ระวังดนตรีที่ให้โทษ
“ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดีในการประพฤติ, อย่าให้เหมือนคนอปัญญา. แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา จงซื้อโอกาสมาใช้ เพราะว่าบัดนี้เป็นกาลที่ชั่ว.”—เอเฟโซ 5:15, 16.
1. เหตุใดจึงกล่าวได้ว่าดนตรีเป็น “ของประทานจากพระเจ้า”?
“ดนตรี . . . เป็นของประทานจากพระเจ้า.” ลูลู รัมเซ วิลเลย์เขียนอย่างนี้ในหนังสือดนตรีพระคัมภีร์. นับแต่โบราณกาลมา บรรดาชายหญิงที่เกรงกลัวพระเจ้าตระหนักในความรู้สึกดังกล่าว. โดยทางดนตรี มนุษย์แสดงออกซึ่งความรู้สึกอันลึกซึ้ง—ความยินดี, ความทุกข์, ความโกรธ, และความรัก. ดังนั้น ดนตรีมีบทบาทสำคัญในสมัยพระคัมภีร์ เรื่องดนตรีมีกล่าวในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ตลอดเล่ม.—เยเนซิศ 4:21; วิวรณ์ 18:22.
2. โดยวิธีใดที่มีการใช้ดนตรีสรรเสริญพระยะโฮวาในสมัยพระคัมภีร์?
2 ในการนมัสการพระยะโฮวานั้นเองที่ดนตรีเคยถูกใช้เพื่อจุดประสงค์อันสูงส่งที่สุด.a ถ้อยคำสดุดีอันเลิศลอยที่สุดที่เคยถวายแด่พระเจ้ายะโฮวานั้นแต่เดิมทีได้แต่งเป็นทำนองเพลง. ดาวิดผู้ประพันธ์บทเพลงสรรเสริญเขียนไว้ว่า “ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถวายสรรเสริญพระนามของพระเจ้า.” (บทเพลงสรรเสริญ 69:30) ดนตรีถูกนำมาใช้ในยามตริตรองอธิษฐานเพียงลำพัง. อาซาฟเขียนอย่างนี้ “ข้าพเจ้าระลึกถึงเพลงที่เคยร้องในเวลากลางคืน: ข้าพเจ้าตรึกตรองอยู่ในใจ; และจิตต์ใจของข้าพเจ้าก็ยิ่งคิดมากขึ้น.” (บทเพลงสรรเสริญ 77:6) ภายในวิหารของพระยะโฮวา มีการจัดดนตรีอย่างขนานใหญ่. (1 โครนิกา 23:1-5; 2 โครนิกา 29:25, 26) บางโอกาส กองบรรเลงเครื่องดุริยางค์ถูกจัดเข้าแถวเป็นขบวนใหญ่ เช่น ในงานอุทิศพระวิหารมีการใช้คนเป่าแตร 120 คน. (2 โครนิกา 5:12, 13) ไม่มีบันทึกแจ้งว่าดนตรีอันสง่างามนั้นมีทำนองอย่างไร แต่หนังสือดนตรีในพระคัมภีร์ (ภาษาอังกฤษ) ตั้งข้อสังเกตดังนี้: “ไม่ยากที่จะออกความคิดเห็นในเรื่องผลกระทบกว้าง ๆ ของการบรรเลงดนตรีในพระวิหาร ณ โอกาสสำคัญ . . . หากเวลานี้มีคนหนึ่งท่ามกลางพวกเราได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นก็คงเลี่ยงไม่พ้นที่จะได้รู้สึกถึงความน่าครั่นคร้ามและความสูงส่ง.”
การใช้ดนตรีในทางที่ผิด
3, 4. ไพร่พลของพระเจ้าและชนนอกรีตเพื่อนบ้านของเขาได้ใช้ของประทานด้านดนตรีในทางที่ผิดนั้นโดยวิธีใด?
3 อย่างไรก็ดี ใช่ว่าจะมีการใช้ดนตรีในแนวทางอันสูงส่งดังกล่าวเสมอไป. ณ ภูเขาซีนาย มีการใช้ดนตรีปลุกเร้าการนมัสการรูปโคทองคำ. (เอ็กโซโด 32:18) นอกจากนี้ บางโอกาสดนตรีเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดื่มอย่างหัวราน้ำและกระทั่งการหากินเป็นหญิงโสเภณีด้วยซ้ำ. (บทเพลงสรรเสริญ 69:12; ยะซายา 23:15) ชนนอกรีตที่อยู่รอบ ๆ ยิศราเอลก็มีความผิดไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันที่ได้ใช้ของประทานจากพระเจ้าในทางที่ผิด. พจนานุกรมเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลของนักแปล (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “ในโฟนิเซียและซีเรียดนตรีที่นิยมกันเกือบทั้งหมดสะท้อนการนมัสการอิชทาร์ เทพธิดาแห่งการแพร่พันธุ์. ดังนั้น เพลงที่นิยมกันมักจะเป็นการเบิกโรงเข้าสู่การปล่อยเนื้อปล่อยตัวทางเพศ.” ชาวกรีกสมัยโบราณก็เช่นเดียวกันใช้ดนตรีประกอบ “การเต้นรำปลุกราคะ” ที่นิยมกัน.
4 ใช่แล้ว ดนตรีมีอำนาจกระตุ้น, ดึงดูดใจคน, และมีพลังจูงใจ. หลายสิบปีมาแล้ว หนังสือดนตรีในพระคัมภีร์ (ภาษาอังกฤษ) เขียนโดยจอห์น สเตเนอร์ ถึงกับบอกว่า “ไม่มีศิลปะแขนงใดจะเป็นแรงชักจูงจิตใจเผ่าพันธุ์มนุษย์ในเวลานี้ได้มากเหมือนศิลปะการดนตรี.” ดนตรียังมีพลังโน้มน้าวจิตใจในทุกวันนี้. ดังนั้น ดนตรีชนิดที่ไม่ดีอาจเป็นอันตรายได้จริง ๆ ต่อเยาวชนที่เกรงกลัวพระเจ้า.
ความจำเป็นที่จะต้องระวัง
5. (ก) ดนตรีมีบทบาทสำคัญมากเพียงไรในชีวิตของวัยรุ่นหลายคน? (ข) ทัศนะของพระเจ้าคืออย่างไรเกี่ยวกับการที่คนหนุ่มสาวจะเพลิดเพลินกับชีวิตของตน?
5 ถ้าคุณอยู่ในวัยหนุ่มสาว คุณย่อมรู้ดีว่าดนตรีมีความสำคัญเพียงใดต่อหลายคนวัยเดียวกับคุณ—โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดนตรีป๊อบหรือร็อก. เคยมีการเรียกดนตรีว่าเป็น “ส่วนหนึ่งของระบบการย่อยอาหารของวัยรุ่น.” ประมาณกันว่า ช่วงหกปีสุดท้ายในโรงเรียน เยาวชนในประเทศสหรัฐโดยเฉลี่ยฟังดนตรีร็อกวันละมากกว่าสี่ชั่วโมง! แน่ล่ะ นั้นแสดงถึงการขาดความสมดุล. ใช่ว่าผิดที่จะเพลิดเพลินกับบางสิ่งซึ่งทำให้คุณเป็นสุขสบายใจ. เป็นที่แน่นอนว่า พระยะโฮวา พระผู้สร้างดนตรีที่ยังความเบิกบานใจ พระองค์ย่อมไม่คาดหมายให้หนุ่มสาวเป็นคนเจ้าทุกข์หรือเงื่องหงอย. ที่จริง พระองค์ทรงบัญชาไพร่พลของพระองค์ดังนี้: “ท่านทั้งหลายผู้ชอบธรรม, จงชื่นชมยินดีในพระยะโฮวา; และบรรดาผู้ที่มีใจเที่ยงตรงจงโห่ร้องยินดีเถิด.” (บทเพลงสรรเสริญ 32:11) พระคำของพระองค์มุ่งไปที่เยาวชนว่า “โอ้ยุวชนยุวดี, จงชื่นชมยินดีในปฐมวัยของเจ้า, และให้จิตต์ใจของเจ้าทำตัวเจ้าให้ชุ่มชื่นในปฐมวัยของเจ้า.”—ท่านผู้ประกาศ 11:9.
6. (ก) ทำไมเยาวชนจึงต้องระมัดระวังเมื่อเขาเลือกดนตรี? (ข) เหตุใดดนตรีสมัยนี้เป็นสิ่งน่ารังเกียจมากกว่าดนตรีสมัยก่อน?
6 อย่างไรก็ดี มีเหตุผลอันดีที่คุณพึงระมัดระวังเมื่อจะเลือกฟังดนตรี. อัครสาวกเปาโลกล่าวไว้ที่เอเฟโซ 5:15, 16 ดังนี้: “ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดีในการประพฤติ, อย่าให้เหมือนคนอปัญญา, แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา จงซื้อโอกาสมาใช้, เพราะว่าบัดนี้เป็นกาลที่ชั่ว.” หนุ่มสาวบางคนอาจคัดค้านก็ได้ อย่างเด็กสาวคนหนึ่งพูดว่า “บิดามารดาของเราครั้งยังเป็นหนุ่มสาวก็เคยฟังดนตรีของท่าน. ทำไมเราจะฟังดนตรีของเราไม่ได้?” ดนตรีหรือเพลงบางประเภทซึ่งบิดามารดาของคุณชื่นชอบตอนมีอายุวัยเดียวกับคุณก็อาจจะมีข้อที่น่าท้วงติงเหมือนกัน. ครั้นพิจารณาอย่างถี่ถ้วน มาตรฐานหลายอย่างซึ่งเคยเป็นที่นิยมกันได้ปรากฏว่าเป็นคำพูดเสียดสีมีเลศนัยส่อไปในทางผิดศีลธรรม. แต่ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นเพียงการเกริ่นให้รู้โดยนัย เดี๋ยวนี้พูดกันอย่างโจ่งแจ้ง. ผู้เขียนรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตดังนี้: “เวลานี้พวกเด็กถูกโจมตีด้วยคำพูดที่ชัดแจ้งอย่างที่วัฒนธรรมของเราไม่เคยพบเคยเห็น.”
ดนตรีแร็ป—ดนตรีแนวขัดขืนดื้อดึง
7, 8. (ก) ดนตรีแร็ปคืออะไร และอะไรทำให้ดนตรีประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง? (ข) อาศัยอะไรซึ่งพอจะระบุตัวบุคคลที่เกาะติดกับแนวชีวิตแบบนิยมดนตรีแร็ป?
7 ให้เรานึกถึงความบ้าคลั่งเกี่ยวด้วยดนตรีแร็ปในปัจจุบันเป็นตัวอย่าง. ตามข่าวจากนิตยสารไทม์ ดนตรีแร็ปกลายเป็น “การปฏิวัติจังหวะดนตรีครั้งใหญ่อันเป็นที่รับรองทั่วโลก” และนิยมแพร่หลายมากในบราซิล, ยุโรป, ญี่ปุ่น, รุสเซีย, และที่สหรัฐ. บ่อยครั้ง ไม่มีทำนอง เนื้อร้องก็ใช้วิธีพูด ไม่มีการร้องเพลง ใช้จังหวะกลองกระแทกหนัก ๆ คลอเสียงพูด. แต่การให้จังหวะกระแทกแรงและรัวถี่ ๆ นั้นซึ่งดูเหมือนเป็นองค์ประกอบสำคัญแห่งความสำเร็จของดนตรีแร็ปในเชิงการค้า. สาวรุ่นชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งบอกว่า “เมื่อดิฉันฟังดนตรีแร็ปดิฉันรู้สึกตื่นเต้น และขณะเต้นรำอยู่นั้นฉันรู้สึกเป็นอิสระ.”
8 เนื้อร้องที่ใช้ในดนตรีแร็ป—มักจะปนกันระหว่างคำสบประมาทกับคำสแลง—ดูเหมือนว่าเป็นเหตุผลอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ดนตรีแร็ปเป็นที่นิยม. ไม่เหมือนเนื้อเพลงร็อกแต่เดิมซึ่งหลายเพลงมักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของหนุ่มสาว บ่อยครั้งดนตรีแร็ปส่อความหมายไปในทางที่จริงจังกับชีวิตมากกว่า. เพลงแร็ปบางเพลงมีเนื้อร้องต่อต้านความอยุติธรรม, การแบ่งแยกผิว, และการทารุณโหดร้ายของตำรวจ. แต่บางครั้ง บทร้องรับใช้ภาษาหยาบแบบน่าอัปยศอดสูอย่างยิ่ง. อีกอย่างหนึ่ง ดูเหมือนแร็ปเป็นการขัดขืนต่อมาตรฐานของการแต่งกาย, การจัดทรงผม, และศีลธรรมทางเพศอีกด้วย. ไม่แปลกที่ดนตรีแร็ปกลายเป็นรูปแบบชีวิตไปแล้ว. ผู้ที่ยึดรูปแบบชีวิตนี้บ่งชี้ได้โดยกิริยาท่าทางอันโอ้อวดของเขา การใช้คำสแลง, และเครื่องแต่งกาย เช่น นุ่งกางเกงยีนส์หลวมโคร่งคร่าง, สวมรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อปล่อยเชือกรองเท้ารุ่ยร่าย, ใส่สร้อยทอง, สวมหมวกแก๊ปและแว่นดำ.
9, 10. (ก) เยาวชนควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรที่จะตัดสินว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้ายอมรับ” ดนตรีแร็ปและรูปแบบชีวิตที่นิยมดนตรีแร็ป? (ข) เยาวชนคริสเตียนบางคนดูเหมือนจะถือว่าอะไรเป็นเรื่องไม่สำคัญ?
9 ที่เอเฟโซ 5:10, (ล.ม.) คริสเตียนได้รับการกำชับว่า “จงทำให้แน่ใจต่อ ๆ ไปว่า อะไรเป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้ายอมรับ.” ครั้นพิจารณาชื่อเสียงที่ดนตรีแร็ปได้สร้างไว้สำหรับตัวมันเอง คุณคิดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้ายอมรับ” ไหมหากคุณเกี่ยวข้องกับดนตรีชนิดนี้? เยาวชนคริสเตียนต้องการเป็นที่รู้จักในรูปแบบชีวิตนี้ไหมซึ่งแม้ชาวโลกหลายคนก็ไม่ยอมรับ? โปรดสังเกตวิธีที่นักวิจารณ์คนหนึ่งพรรณนาถึงการแสดงดนตรีแร็ปว่า “นักร้องเพลงแร็ปแข่งขันกันเพื่อให้เกิดภาพลามกสุดขีดด้วยเนื้อร้องที่หยาบโลนและบ่งบอกเรื่องเพศอย่างชัดแจ้ง. . . . เหล่านักเต้นทั้งชายและหญิงทำท่าทางแบบการร่วมเพศบนเวที.” เกี่ยวกับการแสดงคราวหนึ่งซึ่งพาดหัวข่าวใหญ่ ผู้สนับสนุนรายการคอนเสิร์ตพูดว่า “แทบทุกคำที่ออกจากปากของพวกเขาเป็นคำหยาบโลนทั้งนั้น.”
10 กระนั้นก็ตาม การแสดงดนตรีในเย็นวันนั้นดูไม่ออกว่าต่างไปจากดนตรีแร็ปโดยทั่วไป. ผู้อำนวยการโรงแสดงคอนเสิร์ตกล่าวดังนี้: “สิ่งที่คุณฟังก็เป็นดนตรีแร็ปธรรมดานี้เอง—ประเภทเดียวกันกับที่คนวัยหนุ่มสาวซื้อหาได้จากร้านค้า.” เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะรายงานว่าในจำนวนผู้ที่ชมคอนเสิร์ต 4,000 กว่าคนนั้น มีบางคนที่อ้างว่าเป็นพยานพระยะโฮวา! ดูเหมือนบางคนไม่ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ว่าซาตาน เป็น “ผู้มีอำนาจครอบครองในอากาศ.” มันควบคุม “วิญญาณ [หรือ, ทัศนะทางใจที่ครอบงำ] ที่ครอบครองอยู่ในคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อฟัง.” (เอเฟโซ 2:2) คุณจะรับใช้เพื่อผลประโยชน์ของผู้ใดถ้าคุณพัวพันกับดนตรีแร็ปหรือมีรูปแบบชีวิตที่นิยมดนตรีแร็ป? จริงอยู่ เพลงแร็ปบางชนิดอาจมีเนื้อร้องที่ไม่น่าเกลียดถึงขนาดนั้น. แต่สุขุมรอบคอบไหมที่จะปลูกฝังรสนิยมสำหรับดนตรีประเภทซึ่งส่วนใหญ่ขัดต่อมาตรฐานคริสเตียน?
เฮฟวีเมทัล—กามารมณ์, ความรุนแรง, และการบูชาซาตาน
11, 12. ดนตรีเฮฟวีเมทัลคืออะไร และอะไรคือลักษณะสำคัญอันน่ารังเกียจของมัน?
11 ดนตรียอดนิยมอีกประเภทหนึ่งได้แก่เฮฟวีเมทัล. ดนตรีเฮฟวีเมทัลไม่ใช่เพียงแต่เป็นฮาร์ดร็อกที่เสียงดังมาก. รายงานในวารสารแห่งสมาคมแพทย์อเมริกัน (ภาษาอังกฤษ) แจ้งว่า “ดนตรีเฮฟวีเมทัล . . . เน้นจังหวะสะท้อนเสียงดังและมากด้วยคำร้องที่ยกย่องความเกลียดชัง, การกระทำทารุณ, พฤติกรรมทางเพศที่เสื่อมทราม, และการบูชาซาตานเป็นบางโอกาส.” เพียงชื่ออย่างเดียวของบางคณะซึ่งได้รับความนิยมมากก็ส่อถึงความเสื่อมทรามของร็อกประเภทนี้อยู่แล้ว. ชื่อประกอบด้วยคำต่าง ๆ เช่น “ยาพิษ” “ปืน” และ “ความตาย.” กระนั้น เฮฟวีเมทัลยังดูนิ่มกว่าเมื่อเทียบกับดนตรีร็อกประเภทแทร็ชเมทัลและเดทเมทัล—ดนตรีอันดับรองของดนตรีประเภทเฮฟวีเมทัล. ชื่อของวงเหล่านี้ใช้ศัพท์แผลง ๆ เช่น “คนกินเนื้อมนุษย์” และ “ชีวประวัติโดยย่อของผู้ล่วงลับ.” หนุ่มสาวในหลายประเทศอาจไม่ตระหนักว่า ชื่อวงเหล่านั้นน่ารังเกียจเพียงไร เนื่องจากชื่อเหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น.
12 ดนตรีเฮฟวีเมทัลเกี่ยวโยงครั้งแล้วครั้งเล่ากับการฆ่าตัวตายของเด็กวัยรุ่น, โรคซึมเศร้า, และการใช้ยาเสพย์ติด. การที่ดนตรีประเภทนี้เชื่อมโยงกับพฤติกรรมที่รุนแรงทำให้ที่ปรึกษารายการทางวิทยุคนหนึ่งตั้งชื่อดนตรีเฮฟวีเมทัลว่า “ดนตรีที่นำมาใช้ฆ่าพ่อแม่.” ความเกี่ยวพันกับการบูชาซาตานซึ่งทำให้พ่อแม่หลายราย—และพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ—รู้สึกตกใจ. นักสืบสวนคนหนึ่งได้อ้างว่าหนุ่มสาวบางคนซึ่งทำเล่น ๆ กับการบูชานมัสการซาตาน ไปพัวพันเข้ากับลัทธิปีศาจโดยดนตรีประเภทนี้. เขาสรุปว่า “เด็กเหล่านี้ไม่รู้ว่าตนกำลังเข้าไปพัวพันกับอะไร.”
13. การพาตัวเข้าไปเกี่ยวพันกับดนตรีเฮฟวีเมทัลนั้นมีอันตรายอะไร?
13 อย่างไรก็ตาม เยาวชนคริสเตียนควร “รู้อุบายของ [ซาตาน].” (2 โกรินโธ 2:11) สิ่งสำคัญยิ่งคือ “เรามีการปล้ำสู้ . . . กับอำนาจวิญญาณชั่วในสวรรค์สถาน.” (เอเฟโซ 6:12, ล.ม.) คงเป็นความโง่เขลาเพียงใดที่จะเชิญพวกปิศาจเข้ามาอยู่ในชีวิตของตนโดยทางดนตรีที่ตนเลือก! (1 โกรินโธ 10:20, 21) ทว่า ดูเหมือนว่าเยาวชนคริสเตียนจำนวนไม่น้อยนิยมชมชอบดนตรีประเภทนี้. บางคนถึงกับหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพื่อจะได้ฟังดนตรีตามรสนิยมที่ตัวเองชอบ. เด็กสาวคนหนึ่งสารภาพว่า “ดิฉันเคยฟังดนตรีเฮฟวีเมทัล บางครั้งเกือบตลอดคืน. ดิฉันจะซื้อวารสารแฟนเพลงเฮฟวีเมทัลแล้วเก็บซ่อนไว้ในกล่องรองเท้าไม่ให้คุณพ่อคุณแม่เห็น. ดิฉันโกหกท่าน. ดิฉันรู้ว่าพระยะโฮวาไม่ทรงพอพระทัยที่ดิฉันทำอย่างนั้น.” เธอได้รับการช่วยให้คิดอย่างถูกต้องจากบทความหนึ่งในวารสารตื่นเถิด. อาจมีหนุ่มสาวอีกสักกี่คนที่ยังคงติดอยู่กับบ่วงดนตรีดังกล่าว?
การเก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณหว่าน
14, 15. ทำไมเราแน่ใจได้ว่าการฟังดนตรีที่ให้โทษเช่นนั้นจะมีผลกระทบในทางลบ? จงยกตัวอย่างประกอบ.
14 อย่าประเมินอันตรายที่มาจากดนตรีเช่นนั้นน้อยไป. จริงอยู่ คุณอาจไม่คิดจะฆ่าใครหรือกระทำผิดศีลธรรมทางเพศเพียงเพราะคุณฟังเพลง. กระนั้นก็ดี พระธรรมฆะลาเตีย 6:8 (ล.ม.) แจ้งว่า “คนใดที่หว่านโดยคำนึงถึงเนื้อหนังของตนเองจะเกี่ยวเก็บการเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น.” การฟังดนตรีแนวโลกีย์, ส่อความเป็นเดรัจฉาน และกระทั่งเป็นแบบปิศาจ มีแต่จะกระทบกระทั่งคุณในทางลบทั้งสิ้น. (เทียบกับยาโกโบ 3:15.) คำกล่าวของศาสตราจารย์ทางดนตรี โจเซฟ สติวส์ซี ถูกยกขึ้นมาดังนี้: “ดนตรีไม่ว่าประเภทไหนมีผลกระทบต่ออารมณ์, ความรู้สึก, ทัศนะและพฤติกรรมของเราอันเป็นผลสืบเนื่อง . . . ใครก็ตามที่พูดว่า ‘ฉันฟังดนตรีเฮฟวีเมทัลได้ แต่มันไม่ก่อผลกระทบฉันเลย’ นับว่าผิดถนัด. ดนตรีเฮฟวีเมทัลมีผลกะทบผู้คนต่างกัน ในขนาดหนักเบาต่างกันและในแนวทางต่างกัน.”
15 เยาวชนคริสเตียนคนหนึ่งยอมรับว่า “ผมเคยติดใจหลงใหลดนตรีแธร็ชเมทัลอย่างเอาเป็นเอาตายจนบุคลิกทุกอย่างในตัวผมเปลี่ยนไปหมด.” หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มประสบปัญหาพัวพันกับผีปิศาจ. “ในที่สุด ผมได้กำจัดแผ่นเสียง และจึงหลุดพ้นจากพวกปิศาจ.” เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งสารภาพว่า “ดนตรีที่ผมเคยฟังจะเกี่ยวข้องกับลัทธิติดต่อวิญญาณชั่ว, ยาเสพย์ติด, หรือเรื่องเพศ. เด็กหนุ่มหลายคนบอกว่ามันไม่มีผลกระทบพวกเขา แต่จริง ๆ แล้วมีแน่. ตอนนั้นผมแทบจะไม่ได้อยู่ในแนวทางแห่งความจริง.” สุภาษิตข้อหนึ่งถามดังนี้: “บุรุษใดเล่าเมื่อเอาไฟใส่ที่น่าอกของตน, เสื้อผ้าของเขาจะไม่ไหม้หรือ?”—สุภาษิต 6:27.
จงเฝ้าระวัง
16. อาจกล่าวได้อย่างไรเกี่ยวกับผู้ประพันธ์เพลงและผู้แสดงดนตรีจำนวนไม่น้อยในสมัยปัจจุบัน?
16 เปาโลเขียนถึงคริสเตียนในเมืองเอเฟโซสมัยโบราณดังนี้: “ด้วยเหตุนั้น ในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจึงบอกและเป็นพยานแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านไม่ดำเนินอย่างนานาชาติอีกต่อไป ซึ่งดำเนินด้วยความคิดอันไร้ประโยชน์ ขณะที่เขาอยู่ในความมืดทางจิตใจและเหินห่างไปจากชีวิตซึ่งมาจากพระเจ้า เนื่องด้วยความโง่เขลาซึ่งมีอยู่ในตัวเขา เนื่องด้วยการขาดสติไม่รู้จักเหตุผลอันมีอยู่ในหัวใจของเขาทั้งหลายนั้น.” (เอเฟโซ 4:17, 18, ล.ม.) เรื่องนี้อาจกล่าวได้ไหมถึงพวกนักประพันธ์เพลงและนักแสดงดนตรีสมัยปัจจุบันมิใช่หรือ? มากกว่าที่แล้ว ๆ มา ดนตรีทุกชนิดส่อให้เห็นอิทธิพลของซาตานพญามาร “พระเจ้าของระบบนี้.”—2 โกรินโธ 4:4, ล.ม.
17. เยาวชนสามารถจะเลือกหรือทดสอบดนตรีได้โดยวิธีใด?
17 เกี่ยวกับ “สมัยสุดท้าย” คัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์ว่า “คนชั่วและเจ้าเล่ห์จะกำเริบชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น.” (2 ติโมเธียว 3: 1, 13, ล.ม.) เช่นนั้นแล้ว ในการเลือกดนตรี คุณจะต้องระวังอย่างเข้มงวดยิ่งกว่าแต่ก่อน. บ่อยครั้ง ชื่อเพลงที่น่ารังเกียจย่อมแสดงให้เห็นว่าไม่เหมาะที่จะเป็นชุดเพลงที่เราเลือกสรรไว้. โยบ 12:11 ถามว่า “หูมีไว้สำหรับฟังคำไว้ใคร่ครวญ, ดุจมีปากไว้สำหรับชิมให้รู้รสอาหารมิใช่หรือ?” ในทำนองเดียวกัน คุณสามารถจะรู้จักประเภทดนตรีโดยการลองฟังตัวอย่างเพื่อประเมินค่าดนตรี. ท่วงทำนองนั้นปลุกเร้าคุณให้เกิดความรู้สึกแบบไหน? ดนตรีนั้นส่งเสริมพฤติกรรมอันบ้าคลั่งและในทางเสื่อมเสียไหม เช่น น้ำใจชอบเกลือกกลั้วกับการเสเพลเฮฮา? (ฆะลาเตีย 5:19-21) เนื้อร้องล่ะเป็นอย่างไร? ส่งเสริมการทำผิดศีลธรรมทางเพศ, การใช้ยาเสพย์ติด, หรือการชั่วอื่น ๆ ไหมซึ่ง ‘แม้เอ่ยชื่อก็น่าอายอยู่แล้ว?’ (เอเฟโซ 5:12) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าการเช่นนั้นไม่บังควรจะ “ให้เอ่ยชื่อ” ท่ามกลางไพร่พลของพระเจ้าเลยโดยไม่ต้องพูดถึงจังหวะกลองและการร้องซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า. (เอเฟโซ 5:3) และภาพปกแผ่นเสียงล่ะ? ภาพเหล่านั้นส่อไปในทางที่เกี่ยวกับผีปิศาจหรือปลุกเร้าราคะไหม?
18. (ก) เยาวชนบางคนอาจจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงอะไรในเรื่องดนตรี? (ข) เยาวชนอาจปลูกฝังรสนิยมทางดนตรีที่เป็นประโยชน์มากขึ้นได้โดยวิธีใด?
18 บางทีคุณอาจจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงเมื่อคัดเลือกประเภทดนตรี. ถ้าคุณมีแผ่นเสียง, เทป, และแผ่นดิสก์ซึ่งเนื้อร้องเป็นสิ่งผิดศีลธรรมและเกี่ยวข้องกับผีปิศาจ คุณควรกำจัดเสียทันที. (เทียบกับกิจการ 19:19.) ทั้งนี้ไม่หมายความว่าคุณไม่อาจชื่นชมการดนตรี ไม่ใช่ดนตรียอดนิยมทุกประเภทเป็นที่น่ารังเกียจ. นอกจากนี้ หนุ่มสาวบางคนได้เรียนรู้ที่จะแผ่ขยายรสนิยมของตนทางดนตรีและเวลานี้พวกเขาชื่นชมดนตรีคลาสสิก, ดนตรีโฟล์ก, ดนตรีแจ๊สที่ฟังสบาย ๆ, และดนตรีประเภทอื่นหลายรูปแบบ. เทปเพลงราชอาณาจักร ได้ช่วยคนหนุ่มสาวหลายคนให้มีรสนิยมในด้านดนตรีออเคสตราซึ่งก่อร่างสร้างขึ้น.
19. เหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะจัดดนตรีให้อยู่ในอันดับที่เหมาะสม?
19 ดนตรีเป็นของประทานจากพระเจ้า. แต่สำหรับหลายคน ดนตรีกลายเป็นสิ่งครอบงำที่ไม่ก่อคุณประโยชน์. คนเหล่านี้ก็คล้ายกับชาวยิศราเอลโบราณซึ่งชอบเล่น “มีพิณ, ขลุ่ย, ฉาบ, ปี่, . . . แต่เขาไม่เอาใจใส่ต่อกิจการของพระยะโฮวา.” (ยะซายา 5:12) จงตั้งความมุ่งหมายของคุณที่จะให้ดนตรีอยู่ในอันดับที่เหมาะสมและจัดเอากิจการของพระยะโฮวาเป็นกิจกรรมซึ่งคุณต้องเอาใจใส่เป็นประการสำคัญ. จงเลือกดนตรีอย่างพิถีพิถันและด้วยความระมัดระวัง. เมื่อทำเช่นนั้น คุณสามารถจะใช้ของประทานนี้จากพระเจ้าในทางที่ถูก—ไม่ใช่ในทางผิด.
[เชิงอรรถ]
a ดูเหมือนว่าชนชาติยิศราเอลเก่งเป็นเยี่ยมทางศิลปะการดนตรี. ประติมากรรมอัสซีเรียชิ้นหนึ่งมีลวดลายแสดงกษัตริย์เซนเฮริบออกคำสั่งให้กษัตริย์ฮิศคียาจัดส่งนักดนตรีชาวยิศราเอลเป็นบรรณาการ. พจนานุกรมดนตรีกับนักดนตรีเรียบเรียงโดยโกรฟ (ภาษาอังกฤษ) ระบุว่า “การบังคับให้ส่งนักดนตรีเป็นบรรณาการ . . . แท้จริงเป็นเรื่องผิดปกติ.”
คุณจำได้ไหม?
▫ เหตุใดพูดได้ว่าดนตรีเป็นของประทานจากพระเจ้า?
▫ สมัยโบราณมีการใช้ดนตรีในทางผิดโดยวิธีใด?
▫ ดนตรีประเภทแร็ปและเฮฟวีเมทัลเป็นอันตรายต่อเยาวชนคริสเตียนอย่างไร?
▫ เยาวชนคริสเตียนจะระมัดระวังอย่างไรในการเลือกดนตรี?
[รูปภาพหน้า 23]
ในสมัยพระคัมภีร์ บ่อยครั้งมีการใช้ดนตรีเป็นวิธีการสรรเสริญพระยะโฮวา