ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห90 15/10 น. 30-32
  • คำถามจากผู้อ่าน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • คำถามจากผู้อ่าน
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1990
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • พยานพระยะโฮวาคิดอย่างไรกับงานศพ?
    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพยานพระยะโฮวา
  • ทัศนะของคริสเตียนต่อประเพณีการจัดงานศพ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1998
  • งานศพคริสเตียน—น่านับถือ, เรียบง่าย, และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2009
  • จงปลอบโยนผู้โศกเศร้า
    พระราชกิจของเรา 2008
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1990
ห90 15/10 น. 30-32

คำ​ถาม​จาก​ผู้​อ่าน

▪ ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ นิว เวิลด์ ทรานสเลชัน จึง​ถอด​ความ​หมาย​คำ​ฮีบรู ‘อารุมʹ ที่​เยเนซิศ 3:1 ว่า “ระวัง​ระไว” ใน​เมื่อ​คัมภีร์​ฉบับ​แปล​อื่น ๆ แปล​คำ​นี้​ว่า “ฉลาด” หรือ “ฉลาด​แกม​โกง”?

คัมภีร์​ข้อ​นั้น​อ่าน​ว่า “งู​เป็น​สัตว์​ที่​ระวัง​ระไว​ที่​สุด​ใน​บรรดา​สัตว์​ป่า​ทั้ง​ปวง​ที่​พระ​ยะโฮวา​เจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​ขึ้น​ไว้. ดัง​นั้น งู​จึง​พูด​กับ​หญิง​นั้น​ว่า ‘จริง​หรือ​ที่​พระเจ้า​ตรัส​ว่า เจ้า​ต้อง​ไม่​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ทุก​ต้น​ใน​สวน​นี้?’”

ที่​พระ​ธรรม​สุภาษิต 12:23 และ​ที่​อื่น ๆ คัมภีร์​ฉบับ​แปล นิว เวิลด์ ทรานสเลชัน แปล​ความ​หมาย​คำ​ฮีบรู ‘อารุมʹ ว่า “เฉลียวฉลาด” ซึ่ง​เป็น​ความ​หมาย​มูลฐาน​อย่าง​หนึ่ง​ของ​คำ​นี้​เมื่อ​ใช้​กับ​มนุษย์. แต่​เช่น​กับ​คำ​ต่าง ๆ หลาย​คำ คำ ‘อารุมʹ มี​ความ​หมาย​มาก​มาย. เช่น เบนจามิน เดวิดสัน​ให้​คำ​จำกัดความ​คำ ‘อารุมʹ ไว้​ใน​หนังสือ ดิ แอนาลิติคัล ฮีบรู แอนด์ แคลดี เล็กซิคอน ดัง​ต่อ​ไป​นี้ “I. เจ้า​เล่ห์ ฉลาด​แกม​โกง เฉียบ​แหลม.—II. รอบคอบ ระวัง​ระไว.”

เช่น​นั้น​แล้ว ทำไม​คัมภีร์​ฉบับ นิว เวิลด์ ทรานสเลชัน จึง​เลือก​ใช้​ความ​หมาย​ลำดับ​ที่​สอง​คือ “ระวัง​ระไว” ที่​เยเนซิศ 3:1? การ​เลือก​คำ​นั้น​สอดคล้อง​กับ​ฉบับ​แปล​อื่น ๆ. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​เยเนซิศ 3:1 ได้​รับ​การ​แปล​เป็น​ภาษา​กรีก​ใน​ฉบับ​แปล​เซ็พตัวจินท์ แห่ง​ศตวรรษ​ที่​สาม​ก่อน​สากล​ศักราช มี​การ​ใช้​คำ โฟรʹนิมอส—เป็น​คำ​เดียว​กัน​ที่​ใช้​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ที่​มัดธาย 10:16 ที่​ว่า “ท่าน​ต้อง​ระวัง​ระไว​ดั่ง​งู​และ​สุภาพ​ดั่ง​นก​พิราบ.”—ทูเดย์ อิงลิช เวอร์ชั่น.

ย้อน​ไป​เมื่อ​ปี 1945 ลุดวิก เคอเลอร์ ผู้​เชี่ยวชาญ​ภาษา​ฮีบรู​ได้​ให้​ความ​เห็น​ไว้​ว่า “งู​เป็น​สัตว์​ตกใจ​ง่าย. สิ่ง​นี้​อาจ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​ดี​มาก​ด้วย​คำ​ภาษา​กรีก​โฟรʹนิมอส เนื่อง​จาก​ตกใจ​ง่าย​หรือ​ความ​ระวัง​ระไว​นี้​เอง​ที่​งู​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​และ​ใช้​เฟรเนส.” คำ​เฟรเนส ณ ที่​นี้​หมาย​ถึง​ปัญญา​โดย​สัญชาตญาณ​ชนิด​ที่​สัตว์​อื่น ๆ ก็​แสดง​ออก​เช่น​เดียว​กัน.—เทียบ​กับ​สุภาษิต 30:24, ล.ม.

แต่​ก็​มี​เหตุ​ผล​ที่​สำคัญ​กว่า​นั้น​อีก​สำหรับ​การ​ใช้​คำ “ระวัง​ระไว” แทน​คำ “เฉลียวฉลาด” หรือ “ฉลาด​หลักแหลม” ที่​เยเนซิศ 3:1 การ​จะ​เรียก​งู​ว่า​เป็น​สัตว์​ฉลาด​ใน​ข้อ​นี้ ก่อน​ที่​มัน​จะ​ถูก​พรรณนา​ว่า​เป็น​ตัว​ที่​ล่อ​ลวง​ฮาวา​ให้​ตก​เข้า​สู่​การ​บาป​นั้น อาจ​ทำ​ให้​ผู้​อ่าน​หลาย​คน​ลง​ความ​เห็น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง​งู​ธรรมดา ๆ ตัว​หนึ่ง​ว่า​เป็น​ตัว​ที่​ดำเนิน​แผนการ​นี้​เนื่อง​ด้วย​อาศัย​ความ​ฉลาด​ผิด​ปกติ​ของ​ตัว​มัน​เอง. การ​แปล​ความ​หมาย​เช่น​นั้น​คง​จะ​ลด​ฐานะ​บท​จารึก​นั้น​ลง​เป็น​เพียง​เทพนิยาย—และ​ยิ่ง​กว่า​นั้น​คือ​เป็น​แค่​เทพนิยาย​เหลวไหล​เท่า​นั้น.

ใน​ทาง​ตรง​ข้าม คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ว่า​มี​อะไร​ที่​ฉลาด​ยิ่ง​กว่า​งู​มาก​นัก​ที่​ดำเนิน​การ​ใน​สวน​เอเดน​นั้น. วิวรณ์ 12:9 ระบุ​ชัด​เจน​ว่า ซาตาน​พญา​มาร​เป็น​ตัว “งู​โบราณ” นั้น. มัน​เป็น​ผู้​ที่​มอง​ไม่​เห็น มี​ฤทธิ์​เหนือ​กว่า​มนุษย์ ที่​เข้า​ควบคุม​สัตว์​เลื้อยคลาน​ธรรมดา​ตัว​หนึ่ง​ใน​วิธี​เดียว​กับ​นัก​ดัด​เสียง​ที่​ชำนาญ​ใช้​หุ่น​ของ​เขา. ความ​ระวัง​ระไว​ซึ่ง​มี​อยู่​โดย​ธรรมชาติ​ของ​งู​ทำ​ให้​มัน​เป็น​ตัว​ที่​ถูก​เลือก​สำหรับ​เล่ห์​อุบาย​ครั้ง​นั้น. เมื่อ​มัน​ไม่​ได้​หลบ​ไป​ด้วย​ความ​ระวัง​ระไว​อัน​เป็น​ธรรมชาติ​ของ​มัน​แต่​กลับ​อ้า​ปาก​พูด​กับ​ฮาวา​อย่าง​ไม่​กลัว มัน​จึง​ได้​ทำ​ให้​ฮาวา​ยิ่ง​สนใจ​มาก​ขึ้น​อีก​อย่าง​ได้​ผล.

พระ​วจนะ​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​ดล​บันดาล​ของ​พระเจ้า​ปราศจาก​เรื่อง​เทพนิยาย และ​โดย​การ​ถอด​ความ​หมาย​ที่​ถูก​ต้อง คัมภีร์​ฉบับ นิว เวิลด์ ทรานสเลชัน จึง​ช่วย​เรา​ให้​หยั่ง​รู้​ความ​จริง​ข้อ​นี้.—2 ติโมเธียว 3:16.

▪ ใน​เมื่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทราบ​อยู่​ว่า​คน​ตาย​นั้น​ไม่​รู้สึก​ตัว​อะไร​เลย เพราะ​เหตุ​ใด​พวก​เขา​จึง​ยัง​คง​รู้สึก​ว่า​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ที่​จะ​เข้า​ร่วม​งาน​ศพ​ของ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ?

ความ​รู้​อัน​ถูก​ต้อง​จาก​พระ​คัมภีร์​เกี่ยว​กับ​สภาพ​ของ​คน​ตาย​ป้องกัน​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไว้​จาก​ทัศนะ​ที่​ผิด​และ​ที่​ยัง​ผล​ให้​มี​การ​ประพฤติ​อย่าง​ไม่​ฉลาด​สุขุม ณ งาน​ศพ. ความ​รู้​นั้น​ยัง​ให้​เขา​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เข้า​ร่วม​งาน​ศพ​ของ​คริสเตียน​ด้วย.

พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​เมื่อ​บุคคล​ใด​เสีย​ชีวิต​ไป เขา​ไม่​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​อีก​ต่อ​ไป​ใน​ลักษณะ​จิตวิญญาณ​ที่​ไม่​รู้​จัก​ตาย. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5) หลัง​จาก​ตาย​แล้ว ร่าง​กาย​ก็​กลับ​เป็น​ดิน ไม่​ว่า​โดย​การ​เน่า​เปื่อย​ผุ​พัง​ตาม​ธรรมชาติ​หรือ​โดย​การ​เผา​ศพ. ผู้​ตาย​ไม่​มี​ชีวิต​อยู่​อีก​ต่อ​ไป เขา​จะ​มี​ชีวิต​อีก​หาก​พระเจ้า​ทรง​ปลุก​เขา​จาก​ความ​ตาย​ใน​อนาคต.—โยฮัน 5:28, 29; กิจการ 24:15.

ดัง​นั้น พยาน​พระ​ยะโฮวา​จึง​ไม่​ทำ​ตาม​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​อาศัย​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​คน​ตาย​มี​จิตวิญญาณ​อมตะ ซึ่ง​ดำรง​อยู่ ณ ที่​แห่ง​ใด​แห่ง​หนึ่ง. พวก​เขา​ไม่​เข้า​ส่วน​ใน​การ​อยู่​เฝ้า​ศพ พร้อม​ด้วย​มี​การ​ร้อง​เพลง​หรือ​ร้องไห้​คร่ำ​ครวญ​เสียง​ดัง​เพื่อ​ทำ​ให้ “พวก​ผี​ปีศาจ” กลัว และ​ไม่​เข้า​ส่วน​อยู่​เฝ้า​ตลอด​คืน​หรือ​แสดง​ความ​เศร้า​เสียใจ​อย่าง​สุด​ขีด​โดย​เจตนา​จะ​ให้​ผู้​ตาย​สงบ.

แต่​นี้​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​พลไพร่​ของ​พระเจ้า​ไม่​รู้สึก​เสียใจ. ความ​ตาย​ของ​ญาติ​หรือ​เพื่อน​สนิท​เป็น​ประสบการณ์​ที่​ทำ​ให้​เศร้า​สลด​ใจ แม้​แต่​กับ​บรรดา​ผู้​นมัสการ​แท้​ซึ่ง​มี​ความ​รู้​อัน​ถูก​ต้อง​เกี่ยว​กับ​คน​ตาย​แล้ว​ก็​ตาม. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​ยาโคบ​คิด​ว่า​มี​สัตว์​ป่า​ได้​ฆ่า​โยเซฟ​เสีย​แล้ว บรรพบุรุษ​ผู้​นี้ “ร้องไห้​โศก​เศร้า​ถึง​บุตร​อยู่​หลาย​วัน.” เรา​อ่าน​ว่า “บุตร​ชาย​หญิง​ทั้ง​ปวง​ก็​พา​กัน​มาเล้าโลม​บิดา.” (เยเนซิศ 37:33–35) เมื่อ​ยาโคบ​ผู้​ซื่อ​สัตย์​สิ้น​ชีวิต โยเซฟ “จึง​สั่ง​ให้​พวก​หมอ​ที่​เป็น​ข้าหลวง​ของ​ตน​อาบ​ยา​รักษา​ศพ​บิดา​ไว้” และ “ชาว​อายฆุปโต​ไว้​ทุกข์​ให้​ท่าน​ถึง​สี่​สิบ​วัน.” ขณะ​ที่​ครอบครัว​ของ​ยาโคบ​ไม่​ได้​ยึด​ถือ​ตาม​ความ​คิด​เห็น​ที่​ผิด ๆ ของ​ชาว​อียิปต์​ใน​เรื่อง​คน​ตาย ก็​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พวก​เขา​ถูก​กระตุ้น​โดย​ความ​ตาย​ของ​ยาโคบ. “ทั้ง​ครอบครัว​ของ​โยเซฟ​และ​พวก​พี่​น้อง​และ​วงศ์​ญาติ​ของ​ท่าน​ทั้ง​สิ้น” ต้องการ​ฝัง​ศพ​ยาโคบ​อย่าง​ถูก​ต้อง และ​แม้​แต่​คน​นอก​ก็​สังเกต​ออก​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​เศร้า​โศก.—เยเนซิศ 50:1–11.

ตัว​อย่าง​อื่น ๆ อีก​มาก​มาย​ใน​พระ​คัมภีร์​อาจ​อ้าง​ถึง​ได้​ซึ่ง​พวก​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​สะเทือน​ใจ​จริง ๆ โดย​ความ​ตาย​ของ​เพื่อน​ผู้​นมัสการ​ด้วย​กัน​หรือ​ญาติ ๆ และ​ดัง​นั้น​จึง​ทำ​ให้​มี​การ​แสดง​ความ​เสียใจ​อย่าง​เหมาะ​สม.a คราว​ที่​พระ​เยซู​อยู่​กับ​พวก​ญาติ​ของ​ลาซะโล​ซึ่ง​กำลัง​เสียใจ​นั้น พระ​เยซู​ไม่​ใช่​ไม่​มี​ความ​สะเทือน​ใจ​อย่าง​คน​ไร้​ความ​รู้สึก​หรือ​ว่า​รู้สึก​เบิกบาน​อย่าง​ไม่​สม​ควร. แม้​ว่า​จะ​มี​ความ​มั่น​ใจ​ใน​ฤทธิ์​อำนาจ​ใน​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย พระ​เยซู​ทรง​พระ​กันแสง. (โยฮัน 11:33–35) ภาย​หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์ เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ก็​เศร้า​โศก​เสียใจ ถึง​แม้​พระองค์​ได้​บอก​พวก​เขา​ว่า​พระองค์​จะ​ถูก​ฆ่า​และ​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​อีก.—มัดธาย 16:21, 28; โยฮัน 16:17–20; 20:11.

ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ใน​ทุก​วัน​นี้​สามารถ​และ​รู้สึก​จริง ๆ ถึง​ความ​โศก​เศร้า​ที่​ความ​ตาย​นำ​มา. กระนั้น ความ​เข้าใจ​ใน​ด้าน​พระ​คัมภีร์​ของ​พวก​เขา​ช่วย​คลาย​หรือ​ทำ​ให้​หาย​จาก​ความ​เศร้า​โศก สอดคล้อง​กับ 1 เธซะโลนิเก 4:13, 14 ที่​ว่า “ดู​ก่อน​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ข้าพเจ้า​อยาก​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทราบ​ถึง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ล่วง​หลับ​ไป​แล้ว เพื่อ​ท่าน​จะ​ไม่​เป็น​ทุกข์​โศก​เศร้า เหมือน​อย่าง​คน​อื่น​ที่​ไม่​มี​หวัง. เพราะ​ถ้า​เรา​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​วาย​พระ​ชนม์​และ​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​ฉัน​ใด โดย​พระ​เยซู​นั้น​พระเจ้า​จะ​ทรง​นำ​บรรดา​คน​ที่​ล่วง​หลับ​ไป​แล้ว​ให้​เข้า​มา​กับ​พระองค์​ฉัน​นั้น.”

ดัง​นั้น​แล้ว จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​เข้า​ร่วม​ใน​งาน​ศพ​ของ​คริสเตียน (หรือ​คำ​บรรยาย​รำลึก​ถึง​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​คน​หนึ่ง)? มี​เหตุ​ผล​ต่าง ๆ ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​ที่​พวก​พยาน​รู้สึก​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​มี​การ​ทำ​เช่น​นั้น​และ​เข้า​ร่วม​ด้วย.

ขอ​ระลึก​ถึง​ว่า​เมื่อ​ดู​เหมือน​ว่า​ยาโคบ​สูญ​เสีย​บุตร​ชาย​ของ​ท่าน “บุตร​ชาย​หญิง​ทั้ง​ปวง​ก็​พา​กัน​มา​เล้าโลม​บิดา.” (เยเนซิศ 37:35) ใน​หลาย​ประเทศ เป็น​ธรรมเนียม​ที่​บรรดา​ญาติ ๆ จะ​มา​ชุมนุม​กัน​เพื่อ​งาน​ศพ. การ​ทำ​เช่น​นั้น​ให้​โอกาส​แก่​คน​อื่น ๆ ซึ่ง​อาจ​ไม่​เคย​ได้​ใกล้​ชิด​และ​ดัง​นั้น​จึง​ไม่​รู้สึก​สะเทือน​ใจ​มาก เพื่อ​จะ​ได้​ให้​คำ​ปลอบโยน​และ​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ. หลัง​จาก​ลาซะโล​ตาย ‘พวก​ยูดาย​หลาย​คน​จึง​มา​หา​มาธา​และ​มาเรีย เพื่อ​จะ​ปลอบโยน​เขา​เพราะ​น้อง​ชาย​ของ​เขา.’ (โยฮัน 11:19) สิ่ง​นี้​จึง​เกี่ยว​พัน​กับ​ชน​คริสเตียน​ผู้​ซึ่ง​ปรารถนา​จะ “ชู​ใจ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ความ​ทุกข์​ยาก​อย่าง​หนึ่ง​อย่าง​ใด.”—2 โกรินโธ 1:4.

สำหรับ​คริสเตียน​ผู้​ปกครอง ถึง​แม้​เขา​จะ​รู้สึก​ว่า​เขา​มี​ธุระ​ยุ่ง ควร​นำ​หน้า​ใน​การ​จัด​การ​การ​ปลอบโยน​แก่​ฝูง​แกะ. พวก​เขา​จด​จำ​ไว้​ใน​ใจ​เสมอ​ว่า พระ​เยซู​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​องค์​ยอด​เยี่ยม ผู้​เป็น​แบบ​อย่าง​ของ​เขา ทรง​ได้​รับ​มอบหมาย “ให้​สมาน​จิตใจ​ที่​ฟก​ช้ำ​และ​เล้าโลม​บรรดา​คน​โศก​เศร้า.’ (ยะซายา 61:1, 2; โยฮัน 10:14) พระ​เยซู​ไม่​ได้​ให้​การ​ปลอบโยน​เฉพาะ​ใน​เวลา​ที่​สะดวก​เท่า​นั้น. พระองค์​ทรง​เต็ม​พระทัย​จะ​เดิน​ทาง​ไกล​ไป​อยู่​กับ​ญาติ ๆ ของ​ลาซะโร​ซึ่ง​เสีย​ชีวิต​ไป—เพื่อ​ร่วม​ใน​ความ​โศก​เศร้า​กับ​พวก​เขา.—โยฮัน 11:11, 17, 33.

แม้​กระทั่ง​คริสเตียน​ผู้​ซึ่ง​อาจ​ไม่​สามารถ​พูด​อะไร​ได้​มาก​กับ​ผู้​ที่​สูญ​เสีย​ญาติ​ไป​นั้น​ก็​อาจ​ทำ​สิ่ง​ดี​ได้​โดย​เพียง​แต่​เขา​ไป​ร่วม​ด้วย. ครอบครัว​ที่​กำลัง​โศก​เศร้า​อาจ​ได้​รับ​การ​ปลอบ​ประโลม​มาก​ที​เดียว​จาก​การ​เข้า​ร่วม​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​ของ​คน​จำนวน​มาก—ทั้ง​คน​หนุ่ม​สาว​และ​คน​สูง​อายุ—จาก​ประชาคม​คริสเตียน. ขอ​ให้​ระลึก​ถึง​ปฏิกิริยา​ของ​ชาว​ยิว​บาง​คน​เมื่อ​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​หา​พี่​สาว​ของ​ลาซะโล​ที่​กำลัง​เศร้า​เสียใจ “ดู​เถิด พระองค์​ทรง​รัก​เขา​มาก​ยิ่ง​นัก!” (โยฮัน 11:36) ผู้​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​เป็น​ญาติ เพื่อน​บ้าน หรือ​ผู้​ร่วม​ทำ​ธุรกิจ​ด้วย ซึ่ง​มา​ร่วม​ใน​งาน​ศพ​ของ​คริสเตียน​เคย​ได้​รับ​ความ​ประทับใจ​โดย​พยาน​ฯ​จำนวน​มาก​ที่​ไป​ร่วม​งาน​และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​ได้​ตอบรับ​มาก​ขึ้น​ต่อ​ความ​จริง​ที่​ได้​มี​การ​เสนอ​ให้​เขา.

ความ​ประพฤติ​ของ​พยาน​ฯ​ที่​เข้า​ร่วม​งาน​ควร​เหมาะ​สม​กับ​สถานการณ์. แม้​จะ​รู้​อยู่​ว่า​ผู้​ตาย​นั้น​ไม่​ได้​ทน​ทุกข์​ทรมาน​แต่​อย่าง​ใด และ​มั่น​ใจ​ว่า​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​นั้น​คอย​ท่า​บรรดา​ผู้​ซื่อ​สัตย์​ทั้ง​หลาย​อยู่​แล้ว​ก็​ตาม เขา​เอา​คำ​แนะ​นำ​นี้​ใส่​ไว้​ใน​ใจ ซึ่ง​มี​ว่า “มี​วาระ​สำหรับ​กันแสง และ​วาระ​สำหรับ​สำรวล มี​วาระ​สำหรับ​ร่ำไห้ และ​วาระ​สำหรับ​ฟ้อน​รำ.’ (ท่าน​ผู้​ประกาศ 3:4) งาน​ศพ​และ​การ​ไว้​อาลัย​ไม่​ใช่​เวลา​สำหรับ​การ​ส่ง​เสียง​เอะอะ​หรือ​การ​พูด​หยอก​ล้อ​กัน. นั่น​เป็น​ช่วง​เวลา​สำหรับ​การ​ร่วม​ความ​รู้สึก สอดคล้อง​กับ​คำ​แนะ​นำ​ที่​ว่า “จง​มี​ใจ​ยินดี​ด้วย​กัน​กับ​ผู้​ที่​ยินดี จง​ร้องไห้​ด้วย​กัน​กับ​ผู้​ที่​ร้องไห้.”—โรม 12:15.

ยัง​มี​เหตุ​ผล​อีก​ประการ​หนึ่ง​ที่​พยาน​เข้า​ร่วม​งาน​ศพ. พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​มี​กล่าว​ว่า “ไป​ยัง​เรือน​ที่​มี​ความ​โศก​เศร้า​ก็​ดี​กว่า​ไป​ยัง​เรือน​ที่​มี​การ​เลี้ยง​กัน เพราะ​นั่น​เป็น​ระยะ​ที่​สุด​ปลาย​ของ​มนุษย์​ทั้ง​ปวง และ​ผู้​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​จะ​เอา​เหตุ​การณ์​นั้น​ใส่​ไว้​ใน​ใจ​ตน. . . . จิตใจ​ของ​คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​ย่อม​สถิต​อยู่​ใน​เรือน​ที่​มี​ความ​โศก​เศร้า แต่​จิตใจ​ของ​คน​โฉด​เขลา​ย่อม​อยู่​ใน​เรือน​ที่​มี​การ​สนุกสนาน.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:2–4.

ขณะ​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​เหตุ​ผล​สำหรับ​ความ​หวัง ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​ได้​รับ​การดล​บันดาล​และ​ใส่​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย. งาน​ศพ​อาจ​เทียบ​ได้​กับ “เรือน​ที่​มี​ความ​โศก​เศร้า.” ขณะ​ที่​เรา​เข้า​ร่วม ความ​คิด​ของ​เรา​อาจ​เบน​จาก​การ​เป็น​ห่วง​กังวล​หรือ​กิจกรรม​ต่าง ๆ ใน​ยาม​ปกติ​และ​มุ่ง​อยู่​กับ​ช่วง​เวลา​อัน​สั้น​ของ​ชีวิต. ไม่​ว่า​โดย​ความ​เจ็บ​ป่วย​หรือ “เหตุ​การณ์​อัน​ไม่​อาจ​ทราบ​ล่วง​หน้า” บาง​อย่าง ความ​ตาย​อาจ​จู่​โจม​เรา​คน​ใด​คน​หนึ่ง​และ​ทำ​ให้​เรา​เสีย​ชีวิต เนื่อง​จาก “มนุษย์​ไม่​รู้​วาระ​ของ​ตน.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11, 12) ผู้​ที่​เป็น​บิดา​มารดา​ซึ่ง​พา​ลูก ๆ ของ​ตน​ไป​ด้วย​ที่​งาน​ศพ​อาจ​เห็น​ว่า​การ​นี้​สามารถ​นำ​ไป​สู่​การ​พูด​คุย​หา​เหตุ​ผล​ใน​เรื่อง​ความ​เป็น​จริง​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย ความ​จำเป็น​ของ​เรา​ใน​เรื่อง​ค่า​ไถ่ และ​สติ​ปัญญา​ใน​การ​รับใช้ “พระเจ้า​ผู้​ทรง​บันดาล​ให้​คน​ทั้ง​ปวง​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย.”—2 โกรินโธ 1:9; ท่าน​ผู้​ประกาศ 12:1, 13.

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ถือ​ว่า​งาน​ศพ​เป็น​พิธีกรรม​อัน​ศักดิ์สิทธิ์ แต่​พวก​เขา​ตระหนัก​ว่า​เหตุ​การณ์​น่า​เศร้า​นั้น​ให้​โอกาส​สำหรับ​การ​ให้​การ​ปลอบโยน. โดย​การ​เข้า​ร่วม​ใน​งาน​ศพ​นั้น ๆ คริสเตียน​สามารถ​ให้​หลักฐาน​ถึง​ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​เพื่อน​คริสเตียน​ด้วย​กัน. และ​พวก​เขา​อาจ​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​ไตร่ตรอง​อย่าง​จริงจัง​มาก​ขึ้น​ใน​เรื่อง​ความ​หมาย​ของ​ชีวิต​และ​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​เขา​ควร​ใช้​ชีวิต​ของ​เขา​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า.

[เชิงอรรถ]

a เยเนซิศ 23:2, 19; อาฤธโม 20:29; พระ​บัญญัติ 34:7, 8; 2 ซามูเอล 1:11, 12; 3:31–34; 13:32–37; 18:33; 2 โครนิกา 35:24, 25; โยบ 1:18–20; เพลง​สรรเสริญ 35:14; ยิระมายา 9:1; ลูกา 7:12, 13; 8:49–52; กิจการ 8:2; 9:39.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์