ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห94 15/10 น. 31
  • คำถามจากผู้อ่าน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • คำถามจากผู้อ่าน
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • อาโอริสต์ (Aorist)
    ส่วนอธิบายศัพท์
  • บทเรียนที่ 8—ข้อดีกว่าของ “ฉบับแปลโลกใหม่”
    “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • ‘จงระวังเชื้อแห่งพวกฟาริซายและพวกซาดูกายให้ดี’
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1995
  • ‘จงเรียนจากเรา’
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2001
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
ห94 15/10 น. 31

คำ​ถาม​จาก​ผู้​อ่าน

ที่​มัดธาย 3:7 ทำไม “พระ​คัมภีร์​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่” (ภาษา​อังกฤษ) จึง​ใช้​คำ “เมื่อ​มอง​เห็น” แทน​ที่​จะ​ใช้​คำ “เห็น” ซึ่ง​สั้น​กว่า​ดัง​ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ​แปล​อื่น ๆ หลาย​ฉบับ?

จริง ๆ แล้ว จะ​แปล​ความ​อย่าง​ไหน​ก็​ได้​และ​ไม่​ผิด. และ​ไม่​ใช่​ทุก​ภาษา​จะ​มี​คำ​ไว้​พร้อม​เพื่อ​แสดง​อรรถรส​ของ​ภาษา​กรีก​ดั้งเดิม​ใน​กรณี​นี้. แต่​วิธี​แปล​มัดธาย 3:7 ใน​พระ​คัมภีร์​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ ถ่ายทอด​อรรถรส​ของ​ข้อ​ความ​ภาษา​กรีก​พื้น​ฐาน. เรา​อ่าน​ว่า “เมื่อ [โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา] มอง​เห็น พวก​ฟาริซาย​และ​พวก​ซาดูกาย​จำนวน​มาก​มา​เพื่อ​จะ​รับ​บัพติสมา ท่าน​จึง​กล่าว​แก่​พวก​เขา​ว่า ‘พวก​เจ้า​เผ่า​พันธุ์​งู​ร้าย ใคร​ได้​แนะ​เจ้า​ให้​รู้​เพื่อ​หนี​จาก​พระ​พิโรธ​ซึ่ง​กำลัง​มา​นั้น?’”

ดัง​ที่​กล่าว​แล้ว คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​ฉบับ​บอก​เพียง​ว่า โยฮัน “เห็น” พวก​ฟาริซาย​และ​พวก​ซาดูกาย​พา​กัน​มา​ยัง​ที่​ซึ่ง​ท่าน​กำลัง​ให้​บัพติสมา​แก่​ชาว​ยิว. แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​หมาย​ความ​ไหม​ว่า โยฮัน​ได้​เห็น​สิ่ง​นี้​เกิด​ขึ้น​ช่วง​เวลา​หนึ่ง ราว​กับ​ท่าน​ได้​จ้อง​ดู​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง​แล้ว​ใน​ที่​สุด​ก็​ถูก​กระตุ้น​ให้​กล่าว​ถึง​แนว​ทาง​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ของ​พวก​เขา? การ​แปล​ว่า “เห็น” อาจ​ทำ​ให้​เข้าใจ​เช่น​นั้น​ได้. ที่​จริง ความ​หมาย​เช่น​นั้น​เด่น​ชัด​ใน​การ​แปล​โดย​เฟอราร์ เฟ็นตัน ซึ่ง​กล่าว​ว่า “แต่​เมื่อ​สังเกต​เห็น​พวก​ฟาริซาย​และ​พวก​ซาดูกาย​จำนวน​มาก . . . ”

กาล​ของ​กริยา​ภาษา​กรีก​คือ​กาล​ที่​เรียก​ว่า​อาโอริสต์. กาล​อาโอริสต์​แสดง​ถึง​การ​กระทำ​ชั่ว​ขณะ ใน​ขณะ​ที่​กาล​ปัจจุบัน​แสดง​ถึง​การ​กระทำ​ที่​ดำเนิน​อยู่ (กำลัง​ทำ​อยู่) และ​กาล​สมบูรณ์​คือ​การ​กระทำ​ที่​เสร็จ​สมบูรณ์ (ทำ​แล้ว). ดัง​นั้น ความ​หมาย​ของ​กริยา​ใน​รูป​ของ​กาล​อาโอริสต์​ที่​มัดธาย 3:7 คือ ขณะ​ที่​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​เห็น​พวก​ฟาริซาย​และ​พวก​ซาดูกาย​มา หรือ “เมื่อ​ท่าน​มอง​เห็น” พวก​เขา. ทันที​ที่​ท่าน​เห็น ท่าน​ก็​มี​การ​ตอบ​สนอง ดัง​ที่​เรา​อ่าน​ใน​ข้อ 7 ถึง 12.

มี​ตัว​อย่าง​การ​ใช้​กาล​อาโอริสต์​เช่น​นี้​หลาย​ครั้ง​ใน​ความ​หมาย​นี้. การ​ที่​เรา​ตระหนัก​ถึง​อรรถรส​ของ​กาล​แบบ​นี้​สามารถ​ทำ​ให้​เรา​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​จาก​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว.

ตัว​อย่าง​เช่น มัดธาย 9:9 (ล.ม.) กล่าว​ดัง​นี้: “ขณะ​เสด็จ​ไป​จาก​ที่​นั่น พระ​เยซู​ทอด​พระ​เนตร​เห็น ชาย​ชื่อ​มัดธาย​นั่ง​อยู่​ที่​ด่าน​ภาษี พระองค์​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า ‘จง​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​เรา​เถิด.’ เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ใน​ทันใด​นั้น​แล้ว​ติด​ตาม​พระองค์​ไป.” พระ​เยซู​ไม่​ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​เพื่อ​สังเกต​ดู​มัดธาย และ​พระองค์​ก็​ไม่​ต้อง​มอง​มัดธาย​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก. ครั้น​พระ​เยซู​ทรง​มอง​เห็น​มัดธาย แล้ว​พระองค์​ก็​ทรง​เรียก​เขา.

นี่​เป็น​สอง​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ถึง​การ​ที่​พระ​คัมภีร์​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ เอา​ใจ​ใส่​เกี่ยว​กับ​คำ​กริยา​ภาษา​กรีก​ใน​รูป​ของ​กาล​อาโอริสต์. ขอ​พิจารณา​กรณี​บาง​อย่าง​ที่​คล้าย​กัน และ​ดู​ว่า​คุณ​จะ​ได้​อรรถรส​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​ไร:

“ครั้น​พระองค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​เรือน​เจ้านาย​นั้น​และ​เมื่อ​ทรง​มอง​เห็น พวก​เป่า​ปี่​และ​ฝูง​คน​เอะอะ​วุ่นวาย​กัน พระ​เยซู​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า, ‘จง​ออก​ไป​เถิด ด้วย​ว่า​เด็ก​หญิง​นี้​ไม่​ตาย แต่​นอน​หลับ​อยู่.’—มัดธาย 9:23, 24, ล.ม.

“เมื่อ​พวก​เขา​มอง​เห็น​พระองค์​ทรง​ดำเนิน​มา​บน​ทะเล พวก​สาวก​ก็​กระสับกระส่าย​บอก​ว่า ‘นั่น​ผี!’ และ​พวก​เขา​จึง​ร้อง​ออก​มา​ด้วย​ความ​กลัว. แต่​ใน​ทันใด​นั้น​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​พวก​เขา​ว่า ‘จง​กล้า​หาญ​เถิด คือ​เรา​เอง.’”—มัดธาย 14:26, 27, ล.ม.

“บัด​นี้ นาย​ธรรมศาลา​คน​หนึ่ง ชื่อ​ญายโร เดิน​มา และ​เมื่อ​เขา​มอง​เห็น พระ​เยซู เขา​ก็​กราบ​ลง​ที่​พระ​บาท​ของ​พระองค์​และ​อ้อน​วอน​พระองค์​หลาย​ครั้ง​ว่า ‘ลูก​สาว​เล็ก ๆ ของ​ข้าพเจ้า​อาการ​สาหัส ขอ​พระองค์​ทรง​โปรด​เสด็จ​ไป​วาง​พระ​หัตถ์​บน​เขา.’”—มาระโก 5:22, 23, ล.ม.

“เมื่อ​พระองค์​เสด็จ​มา​ใกล้​ประตู​เมือง [นาอิน] นั้น นี่​แน่ะ มี​คน​หาม​ศพ​ชาย​คน​หนึ่ง​ออก​มา. เขา​เป็น​บุตร​คน​เดียว​ของ​มารดา. นอก​จาก​นั้น นาง​เป็น​ม่าย. ชาว​เมือง​ไม่​น้อย​มา​กับ​หญิง​นั้น. และ​เมื่อ พระองค์​ทรง​ทอด​พระ​เนตร​เห็น นาง พระองค์​ทรง​รู้สึก​สงสาร​นาง และ​พระองค์​ตรัส​กับ​นาง​ว่า ‘หยุด​ร้องไห้​เถิด.’”—ลูกา 7:12, 13, ล.ม.

“ดัง​นั้น ครั้น​มาเรีย​มา​ถึง​ที่​ซึ่ง​พระ​เยซู​ประทับ​อยู่​และ​มอง​เห็น พระองค์​เข้า​แล้ว จึง​ซบ​ลง​ที่​พระ​บาท​ของ​พระองค์​ทูล​ว่า ‘พระองค์​เจ้าข้า ถ้า​พระองค์​ได้​อยู่​ที่​นี่ น้อง​ชาย​ของ​ข้าพเจ้า​คง​ไม่​ตาย.’ เหตุ​ฉะนั้น เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​เห็น​เธอ​ร้องไห้ และ​พวก​ยิว​ที่​มา​กับ​เธอ​ก็​ร้องไห้ พระองค์​จึง​คร่ำ​ครวญ​ใน​พระทัย​และ​เป็น​ทุกข์.”—โยฮัน 11:32, 33, ล.ม.

ถ้า​คุณ​อยาก​อ่าน​กรณี​เช่น​นี้​เพิ่ม​เต็ม ขอ​ค้น​ดู​กิจการ 7:23-25; 9:39, 40; 21:32; 28:3-5; และ 1 โยฮัน 5:16. การ​ทำ​เช่น​นั้น​อาจ​แสดง​ให้​เห็น​มาก​ขึ้น​อีก​ว่า จะ​น่า​พอ​ใจ​สัก​เพียง​ไร​ที่​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เอา​จริง​เอา​จัง​จะ​ทำ​ให้​ความ​เข้าใจ​ของ​ตน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ราว​ที่​จารึก​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​นั้น​กว้างขวาง​และ​ลึกซึ้ง​ยิ่ง​ขึ้น.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์