การเพ่งดูโลก
ภาพลักษณ์ของนักเทศน์ในสายตาของประชาชนตกต่ำลง
“ทุกปีตั้งแต่ปี 1988 การสำรวจความเห็นประชาชนโดยแกลลัพแสดงให้เห็นว่า ผู้คนจำนวนมากขึ้นเชื่อว่าศาสนากำลังหมดอำนาจ มากกว่าที่จะเชื่อว่าศาสนามีอิทธิพลมากขึ้น” เป็นข้อสังเกตจากลอส แอนเจลิส ไทมส์. เหตุผลหนึ่งก็คือ ความนิยมที่ประชาชนมีต่อนักเทศน์นักบวชกำลังเสื่อมลง. เมื่อแปดปีที่แล้ว ชาวอเมริกันร้อยละ 67 จัดให้พวกนักเทศน์นักบวชอยู่ในอันดับ “สูง” หรือกระทั่ง “สูงมาก” ในด้านความซื่อสัตย์และมาตรฐานจริยธรรม. การสำรวจในปี 1993 แสดงให้เห็นว่ามีการลดลงเหลือร้อยละ 53. เพราะเหตุใด? เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการประพฤติผิดทางเพศโดยนักเทศน์ทางโทรทัศน์, นักเทศน์โปรเตสแตนต์, และนักบวชคาทอลิก ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของนักเทศน์นักบวชมัวหมอง เช่นเดียวกับประเด็นขัดแย้งเรื่องข้ออ้างในการหาเงินเรี่ยไร. พอมาถึงปี 1988 เภสัชกรอยู่ในอันดับสูงสุดแทนที่นักเทศน์นักบวช เกี่ยวด้วยจริยธรรมในสายตาประชาชน. การสำรวจอีกรายหนึ่งถึงกับแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจเอกชนรวมทั้งคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี อยู่ในอันดับสูงกว่าคริสต์จักรฐานะเป็นแรงจูงใจเพื่อความดี. แต่ประชาชนยังรู้สึกว่านักเทศน์นักบวชซื่อสัตย์กว่านักการเมืองและนักหนังสือพิมพ์.
ความตายที่เกี่ยวเนื่องกับการสูบบุหรี่ลดลงในสหรัฐ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ได้แถลงถึงการลดลงของจำนวนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับการสูบบุหรี่—นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเก็บบันทึกในปี 1985. จำนวนชาวอเมริกันซึ่งเสียชีวิตทุกปีจากการสูบบุหรี่ลดลง 15,000 คน โดยในปี 1990 เหลือจำนวนผู้เสียชีวิต 419,000 คน. ส่วนใหญ่เป็นเพราะการลดลงของโรคหัวใจที่เกิดจากการสูบบุหรี่. ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 42.4 สูบบุหรี่ในปี 1965. เมื่อถึงปี 1990 เหลือร้อยละ 25.5. อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่ยังคงเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของโรคและความตายที่ป้องกันได้ และเพิ่มค่าใช้จ่ายทางสุขอนามัยประมาณ 500,000 ล้านบาทต่อปี. ขณะที่รัฐบาลใช้ประมาณ 25 ล้านบาทต่อปีเพื่อรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ อุตสาหกรรมยาสูบใช้เงิน 100,000 ล้านบาทในการส่งเสริมและโฆษณาให้สูบบุหรี่มากขึ้น. การสูบบุหรี่ลดช่วงอายุตามที่คาดหวังได้ โดยเฉลี่ยห้าปีต่อผู้สูบบุหรี่หนึ่งคน จากรายงานของ CDC.
สัตว์ป่าในอินเดียถูกคุกคาม
เมื่อปีที่แล้ว บรรดาเจ้าหน้าที่ในกระทรวงสหภาพสิ่งแวดล้อมของอินเดียพร้อมที่จะแถลงถึงความสัมฤทธิ์ผลในการช่วยชีวิตเสือลายพาดกลอนเมื่อพบว่าสิ่งตรงกันข้ามกำลังจะเป็นจริง นั่นคือ เสือใกล้จะสูญพันธุ์. เสือประมาณ 1,500 ตัวจากจำนวน 4,500 ตัวที่อยู่ในป่าถูกฆ่าโดยพวกลักลอบตั้งแต่ปี 1988. แทบทุกส่วนของเสือที่ถูกฆ่าจะขายได้ราคาอย่างงามในตลาดมืด—ไม่ว่าจะเป็นหนัง, กระดูก, เลือด, และกระทั่งอวัยวะเพศ. การค้าที่ผิดกฎหมายยังคงผลักไสสัตว์อีกมากมายในอินเดียไปสู่การสูญพันธุ์. จำนวนแรดที่ถูกฆ่าเพื่อเอานอมีมากขึ้นเป็นสองเท่า. ช้างพลายก็ถูกฆ่าเป็นจำนวนมากเพื่อเอางา. เสือดาวทุกชนิดถูกฆ่าเพื่อเอาหนัง ชะมดถูกฆ่าเพื่อเอาต่อมกลิ่นใต้ท้อง และหมีดำถูกฆ่าเพื่อเอาถุงน้ำดี. นอกจากนั้น งูและพวกตะกวดถูกฆ่าเพื่อเอาหนัง ส่วนพังพอนก็เพื่อเอาขนที่แข็งไปทำแปรง. สัตว์อื่น ๆ เช่น เต่าและเหยี่ยว ถูกส่งออกสู่ตลาดค้าสัตว์เลี้ยงที่ผิดกฎหมาย. เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ากลัวจะเกิดอันตรายต่อชีวิตเพราะผู้ลักลอบฆ่าสัตว์มีอาวุธครบมือ.
แผ่นดินไหวก่อความตายในอินเดีย
“พระคเณศ ซึ่งมีเศียรเป็นช้างและร่างเป็นคนพุงพลุ่ย เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่รักยิ่งของชาวฮินดู เป็นเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่และความโชคดี” ตามคำกล่าวในวารสารไทม์. แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเทศกาลสิบวันที่ให้เกียรติแด่เทพเจ้าแห่งความโชคดีองค์นี้สิ้นสุดลง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดียก็ถูกกระหน่ำด้วยแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นเหตุให้บ้านเรือนพังทลายในหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ มากกว่า 50 แห่ง. หมู่บ้านคิลลารี ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดกับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวความแรงวัดได้ 6.4 ตามมาตราริคเตอร์นั้น พังราบถึง 90 เปอร์เซ็นต์. บางแหล่งประมาณว่าจำนวนผู้เสียชีวิตมีมากกว่า 20,000 คน จึงเป็นแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งกระหน่ำอนุทวีปอินเดียในรอบ 58 ปี. ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากแรงของแผ่นดินไหว แต่เกิดจากวิธีก่อสร้างบ้านเรือนที่ล้าสมัยซึ่งส่วนใหญ่ทำจากดินอัดหรืออิฐ พังครืนลงมาและฝังผู้อยู่อาศัย. ยกตัวอย่าง แผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโกเมื่อไม่กี่ปีมานี้วัดได้ 6.9 ตามมาตราริคเตอร์. กระนั้น ได้รับรายงานว่ามีเพียง 67 คนเสียชีวิต ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากหัวใจวายรวมอยู่ด้วย.