ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • วว บท 6 น. 27-32
  • การไขความลับอันศักดิ์สิทธิ์

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • การไขความลับอันศักดิ์สิทธิ์
  • พระธรรมวิวรณ์—ใกล้จะถึงจุดสุดยอด!
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • “ผู้​แรก​และ​ผู้​สุด​ท้าย”
  • ดาว​และ​เชิง​ตะเกียง
  • การ​ออก​หาก​ครั้ง​ใหญ่
  • พงศ์พันธุ์​นั้น​ยืนยง
  • โยฮันเห็นพระเยซูผู้ทรงสง่าราศี
    พระธรรมวิวรณ์—ใกล้จะถึงจุดสุดยอด!
  • พระคริสต์ตรัสแก่ประชาคมต่าง ๆ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2003
  • “ผมรู้ว่าคุณทำอะไรบ้าง”
    ชีวิตและงานรับใช้ของคริสเตียน—คู่มือประชุม 2019
  • จงเป็นผู้อ่านพระธรรมวิวรณ์ที่มีความสุข
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1999
ดูเพิ่มเติม
พระธรรมวิวรณ์—ใกล้จะถึงจุดสุดยอด!
วว บท 6 น. 27-32

บท 6

การ​ไข​ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์

1. เรา​ควร​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​ภาพ​อัน​งดงาม​รุ่ง​โรจน์​ที่​มี​บันทึก​ไว้​ใน​วิวรณ์ 1:10-17?

นิมิต​เกี่ยว​ด้วย​พระ​เยซู​ผู้​ได้​รับ​สง่า​ราศี​ช่าง​น่า​เกรง​ขาม​เสีย​นี่​กระไร! ไม่​ต้อง​สงสัย หาก​เรา​ได้​อยู่ ณ ที่​นั่น​ใน​ฐานะ​ผู้​สังเกตการณ์​ร่วม​กับ​อัครสาวก​โยฮัน เรา​คง​แทบ​สิ้น​สติ​เช่น​กัน​เนื่อง​จาก​รัศมี​อัน​โชติช่วง และ​คง​ต้อง​ได้​กราบ​ลง​แทบ​เท้า​เหมือน​กับ​ท่าน. (วิวรณ์ 1:10-17) นิมิต​โดย​การ​ดล​ใจ​อัน​ยอด​เยี่ยม​นี้​ได้​รับ​การ​รักษา​ไว้​เพื่อ​กระตุ้น​พวก​เรา​ใน​ปัจจุบัน​ให้​ลง​มือ​ปฏิบัติ. เช่น​เดียว​กับ​โยฮัน เรา​ควร​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ถ่อม​ใจ​ต่อ​ทุก​สิ่ง​ที่​นิมิต​นี้​หมาย​ถึง. ขอ​ให้​พวก​เรา​เคารพ​ยำเกรง​พระ​เยซู​อยู่​เสมอ​ใน​ฐานะ​เป็น​กษัตริย์​ผู้​ทรง​ราชย์, มหา​ปุโรหิต, และ​ผู้​พิพากษา.—ฟิลิปปอย 2:5-11.

“ผู้​แรก​และ​ผู้​สุด​ท้าย”

2. (ก) พระ​เยซู​ทรง​แนะ​นำ​พระองค์​เอง​ด้วย​บรรดาศักดิ์​อะไร? (ข) เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ว่า “เรา​เป็น​เบื้อง​ต้น​และ​เรา​เป็น​เบื้อง​ปลาย” นั้น​หมายความ​ว่า​อย่าง​ไร? (ค) บรรดาศักดิ์​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “ผู้​แรก​และ​ผู้​สุด​ท้าย” นั้น​นำ​ความ​สนใจ​สู่​อะไร?

2 อย่าง​ไร​ก็​ดี ความ​เกรง​กลัว​ของ​เรา​ไม่​ต้อง​กลาย​เป็น​ความ​กลัว​อย่าง​ขนพอง​สยอง​เกล้า. พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​รับรอง​แก่​โยฮัน ดัง​ที่​อัครสาวก​ได้​แถลง​ต่อ​ไป. “พระองค์​จึง​ทรง​วาง​พระ​หัตถ์​ขวา​บน​ตัว​ข้าพเจ้า​แล้ว​ตรัส​ว่า ‘อย่า​กลัว​เลย. เรา​เป็น​ผู้​แรก​และ​ผู้​สุด​ท้าย และ​เป็น​ผู้​มี​ชีวิต​อยู่.’” (วิวรณ์ 1:17ข, 18ก, ล.ม.) ที่​ยะซายา 44:6 พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ถึง​ฐานะ​ของ​พระองค์​ที่​ทรง​เป็น​พระเจ้า​องค์​ทรง​ฤทธานุภาพ​ทุก​ประการ​แต่​ผู้​เดียว​อย่าง​ถูก​ต้อง​ว่า “เรา​เป็น​เบื้อง​ต้น และ​เรา​เป็น​เบื้อง​ปลาย และ​นอก​จาก​เรา​ไม่​มี [“พระเจ้า,” ล.ม.] เลย.”a เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​พระองค์​เอง​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น “ผู้​แรก​และ​ผู้​สุด​ท้าย” พระองค์​หา​ได้​อ้าง​ตน​เสมอ​ภาค​กับ​พระ​ยะโฮวา พระ​ผู้​สร้าง​องค์​ใหญ่​ยิ่ง​ไม่. พระองค์​ทรง​ใช้​บรรดาศักดิ์​ที่​พระเจ้า​ทรง​ประทาน​ให้​พระองค์​นั้น​อย่าง​ถูก​ต้อง. ที่​พระ​ธรรม​ยะซายา พระ​ยะโฮวา​ได้​ตรัส​ถึง​ตำแหน่ง​อัน​หา​ที่​เปรียบ​ไม่​ได้​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ​เป็น​พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้. พระองค์​ทรง​เป็น​พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระ​เจริญ​นิรันดร์ และ​ที่​แท้ นอก​จาก​พระองค์​ไม่​มี​พระเจ้า​อื่น. (1 ติโมเธียว 1:17) ที่​พระ​ธรรม​วิวรณ์ พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​บรรดาศักดิ์​ที่​พระองค์​ได้​รับ โดย​มุ่ง​ความ​สนใจ​ใน​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ของ​พระองค์​อัน​หา​ที่​เปรียบ​ไม่​ได้.

3. (ก) พระ​เยซู​ทรง​เป็น “ผู้​แรก​และ​ผู้​สุด​ท้าย” ใน​ทาง​ใด? (ข) การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มี “ลูก​กุญแจ​แห่ง​ความ​ตาย​และ​หลุม​ศพ” นั้น​หมายความ​ว่า​อย่าง​ไร?

3 พระ​เยซู​ทรง​เป็น “ผู้​แรก” อย่าง​แท้​จริง​ที่​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​สู่​ชีวิต​กาย​วิญญาณ​อมตะ. (โกโลซาย 1:18) ยิ่ง​กว่า​นั้น พระองค์​ทรง​เป็น “ผู้​สุด​ท้าย” ที่​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​โดย​ตรง​จาก​พระ​ยะโฮวา. โดย​เหตุ​นี้ พระองค์​ทรง​เป็น “ผู้​มี​ชีวิต​อยู่ . . . มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์.” พระองค์​ทรง​อมฤตยู. ใน​ด้าน​นี้ พระองค์​ทรง​สภาพ​เช่น​เดียว​กับ​พระ​บิดา​องค์​ทรง​อมฤตยู ผู้​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ขนาน​นาม​ว่า “พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่.” (วิวรณ์ 7:2, ล.ม.; บทเพลง​สรรเสริญ 42:2) สำหรับ​มนุษยชาติ​นอก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​เป็น “การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​เป็น​ชีวิต.” (โยฮัน 11:25, ล.ม.) สอดคล้อง​กับ​เรื่อง​นี้ พระองค์​ทรง​ตรัส​กับ​โยฮัน​ว่า “เรา​เคย​ตาย​แล้ว แต่​บัด​นี้​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์ และ​เรา​มี​กุญแจ​แห่ง​ความ​ตาย​และ​หลุม​ศพ.” (วิวรณ์ 1:18ข, ล.ม.) พระ​ยะโฮวา​ทรง​ประทาน​อำนาจ​ใน​การ​ปลุก​คน​ตาย​แก่​พระองค์. นั่น​คือ​เหตุ​ผล​ที่​พระ​เยซู​สามารถ​ตรัส​ได้​ว่า พระองค์​ทรง​มี​กุญแจ​จะ​ปลด​ปล่อย​คน​ที่​ถูก​ผูก​มัด​โดย​ความ​ตาย​และ​ฮาเดส (หลุม​ฝัง​ศพ).—เทียบ​กับ​มัดธาย 16:18.

4. พระ​เยซู​ทรง​กล่าว​ซ้ำ​คำ​บัญชา​อะไร และ​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ใคร?

4 บัด​นี้​พระ​เยซู​ทรง​ตรัส​ย้ำ​พระ​บัญชา​ของ​พระองค์​ที่​ให้​บันทึก​นิมิต​นี้​โดย​ตรัส​แก่​โยฮัน​ว่า “จง​เขียน​สิ่ง​ที่​เจ้า​ได้​เห็น และ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ตอน​นี้​และ​สิ่ง​ที่​จะ​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​นั้น.” (วิวรณ์ 1:19, ล.ม.) สิ่ง​น่า​ตื่นเต้น​อะไร​อีก​ที่​โยฮัน​จะ​เปิด​เผย​ให้​เรา​ได้​ทราบ?

ดาว​และ​เชิง​ตะเกียง

5. พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​อย่าง​ไร​ถึง “ดาว​เจ็ด​ดวง” และ “เชิง​ตะเกียง​เจ็ด​อัน”?

5 โยฮัน​ได้​เห็น​พระ​เยซู​อยู่​ท่ามกลาง​เชิง​ตะเกียง​ทองคำ​เจ็ด​อัน​พร้อม​ด้วย​ดาว​เจ็ด​ดวง​ใน​พระ​หัตถ์​เบื้อง​ขวา​ของ​พระองค์. (วิวรณ์ 1:12, 13, 16) บัด​นี้​พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​ดัง​นี้: “ส่วน​ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​เรื่อง​ดาว​เจ็ด​ดวง​ที่​เจ้า​เห็น​ใน​มือ​ขวา​ของ​เรา​และ​เรื่อง​เชิง​ตะเกียง​ทองคำ​เจ็ด​อัน​นั้น​คือ​ดัง​นี้ ดาว​เจ็ด​ดวง​หมาย​ถึง​เหล่า​ทูต​ของ​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด และ​เชิง​ตะเกียง​เจ็ด​อัน​หมาย​ถึง​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด.”—วิวรณ์ 1:20, ล.ม.

6. ดาว​เจ็ด​ดวง​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​อะไร และ​เหตุ​ใด​จึง​มี​การ​แถลง​ข่าวสาร​ต่อ​เขา​เหล่า​นี้​โดย​เฉพาะ?

6 “ดาว” เจ็ด​ดวง​นั้น​ได้​แก่ “เหล่า​ทูต​ของ​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด.” ใน​พระ​ธรรม​วิวรณ์ บาง​ครั้ง​ดาว​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​ทูตสวรรค์​จริง ๆ แต่​พระ​เยซู​คง​จะ​ไม่​ใช้​ผู้​เขียน​ที่​เป็น​มนุษย์​ให้​เขียน​ไป​ถึง​กาย​วิญญาณ. ดัง​นั้น “ดาว” คง​ต้อง​หมาย​ถึง​ผู้​ดู​แล หรือ​ผู้​ปกครอง ที่​เป็น​มนุษย์​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ ซึ่ง​เปรียบ​เสมือน​ผู้​ส่ง​ข่าว​ของ​พระ​เยซู.b ข่าวสาร​นั้น​มี​ไป​ถึง​ดาว​เหล่า​นั้น เพราะ​คน​เหล่า​นั้น​มี​ความ​รับผิดชอบ​ดู​แล​ฝูง​แกะ​ของ​พระ​ยะโฮวา.—กิจการ 20:28.

7. (ก) อะไร​แสดง​ว่า การ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​แก่​ทูตสวรรค์​เพียง​องค์​เดียว​ใน​แต่​ละ​ประชาคม​นั้น​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​แต่​ละ​ประชาคม​มี​ผู้​ปกครอง​เพียง​คน​เดียว​เท่า​นั้น? (ข) จริง ๆ แล้ว ดาว​เจ็ด​ดวง​ใน​พระ​หัตถ์​เบื้อง​ขวา​ของ​พระ​เยซู​นั้น​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​ใคร?

7 เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ตรัส​กับ “ทูต” เพียง​คน​เดียว​ใน​แต่​ละ​ประชาคม นั่น​หมายความ​ว่า แต่​ละ​ประชาคม​มี​ผู้​ปกครอง​เพียง​คน​เดียว​ไหม? ไม่​ใช่​เช่น​นั้น. ใน​สมัย​เปาโล ประชาคม​ที่​เอเฟโซส์​มี​ผู้​ปกครอง​หลาย​คน ไม่​ใช่​คน​เดียว. (วิวรณ์ 2:1; กิจการ 20:17) ดัง​นั้น ใน​สมัย​โยฮัน เมื่อ​ข่าวสาร​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​ดาว​ทั้ง​เจ็ด เพื่อ​จะ​อ่าน​แก่​ประชาคม​ต่าง ๆ (รวม​ทั้ง​ประชาคม​ใน​เอเฟโซส์) ดาว​คง​ต้อง​หมาย​ถึง​คณะ​ผู้​ปกครอง​ที่​รับใช้​ภาย​ใน​ประชาคม​ที่​ถูก​เจิม​ของ​พระ​ยะโฮวา. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พวก​ผู้​ดู​แล​สมัย​นี้​จะ​อ่าน​ให้​ประชาคม​ฟัง​จาก​จดหมาย​ที่​ได้​รับ​จาก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​อัน​ประกอบ​ด้วย​กลุ่ม​ผู้​ดู​แล​ที่​ถูก​เจิม ผู้​ซึ่ง​รับใช้​ภาย​ใต้​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​ประมุข. คณะ​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​ท้องถิ่น​ต้อง​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า ประชาคม​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู. แน่นอน คำ​แนะ​นำ​นั้น​ก็​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ทุก​คน​ที่​สมทบ​กับ​ประชาคม ไม่​เฉพาะ​แต่​ผู้​ปกครอง​เท่า​นั้น.—ดู​วิวรณ์ 2:11​ก.

8. การ​ที่​พวก​ผู้​ปกครอง​อยู่​ใน​พระ​หัตถ์​เบื้อง​ขวา​ของ​พระ​เยซู​นั้น​บ่ง​ชี้​ถึง​สิ่ง​ใด?

8 เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ทรง​เป็น​ประมุข​ของ​ประชาคม จึง​กล่าว​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ว่า ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย​อยู่​ใน​พระ​หัตถ์​ขวา​ของ​พระองค์ กล่าว​คือ อยู่​ภาย​ใต้​การ​ควบคุม​และ​การ​ชี้​นำ​ของ​พระองค์. (โกโลซาย 1:18) พระองค์​ทรง​เป็น​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​องค์​เอก และ​พวก​เขา​เป็น​รอง​ผู้​บำรุง​เลี้ยง.—1 เปโตร 5:2-4.

9. (ก) เชิง​ตะเกียง​เจ็ด​อัน​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​อะไร และ​ทำไม​เชิง​ตะเกียง​เหล่า​นี้​จึง​เป็น​สัญลักษณ์​ที่​เหมาะ​สม​สำหรับ​สิ่ง​นั้น? (ข) เป็น​ไป​ได้​ว่า นิมิต​นั้น​คง​จะ​เตือน​ให้​อัครสาวก​โยฮัน​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ใด?

9 เชิง​ตะเกียง​ทั้ง​เจ็ด​คือ​เจ็ด​ประชาคม​ที่​โยฮัน​เขียน​พระ​ธรรม​วิวรณ์​ไป​ถึง ได้​แก่ เอเฟโซส์, สเมอร์นา, เปอร์กาโมส์, ทิอาทิรา, ซาร์ดิส, ฟีลาเดลเฟีย, และ​ลาโอดิเคีย. เหตุ​ใด​จึง​ได้​ใช้​เชิง​ตะเกียง​เป็น​สัญลักษณ์​ถึง​ประชาคม​ต่าง ๆ? เนื่อง​จาก​คริสเตียน ไม่​ว่า​เป็น​ราย​บุคคล​หรือ​โดย​ส่วน​รวม​เป็น​ประชาคม ก็​ต้อง ‘ให้​ความ​สว่าง​ของ​เขา​ส่อง​ไป​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง’ ใน​โลก​ที่​มืดมน​นี้. (มัดธาย 5:14-16) นอก​จาก​นี้ เชิง​ตะเกียง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​เครื่อง​ตกแต่ง​พระ​วิหาร​ของ​ซะโลโม. การ​เรียก​ประชาคม​ว่า​เชิง​ตะเกียง​นั้น​คง​เตือน​โยฮัน​ให้​ระลึก​ว่า ใน​ความหมาย​เปรียบ​เทียบ​แล้ว แต่​ละ​ประชาคม​แห่ง​ผู้​ถูก​เจิม​เป็น “พระ​วิหาร​ของ​พระเจ้า” เป็น​ที่​สถิต​แห่ง​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า. (1 โกรินโธ 3:16) ยิ่ง​กว่า​นั้น ใน​ตัว​จริง​ของ​การ​จัด​เตรียม​ที่​พระ​วิหาร​ของ​พวก​ยิว​เป็น​แบบ​เล็ง​ถึง​นั้น สมาชิก​ประชาคม​แห่ง​ผู้​ถูก​เจิม​รับใช้​ใน​ฐานะ “ปุโรหิต​หลวง” ใน​การ​จัด​เตรียม​เกี่ยว​กับ​พระ​วิหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​มี​พระ​เยซู​เป็น​มหา​ปุโรหิต​และ​ซึ่ง​เป็น​ที่​ประทับ​ส่วน​พระองค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ที่​บริสุทธิ์​ที่​สุด​ใน​สวรรค์.—1 เปโตร 2:4, 5, 9; เฮ็บราย 3:1; 6:20; 9:9-14, 24.

การ​ออก​หาก​ครั้ง​ใหญ่

10. มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​กับ​ระบบ​ของ​พวก​ยิว​กับ​บรรดา​ผู้​ให้​การ​สนับสนุน​ซึ่ง​ไม่​กลับ​ใจ​ของ​ระบบ​นี้​ใน​ปี​สากล​ศักราช 70?

10 ตอน​ที่​โยฮัน​เขียน​พระ​ธรรม​วิวรณ์ ศาสนา​คริสเตียน​มี​มา​กว่า 60 ปี​แล้ว. ใน​ตอน​ต้น ศาสนา​นี้​ได้​ผ่าน​การ​ต่อ​ต้าน​จาก​ลัทธิ​ยูดาย​เรื่อย​มา​ถึง 40 ปี. ครั้น​แล้ว​ระบบ​ของ​ชาว​ยิว​ประสบ​การ​โจมตี​อย่าง​รุนแรง​ที่​สุด​ใน​ปี​สากล​ศักราช 70 เมื่อ​ชาว​ยิว​ที่​ไม่​กลับ​ใจ​สูญ​เสีย​เอกลักษณ์​ประจำ​ชาติ​และ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​บูชา​ประหนึ่ง​รูป​เคารพ คือ​พระ​วิหาร​ใน​กรุง​เยรูซาเลม.

11. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​เวลา​อัน​เหมาะ​สม​จริง ๆ ที่​ท่าน​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​องค์​ยิ่ง​ใหญ่​จะ​ให้​คำ​เตือน​แก่​ประชาคม​ทั้ง​หลาย​เกี่ยว​กับ​แนว​โน้ม​ที่​กำลัง​เกิด​ขึ้น?

11 อย่าง​ไร​ก็​ตาม อัครสาวก​เปาโล​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า​ว่า จะ​มี​การ​ออก​หาก​ท่ามกลาง​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม และ​ข่าวสาร​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ว่า ใน​สมัย​ที่​โยฮัน​ชรา การ​ออก​หาก​นั้น​ได้​เกิด​ขึ้น​อยู่​แล้ว. โยฮัน​เป็น​คน​สุด​ท้าย​ใน​เหล่า​ผู้​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​เครื่อง​หน่วง​เหนี่ยว​ความ​พยายาม​เช่น​นี้​ใน​ทุก​วิถี​ทาง​ของ​ซาตาน​เพื่อ​ทำ​ให้​พงศ์พันธุ์​ของ​หญิง​เป็น​มลทิน. (2 เธซะโลนิเก 2:3-12; 2 เปโตร 2:1-3; 2 โยฮัน 7-11) ดัง​นั้น จึง​เป็น​เวลา​อัน​เหมาะ​ที่​ผู้​เลี้ยง​องค์​เอก​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​เขียน​ไป​ยัง​พวก​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ เตือน​ให้​รู้​ตัว​ถึง​แนว​โน้ม​ที่​ขยาย​ตัว​และ​หนุน​กำลังใจ​ผู้​ที่​มี​หัวใจ​ถูก​ต้อง​ให้​ยืนหยัด​มั่นคง​เพื่อ​ความ​ชอบธรรม.

12. (ก) เกิด​การ​ออก​หาก​ขึ้น​อย่าง​ไร​ใน​ศตวรรษ​ต่าง ๆ ภาย​หลัง​การ​สิ้น​ชีวิต​ของ​โยฮัน? (ข) คริสต์​ศาสนจักร​เกิด​มี​ขึ้น​มา​อย่าง​ไร?

12 ประชาคม​ต่าง ๆ ใน​ปี​สากล​ศักราช 96 ตอบรับ​ข่าวสาร​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ไร​นั้น​เรา​ไม่​ทราบ. แต่​ที่​เรา​ทราบ​คือ การ​ออก​หาก​ขยาย​ตัว​อย่าง​รวด​เร็ว​ภาย​หลัง​โยฮัน​สิ้น​ชีวิต. “คริสเตียน” เลิก​ใช้​พระ​นาม​ยะโฮวา และ​ใช้​คำ “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” หรือ “พระเจ้า” แทน​พระ​นาม​นี้​ใน​สำเนา​คัมภีร์​ไบเบิล. พอ​ถึง​ศตวรรษ​ที่​สี่ หลัก​คำ​สอน​เท็จ​ว่า​ด้วย​ตรีเอกานุภาพ​ได้​แทรกซึม​เข้า​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ. ใน​ช่วง​เวลา​เดียว​กัน ได้​มี​การ​รับ​เอา​แนว​ความ​คิด​เรื่อง​จิตวิญญาณ​อมตะ. ใน​ที่​สุด จักรพรรดิ​คอนสแตนติน​แห่ง​โรม​ได้​ให้​การ​รับรอง​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​แก่ “ศาสนา​คริสต์” และ​การ​ทำ​เช่น​นี้​ทำ​ให้​คริสต์​ศาสนจักร​กำเนิด​ขึ้น​มา ซึ่ง​คริสตจักร​กับ​รัฐ​รวม​กำลัง​กัน​ใน​การ​ปกครอง​เป็น​เวลา​หนึ่ง​พัน​ปี. เป็น​การ​ง่าย​ที่​จะ​เปลี่ยน​เป็น “คริสเตียน” แบบ​ใหม่. ผู้​คน​ทั้ง​เผ่า​จาก​เผ่า​ต่าง ๆ ได้​ปรับ​เปลี่ยน​กิจ​ปฏิบัติ​แบบ​นอก​รีต​ที่​เขา​มี​อยู่​ก่อน​ให้​เข้า​กับ​รูป​แบบ​ของ​ศาสนา​นี้. ผู้​นำ​หลาย​คน​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​ได้​กลาย​เป็น​ทรราช​ทาง​การ​เมือง​ที่​โหด​เหี้ยม ใช้​ดาบ​เพื่อ​ยัดเยียด​ทัศนะ​แบบ​ออก​หาก​ของ​ตน.

13. แม้​ว่า​มี​คำ​เตือน​ของ​พระ​เยซู​ต่อ​เรื่อง​การ​แตก​แยก​เป็น​ฝัก​เป็น​ฝ่าย​ก็​ตาม พวก​คริสเตียน​ที่​ออก​หาก​ได้​ยึด​เอา​แนว​ทาง​เช่น​ไร?

13 คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​มี​ไป​ยัง​เจ็ด​ประชาคม​นั้น​ถูก​พวก​คริสเตียน​ที่​ออก​หาก​ปฏิเสธ​อย่าง​สิ้นเชิง. พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ชาว​เอเฟโซส์​ให้​ฟื้นฟู​ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​เคย​มี​แต่​แรก. (วิวรณ์ 2:4) อย่าง​ไร​ก็​ตาม สมาชิก​ทั้ง​หลาย​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร ซึ่ง​ไม่​เป็น​เอกภาพ​อีก​ต่อ​ไป​ด้วย​ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา ได้​สู้​รบ​กัน​อย่าง​โหด​เหี้ยม​รุนแรง​และ​ข่มเหง​กัน​และ​กัน​อย่าง​ร้ายกาจ. (1 โยฮัน 4:20) พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ประชาคม​ที่​เปอร์กาโมส์​เรื่อง​การ​แตก​แยก. กระนั้น ก็​มี​การ​แยก​เป็น​นิกาย​ต่าง ๆ แม้​ใน​ศตวรรษ​ที่​สอง และ​ทุก​วัน​นี้​ภาย​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​ก็​มี​นับ​พัน ๆ นิกาย​และ​ศาสนา​ที่​วิวาท​บาดหมาง​กัน.—วิวรณ์ 2:15.

14. (ก) ถึง​แม้​พระ​เยซู​ได้​เตือน​ถึง​การ​ตาย​ฝ่าย​วิญญาณ​ก็​ตาม พวก​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ยึด​เอา​แนว​ทาง​ใด? (ข) ใน​แนว​ทาง​ใด​พวก​ที่​อ้าง​ตัว​เป็น​คริสเตียน​ได้​พลาด​ไป​จาก​การ​เอา​ใจ​ใส่​คำ​เตือน​ของ​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​รูป​เคารพ​และ​การ​ผิด​ศีลธรรม?

14 พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ประชาคม​ที่​ซาร์ดิส​ถึง​การ​ตาย​ฝ่าย​วิญญาณ. (วิวรณ์ 3:1) เช่น​เดียว​กับ​ผู้​คน​ที่​ซาร์ดิส คน​ที่​ประกาศ​ตัว​เป็น​คริสเตียน​ได้​ลืม​การ​งาน​ฝ่าย​คริสเตียน​อย่าง​รวด​เร็ว และ​ใน​ไม่​ช้า​ก็​ได้​ยก​งาน​ประกาศ​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​นี้​ไว้​กับ​ชน​ชั้น​นัก​เทศน์​นัก​บวช​กลุ่ม​เล็ก ๆ ที่​รับ​ค่า​จ้าง. พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ประชาคม​ที่​ทิอาทิรา​เรื่อง​การ​ไหว้​รูป​เคารพ​และ​การ​ผิด​ประเวณี. (วิวรณ์ 2:20) กระนั้น คริสต์​ศาสนจักร​เอง​กลับ​ยอม​ให้​ใช้​รูป​เคารพ​อย่าง​เปิด​เผย และ​ส่ง​เสริม​การ​ไหว้​รูป​เคารพ​ใน​แบบ​ที่​ซ่อน​เร้น​ยิ่ง​ขึ้น​ของ​ลัทธิ​ชาติ​นิยม​และ​ลัทธิ​วัตถุ​นิยม. และ​แม้​บาง​ครั้ง​จะ​เทศนา​ต่อ​ต้าน​การ​ผิด​ศีลธรรม​อยู่​บ้าง แต่​ก็​ยัง​ยอม​ให้​กับ​การ​ทำ​เช่น​นั้น​อยู่​เนือง ๆ.

15. ถ้อย​คำ​ของ​พระ​เยซู​ที่​มี​ไป​ถึง​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​นั้น​เปิด​เผย​อะไร​เกี่ยว​กับ​ศาสนา​ต่าง ๆ แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร และ​พวก​นัก​เทศน์​นัก​บวช​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​เป็น​อะไร?

15 ฉะนั้น คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​มี​ไป​ถึง​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​จึง​เปิดโปง​ความ​ล้มเหลว​อย่าง​สิ้นเชิง​ของ​ทุก​ศาสนา​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​ที่​จะ​เป็น​ประชาชน​พิเศษ​ของ​พระ​ยะโฮวา. แท้​จริง พวก​นัก​เทศน์​นัก​บวช​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​เป็น​สมาชิก​โดด​เด่น​ที่​สุด​แห่ง​พงศ์พันธุ์​ของ​ซาตาน. เมื่อ​กล่าว​ถึง​พวก​เขา​ใน​ฐานะ “คน​ละเลย​กฎหมาย” อัครสาวก​เปาโล​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า “การ​อยู่​ของ​คน​ละเลย​กฎหมาย​นั้น​เป็น​ไป​ตาม​การ​ดำเนิน​งาน​ของ​ซาตาน​พร้อม​กับ​อิทธิ​ฤทธิ์​ทุก​อย่าง​และ​สัญลักษณ์​ปลอม​และ​เหตุ​การณ์​ประหลาด และ​พร้อม​ด้วย​อุบาย​หลอก​ลวง​อัน​ไม่​เป็น​ธรรม​ทุก​อย่าง.”—2 เธซะโลนิเก 2:9, 10, ล.ม.

16. (ก) พวก​ผู้​นำ​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​แสดง​ความ​จง​เกลียด​จง​ชัง​ต่อ​ใคร​เป็น​พิเศษ? (ข) มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​ใน​ช่วง​ยุค​กลาง? (ค) การ​ขัด​ขืน หรือ​การ​ปฏิรูป​ของ​โปรเตสแตนต์​ได้​เปลี่ยน​แปลง​แนว​ทาง​การ​ออก​หาก​ของ​คริสต์​ศาสนจักร​ไหม?

16 ขณะ​ที่​อ้าง​ตัว​เป็น​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​ฝูง​แกะ​ของ​พระเจ้า พวก​ผู้​นำ​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร ไม่​ว่า​ทาง​ศาสนา​หรือ​ทาง​โลก ต่าง​ก็​แสดง​ความ​จง​เกลียด​จง​ชัง​ต่อ​ผู้​ที่​พยายาม​สนับสนุน​การ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​หรือ​ใคร​ก็​ตาม​ที่​เปิดโปง​พฤติกรรม​ของ​เขา​ซึ่ง​ขัด​กับ​หลัก​พระ​คัมภีร์. จอห์น ฮุส และ​ผู้​แปล​พระ​คัมภีร์​ชื่อ วิลเลียม ทินเดล ถูก​ข่มเหง​และ​ถูก​ฆ่า​เพราะ​ความ​เชื่อ. ระหว่าง​ยุค​มืด การ​ปกครอง​แบบ​ออก​หาก​ถึง​ขีด​สุด​โดย​ศาล​ศาสนา​อัน​โหด​เหี้ยม​เยี่ยง​ปิศาจ​ของ​นิกาย​โรมัน​คาทอลิก. ใคร​ก็​ตาม​ที่​โต้​แย้ง​หลัก​คำ​สอน​หรือ​อำนาจ​ของ​คริสตจักร​ถูก​ปราบ​อย่าง​ไร้​ความ​ปรานี และ​หลาย​พัน​คน​ที่​ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​คน​นอก​รีต​ต้อง​ถูก​ทรมาน​ถึง​ตาย หรือ​ถูก​เผา​ทั้ง​เป็น. โดย​วิธี​นี้​เอง ซาตาน​พยายาม​ให้​แน่​ใจ​ว่า พงศ์พันธุ์​แท้​จริง​ของ​องค์การ​อัน​เปรียบ​เหมือน​ผู้​หญิง​ของ​พระเจ้า​จะ​ถูก​บดขยี้​โดย​เร็ว. เมื่อ​เกิด​มี​การ​ขืน​อำนาจ​หรือ​การ​ปฏิรูป​ของ​พวก​โปรเตสแตนต์ (จาก​ปี 1517 เป็น​ต้น​มา) คริสตจักร​โปรเตสแตนต์​หลาย​คริสตจักร​ก็​ยัง​คง​แสดง​น้ำใจ​ที่​ไม่​ยอม​ผ่อนปรน​เหมือน​กัน. พวก​เขา​เช่น​กัน​มี​ความ​ผิด​ฐาน​ทำ​ให้​โลหิต​ตก​โดย​สังหาร​คน​เหล่า​นั้น​ที่​บากบั่น​จะ​ภักดี​ต่อ​พระเจ้า​และ​พระ​คริสต์. แท้​จริง ‘เลือด​ของ​ผู้​บริสุทธิ์’ ได้​หลั่ง​ออก​อย่าง​มาก​มาย!—วิวรณ์ 16:6; เทียบ​กับ​มัดธาย 23:33-36.

พงศ์พันธุ์​นั้น​ยืนยง

17. (ก) อุปมา​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​ข้าว​สาลี​กับ​ข้าว​ละมาน​บอก​ล่วง​หน้า​ถึง​สิ่ง​ใด? (ข) มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ใน​ปี 1918 ยัง​ผล​เป็น​การ​ปฏิเสธ​อะไร​และ​การ​มอบหมาย​อะไร?

17 ใน​อุปมา​เรื่อง​ข้าว​สาลี​และ​ข้าว​ละมาน พระ​เยซู​ตรัส​ล่วง​หน้า​ถึง​เวลา​อัน​มืดมน​ซึ่ง​จะ​มี​อยู่​ใน​ช่วง​ที่​คริสต์​ศาสนจักร​มี​อำนาจ​ปกครอง​สูง​สุด. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ตลอด​หลาย​ศตวรรษ​ที่​มี​การ​ออก​หาก จะ​มี​คริสเตียน​เป็น​ราย​บุคคล​ซึ่ง​เปรียบ​เสมือน​ข้าว​สาลี อัน​ได้​แก่​ผู้​ถูก​เจิม​แท้. (มัดธาย 13:24-29, 36-43) ฉะนั้น เมื่อ​วัน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เริ่ม​ขึ้น​ใน​เดือน​ตุลาคม 1914 จึง​ยัง​คง​มี​คริสเตียน​แท้​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก​นี้. (วิวรณ์ 1:10) ดู​เหมือน​ว่า ราว​สาม​ปี​ครึ่ง​หลัง​จาก​นั้น​คือ​ใน​ปี 1918 พระ​ยะโฮวา​ได้​เสด็จ​มา​ยัง​พระ​วิหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​พระองค์​เพื่อ​ทำ​การ​พิพากษา โดย​มี​พระ​เยซู​ร่วม​เสด็จ​ใน​ฐานะ “ทูต​แห่ง​สัญญา​ไมตรี” ของ​พระองค์. (มาลาคี 3:1, ล.ม.; มัดธาย 13:47-50) นั่น​เป็น​เวลา​ที่​ผู้​เป็น​นาย​จะ​บอก​ปัด​คริสเตียน​จอม​ปลอม​อย่าง​เด็ดขาด​และ​จะ​ทรง​แต่ง​ตั้ง ‘ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม​ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​ท่าน.’—มัดธาย 7:22, 23; 24:45-47.

18. “เวลา” อะไร​ได้​มา​ถึง​ใน​ปี 1914 และ​นั่น​เป็น​เวลา​ที่​ทาส​จะ​ทำ​อะไร?

18 อนึ่ง นั่น​เป็น​เวลา​ที่​ทาส​นี้​จะ​เอา​ใจ​ใส่​เป็น​พิเศษ​ต่อ​สิ่ง​ซึ่ง​ได้​เขียน​ไว้​ใน​ข่าวสาร​ที่​พระ​เยซู​มี​ไป​ถึง​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด ดัง​ที่​เรา​เห็น​จาก​สิ่ง​ที่​มี​กล่าว​ไว้​ใน​ข่าวสาร​นั้น. ตัว​อย่าง​เช่น พระ​เยซู​ตรัส​พาด​พิง​ถึง​การ​เสด็จ​ของ​พระองค์​เพื่อ​จะ​พิพากษา​ประชาคม​ต่าง ๆ ซึ่ง​การ​พิพากษา​นั้น​เริ่ม​ใน​ปี 1918. (วิวรณ์ 2:5, 16, 22, 23; 3:3) พระองค์​ตรัส​ถึง​การ​พิทักษ์​ประชาคม​ฟีลาเดลเฟีย​ให้​พ้น​จาก “เวลา​แห่ง​การ​ทดสอบ​ซึ่ง​จะ​เกิด​ขึ้น​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก เพื่อ​ทดสอบ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก.” (วิวรณ์ 3:10, 11, ล.ม.) “เวลา​แห่ง​การ​ทดสอบ” มา​ถึง​พร้อม​กับ​การ​เริ่ม​ต้น​แห่ง​วัน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ใน​ปี 1914 เท่า​นั้น หลัง​จาก​นั้น​จึง​ได้​มี​การ​ทดสอบ​ความ​ภักดี​ที่​ชน​คริสเตียน​มี​ต่อ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ถูก​ตั้ง​ขึ้น​แล้ว.—เทียบ​กับ​มัดธาย 24:3, 9-13.

19. (ก) ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​สิ่ง​ใด​ใน​สมัย​นี้? (ข) ใคร​ที่​ได้​เข้า​มา​สมทบ​กับ​เหล่า​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​เป็น​จำนวน​มาก​มาย และ​เหตุ​ใด​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​และ​สภาพการณ์​ที่​พระองค์​พรรณนา​นั้น​จึง​ใช้​กับ​พวก​เขา​ด้วย? (ค) เรา​น่า​จะ​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​ข่าวสาร​ที่​พระ​เยซู​มี​ไป​ถึง​ประชาคม​คริสเตียน​ทั้ง​เจ็ด​ใน​ศตวรรษ​แรก?

19 เนื่อง​ด้วย​เหตุ​ผล​นี้ คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​มี​ไป​ถึง​ประชาคม​ต่าง ๆ จึง​สำเร็จ​เป็น​จริง​เป็น​ส่วน​ใหญ่​ตั้ง​แต่​ปี 1914. ใน​ฉาก​นี้​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​ทุก​ประชาคม​แห่ง​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ใน​วัน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า. ยิ่ง​กว่า​นั้น ระหว่าง​เวลา​กว่า 70 ปี​ที่​ผ่าน​มา คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ซึ่ง​โยฮัน​เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​นั้น​ได้​มี​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​จำนวน​มาก​มาย​ซึ่ง​มี​ความ​หวัง​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน​มา​สมทบ​ด้วย. คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ผู้​ทรง​สง่า​ราศี​และ​สภาพการณ์​ที่​พระองค์​ทรง​พบ​เห็น​ใน​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​เนื่อง​จาก​การ​ตรวจตรา​ของ​พระองค์​ก็​มี​ผล​บังคับ​เท่า​กัน​ต่อ​ชน​เหล่า​นี้​ด้วย เนื่อง​จาก​มี​มาตรฐาน​ความ​ชอบธรรม​และ​ความ​ซื่อ​สัตย์​อย่าง​เดียว​เท่า​นั้น​สำหรับ​ผู้​รับใช้​ทุก​คน​ของ​พระ​ยะโฮวา. (เอ็กโซโด 12:49; โกโลซาย 3:11) ด้วย​เหตุ​นี้ ข่าวสาร​ที่​พระ​เยซู​มี​ไป​ถึง​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​ใน​เอเชีย​ไมเนอร์​ใน​ศตวรรษ​แรก​จึง​ไม่​ใช่​เป็น​เพียง​เรื่อง​น่า​รู้​ทาง​ประวัติศาสตร์​เท่า​นั้น. ข่าวสาร​นั้น​หมาย​ถึง​ชีวิต​หรือ​ไม่​ก็​ความ​ตาย​สำหรับ​เรา​แต่​ละ​คน. ฉะนั้น ขอ​ให้​เรา​ใส่​ใจ​ฟัง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ตั้งใจ​จริง.

[เชิงอรรถ]

a ใน​ภาษา​ฮีบรู​ดั้งเดิม​ที่​พระ​ธรรม​ยะซายา 44:6 ไม่​มี​คำนำ​หน้า​นาม​ที่​ชี้​เฉพาะ​อยู่​กับ​คำ “ผู้​แรก” และ “ผู้​สุด​ท้าย” ส่วน​ใน​คำ​พรรณนา​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​พระองค์​เอง​ใน​ภาษา​กรีก​ที่​พระ​ธรรม​วิวรณ์ 1:17 นั้น มี​การ​พบ​คำนำ​หน้า​นาม​ที่​ชี้​เฉพาะ​ที่​นั่น. ดัง​นั้น สอดคล้อง​กับ​หลัก​ไวยากรณ์ วิวรณ์ 1:17 บ่ง​ชี้​ถึง​บรรดาศักดิ์ ส่วน​ที่ ยะซายา 44:6 พรรณนา​ถึง​ความ​เป็น​พระเจ้า​ของ​พระ​ยะโฮวา.

b คำ​ภาษา​กรีก อัก เกโลส (ออก​เสียง “อัน เกโลส”) หมายความ​ว่า “ผู้​ส่ง​ข่าว” และ “ทูตสวรรค์.” ที่ มาลาคี 2:7 ปุโรหิต​ใน​ตระกูล​เลวี​ผู้​หนึ่ง​ถูก​อ้าง​ถึง​ว่า​เป็น “ผู้​ส่ง​ข่าว” (ภาษา​ฮีบรู มัลอัฆ).—โปรด​ดู​พระ​คัมภีร์​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่​ที่​มี​ข้อ​อ้างอิง, เชิงอรรถ.

[กรอบ​หน้า 32]

เวลา​แห่ง​การ​ทดสอบ​และ​การ​พิพากษา

พระ​เยซู​ทรง​รับ​บัพติสมา​และ​ถูก​เจิม​ไว้​เพื่อ​จะ​เป็น​กษัตริย์​เมื่อ​ประมาณ​เดือน​ตุลาคม​ปี​สากล​ศักราช 29 ณ แม่น้ำ​ยาระเดน. อีก​สาม​ปี​ครึ่ง​หลัง​จาก​นั้น ใน​ปี​สากล​ศักราช 33 พระองค์​เสด็จ​มา​ยัง​พระ​วิหาร​ที่​กรุง​เยรูซาเลม​และ​ทรง​ขับ​ไล่​พวก​ที่​ทำ​ให้​พระ​วิหาร​เป็น​ถ้ำ​ของ​พวก​โจร​ออก​ไป. มี​เหตุ​การณ์​ที่​ดู​เหมือน​คล้ายคลึง​กับ​เหตุ​การณ์​นี้​ใน​ช่วง​เวลา​สาม​ปี​ครึ่ง​นับ​ตั้ง​แต่​คราว​ที่​พระ​เยซู​ขึ้น​ประทับ​บัลลังก์​ใน​สวรรค์​เมื่อ​เดือน​ตุลาคม​ปี 1914 จน​กระทั่ง​คราว​การ​เสด็จ​มา​ของ​พระองค์​เพื่อ​ตรวจตรา​บรรดา​ผู้​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ขณะ​ที่​การ​พิพากษา​ได้​เริ่ม​ต้น​กับ​จำพวก​ของ​พระเจ้า. (มัดธาย 21:12, 13, ล.ม.; 1 เปโตร 4:17) เมื่อ​ต้น​ปี 1918 งาน​ราชอาณาจักร​ของ​ประชาชน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ประสบ​การ​ต่อ​ต้าน​อย่าง​รุนแรง. นั่น​เป็น​เวลา​แห่ง​การ​ทดสอบ​ทั่ว​โลก และ​คน​ขลาด​กลัว​ได้​ถูก​ฝัด​ร่อน​ออก​ไป. ใน​เดือน​พฤษภาคม​ปี 1918 พวก​นัก​เทศน์​นัก​บวช​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​ได้​ยุยง​ให้​จำ​คุก​เจ้าหน้าที่​ของ​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์ แต่​เก้า​เดือน​ต่อ​มา​คน​เหล่า​นั้น​ก็​ได้​รับ​การ​ปล่อย​ตัว. หลัง​จาก​นั้น​ข้อ​กล่าวหา​เท็จ​ทั้ง​หมด​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ​ก็​ตก​ไป. นับ​แต่​ปี 1919 องค์การ​แห่ง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ได้​ผ่าน​การ​ทดสอบ​และ​การ​ขัด​เกลา​แล้ว​ก็​รุด​หน้า​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​อัน​แรง​กล้า​ใน​การ​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​พระ​เยซู​คริสต์​ฐานะ​เป็น​ความ​หวัง​สำหรับ​มนุษยชาติ.—มาลาคี 3:1-3.

เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​เริ่ม​การ​ตรวจตรา​ของ​พระองค์​ใน​ปี 1918 นั้น ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า พวก​นัก​เทศน์​นัก​บวช​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​คง​ได้​รับ​การ​พิพากษา​ว่า​มี​ความ​ผิด. พวก​เขา​ไม่​เพียง​ยุยง​ส่ง​เสริม​การ​กดขี่​ข่มเหง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ได้​มี​ความ​ผิด​ร้ายแรง​ฐาน​ทำ​ให้​เลือด​ตก​ครั้ง​ใหญ่​ด้วย โดย​ให้​การ​สนับสนุน​แก่​ชาติ​ต่าง ๆ ที่​ต่อ​สู้​กัน​ใน​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​หนึ่ง. (วิวรณ์ 18:21, 24) แล้ว​นัก​เทศน์​นัก​บวช​เหล่า​นั้น​ก็​ได้​ฝาก​ความ​หวัง​ไว้​ใน​องค์การ​สันนิบาต​ชาติ​ที่​มนุษย์​ตั้ง​ขึ้น. คริสต์​ศาสนจักร​พร้อม​กับ​จักรวรรดิ​โลก​ทั้ง​สิ้น​แห่ง​ศาสนา​เท็จ​ได้​สูญ​เสีย​ความ​โปรดปราน​ของ​พระเจ้า​อย่าง​สิ้นเชิง​เมื่อ​มา​ถึง​ปี 1919.

[แผนที่​หน้า 28, 29]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

เอเฟโซส์

สเมอร์นา

เปอร์กาโมส์

ทิอาทิรา

ซาร์ดิส

ฟีลาเดลเฟีย

ลาโอดิเคีย

[ภาพ​หน้า 31]

ศาสนา​ของ​คริสต์​ศาสนจักร​ได้​ก่อ​ความ​ผิด​อย่าง​หนัก​ฐาน ทำ​ให้​โลหิต​ตก​โดย​การ​ข่มเหง​และ​ฆ่า​คน​ที่​แปล, อ่าน, หรือ แม้​แต่​มี​คัมภีร์​ไบเบิล

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์