ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต98 8/3 น. 22-25
  • คริสเตียนและวรรณะ

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • คริสเตียนและวรรณะ
  • ตื่นเถิด! 1998
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • จุด​ซึ่ง​อาจ​เป็น​ต้น​กำเนิด​ของ​ระบบ​วรรณะ
  • วรรณะ​ใน​สมัย​ปัจจุบัน
  • มิชชันนารี​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​และ​วรรณะ
  • วรรณะ​ใน​คริสตจักร​ปัจจุบัน
  • การ​ตอบ​สนอง​ต่อ​ความ​ไม่​พอ​ใจ
  • แนว​ทาง​คริสเตียน​แท้
  • ความ​จำเป็น​ที่​ต้อง​คิด​แบบ​โลก​ใหม่
  • การเพ่งดูโลก
    ตื่นเถิด! 1991
  • คุณนิยมชมชอบคนประเภทไหน?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1992
  • คุณจะพูดอย่างไรกับชาวฮินดู?
    พระราชกิจของเรา 1999
ตื่นเถิด! 1998
ต98 8/3 น. 22-25

คริสเตียน​และ​วรรณะ

โดย​ผู้​สื่อ​ข่าว ตื่นเถิด! ใน​อินเดีย

คุณ​คิด​ถึง​อะไร​เมื่อ​ได้​ยิน​คำ​ว่า “ระบบ​วรรณะ”? อาจ​เป็น​ได้​ว่า​คุณ​คิด​ถึง​ประเทศ​อินเดีย​และ​หลาย​ล้าน​คน​ที่​ไม่​มี​วรรณะ—คน​นอก​วรรณะ. แม้​ว่า​ระบบ​วรรณะ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ศาสนา​ฮินดู นัก​ปฏิรูป​ชาว​ฮินดู​ได้​ต่อ​สู้​เพื่อ​ขจัด​ผล​กระทบ​ที่​ระบบ​นี้​มี​ต่อ​คน​ใน​วรรณะ​ต่ำ​และ​คน​นอก​วรรณะ. เมื่อ​คำนึง​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง​นี้​แล้ว คุณ​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ถ้า​คุณ​ได้​ยิน​ว่า​มี​การ​ถือ​วรรณะ​กระทั่ง​ใน​คริสตจักร​ต่าง ๆ ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน?

จุด​ซึ่ง​อาจ​เป็น​ต้น​กำเนิด​ของ​ระบบ​วรรณะ

การ​แบ่ง​ผู้​คน​ออก​เป็น​ชั้น​ต่าง ๆ ทาง​สังคม​ซึ่ง​ทำ​ให้​บาง​คน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​เหนือ​กว่า​ไม่​ได้​มี​เฉพาะ​ใน​อินเดีย. ทุก​ทวีป​มี​การ​ถือ​ชั้น​ชน​ไม่​แบบ​ใด​ก็​แบบ​หนึ่ง. สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ระบบ​วรรณะ​ของ​อินเดีย​ต่าง​ออก​ไป​คือ​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า เมื่อ​กว่า 3,000 ปี​มา​แล้ว กระบวนการ​กดขี่​ทาง​สังคม​ได้​ผนึก​รวม​เข้า​กับ​ศาสนา.

แม้​ว่า​จุด​กำเนิด​ของ​ระบบ​วรรณะ​ไม่​เป็น​ที่​ทราบ​กัน​อย่าง​แน่นอน แหล่ง​อ้างอิง​บาง​แหล่ง​ชี้​ว่า ระบบ​นี้​มี​ต้นตอ​มา​จาก​อารยธรรม​โบราณ​แห่ง​ที่​ราบ​ลุ่ม​สินธุ​ใน​ประเทศ​ปากีสถาน​ปัจจุบัน. หลักฐาน​ทาง​โบราณคดี​ดู​เหมือน​จะ​ระบุ​ว่า​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ประชากร​ที่​อยู่​ที่​นั่น​ใน​ยุค​แรก​สุด​ถูก​เผ่า​ที่​มา​จาก​ทาง​ตะวัน​ตก​เฉียง​เหนือ​พิชิต​ใน​การ​รุกราน​ซึ่ง​เรียก​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ว่า “การ​อพยพ​ของ​ชาว​อารยัน.” ใน​หนังสือ การ​ค้น​พบ​อินเดีย (ภาษา​อังกฤษ) จาวาฮาร์ลัล เนห์รู ผู้​เขียน​หนังสือ​นี้ เรียก​การ​อพยพ​ดัง​กล่าว​ว่า “การ​หลอม​รวม​ทาง​วัฒนธรรม​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ครั้ง​แรก” ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด “ชน​ชาติ​อินเดีย​เชื้อ​สาย​ต่าง ๆ และ​วัฒนธรรม​พื้น​ฐาน​ของ​อินเดีย.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​ผสมผสาน​เช่น​นี้​ไม่​ได้​ยัง​ผล​เป็น​ความ​เสมอ​ภาค​ทาง​เชื้อชาติ.

สารานุกรม เดอะ นิว เอ็นไซโคลพีเดีย บริแทนนิกา กล่าว​ดัง​นี้: “ชาว​ฮินดู​อธิบาย​ว่า การ​เพิ่ม​ทวี​ของ​วรรณะ (ชา​ตะ ความ​หมาย​ตาม​ตัว​คือ ‘กำเนิด’) เป็น​เพราะ​การ​แบ่ง​ย่อย​ของ​สี่​ชั้น​ชน​หรือ​วรรณะ ซึ่ง​เกิด​จาก​การ​แต่งงาน​ข้าม​วรรณะ (อัน​เป็น​ข้อ​ห้าม​ใน​หลัก​ธรรม​ของ​ฮินดู). อย่าง​ไร​ก็​ตาม นัก​ทฤษฎี​สมัย​ใหม่​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​สันนิษฐาน​ว่า วรรณะ​เกิด​จาก​ข้อ​แตกต่าง​เรื่อง​กิจ​ปฏิบัติ​ทาง​พิธีกรรม​ใน​ครอบครัว, ข้อ​แตกต่าง​ทาง​เชื้อชาติ, รวม​ถึง​ความ​แตกต่าง​และ​ความ​ชำนัญพิเศษ​ด้าน​อาชีพ​ด้วย. ผู้​คง​แก่​เรียน​สมัย​ปัจจุบัน​หลาย​คน​ยัง​สงสัย​ด้วย​ว่า​ระบบ​วรรณะ​ที่​เรียบ​ง่าย​นี้​เป็น​เพียง​อุดมคติ​ตาม​ทฤษฎี​ทาง​สังคม-ศาสนา​หรือ​ไม่ และ​พวก​เขา​เน้น​ว่า​การ​แบ่ง​ที่​ซับซ้อน​อย่าง​ยิ่ง​ของ​สังคม​ฮินดู​ออก​เป็น​เกือบ 3,000 วรรณะ​รวม​ทั้ง​วรรณะ​ย่อย อาจ​มี​ที่​ทาง​ของ​มัน​อยู่​แล้ว​ด้วย​ซ้ำ​ใน​สมัย​โบราณ.”

มี​อยู่​ช่วง​หนึ่ง เกิด​การ​แต่งงาน​ข้าม​วรรณะ และ​อคติ​แต่​เดิม​อัน​เนื่อง​มา​จาก​สี​ผิว​จึง​เบา​บาง​ลง​ไป. กฎ​ที่​เข้มงวด​ซึ่ง​ควบคุม​วรรณะ​พัฒนา​ขึ้น​มา​โดย​ศาสนา​ใน​เวลา​ต่อ​มา โดย​กล่าว​ไว้​ใน​คัมภีร์​พระ​เวท​และ​ประมวล​กฎหมาย (หรือ​หลักการ​ขั้น​มูลฐาน) ของ​มนู ปราชญ์​ชาว​ฮินดู. พวก​พราหมณ์​สอน​ว่า คน​ใน​วรรณะ​สูง​เกิด​มา​พร้อม​กับ​ความ​บริสุทธิ์​ซึ่ง​แยก​พวก​เขา​ไว้​ต่าง​หาก​จาก​วรรณะ​ต่ำ. พวก​เขา​ค่อย ๆ ปลูกฝัง​ให้​พวก​ศูทร​หรือ​คน​ที่​อยู่​ใน​วรรณะ​ต่ำ​สุด​เชื่อ​ว่า​งาน​ใน​ฐานะ​บ่าว​ไพร่​ที่​พวก​ศูทร​ทำ​นั้น​เป็น​การ​ลง​โทษ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กำหนด​ไว้​สำหรับ​กรรม​ชั่ว​ที่​พวก​เขา​ทำ​ใน​ชาติ​ก่อน และ​การ​พยายาม​หัก​เครื่อง​กีด​กั้น​แห่ง​วรรณะ​จะ​ทำ​ให้​พวก​เขา​กลาย​เป็น​คน​นอก​วรรณะ. การ​แต่งงาน​ข้าม​วรรณะ, การ​รับประทาน​อาหาร​ร่วม​กัน, การ​ใช้​แหล่ง​น้ำ​เดียว​กัน, หรือ​การ​เข้า​ใน​โบสถ์​เดียว​กัน​กับ​พวก​ศูทร​อาจ​ทำ​ให้​คน​ใน​วรรณะ​สูง​สูญ​เสีย​วรรณะ​ของ​ตน.

วรรณะ​ใน​สมัย​ปัจจุบัน

หลัง​จาก​ได้​รับ​เอกราช​ใน​ปี 1947 รัฐบาล​อินเดีย​กำหนด​ให้​มี​รัฐธรรมนูญ​ซึ่ง​ระบุ​ว่า​การ​แบ่ง​ชั้น​วรรณะ​เป็น​ความ​ผิด​ทาง​อาญา. เนื่อง​จาก​ตระหนัก​ถึง​ฐานะ​ที่​เสีย​เปรียบ​ตลอด​หลาย​ศตวรรษ​ของ​ชาว​ฮินดู​ใน​วรรณะ​ต่ำ รัฐบาล​จึง​ออก​กฎหมาย​สงวน​ตำแหน่ง​ใน​รัฐบาล​ที่​มา​จาก​การ​เลือก​ตั้ง​และ​ตำแหน่ง​ใน​สถาบัน​การ​ศึกษา​ไว้​สำหรับ​เผ่า​ชน​และพวก​วรรณะ​ใน​โครงการ.a คำ​ที่​ใช้​เรียก​ชาว​ฮินดู​กลุ่ม​นี้​คือ “ทริทร” ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​ว่า “ถูก​กดขี่​เหยียบ​ย่ำ.” แต่​พาด​หัว ข่าว หนังสือ​พิมพ์ เมื่อ เร็ว ๆ นี้​บอก​ว่า “คริสเตียน​ที่​เป็น​ทริทร​เรียก​ร้อง​การ​สงวน​สิทธิ์ [สำหรับ​งาน​และ​โควตา​ของ​มหาวิทยาลัย].” เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร?

ผล​ประโยชน์​มาก​มาย​ที่​รัฐบาล​ให้​แก่​ชาว​ฮินดู​ที่​อยู่​ใน​วรรณะ​ต่ำ​นั้น​อาศัย​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า พวก​เขา​ประสบ​ความ​อยุติธรรม​อัน​เนื่อง​มา​จาก​ระบบ​วรรณะ. ดัง​นั้น จึง​มี​การ​ชัก​เหตุ​ผล​ว่า ศาสนา​ที่​ไม่​ได้​ถือ​ระบบ​วรรณะ​ไม่​อาจ​คาด​หมาย​ว่า​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​ดัง​กล่าว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คริสเตียน​ที่​เป็น​ทริทร​กล่าว​ว่า เนื่อง​จาก​พวก​เขา​เป็น​ผู้​เปลี่ยน​ศาสนา​ซึ่ง​อยู่​ใน​วรรณะ​ต่ำ หรือ​จัณฑาล พวก​เขา​ก็​ประสบ​การ​เหยียด​หยาม​ด้วย ไม่​เฉพาะ​จาก​ชาว​ฮินดู​เท่า​นั้น แต่​จาก ‘เพื่อน​คริสเตียน’ ของ​พวก​เขา​ด้วย. เรื่อง​นี้​เป็น​ความ​จริง​ไหม?

มิชชันนารี​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​และ​วรรณะ

ชาว​ฮินดู​หลาย​คน​ถูก​ชักจูง​ให้​เปลี่ยน​ศาสนา​โดย​มิชชันนารี​ของ​ทั้ง​คาทอลิก​และ​โปรเตสแตนต์​ซึ่ง​เป็น​ชาว​โปรตุเกส, ชาว​ฝรั่งเศส, และ​ชาว​บริเตน ใน​สมัย​ล่า​อาณานิคม. ประชาชน​จาก​ทุก​วรรณะ​ได้​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​ใน​นาม โดย​ที่​นัก​เทศน์​บาง​คน​สามารถ​ดึงดูด​ใจ​คน​ใน​วรรณะ​พราหมณ์ ส่วน​คน​อื่น​ก็​สามารถ​ดึงดูด​คน​ที่​เป็น​จัณฑาล. คำ​สอน​และ​การ​ประพฤติ​ของ​พวก​มิชชันนารี​ส่ง​ผล​เช่น​ไร​ต่อ​ความ​เชื่อ​ฝัง​หัว​ใน​เรื่อง​วรรณะ?

เมื่อ​กล่าว​ถึง​ชาว​บริเตน​ใน​อินเดีย นัก​ประพันธ์​ชื่อ นิรัต เชาธุรี กล่าว​ว่า ใน​โบสถ์​ต่าง ๆ “ประชาคม​ชาว​อินเดีย​ไม่​อาจ​นั่ง​ร่วม​กับ​ชาว​ยุโรป. ศาสนา​คริสเตียน​ไม่​ได้​ปิด​ซ่อน​ความ​สำนึก​ใน​เรื่อง​ความ​เหนือ​กว่า​ด้าน​เชื้อชาติ​ซึ่ง​เป็น​ฐาน​ของ​การ​ปกครอง​ของ​บริเตน​ใน​อินเดีย.” โดย​แสดง​เจตคติ​คล้าย ๆ กัน ใน​ปี 1894 มิชชันนารี​คน​หนึ่ง​รายงาน​ถึง​คณะ​กรรมการ​มิชชันนารี​ต่าง​แดน​ของ​สหรัฐ​ว่า การ​เปลี่ยน​คน​ใน​วรรณะ​ต่ำ​ให้​มา​เข้ารีต​เป็น “การ​โกย​ขยะ​เข้า​สู่​คริสตจักร.”

เห็น​ได้​ชัด​ที​เดียว ความ​รู้สึก​ถึง​ความ​เหนือ​กว่า​ด้าน​เชื้อชาติ​ใน​ส่วน​ของ​มิชชันนารี​ยุค​แรก​และ​การ​หลอม​รวม​แนวคิด​แบบ​พราหมณ์​เข้า​กับ​คำ​สอน​ของ​คริสตจักร​เป็น​สาเหตุ​ใหญ่​ที่​ทำ​ให้​มี​การ​ใช้​ระบบ​วรรณะ​อย่าง​เปิด​เผย​โดย​คน​จำนวน​มาก​ที่​อ้าง​ตัว​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ใน​อินเดีย.

วรรณะ​ใน​คริสตจักร​ปัจจุบัน

ขณะ​กล่าว​คำ​ปราศรัย​ต่อ​ที่​ประชุม​บิชอป​คาทอลิก​แห่ง​อินเดีย​ใน​ปี 1991 จอร์จ เซอร์ อาร์ชบิชอป​ของ​คาทอลิก​ได้​กล่าว​ดัง​นี้: “ผู้​เปลี่ยน​มา​เข้ารีต​ที่​เป็น​พวก​วรรณะ​ใน​โครงการ​ถูก​ปฏิบัติ​ใน​ฐานะ​เป็น​วรรณะ​ชั้น​ต่ำ​ไม่​เฉพาะ​แต่​โดย​ชาว​ฮินดู​ใน​วรรณะ​สูง​เท่า​นั้น แต่​โดย​คริสเตียน​ใน​วรรณะ​สูง​ด้วย. . . . มี​การ​จัด​ที่​แยก​ต่าง​หาก​ให้​พวก​เขา​ใน​โบสถ์​ต่าง ๆ ของ​ท้องถิ่น​รวม​ทั้ง​ที่​ฝัง​ศพ​ด้วย. มี​การ​แสดง​ความ​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​แต่งงาน​ข้าม​วรรณะ . . . ลัทธิ​ถือ​วรรณะ​มี​อยู่​แพร่​หลาย​ใน​หมู่​นัก​บวช.”

บิชอปเอ็ม. อซาไรอาห์ แห่ง​คริสตจักร​อินเดีย​ใต้​ซึ่ง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​คริสตจักร​ยูไนเต็ด โปรเตสแตนต์ กล่าว​ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ที่​ชื่อ ด้าน​ที่​ไม่​เป็น​คริสเตียน​ของ​คริสตจักร​อินเดีย (ภาษา​อังกฤษ) ดัง​นี้: “คริสเตียน​ที่​เป็น​พวก​วรรณะ​ใน​โครงการ (ทริทร) จึง​ถูก​เหยียด​หยาม​และ​กดขี่​โดย​เพื่อน​คริสเตียน​ด้วย​กัน​ภาย​ใน​คริสตจักร​ต่าง ๆ โดย​ที่​ตัว​เขา​เอง​ไม่​ได้​ทำ​ผิด​อะไร​เลย เพียง​แต่​บังเอิญ​เกิด​มา​ใน​วรรณะ​ต่ำ แม้​แต่​ใน​กรณี​ที่​เขา​เป็น​คริสเตียน​ใน​ชั่ว​อายุ​ที่ 2, ที่ 3, หรือ​ที่ 4 แล้ว. คริสเตียน​ใน​วรรณะ​สูง​ซึ่ง​เป็น​คน​กลุ่ม​น้อย​ใน​คริสตจักร​มี​อคติ​ใน​เรื่อง​วรรณะ​แม้​เวลา​จะ​ผ่าน​ไป​หลาย​ชั่ว​อายุ​คน โดย​ไม่​ได้​รับ​ผล​กระทบ​เลย​จาก​ความ​เชื่อ​และ​กิจ​ปฏิบัติ​ของ​คริสเตียน.”

การ​สืบ​สาว​ของ​รัฐบาล​เพื่อ​ไป​ให้​ถึง​ปัญหา​ของ​กลุ่ม​ชน​ที่​ล้า​หลัง​ใน​อินเดีย ซึ่ง​รู้​จัก​กัน​ใน​นาม​คณะ​กรรมาธิการ​มันดัล พบ​ว่า​คน​ที่​อ้าง​ตัว​เป็น​คริสเตียน​ใน​รัฐ​เคราลา​ถูก​แบ่ง​ออก “เป็น​กลุ่ม​ชาติ​พันธุ์​หลาก​หลาย​โดย​อาศัย​ภูมิหลัง​ทาง​วรรณะ​ของ​พวก​เขา. . . . แม้​แต่​หลัง​จาก​เปลี่ยน​ศาสนา​แล้ว ผู้​เปลี่ยน​ศาสนา​ที่​อยู่​ใน​วรรณะ​ต่ำ​ก็​ยัง​คง​ถูก​ปฏิบัติ​ใน​ฐานะ หริจันb . . . สมาชิก​ชาว​ซีเรีย​และ​ปู​ลา​ยา​ที่​สังกัด​โบสถ์​เดียว​กัน​ประกอบ​กิจ​ทาง​ศาสนา​แยก​ต่าง​หาก​กัน​ใน​อาคาร​คน​ละ​หลัง.”

รายงาน​ข่าว​ใน​หนังสือ​พิมพ์​ดิ อินเดียน เอกซ์​เพรส ใน​เดือน​สิงหาคม 1996 กล่าว​ถึง​คริสเตียน​ที่​เป็น​ทริทร​ดัง​นี้: “ใน​รัฐ​ทมิฬนาทุ พวก​เขา​มี​ถิ่น​ที่​อยู่​แยก​ต่าง​หาก​จาก​คน​ใน​วรรณะ​สูง. ใน​รัฐ​เคราลา พวก​เขา​ส่วน​ใหญ่​เป็น​กรรมกร​ซึ่ง​ไม่​มี​ที่​ดิน​เป็น​ของ​ตัว​เอง และ​ทำ​งาน​ให้​คริสเตียน​ชาว​ซีเรีย​และ​คน​อื่น ๆ ใน​วรรณะ​สูง​ซึ่ง​มี​ที่​ดิน. ไม่​มี​ทาง​ที่​จะ​มี​การ​รับประทาน​อาหาร​ร่วม​กัน​หรือ​การ​แต่งงาน​กัน​ระหว่าง​คริสเตียน​ที่​เป็น​ทริทร​กับ​คริสเตียน​ชาว​ซีเรีย. ใน​หลาย​กรณี พวก​ทริทร​นมัสการ​ใน​โบสถ์​ของ​พวก​เขา​เอง ซึ่ง​เรียก​ว่า ‘โบสถ์​ปู​ลา​ยา’ หรือ ‘โบสถ์​ปา​ริ​ยา.’” ชื่อ​ดัง​กล่าว​เป็น​ชื่อ​ของ​วรรณะ​ย่อย.

การ​ตอบ​สนอง​ต่อ​ความ​ไม่​พอ​ใจ

มี​กลุ่ม​นัก​ปฏิบัติการ​เชิง​รุก​ที่​เป็น​บุคคล​ธรรมดา​อยู่​หลาย​กลุ่ม อย่าง​เช่น​กลุ่ม เฟซ (สภา​ต่อ​ต้าน​การ​แสวง​ประโยชน์​จาก​คริสเตียน) กำลัง​พยายาม​เรียก​ร้อง​ให้​รัฐบาล​จัด​สวัสดิการ​แก่​ทริทร​ที่​เป็น​คริสเตียน. เรื่อง​หลัก​ที่​สนใจ​คือ​ความ​ช่วยเหลือ​ด้าน​เศรษฐกิจ​สำหรับ​ผู้​เปลี่ยน​มา​ถือ​ศาสนา​คริสเตียน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คน​อื่น ๆ สนใจ​ใน​เรื่อง​การ​ปฏิบัติ​ใน​คริสตจักร. ใน​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ถึง​โปป​จอห์น ปอล​ที่ 2 ผู้​ร่วม​ลง​นาม​ประมาณ 120 คน​แจ้ง​ว่า พวก​เขา​ได้ “รับ​เชื่อ​ศาสนา​คริสเตียน​ก็​เพื่อ​ปลด​แอก​จาก​ระบบ​วรรณะ” แต่​พวก​เขา​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เข้า​ใน​โบสถ์​ประจำ​หมู่​บ้าน​หรือ​ร่วม​ใน​การ​นมัสการ. พวก​เขา​ถูก​บังคับ​ให้​สร้าง​บ้าน​อยู่​บน​ถนน​สาย​เดียว​ซึ่ง​ไม่​มี​คริสเตียน​ใน​วรรณะ​สูง—และ​ไม่​มี​บาทหลวง​ใน​เขต​ปกครอง—ย่างกราย​ไป​ที่​นั่น​เลย! หญิง​ชาว​คาทอลิก​ผู้​เป็น​ทุกข์​ใจ​คล้าย ๆ กัน​กล่าว​ดัง​นี้: “แน่​ละ เป็น​เรื่อง​สำคัญ​สำหรับ​ฉัน​ที่​ลูก​ชาย​จะ​ได้​ศึกษา​ใน​สถาน​ศึกษา​ดี ๆ. แต่​สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​นั้น​คือ การ​ที่​เขา​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ​ว่า​เท่า​เทียม​กัน​จาก​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ [คาทอลิก] ของ​เขา.”

ขณะ​ที่​บาง​คน​พยายาม​ยก​ระดับ​สภาพ​ชีวิต​ของ​คริสเตียน​ที่​เป็น​ทริทร หลาย​คน​เริ่ม​หมด​ความ​อด​ทน. พรรค​การ​เมือง​อย่าง​เช่น พรรค​วิศวะ​ฮินดู​ปาริชาต (องค์การ​ฮินดู​โลก) กำลัง​พยายาม​ดึง​คน​ที่​เปลี่ยน​ไป​ถือ​ศาสนา​คริสเตียน​ให้​กลับ​มา​ยัง​ศาสนา​ฮินดู. หนังสือ​พิมพ์ ดิ อินเดียน เอกซ์​เพรส รายงาน​ถึง​พิธี​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​ผู้​เข้า​ร่วม​ประมาณ 10,000 คน ซึ่ง​ใน​จำนวน​นี้​มี​มาก​กว่า 600 คน​เป็น​ครอบครัว “คริสเตียน” ที่​คืน​สู่​อ้อม​อก​ของ​ลัทธิ​ฮินดู.

แนว​ทาง​คริสเตียน​แท้

หาก​มิชชันนารี​ของ​องค์การ​ศาสนา​แห่ง​คริสตจักร​ทั้ง​หลาย​สอน​คำ​สอน​ของ​พระ​คริสต์​ซึ่ง​อยู่​บน​ฐาน​ของ​ความ​รัก ย่อม​จะ​ไม่​มี “คริสเตียน​ที่​เป็น​พราหมณ์,” ไม่​มี “คริสเตียน​ที่​เป็น​ทริทร,” ไม่​มี “คริสเตียน​ที่​เป็น​ปา​ริ​ยา.” (มัดธาย 22:37-40) จะ​ไม่​มี​การ​แยก​โบสถ์​เฉพาะ​สำหรับ​พวก​ทริทร​และ​ไม่​มี​การ​แยก​กัน​รับประทาน​อาหาร. คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ทำ​ให้​เป็น​อิสระ​ซึ่ง​อยู่​เหนือ​การ​แบ่ง​ชั้น​วรรณะ​คือ​อะไร?

“ด้วย​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า, เป็น​พระเจ้า​เหนือ​พระ​อื่น​ทั้ง​ปวง, . . . ผู้​มิ​ได้​เห็น​แก่​บุคคล​ผู้​ใด, และ​มิ​ได้​เห็น​แก่​อามิษ​สินบน.”—พระ​บัญญัติ 10:17.

“พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย โดย​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา ข้าพเจ้า​กระตุ้น​เตือน​ท่าน​ทั้ง​หลาย คือ​พวก​ท่าน​ทุก​คน​ควร​พูด​จา​ปรองดอง​กัน และ​ไม่​ควร​มี​การ​แบ่ง​แยก​กัน​ใน​ท่ามกลาง​ท่าน แต่​ให้​ท่าน​เป็น​หนึ่ง​เดียว​โดย​มี​จิตใจ​และ​แนว​ความ​คิด​เดียว​กัน.”—1 โกรินโธ 1:10, ล.ม.

“โดย​เหตุ​นี้​คน​ทั้ง​ปวง​จะ​รู้​ว่า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เป็น​สาวก​ของ​เรา ถ้า​เจ้า​มี​ความ​รัก​ระหว่าง​พวก​เจ้า​เอง.”—โยฮัน 13:35, ล.ม.

คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ว่า​พระเจ้า​ทรง​สร้าง​มนุษยชาติ​ทั้ง​สิ้น​จาก​คน ๆ เดียว. คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า ลูก​หลาน​ของ​ชาย​คน​เดียว​นั้น​ควร ‘แสวง​หา​พระเจ้า​ให้​พบ มาตร​ว่า​พระองค์​มิ​ได้​ทรง​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​พวก​เรา​แต่​ละ​คน.’—กิจการ 17:26, 27, ล.ม.

เมื่อ​การ​แบ่ง​ชั้น​วรรณะ​เริ่ม​แทรกซึม​เข้า​มา​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​ยาโกโบ​ซึ่ง​เขียน​ภาย​ใต้​การ​ดล​ใจ กล่าว​ตำหนิ​พฤติกรรม​ดัง​กล่าว​อย่าง​ไม่​อ้อม​ค้อม. ท่าน​กล่าว​ดัง​นี้: “ท่าน​ก็​แบ่ง​ชั้น​วรรณะ​ใน​พวก​ท่าน และ​กลาย​เป็น​ผู้​พิพากษา​ที่​ตัดสิน​อย่าง​ชั่ว​ช้า​มิ​ใช่​หรือ?” (ยาโกโบ 2:1-4, ล.ม.) คำ​สอน​ของ​คริสเตียน​แท้​ไม่​ยอม​ให้​กับ​ระบบ​วรรณะ​ไม่​ว่า​ใน​รูป​ใด​ก็​ตาม.

ความ​จำเป็น​ที่​ต้อง​คิด​แบบ​โลก​ใหม่

พยาน​พระ​ยะโฮวา​หลาย​ล้าน​คน​ได้​เต็ม​ใจ​เปลี่ยน​ความ​เชื่อ​และ​การ​กระทำ​แต่​เก่า​ก่อน​ของ​ตน​ซึ่ง​ถูก​ปลูกฝัง​จาก​ศาสนา​ต่าง ๆ มาก​มาย. คำ​สอน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ขจัด​ความ​รู้สึก​ใน​เรื่อง​ความ​เหนือ​กว่า​หรือ​ด้อย​กว่า​ออก​จาก​หัวใจ​และ​ความ​คิด​จิตใจ​ของ​พวก​เขา ไม่​ว่า​ความ​คิด​เหล่า​นี้​มี​ต้นตอ​มา​จาก​การ​ล่า​อาณานิคม, เชื้อชาติ, การ​แยก​ผิว, หรือ​ระบบ​วรรณะ​หรือ​ไม่​ก็​ตาม. (โรม 12:1, 2) พวก​เขา​มี​ความ​เข้าใจ​ที่​ชัดเจน​ใน​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เรียก​ว่า “แผ่นดิน​โลก​ใหม่” ที่​ซึ่ง “ความ​ชอบธรรม​จะ​ดำรง​อยู่.” ช่าง​เป็น​ความ​หวัง​อัน​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ สำหรับ​ผู้​คน​มาก​มาย​ใน​โลก​ที่​ทน​ทุกข์​อยู่​ใน​เวลา​นี้!—2 เปโตร 3:13.

[เชิงอรรถ]

a “วรรณะ​ใน​โครงการ” เป็น​คำ​ที่​ทาง​การ​ใช้​สำหรับ​วรรณะ​ต่ำ​ใน​หมู่​ชาว​ฮินดู หรือ​คน​นอก​วรรณะ (จัณฑาล) ซึ่ง​ถูก​กีด​กัน​ทาง​สังคม​และ​เศรษฐกิจ.

b เอ็ม. เค. คานธี คิด​คำ​นี้​ขึ้น​มา​เพื่อ​ใช้​เรียก​คน​ใน​วรรณะ​ต่ำ. คำ​นี้​มี​ความ​หมาย​ว่า “ประชาชน​แห่ง​หริ” (หริ​คือ​ชื่อ​หนึ่ง​ของ​พระ​วิษณุ).

[จุด​เด่น/รูป​ภาพ​หน้า 25]

“พระเจ้า​ไม่​ทรง​เลือก​หน้า​ผู้​ใด แต่​ชาว​ชน​ใน​ประเทศ​ใด ๆ ที่​เกรง​กลัว​พระองค์​และ​ประพฤติ​ใน​ทรง​ชอบธรรม ก็​เป็น​ที่​ชอบ​พระทัย​พระองค์.”—กิจการ 10:34, 35

[กรอบ/รูป​ภาพ​หน้า 23]

รู้สึก​อย่าง​ไร​ที่​ถูก​เหยียด?

ความ​รู้สึก​จะ​เป็น​อย่าง​ไร​เมื่อ​ถูก​คน​ที่​อ้าง​ตัว​เป็น​คริสเตียน​เหยียด​ว่า​เป็น​คน​นอก​วรรณะ? คริสเตียน​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​บรรพบุรุษ​เป็น​ชาว​ฮินดู​ที่​เปลี่ยน​มา​ถือ​ศาสนา​คริสต์ ซึ่ง​อยู่​ใน​วรรณะ​ต่ำ​ที่​เรียก​ว่า เชอร์มาร์ หรือ ปู​ลา​ยา เล่า​เหตุ​การณ์​ใน​ครั้ง​หนึ่ง​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​ใน​รัฐ​เคราลา​อัน​เป็น​บ้าน​เกิด​ของ​เขา เมื่อ​หลาย​ปี​มา​แล้ว ดัง​นี้:

ผม​ได้​รับ​เชิญ​ไป​ยัง​งาน​สมรส​ซึ่ง​แขก​หลาย​คน​ที่​มา​ร่วม​งาน​เป็น​สมาชิก​โบสถ์. เมื่อ​พวก​เขา​เห็น​ผม​ที่​งาน​เลี้ยง ก็​เกิด​ความ​วุ่นวาย​ขึ้น​มา และ​คน​ที่​มา​จาก​คริสตจักร​ออร์โทด็อกซ์​ของ​ชาว​ซีเรีย​บอก​ว่า พวก​เขา​จะ​ไม่​อยู่​ร่วม​งาน​เลี้ยง​นอก​เสีย​จาก​ผม​จะ​ออก​จาก​งาน​เลี้ยง เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ไม่​ยอม​รับประทาน​อาหาร​ร่วม​กับ​คน​ใน​วรรณะ​ปู​ลา​ยา. เมื่อ​พ่อ​เจ้าสาว​ไม่​ยอม​ทำ​ตาม​คำ​ขาด​ของ​พวก​เขา พวก​เขา​ทั้ง​กลุ่ม​ก็​พา​กัน​คว่ำ​บาตร​งาน​เลี้ยง​นั้น. หลัง​จาก​พวก​เขา​ไป​แล้ว ก็​มี​การ​เสิร์ฟ​อาหาร. แต่​คน​ที่​ทำ​หน้า​ที่​เสิร์ฟ​อาหาร​ปฏิเสธ​ไม่​ยอม​เก็บ​ใบ​ตอง​รอง​อาหาร​ที่​ผม​รับประทาน​และ​ไม่​ยอม​ทำ​ความ​สะอาด​โต๊ะ​ผม.

[รูปภาพ]

โบสถ์​ที่​เห็น​ทั่ว​ไป​ใน​อินเดีย​ตอน​ใต้ ซึ่ง​เฉพาะ​คน​ใน​วรรณะ​ต่ำ​เท่า​นั้น​ที่​ประชุม​กัน​ที่​นี่

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์