ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ทต น. 226-232
  • พระธรรมเล่มที่ 41—มาระโก

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • พระธรรมเล่มที่ 41—มาระโก
  • “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • เนื้อ​เรื่อง​ใน​มาระโก
  • เหตุ​ที่​เป็น​ประโยชน์
  • มาระโก—‘ผู้เป็นประโยชน์ในงานรับใช้’
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2010
  • มาระโกไม่ท้อถอย
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2008
  • จุดเด่นจากพระธรรมมาระโก
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2008
  • พระธรรมเล่มที่ 40—มัดธาย
    “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
ดูเพิ่มเติม
“พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
ทต น. 226-232

พระ​ธรรม​เล่ม​ที่ 41—มาระโก

ผู้​เขียน: มาระโก

สถาน​ที่​เขียน: โรม

เขียน​เสร็จ: ประมาณ​ปี ส.ศ. 60-65

ครอบ​คลุม​ระยะ​เวลา: ปี ส.ศ. 29-33

1. เรา​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​มาระโก​และ​ครอบครัว​ของ​ท่าน?

ใน​คราว​พระ​เยซู​ถูก​จับ​ที่​สวน​เฆ็ธเซมาเน​และ​พวก​อัครสาวก​หนี​ไป “มี​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ห่ม​ผ้า​ป่าน​ผืน​หนึ่ง” ติด​ตาม​พระองค์​ไป. เมื่อ​ฝูง​ชน​พยายาม​จะ​จับ​เขา​ด้วย “เขา​ได้​สลัด​ทิ้ง​ผ้า​ป่าน​ผืน​นั้น​เสีย​แล้ว​หนี​เปลือย​กาย​ไป.” โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​เชื่อ​กัน​ว่า​ชาย​หนุ่ม​คน​นี้​คือ​มาระโก. มี​การ​พรรณนา​ถึง​ท่าน​ไว้​ใน​พระ​ธรรม​กิจการ​ว่า​เป็น “โยฮัน​ผู้​มี​ชื่อ​อีก​ว่า​มาระโก” และ​อาจ​มา​จาก​ครอบครัว​ที่​มี​อัน​จะ​กิน​ซึ่ง​อยู่​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม เนื่อง​จาก​พวก​เขา​มี​บ้าน​ของ​ตน​เอง​และ​มี​คน​รับใช้. มาเรีย​มารดา​ของ​ท่าน​ก็​เป็น​คริสเตียน​ด้วย และ​ประชาคม​ใน​สมัย​แรก​ได้​ใช้​บ้าน​ของ​นาง​เป็น​ที่​ประชุม. ใน​คราว​ที่​ทูต​สวรรค์​ช่วย​เปโตร​ออก​จาก​คุก ท่าน​ไป​ยัง​บ้าน​นี้​และ​พบ​พี่​น้อง​ประชุม​กัน​ที่​นั่น.—มโก. 14:51, 52; กิจ. 12:12, 13.

2, 3. (ก) อะไร​กระตุ้น​มาระโก​ให้​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย? (ข) มาระโก​มี​การ​คบหา​เช่น​ไร​กับ​มิชชันนารี​คน​อื่น ๆ โดย​เฉพาะ​กับ​เปโตร​และ​เปาโล?

2 บาระนาบา​ซึ่ง​เป็น​มิชชันนารี​และ​เป็น​ชาว​ตระกูล​เลวี​จาก​เกาะ​ไซปรัส (กุบโร) เป็น​ลูก​พี่​ลูก​น้อง​กับ​มาระโก. (กิจ. 4:36; โกโล. 4:10) คราว​ที่​บาระนาบา​มา​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม​กับ​เปาโล​เพื่อ​งาน​บรรเทา​ทุกข์​จาก​การ​กันดาร​อาหาร มาระโก​จึง​ได้​รู้​จัก​เปาโล​ด้วย. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​การ​คบหา​กับ​คน​เหล่า​นี้​ใน​ประชาคม​และ​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า​ซึ่ง​มา​เยี่ยม​ได้​ปลูกฝัง​ความ​ปรารถนา​จะ​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​ไว้​ใน​ตัว​มาระโก. ดัง​นั้น เรา​จึง​พบ​ท่าน​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​และ​ผู้​รับใช้​เปาโล​และ​บาระนาบา​ใน​การ​เดิน​ทาง​เผยแพร่​ยัง​ต่าง​ประเทศ​รอบ​แรก​ของ​ท่าน​ทั้ง​สอง. แต่​เนื่อง​ด้วย​เหตุ​ผล​บาง​ประการ มาระโก​ได้​ละ​ท่าน​ทั้ง​สอง​ไว้​ใน​เมือง​เประเฆ มณฑล​ปัมฟูเลีย และ​กลับ​ไป​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม. (กิจ. 11:29, 30; 12:25; 13:5, 13) เนื่อง​ด้วย​เหตุ​นี้ เปาโล​จึง​ไม่​ยอม​พา​มาระโก​ไป​ด้วย​ใน​การ​เดิน​ทาง​เผยแพร่​ยัง​ต่าง​ประเทศ​รอบ​ที่​สอง และ​นั่น​ยัง​ผล​ให้​เปาโล​กับ​บาระนาบา​แยก​ทาง​กัน. เปาโล​พา​ซีลา​ไป ใน​ขณะ​ที่​บาระนาบา​พา​มาระโก​ลูก​พี่​ลูก​น้อง​ของ​เขา​ลง​เรือ​ไป​ยัง​เกาะ​ไซปรัส​ด้วย.—กิจ. 15:36-41.

3 มาระโก​พิสูจน์​ตัว​ใน​งาน​รับใช้​และ​ได้​มา​เป็น​ผู้​ช่วย​ที่​มี​ค่า ไม่​เพียง​แก่​บาระนาบา​เท่า​นั้น แต่​แก่​อัครสาวก​เปโตร​และ​เปาโล​ใน​ภาย​หลัง​ด้วย. มาระโก​อยู่​กับ​เปาโล (ประมาณ​ปี ส.ศ. 60-61) ระหว่าง​ที่​ท่าน​ถูก​กัก​ขัง​ครั้ง​แรก​ใน​กรุง​โรม. (ฟิเล. 1, 24) ต่อ​มา​เรา​พบ​มาระโก​อยู่​กับ​เปโตร​ใน​กรุง​บาบูโลน​ระหว่าง​ปี ส.ศ. 62 ถึง​ปี ส.ศ. 64. (1 เป. 5:13) เปาโล​ตก​เป็น​นัก​โทษ​อีก​ครั้ง​ใน​กรุง​โรม​คง​ใน​ราว​ปี ส.ศ. 65 และ​ใน​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง ท่าน​ขอ​ให้​ติโมเธียว​พา​มาระโก​มา​ด้วย​โดย​กล่าว​ว่า “เพราะ​เขา​เป็น​ประโยชน์​แก่​ข้าพเจ้า​ใน​การ​ปรนนิบัติ.” (2 ติโม. 1:8; 4:11) นี่​เป็น​การ​กล่าว​ถึง​มาระโก​ครั้ง​สุด​ท้าย​ใน​บันทึก​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล.

4-6. (ก) มาระโก​สามารถ​ได้​เรื่อง​ราว​โดย​ละเอียด​สำหรับ​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​อย่าง​ไร? (ข) อะไร​บ่ง​ชี้​ถึง​การ​คบหา​ใกล้​ชิด​ของ​ท่าน​กับ​เปโตร? (ค) จง​ยก​ตัว​อย่าง​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​เปโตร​ใน​กิตติคุณ​เล่ม​นี้.

4 การ​เรียบเรียง​กิตติคุณ​เล่ม​ที่​สั้น​ที่​สุด​นี้​เชื่อ​กัน​ว่า​ทำ​โดย​มาระโก​ผู้​นี้. ท่าน​เป็น​ผู้​ร่วม​งาน​กับ​เหล่า​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​และ​เป็น​ผู้​อุทิศ​ชีวิต​ของ​ตน​ใน​งาน​รับใช้​แห่ง​ข่าว​ดี. แต่​มาระโก​ไม่​ใช่​หนึ่ง​ใน​อัครสาวก 12 คน​และ​ไม่​ได้​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​ใกล้​ชิด​ของ​พระ​เยซู. ท่าน​ได้​เรื่อง​ราว​โดย​ละเอียด​จาก​ที่​ใด​ซึ่ง​ทำ​ให้​บันทึก​ของ​ท่าน​เกี่ยว​กับ​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​ชีวา​จริง ๆ ตั้ง​แต่​ต้น​จน​จบ? ตาม​คำ​เล่า​สืบ​ปาก​ใน​สมัย​ต้น ๆ ของ​พาพีอัส, ออริเกน, และ​เทอร์ทูลเลียน แหล่ง​นั้น​คือ​เปโตร​ผู้​ซึ่ง​มาระโก​ได้​คบหา​อย่าง​ใกล้​ชิด.a เปโตร​เรียก​ท่าน​ว่า “บุตร​ของ​ข้าพเจ้า” มิ​ใช่​หรือ? (1 เป. 5:13) เปโตร​เป็น​ประจักษ์​พยาน​ใน​เกือบ​ทุก​เรื่อง​ที่​มาระโก​บันทึก ดัง​นั้น มาระโก​คง​รู้​ราย​ละเอียด​หลาย​อย่าง​จาก​เปโตร​ซึ่ง​ไม่​มี​ใน​กิตติคุณ​เล่ม​อื่น. ตัว​อย่าง​เช่น มาระโก​พูด​ถึง “ลูกจ้าง” ที่​ทำ​งาน​ให้​เซเบดาย, คน​โรค​เรื้อน​ที่ “คุกเข่า” วิงวอน​พระ​เยซู, ชาย​ถูก​ผี​สิง​ที่ “เอา​หิน​เชือด​เนื้อ​ของ​ตัว,” และ​การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​พยากรณ์​เรื่อง ‘การ​เสด็จ​มา​ของ​บุตร​มนุษย์​ด้วย​อานุภาพ​และ​สง่า​ราศี​อัน​ยิ่ง​ใหญ่’ ขณะ​ที่​พระองค์​ประทับ​นั่ง​อยู่​บน​ภูเขา​มะกอก​เทศ “ตรง​ที่​มอง​เห็น​พระ​วิหาร.”—มโก. 1:20, 40; 5:5; 13:3, 26, ล.ม.

5 เปโตร​เอง​เป็น​คน​ที่​มี​ความ​รู้สึก​ลึกซึ้ง​และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​สามารถ​เข้าใจ​และ​พรรณนา​ความ​รู้สึก​และ​อารมณ์​ของ​พระ​เยซู​ให้​มาระโก​ฟัง​ได้. ดัง​นั้น จึง​เป็น​มาระโก​นั่น​แหละ​ซึ่ง​บันทึก​บ่อย​ครั้ง​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​รู้สึก​และ​มี​ปฏิกิริยา​เช่น​ไร ตัว​อย่าง​เช่น พระองค์​ทอด​พระ​เนตร​ดู “รอบ​ด้วย​พระ​พิโรธ, มี​พระทัย​เป็น​ทุกข์,” พระองค์ “ทรง​ถอน​พระทัย,” และ​พระองค์​ทรง “ถอน​พระทัย​ใหญ่.” (3:5; 7:34; 8:12, ล.ม.) มาระโก​เป็น​ผู้​บอก​เรา​ให้​ทราบ​ความ​รู้สึก​ที่​พระ​เยซู​มี​ต่อ​ขุนนาง​หนุ่ม​ผู้​มั่งคั่ง โดย​บอก​ว่า​พระองค์ “ทรง​รัก​เขา.” (10:21) และ​น่า​อบอุ่น​ใจ​จริง ๆ ที่​เรา​พบ​ใน​บันทึก​นี้​ที่​ว่า พระ​เยซู​ไม่​เพียง​แต่​ให้​เด็ก​เล็ก ๆ คน​หนึ่ง​มา​ยืน​อยู่​ท่ามกลาง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ทรง “อุ้ม​เด็ก​นั้น​ไว้” และ​ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง “พระองค์​ทรง​อุ้ม​เด็ก​เล็ก ๆ เหล่า​นั้น”!—9:36; 10:13-16.

6 ลักษณะ​เฉพาะ​บาง​อย่าง​ของ​เปโตร​จะ​เห็น​ได้​ใน​ลีลา​การ​เขียน​ของ​มาระโก​ซึ่ง​ฉับ​ไว, เหมือน​มี​ชีวิต, มี​พลัง, มี​ชีวิต​ชีวา, และ​ละเอียด. ดู​ราว​กับ​ว่า​ท่าน​เล่า​เหตุ​การณ์​ได้​ไม่​เร็ว​พอ. ตัว​อย่าง​เช่น คำ​ว่า “ทันใด​นั้น” ปรากฏ​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า ซึ่ง​ทำ​ให้​เรื่อง​ดำเนิน​ไป​อย่าง​น่า​ตื่นเต้น.

7. อะไร​ทำ​ให้​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​แตกต่าง​จาก​ของ​มัดธาย?

7 แม้​มาระโก​หา​อ่าน​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​ได้​และ​บันทึก​ของ​ท่าน​มี​เพียง 7 เปอร์เซ็นต์​ที่​ไม่​มี​อยู่​ใน​กิตติคุณ​เล่ม​อื่น แต่​คง​เป็น​การ​ผิด​พลาด​ถ้า​จะ​เชื่อ​ว่า​มาระโก​เพียง​แต่​ย่อ​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​และ​เพิ่ม​ราย​ละเอียด​พิเศษ​ไม่​กี่​อย่าง​เข้า​ไป. ใน​ขณะ​ที่​มัดธาย​ให้​ภาพ​พระ​เยซู​เป็น​พระ​มาซีฮา​และ​พระ​มหา​กษัตริย์​ตาม​ที่​มี​สัญญา​ไว้ มาระโก​กลับ​พิจารณา​ชีวิต​และ​การ​งาน​ของ​พระองค์​จาก​อีก​แง่​มุม​หนึ่ง. ท่าน​ให้​ภาพ​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​บุตร​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ทำ​การ​อัศจรรย์ ผู้​ช่วย​ให้​รอด​ที่​มี​ชัย. มาระโก​เน้น​การ​งาน​ของ​พระ​คริสต์​มาก​กว่า​จะ​เน้น​คำ​เทศน์​และ​คำ​สอน​ของ​พระองค์. มี​แต่​อุปมา​เล็ก​น้อย​และ​คำ​บรรยาย​ยาว ๆ ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​เดียว​ที่​มี​รายงาน​ไว้ และ​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ก็​ถูก​ตัด​ออก. ด้วย​เหตุ​นี้​เอง​ที่​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​สั้น​กว่า ถึง​แม้​ว่า​มี​กล่าว​ถึง​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ทำ​มาก​พอ ๆ กับ​กิตติคุณ​เล่ม​อื่น ๆ. มี​กล่าว​โดย​เฉพาะ​ถึง​การ​อัศจรรย์​อย่าง​น้อย 19 อย่าง.

8. ลักษณะ​อะไร​บ้าง​ที่​แสดง​ว่า​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​เขียน​ขึ้น​เพื่อ​ชาว​โรมัน​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด?

8 ใน​ขณะ​ที่​มัดธาย​เขียน​กิตติคุณ​เพื่อ​ชาว​ยิว เห็น​ได้​ชัด​ว่า​มาระโก​เขียน​เพื่อ​ชาว​โรมัน​เป็น​อันดับ​แรก. เรา​ทราบ​เรื่อง​นี้​ได้​อย่าง​ไร? มี​การ​กล่าว​ถึง​พระ​บัญญัติ​ของ​โมเซ​ต่อ​เมื่อ​บันทึก​การ​สนทนา​ที่​กล่าว​ถึง​พระ​บัญญัติ​นั้น​เท่า​นั้น และ​ลำดับ​วงศ์วาน​ของ​พระ​เยซู​ก็​ถูก​ตัด​ออก. มี​การ​เสนอ​กิตติคุณ​ของ​พระ​คริสต์​ว่า​สำคัญ​ต่อ​ทุก​คน. ท่าน​ให้​ความ​เห็น​เพื่อ​อธิบาย​ธรรมเนียม​และ​คำ​สอน​ของ​ชาว​ยิว​ซึ่ง​ผู้​อ่าน​ที่​มิ​ใช่​ชาว​ยิว​อาจ​ไม่​คุ้น​เคย. (2:18; 7:3, 4; 14:12; 15:42) มี​การ​แปล​คำ​ภาษา​อาระเมอิก. (3:17; 5:41; 7:11, 34; 14:36; 15:22, 34) ท่าน​ใช้​ชื่อ​ทาง​ภูมิศาสตร์​และ​ชีวิต​พืช​ใน​แถบ​ปาเลสไตน์​พร้อม​กับ​คำ​อธิบาย. (1:5, 13; 11:13; 13:3) มี​การ​บอก​ค่า​เงิน​เหรียญ​ของ​ชาว​ยิว​เป็น​เงิน​โรมัน. (12:42, ล.ม. เชิงอรรถ) ท่าน​ใช้​คำ​ภาษา​ลาติน​มาก​กว่า​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​คน​อื่น เช่น speculator (เพชฌฆาต [“ราชองครักษ์,” ล.ม.]), praetorium (ศาล​ไปรโตเรียน [“จวน​ผู้​สำเร็จ​ราชการ,” ล.ม.]), และ centurio (นาย​ร้อย).—6:27; 15:16, 39.

9. พระ​ธรรม​มาระโก​ได้​รับ​การ​เขียน​ขึ้น​ที่​ไหน​และ​เมื่อ​ไร และ​อะไร​ยืน​ยัน​ว่า​พระ​ธรรม​เล่ม​นี้​เชื่อถือ​ได้?

9 เนื่อง​จาก​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​มาระโก​เขียน​เพื่อ​ชาว​โรมัน​เป็น​ประการ​สำคัญ จึง​น่า​เป็น​ไป​ได้​มาก​ที่​สุด​ว่า​ท่าน​เขียน​ใน​กรุง​โรม. ทั้ง​คำ​เล่า​สืบ​ปาก​ใน​สมัย​แรก​เริ่ม​และ​เนื้อหา​ของ​พระ​ธรรม​นี้​ต่าง​เปิด​ช่อง​ให้​ลง​ความ​เห็น​ว่า พระ​ธรรม​นี้​ถูก​เรียบเรียง​ขึ้น​ใน​กรุง​โรม​ระหว่าง​ที่​อัครสาวก​เปาโล​ถูก​กัก​ขัง​ครั้ง​แรก​หรือ​ไม่​ก็​ครั้ง​ที่​สอง และ​ดัง​นั้น จึง​เป็น​ใน​ระหว่าง​ปี ส.ศ. 60-65. ใน​ช่วง​ปี​ดัง​กล่าว มาระโก​อยู่​ใน​กรุง​โรม​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​ครั้ง และ​อาจ​เป็น​สอง​ครั้ง. นัก​วิชา​การ​ชั้น​นำ​ทั้ง​หลาย​ใน​ศตวรรษ​ที่​สอง​และ​สาม​ต่าง​ยืน​ยัน​ว่า​มาระโก​เป็น​ผู้​เขียน. กิตติคุณ​นี้​มี​การ​ส่ง​เวียน​กัน​ใน​หมู่​คริสเตียน​อยู่​แล้ว​เมื่อ​ถึง​ตอน​กลาง​ศตวรรษ​ที่​สอง. การ​ที่​มี​กิตติคุณ​เล่ม​นี้​ปรากฏ​อยู่​ใน​ราย​ชื่อ​หนังสือ​ทั้ง​หมด​ของ​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​ใน​สมัย​แรก​ยืน​ยัน​ว่า​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​เชื่อถือ​ได้.

10. ควร​ถือ​ว่า​ส่วน​คำ​ลง​ท้าย​ทั้ง​ที่​ยาว​และ​ที่​สั้น​ของ​พระ​ธรรม​มาระโก​นั้น​เป็น​อย่าง​ไร และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

10 อย่าง​ไร​ก็​ตาม ส่วน​คำ​ลง​ท้าย​ทั้ง​ที่​ยาว​และ​สั้น​ซึ่ง​บาง​ครั้ง​ถูก​เพิ่ม​เข้า​มา​หลัง​จาก​บท 16 ข้อ 8 นั้น​ไม่​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ว่า​เชื่อถือ​ได้. ส่วน​นั้น​ไม่​มี​ใน​ฉบับ​สำเนา​โบราณ​ส่วน​ใหญ่ เช่น ฉบับ​ไซนายติก​และ​ฉบับ​วาติกัน​หมาย​เลข 1209. ยูเซบิอุส​และ​เจโรม ผู้​คง​แก่​เรียน​ใน​ศตวรรษ​ที่​สี่​เห็น​พ้อง​กัน​ว่า บันทึก​ที่​เชื่อถือ​ได้​นั้น​จบ​ด้วย​ถ้อย​คำ​ว่า “เพราะ​เขา​กลัว.” คำ​ลง​ท้าย​อื่น ๆ อาจ​ถูก​เพิ่ม​เข้า​มา​โดย​มุ่ง​หมาย​ให้​กิตติคุณ​นี้​ซึ่ง​จบ​ลง​ห้วน ๆ นั้น​สละสลวย​ขึ้น.

11. (ก) อะไร​พิสูจน์​ว่า​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​ถูก​ต้อง​แม่นยำ และ​มี​การ​เน้น​ถึง​อำนาจ​อะไร? (ข) เหตุ​ใด​กิตติคุณ​นี้​จึง​เป็น “ข่าว​ดี” และ​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​ครอบ​คลุม​ระยะ​เวลา​ใด?

11 ที่​ว่า​บันทึก​ของ​มาระโก​ถูก​ต้อง​แม่นยำ​นั้น​เห็น​ได้​จาก​การ​ที่​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​สอดคล้อง​ลง​รอย​อย่าง​เต็ม​ที่​ไม่​เพียง​แต่​กับ​กิตติคุณ​เล่ม​อื่น ๆ เท่า​นั้น แต่​กับ​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์​ทั้ง​หมด​ตั้ง​แต่​เยเนซิศ​ถึง​วิวรณ์​ด้วย. ยิ่ง​กว่า​นั้น มี​การ​แสดง​ให้​เห็น​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​ที่​มี​อำนาจ​ไม่​เพียง​แต่​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์ แต่​เหนือ​พลัง​ธรรมชาติ, เหนือ​ซาตาน​และ​ภูตผี​ปิศาจ, เหนือ​ความ​เจ็บ​ป่วย​และ​โรค​ภัย, ใช่​แล้ว เหนือ​ความ​ตาย​ด้วย. ดัง​นั้น มาระโก​เริ่ม​เรื่อง​ของ​ท่าน​ด้วย​คำนำ​ที่​น่า​ประทับใจ​ว่า “ตอน​เริ่ม​ต้น​ของ​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​คริสต์.” การ​เสด็จ​มา​และ​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​หมาย​ถึง “ข่าว​ดี” และ​ดัง​นั้น การ​ศึกษา​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​คง​ต้อง​ก่อ​ประโยชน์​แก่​ผู้​อ่าน​ทุก​คน. เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ที่​มาระโก​พรรณนา​ครอบ​คลุม​ระยะ​เวลา​ตั้ง​แต่​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ส.ศ. 29 ถึง​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ส.ศ. 33.

เนื้อ​เรื่อง​ใน​มาระโก

12. อะไร​ถูก​บรรจุ​แน่น​อยู่​ใน 13 ข้อ​แรก​ของ​พระ​ธรรม​มาระโก?

12 การ​รับ​บัพติสมา​และ​การ​ล่อ​ใจ​พระ​เยซู (1:1-13). มาระโก​เริ่ม​ต้น​กิตติคุณ​ด้วย​การ​ระบุ​ตัว​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา. ท่าน​เป็น​ทูต​ที่​มี​พยากรณ์​ไว้ ซึ่ง​ถูก​ส่ง​ให้​ไป​ประกาศ​ว่า “จง​เตรียม​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา เจ้า​ทั้ง​หลาย จง​ทำ​พระ​มรคา​ของ​พระองค์​ให้​ตรง​ไป.” เกี่ยว​กับ​ผู้​ที่​จะ​มา​ใน​อีก​ไม่​ช้า โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​บอก​ว่า ‘ท่าน​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ข้าพเจ้า.’ ใช่​แล้ว พระองค์​จะ​ทรง​ให้​บัพติสมา​ไม่​ใช่​ด้วย​น้ำ แต่​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. หลัง​จาก​นั้น​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​จาก​บ้าน​นาซาเร็ธ แคว้น​แกลิลี (ฆาลิลาย) และ​โยฮัน​ให้​บัพติสมา​แก่​พระองค์. พระ​วิญญาณ​ลง​มา​บน​พระ​เยซู​ดุจ​นก​พิราบ และ​มี​พระ​สุรเสียง​ดัง​จาก​ฟ้า​ว่า “เจ้า​เป็น​บุตร​ของ​เรา ผู้​เป็น​ที่​รัก; เรา​โปรดปราน​เจ้า.” (1:3, 7, 11, ล.ม.) พระ​เยซู​ถูก​ซาตาน​ล่อ​ใจ​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร และ​ทูต​สวรรค์​มา​ปรนนิบัติ​พระองค์. เหตุ​การณ์​ที่​น่า​ตื่นเต้น​เร้า​ใจ​ทั้ง​หมด​นี้​ถูก​บรรจุ​แน่น​อยู่​ใน 13 ข้อ​แรก​ของ​พระ​ธรรม​มาระโก.

13. ใน​ตอน​แรก ๆ พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​อำนาจ​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ “ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า” ด้วย​วิธี​ใด​บ้าง?

13 พระ​เยซู​ทรง​เริ่ม​งาน​รับใช้​ใน​แกลิลี (1:14–6:6). หลัง​จาก​โยฮัน​ถูก​จับ พระ​เยซู​เสด็จ​ไป​ประกาศ​ข่าว​ดี​ของ​พระเจ้า​ใน​แกลิลี. พระองค์​มี​ข่าวสาร​ที่​น่า​ตื่นเต้น​จริง ๆ! “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว. จง​กลับ​ใจ​เถิด เจ้า​ทั้ง​หลาย และ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ข่าว​ดี.” (1:15, ล.ม.) พระองค์​ทรง​เรียก​ซีโมน​กับ​อันดะเรอา​และ​ยาโกโบ​กับ​โยฮัน​จาก​อวน​ของ​พวก​เขา​ให้​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์. ใน​วัน​ซะบาโต พระองค์​เริ่ม​สอน​ใน​ธรรมศาลา​ที่​เมือง​กัปเรนาอูม. ผู้​คน​ต่าง​ประหลาด​ใจ​เพราะ​พระองค์​ทรง​สั่ง​สอน “เหมือน​ผู้​มี​อำนาจ, ไม่​เหมือน​พวก​อาลักษณ์.” พระองค์​ทรง​สำแดง​อำนาจ​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ “ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า” ด้วย​การ​ขับ​ผี​โสโครก​ออก​จาก​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ถูก​ผี​สิง​และ​โดย​การ​รักษา​แม่ยาย​ของ​ซีโมน​ซึ่ง​ป่วย​เป็น​ไข้. ข่าว​นั้น​แพร่​ออก​ไป​ราว​กับ​ไฟ​ป่า และ​พอ​ตก​ค่ำ “คน​ทั้ง​เมือง” ก็​มา​ชุมนุม​กัน​ข้าง​นอก​บ้าน​ซีโมน. พระ​เยซู​ทรง​รักษา​คน​ป่วย​มาก​มาย​และ​ขับ​ผี​ออก​หลาย​ตน.—1:22, 24, 33.

14. พระ​เยซู​ทรง​พิสูจน์​เรื่อง​อำนาจ​ของ​พระองค์​ใน​การ​ให้​อภัย​บาป​อย่าง​ไร?

14 พระ​เยซู​ทรง​แจ้ง​เรื่อง​งาน​ที่​พระองค์​ได้​รับ​มอบหมาย​ว่า “เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ประกาศ.” (1:38, ล.ม.) พระองค์​ทรง​ประกาศ​ทั่ว​แกลิลี. ทุก​แห่ง​ที่​พระองค์​เสด็จ​ไป พระองค์​ทรง​ขับ​ผี​และ​รักษา​คน​ป่วย ซึ่ง​รวม​ทั้ง​คน​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​และ​คน​ง่อย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​พระองค์​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “บาป​ของ​เจ้า​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย​แล้ว.” บาง​คน​ใน​พวก​อาลักษณ์​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘นี่​เป็น​การ​หมิ่น​ประมาท. ใคร​จะ​ให้​อภัย​บาป​ได้​เว้น​แต่​พระเจ้า?’ ด้วย​ทรง​ทราบ​ความ​คิด​ของ​พวก​เขา พระ​เยซู​ทรง​พิสูจน์​ว่า “บุตร​มนุษย์​มี​อำนาจ​จะ​ให้​อภัย​บาป” โดย​ตรัส​แก่​คน​ง่อย​นั้น​ให้​ลุก​ขึ้น​และ​กลับ​บ้าน. ประชาชน​สรรเสริญ​พระเจ้า. เมื่อ​เลวี (มัดธาย) คน​เก็บ​ภาษี​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์ พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​อาลักษณ์​ว่า “เรา​มา​เพื่อ​เรียก ไม่​ใช่​คน​ชอบธรรม แต่​คน​บาป.” พระองค์​ทรง​สำแดง​พระองค์​เอง​เป็น “เจ้า​แห่ง​วัน​ซะบาโต.”—2:5, 7, 10, 17, 28, ล.ม.

15. พระ​เยซู​ทรง​แถลง​อะไร​เกี่ยว​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ไม่​ยอม​รับ​การ​อัศจรรย์​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​ตรัส​อะไร​เกี่ยว​กับ​สาย​สัมพันธ์​ทาง​ครอบครัว?

15 หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​กลุ่ม​อัครสาวก 12 คน. ญาติ ๆ ของ​พระองค์​แสดง​การ​ต่อ​ต้าน​อยู่​บ้าง และ​ต่อ​มา​พวก​อาลักษณ์​บาง​คน​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​กล่าวหา​พระองค์​ว่า​ขับ​ผี​ออก​ด้วย​อำนาจ​ของ​นาย​ผี. พระ​เยซู​ทรง​ถาม​พวก​เขา​ว่า “ซาตาน​จะ​ขับ​ซาตาน​ให้​ออก​อย่าง​ไร​ได้?” และ​ทรง​เตือน​พวก​เขา​ว่า “แต่​ผู้​ใด​ก็​ตาม​ที่​หมิ่น​ประมาท​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​จะ​ไม่​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย​ตลอด​กาล แต่​มี​ความ​ผิด​ฐาน​เป็น​บาป​ถาวร.” ระหว่าง​ที่​ถก​กัน​อยู่​นั้น มารดา​และ​น้อง​ชาย​ของ​พระองค์​มา​หา​พระองค์ และ​พระ​เยซู​ถูก​กระตุ้น​ให้​แถลง​ว่า “ผู้​ใด​จะ​ประพฤติ​ตาม​น้ำ​พระทัย​พระเจ้า, ผู้​นั้น​แหละ​เป็น​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​และ​มารดา​ของ​เรา.”—3:23, 29, ล.ม. 35.

16. โดย​อุทาหรณ์​ต่าง ๆ พระ​เยซู​ทรง​สอน​อะไร​เกี่ยว​กับ “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า”?

16 พระ​เยซู​ทรง​เริ่ม​ต้น​สั่ง​สอน “ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” ด้วย​อุทาหรณ์​ต่าง ๆ. พระองค์​ตรัส​ถึง​ชาย​ที่​หว่าน​เมล็ด​ซึ่ง​ตก​ลง​บน​ดิน​หลาย​ชนิด (แสดง​ถึง​ผู้​ได้​ยิน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ใน​ประเภท​ต่าง ๆ) และ​ตรัส​ถึง​ตะเกียง​ที่​ส่อง​แสง​จาก​เชิง​ตะเกียง. ใน​อุทาหรณ์​อีก​เรื่อง​หนึ่ง พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​เหมือน​เมื่อ​ชาย​คน​หนึ่ง​หว่าน​เมล็ด​ลง​บน​ดิน “เพราะ​แผ่นดิน​เอง​ทำ​ให้​พืช​งอก​จำเริญ​ขึ้น​เป็น​ลำ​ต้น​ก่อน, ภาย​หลัง​ก็​ออก​รวง, แล้ว​ก็​มี​เมล็ด​ข้าว​เต็ม​ใน​รวง​นั้น.” (4:11, ล.ม., 28) พระองค์​ยัง​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​เรื่อง​เมล็ด​พันธุ์​ผักกาด [มัสตาร์ด] ด้วย ซึ่ง​แม้​จะ​เล็ก​กว่า​เมล็ด​ทั้ง​หลาย แต่​ก็​เจริญ​เติบโต​มี​กิ่ง​ก้าน​ใหญ่​ที่​ให้​ร่ม​เงา.

17. การ​อัศจรรย์​ของ​พระ​เยซู​สำแดง​ขอบ​เขต​แห่ง​อำนาจ​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร?

17 ขณะ​ที่​พระ​เยซู​กับ​เหล่า​อัครสาวก​ข้าม​ทะเล​แกลิลี พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​พายุ​สงบ​อย่าง​มหัศจรรย์ และ​ทะเล​ที่​ปั่นป่วน​ก็​สงบ​ลง​ตาม​พระ​บัญชา​ของ​พระองค์​ที่​ว่า “จง​สงบ​เงียบ​เถิด.” (4:39) เมื่อ​ข้าม​ไป​ใน​เมือง​ฆะดารา พระ​เยซู​ทรง​ขับ​ผี “กอง” หนึ่ง​ออก​จาก​ชาย​คน​หนึ่ง​และ​ทรง​อนุญาต​ให้​พวก​มัน​เข้า​ไป​สิง​ใน​ฝูง​สุกร​ประมาณ 2,000 ตัว​ซึ่ง​วิ่ง​ไป​กระโดด​หน้าผา​และ​จม​น้ำ​ตาย​ใน​ทะเล. (5:8-13) หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​เสด็จ​ข้าม​กลับ​ไป​ยัง​ชายฝั่ง​ตรง​ข้าม. ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ได้​รับ​การ​รักษา​ให้​หาย​จาก​โรค​โลหิต​ตก​ซึ่ง​รักษา​ไม่​หาย​มา​นาน 12 ปี​โดย​เพียง​แต่​แตะ​เสื้อ​ชั้น​นอก​ของ​พระ​เยซู​ขณะ​ที่​พระองค์​กำลัง​เสด็จ​ไป​ปลุก​ลูก​สาว​อายุ 12 ขวบ​ของ​ญายโร​ให้​มี​ชีวิต​อีก. จริง​ที​เดียว บุตร​มนุษย์​ทรง​มี​อำนาจ​เหนือ​ชีวิต​และ​ความ​ตาย! แต่​ผู้​คน​ใน​แถบ​บ้าน​เกิด​ของ​พระ​เยซู​โต้​เถียง​กัน​ใน​เรื่อง​อำนาจ​ของ​พระองค์. พระองค์​ประหลาด​พระทัย​ที่​พวก​เขา​ขาด​ความ​เชื่อ แต่​พระองค์​ก็​ยัง​คง “เสด็จ​ไป​เทศนา​สั่ง​สอน​ทั่ว​บ้าน​ทั่ว​เมือง.”—6:6.

18. (ก) งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​แผ่​ขยาย​ไป​อย่าง​ไร? (ข) อะไร​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​สอน​และ​ทำ​การ​อัศจรรย์?

18 งาน​รับใช้​ใน​แกลิลี​แผ่​ขยาย (6:7–9:50). อัครสาวก 12 คน​ถูก​ส่ง​ออก​ไป​เป็น​คู่​โดย​ได้​รับ​คำ​สั่ง​และ​อำนาจ​ให้​ประกาศ​และ​สอน, รักษา​ผู้​คน, และ​ขับ​ผี. พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​กำลัง​เป็น​ที่​เลื่อง​ลือ บาง​คน​คิด​ว่า​เป็น​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​ซึ่ง​ถูก​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. ความ​เป็น​ไป​ได้​ข้อ​นี้​ทำ​ให้​กษัตริย์​เฮโรด​ซึ่ง​ได้​สั่ง​ให้​ตัด​ศีรษะ​โยฮัน​ใน​งาน​เลี้ยง​วัน​เกิด​ของ​ตน​รู้สึก​กังวล. พวก​อัคร​สาวก​กลับ​จาก​การ​เดิน​ทาง​ประกาศ​และ​รายงาน​การ​งาน​ของ​ตน​ต่อ​พระ​เยซู. ฝูง​ชน​ขนาด​ใหญ่​ติด​ตาม​พระ​เยซู​ไป​ทั่ว​แกลิลี และ​พระองค์ “ทรง​รู้สึก​สงสาร​พวก​เขา เพราะ​พวก​เขา​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง.” ดัง​นั้น พระองค์​จึง​เริ่ม​สอน​พวก​เขา​หลาย​สิ่ง. (6:34, ล.ม.) พระองค์​ทรง​จัด​เตรียม​ด้วย​ความ​รัก​ให้​มี​อาหาร​ด้วย ทรง​เลี้ยง​ผู้​ชาย 5,000 คน​ด้วย​ขนมปัง​ห้า​ก้อน​และ​ปลา​สอง​ตัว. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน เมื่อ​เหล่า​สาวก​ที่​อยู่​ใน​เรือ​กำลัง​ฝ่า​พายุ​ด้วย​ความ​ลำบาก​ขณะ​ที่​พวก​เขา​แล่น​เรือ​ไป​เมือง​เบธซายะดา​นั้น พระองค์​ทรง​ดำเนิน​บน​ทะเล​มา​หา​เขา​และ​ทำ​ให้​ลม​สงบ. ไม่​น่า​แปลก​ใจ​ที่​แม้​แต่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ก็ “ประหลาด​อัศจรรย์​ใจ​เหลือ​ประมาณ”!—6:51.

19, 20. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ว่า​กล่าว​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​อย่าง​ไร? (ข) สภาพการณ์​อะไร​ที่​ทำ​ให้​เปโตร​ถูก​ว่า​กล่าว​เช่น​กัน?

19 ใน​แขวง​เฆ็นเนซาเร็ต พระ​เยซู​ทรง​ถก​กับ​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​ที่​มา​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​เกี่ยว​กับ​การ​รับประทาน​อาหาร​โดย​ไม่​ได้​ล้าง​มือ และ​พระองค์​ทรง​ตำหนิ​พวก​เขา​อย่าง​แรง​ที่ “ละ​ข้อ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า, และ​กลับ​ไป​ถือ​ตาม​ถ้อย​คำ​ของ​มนุษย์​ที่​เขา​สอน​ต่อ ๆ กัน​มา.” พระองค์​ตรัส​ว่า​มิ​ใช่​สิ่ง​ภาย​นอก​ที่​เข้า​ไป​ซึ่ง​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มลทิน แต่​สิ่ง​ที่​ออก​มา​จาก​ภาย​ใน คือ​จาก​หัวใจ​ต่าง​หาก ซึ่ง​ก็​คือ “ความ​คิด​ชั่ว​ร้าย.” (7:8, 21) เมื่อ​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ทาง​เหนือ​เข้า​ไป​ใน​เขต​เมือง​ตุโร​และ​เมือง​ซีโดน พระองค์​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​แก่​คน​ต่าง​ชาติ ทรง​ขับ​ผี​ออก​จาก​บุตรี​ของ​ผู้​หญิง​ชาติ​ซีเรีย​ฟีนิเซีย.

20 เมื่อ​กลับ​มา​แกลิลี อีก​ครั้ง​ที่​พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร​ฝูง​ชน​ซึ่ง​ติด​ตาม​พระองค์​และ​ทรง​เลี้ยง​อาหาร​ผู้​ชาย 4,000 คน​ด้วย​ขนมปัง​เจ็ด​ก้อน​กับ​ปลา​ตัว​เล็ก ๆ สอง​สาม​ตัว. พระองค์​ทรง​เตือน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เรื่อง​เชื้อ​ของ​พวก​ฟาริซาย​และ​เชื้อ​ของ​เฮโรด แต่​ใน​เวลา​นั้น​พวก​เขา​ไม่​เข้าใจ. ต่อ​มา​พระองค์​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​อีก​ครั้ง​หนึ่ง คือ​รักษา​ชาย​ตา​บอด​คน​หนึ่ง​ที่​เบธซายะดา. ใน​การ​สนทนา​ระหว่าง​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ ใน​แคว้น​ซีซาเรีย ฟิลิปปี (กายซาไรอา ฟิลิปปอย) เปโตร​ระบุ​ตัว​พระ​เยซู​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​ว่า​เป็น “พระ​คริสต์” แต่​แล้ว​ก็​คัดค้าน​อย่าง​แข็งขัน​เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​การ​ทน​ทุกข์​และ​ความ​ตาย​ของ​บุตร​มนุษย์​ที่​กำลัง​ใกล้​เข้า​มา. เนื่อง​ด้วย​การ​ทำ​เช่น​นี้ พระ​เยซู​ทรง​ว่า​กล่าว​ท่าน​ว่า “อ้าย​ซาตาน, จง​ถอย​ไป​ข้าง​หลัง​เรา, เพราะ​เจ้า​มิ​ได้​คิด​ตาม​พระ​ดำริ​ของ​พระเจ้า, แต่​ตาม​ความ​คิด​ของ​มนุษย์.” (8:29, 33) พระ​เยซู​ทรง​กระตุ้น​เตือน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​ติด​ตาม​พระองค์​ต่อ ๆ ไป​เพื่อ​เห็น​แก่​ข่าว​ดี; หาก​พวก​เขา​มี​ความ​ละอาย​เพราะ​พระองค์ พระองค์​จะ​ทรง​ละอาย​เพราะ​พวก​เขา​เมื่อ​พระองค์​เสด็จ​มา​ด้วย​สง่า​ราศี​แห่ง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์.

21. (ก) ใคร​บ้าง​เห็น “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ด้วย​อำนาจ” และ​โดย​วิธี​ใด? (ข) พระ​เยซู​ทรง​เน้น​การ​จัด​ให้​ราชอาณาจักร​อยู่​ใน​อันดับ​แรก​อย่าง​ไร?

21 หก​วัน​ต่อ​มา เมื่อ​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​สูง​ลูก​หนึ่ง เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ให้​เห็น “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ด้วย​อำนาจ” ขณะ​ที่​พวก​เขา​ได้​เห็น​พระ​เยซู​ทรง​จำแลง​พระ​กาย​ด้วย​สง่า​ราศี. (9:1, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​อำนาจ​ของ​พระองค์​อีก​ครั้ง​โดย​ขับ​ผี​ใบ้​จาก​เด็ก​ชาย​ผู้​หนึ่ง และ​พระองค์​ตรัส​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง​ถึง​การ​ทน​ทุกข์​และ​ความ​ตาย​ที่​ใกล้​เข้า​มา. พระองค์​ทรง​แนะ​นำ​เหล่า​สาวก​ไม่​ให้​ยอม​ให้​สิ่ง​ใด ๆ มา​ขัด​ขวาง​พวก​เขา​จาก​การ​เข้า​สู่​ชีวิต. มือ​เจ้า​ทำ​ให้​เจ้า​สะดุด​หรือ? จง​ตัด​มัน​ทิ้ง! เท้า​ของ​เจ้า​หรือ? จง​ตัด​มัน​ทิ้ง! นัยน์​ตา​ของ​เจ้า​หรือ? จง​ควัก​มัน​ทิ้ง! ที่​จะ​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​อย่าง​คน​พิการ​ก็​ดี​กว่า​ถูก​ทิ้ง​ใน​เกเฮนนา​โดย​มี​อวัยวะ​ครบ​มาก​นัก.

22. คำ​แนะ​นำ​อะไร​ที่​เป็น​จุด​เด่น​ใน​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​ใน​พีเรีย?

22 งาน​รับใช้​ใน​พีเรีย (10:1-52). พระ​เยซู​เสด็จ​มา​ถึง​ชายแดน​ยูเดีย​และ “ข้าม​แม่น้ำ​ยาระเดน” (เข้า​ไป​ใน​พีเรีย). คราว​นี้​พวก​ฟาริซาย​ทูล​ถาม​พระองค์​เกี่ยว​กับ​การ​หย่าร้าง และ​พระองค์​ทรง​ใช้​โอกาส​นั้น​ชี้​แจง​หลักการ​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​การ​สมรส. เศรษฐี​หนุ่ม​ทูล​ถาม​พระองค์​เกี่ยว​กับ​การ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์ แต่​เป็น​ทุกข์​ใจ​เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​ถ้า​จะ​มี​ทรัพย์​สมบัติ​ใน​สวรรค์ เขา​ต้อง​ขาย​ทรัพย์​สมบัติ​ของ​เขา​และ​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​เยซู. พระ​เยซู​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “อูฐ​จะ​ลอด​รู​เข็ม​ก็​ง่าย​กว่า​คน​มั่งมี​จะ​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.” พระองค์​ทรง​หนุน​กำลังใจ​ผู้​ที่​ได้​สละ​ทุก​สิ่ง​เพื่อ​เห็น​แก่​กิตติคุณ ทรง​สัญญา​ว่า​พวก​เขา​จะ “ได้​รับ​ตอบ​แทน​ร้อย​เท่า​ใน​เวลา​นี้ . . . พร้อม​ด้วย​การ​ข่มเหง และ​ใน​ระบบ​ที่​จะ​มี​มา​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์.”—10:1, 25, 30, ล.ม.

23. มี​การ​สนทนา​และ​การ​อัศจรรย์​อะไร​ระหว่าง​ทาง​ไป​กรุง​ยะรูซาเลม?

23 จาก​นั้น​พระ​เยซู​กับ​อัครสาวก 12 คน​ออก​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​ยะรูซาเลม. พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​เขา​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม​เกี่ยว​กับ​ความ​ทุกข์​ที่​อยู่​เบื้อง​หน้า​พระองค์​รวม​ทั้ง​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​ด้วย. พระองค์​ถาม​พวก​เขา​ว่า​พวก​เขา​จะ​ดื่ม​จาก​จอก​เดียว​กับ​ที่​พระองค์​ดื่ม​ได้​หรือ​ไม่ และ​พระองค์​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า “ผู้​ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​เอก​เป็น​ต้น, ก็​ให้​ผู้​นั้น​เป็น​ทาส​ของ​คน​ทั้ง​ปวง.” ขณะ​เดิน​ทาง​ออก​จาก​เมือง​ยะริโฮ ขอ​ทาน​ตา​บอด​คน​หนึ่ง​ร้อง​เรียก​จาก​ริม​ถนน​ว่า “ท่าน​เยซู​บุตร​ดาวิด​เจ้าข้า, ขอ​โปรด​เมตตา​ข้าพเจ้า.” พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​ชาย​ตา​บอด​คน​นั้น​เห็น​ได้—นี่​เป็น​การ​รักษา​โรค​ด้วย​การ​อัศจรรย์​ครั้ง​สุด​ท้าย​ที่​มาระโก​บันทึก​ไว้.—10:44, 47, 48.

24, 25. (ก) พระ​เยซู​ทรง​พิสูจน์​อำนาจ​ของ​พระองค์​ด้วย​การ​ทำ​อะไร​บ้าง? (ข) พระองค์​ทรง​ตอบ​ฝ่าย​ปฏิปักษ์​ของ​พระองค์​โดย​ใช้​เหตุ​ผล​อะไร​บ้าง? (ค) พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​เตือน​อะไร​แก่​ฝูง​ชน และ​พระองค์​ทรง​ชมเชย​เรื่อง​อะไร​ให้​เหล่า​สาวก​ฟัง?

24 พระ​เยซู​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​และ​รอบ ๆ (11:1–15:47). เรื่อง​ราว​ดำเนิน​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว! พระ​เยซู​ทรง​ลูก​ลา​เข้า​ไป​ใน​กรุง และ​ประชาชน​โห่​ร้อง​ต้อนรับ​พระองค์​ใน​ฐานะ​กษัตริย์. วัน​รุ่ง​ขึ้น พระองค์​ทรง​ชำระ​พระ​วิหาร. พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​พวก​อาลักษณ์​เริ่ม​กลัว​พระองค์​และ​หา​ทาง​สังหาร​พระองค์. พวก​เขา​ถาม​ว่า “ท่าน​กระทำ​การ​นี้​โดย​อำนาจ​อะไร?” (11:28) พระ​เยซู​ทรง​ย้อน​ถาม​พวก​เขา​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ​และ​ตรัส​อุปมา​เรื่อง​ชาว​สวน​ที่​ฆ่า​ผู้​รับ​มรดก​สวน​องุ่น​นั้น. พวก​เขา​เข้าใจ​ความหมาย​และ​จาก​พระองค์​ไป.

25 ต่อ​มา​พวก​เขา​ส่ง​ฟาริซาย​บาง​คน​มา​จับ​ผิด​พระองค์​ด้วย​คำ​ถาม​เรื่อง​ภาษี. เมื่อ​ขอ​เงิน​เดนาริอน​มา​เหรียญ​หนึ่ง พระองค์​ตรัส​ถาม​ว่า “รูป​และ​คำ​จารึก​นี้​เป็น​ของ​ใคร?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ของ​ซีซาร์.” พระ​เยซู​จึง​ตรัส​ว่า “จง​จ่าย​ของ​ของ​ซีซาร์​คืน​แก่​ซีซาร์ แต่​ของ​ของ​พระเจ้า​แด่​พระเจ้า.” ไม่​แปลก​เลย​ที่​พวก​เขา​ประหลาด​ใจ​ใน​พระองค์! (12:16, 17, ล.ม.) จาก​นั้น​พวก​ซาดูกาย​ซึ่ง​ไม่​เชื่อ​ใน​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​พยายาม​จับ​ผิด​พระองค์​ด้วย​คำ​ถาม​ว่า ‘ถ้า​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​มี​สามี​เจ็ด​คน​ตาม​ลำดับ นาง​จะ​เป็น​ภรรยา​ของ​ใคร​เมื่อ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย?’ พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ทันที​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​จะ​เป็น “เหมือน​ทูต​สวรรค์” เพราะ​พวก​เขา​จะ​ไม่​สมรส. (12:19-23, 25) คน​หนึ่ง​ใน​พวก​อาลักษณ์​ทูล​ถาม​ว่า “พระ​บัญญัติ​ข้อ​ใด​เป็น​เอก​เป็น​ใหญ่​กว่า​บัญญัติ​ทั้ง​ปวง?” พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​ว่า “พระ​บัญญัติ​ที่​เป็น​เอก​เป็น​ใหญ่​กว่า​บัญญัติ​ทั้ง​ปวง​นั้น​คือ​ว่า, ดู​ก่อน​พวก​ยิศราเอล จง​ฟัง​เถิด, พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เรา​เป็น​พระเจ้า​องค์​เดียว, จง​รัก​พระองค์​ผู้​เป็น​พระเจ้า​ด้วย​สุด​ใจ​สุด​จิตต์​ของ​เจ้า, ด้วย​สุด​ความ​คิด​และ​ด้วย​สิ้น​สุด​กำลัง​ของ​เจ้า. และ​บัญญัติ​ที่​สอง​นั้น​คือ จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง.” (12:28-31) หลัง​จาก​นั้น ไม่​มี​ใคร​กล้า​ถาม​พระองค์​อีก. อำนาจ​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ​ครู​ที่​ดี​พร้อม​ได้​รับ​การ​ยกย่อง. ฝูง​ชน​รับ​ฟัง​ด้วย​ความ​ยินดี และ​พระ​เยซู​ทรง​เตือน​พวก​เขา​ให้​ระวัง​พวก​อาลักษณ์​ที่​ชอบ​วาง​ท่า​โอ้อวด. แล้ว​พระองค์​ทรง​ชมเชย​หญิง​ม่าย​ยาก​จน​ที่​ใส่​เงิน​ลง​ไป​ใน​ตู้​เก็บ​เงิน​มาก​กว่า​คน​ทั้ง​ปวง​นั้น​ให้​เหล่า​สาวก​ฟัง เนื่อง​จาก​เงิน​เหรียญ​เล็ก ๆ สอง​อัน​ของ​เธอ​เป็น “เงิน​ที่​มี​อยู่​สำหรับ​เลี้ยง​ชีวิต​ของ​ตน.”—12:44.

26. การ​สนทนา​ยืด​ยาว​ครั้ง​เดียว​ที่​มาระโก​บันทึก​ไว้​คือ​อะไร และ​การ​สนทนา​นั้น​จบ​ลง​ด้วย​คำ​เตือน​สติ​อะไร?

26 เมื่อ​ทรง​ประทับ​นั่ง​บน​ภูเขา​มะกอก​เทศ​ตรง​ที่​ทอด​พระ​เนตร​เห็น​พระ​วิหาร พระ​เยซู​ทรง​บอก​เฉพาะ​สาวก​สี่​คน​ของ​พระองค์​ถึง​เรื่อง “หมาย​สำคัญ” ของ​ช่วง​อวสาน​แห่ง​สิ่ง​เหล่า​นี้. (นี่​เป็น​การ​สนทนา​ที่​ยืด​ยาว​ครั้ง​เดียว​ที่​มาระโก​บันทึก และ​การ​สนทนา​นี้​คล้าย​กับ​ที่​มัดธาย​บท 24 และ 25.) การ​สนทนา​นั้น​จบ​ด้วย​คำ​เตือน​สติ​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “วัน​นั้น​โมง​นั้น​ไม่​มี​ผู้​ใด​รู้, ถึง​ทูต​สวรรค์​หรือ​พระ​บุตร​ก็​ไม่​รู้ รู้​แต่​พระ​บิดา​องค์​เดียว. ซึ่ง​เรา​บอก​พวก​ท่าน, เรา​ก็​บอก​คน​ทั้ง​ปวง​ด้วย​ว่า, จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่​เถิด.”—13:4, 32, 37.

27. จง​พรรณนา​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ก่อน​การ​ทรยศ​พระ​เยซู​ใน​เฆ็ธเซมาเน.

27 ณ หมู่​บ้าน​เบธาเนีย​ซึ่ง​อยู่​ใกล้ ๆ หญิง​ผู้​หนึ่ง​ชะ​โลม​พระ​เยซู​ด้วย​น้ำมัน​หอม​ราคา​แพง. บาง​คน​คัดค้าน​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​เป็น​การ​ทำ​ให้​เสีย​เปล่า แต่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​นั่น​เป็น​การ​กระทำ​ที่​ดี เป็น​การ​เตรียม​สำหรับ​งาน​ศพ​ของ​พระองค์. ตาม​เวลา​กำหนด พระ​เยซู​และ​อัครสาวก 12 คน​ประชุม​กัน​ใน​เมือง​นั้น​เพื่อ​ฉลอง​ปัศคา. พระ​เยซู​ทรง​ระบุ​ตัว​ผู้​ทรยศ​พระองค์​และ​ทรง​ตั้ง​อาหาร​มื้อ​เย็น​อัน​เป็น​อนุสรณ์​กับ​เหล่า​สาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระองค์ แล้ว​พวก​เขา​ก็​ออก​ไป​ยัง​ภูเขา​มะกอก​เทศ. ระหว่าง​ทาง พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า​พวก​เขา​ทุก​คน​จะ​สะดุด​ล้ม​ไป. เปโตร​ร้อง​ทูล​ว่า “ข้าพเจ้า​จะ​ไม่​สะดุด​เลย.” แต่​พระ​เยซู​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “ใน​คืน​วัน​นี้​เอง, ก่อน​ไก่​จะ​ขัน​สอง​หน​ท่าน​จะ​ปฏิเสธ​เรา​ถึง​สาม​ครั้ง.” เมื่อ​ถึง​สถาน​ที่​ที่​มี​ชื่อ​ว่า​เฆ็ธเซมาเน พระ​เยซู​จึง​ทรง​แยก​ตัว​ไป​อธิษฐาน ทรง​ขอ​ให้​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เฝ้า​ระวัง​อยู่. คำ​อธิษฐาน​ของ​พระองค์​บรรลุ​จุด​สุด​ยอด​ด้วย​คำ​ตรัส​ว่า “อาบา, พระ​บิดา​เจ้าข้า, พระองค์​อาจ​ทรง​กระทำ​สรรพสิ่ง​ทั้ง​ปวง​ได้ ขอ​ให้​จอก​นี้​เลื่อน​พ้น​ไป​จาก​ข้าพเจ้า​เถิด แต่​ว่า​อย่า​ให้​เป็น​ตาม​ใจ​ปรารถนา​ของ​ข้าพเจ้า. แต่​ให้​เป็น​ตาม​พระทัย​ของ​พระองค์.” พระ​เยซู​เสด็จ​กลับ​มา​หา​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​สาม​ครั้ง และ​พระองค์​ทรง​พบ​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​หลับ​อยู่​ทั้ง​สาม​ครั้ง แม้​แต่​เมื่อ “เวลา​ซึ่ง​บุตร​มนุษย์​ต้อง​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​คน​บาป​มา​ถึง​แล้ว.” (14:29, ล.ม. 30, 36, 41) แต่​ชั่วโมง​นั้น​ก็​มา​ถึง! ดู​สิ!—ผู้​ทรยศ!

28. สภาพการณ์​เป็น​อย่าง​ไร​เมื่อ​พระ​เยซู​ถูก​จับ​และ​ถูก​นำ​ตัว​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​มหา​ปุโรหิต?

28 ยูดา​เข้า​มา​ใกล้​และ​จูบ​พระ​เยซู. นั่น​คือ​สัญญาณ​บอก​คน​ของ​ปุโรหิต​ใหญ่​ที่​ถือ​อาวุธ​มา​นั้น​ให้​จับ​พระองค์. พวก​เขา​นำ​พระองค์​ไป​ยัง​บ้าน​มหา​ปุโรหิต ที่​ซึ่ง​หลาย​คน​เป็น​พยาน​เท็จ​ปรักปรำ​พระองค์ แต่​คำ​ให้​การ​ของ​พวก​เขา​ไม่​สอดคล้อง​กัน. พระ​เยซู​เอง​ทรง​นิ่ง​เงียบ. ใน​ที่​สุด มหา​ปุโรหิต​ถาม​พระองค์​ว่า “ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์​บุตร​ของ​ผู้​ทรง​บรม​สุข​หรือ.” พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “เรา​เป็น.” มหา​ปุโรหิต​ร้อง​ว่า ‘หมิ่น​ประมาท!’ แล้ว​คน​ทั้ง​ปวง​พา​กัน​กล่าว​โทษ​พระองค์​ว่า​สม​ควร​ตาย. (14:61-64) ใน​ลาน​บ้าน​ข้าง​ล่าง เปโตร​ปฏิเสธ​พระ​เยซู​สาม​ครั้ง. ไก่​ขัน​ครั้ง​ที่​สอง และ​เปโตร​นึก​ถึง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู ท่าน​จึง​เสียใจ​และ​ร้องไห้.

29. มาระโก​บันทึก​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​พิจารณา​คดี​ขั้น​สุด​ท้าย​และ​การ​ประหาร​พระ​เยซู และ​มี​การ​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​ราชอาณาจักร​เป็น​ประเด็น​สำคัญ?

29 ทันที​ที่​ฟ้า​สาง​ศาล​ซันเฮดริน​ก็​ปรึกษา​กัน​และ​ส่ง​พระ​เยซู​ซึ่ง​ถูก​มัด​ไป​ให้​ปีลาต. ปีลาต​รู้​ได้​อย่าง​รวด​เร็ว​ว่า​พระ​เยซู​มิ​ได้​เป็น​อาชญากร​และ​พยายาม​จะ​ปล่อย​ตัว​พระองค์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ด้วย​การ​ยืนกราน​ของ​ฝูง​ชน​ซึ่ง​ถูก​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​ปลุกปั่น ใน​ที่​สุด เขา​ส่ง​มอบ​พระ​เยซู​ไป​ตรึง. พระ​เยซู​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ยัง​โกลโกทา (โฆละโฆธา) (หมาย​ความ​ว่า “สถาน​ที่​กะโหลก​ศีรษะ”) และ​ถูก​ตรึง มี​คำ​ประจาน​เขียน​ไว้​เหนือ​พระ​เศียร​ของ​พระองค์​ว่า “กษัตริย์​ของ​ชาติ​ยูดาย.” ผู้​ที่​เดิน​ผ่าน​ไป​มา​พูด​ดูถูก​พระองค์​ว่า “เขา​ช่วย​คน​อื่น​ให้​รอด​ได้, ช่วย​ตัว​ของ​ตัว​เอง​ไม่​ได้.” ใน​ตอน​เที่ยง (ชั่วโมง​ที่​หก) ความ​มืด​แผ่​คลุม​ทั่ว​แผ่นดิน​จน​สาม​นาฬิกา​หลัง​เที่ยง. แล้ว​พระ​เยซู​ทรง​ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “พระเจ้า​ข้า ๆ, เหตุ​ไฉน​พระองค์​ทรง​ทอดทิ้ง​ข้าพเจ้า​เสีย?” แล้ว​สิ้น​พระ​ชนม์. เมื่อ​ได้​เห็น​สิ่ง​เหล่า​นี้ นาย​ทหาร​ผู้​หนึ่ง​พูด​ว่า “แท้​จริง​ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​พระ​ราชบุตร​ของ​พระเจ้า.” โยเซฟ​แห่ง​บ้าน​อาริมาธาย สมาชิก​คน​หนึ่ง​แห่ง​ศาล​ซันเฮดริน​แต่​เป็น​ผู้​เชื่อถือ​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า ขอ​พระ​ศพ​ของ​พระ​เยซู​จาก​ปีลาต​แล้ว​เอา​วาง​ไว้​ใน​อุโมงค์​ซึ่ง​ขุด​ไว้​ใน​ศิลา.—15:22, 26, 31, 34, 39.

30. ใน​วัน​แรก​ของ​สัปดาห์ เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​อุโมงค์​นั้น?

30 เหตุ​การณ์​ภาย​หลัง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู (16:1-8). ใน​ตอน​เช้า​ตรู่​วัน​แรก​ของ​สัปดาห์​นั้น หญิง​สาม​คน​ไป​ที่​อุโมงค์. พวก​เธอ​ต้อง​ประหลาด​ใจ​ที่​พบ​ว่า​หิน​ก้อน​ใหญ่​ที่​ปาก​ทาง​เข้า​อุโมงค์​นั้น​ถูก​กลิ้ง​ออก​ไป​แล้ว. “คน​หนุ่ม​คน​หนึ่ง” ซึ่ง​นั่ง​อยู่​ข้าง​ใน​บอก​พวก​เธอ​ว่า​พระ​เยซู​ถูก​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว. (16:5) พระองค์​มิ​ได้​อยู่​ที่​นั่น​แต่​เสด็จ​ไป​ยัง​แคว้น​แกลิลี​ก่อน​พวก​เธอ​แล้ว. พวก​เธอ​หนี​ออก​จาก​อุโมงค์ ตัว​สั่น​และ​หวาด​กลัว.

เหตุ​ที่​เป็น​ประโยชน์

31. (ก) มาระโก​พิสูจน์​ยืน​ยัน​อย่าง​ไร​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​มาซีฮา? (ข) อะไร​พิสูจน์​อำนาจ​ของ​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า และ​พระองค์​ทรง​เน้น​เรื่อง​อะไร?

31 โดย​ข้อ​ความ​ที่​พรรณนา​ถึง​พระ​เยซู​คริสต์​อย่าง​มี​ชีวิต​ชีวา​นี้ ผู้​อ่าน​พระ​ธรรม​มาระโก​ทุก​คน ตั้ง​แต่​สมัย​คริสเตียน​รุ่น​แรก​จน​บัด​นี้ จึง​สามารถ​ระบุ​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ของ​คำ​พยากรณ์​หลาย​ตอน​จาก​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระ​มาซีฮา. ตั้ง​แต่​ข้อ​ความ​แรก​ที่​ยก​มา​จาก​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ที่​ว่า “ดู​ก่อน​ท่าน, เรา​ใช้​ทูต​ของ​เรา​ไป​ข้าง​หน้า​ท่าน” จน​กระทั่ง​ถึง​คำ​ตรัส​ด้วย​ความ​ทุกข์​สาหัส​ของ​พระ​เยซู​บน​หลัก ที่​ว่า “พระเจ้า​ข้า ๆ, เหตุ​ไฉน​พระองค์​ทรง​ทอดทิ้ง​ข้าพเจ้า​เสีย?” เรื่อง​ราว​ทั้ง​สิ้น​เกี่ยว​กับ​งาน​รับใช้​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​ของ​พระองค์​ตาม​ที่​มาระโก​บันทึก​ไว้​นั้น​สอดคล้อง​กับ​ที่​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​พยากรณ์​ไว้. (มโก. 1:2; 15:34; มลคี. 3:1; เพลง. 22:1) ยิ่ง​กว่า​นั้น การ​อัศจรรย์​และ​ราชกิจ​อัน​วิเศษ​ของ​พระองค์, คำ​สอน​ที่​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​สุขภาพ, การ​พิสูจน์​หักล้าง​ที่​ไร้​ข้อ​บกพร่อง, คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​ที่​อาศัย​พระ​คำ​และ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา, และ​การ​บำรุง​เลี้ยง​แกะ​ด้วย​ความ​อ่อนโยน—ทั้ง​หมด​นี้​แสดง​ว่า​พระองค์​เป็น​ผู้​นั้น​แหละ​ที่​เสด็จ​มา​ด้วย​อำนาจ​ใน​ฐานะ​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า. พระองค์​ทรง​สั่ง​สอน “เหมือน​ผู้​มี​อำนาจ” คือ​อำนาจ​ที่​ได้​รับ​จาก​พระ​ยะโฮวา และ​พระองค์​ทรง​เน้น​ว่า​การ “ประกาศ​ข่าว​ดี​ของ​พระเจ้า” กล่าว​คือ “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว” เป็น​งาน​สำคัญ​อันดับ​แรก​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก. การ​สอน​ของ​พระองค์​ปรากฏ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​อย่าง​เหลือ​ประมาณ​แก่​ทุก​คน​ที่​เอา​ใจ​ใส่.—มโก. 1:22, 14, 15, ล.ม.

32. มาระโก​ใช้​คำ “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” กี่​ครั้ง และ​หลัก​ชี้​นำ​อะไร​บ้าง​ที่​ท่าน​วาง​ไว้​สำหรับ​การ​ได้​รับ​ชีวิต​โดย​ทาง​ราชอาณาจักร?

32 พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ทรง​โปรด​ให้​พวก​เจ้า​รู้.” มาระโก​ใช้​คำ “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” 14 ครั้ง และ​ได้​วาง​หลัก​ชี้​นำ​หลาย​ข้อ​สำหรับ​ผู้​ซึ่ง​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​โดย​ทาง​ราชอาณาจักร. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ผู้​ใด​ก็​ตาม​ที่​สูญ​เสีย​จิต​วิญญาณ​ของ​ตน​เพราะ​เห็น​แก่​เรา​และ​ข่าว​ดี​จะ​ช่วย​จิตวิญญาณ​ของ​ตน​ให้​รอด.” ทุก​สิ่ง​ที่​ขัด​ขวาง​ไม่​ให้​ได้​รับ​ชีวิต​จะ​ต้อง​ถูก​กำจัด “ที่​เจ้า​จะ​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ด้วย​ตา​ข้าง​เดียว​ก็​ดี​กว่า​ถูก​โยน​ลง​ใน​เกเฮนนา​โดย​มี​ตา​สอง​ข้าง.” พระ​เยซู​ทรง​แถลง​ต่อ​ไป​อีก​ว่า “ผู้​ใด​ก็​ตาม​ที่​ไม่​รับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เหมือน​เด็ก​เล็ก ๆ จะ​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​นั้น​ไม่​ได้​เลย” และ “ยาก​จริง ๆ ที่​คน​มั่งมี​จะ​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า!” พระองค์​ตรัส​ว่า ผู้​ที่​สังเกต​เข้าใจ​ว่า​การ​ถือ​รักษา​พระ​บัญญัติ​ข้อ​ใหญ่​สอง​ข้อ​นั้น​มี​ค่า​ยิ่ง​กว่า​เครื่อง​บูชา​ถวาย​ทั้ง​ปวง​นั้น​ก็ “ไม่​ไกล​จาก​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.” คำ​สอน​เหล่า​นี้​และ​คำ​สอน​อื่น ๆ เรื่อง​ราชอาณาจักร​ใน​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​มี​คำ​เตือน​สติ​ที่​ดี​มาก​มาย​ที่​เรา​จะ​นำ​ไป​ใช้​ได้​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน.—4:11; 8:35; 9:43-48; 10:13-15, 23-25; 12:28-34, ล.ม.

33. (ก) เรา​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​กิตติคุณ​ของ​มาระโก​อย่าง​ไร? (ข) พระ​ธรรม​มาระโก​น่า​จะ​หนุน​กำลังใจ​เรา​ให้​มุ่ง​ใน​แนว​ทาง​ไหน และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

33 กิตติคุณ​ที่ “เรียบเรียง​โดย​มาระโก” อาจ​อ่าน​จบ​ได้​ภาย​ใน​หนึ่ง​หรือ​สอง​ชั่วโมง ทำ​ให้​ผู้​อ่าน​ได้​พิจารณา​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​น่า​ตื่นเต้น, รวด​เร็ว, และ​มี​พลัง. การ​อ่าน​เรื่อง​ราว​ที่​เขียน​โดย​การ​ดล​ใจ​นี้​รวด​เดียว​รวม​ทั้ง​การ​ศึกษา​และ​ไตร่ตรอง​อย่าง​ละเอียด​ย่อม​เป็น​ประโยชน์​เสมอ. กิตติคุณ​ของ​มาระโก​ยัง​เป็น​ประโยชน์​แก่​คริสเตียน​ที่​ถูก​กดขี่​ข่มเหง​ใน​ทุก​วัน​นี้​เช่น​เดียว​กับ​ใน​ศตวรรษ​แรก เพราะ​ใน​ขณะ​นี้​คริสเตียน​แท้​เผชิญ “วิกฤตกาล​ซึ่ง​ยาก​ที่​จะ​รับมือ​ได้” และ​จำเป็น​ต้อง​ได้​การ​ชี้​นำ​โดย​การ​ดล​ใจ​ดัง​กล่าว​ตาม​ที่​มี​อยู่​ใน​บันทึก​นี้​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระ​เยซู​คริสต์​ผู้​เป็น​แบบ​ฉบับ​ของ​เรา. จง​อ่าน​พระ​ธรรม​มาระโก, ตื่นเต้น​กับ​การ​งาน​ที่​น่า​ทึ่ง และ​ได้​รับ​การ​หนุน​กำลังใจ​ให้​ติด​ตาม​รอย​พระ​บาท​ของ​พระ​เยซู​ผู้​นำ​องค์​เอก​และ​ผู้​ปรับ​ปรุง​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ให้​สมบูรณ์ ด้วย​ความ​ยินดี​ที่​ไม่​มี​ใคร​ทำลาย​ได้​อย่าง​ที่​พระองค์​ทรง​สำแดง. (2 ติโม. 3:1, ล.ม.; เฮ็บ. 12:2) ถูก​แล้ว จง​มอง​พระองค์​ใน​ฐานะ​มนุษย์​ผู้​ทำ​งาน จง​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​มี​ใจ​แรง​กล้า​อย่าง​พระองค์​และ​เลียน​แบบ​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ที่​ไม่​ยอม​อะลุ่มอล่วย​และ​ความ​กล้า​หาญ​ของ​พระองค์​เมื่อ​ตก​อยู่​ใน​การ​ทดลอง​และ​การ​ต่อ​ต้าน. จง​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​จาก​ส่วน​ที่​อุดม​นี้​แห่ง​พระ​คัมภีร์​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ. จง​ให้​พระ​ธรรม​นี้​ก่อ​ประโยชน์​แก่​คุณ​ใน​การ​มุ่ง​แสวง​หา​ชีวิต​ถาวร!

[เชิงอรรถ]

a การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 2 หน้า 337.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์