คุณรู้จักคัมภีร์ไบเบิลดีเพียงไร?
‘พระธรรมโธมัสหรือ? นั่นอยู่ในพระคัมภีร์แน่ ๆ.แต่พระธรรมโยนาไม่ได้อยู่ในพระคัมภีร์.สถานที่ประสูติของพระคริสต์หรือ? อ๋อนั่นคือยะรูซาเลม—หรือว่าเป็นนาซาเร็ธ?ผมไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าพระธรรมยะซายาอยู่ในส่วนแรกหรือส่วนที่สองของพระคัมภีร์.จำนวนของอัครสาวกล่ะ?ผมไม่รู้จริง ๆ.’
วารสารคริสเตียนนิตี ทูเดย์ แจ้งว่า “ผลของการสำรวจเหล่านี้อาจไม่ได้ทำให้ประหลาดใจถ้าหากข้อมูลนั้นถูกรวบรวมมาเฉพาะแต่ในท่ามกลางคนที่ไม่ใช่คริสเตียน. สิ่งที่น่าประหลาดใจ—และทำให้ไม่สบายใจ—ก็คือการไม่มีความรู้ทางด้านพระคัมภีร์ที่ปรากฏท่ามกลางพวกคริสเตียนที่บังเกิดใหม่.”
อาทิเช่น 22 เปอร์เซ็นต์ของคริสเตียนในนามที่มีการสำรวจคิดว่ามีพระธรรมโธมัสอยู่ในพระคัมภีร์จริง ๆ ขณะที่ 13 เปอร์เซ็นต์ไม่แน่ใจ. ส่วนพระธรรมโยนา 27 เปอร์เซ็นต์บอกว่าไม่ได้อยู่ในพระคัมภีร์ และ 12 เปอร์เซ็นต์นึกไม่ออกเลย. หกเปอร์เซ็นต์ไม่สามารถแม้กระทั่งเดาว่าพระคริสต์ประสูติที่ไหน ขณะที่ 16 เปอร์เซ็นต์ระบุชื่อยะรูซาเลม และ 8 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเป็นเมืองนาซาเร็ธ. 13 เปอร์เซ็นต์เต็มนึกไม่ออกว่าจะพบพระธรรมยะซายาได้ที่ไหนในพระคัมภีร์ ขณะที่ 11 เปอร์เซ็นต์จัดพระธรรมนั้นอยู่ในพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีก (“พระคริสต์ธรรมใหม่”). และขณะที่คนส่วนใหญ่ทราบว่ามีอัครสาวก 12 คน 12 เปอร์เซ็นต์บอกอีกจำนวนหนึ่ง มีตั้งแต่ 2 คนไปจนถึงมากกว่า 20 คน และ 10 เปอร์เซ็นต์นึกไม่ออกเลย.
คำถามที่ทำให้ลำบากใจที่สุดก็คือ ถ้อยคำที่ว่า “พระเจ้าทรงช่วยคนเหล่านั้นที่ช่วยตัวเอง” อยู่ในพระคัมภีร์หรือไม่. เพียง 38 เปอร์เซ็นต์ของ “คริสเตียน” ที่ถูกสำรวจทราบว่าข้อความนั้นมิได้ปรากฏที่ใดในพระคัมภีร์ ขณะที่จำนวนมากกว่า คือ 42 เปอร์เซ็นต์คิดว่านั่นเป็นข้อความที่ยกมาจากพระคัมภีร์. คนที่เหลือนอกนั้นไม่ทราบ.
คริสเตียนนิตี ทูเดย์ ถามว่า “ทำไมจึงมีการไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระคัมภีร์มากเพียงนั้น? ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเนื่องมาจากการขาดการอ่านพระคัมภีร์. ครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันทั้งหมดไม่อ่านพระคัมภีร์. ส่วนใหญ่ของคริสเตียนที่บังเกิดใหม่ทั้งหมดอ่านพระคัมภีร์สัปดาห์ละหนึ่งหรือสองครั้ง หรือมิได้อ่านเลย. ไม่แปลกเลยที่คริสเตียนหลายคนรู้เรื่องเกี่ยวกับพระคัมภีร์น้อยทีเดียว!”