ซาเปียนซา กรุงโรม บอกว่า ในอนาคต “การเคลื่อนไหวทั้งหมดซึ่งในปัจจุบันปฏิบัติโดยศัลยแพทย์ด้วยความยุ่งยากบ้าง จะมีการมอบให้เครื่องจักรทำแทน.”
เด็กและการเลี้ยงด้วยขวดนม
ประมาณร้อยละ 25 ของเด็กญี่ปุ่นประสบปัญหาเรื่องการกิน. สาเหตุอาจเป็นการเลี้ยงด้วยขวดนม. ตามรายงานของ อาซาฮิ อีฟนิง นิวส์ บอกว่า เป็นเวลากว่า 20 ปีที่ครูโรงเรียนอนุบาลได้สังเกตว่าเด็กบางคนประสบปัญหากับอาหารที่เคี้ยวยาก. เด็กบางคนมีความลำบากในการกลืน, คนอื่นคายออก, และอีกหลายคนนอกนั้นยังอมอยู่ในปากหลังจากการนอนในช่วงบ่าย. แพทย์สังเกตว่ากรามของเด็กเหล่านี้อ่อนแอและคางก็เล็ก. ทันตแพทย์ นาโอฮิโกะ อิโนอูเอะ และผู้ชำนัญพิเศษด้านสาธารณสุข เรอิโกะ ซากาชิตะ อ้างว่าได้มีการสืบสาวสาเหตุไปถึงวัยทารกและโทษการเลี้ยงลูกด้วยขวดนม. ดูเหมือนว่าขณะที่ทารกกินจากขวดนม ทารกเพียงแต่ดูดอย่างเดียวโดยไม่ต้องขยับกรามของตน. แต่เมื่อกินนมแม่ ทารกใช้กรามอย่างกระฉับกระเฉงและออกกำลังกล้ามเนื้อเหล่านั้นที่ต้องใช้ในภายหลังเพื่อเคี้ยวอาหาร.
เอดส์ในปารีส
“ในกรุงปารีส 1 ในทุก ๆ 3 รายที่เสียชีวิตท่ามกลางผู้ชายอายุระหว่าง 25 ถึง 44 ปีเกิดขึ้นเนื่องจากไวรัสเอดส์” เป็นคำกล่าวของหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส เลอ มองด์. สถิติล่าสุดดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้โดย INSERM (สถาบันการค้นคว้าด้านสุขอนามัยและอายุรเวทแห่งชาติฝรั่งเศส). รายงานนั้นเปิดเผยต่อไปว่าระหว่างปี 1983 ถึง 1990 การติดเชื้อไวรัสเอดส์เพิ่มอัตราการเสียชีวิตท่ามกลางคนกลุ่มอายุเดียวกันนี้ถึงร้อยละ 50. ดร. โจนาธาน แมนน์ ผู้อำนวยการของ WHO (องค์การอนามัยโลก) พยากรณ์ว่า “เหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดยังคงรออยู่เบื้องหน้า โรคนี้กำลังระบาดไปทุกหัวระแหง.” ตามรายงานของ WHO ในแต่ละวัน มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกห้าพันคน.