ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต96 8/11 น. 12-15
  • ความจริงคืนชีวิตให้ดิฉัน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • ความจริงคืนชีวิตให้ดิฉัน
  • ตื่นเถิด! 1996
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • โรค​พิษ​สุรา​เรื้อรัง​และ​สิ่ง​เสพย์ติด
  • ครั้น​แม่​รู้​เรื่อง
  • รับ​การ​ช่วยเหลือ​จาก​ผู้​เชี่ยวชาญ​เฉพาะ​ทาง
  • ยัง​คง​เป็น​คน​สารเลว​ของ​ครอบครัว
  • เกือบ​ได้​พบ​ความ​จริง
  • ความ​จริง​ช่วย​ชีวิต​ไว้
  • เลี่ยง​ความ​เจ็บ​ปวด
  • ฉันมีสันติสุขกับพระเจ้าและกับแม่
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2015
  • “พระยะโฮวาพระองค์ทรงพบหนูแล้ว!”
    ตื่นเถิด! 2004
  • มรดกล้ำค่าสำหรับคริสเตียน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1993
  • ทำไมฉันกับพ่อแม่เถียงกันอยู่เรื่อย?
    คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 1
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1996
ต96 8/11 น. 12-15

ความ​จริง​คืน​ชีวิต​ให้​ดิฉัน

เพื่อน​เก่า​ของ​ดิฉัน​ส่วน​ใหญ่ เสีย​ชีวิต​ไป​เพราะ​โรค​เอดส์. ก่อน​หน้า​ที่​พวก​เขา​จะ​ตาย ดิฉัน​มัก​จะ​เจอ​พวก​เขา​บ่อย ๆ ตาม​ถนน. ดิฉัน​ก็​เช่น​กัน​คง​ตาย​ไป​แล้ว​หาก​ไม่​ใช่​เพราะ​ความ​จริง. ขอ​ให้​ดิฉัน​ชี้​แจง.

ดิฉัน​เกิด​วัน​ที่ 11 ธันวาคม 1954 เป็น​ลูก​คน​ที่​สอง​และ​เป็น​คน​สุด​ท้อง​ของ​จอห์น​กับ​โดโรที ฮอร์รี. พ่อ​แม่​ตั้ง​ชื่อ​ดิฉัน​ว่า​โดโลเรส แต่​ตอน​เกิด​แม่​ก็​เรียก​ดิฉัน​ว่า​ดอลลี เพราะ​แม่​คิด​ว่า​ดิฉัน​คล้าย​ตุ๊กตา. ใคร​ต่อ​ใคร​เรียก​ชื่อ​เล่น​นี้​จน​ติด​ปาก แต่​คง​ไม่​มี​ใคร​นึก​ภาพ​ว่า​ดิฉัน​จะ​กลาย​เป็น​ตัว​แสบ​ก่อ​ปัญหา​ให้​แม่.

เรา​อาศัย​อยู่​ใน​อพาร์ตเมนต์​แบบ​รถไฟ ที่​เรียก​อย่าง​นี้​เพราะ​ลักษณะ​บ้าน​ที่​เรา​อยู่​เป็น​ห้อง​ยาว, และ​แคบ, ตั้ง​อยู่​บน​ถนน​สาย​ที่ 61 ใน​นคร​นิวยอร์ก. อพาร์ตเมนต์​นี้​ไม่​น่า​อยู่​นัก; มี​หนู​เข้า​มา​อยู่​ใน​ห้อง​ด้วย. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คืน​หนึ่ง​หลัง​จาก​ดิฉัน​ถูก​หนู​กัด เรา​ก็​ย้าย​ออก​จาก​ที่​นั่น​ทันที.

ปี 1957 เรา​ย้าย​ไป​อยู่​ทาง​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​เกาะ​แมนฮัตตัน​ตอน​ใต้. เมื่อ​เปรียบ​เทียบ​กับ​ที่​ซึ่ง​เรา​เพิ่ง​ย้าย​ออก​มา ที่​นี่​นับ​ว่า​เยี่ยม—ห้อง​นอน​น่า​อยู่​หลาย​ห้อง, มอง​ออก​นอก​หน้าต่าง​ห้อง​ดิฉัน​ก็​เห็น​สวน​สาธารณะ​ที่​กว้างขวาง, อีก​ทั้ง​มอง​เห็น​ทิวทัศน์​แม่น้ำ​อีสต์​ด้วย. ดิฉัน​สามารถ​เฝ้า​ดู​เรือ​ขึ้น​ล่อง​ตาม​ลำ​น้ำ, ดู​เด็ก ๆ เตะ​บอล​และ​เล่น​เบส​บอล​ใน​สวน​สาธารณะ. ใช่ สำหรับ​ดิฉัน​ที่​นี่​คือ​อุทยาน. ครั้น​แล้ว โลก​ที่​มั่นคง​ปลอด​ภัย​ของ​ดิฉัน​ก็​เริ่ม​พัง​ทลาย.

โรค​พิษ​สุรา​เรื้อรัง​และ​สิ่ง​เสพย์ติด

พ่อ​กับ​แม่​มี​ปาก​มี​เสียง​กัน​บ่อย. ที​แรก​ดิฉัน​ไม่​เข้าใจ​สาเหตุ แต่​แล้ว​ก็​เริ่ม​สังเกต​ว่า​พ่อ​เมา​เหล้า​ตลอด​เวลา. พ่อ​ไม่​สามารถ​จะ​ทำ​งาน​ที่​ไหน​ได้​นาน. และ​มี​แม่​เพียง​คน​เดียว​ที่​ทำ​งาน. เมื่อ​เพื่อน​ดิฉัน​รู้​ว่า​พ่อ​ติด​เหล้า การ​เยาะเย้ย​จาก​เพื่อน​ฝูง​ทำ​ให้​ชีวิต​ดิฉัน​ระทม​ทุกข์.

สภาพการณ์​ยิ่ง​เลว​ร้าย​ลง​เรื่อย ๆ. ท้าย​ที่​สุด พ่อ​กลาย​เป็น​คน​ที่​ใช้​ความ​รุนแรง และ​แม่​ได้​ไล่​พ่อ​ออก​จาก​บ้าน. ดัง​นั้น พวก​เรา​จึง​กลาย​เป็น​ครอบครัว​ที่​มี​แต่​แม่. ดิฉัน​อายุ​ราว ๆ แปด​หรือ​เก้า​ขวบ และ​มี​ความ​รู้สึก​ร้าว​ราน​ใจ​เพราะ​สภาพ​ครอบครัว​แบบ​นี้. แม่​ต้อง​ทำ​งาน​ตัว​เป็น​เกลียว​เพื่อ​มี​ราย​ได้​พอ​ประทัง​ชีวิต ปล่อย​ให้​พี่​สาว​กับ​ดิฉัน​อยู่​กับ​เพื่อน​บ้าน​หลัง​จาก​เลิก​เรียน.

พอ​ขึ้น​ชั้น​ประถม​หก ดิฉัน​เป็น​เด็ก​ดื้อ​รั้น​มาก. ดิฉัน​หนี​เรียน​ไป​เที่ยว​เล่น​ใน​สวน​สาธารณะ​ทอมป์คินส์​สแควร์​ที่​อยู่​ใกล้ ๆ และ​ริ​ดื่ม​เหล้า​เพื่อ​จะ​ได้​ลืม​ปัญหา. ใน​ไม่​ช้า​ดิฉันก็​เริ่ม​คบ​กับ​กลุ่ม​เพื่อน​ที่​อายุ​มาก​กว่า. ดิฉัน​อายุ​เพียง 11 ขวบ​แต่​โต​เกิน​อายุ ดัง​นั้น บาง​คน​อาจ​คิด​ว่า​ดิฉัน​อายุ 16 หรือ 17 ปี. เพื่อน​ฝูง​หน้า​ใหม่​กลุ่ม​นี้​ดื่ม​เหล้า, สูบ​กัญชา, ใช้​ยา​แอลเอสดี และ​ฉีด​เฮโรอีน. ดิฉัน​อยาก​ทำ​ตัว​เอง​ให้​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ของ​เพื่อน ๆ ฉะนั้น ดิฉัน​จึง​ริ​ลอง​ใช้​สาร​เสพย์ติด​เหล่า​นี้. ครั้น​อายุ 14 ปี ดิฉัน​ต้อง​พึ่ง​สาร​เสพย์ติด​ดัง​กล่าว​เพื่อ​ทำ​งาน​ได้​ตาม​ปกติ.

ครั้น​แม่​รู้​เรื่อง

“ฉัน​คลอด​แก​ออก​มา​ดู​โลก และ​ฉัน​จะ​เอา​ชีวิต​แก.” นี่​คือ​คำ​พูด​ของ​ผู้​เป็น​แม่​ใน​ละแวก​บ้าน​ของ​เรา ซึ่ง​ล้วน​ได้​รับ​ความ​เจ็บ​ช้ำ​และ​ผิด​หวัง​เพราะ​ลูก. แม่​ดิฉัน​ซึ่ง​ปกติ​แล้ว​เป็น​คน​ใจ​เย็น​และ​หนักแน่น ครั้น​ได้​มา​รู้​ว่า​ลูก​ตัว​เอง​วัย 14 ปี​ติด​เฮโรอีน ท่าน​บอก​ว่า​ท่าน​จะ​ทำ​อย่าง​คำ​พูด​นั้น​แหละ​คือ​ฆ่า​ดิฉัน​เสีย.

ดิฉัน​วิ่ง​เข้า​ห้อง​น้ำ​และ​พยายาม​จะ​ปิด​ประตู​ให้​แน่น​โดย​เอา​ขา​ยัน​อ่าง​อาบ​น้ำ แต่​ช้า​ไป. ตอน​นี้​ดิฉัน​ต้อง​แย่​แน่ ๆ! ไม่​จำเป็น​ต้อง​บอก​ก็​ได้​ว่า​ดิฉัน​ถูก​หวด​อย่าง​รุนแรง​ที่​สุด. ที่​ดิฉัน​รอด​จาก​ความ​โมโห​ของ​แม่​มา​ได้​เพราะ​พี่​สาว​กับ​ผู้​หญิง​ที่​รายงาน​เรื่อง​ของ​ดิฉัน​ให้​แม่​รู้​ได้​เข้า​ไป​ใน​ห้อง​น้ำ​แล้ว​ยับยั้ง​แม่​ไว้ ดิฉัน​จึง​รอด​ตัว​หนี​ออก​จาก​อพาร์ตเมนต์​ไป​ได้. เมื่อ​ดิฉัน​กลับ​บ้าน​ใน​เวลา​ต่อ​มา—หลัง​จาก​หนี​ไป​สอง​สาม​วัน—ดิฉัน​ตก​ลง​รับ​การ​ช่วยเหลือ​เพื่อ​แก้​ปัญหา​การ​เสพย์ติด.

รับ​การ​ช่วยเหลือ​จาก​ผู้​เชี่ยวชาญ​เฉพาะ​ทาง

ต่อ​มา​อีก​ราว ๆ สอง​สาม​เดือน ดิฉัน​เห็น​การ​โฆษณา​ทาง​ทีวี​เกี่ยว​กับ​สถาน​บำบัด​ผู้​ติด​ยา​เสพย์ติด. คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​อย่าง​แท้​จริง​เพื่อ​เอา​ชนะ​ปัญหา​การ​ติด​ยา​สามารถ​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ. ดิฉัน​ปรึกษา​กับ​แม่ และ​ท่าน​ส่ง​ดิฉัน​เข้า​ศูนย์​แห่ง​หนึ่ง​ใน​นคร​นิวยอร์ก. ศูนย์​แห่ง​นี้​จัด​บรรยากาศ​ให้​เป็น​แบบ​ครอบครัว​เพื่อ​คน​ที่​รับ​การ​บำบัด​จะ​ได้​รับ​แรง​กระตุ้น​เพื่อ​ปรับ​เปลี่ยน​รูป​แบบ​ชีวิต​ทั้ง​สิ้น​ของ​ตัว​เอง. ดิฉัน​อยู่​ที่​ศูนย์​นั้น​ประมาณ​สอง​ปี​ครึ่ง.

ถึง​แม้​ดิฉัน​ได้​ประโยชน์​จาก​การ​ช่วยเหลือ​ที่​จัด​เตรียม​ไว้ แต่​ก็​ผิด​หวัง​มาก​เมื่อ​รู้​ว่า​เจ้าหน้าที่​บาง​คน​ซึ่ง​ดิฉัน​ไว้​ใจ​และ​นับถือ—และ​คาด​ว่า​เขา​คง​ได้​เลิก​ใช้​สิ่ง​เสพย์ติด​ใด ๆ—แต่​เขา​หัน​ไป​ใช้​อีก. ดิฉัน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ถูก​หลอก​และ​โง่​ด้วย. พวก​เขา​สอน​ว่า​ภาษิต​เก่า​ที่​ว่า “เสพย์​ยา​ครั้ง​หนึ่ง​แล้ว​จะ​เสพย์​เรื่อย​ไป” เป็น​ความ​เท็จ. พอ​มา​ตอน​นี้​ดิฉัน​ถือ​ว่า​พวก​เขา​เป็น​ข้อ​พิสูจน์​ที่​มี​ชีวิต​ว่า​ภาษิต​ข้อ​นี้​จริง.

กระนั้น​ก็​ดี เมื่อ​อายุ 17 ปี ดิฉัน​กลับ​ไป​อยู่​บ้าน​อย่าง​คน​ที่​เลิก​ยา​ได้ และ​ตั้งใจ​ประพฤติ​ตน​ให้​ดี​ที่​สุด จะ​ไม่​เสพย์​เฮโรอีน​อีก. ระหว่าง​นั้น แม่​และ​พี่​สาว​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ยัง​คง​เป็น​คน​สารเลว​ของ​ครอบครัว

ถึง​แม้​ดิฉัน​เลิก​ใช้​ยา​เสพย์ติด​แล้ว​ก็​ตาม ดิฉัน​ยัง​คง​สำนึก​ว่า​ตน​เป็น​คน​สารเลว​ใน​ครอบครัว. ทั้ง​นี้​เนื่อง​จาก​ดิฉัน​ไม่​พร้อม​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​กฎ​ระเบียบ​ใหม่​ของ​บ้าน ซึ่ง​รวม​ไป​ถึง​การ​ห้าม​สูบ​บุหรี่, ห้าม​การ​เข้า​ไป​ใน​สถาน​ดิสโก และ​อื่น ๆ. จาก​นั้น​ไม่​นาน แม่​ไม่​ยอม​ให้​ดิฉัน​อยู่​ที่​บ้าน​อีก​ต่อ​ไป เพราะ​ดิฉัน​ไม่​ยอม​เปลี่ยน​การ​คบหา​เพื่อน​และ​ไม่​ยอม​เปลี่ยน​เจตคติ​แบบ​โลก. ดิฉัน​เกลียด​แม่​จริง ๆ ที่​ปราม​ดิฉัน​ใน​เรื่อง​นี้ แต่​โดย​แท้​แล้ว​นับ​ว่า​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​แม่​ทำ​ได้​สำหรับ​ดิฉัน. แม่​ได้​ยืนหยัด​ใน​หลักการ​อัน​ชอบธรรม​และ​ไม่​เคย​หวั่นไหว.

ดัง​นั้น ดิฉัน​ออก​จาก​บ้าน​ไป​เพื่อ​สร้าง​ชีวิต​ใหม่​ที่​ดี​กว่า​สำหรับ​ตัว​เอง. ดิฉัน​กลับ​เข้า​เรียน​วิชา​ชีพ​ต่อ​เพื่อ​ได้​ทุน​เรียน​ระดับ​วิทยาลัย. ดิฉัน​ทำ​ได้​ดี​พอ​สม​ควร​และ​กลับ​เป็น​บุคคล​ที่​สังคม​ยอม​รับ. ดิฉัน​ได้​งาน​ทำ​เงิน​เดือน​งาม และ​มี​อพาร์ตเมนต์​อยู่​เอง. ครั้น​แล้ว​ชีวิต​รัก​ก็​เริ่ม​ขึ้น​เมื่อ​ดิฉัน​เจอ​คู่​รัก​เก่า. เรา​ทั้ง​สอง​ได้​ฟื้น​ความ​สัมพันธ์​ขึ้น​ใหม่​และ​ตั้งใจ​จัด​การ​ให้​สิ่ง​ต่าง ๆ เป็น​ไป​อย่าง​ถูก​ต้อง​แล้ว​จะ​แต่งงาน.

แต่​ใน​เวลา​ต่อ​มา คน​รัก​ของ​ดิฉัน​เริ่ม​ใช้​ยา​เสพย์ติด และ​สภาพการณ์​ต่าง ๆ สำหรับ​เรา​สอง​คน​ก็​เริ่ม​เลว​ร้าย​ลง​ไป​เรื่อย ๆ. เมื่อ​ไม่​อาจ​จะ​ทน​ความ​ปวด​ร้าว​ใจ ดิฉัน​หัน​ไป​หา​สิ่ง​ที่​ตัว​เอง​รู้​ดี​ที่​สุด นั่น​คือ​การ​ใช้​ยา​ระงับ​อารมณ์​ความ​รู้สึก​ต่าง ๆ. ดิฉัน​ได้​หัน​ไป​ใช้​โคเคน ซึ่ง​ให้​สิ่ง​ที่​เรียก​กัน​ว่า​ความ​เคลิบเคลิ้ม​ของ​เศรษฐี. ระยะ​นั้น​โคเคน​เป็น​สิ่ง​ที่​ยอม​รับ​กัน เพราะ​หลาย​คน​ไม่​คิด​ว่า​นั่น​เป็น​สิ่ง​เสพย์ติด. แต่​สำหรับ​ดิฉัน​มัน​ปรากฏ​ว่า​ร้าย​ยิ่ง​กว่า​เฮโรอีน​เสีย​อีก.

ช่วง​กลาง​ทศวรรษ​ปี 1970 ดิฉัน​พึ่ง​โคเคน​นาน​ประมาณ​สาม​ปี. ใน​ที่​สุด ดิฉัน​เริ่ม​มอง​เห็น​ตัว​เอง​อยู่​ใน​วงจรชีวิต​ที่​เลว​ร้าย และ​เริ่ม​สงสัย​ว่า ‘ชีวิต​มี​แค่​นี้​ละ​หรือ?’ ดิฉัน​ลง​ความ​เห็น​ว่า​ถ้า​เป็น​เช่น​นั้น​แล้ว ดิฉัน​ก็​เบื่อ​หน่าย​ชีวิต. ดิฉัน​กลับ​ไป​หา​แม่​และ​บอก​แม่​ว่า​ดิฉัน​เบื่อ​ชีวิต​แบบ​นี้ และ​จะ​กลับ​ไป​ที่​ศูนย์​บำบัด​ผู้​ติด​ยา. หลัง​จาก​อยู่​ที่​นั่น​ปี​ครึ่ง ดิฉัน​เลิก​ยา​ได้​อีก​ครั้ง​หนึ่ง.

เกือบ​ได้​พบ​ความ​จริง

อีก​ครั้ง​หนึ่ง ดิฉัน​ได้​งาน​ดี​และ​มี​อพาร์ตเมนต์​อยู่​อย่าง​สบาย, และ​เจอ​คน​รัก. แล้ว​เรา​ก็​หมั้น​กัน. ช่วง​เวลา​นั้น แม่​ติด​ต่อ​ดิฉัน​เป็น​ประจำ. แม่​พูด​คุย​กับ​ดิฉัน​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ส่ง​วารสาร หอสังเกตการณ์ และ ตื่นเถิด! ให้​อ่าน แต่​ดิฉัน​ไม่​เคย​เปิด​ดู​เลย. ดิฉัน​บอก​แม่​ว่า​ดิฉัน​มี​โครงการ​จะ​แต่งงาน​และ​สร้าง​ครอบครัว. ดัง​นั้น แม่​จึง​ส่ง​หนังสือ​มา​ให้​เล่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​เปลี่ยน​ชีวิต​ดิฉัน​ไป​ชั่ว​กาล​นาน นั่น​คือ​หนังสือ การ​ทำ​ให้​ชีวิต​ครอบครัว​ของ​ท่าน​มี​ความ​สุข.

ขณะ​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​นี้ ดิฉัน​รู้​ว่า​ตัว​เอง​ต้องการ​อะไร​และ​ได้​แสวง​หา​ด้วย​วิธี​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง. ท้าย​ที่​สุด มี​ผู้​หนึ่ง​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​ดิฉัน​และ​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ดิฉัน​จริง ๆ. การ​ที่​มี​ความ​รู้สึก​อย่าง​ที่​ดิฉัน​มี​ก็​ไม่​ใช่​สิ่ง​ผิด​ปกติ—ดิฉัน​ปกติ​ดี! แต่​คน​ที่​ดิฉัน​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย​นั้น​กลับ​เยาะเย้ย​เมื่อ​ดิฉัน​พยายาม​ให้​เขา​ดู​หนังสือ ชีวิต​ครอบครัว และ​คัมภีร์​ไบเบิล. เขา​ไม่​ยอม​เปลี่ยน​แปลง​อะไร ๆ ที่​จำเป็น​เพื่อ​ชื่นชม​กับ​ชีวิต​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​สุข. ดัง​นั้น ดิฉัน​ต้อง​คิด​หนัก​ก่อน​ตัดสิน​ใจ—จะ​อยู่​หรือ​ไป​จาก​เขา. ดิฉัน​ตัดสิน​ใจ​ว่า​ถึง​เวลา​ต้อง​ผละ​ไป​จาก​เขา.

คน​รัก​ของ​ดิฉัน​โกรธ​เป็น​ฟืน​เป็น​ไฟ. วัน​หนึ่ง เมื่อ​ดิฉัน​กลับ​มา​บ้าน​พบ​ว่า​เขา​ใช้​ใบ​มีด​โกน​กรีด​เสื้อ​ผ้า​ทั้ง​หมด​ของ​ดิฉัน​ขาด​เป็น​ชิ้น​เล็ก​ชิ้น​น้อย. ข้าวของ​ของ​ดิฉัน​แทบ​ไม่​มี​อะไร​เหลือหลอ ไม่​ว่า​รอง​เท้า, เสื้อ​โค้ต, เครื่อง​แต่ง​ห้อง ถ้า​ไม่​ถูก​ฉีก​ขาด​ก็​ถูก​ยก​ไป​ขาย. ทั้ง​หมด​ที่​เหลือ​อยู่​ก็​คือ​ชุด​ที่​ใส่​ติด​ตัว. ดิฉัน​อยาก​ล้ม​ลง​ตาย​เสีย​ให้​พ้น ๆ ไป. บาง​ครั้ง​ใน​ชีวิต​คุณ​เกิด​ความ​รู้สึก​เบื่อ​หน่าย​ที่​ต้อง​ดิ้นรน. ฉะนั้น คุณ​ก็​กลับ​ไป​ทำ​อย่าง​ที่​คุณ​เคย​ทำ​ทุก​ครั้ง​เพื่อ​รับมือ​กับ​ปัญหา นั่น​คือ​การ​ใช้​ยา​ระงับ​ความ​รู้สึก. ดิฉัน​คิด​ไว้​แล้ว​ถ้า​ไม่​ใช้​ยา​ก็​จะ​ฆ่า​ตัว​ตาย.

ถึง​แม้​ดิฉัน​หวน​กลับ​ไป​ใช้​ยา​เสพย์ติด​อีก​ก็​ตาม แต่​แม่​ไม่​เคย​ทอดทิ้ง​ดิฉัน. แม่​ยัง​คง​มา​เยี่ยม​ดิฉัน​พร้อม​กับ​นำ​วารสาร​หอสังเกตการณ์ และ ตื่นเถิด! มา​ให้. เย็น​วัน​หนึ่ง ระหว่าง​การ​สนทนา ดิฉัน​บอก​แม่​ว่า​ดิฉัน​รู้สึก​อย่าง​ไร ดิฉัน​เบื่อ​ที่​จะ​พยายาม​และ​รู้สึก​จน​ปัญญา. แม่​เพียง​พูด​เรียบ ๆ ว่า “ลูก​เคย​ลอง​ทุก​อย่าง​มา​แล้ว ทำไม​ไม่​ลอง​ดู​พระ​ยะโฮวา​บ้าง?”

ความ​จริง​ช่วย​ชีวิต​ไว้

ใน​ปี 1982 นั้น​เอง ดิฉัน​ตก​ลง​จะ​ทำ​อย่าง​ที่​แม่​เคย​กระตุ้น​เตือน​อยู่​หลาย​ปี​ให้​ดิฉัน​ทำ. ดิฉัน​เริ่ม​ต้น​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​จริงจัง. ใน​ไม่​ช้า​ดิฉัน​ก็​ตื่นเต้น​กับ​เรื่อง​ราว​ต่าง ๆ ที่​ได้​เรียน​รู้. ดิฉัน​เริ่ม​เข้าใจ​ว่า​ชีวิต​ดิฉัน​มี​ค่า​มาก​จำเพาะ​พระ​ยะโฮวา และ​ที่​ว่า​ชีวิต​มี​จุด​หมาย​อย่าง​แท้​จริง. แต่​ดิฉัน​ก็​ตระหนัก​ว่า​ถ้า​ดิฉัน​จะ​ปฏิบัติ​พระ​ยะโฮวา ดิฉัน​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​หลาย​อย่าง​ใน​ชีวิต และ​ดิฉัน​ต้องการ​แรง​หนุน​ทั้ง​ทาง​ด้าน​อารมณ์​และ​ด้าน​วิญญาณ. ดิฉัน​จึง​ถาม​แม่​ขอ​กลับ​มา​ที่​บ้าน​อีก​ได้​หรือ​ไม่.

แม่​ตรอง​อย่าง​รอบคอบ เนื่อง​จาก​ดิฉัน​ทำ​ให้​ท่าน​ผิด​หวัง​บ่อย ๆ. แม่​ปรึกษา​กับ​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง​เรื่อง​ดิฉัน​ขอ​กลับ​มา​อยู่​ที่​บ้าน. เมื่อ​ผู้​ปกครอง​เห็น​ว่า​แม่​เอง​รู้สึก​ว่า​มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​สูง​ที่​ดิฉัน​จะ​กลับ​ตัว​ได้​จริง​คราว​นี้ เขา​จึง​สนับสนุน​ว่า “ลอง​ให้​โอกาส​เธอ​อีก​สัก​ครั้ง.”

เป็น​ที่​น่า​ปีติ​ยินดี คราว​นี้​ดิฉัน​ไม่​ทำ​ให้​แม่​ผิด​หวัง. ดิฉัน​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​และ​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​อย่าง​สม่ำเสมอ. ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ของ​พระ​ยะโฮวา ดิฉัน​กลับ​ตัว​เปลี่ยน​แนว​ทาง​ชีวิต​โดย​สิ้นเชิง. คำ​แนะ​นำ​ที่​มี​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​แห่ง​ความ​จริง​ของ​พระเจ้า ได้​ช่วย​ดิฉัน​ยืนหยัด​ผ่าน​ช่วง​ยุ่งยาก​มา​ได้. (โยฮัน 17:17) ดิฉัน​ถึง​กับ​เลิก​สูบ​บุหรี่​ด้วย​ซ้ำ ซึ่ง​สำหรับ​ดิฉัน​แล้ว​เป็น​สิ่ง​เสพย์ติด​ที่​เลิก​ได้​ยาก​กว่า​เฮโรอีน​และ​โคเคน​เสีย​อีก. เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​ดิฉัน​รู้สึก​ดีใจ​จริง ๆ ที่​มี​ชีวิต​อยู่.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​กี่​เดือน เมื่อ​วัน​ที่ 24 ธันวาคม 1983 ดิฉัน​แสดง​สัญลักษณ์​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ. ต่อ​มา​ใน​เดือน​เมษายน ดิฉัน​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​สมทบ​ซึ่ง​เป็น​การ​รับใช้​เพิ่ม​ขึ้น​รูป​แบบ​หนึ่ง. ที​แรก เพื่อน​ฝูง​เก่า ๆ พา​กัน​เยาะเย้ย เมื่อ​พวก​เขา​เห็น​ดิฉัน​ออก​ประกาศ​เผยแพร่. เป็น​อย่าง​ที่​อัครสาวก​เปโตร​เตือนไว้​ล่วง​หน้า​ที​เดียว​ที่​ว่า “เพราะ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​ได้​วิ่ง​ร่วม​กับ​เขา​ต่อ​ไป​ใน​แอ่ง​โสโครก​ที่​มี​แต่​ความ​เสเพล​อย่าง​เดียว​กัน เขา​ก็​งง​และ​กล่าว​ร้าย​ท่าน​ทั้ง​หลาย​อยู่​เรื่อย​ไป.”—1 เปโตร 4:4, ล.ม.

เดือน​กันยายน 1984 ดิฉัน​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ และ​จาก​นั้น​ไม่​นาน ดิฉัน​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​สิบ​ราย​ทุก​สัปดาห์. บาง​ราย​ใน​จำนวน​นี้​อยู่​ด้วย​กับ​คน​ที่​เคย​พูด​เยาะเย้ย​เมื่อ​ดิฉัน​เริ่ม​งาน​รับใช้​ตอน​แรก ๆ. ช่วง​นี้​เป็น​เวลา​อัน​น่า​ตื่นเต้น​ใน​ชีวิต​ดิฉัน​ที​เดียว เพราะ​ดิฉัน​สามารถ​ช่วย​หนุ่ม​สาว​หลาย​คน​รับ​เอา​ความ​จริง​แห่ง​คัมภีร์​ไบเบิล. ดิฉัน​เคย​นึก​อยาก​จะ​มี​ลูก​เสมอ ดัง​นั้น พอ​ได้​มา​เป็น​มารดา​มี​ลูก​ฝ่าย​วิญญาณ​จึง​ถือ​ได้​ว่า​เป็น​แหล่ง​ที่​ยัง​ความ​ยินดี​แก่​ดิฉัน​มิ​ได้​ขาด.—เทียบ​กับ—1 โกรินโธ 4:15.

ครั้น​หลาย​ปี​ผ่าน​ไป ดิฉัน​ได้​พบ​หน้า​เพื่อน​เก่า​ซึ่ง​ดิฉัน​เคย​เสพย์​ยา​ด้วย​กัน เดิน​อยู่​แถว​ถนน​ใกล้​บ้าน​เรา. เพราะ​ผล​ของ​การ​ใช้​เข็ม​ฉีด​ยา​ร่วม​กับ​คน​ที่​ติด​เชื้อ พวก​เขา​ติด​โรค​เอดส์​และ​ดู​น่า​สังเวช. ตั้ง​แต่​นั้น หลาย​คน​เสีย​ชีวิต. ดิฉัน​รู้​ว่า​ตัว​เอง​อาจ​เป็น​คน​หนึ่ง​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​ก็​ได้​หาก​ไม่​ใช่​เพราะ​ความ​จริง​แห่ง​คัมภีร์​ไบเบิล. โดย​แท้​แล้ว ความ​จริง​ได้​คืน​ชีวิต​ให้​ดิฉัน.

เลี่ยง​ความ​เจ็บ​ปวด

ดิฉัน​มัก​ปรารถนา​อยู่​เนือง ๆ ว่า ถ้า​ได้​รู้​ความ​จริง​ตั้ง​แต่​อายุ​น้อย​และ​หลีก​เลี่ยง​ชีวิต​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ปวด​ร้าว​และ​ความ​ทุกขเวทนา​ได้​ก็​จะ​ดี. แต่​เดี๋ยว​นี้​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​ดิฉัน​ใน​การ​รับมือ​กับ​ความ​เจ็บ​ปวด​อัน​สืบ​เนื่อง​จาก​การ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ผิด ๆ ใน​วัย​สาว ถึง​กระนั้น ดิฉัน​ต้อง​คอย​จน​กระทั่ง​ระบบ​ใหม่ เพื่อ​รับ​การ​เยียว​ยา​รักษา​แผล​ทาง​ใจ​ให้​หาย​ขาด. (วิวรณ์ 21:3,4) ทุก​วัน​นี้ ดิฉัน​เพียร​พยายาม​บอก​เด็ก​หนุ่ม​สาว​ทั้ง​หลาย​ว่า​เขา​มี​พระ​พร​เพียง​ใด​ที่​ได้​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา อีก​ทั้ง​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ​จาก​องค์การ​ของ​พระองค์​ใน​อัน​ที่​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​การ​สั่ง​สอน​ของ​พระองค์.

โลก​นี้​อาจ​ดู​มี​เสน่ห์​เย้า​ยวน. และ​โลก​ต้องการ​ให้​คุณ​เชื่อ​ว่า​คุณ​หา​ความ​สนุกสนาน​ตาม​แบบ​โลก​ได้​โดย​ไม่​เจ็บ​ปวด. แต่​เป็น​ไป​ไม่​ได้​แน่ ๆ. โลก​นี้​จะ​ใช้​คุณ และ​เมื่อ​ใช้​เสร็จ​สรรพ​แล้ว โลก​จะ​โยน​คุณ​ทิ้ง​ไป. คัมภีร์​ไบเบิล​นั้น​กล่าว​ความ​จริง​ที่​ว่า พญา​มาร​เป็น​ผู้​ครอบครอง​โลก​นี้—จริง ๆ แล้ว​มัน​เป็น​พระเจ้า​ของ​โลก​นี้—และ​เรา​ไม่​ควร​รัก​โลก​หรือ​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​โลก. (โยฮัน 12:31; 14:30; 16:11; 2 โกรินโธ 4:4; 1 โยฮัน 2:15-17; 5:19) เนื่อง​จาก​ชาว​โลก​ยัง​เป็น​ทาส​ความ​เสื่อม​ทราม การ​คบหา​กับ​พวก​เขา​จึง​ไม่​อาจ​ให้​ความ​สุข​แท้​แก่​คุณ​ได้.—2 เปโตร 2:19.

ดิฉัน​หวัง​ว่า​การ​เล่า​เรื่อง​เหล่า​นี้​เกี่ยว​กับ​ตัว​ดิฉัน​คง​จะ​ช่วย​คน​อื่น​มอง​เห็น​ว่า “ชีวิต​แท้”—คือ​ชีวิต​นิรันดร์​ใน​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า—เป็น​เพียง​สิ่ง​เดียว​ที่​ให้​ผล​คุ้มค่า​กับ​ความ​บากบั่น​ของ​เรา. ไม่​ว่า​ชีวิต​ของ​เรา​ขณะ​ที่​ดำเนิน​ใน​ความ​จริง​นั้น​จะ​ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่าง​ไร สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​ดี​กว่า​ซึ่ง​อยู่​ใน​โลก​ของ​ซาตาน​ที่​จริง​แล้ว​ไม่​ได้​เป็น​เช่น​นั้น. ซาตาน​เพียง​แต่​พยายาม​ทำ​ให้​เห็น​เป็น​อย่าง​นั้น. พร้อม​กับ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ชาย​หญิง​ทุก​คน ดิฉัน​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ดวง​ตา​ของ​ดิฉัน​จด​จ้อง​อยู่​ที่​ชีวิต​แท้​ตลอด​ไป ใช่​แล้ว ชีวิต​นิรันดร์​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก. (1 ติโมเธียว 6:19)—เล่า​โดย ดอลลี ฮอร์รี.

[รูป​ภาพ​หน้า 15]

ขณะ​ประกาศ​เผยแพร่​กับ​แม่ ที่​สวน​สาธารณะ​ทอมป์คินส์​สแควร์

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์