การดูแลเอาใจใส่ผู้ประสบโศกนาฏกรรมในรวันดา
รวันดา ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางทวีปแอฟริกา ได้รับการขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา.” ความเขียวชอุ่มที่ผู้คนเห็นเมื่อบินเหนือประเทศนี้ให้ความประทับใจประหนึ่งสวนเอเดน. ไม่แปลกที่พวกเขาเคยพรรณนาถึงประเทศรวันดาว่าเป็นดั่งอุทยาน.
ครั้งหนึ่ง สำหรับต้นไม้ทุกต้นที่ถูกตัด ต้องปลูกทดแทนสองต้น. ปีหนึ่งอุทิศให้กับการปลูกป่าหนึ่งวัน. มีการปลูกไม้ผลเรียงรายตามถนน. การเดินทางไปไหนมาไหนทั่วประเทศก็อิสระเสรีและสะดวกสบาย. ถนนสายหลัก ๆ ซึ่งเชื่อมเมืองต่าง ๆ กับเมืองหลวงคิกาลีนั้นเป็นถนนราดยาง. เมืองหลวงกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว. คนงานโดยทั่วไปมีรายได้เพียงพอที่จะใช้จนถึงสิ้นเดือน.
กิจกรรมฝ่ายคริสเตียนของพยานพระยะโฮวาก็เจริญก้าวหน้าในรวันดาเช่นกัน. ต้นปีที่แล้ว พยานฯ กว่า 2,600 คนมีส่วนในการนำข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าไปสู่ประชากรประมาณแปดล้านคนของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคาทอลิก. (มัดธาย 24:14) ในเดือนมีนาคม พยานฯ นำการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลตามบ้านมากกว่า 10,000 ราย. และมี 15 ประชาคมในคิกาลีและบริเวณใกล้เคียง.
ผู้ดูแลเดินทางคนหนึ่งของพยานพระยะโฮวาให้ข้อสังเกตว่า “ในเดือนพฤศจิกายน 1992 ผมเดินทางเยี่ยม 18 ประชาคม. แต่พอถึงเดือนมีนาคม 1994 มีเพิ่มเป็น 27 ประชาคม. จำนวนไพโอเนียร์ (ผู้เผยแพร่เต็มเวลา) ก็เพิ่มขึ้นแต่ละปีเช่นกัน.” วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 1994 ผู้เข้าร่วมประชุมอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงการวายพระชนม์ของพระคริสต์มี 9,834 คน.
ครั้นแล้ว เพียงชั่วข้ามคืน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างน่าเศร้าในรวันดา.a
ระเบียบแบบแผนสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน
วันที่ 6 เมษายน 1994 ประมาณ 20:00 น. ประธานาธิบดีของรวันดาและบุรุนดี ซึ่งเป็นเผ่าฮูตูทั้งคู่ เสียชีวิตเมื่อเครื่องบินตกในเมืองคิกาลี. คืนนั้น เสียงนกหวีดของตำรวจได้ยินไปทั่วทุกหนทุกแห่งในเมืองหลวง และมีการปิดกั้นถนนหลายสาย. แล้วในช่วงเช้าตรู่ ทหารและบรรดาผู้ชายที่มีมีดพร้าเป็นอาวุธก็เริ่มออกฆ่าผู้คนเผ่าทุตซี. อึนทาบานา เออแชน—ผู้ดูแลนครของพยานพระยะโฮวาในคิกาลี—ภรรยา, ลูกชาย, และลูกสาวของเขาอยู่ในพวกแรกที่ถูกสังหารหมู่.
พยานพระยะโฮวาชาวยุโรปครอบครัวหนึ่งได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับเพื่อนบ้านหลายคนที่เป็นเผ่าทุตซี. เก้าคนจากเพื่อนบ้านเหล่านี้ขอหลบภัยในบ้านของชาวยุโรปครอบครัวนั้นขณะพวกฆาตกรผู้บ้าคลั่งออกไล่ล่าไปตามบ้าน. ในเวลาไม่กี่นาที พวกปล้นสะดมประมาณ 40 คนก็เข้ามาในบ้านดังกล่าว ทุบตีข้าวของและคว่ำเครื่องเรือนล้มระเนระนาด. น่าเศร้า เพื่อนบ้านเผ่าทุตซีเหล่านั้นถูกฆ่าตาย. แต่คนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่พยายามช่วยชีวิตเพื่อน ๆ ของตน กระนั้นได้รับการปล่อยให้หนีเอาชีวิตรอด.
การเข่นฆ่าดำเนินต่อไปหลายสัปดาห์. ในที่สุด ชาวรวันดาประมาณ 500,000 คนหรือกว่านั้นถูกสังหาร. หลายพันคนหนีเพื่อเอาชีวิตรอด โดยเฉพาะพวกทุตซี. สำนักงานสาขาของพยานพระยะโฮวาที่ประเทศซาอีร์แจ้งให้พี่น้องในฝรั่งเศสทราบว่าพวกเขาต้องการสิ่งของบรรเทาทุกข์. สาขาซาอีร์อธิบายว่า “เราขอเสื้อผ้าใช้แล้วหนึ่งตู้คอนเทนเนอร์. พี่น้องในฝรั่งเศสส่งเสื้อผ้าและรองเท้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นของใหม่ให้เราห้า ตู้คอนเทนเนอร์.” วันที่ 11 มิถุนายน เสื้อผ้าจำนวน 65 ตัน ถูกส่งมา. สาขาเคนยาก็ส่งเสื้อผ้าและยาให้ผู้อพยพด้วย พร้อมทั้งวารสารหอสังเกตการณ์ ในภาษาท้องถิ่น.
พอถึงเดือนกรกฎาคม กองกำลังที่เผ่าทุตซีควบคุมอยู่ ซึ่งเรียกกันว่าแนวร่วมรักชาติรวันดา เอาชนะกองกำลังรัฐบาลที่ควบคุมโดยเผ่าฮูตู. จากนั้น พวกฮูตูก็เริ่มหนีออกจากประเทศเป็นแสน ๆ คน. ยังผลเป็นความอลหม่านขณะที่ชาวรวันดาสองล้านหรือกว่านั้นหาที่ลี้ภัยในค่ายซึ่งสร้างขึ้นอย่างลวก ๆ ณ ประเทศเพื่อนบ้าน.
ต่างพยายามช่วยซึ่งกันและกัน
สองในหกคนที่ทำงาน ณ สำนักงานแปลของพยานพระยะโฮวาในคิกาลีเป็นเผ่าทุตซี—อานานี อึมบานดา และ มูคากีซาการา เดอนีส. ความพยายามของพี่น้องเผ่าฮูตูเพื่อปกป้องเขาทั้งสองเป็นผลสำเร็จอยู่สองสามสัปดาห์. แต่พอใกล้สิ้นเดือนพฤษภาคม 1994 พยานฯ เผ่าทุตซีสองคนนี้ก็ถูกสังหาร.
แม้จะเสี่ยงชีวิตและกระทั่งต้องสละชีวิตของตนเอง พยานพระยะโฮวาก็พยายามปกป้องเพื่อนคริสเตียนที่มีภูมิหลังทางชาติพันธุ์ต่างกัน. (โยฮัน 13:34, 35; 15:13) เพื่อเป็นตัวอย่าง มูคาบาลีซา ชานทาล เป็นเผ่าทุตซี. เมื่อสมาชิกแนวร่วมรักชาติรวันดากำลังค้นหาพวกฮูตูในสนามกีฬาที่เธอพักอยู่ เธอเข้าช่วยเพื่อปกป้องเพื่อน ๆ เผ่าฮูตูของเธอ. แม้ว่าความพยายามของเธอทำให้พวกกบฏขัดเคืองใจ แต่คนหนึ่งก็ร้องขึ้นว่า “พวกคุณพยานพระยะโฮวามีภราดรภาพที่เหนียวแน่นจริง ๆ. ศาสนาของพวกคุณเป็นศาสนาที่ดีที่สุดที่มีอยู่!”
ระวังรักษาตัวให้ปราศจากความเกลียดชังทางชาติพันธุ์
ไม่อาจกล่าวได้ว่า พยานพระยะโฮวาปลอดอย่างสิ้นเชิงจากเชื้อความเกลียดชังทางชาติพันธุ์ซึ่งมีมาหลายร้อยปีในแถบนี้ของแอฟริกา. พยานฯ คนหนึ่งจากฝรั่งเศส ซึ่งมีส่วนในงานบรรเทาทุกข์ให้ข้อสังเกตว่า “แม้แต่พี่น้องคริสเตียนของเราก็ต้องออกความพยายามอย่างหนักหน่วงที่จะไม่ติดเชื้อความเกลียดชัง ซึ่งมีส่วนส่งเสริมให้เกิดการสังหารหมู่ที่ไม่อาจพรรณนาได้.
“เราพบพี่น้องซึ่งเห็นครอบครัวของตนถูกสังหารหมู่ต่อหน้าต่อตา. ยกตัวอย่าง พี่น้องหญิงคริสเตียนคนหนึ่งเพิ่งแต่งงานได้เพียงสองวันตอนที่สามีของเธอถูกฆ่า. พยานฯ บางคนเห็นลูก ๆ และบิดามารดาของตนถูกฆ่า. พี่น้องหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเวลานี้อยู่ในยูกันดา เห็นทุกคนในครอบครัวถูกสังหาร รวมทั้งสามีของเธอด้วย. นี้เป็นเพียงบางตัวอย่างที่ช่วยให้เห็นความทุกข์ทรมานทั้งทางอารมณ์และทางกายเด่นชัดขึ้น ซึ่งมีผลกระทบพยานพระยะโฮวาแต่ละครอบครัว.”
โดยรวมแล้ว พยานฯ ประมาณ 400 คนถูกสังหารเนื่องจากความรุนแรงทางชาติพันธุ์. กระนั้น ไม่มีใครในพวกเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเพื่อนพยานฯ ด้วยกัน. อย่างไรก็ตาม สมาชิกคริสตจักรโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ที่เป็นเผ่าฮูตูและทุตซีสังหารผู้คนนับพัน. ดังที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนเป็นอย่างดี พยานพระยะโฮวาทั่วโลกไม่มีส่วน ไม่ว่าในสงคราม, การปฏิวัติ, หรือความขัดแย้งอื่น ๆ ทำนองนี้ของโลก.—โยฮัน 17:14, 16; 18:36; วิวรณ์ 12:9.
ความทุกข์อันสุดจะพรรณนา
ฤดูร้อนที่ผ่านมา ผู้คนทั่วโลกได้เห็นภาพความทุกข์ทรมานของมนุษย์ชนิดแทบไม่น่าเชื่อ. ภาพผู้ลี้ภัยชาวรวันดานับแสนหลั่งไหลเข้าไปในประเทศใกล้เคียง และอยู่ที่นั่นภายใต้สภาพที่ไม่ถูกสุขลักษณะอย่างยิ่ง. พยานพระยะโฮวาคนหนึ่งในหน่วยบรรเทาทุกข์จากฝรั่งเศสพรรณนาสถานการณ์ที่คณะของเขาเห็นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ดังนี้:
“เราต้องเผชิญกับภาพเหตุการณ์ที่สยดสยองยิ่ง. ร่างของคนตายเรียงรายอยู่ตามถนนเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร. หลุมฝังศพรวม แน่นขนัดไปด้วยศพนับพัน ๆ. กลิ่นเหม็นคลุ้งจนไม่อาจจะทนได้ขณะที่เราผ่านฝูงชนที่ชุลมุน ซึ่งมีเด็ก ๆ เล่นอยู่ข้าง ๆ ร่างของคนตาย. มีศพของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ซึ่งลูกยังมีชีวิตและเกาะหลังอยู่. ภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งพบเห็นครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นภาพที่จำฝังใจ. คนเราจะจมมิดอยู่กับความรู้สึกหมดหวังสิ้นท่า และเขาไม่อาจจะนิ่งดูดายอยู่ได้กับขอบข่ายแห่งความสยดสยองและความเศร้ารันทดนี้.”
“เมื่อผู้อพยพนับหมื่นหลั่งไหลเข้าไปในซาอีร์กลางเดือนกรกฎาคม พยานฯ ในซาอีร์ได้ไปที่ชายแดนและชูสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล เพื่อว่าพี่น้องคริสเตียนของตนและผู้สนใจจะหาตัวพวกเขาพบได้. จากนั้น มีการรวบรวมพยานฯ ผู้ลี้ภัยจากรวันดา แล้วพาไปยังหอประชุมในเมืองโกมา ที่อยู่ใกล้ ๆ ที่ซึ่งพวกเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่. พยานฯ ที่มีประสบการณ์ทางการแพทย์ทำงานหนักเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย แม้ว่าไม่มียาเพียงพอและสถานที่ ๆ เหมาะสม.
สนองตอบอย่างฉับไวต่อความทุกข์ยาก
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พยานพระยะโฮวาในฝรั่งเศสได้รับโทรสารขอความช่วยเหลือจากแอฟริกา. โทรสารนั้นพรรณนาถึงสภาพลำบากอย่างแสนสาหัสของพี่น้องคริสเตียนที่หนีออกจากรวันดา. ภายในเวลาห้าหรือสิบนาทีที่ได้รับแจ้ง พวกพี่น้องตัดสินใจที่จะส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปทางเครื่องบินลำเลียงสินค้า. สิ่งนี้นำไปสู่สุดสัปดาห์แห่งการเตรียมการอย่างรีบเร่ง ซึ่งนับว่าน่าทึ่งเป็นพิเศษเมื่อคำนึงถึงการขาดประสบการณ์โดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับการจัดการบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่หลวงเช่นนั้นในเวลาอันสั้น.
มีการตอบรับอย่างท่วมท้นต่อความจำเป็นที่จะต้องมีกองทุนบรรเทาทุกข์. แค่พยานฯ ในเบลเยียม, ฝรั่งเศส, และสวิตเซอร์แลนด์ก็บริจาคกว่า 40,000,000 บาทแล้ว. มีการจัดหาสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ รวมทั้งอาหาร, ยา, และอุปกรณ์ยังชีพ แล้วของทุกอย่างก็ถูกบรรจุกล่องและติดฉลากที่สำนักงานของพยานพระยะโฮวาในเมืองลูวีเอ ฝรั่งเศส. พวกพยานฯ ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้สิ่งของพร้อมสรรพสำหรับการจัดส่งไปยังเมืองออสเทนด์ ประเทศเบลเยียม. ในวันพุธที่ 27 กรกฎาคม ณ สนามบินของเมืองนั้น สิ่งของกว่า 35 ตันถูกบรรทุกบนเครื่องบินไอพ่นลำเลียงสินค้า. วันถัดมา มีการส่งสิ่งของปริมาณน้อยกว่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์. สองวันต่อมาคือในวันเสาร์ อีกเที่ยวบินหนึ่งได้ลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติมให้กับผู้ประสบภัย.
พวกพยานฯ จากฝรั่งเศส รวมทั้งนายแพทย์คนหนึ่ง ไปที่เมืองโกมาล่วงหน้าก่อนสิ่งของที่จัดส่งจำนวนมาก. วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม เมื่อ ดร. อังรี ทาลเล็ต มาถึงเมืองโกมา พยานฯ ประมาณ 20 คนเสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากอหิวาตกโรค และคนอื่น ๆ กำลังเสียชีวิตทุกวัน. เนื่องจากต้องส่งสิ่งของผ่านทางเมืองบูจุมบูรา ประเทศบุรุนดี ซึ่งห่างออกไปประมาณ 250 กิโลเมตร ของเหล่านั้นจึงไม่ถึงเมืองโกมาจนกระทั่งเช้าวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม.
รับมือกับโรคภัย
ในระหว่างนั้น บนที่ดินซึ่งหอประชุมเล็ก ๆ ในเมืองโกมาตั้งอยู่ พยานฯ และเพื่อน ๆ ของพวกเขาประมาณ 1,600 คนอยู่กันอย่างแออัดยัดเยียด. สำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด มีห้องส้วมหนึ่งห้อง, ไม่มีน้ำ, และมีอาหารน้อยมาก. หลายสิบคนที่ติดเชื้ออหิวาต์แออัดอยู่ในหอประชุม. จำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้นเรื่อย ๆ.
อหิวาตกโรคทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ. ตาเริ่มลอยและจากนั้นก็เหลือกขึ้น. หากเริ่มการรักษาโดยให้น้ำทดแทนทันท่วงที ผู้ป่วยจะหายในสองวัน. ฉะนั้น จึงมีการพยายามให้น้ำทดแทนทันทีกับยาที่มีอยู่เล็กน้อยแก่พี่น้องเหล่านั้น.
นอกจากนี้ พวกพี่น้องพยายามแยกผู้ป่วยไว้ต่างหากเพื่อป้องกันไม่ให้ติดผู้อื่น. พวกเขาพยายามย้ายผู้ลี้ภัยออกไปจากสภาพอันเลวร้ายในเมืองโกมา. ได้พบสถานที่ที่เหมาะสมใกล้ทะเลสาบคีวู ซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝุ่นและกลิ่นของซากศพที่ตลบอบอวลอยู่ในอากาศ.
มีการขุดส้วม และตั้งกฎเข้มงวดเกี่ยวกับสุขอนามัย. ทั้งนี้รวมถึงการล้างมือในอ่างน้ำที่ผสมน้ำยาฟอกขาว หลังจากเข้าส้วม. ความสำคัญของมาตรการเหล่านี้ได้รับการเน้นและผู้คนก็ยอมรับสิ่งที่เรียกร้องให้พวกเขาทำ. ไม่ช้า การแพร่ระบาดของโรคมรณะนั้นก็ลดน้อยลง.
เมื่อสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวนมากไปถึงในวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม มีการจัดตั้งโรงพยาบาลเล็ก ๆ ขึ้นที่หอประชุมในเมืองโกมา. มีการตั้งเตียงสนามประมาณ 60 เตียงและระบบกรองน้ำ. นอกจากนี้ ยังได้นำเต็นท์ไปให้พวกพยานฯ ที่อยู่ริมฝั่งทะเลสาบคีวู. ในชั่วเวลาสั้น ๆ พวกเขาตั้งเต็นท์ 50 หลังเรียงเป็นแถวอย่างมีระเบียบเรียบร้อย.
คราวหนึ่ง พยานฯ และเพื่อน ๆ ของพวกเขาประมาณ 150 คนป่วยหนัก. พอถึงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมมากกว่า 40 คนจากจำนวนนี้ได้เสียชีวิตในเมืองโกมา. แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์และความช่วยเหลือมาถึงทันเวลาช่วยชีวิตหลายคน และหยุดความทุกข์ทรมานไปได้มาก.
ชนฝ่ายวิญญาณผู้หยั่งรู้ค่า
พวกผู้ลี้ภัยที่เป็นพยานฯ แสดงความขอบคุณอย่างเหลือล้นสำหรับทุกสิ่งที่ได้ทำเพื่อพวกเขา. พวกเขาซาบซึ้งใจในความรักที่แสดงออกโดยพี่น้องคริสเตียนจากประเทศอื่น ๆ และโดยพยานหลักฐานอันแจ่มชัดที่ว่า พวกเขาเป็นส่วนแห่งภราดรภาพทั่วโลกอย่างแท้จริง.
ทั้ง ๆ ที่ยากลำบาก พวกผู้ลี้ภัยก็ได้รักษาสภาพฝ่ายวิญญาณของตนไว้. ที่จริง ผู้สังเกตการณ์คนหนึ่งให้ข้อสังเกตว่า “พวกเขาดูเหมือนเป็นห่วงที่จะได้อาหารฝ่ายวิญญาณมากกว่าความช่วยเหลือทางวัตถุ แม้ว่าพวกเขามีความต้องการทุกสิ่งอย่างยิ่ง.” ตามคำร้องขอ คู่มือศึกษาคัมภีร์ไบเบิลท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก 5,000 เล่มในภาษารวันดาคือ คีนยารวันดา ถูกส่งไปตามค่ายต่าง ๆ ของผู้ลี้ภัย.b
พวกผู้ลี้ภัยพิจารณาข้อคัมภีร์ทุกวัน และพวกเขาได้จัดประชุมประจำประชาคม. อีกทั้งจัดให้มีการสอนหนังสือแก่พวกเด็ก ๆ ด้วย. ครูฉวยประโยชน์จากชั่วโมงเรียนเหล่านี้สอนกฎเกี่ยวกับสุขอนามัย โดยเน้นว่าการอยู่รอดของชีวิตขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามกฎเหล่านี้.
จำต้องให้การดูแลเอาใส่ใจต่อไป
มีพยานฯ ผู้ลี้ภัยหลายร้อยคนพักอาศัยในที่อื่น ๆ นอกจากเมืองโกมา เช่น เมืองรุตชูรู. ความช่วยเหลือในลักษณะคล้ายกันได้จัดให้แก่พี่น้องเหล่านี้. วันที่ 31 กรกฎาคม คณะตัวแทนของพยานฯ เจ็ดคนบินลงใต้จากเมืองโกมา ไปเมืองบูคาวู ซึ่งมีผู้ลี้ภัยที่เป็นพยานฯ ประมาณ 450 คน. หลายคนในจำนวนนี้มาจากบุรุนดี. อหิวาตกโรคระบาดที่นั่น และมีการให้ความช่วยเหลือเพื่อพยายามไม่ให้ผู้ใดเสียชีวิตในหมู่พี่น้อง.
วันรุ่งขึ้น พวกตัวแทนเดินทางเกือบ 150 กิโลเมตรโดยทางรถยนต์ไปเมืองอูวีรา ประเทศซาอีร์ ซึ่งตามทางมีพยานฯ ประมาณ 1,600 คนในเจ็ดแห่งด้วยกันจากทั้งรวันดาและบุรุนดี. มีการให้คำชี้แนะถึงวิธีที่พวกเขาจะป้องกันตัวเองจากโรคได้. รายงานซึ่งอาศัยผลจากการสำรวจของตัวแทนเหล่านี้กล่าวว่า “เท่าที่ทำกันมา เป็นเพียงการเริ่มต้น และ 4,700 คนซึ่งเวลานี้ได้รับความช่วยเหลือจากเราอยู่ จำต้องได้รับความช่วยเหลือต่อไปอีกหลายเดือน.”
ตามรายงานบอกว่า พอถึงเดือนสิงหาคมพยานฯ หลายร้อยคนได้กลับไปรวันดาแล้ว. กระนั้น บ้านช่องและข้าวของเกือบทั้งหมดถูกปล้นสะดม. ดังนั้น การสร้างบ้านและหอประชุมขึ้นใหม่จึงนับเป็นภารกิจที่ท้าทาย.
ผู้รับใช้ของพระเจ้ายังคงอธิษฐานอย่างแรงกล้าต่อไป เผื่อพี่น้องที่ทนทุกข์อย่างแสนสาหัสในรวันดา. เรารู้ว่า ขณะที่อวสานของระบบสิ่งต่าง ๆ นี้ใกล้เข้ามา ความรุนแรงอาจทวีขึ้น. อย่างไรก็ตาม พยานพระยะโฮวาทั่วโลกจะรักษาความเป็นกลางแบบคริสเตียนต่อไปและแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง.
[เชิงอรรถ]
a โปรดดูวารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 ธันวาคม 1994 เรื่อง “โศกนาฏกรรมในรวันดา—ใครต้องรับผิดชอบ?”
b จัดพิมพ์โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ ออฟ นิวยอร์ก.
[แผนที่หน้า 12]
(รายละเอียดดูจากวารสาร)
รวันดา
คิกาลี
บุรุนดี
ซาอีร์
รุตชูรู
โกมา
ทะเลสาบคีวู
บูกาวู
อูวีรา
ยูกันดา
บูจุมบูรา
[รูปภาพหน้า 15]
ซ้าย: อึนทาบานา เออแชน และครอบครัวถูกสังหารหมู่. ขวา: มูคากิซาการา เดอนีส ซึ่งเป็นเผ่าทุตซีถูกฆ่า แม้พี่น้องเผ่าฮูตูพยายามช่วยชีวิตเธอ.
[รูปภาพหน้า 17]
บน: การดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยที่หอประชุมในเมืองโกมา. ล่างสุด: สิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 35 ตันจัดเตรียมโดยพยานฯ และส่งทางเครื่องบินไอพ่นลำเลียงสินค้า. ล่าง: ใกล้ทะเลสาบคีวู ที่ซึ่งพยานฯ ถูกย้ายไป. ล่างขวา: ผู้ลี้ภัยชาวรวันดา ณ หอประชุมในซาอีร์