11 โมเสส
“ไปหาฟาโรห์”
โมเสสเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าไม่ต้องเป็นตัวเขาเองที่จะช่วยชาวอิสราเอลให้ออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ ตั้งแต่โมเสสหนีออกจากอียิปต์ เขาก็มาเลี้ยงฝูงแกะของพ่อตาในแผ่นดินมีเดียนซึ่งทั้งร้อนและแห้งแล้ง แต่การใช้ชีวิตอย่างนี้สอนให้โมเสสเป็นคนถ่อม เวลาผ่านไป 40 ปี ตอนนี้โมเสสอายุ 80 แล้ว เขามีภรรยาและลูก 2 คน
พอพระยะโฮวาเห็นว่าโมเสสได้เปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว พระองค์ทำอะไร? วันหนึ่งตอนที่โมเสสขึ้นไปบนภูเขาโฮเรบ (ซีนาย) เขาเห็นพุ่มหนามที่มีไฟลุกแต่ก็ไม่ได้ไหม้ โมเสสเลยเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วเขาก็ได้ยินเสียงพระยะโฮวาออกมาจากไฟซึ่งพระองค์พูดกับเขาผ่านทางทูตสวรรค์ พระองค์บอกให้โมเสสกลับไปที่อียิปต์เพื่อพาประชาชนของพระองค์ออกมาจากที่นั่น แล้วพระยะโฮวาก็ให้กำลังใจโมเสสโดยบอกให้เขารู้แง่มุมหนึ่งของความหมายชื่อของพระองค์ พระองค์บอกว่า “เราจะเป็นทุกอย่างที่เราต้องการจะเป็น” ดังนั้น พระยะโฮวาจะเป็นอะไรหรือทำอะไรก็ได้เพื่อช่วยให้ประชาชนของพระองค์หลุดพ้นจากการเป็นทาส และทำให้พวกเขากลายเป็นชนชาติใหญ่
แต่โมเสสยังลังเลอยู่ เขาคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอและยังไม่พร้อมที่จะไปพูดกับฟาโรห์ พระยะโฮวาเลยปรับความคิดของเขาและช่วยเขาให้มีความเชื่อมากขึ้นโดยให้พลังกับเขาเพื่อทำการอัศจรรย์ นี่เป็นครั้งแรกที่มีบันทึกในคัมภีร์ไบเบิลว่าพระเจ้าให้พลังกับมนุษย์เพื่อทำการอัศจรรย์ได้ และพระยะโฮวาก็ให้อาโรนพี่ชายของเขามาช่วยพูดแทนเขาด้วย ในที่สุดโมเสสก็ยอมรับงานมอบหมาย ตอนนี้เขาเลยเป็นผู้ถูกเจิมซึ่งหมายความว่าพระเจ้าเลือกเขาให้ช่วยคนของพระองค์—ฮบ. 11:26
จากนั้น โมเสสก็กลับไปที่อียิปต์ เขาไปหาฟาโรห์พร้อมกับอาโรนเพื่อบอกให้ปล่อยชาวอิสราเอลไป พอได้ยินอย่างนั้น ฟาโรห์ก็โกรธมาก แทนที่จะปล่อยชาวอิสราเอล เขากลับสั่งให้ชาวอิสราเอลทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ พระยะโฮวาเลยสั่งให้โมเสสกลับไปหาฟาโรห์เพื่อบอกว่าพระองค์จะลงโทษอียิปต์ด้วยภัยพิบัติ แล้วภัยพิบัติก็เกิดขึ้นจริง แม่น้ำไนล์ที่กว้างใหญ่กลายเป็นเลือด แต่ฟาโรห์ก็ยังไม่ยอมปล่อยชาวอิสราเอลไป พระยะโฮวาเลยบอกให้โมเสสกลับ “ไปหาฟาโรห์” อีกหลายครั้ง และแต่ละครั้งก็ให้ประกาศว่าจะมีภัยพิบัติอะไรเกิดขึ้นกับอียิปต์บ้าง โมเสสทำตามที่พระองค์บอกอย่างกล้าหาญ แต่ฟาโรห์ก็ยังหยิ่งและไม่ยอมฟังอะไรเลย
ภัยพิบัติแต่ละอย่างทำให้เห็นว่าทั้งพวกเทพเจ้าของอียิปต์ พวกนักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา และตัวฟาโรห์เองไม่มีพลังอำนาจอะไรเลย นอกจากนั้น ตั้งแต่ภัยพิบัติที่ 4 เป็นต้นไป พระยะโฮวาปกป้องชาวอิสราเอลไว้และให้มีแต่ชาวอียิปต์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ฟาโรห์ก็ยังดื้อรั้นและไม่ยอมปล่อยทาสชาวอิสราเอลไป พอมาถึงภัยพิบัติที่ 9 พระยะโฮวาทำให้ทั่วอียิปต์มีแต่ความมืด แต่ที่ที่ชาวอิสราเอลอยู่ยังคงมีแสงสว่าง คราวนี้ฟาโรห์บอกว่าจะยอมปล่อยชาวอิสราเอลไป แต่เขาก็เปลี่ยนใจอีก แถมยังขู่โมเสสด้วยว่าถ้ายังกล้ามาหาเขาอีก โมเสสต้องตายแน่
ถึงข่าวสารที่โมเสสเอาไปบอกฟาโรห์จะทำให้ผู้ปกครองที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกคนนี้โกรธมาก แต่โมเสสก็ยังกลับไปบอกเขาหลายต่อหลายครั้ง
พอมาถึงภัยพิบัติที่ 10 ซึ่งเป็นภัยพิบัติสุดท้าย ลูกชายคนโตทุกคน รวมถึงลูกสัตว์ตัวแรกทุกตัวของชาวอียิปต์ก็ตายหมด ไม่เว้นแม้แต่ลูกชายของฟาโรห์ นี่ทำให้ฟาโรห์อับอายมาก เขาเลยเรียกโมเสสให้มาหา พระยะโฮวาก็ส่งเขาให้ไปหาฟาโรห์เป็นครั้งสุดท้าย แล้วฟาโรห์ก็ยอมปล่อยชาวอิสราเอลไปและบอกให้โมเสสขอพระเจ้าให้อวยพรเขาด้วย ในที่สุด ชาวอิสราเอลก็เป็นอิสระ นี่เป็นเวลา 430 ปีพอดีนับตั้งแต่อับราฮัมเข้าไปในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา ตอนนี้ชาวอิสราเอลไม่ต้องเป็นทาสอีกต่อไปแล้ว พวกเขาออกจากอียิปต์พร้อมกับ “คนอื่น ๆ จำนวนมาก” ซึ่งหลายคนน่าจะเป็นชาวอียิปต์ แต่ฟาโรห์ก็เปลี่ยนใจอีก คราวนี้เขารวบรวมกองทัพใหญ่ แล้วไล่ตามชาวอิสราเอลไป
พอโมเสสกับชาวอิสราเอลเดินทางมาถึงริมทะเลแดง ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาหนีไปไหนไม่ได้แล้ว นี่ทำให้ชาวอิสราเอลกลัวมาก โมเสสก็เลยขอให้พระยะโฮวาช่วย แล้วพระองค์ก็ตอบเขาโดยทำการอัศจรรย์ซึ่งเป็นหนึ่งในการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์แยกน้ำทะเลออกจากกันเพื่อชาวอิสราเอลจะสามารถเดินบนดินแห้งและข้ามไปถึงอีกฝั่งของทะเลแดงได้ พอฟาโรห์เห็นว่าชาวอิสราเอลกำลังจะหนีไปแล้ว เขาก็พากองทัพไล่ตามไป หลังจากที่ชาวอิสราเอลข้ามไปถึงอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย พระยะโฮวาก็ทำให้น้ำทะเลไหลกลับมารวมกันเหมือนเดิม แล้วชาวอียิปต์ทั้งหมดก็จมน้ำ กองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหายวับไปกับตา!
โมเสสไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่น่ามหัศจรรย์เหล่านี้เลย และความเชื่อของเขาก็เข้มแข็งมากขึ้นกว่าที่ผ่าน ๆ มา เขาได้นำหน้าคนของพระยะโฮวาและดูแลพวกเขาด้วยความรัก ความเชื่อ และความกล้าหาญต่อไปอีก 40 ปีจนเขาตายตอนอายุ 120 เขาเป็นตัวอย่างที่ดีมากให้พวกเราจริง ๆ
อ่านข้อคัมภีร์เหล่านี้
ให้คุยกันว่า
โมเสสแสดงความกล้าหาญยังไงบ้างในช่วงนี้ของชีวิต?
ค้นคว้ามากขึ้น
1. เราไม่รู้ว่าฟาโรห์ที่ปกครองในช่วงนั้นชื่ออะไร และก็ยังไม่มีการค้นพบบันทึกของชาวอียิปต์เกี่ยวกับเรื่องราวการอพยพของชาวอิสราเอล แต่ทำไมเราถึงเชื่อสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอกได้? (ต04 8/4-E น. 7 ว. 4–น. 9 ว. 1-ชพกอ)
2. ทำไมผู้คนถึงกลัวฟาโรห์? (ห14 15/4 น. 8 ว. 1) (ภาพ ก)
PRISMA ARCHIVO/Alamy Stock Photo
ภาพ ก: ภาพนูนของฟาโรห์บนกำแพง
3. ภัยพิบัติ 10 อย่างทำให้เห็นยังไงว่าพวกเทพเจ้าของอียิปต์ไม่มีพลังอำนาจอะไรเลย? (it “เทพและเทพี” ว. 24-26-ชพกอ)
4. เรารู้ได้ยังไงว่าพระยะโฮวาทำให้น้ำทะเลแดงแยกออกเป็นทางกว้าง? และน่าจะมีชาวอิสราเอลกี่คนที่ข้ามทะเลแดง? (it “อพยพ” ว. 46-51-ชพกอ) (ภาพ ข)
ภาพ ข: ภาพของทะเลแดงตรงจุดที่ชาวอิสราเอลน่าจะเดินข้ามถ้ามองจากฝั่งคาบสมุทรซีนาย
คิดถึงสิ่งที่คุณจะเอาไปใช้
ตัวอย่างของโมเสสให้กำลังใจเรายังไงตอนที่เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะทำงานมอบหมายจากพระยะโฮวา? (อพย. 4:10; 7:6, 7)
เหมือนกับที่อาโรนช่วยโมเสสให้ทำงานมอบหมายได้อย่างกล้าหาญ เราจะช่วยพี่น้องได้ยังไงบ้าง? (อพย. 4:14-16) (ภาพ ค)
ภาพ ค
จากเรื่องที่เรียนในบทนี้ คุณจะกล้าหาญเหมือนโมเสสได้ยังไง?
มองให้กว้างขึ้น
เรื่องนี้สอนอะไรฉันเกี่ยวกับพระยะโฮวา?
เรื่องนี้เกี่ยวข้องยังไงกับความตั้งใจของพระยะโฮวาที่มีต่อโลกและมนุษย์?
ตอนที่โมเสสถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย ฉันอยากถามอะไรเขาบ้างเกี่ยวกับชีวิตของเขาที่พูดถึงในบทนี้?
เรียนรู้เพิ่มเติม
ลองดูว่าความหมายของชื่อพระยะโฮวาช่วยเด็ก ๆ ให้กล้าหาญยังไง
เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของโมเสสสอนเขายังไงเกี่ยวกับคุณลักษณะของพระยะโฮวา?
“ได้รับการสอนให้รู้แนวทางของพระยะโฮวา” (ห05 15/5 น. 20-25)