ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต96 8/2 น. 11-13
  • ระวังการเป็นคนไม่ชอบอ่าน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • ระวังการเป็นคนไม่ชอบอ่าน
  • ตื่นเถิด! 1996
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ผล​ประโยชน์​ของ​การ​อ่าน
  • ทัศนะ​ที่​สมดุล
  • วิธี​ที่​บิดา​มารดา​สามารถ​ช่วย​ได้
  • คัมภีร์​ไบเบิล—เครื่อง​ช่วย​อัน​วิเศษ
  • ทำไมการอ่านถึงสำคัญสำหรับเด็ก?—ตอน 1: อ่านหรือดู?
    คำ​แนะ​นำ​สำหรับ​ครอบครัว
  • จง​เอา​ใจ​ใส่​การ​อ่าน
    การรับประโยชน์จากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
  • การรับประโยชน์จากการอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1995
  • การอ่านคัมภีร์ไบเบิล—ได้ประโยชน์และน่าเพลิดเพลิน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2000
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1996
ต96 8/2 น. 11-13

ระวัง​การ​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​อ่าน

ปัญหา​ใหม่​อย่าง​หนึ่ง​ใน​เรื่อง​การ​อ่าน​กำลัง​ซัด​กระหน่ำ​โลก​ของ​เรา​อย่าง​กว้างขวาง. ปัญหา​นี้​เรียก​ว่า​การ​ไม่​ชอบ​อ่าน. มี​การ​นิยาม​ว่า​เป็น “คุณภาพ​หรือ​สถานภาพ​ของ​การ​เป็น​ผู้​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​อ่าน แต่​ไม่​สนใจ​อ่าน.” (พจนานุกรม เมร์เรียม-เว็บสเตอร์ส คอลลิจิเอต, ฉบับ​พิมพ์​ครั้ง​ที่​สิบ)a ใช่​แล้ว การ​อ่าน—ซึ่ง​ครั้ง​หนึ่ง​คน​เรา​เคย​ทำ​เพื่อ​ความ​เพลิดเพลิน—ปัจจุบัน​มัก​จะ​ถูก​เมิน​เสมือน​งาน​น่า​เบื่อ. เด็ก​หญิง​วัย 12 ขวบ​คน​หนึ่ง​บ่น​ดัง​นี้: “คุณ​ต้อง​ออก​แรง​ที่​จะ​อ่าน และ​มัน​ไม่​สนุก​เอา​เสีย​เลย.”

ผู้​ใหญ่​หลาย​คน​ก็​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​อ่าน​เช่น​กัน. ยก​ตัว​อย่าง ใน​สหรัฐ​ซึ่ง​อวด​อ้าง​ว่า​มี​อัตรา​คน​อ่าน​ออก​เขียน​ได้​ถึง 97 เปอร์เซ็นต์ แต่​กระนั้น ประมาณ​ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​ผู้​ใหญ่​ชาว​อเมริกัน​แทบ​จะ​ไม่​อ่าน​หนังสือ​หรือ​นิตยสาร​เลย! เป็น​ที่​ชัดเจน​ว่า ความ​สามารถ​ใน​การ​อ่าน​ใช่​ว่า​จะ​คู่​กัน​ไป​เสมอ​กับ​ความ​อยาก​อ่าน. สิ่ง​นี้​เป็น​จริง​แม้​กระทั่ง​ใน​หมู่​ผู้​มี​การ​ศึกษา​อย่าง​ดี. ผู้​สำเร็จ​การ​ศึกษา​จาก​มหาวิทยาลัย​ฮาร์วาร์ด​คน​หนึ่ง​พูด​ว่า “เมื่อ​ผม​กลับ​บ้าน​หลัง​จาก​เหนื่อย​กับ​งาน​มา​ทั้ง​วัน ผม​จะ​เปิด​ทีวี​แทน​การ​หยิบ​หนังสือ​มา​อ่าน. มัน​ทำ​ได้​ง่าย​กว่า.”

เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​การ​อ่าน? ใน​ทศวรรษ​หลัง ๆ นี้ ความ​นิยม​ชม​ชอบ​ตก​ไป​อยู่​กับ​สื่อ​ที่​ตะครุบ​เอา​ความ​สนใจ​ไป. สแตรตฟอร์ด พี. เชอร์แมน เขียน​ใน​นิตยสาร​ฟอร์จูน​ว่า “เดี๋ยว​นี้ การ​ที่​เรา​มี​มิวสิควีดิโอ​ดู​ทาง​ทีวี—และ​เรา​มี​เครื่อง​บันทึก​วีดิโอ​เทป อีก​ทั้ง​วีดิโอ​เกมส์​นินเทนโด และ​หู​ฟัง​วอล์กแมน—ความ​คาด​หวัง​ที่​จะ​อ่าน​หนังสือ​อย่าง​เป็น​การ​เป็น​งาน​ดู​ไม่​ง่าย​เหมือน​ที่​เคย​เป็น​ใน​สมัย​เมื่อ​สิ่ง​ต่าง ๆ ไม่​เร่ง​รีบ.” บาง​ที​คู่​ปรับ​ของ​การ​อ่าน​ที่​บริโภค​เวลา​มาก​ที่​สุด​ก็​คือ โทรทัศน์. ที่​จริง คน​อเมริกัน​พอ​อายุ​ได้ 65 ปี​เขา​จะ​ใช้​เวลา​ถึง​เก้า​ปี ของ​ช่วง​ชีวิต ใน​การ​ดู​ทีวี!

เนื่อง​จาก​บำเหน็จ​ของ​การ​อ่าน​บ่อย​ครั้ง​เสีย​ไป​กับ​จอ​ที่​มี​แสง​วับ ๆ จึง​เป็น​การ​ดี​ที่​จะ​พิจารณา​สิ่ง​ต่อ​ไป​นี้.

ผล​ประโยชน์​ของ​การ​อ่าน

การ​อ่าน​กระตุ้น​จินตนาการ. โทรทัศน์​คิด​แทน​คุณ. ทุก​สิ่ง​นำ​เสนอ​อย่าง​กระจ่าง​ชัด เช่น การ​แสดง​ออก​ทาง​ใบ​หน้า, ความ​สูง​ต่ำ​ของ​น้ำ​เสียง, และ​ฉาก.

แต่​เมื่อ​อ่าน คุณ​เป็น​ผู้​เลือก​ตัว​แสดง, เป็น​ผู้​จัด​ฉาก, และ​กำกับ​ท่า​ทาง. เด็ก​ชาย​อายุ 10 ขวบ​คน​หนึ่ง​พูด​ว่า “คุณ​มี​อิสระ​มาก​ที​เดียว. คุณ​สามารถ​มโนภาพ​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​ตัว​ละคร​แต่​ละ​ตัว​ตรง​ตาม​ที่​คุณ​ต้องการ​ให้​เขา​เป็น. เมื่อ​คุณ​อ่าน​หนังสือ​คุณ​สามารถ​ควบคุม​สิ่ง​ต่าง ๆ ได้​มาก​กว่า​การ​ดู​จาก​จอ​ทีวี.” ตาม​ที่​นาย​แพทย์​บรูโน เบตเติลไฮม์ ได้​ตั้ง​ข้อ​สังเกต “โทรทัศน์​ดึงดูด​จินตนาการ แต่​ไม่​ให้​อิสระ​ที่​จะ​คิด. หนังสือ​ดี ๆ สัก​เล่ม​ให้​ทั้ง​อิสระ​และ​แรง​กระตุ้น​แก่​จิตใจ.”

การ​อ่าน​ช่วย​พัฒนา​ทักษะ​การ​ใช้​คำ​พูด. เรจินัลด์ แดเมอร์รอล ประจำ​มหาวิทยาลัย​แมสซาชูเซตส์ ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “ไม่​มี​เด็ก​หรือ​ผู้​ใหญ่​คน​ไหน​กลาย​เป็น​ผู้​มี​ทักษะ​ดี​ขึ้น​ด้วย​การ​ดู​ทีวี​มาก​ขึ้น. ทักษะ​ที่​ต้อง​ใช้​เพื่อ​ดู​ทีวี​นั้น​พื้น​ฐาน​มาก ซึ่ง​ยัง​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ว่า​มี​ใคร​ดู​ทีวี​ไม่​เป็น.”

ใน​ทาง​ตรง​ข้าม การ​อ่าน​เรียก​ร้อง​และ​ช่วย​พัฒนา​ทักษะ​การ​ใช้​คำ​พูด มัน​เชื่อม​โยง​อย่าง​แยก​ไม่​ออก​กับ​การ​พูด​และ​การ​เขียน. ครู​ภาษา​อังกฤษ​ของ​โรง​เรียน​มัธยม​แห่ง​หนึ่ง​พูด​ว่า “ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​เลย​ว่า​การ​เป็น​นัก​เรียน​ที่​ประสบ​ความ​สำเร็จ ขึ้น​อยู่​อย่าง​มาก​กับ​การ​รู้​คำ​ศัพท์​ของ​คุณ ทั้ง​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​สามารถ​เข้าใจ​เมื่อ​คุณ​อ่าน และ​ใน​วิธี​ที่​คุณ​หา​เหตุ​ผล​เมื่อ​คุณ​เขียน และ​ไม่​มี​ทาง ที่​จะ​พัฒนาการ​ใช้​คำ​ศัพท์​ที่​ดี​นอก​จาก​การ​อ่าน—ไม่​มี​วิธี​ใด​อื่น​เลย.”

การ​อ่าน​ส่ง​เสริม​ความ​อด​ทน. ภาพ​มาก​กว่า​หนึ่ง​พัน​ภาพ​อาจ​จะ​ฉาย​ผ่าน​ทาง​จอ​ทีวี​ใน​เวลา​แค่​หนึ่ง​ชั่วโมง ให้​เวลา​ผู้​ชม​เพียง​น้อย​นิด​เพื่อ​ไตร่ตรอง​สิ่ง​ที่​เขา​กำลัง​ชม. นาย​แพทย์​แมตทิว ดูมองต์ กล่าว​ว่า “วิธี​การ​นี้ โดย​แท้​จริง​แล้ว​ทำ​ให้​เรา​มี​ช่วง​เวลา​สำรวม​ไตร่ตรอง​สั้น.” ไม่​แปลก​ที่​การ​ศึกษา​วิจัย​บาง​ราย​เชื่อม​โยง​การ​ดู​ทีวี​มาก​เกิน​ไป​เข้า​กับ​การ​ตัดสิน​ใจ​หุนหัน​และ​อาการ​กระสับกระส่าย​อยู่​ไม่​สุข—ทั้ง​ใน​เด็ก​และ​ผู้​ใหญ่.

การ​อ่าน​เรียก​ร้อง​ความ​อด​ทน. นีล โพสต์​แมน ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​สื่อ​ความ​เขียน​ว่า “ประโยค, วรรค, และ​หน้า​หนังสือ ค่อย ๆ คลี่คลาย​เป็น​ลำดับ และ​สอดคล้อง​กับ​การ​คิด​หา​เหตุ​ผล​ซึ่ง​ไกล​ลิบลับ​จาก​สิ่ง​ที่​คิด​ได้​เอง​โดย​สัญชาตญาณ. ด้วย​อัตรา​ความ​เร็ว​ของ​ตน​เอง ผู้​อ่าน​จะ​ต้อง​ตี​ความ, ประเมิน, และ​ไตร่ตรอง​สิ่ง​ที่​อยู่​บน​หน้า​กระดาษ. การ​อ่าน​เป็น​กระบวนการ​ถอด​ความ​ที่​ซับซ้อน ซึ่ง​เรียก​ร้อง—และ​ช่วย​พัฒนา—ความ​อด​ทน.

ทัศนะ​ที่​สมดุล

ถึง​แม้​การ​อ่าน​จะ​มี​ประโยชน์ แต่​ก็​ต้อง​ยอม​รับ​ว่า​โทรทัศน์​มี​ข้อ​ดี​เช่น​กัน. มัน​อาจ​เหนือ​กว่า​การ​อ่าน​ใน​เรื่อง​การ​ถ่ายทอด​ข้อมูล​บาง​ชนิด.b การ​นำ​เสนอ​เรื่อง​ราว​ทาง​ทีวี​ที่​น่า​ตรึง​ใจ​อาจ​ถึง​กับ​กระตุ้น​ความ​สนใจ​ให้​อยาก​อ่าน​ได้. สารานุกรม​อเมริกานา กล่าว​ว่า “มี​การ​รายงาน​ว่า​รายการ​ทีวี​ที่​นำ​เอา​วรรณคดี​และ​วิทยาศาสตร์​สำหรับ​เด็ก​มา​แสดง​อย่าง​น่า​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ ส่ง​ผล​ให้​พวก​เด็ก ๆ เสาะ​หา​หนังสือ​และ​เรื่อง​ราว​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สิ่ง​นั้น​มา​อ่าน.”

ทัศนะ​ที่​สมดุล​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ยิ่ง. หนังสือ​และ​โทรทัศน์ เป็น​สื่อ​สอง​ชนิด​ที่​แตกต่าง​กัน. แต่​ละ​ชนิด​มี​พลัง​แฝง​อยู่​ใน​ตัว​เอง​และ​มี​ข้อ​จำกัด. แต่​ละ​ชนิด​สามารถ​ก่อ​ประโยชน์—หรือ​ให้​โทษ​ได้. ใช่​แล้ว การ​อ่าน​มาก​เกิน​ไป​ถึง​จุด​ที่​แยก​ตัว​เอง​อยู่​ต่าง​หาก​อาจ​ก่อ​ความ​เสียหาย​เช่น​เดียว​กับ​การ​ดู​ทีวี​มาก​เกิน​ไป.—สุภาษิต 18:1; ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:12.

กระนั้น การ​อ่าน​มัก​จะ​ถูก​ดู​เบา​โดย​เอา​ความ​บันเทิง​เชิง​ทัศนาการ​เข้า​มา​แทน​ที่. ผู้​พิมพ์​ผู้​โฆษณา​ชาว​ญี่ปุ่น​คน​หนึ่ง​ครวญ​ว่า “เรา​กำลัง​เปลี่ยน​จาก​วัฒนธรรม​แห่ง​การ​เป็น​นัก​อ่าน​สู่​การ​เป็น​นัก​ชม.” สิ่ง​นี้​สังเกต​เห็น​ได้​โดย​เฉพาะ​ใน​หมู่​เยาวชน. ผล​ก็​คือ พวก​เขา​หลาย​คน​โต​ขึ้น​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​อ่าน และ​จึง​ประสบ​ผล​อัน​ขมขื่น​ใน​ภาย​หลัง. ฉะนั้น บิดา​มารดา​จะ​ช่วย​ลูก ๆ ของ​ตน​ให้​พัฒนา​ความ​อยาก​อ่าน​ได้​อย่าง​ไร?

วิธี​ที่​บิดา​มารดา​สามารถ​ช่วย​ได้

วาง​ตัว​อย่าง. บทความ​หนึ่ง​ใน​วารสาร​นิวส์วีก ซึ่ง​มี​ชื่อ​ว่า “วิธี​เลี้ยง​ดู​นัก​อ่าน​ที่​ดี” ให้​คำ​เตือน​ตรง​จุด​ดัง​นี้: “ถ้า​คุณ​เป็น​คน​ที่​ดู​ทีวี​หาม​รุ่ง​หาม​ค่ำ ลูก​ของ​คุณ​คง​จะ​เป็น​เช่น​นั้น​ด้วย. ใน​ทาง​ตรง​ข้าม ถ้า​ลูก​ของ​คุณ​เห็น​คุณ​คุด​คู้​อยู่​กับ​หนังสือ​ดี ๆ อย่าง​มี​ความ​สุข พวก​เขา​ก็​จะ​ได้​แง่​คิด​ว่า คุณ​ไม่​เพียง​แต่​เทศน์​ปาว ๆ ว่า​ให้​อ่าน ๆ แต่​คุณ​ปฏิบัติ​ให้​เห็นด้วย.” ดี​ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก บิดา​มารดา​บาง​คน​อ่าน​ออก​เสียง​ให้​ลูก ๆ ของ​ตน​ฟัง. การ​ทำ​เช่น​นี้ บิดา​มารดา​จึง​ก่อ​พันธนะ​อัน​อบอุ่น​ขึ้น​มา—อะไร​บาง​อย่าง​ซึ่ง​ปัจจุบัน​ขาด​ไป​อย่าง​น่า​เศร้า​ใน​หลาย​ครอบครัว.

ริเริ่ม​จัด​ทำ​ห้อง​สมุด. “มี​หนังสือ​อยู่​ราย​รอบ—มี​หนังสือ​ให้​มาก ๆ” นาย​แพทย์​ทีโอดอร์ ไอซิก รู​บิน เสนอ​แนะ. “ผม​จำ​ได้​ว่า​ได้​อ่าน​หนังสือ​เหล่า​นั้น เพราะ​มัน​หา​อ่าน​ได้​ง่าย และ​เพราะ​ว่า​คน​อื่น ๆ ก็​อ่าน​ด้วย.” เด็ก ๆ จะ​อ่าน​ถ้า​มี​หนังสือ​พร้อม​ให้​อ่าน. แรง​กระตุ้น​ให้​อยาก​อ่าน​จะ​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​ด้วย​ซ้ำ ถ้า​หนังสือ​เหล่า​นั้น​อยู่​ใน​ห้อง​สมุด​ส่วน​ตัว​ของ​เขา​เอง.

ทำ​ให้​การ​อ่าน​น่า​เพลิดเพลิน. มี​การ​พูด​กัน​ว่า ถ้า​เด็ก​ชอบ​อ่าน​เขา​ก็​ชนะ​ศึก​แห่ง​การ​เล่า​เรียน​ไป​ครึ่ง​หนึ่ง​แล้ว. ดัง​นั้น จง​ทำ​ให้​การ​อ่าน​เป็น​ประสบการณ์​ที่​น่า​เพลิดเพลิน​สำหรับ​ลูก​ของ​คุณ. โดย​วิธี​ใด? ประการ​แรก จำกัด​เวลา​ใน​การ​ดู​โทรทัศน์ เพราะ​มัน​แทบ​จะ​มี​ชัย​เหนือ​การ​อ่าน​เสมอ. ประการ​ที่​สอง สร้าง​บรรยากาศ​ที่​เอื้ออำนวย​ต่อ​การ​อ่าน คือ​ให้​มี​ช่วง​เวลา​และ​บริเวณ​ที่​เงียบ​สงบ อย่าง​เช่น ห้อง​สมุด​ส่วน​ตัว​พร้อม​ด้วย​แสง​ไฟ​สว่าง ๆ ชวน​ให้​อยาก​อ่าน. ประการ​ที่​สาม อย่า​บีบ​บังคับ​ให้​อ่าน. จัด​หา​หนังสือ​และ​โอกาส​ที่​จะ​อ่าน​ไว้​ให้​พร้อม แต่​ให้​เด็ก​พัฒนา​ความ​อยาก​อ่าน​ขึ้น​มา.

บิดา​มารดา​บาง​คน​เริ่ม​อ่าน​ให้​ลูก ๆ ของ​ตน​ฟัง​ตั้ง​แต่​อายุ​ยัง​น้อย. สิ่ง​นี้​อาจ​เป็น​ประโยชน์​ได้. ผู้​เชี่ยวชาญ​บาง​คน​บอก​ว่า พอ​ถึง​อายุ​สาม​ขวบ​เด็ก​จะ​เข้าใจ​ส่วน​ใหญ่​ของ​ภาษา​ที่​เขา​จะ​ใช้​ใน​การ​สนทนา​ปกติ​ทั่ว​ไป​แบบ​ผู้​ใหญ่—ถึง​แม้​เขา​ยัง​ไม่​สามารถ​พูด​คำ​เหล่า​นั้น​ออก​มา​ได้​อย่าง​คล่องแคล่ว. หนังสือ​สาม​ปี​แรก​ของ​ชีวิต (ภาษา​อังกฤษ) บอก​ว่า “เด็ก ๆ เริ่ม​เข้าใจ​ภาษา และ​เรียน​รู้​ด้วย​อัตรา​เร็ว​กว่า​ที่​พวก​เขา​เรียน​รู้​การ​ใช้​ภาษา​โดย​การ​พูด.” คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง​ติโมเธียว​ว่า “ตั้ง​แต่​เป็น​ทารก​มา ท่าน​ได้​รู้​จัก​คำ​จารึก​อัน​ศักดิ์สิทธิ์.” (2 ติโมเธียว 3:15, ล.ม.) คำ infant (ทารก) มี​รากศัพท์​มา​จาก​คำ​ภาษา​ลาติน​ว่า infans ซึ่ง​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร​คือ “คน​ที่​ไม่​พูด.” ใช่​แล้ว ติโมเธียว​ได้​ยิน​ถ้อย​คำ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​นาน​ก่อน​ที่​ท่าน​สามารถ​พูด ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​ได้.

คัมภีร์​ไบเบิล—เครื่อง​ช่วย​อัน​วิเศษ

หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​แง่​ของ​วรรณคดี (ภาษา​อังกฤษ) บอก​ว่า “คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ชุด​ผล​งาน​ทาง​วรรณคดี​ที่​น่า​ยกย่อง​เกรง​ขาม.” ที่​จริง หนังสือ 66 เล่ม​ที่​ประกอบ​กัน​เป็น​คัมภีร์​ไบเบิล​บรรจุ​ไว้​ด้วย​บท​กวี, บทเพลง, และ​เรื่อง​ราว​ทาง​ประวัติศาสตร์ ซึ่ง​ทั้ง​ผู้​เยาว์​และ​ผู้​สูง​อายุ​สามารถ​เรียน​รู้​ได้. (โรม 15:4) นอก​จาก​นั้น คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง “มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​เป็น​ประโยชน์​เพื่อ​การ​สั่ง​สอน เพื่อ​การ​ว่า​กล่าว เพื่อ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เรียบร้อย เพื่อ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม.”—2 ติโมเธียว 3:16, ล.ม.

ใช่​แล้ว หนังสือ​ซึ่ง​มี​อยู่​พร้อม​สำหรับ​การ​อ่าน​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​ต่อ​ชีวิต​ก็​คือ คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ด้วย​เหตุ​ผล​ที​ดี กษัตริย์​ยิศราเอล​แต่​ละ​องค์​ได้​รับ​การ​เรียก​ร้อง​ให้​มี​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ส่วน​ตัว และ “จะ​ต้อง​อ่าน​พระ​บัญญัติ​นั้น​มิ​ได้​ขาด​จน​สิ้น​ชีวิต.” (พระ​บัญญัติ 17:18,19) และ​ท่าน​ยะโฮซูอะ​ได้​รับ​พระ​บัญชา​ให้​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ด้วย “เสียง​เบา ๆ”—นั่น​คือ​อ่าน​ให้​ตัว​เอง​ได้​ยิน​ด้วย​การ​ออก​เสียง​แผ่ว ๆ—“ทั้ง​กลางวัน​กลางคืน.”—ยะโฮซูอะ 1:8, ล.ม.

จริง​อยู่ บาง​ส่วน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​อ่าน​ไม่​ง่าย. ส่วน​เหล่า​นั้น​อาจ​เรียก​ร้อง​การ​สำรวม​จิตใจ. พึง​รำลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​ท่าน​เปโตร​เขียน​ไว้​ที่​ว่า “ดุจ​ดัง​ทารก​ที่​พึ่ง​คลอด จง​ปลูกฝัง ความ​ปรารถนา​จะ​ได้​น้ำ​นม​อัน​ไม่​มี​อะไร​เจือ​ปน​ที่​เป็น​ของ​พระ​คำ.” (1 เปโตร 2:2, ล.ม.) ด้วย​การ​ฝึกฝน ความ​โน้ม​เอียง​ที่​จะ​ได้ “น้ำ​นม” แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สามารถ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ที่​เป็น​ไป​ตาม​ธรรมชาติ​เช่น​เดียว​กับ​สัญชาตญาณ​ของ​ทารก​ที่​โหย​หา​น้ำ​นม​มารดา. ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​สามารถ​ปลูกฝัง​ได้.c มัน​เป็น​ความ​พยายาม​ที่​ให้​ผล​คุ้มค่า. ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​เขียน​ไว้​ว่า “พระ​วจนะ​ของ​พระองค์​เป็น​โคม​สำหรับ​เท้า​ของ​ข้าพเจ้า, และ​เป็น​แสง​สว่าง​ตาม​ทาง​ของ​ข้าพเจ้า.” (บทเพลง​สรรเสริญ 119:105) เรา​ทุก​คน​ต้องการ​การ​นำ​ทาง​เช่น​นั้น​มิ​ใช่​หรือ​ใน​ยุค​ที่​ยุ่งยาก​ลำบาก​ของ​เรา​นี้?

[เชิงอรรถ]

a การ​ไม่​ชอบ​อ่าน (aliteracy) คน​ละ​อย่าง​กับ “การ​ไม่​รู้​หนังสือ” (illiteracy) ซึ่ง​อย่าง​หลัง​หมาย​ถึง “การ​ไร้​ความ​สามารถ​ที่​จะ​อ่าน​หรือ​เขียน.”

b เนื่อง​จาก​ตระหนัก​ถึง​ข้อ​ดี​ดัง​กล่าว เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์​จึง​ได้​เพิ่ม​ตลับ​วีดิทัศน์​เรื่อง​ราว​หลาก​หลาย​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เข้า​กับ​ผลิตภัณฑ์​สิ่ง​พิมพ์.

c เพื่อ​ช่วย​ให้​เด็ก ๆ ก่อ​ความ​กระหาย​ความ​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล สมาคม​ว็อชเทาเวอร์​จึง​ได้​ผลิต​เครื่อง​ช่วย​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เข้าใจ​ได้​ง่าย เช่น หนังสือ​ของ​ฉัน​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​ราว​ใน​พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล และ​หนังสือ การ​รับ​ฟัง​ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่. หนังสือ​ทั้ง​สอง​เล่ม​นี้​หา​ฟัง​ได้​ใน​รูป​ของ​เทป​คาสเซ็ตต์ (ภาษา​อังกฤษ) ด้วย.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์