การเพ่งดูโลก
ชาวคาทอลิกร้องเรียนถึงโปป
ในปลายปี 1995 ชาวคาทอลิกในเยอรมนีได้เตรียมคำร้องให้ปฏิรูปคริสตจักรนั้น ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ซืดดอยท์เช ไซทุง. คำร้องนั้นซึ่งมีการเซ็นชื่อโดย 1.6 ล้านคนเรียกร้องให้คริสตจักรนั้นอนุญาตนักบวชให้สมรสได้, เปิดโอกาสให้สตรีเป็นนักบวชได้, และปรับเปลี่ยนทัศนะเรื่องพฤติกรรมทางเพศและการคุมกำเนิด. “บุคคลที่เราร้องเรียนถึงจริง ๆ คือโปป” เป็นคำอธิบายของ คริสติอัน ไวส์เนอร์ ผู้ริเริ่มการร้องเรียนนี้. หนังสือพิมพ์นั้นกล่าวว่า คาร์ล เลมันน์ ประธานสมัชชาบิชอปเยอรมันไม่เห็นด้วยเลยกับคำร้องนั้น โดยอ้างว่าจะนำไปสู่การแตกกันเป็นสองขั้วระหว่างคาทอลิกอนุรักษ์นิยมและปฏิรูปนิยม. อย่างไรก็ตาม เลมันน์ได้เดินทางไปถึงวาติกันและเสนอผลของการร้องเรียนแก่โปป.
“ระเบิดเวลาทีบี”
วัณโรค (ทีบี) ชนิดใหม่ซึ่งดื้อยาหลายอย่างกำลังสังหาร 10,000 คนทุกสัปดาห์ในอินเดีย หนังสือพิมพ์อินเดียน เอกซ์เพรส รายงาน. ตามคำกล่าวของเครก เคลาต์ แห่งองค์การอนามัยโลก อินเดีย “กำลังนั่งอยู่บนระเบิดเวลาทีบี.” ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแบคทีเรียวัณโรคถึง 1,750 ล้านคน. ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งซึ่งรวบรวมมาจาก 40 ประเทศเพื่อการประชุมที่สนับสนุนโดยวารสารทางการแพทย์ของบริเตนเดอะ แลนเซต กล่าวว่า บริษัทผลิตยาไม่ยอมลงทุนที่จำเป็นเพื่อนำยาตัวใหม่สู่ตลาดเพราะรายที่ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาที่ยากจน.
หนูน้อยและเทคโนโลยี
“เด็กจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รู้คอมพิวเตอร์ก่อนรู้หนังสือ” หนังสือพิมพ์เดอะ โกลบ แอนด์ เมล์แห่งแคนาดารายงาน. หนูน้อยบางคนซึ่งยังไม่หัดเดินหรือที่ยังพูดไม่เป็นก็ใช้คอมพิวเตอร์แล้ว. แม้แต่ทารกที่ยังนั่งเองไม่ได้ก็รับการสอนทักษะทางเทคโนโลยีขณะนั่งบนตักบิดามารดา. การรีบเร่งสอนทักษะคอมพิวเตอร์ให้ทารกบ่อยครั้งมาจากบิดามารดาผู้ซึ่งอยากให้ลูกของตนเรียนเก่งในโรงเรียน. นอกจากนั้น บริษัทซอฟต์แวร์หลายแห่งโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตนว่าเป็นเครื่องช่วยในการเรียนรู้สำหรับเด็ก. แต่บิดามารดาบางคนมีข้อกังขาเกี่ยวกับการเน้นการโต้ตอบกับเครื่องแทนที่จะเป็นคนตอนที่อายุยังน้อยเช่นนั้น. ดังที่มารดาคนหนึ่งได้กล่าว “เราไม่พัฒนาสายสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ ยังไง ๆ ดิฉันก็ไม่คิดว่าเราควรทำเช่นนั้น.”
ทางออกที่ไม่เสียเงิน
ในประเทศญี่ปุ่น จำนวนศพมนุษย์ที่อุทิศให้แก่การวิจัยทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้นในช่วงปีหลัง ๆ นี้. ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะ เดลี โยมิอูริกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า “ต้องใช้หนึ่งศพต่อนักศึกษาแพทย์สองคนและ [หนึ่งศพ] ต่อนักศึกษาทันตแพทย์สี่คน ซึ่งทำให้ศพที่ต้องการทั่วประเทศมีจำนวน 4,500 ศพต่อปี.” แต่เหตุใดมีผู้คนที่ต้องการอุทิศศพของตนมากกว่าจำนวนที่ต้องการจริง ๆ? การขาดแคลนที่ดินสำหรับหลุมศพ และการอ่อนลงของความผูกพันในครอบครัวคือเหตุผลบางอย่างที่ยกขึ้นมาอ้าง.
ผู้ป่วยโรคเอดส์ในสหรัฐมีมากกว่า 500,000 ราย
มาจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 1995 นับเป็นครั้งแรกที่จำนวนทั้งสิ้นของผู้ป่วยโรคเอดส์ในสหรัฐที่มีการรายงานได้พุ่งเลยระดับครึ่งล้าน ตามคำกล่าวของวารสารแพทยสมาคมแห่งอเมริกา. จากจำนวนนี้ 311,381 คนคือ 62 เปอร์เซ็นต์ได้เสียชีวิตแล้วเนื่องจากโรคนี้. เหตุการณ์ที่น่าเศร้าอีกอย่างคือการแพร่เอดส์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเพศสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเพศ. วารสารนี้แสดงว่า ตั้งแต่ 1981 ถึง 1987 อัตราส่วนของผู้หญิงที่ป่วยด้วยโรคเอดส์มีเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ กระนั้น จาก 1993 ถึง 1995 จำนวนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 18 เปอร์เซ็นต์.
แสงอาทิตย์ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น
การให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาในอาคารมากขึ้นทำให้ “การบังเกิดผลเพิ่มขึ้น” และ “เสียวันทำงานน้อยกว่าเนื่องจากคนขาดงาน” หนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัลรายงาน. การออกแบบอาคารโดยให้แสงอาทิตย์ผ่านเข้ามาในที่ทำงานซึ่งเดิมทีได้นำมาใช้เพื่อเป็นวิธีประหยัดพลังงานนั้น ให้ผลตอบแทนอย่างใหญ่หลวงโดยทำให้ลูกจ้างมีกำลังใจเพิ่มขึ้น. ตัวอย่างเช่น เมื่อบรรษัทล็อกฮีด ยักษ์ใหญ่ด้านการสร้างเครื่องบิน ได้เปิดสำนักงานใหม่ในซันนีเวล แคลิฟอร์เนีย การออกแบบที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน “ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานทั้งหมดครึ่งต่อครึ่ง.” แต่สิ่งที่ล็อกฮีดไม่ได้คาดหมายคือ ลูกจ้างชอบสิ่งแวดล้อมใหม่ของตนมากถึงขนาดที่ “การขาดงานลดลง” 15 เปอร์เซ็นต์. ผลประโยชน์จากการให้แสงอาทิตย์ผ่านเข้ามาในอาคารมากขึ้นก็ไม่ถูกมองข้ามจากพ่อค้าปลีกเช่นกัน. พ่อค้าคนหนึ่งพบว่าการขาย “สูงขึ้นอย่างน่าสังเกต” ในห้างร้านที่ใช้แสงธรรมชาติเมื่อเทียบกับการใช้แสงเทียม.
โลกที่เฝ้าสังเกตน้ำ
“สงครามในศตวรรษหน้าจะเป็นการสู้รบกันเรื่องน้ำ” เป็นคำเตือนของอิสมาอีล เซรากิลดิง รองประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อมแห่งธนาคารโลก. ตามคำกล่าวของเซรากิลดิง มีถึง 80 ประเทศแล้วที่มีภาวะขาดน้ำซึ่งคุกคามสุขภาพและเศรษฐกิจ. แต่ปัญหาใช่ว่าโลกมีน้ำไม่เพียงพอ. “ปริมาณน้ำสะอาดทั้งหมดบนแผ่นดินโลกมีมากกว่าความต้องการทั้งสิ้นที่อาจนึกออกได้ของประชากรมนุษย์” เป็นคำกล่าวของนักอุทกศาสตร์โรเบิร์ต อัมโบรจี. วิกฤตการณ์ส่วนใหญ่เกิดจากการด้อยประสิทธิภาพในการจัดการกับน้ำ. ครึ่งหนึ่งของน้ำที่ใช้ในการชลประทานซึมลงไปใต้ดินหรือระเหย. น้ำในระบบประปาของเมืองรั่วออก 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และบางครั้งก็มากกว่าด้วยซ้ำ. วารสารดิ อิโคโนมิสต์กล่าวว่า “สักวันหนึ่งก็คงต้องถือว่าน้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าเช่นเดียวกับน้ำมัน ไม่ใช่ของฟรีอย่างอากาศ.
นอนหลับปราศจากความเจ็บปวด
ยาแก้ปวดที่ขายโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์บางชนิดอาจทำให้นอนไม่หลับ จดหมายข่าวเรื่องอาหารและโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัยทัฟตส์รายงาน. “ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะยาแก้ปวดยี่ห้อดังบางยี่ห้อมีสารกาเฟอีนเท่ากับกาแฟถ้วยหนึ่งหรือมากกว่า.” กาเฟอีน—สารกระตุ้นอ่อน ๆ—มักใส่ในแอสไพรินและยาแก้ปวดอื่นเพื่อเสริมประสิทธิผล. ที่จริง บางยี่ห้อซึ่งเป็นที่นิยมมีสารกาเฟอีนถึง 130 มิลลิกรัมต่อยาสองเม็ด. นั่น “มีมากกว่านักเมื่อเทียบกับ 85 มิลลิกรัมที่พบใน” กาแฟถ้วยปกติ. จดหมายข่าวนี้จึงแนะว่าควรตรวจสลากยาแก้ปวดหา “ส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์” เพื่อจะดูว่ามีสารกาเฟอีนหรือไม่.
บวก “วินาทีอธิกสุรทิน” ในปี 1995
ดูเหมือนว่าการหมุนรอบตัวเองของโลกไม่ใช่วิธีคำนวณเวลาที่วางใจได้ที่สุด. ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะ นิว ยอร์ก ไทมส์นักวิทยาศาสตร์มีวิธีคำนวณเวลาที่แม่นยำกว่า คือใช้อะตอมธาตุซีเซียม. อะตอมธาตุซีเซียมซึ่งมีการนำมาใช้เป็นชีพจรของนาฬิกาอะตอม สั่นสะเทือนอย่างเที่ยงตรง 9,192,631,770 รอบต่อวินาที. ในอัตรานี้นาฬิกาอะตอมจึงมี “อัตราผิดพลาดประมาณหนึ่งวินาทีใน 370,000 ปี.” เมื่อเปรียบเทียบกัน การหมุนรอบตัวเองของโลกเที่ยงตรงน้อยกว่าถึงประมาณหนึ่งล้านเท่า ซึ่งเป็นเหตุที่ต้องบวก “วินาทีอธิกสุรทิน” เป็นครั้งเป็นคราว. คณะเจ้าหน้าที่นานาชาติที่คำนวณเวลาได้ตัดสินที่จะบวก “วินาทีอธิกสุรทิน” ดังกล่าวตอนท้ายของปี 1995. ทั้งนี้ทำให้ “การหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์ของเรากับการรุดหน้าของเวลา” ตรงกัน. แต่แน่ละ นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถรับเกียรติจากการค้นพบนี้. ว่ากันตามจริง “การเคลื่อนที่ของอนุภาคย่อยในอะตอมของนาฬิกาเป็นการเลียนแบบขนาดจิ๋วของระเบียบอันน่าทึ่งแห่งระบบดาวเคราะห์” ไทมส์กล่าว.
ขโมยไม่ถูกลงโทษ
ตามสถิติประจำปี 1994 ในประเทศอิตาลี “ผู้ที่ทำการปล้นมีโอกาสถึง 94 เปอร์เซ็นต์ที่จะพ้นการลงโทษ” และ “ผู้ที่ทำการปล้นโดยใช้ความรุนแรงมีโอกาสถึง 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะไม่ถูกลงโทษ” หนังสือพิมพ์ลา เรพุบบลีการายงาน. ตัวเลขนี้ได้มาจากรายงานที่ผู้มีอำนาจทางตุลาการได้รับจากเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมาย. หากนับรวมการขโมยหลายรายที่ไม่มีการแจ้งความ เปอร์เซ็นต์ของอาชญากรรมที่ไม่มีการลงโทษก็จะสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ.