‘ความสุขมีแก่ทุกคนที่คอยท่าพระยะโฮวา’
เล่าโดยดามินิก พีโคนี
คุณพ่อคุณแม่ของผมอพยพจากอิตาลีมาอยู่สหรัฐในตอนต้นทศวรรษปี 1920 และในที่สุด ก็มาตั้งรกรากอยู่ที่ฟิลาเดลเฟียตอนใต้ ซึ่งเวลานั้นเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นย่านอิตาลีเล็ก ๆ. ราวปี 1927 ท่านได้สมทบกับกลุ่มนักศึกษาพระคัมภีร์ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในฐานะพยานพระยะโฮวา.
ผมเกิดปี 1929 และได้รับความจริงจากคัมภีร์ไบเบิลตั้งแต่เป็นทารก. ผมจำได้ว่าพยานฯ มาพบกันที่บ้านของเรา ก่อนที่จะไปประกาศในเมืองที่เคร่งศาสนาคาทอลิกในแถบเหมืองถ่านหินในรัฐเพ็นซิลเวเนียที่ซึ่งพยานฯ ถูกจับหลายครั้ง. ผมรับบัพติสมาปี 1941 ณ การประชุมภาคของพยานพระยะโฮวาที่เซนหลุยส์ มิสซูรี. จากนั้นสิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มแย่ลง.
ผมเริ่มคบค้ากับกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่ดีแถวบ้านและเริ่มสูบบุหรี่กับเล่นการพนันตามมุมถนน. แต่ยังดีที่คุณพ่อคุณแม่เห็นว่าจะคุมผมไม่อยู่จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่เขตอื่นของเมือง. ผมไม่ชอบเลยเพราะต้องเสียเพื่อนที่คบกันตามมุมถนน. อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้เมื่อผมมองย้อนกลับ ผมรู้สึกขอบคุณคุณพ่ออย่างยิ่ง. ท่านเสียสละทางการเงินจริง ๆ เพื่อดึงผมออกจากสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น. ทั้งที่ก่อนหน้านั้นท่านสามารถเดินไปทำงานได้ ตอนนี้ท่านต้องใช้เวลานานในการโดยสารรถไฟใต้ดิน. แต่การย้ายนี้ช่วยผมกลับเข้ามาสู่สภาพแวดล้อมตามระบอบการของพระเจ้าอีก.
เมล็ดพันธุ์มิชชันนารีได้รับการหว่านไว้
เกือบทุกปีเราเดินทางขึ้นไปที่เซาท์แลนซิง นิวยอร์ก เพื่อเข้าร่วมวันสำเร็จการศึกษาโรงเรียนกิเลียดวอชเทาเวอร์ไบเบิล. เมื่อเห็นบรรดามิชชันนารีถูกส่งไปทั่วทุกมุมโลกจึงเป็นการเพาะความปรารถนางานรับใช้แบบมิชชันนารีไว้ในหัวใจของผม. ดังนั้น หลังจากสำเร็จการศึกษามัธยมปลาย ผมเข้าสู่งานรับใช้ฐานะไพโอเนียร์ประจำ โดยเริ่มในเดือนพฤษภาคม ปี 1947.
ไพโอเนียร์สาวคนหนึ่งในประชาคมของเราคือ เอลซา ซวาทซ์ และเธอเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในงานประกาศอย่างยิ่ง. คุณพ่อคุณแม่ของเธอสนับสนุนเธอให้เป็นมิชชันนารีเสมอ ฉะนั้น คุณคงเดาออกว่าผลเป็นอย่างไร. เราแต่งงานในปี 1951. ขณะที่รับใช้เป็นไพโอเนียร์อยู่ด้วยกันในเพ็นซิลเวเนีย เราสมัครเข้าโรงเรียนมิชชันนารีกิเลียด. พอปี 1953 เราได้รับเชิญให้เข้าโรงเรียนกิเลียดรุ่นที่ 23. หลังจากการฝึกฝนและเรียนอย่างหนักเป็นเวลาห้าเดือน เรามีการสำเร็จการศึกษาที่การประชุมใหญ่ที่โตรอนโต แคนาดา และเราได้รับมอบหมายให้ไปสเปน!
ปัญหาต่าง ๆ ในสเปน
ในปี 1955 ขณะที่เตรียมตัวเพื่อออกเดินทางไปยังเขตมอบหมายมิชชันนารีของเรา ผมกับเอลซามีข้อสงสัยหลายอย่าง. สเปน! ประเทศนี้จะเป็นอย่างไร? ประเทศนี้อยู่ภายใต้นายพลฟรังซิสโก ฟรังโก ผู้เผด็จการคาทอลิก และงานของพยานฯ ถูกห้าม. เราจะดำเนินงานอย่างไรภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว?
เราได้รับแจ้งจากพี่น้องที่สำนักงานใหญ่ในบรุคลินว่า เฟรดเดอริค ฟรานซ์ ซึ่งเวลานั้นเป็นรองนายกสมาคมวอชเทาเวอร์ และอัลวาโร แบแรโคเชีย ซึ่งเป็นมิชชันนารีจากอาร์เจนตินาถูกจับพร้อมกับพี่น้องชายคนอื่น ๆ อีกหลายคน. มีการจัดการประชุมอย่างลับ ๆ ขึ้นในป่าใกล้ ๆ กับบาร์เซโลนา. อย่างไรก็ดี ตำรวจรู้เบาะแสการแอบประชุมครั้งนี้และจับกุมผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่.a
เราทราบมาว่า บางทีอาจไม่มีใครสามารถมาพบเราได้เมื่อเรามาถึงบาร์เซโลนา. คำแนะนำที่ให้แก่พวกเราคือ “หาที่พักในโรงแรม แล้วแจ้งที่อยู่ของโรงแรมให้สมาคมในนิวยอร์กทราบ.” เราจำถ้อยคำของท่านยะซายาไว้ในใจที่ว่า “ความสุขย่อมมีแก่ผู้ที่คอยท่าพระองค์ [พระยะโฮวา]. หูของเจ้าก็จะได้ยินเสียงแนะมาข้างหลังของเจ้าว่า ‘ทางนี้แหละ เดินไปเถอะ.’” (ยะซายา 30:18, 21) เราได้แต่เฝ้าคอยท่าพระยะโฮวาและติดตามคำชี้แนะจากองค์การของพระองค์.
เรากล่าวอำลาคุณพ่อคุณแม่กับเพื่อนของเราซึ่งมานิวยอร์กเพื่อกล่าวอวยพรและอำลาเรา และไม่ช้าเรือแซเทอร์เนีย ซึ่งเราโดยสารก็ล่องลงไปตามแม่น้ำฮัดสันเพื่อไปทางมหาสมุทรแอตแลนติก. ครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นคุณพ่อ. สองปีต่อมา ขณะที่ผมอยู่ต่างประเทศ ท่านเสียชีวิตหลังจากที่ป่วยเป็นเวลานาน.
ในที่สุด เราก็มาถึงเมืองท่าบาร์เซโลนา เขตที่เราได้รับมอบหมาย. เป็นวันที่ฝนตกและไม่สดใส แต่ขณะที่เข้าไปที่ด่านศุลกากร เราเห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มร่าเริง. อัลวาโร แบแรโคเชียพร้อมกับพี่น้องสเปนบางคนคอยพบเราอยู่ที่นั่น. เรามีความสุขจริง ๆ ที่ทราบว่าพี่น้องของเราได้รับการปล่อยตัว.
ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องเรียนภาษาสเปนแล้ว. ในยุคโน้นมิชชันนารีจำต้องเรียนภาษาโดยวิธีที่ยากยิ่ง—ไม่มีตำราหรือครู. เวลานั้นไม่มีหลักสูตรสอนภาษา. เราต้องบรรลุเป้าชั่วโมงในงานประกาศ และในเวลาเดียวกันก็ต้องเรียนภาษาด้วย.
ประกาศภายใต้ระบบผู้เผด็จการคาทอลิก
ในเวลานั้นองค์การของพระยะโฮวาในสเปนยังอยู่ในระยะเริ่มแรก. ในปี 1955 มียอดผู้ประกาศ 366 คนในดินแดนซึ่งมีประชากรราว 28 ล้านคน. ทั้งประเทศมีเพียงสิบประชาคม. สภาพการณ์จะคงอยู่เช่นนั้นนานไหม? ทันทีที่ผมกับภรรยาเริ่มงานประกาศตามบ้าน เรารู้สึกว่าสเปนเป็นดุจอุทยานสำหรับคนเหล่านั้นที่เผยแพร่ข่าวดี. ใช่แล้ว ผู้คนหิวกระหายความจริง.
แต่มีการทำงานกันอย่างไรเนื่องจากงานประกาศถูกห้าม? ตามปกติ เราไม่ได้เยี่ยมบ้านทุกหลังตามถนนนั้น อีกทั้งไม่ได้เยี่ยมอพาร์ตเมนต์ทุกห้องในตึกนั้น. บาร์เซโลนามีตึกอพาร์ตเมนต์สูงห้าถึงหกชั้นอยู่มากมาย ดังนั้น เราได้รับคำแนะนำให้เริ่มประกาศจากชั้นบนสุดลงมายังชั้นล่างของอาคาร. บางทีเราจะเยี่ยมอพาร์ตเมนต์เพียงห้องเดียวในแต่ละชั้นหรือไม่ก็ข้ามไปสองหรือสามชั้น. ด้วยวิธีนี้ จึงทำให้ตำรวจจับเรายากขึ้น หากเจ้าของบ้านที่คลั่งศาสนาแจ้งตำรวจเรื่องพวกเรา.
การประชุมของประชาคมจัดขึ้นที่บ้านส่วนตัว ประชาคมหนึ่ง ๆ มีกลุ่มการศึกษาหนังสือปกแข็งราวสามถึงสี่กลุ่ม ด้วยเหตุนี้ ผู้รับใช้ประชาคมจึงสามารถเยี่ยมกลุ่มการศึกษาหนังสือเดือนละครั้ง. ผู้นำการศึกษาหนังสือจะรับหน้าที่นำการประชุมทุกรายการ ซึ่งจัดขึ้นอาทิตย์ละสองครั้งตอนกลางคืนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ราว ๆ 10 ถึง 20 คน.
เราจำต้องเรียนวิถีชีวิตแบบใหม่. ในตอนนั้นยังไม่มีการจัดเตรียมบ้านพักมิชชันนารีในสเปน. เมื่อไรก็ตามหากเป็นได้ เราก็พักกับพี่น้องที่บ้านของเขา. การหัดทำอาหารด้วยเตาถ่านนับเป็นสิ่งท้าทายยิ่งสำหรับเอลซา! ในที่สุด เราสามารถซื้อเตาเล็ก ๆ ที่ใช้น้ำมันก๊าด ซึ่งทำให้งานง่ายขึ้นจริง ๆ.
การข่มเหงและการขับไล่
หลังจากนั้นระยะหนึ่งเราได้รับข่าวคราวว่ากระแสแห่งการข่มเหงกำลังเริ่มขึ้นที่แอนดาลูเซีย เมื่อไพโอเนียร์พิเศษคนหนึ่งถูกจับที่นั่น. เป็นที่น่าเสียดาย เขาถือสมุดซึ่งมีรายชื่อและที่อยู่ของพี่น้องในส่วนต่าง ๆ ทั่วประเทศ. เราได้รับรายงานเป็นระยะเรื่องพี่น้องของเราถูกจับตามเมืองต่าง ๆ. การจู่โจมเช่นนี้คืบใกล้บาร์เซโลนาเข้ามาทุกที. ในที่สุด การข่มเหงก็มาถึงบาร์เซโลนา.
ก่อนหน้านี้สองสามเดือน ตำรวจนำตัวผมไปสอบสวนที่กองบัญชาการ. หลังจากหลายชั่วโมงผ่านไปผมได้รับการปล่อยตัว และผมคิดว่าเรื่องคงจะจบลงแค่นั้น. แต่แล้ว สถานทูตอเมริกันติดต่อกับผมและแนะนำว่าเพื่อหลีกเลี่ยงจากความอายเพราะถูกเนรเทศ ผมควรสมัครใจออกจากประเทศเอง. ไม่นานจากนั้น ตำรวจแจ้งให้เราทราบว่าเราต้องออกนอกประเทศภายในสิบวัน. เนื่องจากเราไม่มีเวลาพอที่จะเขียนจดหมายแจ้งสมาคมวอชเทาเวอร์ เราควรจะทำอย่างไร? สภาพแวดล้อมดูเหมือนจะชี้แนะว่าให้เราไปที่โปรตุเกส ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสเปน อันเป็นเขตทำงานของมิชชันนารีที่อยู่ใกล้ที่สุด.
งานมอบหมายอีกแห่งหนึ่งและอีกภาษาหนึ่ง
เมื่อเรามาถึงเมืองลิสบอน โปรตุเกส ในเดือนกรกฎาคมปี 1957 เราได้รับมอบหมายให้ทำงานที่พอร์โตเป็นเมืองที่อยู่ขึ้นไปทางเหนือของลิสบอน. ถือกันว่านี้เป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของประเทศและเป็นเขตที่มีชื่อในเรื่องเหล้าองุ่นพอร์ต. ประชาคมที่ก้าวหน้าจัดการประชุมขึ้นที่ห้องใต้ดินของอาคารย่านศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง. เนื่องจากโปรตุเกสอยู่ภายใต้ผู้เผด็จการซาลาซาร์ งานประกาศในประเทศนี้จึงถูกห้ามเช่นกัน. อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมที่นี่แตกต่างจากสเปนอย่างสิ้นเชิง. การประชุมต่าง ๆ จัดขึ้นในบ้านของพี่น้อง และกลุ่มที่เข้าร่วมมีตั้งแต่ 40 ถึง 60 คน. ไม่มีสัญลักษณ์อะไรที่บอกว่าบ้านนั้นเป็นสถานที่ประชุมของพยานพระยะโฮวา. แม้ว่าผมจะพูดภาษาโปรตุเกสไม่ได้เลย ผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รับใช้ประชาคม. อีกครั้งหนึ่ง ที่เราเรียนภาษาใหม่ด้วยความยากเย็น.
ราวหนึ่งปีต่อมา เราได้รับมอบหมายให้ไปที่ลิสบอน. ที่นี่จึงเป็นครั้งแรกซึ่งเรามีที่พักของเราเอง เป็นอพาร์ตเมนต์ที่มองเห็นเมืองลิสบอน. เราได้รับมอบให้ดูแลหมวด—ทั่วสาธารณรัฐโปรตุเกส. เมื่อเรามาถึงโปรตุเกส มีผู้ประกาศเพียง 350 คนและมีห้าประชาคม.
เวลาแห่งความยากลำบากเริ่มต้น
ในแผนที่บางแผ่นซึ่งแสดงประเทศโปรตุเกสพร้อมกับดินแดนที่เป็นอาณานิคม มีการเขียนคำกล่าวไว้ว่า “โปรตุเกสดินแดนที่ตะวันไม่ตกดิน.” เรื่องนี้เป็นความจริง เนื่องจากโปรตุเกสมีอาณานิคมตามส่วนต่าง ๆ ของโลกมากมาย อาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งในแอฟริกาคือโมซัมบิกและอังโกลา. ในปี 1961 ดูเหมือนจะมีการก่อการจลาจลในอาณานิคมเหล่านี้ และโปรตุเกสมองเห็นความจำเป็นในการเพิ่มกำลังในกองทัพมากขึ้น.
ที่นี้พี่น้องหนุ่มจะทำอย่างไรเมื่อเขาถูกเกณฑ์? บางคนได้รับการยกเว้นเนื่องจากสุขภาพไม่ดี แต่ส่วนมากได้ยืนหยัดอย่างแน่วแน่เพื่อรักษาความเป็นกลางแบบคริสเตียน. ต่อมาไม่นาน คลื่นแห่งการข่มเหงอันรุนแรงก็เริ่มขึ้น. สำนักงานสาขาได้รับรายงานว่าไพโอเนียร์พิเศษถูกจับและถูกทุบตีอย่างหนักโดยตำรวจลับ พวกพี. ไอ. ดี. อี. ที่ป่าเถื่อน (โพลีซีอาเอ็นเทร์นาซีอานาลเอเดเฟซาดะเอ็ซทาโด). กองบัญชาการตำรวจเรียกตัวมิชชันนารีบางคนในพวกเราไปสอบสวน. ต่อมา คู่สมรสสามคู่ได้รับคำสั่งให้ออกนอกประเทศภายใน 30 วัน. พวกเราทุกคนอุทธรณ์ต่อเจ้าหน้าที่.
กองบัญชาการตำรวจเรียกมิชชันนารีไปทีละคู่เพื่อให้ผู้นำของคณะพี. ไอ. ดี. อี. สอบสวน. คู่แรกที่ถูกซักถามคือเอริค บริทเทนผู้ดูแลสาขาและคริสทีนาภรรยาของเขา. ต่อมาคือเอริค เบฟริจและฮาเซลภรรยาของเขาและสุดท้ายผมกับเอลซาก็ถูกสอบสวน. อธิบดีกรมตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเท็จว่าเราถูกพวกคอมมิวนิสต์ใช้เพื่อทำลายโลกทางตะวันตกอย่างลับ ๆ โดยคำสอนของเราในเรื่องความเป็นกลาง. คำอุทธรณ์ของเราไม่ได้ผล.
น่าเศร้าใจเพียงไรที่ต้องละพี่น้องชายหญิงจำนวน 1,200 คนซึ่งเผชิญกับวาระที่ยุ่งยากเนื่องจากการปกครองอันทารุณโดยผู้เผด็จการที่ไร้เหตุผล! ขณะที่สองสามีภรรยาคือเบฟริจไปสเปนและบริทเทนกลับอังกฤษแล้ว เขตมอบหมายต่อไปของเราคือที่ไหน? โมร็อกโกประเทศที่เป็นมุสลิม!
งานประกาศในโมร็อกโกดินแดนมุสลิม
นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราคอยท่าพระยะโฮวา. เขตมอบหมายใหม่ ประเพณีใหม่ และภาษาใหม่! ภาษาอาระบิค ฝรั่งเศสและสเปนเป็นภาษาทางการของอาณาจักรโมร็อกโกซึ่งมีผู้ประกาศ 234 คนในแปดประชาคม. ศาสนาทางการของดินแดนนี้คืออิสลาม และการเปลี่ยนศาสนาท่ามกลางชาวมุสลิมเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย. ดังนั้น เราประกาศได้แต่เฉพาะประชากรชาวยุโรปซึ่งไม่ได้เป็นมุสลิม.
ครั้นมิชชันนารีเริ่มเข้าไปในตอนปลายทศวรรษ 1950 แล้วมีการเพิ่มพูนจำนวนผู้ประกาศ. แต่รัฐบาลโมร็อกโกเริ่มบีบประชากรชาวยุโรป และแล้วชาวต่างชาติจึงอพยพกันขนานใหญ่ รวมทั้งพี่น้องของเราหลายคน.
ขณะที่ประชากรซึ่งไม่ใช่มุสลิมลดจำนวนลง เราเห็นว่าจำเป็นต้องหาวิธีพูดกับชาวมุสลิมอย่างผ่อนหนักผ่อนเบา และเรื่องนี้นำไปถึงการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ. เมื่อคำร้องเรียนในเมืองแทงเกียและเมืองอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น ในที่สุด เราได้รับแจ้งว่าเราต้องออกจากประเทศภายในเวลา 30 วัน. ในเดือนพฤษภาคม ปี 1969 ผมกับเอลซาถูกไล่ออกจากเขตมอบหมายอีกครั้งหนึ่ง.
เป็นการมอบหมายระยะสั้น ๆ ไหม?
เราได้รับแจ้งให้กลับบรุคลิน และผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสำหรับผู้ดูแลสาขาซึ่งจัดขึ้นในฤดูร้อนนั้น. ขณะที่อยู่ที่นั่น ผมได้รับแจ้งว่าการมอบหมายใหม่ของเราจะอยู่ที่เอลซัลวาดอร์ อเมริกากลาง และผมจะรับใช้เป็นผู้ดูแลสาขาที่นั่น. ผมทราบว่างานมอบหมายนี้อย่างมากที่สุดก็ราวห้าปี ซึ่งเป็นระยะเวลานานที่สุดที่อนุญาตให้มิชชันนารีอยู่ในประเทศ ทั้งนี้เพราะงานของเราที่นั่นยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ.
เอลซัลวาดอร์—เขตมอบหมายที่เยี่ยมยอด! มีผู้ประกาศ 1,290 คนรวมไพโอเนียร์ 114 คนด้วยซึ่งส่งรายงานแต่ละเดือน. ประชาชนเกรงกลัวพระเจ้า ชอบคัมภีร์ไบเบิล และมีน้ำใจรับรองแขก. แทบทุก ๆ บ้าน เจ้าของบ้านจะเชิญเราเข้าไปคุยกับเขา. ชั่วระยะเวลาสั้น ๆ เรามีนักศึกษาพระคัมภีร์มากเท่าที่เราจะนำการศึกษาได้.
ขณะที่เราสังเกตเห็นความก้าวหน้าและความต้องการอย่างมากในเขตนั้น เรารู้สึกเสียใจที่เราต้องออกจากประเทศหลังจากชั่วเวลาเพียงห้าปี. ดังนั้น มีการตัดสินใจว่าเราควรพยายามเพื่อขอให้งานของพยานพระยะโฮวาได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ. เรายื่นคำร้องต่อรัฐบาลในเดือนธันวาคม 1971 และวันที่ 26 เมษายน 1972 เรามีความยินดีที่ได้อ่านในหนังสือพิมพ์ของรัฐ ชื่อเดียริโอ ออฟิซิอาล ว่าคำร้องขอของเราได้รับการอนุมัติ. พวกมิชชันนารีไม่จำเป็นต้องจากไปอีกต่อไปเมื่ออยู่ครบห้าปีแต่สามารถพำนักถาวรในประเทศได้.
การทดลองและพระพร
ตลอดเวลาหลายปีในการมอบหมายตามที่ต่าง ๆ ของเรา เรามีเพื่อนดี ๆ มากมายและได้เห็นผลของงานรับใช้ของเรา. เอลซามีประสบการณ์ที่ดีในซานซัลวาดอร์เกี่ยวกับครูคนหนึ่งและสามีของเธอที่เป็นทหาร. หนึ่งในบรรดาเพื่อนของครูสนใจความจริงด้วย. ทีแรกสามีไม่ได้แสดงความสนใจในคัมภีร์ไบเบิล กระนั้น เราก็ไปเยี่ยมขณะที่เขาอยู่โรงพยาบาล และเขาเป็นมิตรดี. ในที่สุด เขาศึกษาพระคัมภีร์ และเลิกอาชีพทหาร จากนั้นก็เริ่มงานประกาศพร้อมกับพวกเรา.
ในขณะเดียวกัน สุภาพสตรีคนหนึ่งมาที่หอประชุมและถามเอลซาว่าเธอกำลังนำการศึกษากับอดีตทหารใช่ไหม. เรื่องกลับกลายเป็นว่าเธอเคยเป็นชู้รักของเขา! เธอก็เช่นกันกำลังศึกษาพระคัมภีร์กับพยานพระยะโฮวา. ณ การประชุมภาค อดีตนายทหาร ภรรยาของเขา เพื่อนของเธอและอดีตชู้รักทั้งหมดได้รับบัพติสมา!
การขยายงานในเอลซัลวาดอร์
เนื่องจากการเพิ่มพูนมากขึ้น จึงมีการสร้างหอประชุมขึ้นมากมายหลายแห่ง และตอนนี้เอลซัลวาดอร์มีผู้ประกาศที่แข็งขันกว่า 18,000 คน. อย่างไรก็ดี ความก้าวหน้าเช่นนี้หาใช่ปราศจากการทดสอบทดลองไม่. นับสิบปีที่พี่น้องต้องทำตามพระทัยประสงค์ของพระยะโฮวาท่ามกลางสงครามกลางเมือง. แต่พวกเขาก็รักษาความเป็นกลางและยังคงภักดีต่อราชอาณาจักรของพระยะโฮวา.
เราสองคน ผมและเอลซาได้รับใช้เต็มเวลาถึง 85 ปี. เราพบว่าเมื่อใดที่เราคอยท่าพระยะโฮวาและได้ยิน ‘เสียงแนะมาข้างหลังว่า “ทางนี้แหละ. เดินไปเถอะ”’ แล้วเราไม่ผิดหวังเลย. เราชื่นชมยินดีกับชีวิตที่น่าพอใจและคุ้มค่าฐานะเป็นพยานผู้รับใช้เต็มเวลาของพระยะโฮวา.
[เชิงอรรถ]
a สำหรับรายละเอียดทั้งหมด ดูจากหนังสือประจำปีของพยานพระยะโฮวาปี 1978 หน้า 177-179.
[รูปภาพหน้า 24]
การประชุมซึ่งจัดขึ้นในป่าที่สเปน ปี 1956
[รูปภาพหน้า 25]
เราเคยประกาศกับผู้คนที่ไม่ใช่มุสลิมในโมร็อกโก
[รูปภาพหน้า 26]
สำนักงานสาขาในเอลซัลวาดอร์ เขตมอบหมายของเราในปัจจุบัน