ภัยพิบัติโดยไม่รู้ตัวในญี่ปุ่นผู้คนรับมืออย่างไร?
โดยผู้สื่อข่าว ตื่นเถิด! ในญี่ปุ่น
ชั่วเวลาหนึ่งเมืองโกเบในประเทศญี่ปุ่นเป็นเมืองท่าเจริญมั่งคั่งซึ่งมีประชากรราว 1,500,000 คน. แต่ภายใน 20 วินาที แผ่นดินไหวซึ่งวัดขนาดได้ 7.2 ตามมาตราริคเตอร์ก็ได้ทำให้เมืองนั้นส่วนใหญ่กลายเป็นซากปรักหักพัง. อาคารบ้านเรือนหลายหมื่นหลังพังพินาศหรือไม่ก็เสียหาย และผู้คนกว่า 300,000 ไร้ที่อยู่อาศัย.
ภัยพิบัตินั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1995 หนึ่งปีพอดีหลังจากแผ่นดินไหวซึ่งก่อความเสียหายหนักแก่ นอร์ทริจ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และทำให้ 61 คนเสียชีวิต. แผ่นดินไหวที่โกเบก่อแรงสั่นสะเทือนประมาณสองเท่าของครั้งนั้น. ยอดผู้เสียชีวิตกว่า 5,500 คนทำให้แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1923 ซึ่งมีราว 143,000 คนตายในแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ทำลายโตเกียวและโยโกฮามาจนย่อยยับ.
ช่วงเวลาอันน่าสะพรึงกลัว
เมื่อเวลา 5:46 น. ในเช้าวันวิบัตินั้น ริวจิกำลังส่งหนังสือพิมพ์อยู่กลางเมืองโกเบซึ่งตอนนั้นยังมืดอยู่. ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนกับรถไฟแล่นอยู่บนทางรถไฟยกระดับ. ถนนและอาคารต่าง ๆ ไหวขึ้น ๆ ลง ๆ ราวกับคลื่นในทะเล. แล้วไฟฟ้าก็ดับหมด.
ทางหลวงยกระดับพังเอียงกระเท่เร่ ทำให้รถไหลตกลงมาบนถนนข้างล่าง. รางรถไฟบิดงอราวกับแท่งดินเหนียว และรถไฟก็ตกราง. อาคารไม้เก่า ๆ พังราบ และอพาร์ตเมนต์สองชั้นก็เป็นเหมือนอาคารชั้นเดียวในทันใด. ผู้อาศัยในเมืองโกเบส่วนใหญ่ต่างถูกเขย่าให้ตื่น.
เกิดไฟไหม้อย่างฉับพลันและอาคารทั้งบล็อกไหม้หมด. พนักงานดับเพลิงมองอย่างหมดทางช่วย เพราะแผ่นดินไหวทำให้ระบบจ่ายน้ำถูกตัดขาด. ตอนนั้นเอง ความเชื่อเรื่องการก่อสร้างที่ป้องกันแผ่นดินไหวก็พังทลายไป.
การรอดตายหวุดหวิดและโศกนาฏกรรม
ในบริเวณที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผ่นดินไหวนั้นมีพยานพระยะโฮวา 3,765 คนซึ่งสมทบกับ 76 ประชาคม. พอเช้าวันถัดจากแผ่นดินไหว จึงได้รู้แน่ว่า พยานฯ 13 คนกับผู้สมทบซึ่งยังไม่ได้รับบัพติสมา 2 คนเสียชีวิต. (ท่านผู้ประกาศ 9:11) ตอนนั้น ยอดผู้เสียชีวิตที่ตำรวยเผยให้ทราบคือ 1,812 คน แต่ภายในสัปดาห์เดียวยอดก็เพิ่มเป็นกว่า 5,000 คน. เนื่องจากพวกพยานฯ ได้ค้นพบคนที่สมทบกับประชาคมของตนอย่างรวดเร็ว ยอดผู้เสียชีวิตของพวกเขาจึงยังคงเท่าเดิม.
สามีของมิซะโอะออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้า. มิซะโอะบอกว่า “ราวชั่วโมงหนึ่งหลังจากนั้น บ้านก็สั่น กระเบื้องหลังคาหล่นลงมารอบ ๆ ตัวดิฉัน. กระเบื้องแผ่นใหญ่ตรงกลางหลังคาบ้านหล่นลงตรงหมอนใบที่สามีดิฉันหนุนอยู่เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนนั้นเอง.” ตู้ลิ้นชักกับตู้หนังสือล้มลงชนกันเหนือศีรษะมิซะโอะพอดี ก็เลยป้องกันเธอไม่ให้ถูกฝังอยู่ใต้กระเบื้องหลังคา.
เสียงแมวร้องปลุกฮิโระมะสะ เด็กนักเรียนชายอายุ 16 ปีให้ตื่นขึ้น. พอเขาออกไปปล่อยแมวข้างนอกบ้าน แผ่นดินก็ไหว. เมื่อเขากลับมา เขาพบคุณแม่ถูกทับอยู่ใต้โทรทัศน์กับตู้หนังสือ. เขาโล่งใจจริง ๆ ที่เห็นเธอยังมีชีวิตอยู่! ฮิโระมะสะยืมไฟฉายจากเพื่อนบ้านและช่วยคุณแม่ออกมา. หลายพันคนมีเรื่องเล่าถึงการรอดตายอย่างหวุดหวิด. แต่พยานฯ คนอื่น ๆ ต้องประสบเรื่องเศร้าที่เจ็บปวด.
ฮิโระชิกับคะซุ คะเนะโกะ ถูกฝังอยู่ใต้เศษอิฐเศษหินของอพาร์ตเมนต์ที่พังย่อยยับ. สมาชิกประชาคมคริสเตียนรีบเร่งไปยังที่นั่นเพื่อช่วยเหลือ. จนกระทั่ง 10:00 น. ฮิโระชิก็ได้รับการช่วยออกมาและถูกพาไปโรงพยาบาล. แต่คะซุเสียชีวิตไปแล้วเมื่อเธอถูกช่วยออกมาภายหลัง.
มิโยะโกะ เทะชิมะ อายุ 24 ปีและรับบัพติสมาได้เพียงราว ๆ สองปี มีเป้าจะเป็นผู้เผยแพร่เต็มเวลา. ในเช้าวันที่แผ่นดินไหว เธอกำลังหลับอยู่ในชั้นที่หนึ่งของตึกอพาร์ตเมนต์ที่เธออยู่ตอนชั้นที่สองพังลงมา. มิโยะโกะถูกฝังอยู่ใต้จันทันและคาน. คุณพ่อคุณแม่ของเธอกับเพื่อนบ้านพยายามขนเศษอิฐเศษหินออกแต่ทำไม่ได้. คุณแม่เธอซึ่งเป็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลได้ติดต่อพยานพระยะโฮวา ซึ่งก็ได้มาช่วย.
เมื่อมิโยะโกะถูกช่วยออกมาหลังจากถูกฝังอยู่ราวเจ็ดชั่วโมง เธอยังไม่ตาย. คริสเตียนที่เป็นผู้ปกครองสามคนกับแพทย์และพยาบาลผลัดกันนวดหัวใจและผายปอด แต่มิโยะโกะก็ตาย. คุณพ่อของเธอซึ่งเคยต่อต้านความเชื่อของเธอ ถูกกระตุ้นจากการที่พวกพยานฯ พยายามช่วยบุตรสาวของเขา และเขายอมทำตามคำขอของเธอก่อนตายที่ให้จัดงานศพแบบพยานฯ.
ทะกะโอะ จิงกุจิ คริสเตียนผู้ปกครองคนหนึ่ง อยู่กับภรรยาและบุตรสาวที่ชั้นแรกของอพาร์ตเมนต์เก่า. เขาบอกว่า “พอแผ่นดินไหว พื้นชั้นบนก็พังลงมาทับเรา และผมถูกทับอยู่ใต้ตู้หนังสือ. ในที่สุด ผมดึงตัวเองออกมาได้และเริ่มหาทางออกไปข้างนอก. ในทันทีนั้นผมก็ได้ยินเสียง เป็นเสียงของเพื่อนบ้านที่เป็นพยานฯ ที่มาค้นหาเรา.”
พอทะกะโอะสามารถออกมาข้างนอกได้ในที่สุด เขาเห็นไฟที่ไหม้อาคารรอบ ๆ กำลังลามมายังอพาร์ตเมนต์ที่เขาอยู่. ดังนั้น เขาจึงคลานกลับเข้าไปในเศษอิฐเศษปูนและพยายามสุดขีดเพื่อดึงภรรยาเขาออกมา. แต่สายเกินไป เอโกะภรรยาอายุ 26 ปีกับนะโอะมิบุตรสาวสิ้นชีวิตไปแล้ว. ถึงอย่างนั้น เขาก็เริ่มช่วยสมาชิกคนอื่น ๆ ในประชาคมของเขา. ภายหลังเขาบอกว่า “ผมทำอะไรเพื่อครอบครัวไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น ผมจึงหันไปเอาใจใส่ช่วยคนอื่น ๆ. ผมรู้สึกโล่งใจที่พบว่า คนอื่นทุกคนในประชาคมของเราปลอดภัย.”
สภาพการณ์ที่สิ้นหวัง
หลายพันคนไปหลบภัยในโรงเรียนและอาคารสาธารณะ. ด้วยความกลัวการไหวค้าง คนอื่น ๆ ตั้งที่พักข้างนอกหรือไม่ก็นอนในรถยนต์. ทางรถไฟและทางหลวงขาดเป็นช่วง ๆ และถนนที่พอมีเพื่อการขนส่งสิ่งบรรเทาทุกข์ก็ติดขัดด้วยยวดยานเป็นพันเป็นหมื่นคัน. หลายคนแทบไม่มีหรือไม่มีอะไรจะกินเลยเป็นเวลาหลายวัน. แต่ที่น่าทึ่งคือ ไม่มีรายงานเรื่องการช่วงชิงกัน และหลายคนแบ่งปันอาหารที่มีอยู่เล็กน้อยให้แก่กัน.
“นี่มันเหมือนหลังสงครามโลกครั้งที่สองเลยนะ” ชายชราคนหนึ่งซึ่งมีผ้าห่มคลุมตัวอยู่ได้กล่าวด้วยน้ำตาไหลอาบแก้ม. นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายโทะมิอิชิ มุระยะมะ ได้สำรวจความเสียหายและแจ้งว่า “ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้เลย. นี่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็นึกไม่ถึง.”
พวกพยานฯ สนองความจำเป็นทันที
เมื่อเคอิจิ โคะชิโระ คริสเตียนผู้ปกครองคนหนึ่งมาดูในตัวเมืองโกเบในเช้าวันที่แผ่นดินไหวและเห็นความพินาศย่อยยับอันน่ากลัวนั้น เขากลับบ้านและจัดการให้ประชาคมในท้องถิ่นช่วยปรุงอาหารสำหรับเพื่อนคริสเตียนซึ่งได้รับผลกระทบร้ายแรงกว่า. พอตกเย็น เขาก็ขับรถนำอาหารและเครื่องดื่มไปส่งให้ประชาคมต่าง ๆ ที่อยู่ใจกลางเมืองโกเบ. เช้าวันถัดมามีการจัดหาอาหารและน้ำเพิ่มเติมให้อีก. เพราะการจราจรติดขัดมาก พยานฯ จึงจัดขบวนมอเตอร์ไซค์ 16 คันเพื่อส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์.
พยานฯ คนอื่น ๆ อีกหลายคนก็เริ่มค้นหาและช่วยพี่น้องคริสเตียนของตนทันทีเช่นกัน. โทะโมะยุกิ สึโบอิ กับผู้ปกครองอีกคนหนึ่งได้ขับมอเตอร์ไซค์ไปอะชิยะ เมืองที่อยู่ถัดจากโกเบซึ่งเสียหายรุนแรงเช่นกัน. ที่หอประชุมในตัวเมืองอะชิยะ พวกเขาพบว่า โยะชิโนะบุ คุมะดะ ซึ่งเป็นผู้ดูแลหมวด ได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ที่นั่นแล้ว.
มีการติดต่อด้วยโทรศัพท์เพื่อแจ้งให้พวกพี่น้องทราบถึงความจำเป็น และไม่ช้าก็ได้มีการรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ. ไม่นาน รถยนต์เก้าคันซึ่งบรรทุกผ้าห่ม, อาหาร, และน้ำก็มุ่งหน้าไปอะชิยะ. สิ่งของเหล่านี้ถูกนำส่งยังหอประชุมสองแห่งในเมืองนี้ซึ่งมี 40 ถึง 50 คนหลบภัยอยู่. พี่น้องคนอื่น ๆ ได้ที่หลบภัยในบ้านของเพื่อนร่วมความเชื่อ. วันต่อมา พยานฯ ในบริเวณใกล้เคียงก็ได้เตรียมอาหารสำหรับ 800 คน. อาหารที่จัดให้สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นมีมากมาย ดังนั้น พยานฯ จึงแบ่งให้เพื่อนบ้านที่ขาดแคลน.
ทั่วบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว พยานพระยะโฮวาได้มาช่วยเพื่อนร่วมความเชื่อของตนทันที. ทั้งนี้ทำให้ผู้ที่สังเกตเห็นหลายคนประทับใจ. หนึ่งสัปดาห์หลังจากแผ่นดินไหว นักบินเฮลิคอปเตอร์คนหนึ่งมาพบพยานฯ ในโยโกฮามาและกล่าวว่า “ผมไปยังบริเวณที่ประสบภัยในวันที่แผ่นดินไหวและอยู่ที่นั่นสัปดาห์หนึ่ง. พยานพระยะโฮวาเป็นพวกเดียวเท่านั้นที่รีบเร่งไปที่นั่น. ผมประทับใจมากจริง ๆ.”
โครงการบรรเทาทุกข์ถูกจัดขึ้น
ในไม่ช้า สำนักงานสาขาของพยานพระยะโฮวาซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเอะบินะ ญี่ปุ่น ก็ได้ส่งตัวแทนสี่คนไปยังเขตโกเบเพื่อจัดระเบียบงานบรรเทาทุกข์โดยเร็ว. ตัวแทนคนหนึ่งรายงานว่า “เราตกลงใจทันทีที่จะหาหอประชุมที่ไม่ถูกทำลายและส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปที่นั่น. เราหาพบหอประชุมหกแห่ง และภายในห้าชั่วโมงหอประชุมเหล่านี้ก็เต็ม. สิ่งของอื่น ๆ ถูกส่งไปยังหอประชุมใหญ่สองแห่งของพยานพระยะโฮวาในบริเวณใกล้เคียง.”
มีการเปิดบัญชีธนาคารสำหรับกองทุนบรรเทาทุกข์ และประชาคมของพยานพระยะโฮวาทั่วญี่ปุ่นต่างได้รับแจ้ง. ภายในวันทำงานสามวันแรก มีเงินบริจาคเข้ามาถึง 25 ล้านบาท. เงินนั้นถูกแจกจ่ายออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อใช้สำหรับคนที่มีความจำเป็น.
มีการแจ้งให้ประชาคมต่าง ๆ ทราบว่าพวกเขาสามารถรับสิ่งของจำเป็นจากศูนย์บรรเทาทุกข์ที่กำหนดไว้. พวกผู้ปกครองในแต่ละประชาคมได้จัดการแจกจ่ายสิ่งของให้สมาชิกที่มีความจำเป็นซึ่งอยู่ในประชาคมที่เขาดูแล. สมาชิกที่ไม่เป็นพยานในครอบครัวของพยานฯ ก็ไม่ได้ถูกละเลย. มีผู้ได้ยินบิดาของคริสเตียนผู้ปกครองซึ่งอยู่ในบริเวณที่ได้รับผลเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ชอบพวกพยานพระยะโฮวา พูดอวดทางโทรศัพท์กับญาติ ๆ ว่า “พวกที่อยู่ศาสนาเดียวกับลูกชายฉันมาช่วยพวกเรา!”
ความช่วยเหลือที่มากกว่าสิ่งฝ่ายวัตถุ
การประชุมของคริสเตียนได้มีการจัดขึ้นทันที. ประชาคมหนึ่งชุมนุมกันในสวนสาธารณะเพื่อการประชุมในวันอังคาร วันที่เกิดแผ่นดินไหวนั้นแหละ. พอถึงวันอาทิตย์ ประชาคมส่วนใหญ่ในบริเวณที่ได้รับผลกระทบก็ได้จัดการศึกษาหอสังเกตการณ์ ตามปกติ ทั้งเป็นกลุ่มเล็กและในหอประชุมซึ่งรอดจากความเสียหายร้ายแรง. เหมาะเจาะทีเดียวที่วารสารฉบับ 1 ธันวาคม 1994 ที่ใช้ศึกษาในสัปดาห์นั้นมีการพิจารณาสิทธิพิเศษแห่งการใช้โภคทรัพย์ “เพื่อช่วยผู้ประสบภัยธรรมชาติ.” สตรีผู้หนึ่งซึ่งอยู่ที่การประชุมได้ให้ความเห็นดังนี้: “เป็นครั้งแรกที่เราเป็นฝ่ายได้รับการบรรเทาทุกข์. ดิฉันเต็มตื้นด้วยความรู้สึกขอบคุณจนไม่รู้จะพูดอย่างไร. เมื่อเรากลับคืนสู่สภาพปกติ ดิฉันจะทำส่วนของฉันในการให้.”
พวกตัวแทนจากสำนักงานสาขาใช้มอเตอร์ไซค์เพื่อเยี่ยมบริเวณที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด. ตัวแทนคนหนึ่งแจ้งว่า “น่าสะเทือนใจที่เห็นพี่น้องร้องไห้. พวกเขาจะบอกเราว่า ‘เราไม่ได้ร้องไห้เพราะเราสูญเสียทุกอย่างไป แต่เพราะเรารู้สึกประทับใจเนื่องจากพวกพี่น้องเดินทางไกลจากเอะบินะมาเยี่ยมเรา.’”
ภายใน 24 ชั่วโมงที่เกิดแผ่นดินไหว คณะกรรมการปกครองของพยานพระยะโฮวาในบรุกลิน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รวมทั้งสำนักงานสาขาในส่วนอื่น ๆ ของโลก ได้ส่งข่าวแสดงความห่วงใย. ข่าวสารเช่นนั้นอีกมากมายได้เข้ามาในวันต่อ ๆ มา. โทรภาพจากประชาคมวังจูตะวันตก สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสูญเสียสมาชิก 15 คนในเหตุไฟไหม้จากการขว้างระเบิดเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ สะเทือนใจเป็นพิเศษ.a โทรภาพนั้นลงท้ายว่า “ความเจ็บปวดของพี่น้องในโกเบก็เป็นความเจ็บปวดและความเสียใจของเรา. โปรดจำไว้ว่า เช่นเดียวกับที่พวกเราได้ประสบ คุณไม่ได้อยู่เพียงลำพังเมื่อคุณมีความทุกข์. พี่น้องที่รัก อย่ายอมแพ้!”
ตัวแทนจากสาขาได้เตรียมการเพื่อสนับสนุนฝ่ายวิญญาณอย่างต่อเนื่อง. ตัวอย่างเช่น ได้มีการมอบหมายผู้ดูแลเดินทางเพิ่มเติมให้มายังเขตโกเบชั่วคราวเพื่อให้การหนุนกำลังใจ. และยังมีการเชิญคริสเตียนผู้ปกครองจากส่วนอื่น ๆ ในญี่ปุ่นด้วยเพื่อให้มาเยือนโกเบคราวละหนึ่งสัปดาห์หรือราว ๆ นั้นเพื่อให้การเกื้อหนุนฝ่ายวิญญาณและด้านอารมณ์แก่คนเหล่านั้นที่กำลังลำบาก.
ด้วยความเอาใจใส่และการหนุนกำลังเช่นนั้นจากเพื่อนร่วมความเชื่อทั่วโลก พวกพยานฯ ในบริเวณที่ได้รับผลกระทบนั้นจึงคงไว้ซึ่งเจตคติในด้านดีและหยั่งรู้ค่า. หลังจากเข้าร่วมการประชุมแรกภายหลังแผ่นดินไหว พยานฯ คนหนึ่งกล่าวว่า “เรารู้สึกกังวลนิดหน่อยจนถึงเมื่อวานนี้ เพราะเราไม่รู้ที่จะไป. แต่เมื่อมาที่นี่และได้ฟังการจัดเตรียมด้วยความกรุณาที่มีขึ้นเพื่อประโยชน์ของพวกเรา ซึ่งรวมถึงบริการซักรีด, ที่อาบน้ำ, และการใช้หอประชุมใหญ่เป็นที่พักชั่วคราว ทำให้เราคลายกังวลจริง ๆ. นี่เป็นองค์การของพระเจ้าอย่างแท้จริง!”
จริง ๆ แล้ว การเน้นในด้านความมั่งคั่งฝ่ายวิญญาณได้ช่วยพวกพยานฯ ให้รับมือได้. หญิงสาวอายุ 20 กว่าปีผู้หนึ่งกล่าวว่า “คุณแม่สอนดิฉันตั้งแต่ดิฉันอายุสามขวบให้ไว้วางใจพระยะโฮวา. การฝึกอบรมจากท่านและที่ได้รับโดยทางประชาคมคริสเตียนได้ช่วยดิฉันให้ทนกับประสบการณ์ที่ลำบากนี้ได้.”
จัดการสร้างใหม่
บ้านของพยานฯ ประมาณ 350 หลังเสียหายหนักหรือไม่ก็พังพินาศ หนึ่งร้อยหลังเป็นบ้านส่วนตัว. บ้านอีกกว่า 630 หลังของพยานฯ ต้องได้รับการซ่อมแซมเล็กน้อย. นอกจากนี้ หอประชุมสิบแห่งเสียหายมากจนใช้ไม่ได้.
มีการจัดเตรียมอย่างรวดเร็วเพื่อการสร้างหอประชุมขึ้นใหม่สำหรับประชาคมที่สูญเสียหอประชุมของตนไป. และคณะกรรมการการก่อสร้างภูมิภาค 11 คณะในญี่ปุ่นต่างก็จัดทีมของตนซึ่งมี 21 คนเพื่อซ่อมแซมบ้านที่เสียหายของพยานฯ.
สัญลักษณ์แห่งยุค
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งยิ่งขึ้น. วารสารแม็กคลีนส์ ให้ข้อสังเกตว่า “ปีที่แล้วปีเดียวมีแผ่นดินไหวหลายครั้ง [ในญี่ปุ่น] ซึ่งใหญ่กว่าครั้งนี้ในโกเบ.” ครั้งหนึ่งคือแผ่นดินไหวใหญ่ซึ่งมีขนาดพลังแรงถึง 8.1 แต่เกิดในเขตที่มีประชากรประปรายในภาคเหนือ.
การที่มีแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเช่นนั้นไม่ได้ทำให้พยานพระยะโฮวาประหลาดใจ. ทันทีหลังจากแผ่นดินไหวเขย่าบ้านของเขาในโกเบ อัตสึชิ อายุห้าขวบเดินไปมาพูดว่า “จะมีแผ่นดินไหวแห่งแล้วแห่งเล่า”! (มาระโก 13:8, ล.ม.) เขาเรียนรู้คำพยากรณ์นี้จากคุณแม่. พระเยซูคริสต์ได้ทรงรวมเอาแผ่นดินไหวไว้เป็นส่วนหนึ่งแห่ง “สัญลักษณ์แห่งการประทับของพระองค์และช่วงอวสานของระบบนี้.” ส่วนอื่น ๆ ของสัญลักษณ์นั้นรวมถึงสงคราม, การขาดแคลนอาหาร, โรคระบาด, และความรักของคนส่วนใหญ่จะเย็นลง.—มัดธาย 24:3-14, ล.ม.; 2 ติโมเธียว 3:1-5.
แผ่นดินไหวที่โกเบเป็นเพียงพยานหลักฐานเพิ่มขึ้นว่า เรากำลังมีชีวิตอยู่ในสมัยสุดท้ายของโลกนี้. น่ายินดี สิ่งนี้เป็นส่วนแห่งสัญลักษณ์ที่พระเยซูตรัสซึ่งกำลังสำเร็จเป็นจริงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งพิสูจน์ว่าอีกไม่ช้าโลกนี้จะถูกแทนที่ด้วยโลกใหม่ที่ชอบธรรม.—1 โยฮัน 2:17.
[เชิงอรรถ]
a ดูตื่นเถิด! (ภาษาอังกฤษ) ฉบับ 22 เมษายน 1993 หน้า 25-27.
[รูปภาพหน้า 23]
ทะกะโอะ จิงกุจิ สูญเสียครอบครัวของเขาในซากหักพังเหล่านี้
[รูปภาพหน้า 24]
สถานีรถไฟที่พังพินาศ
[รูปภาพหน้า 24, 25]
สะพานลอยที่พังทลาย
[รูปภาพหน้า 26]
พวกพยานฯ จัดโครงการบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว