ได้รับการช่วยให้รอดจาก “ชนชาติชั่ว”
“โอ คนในยุคที่ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่ว เราจะต้องอยู่กับเจ้าทั้งหลาย และอดทนเพราะพวกเจ้านานเท่าใด.”—ลูกา 9:41, ฉบับแปลใหม่.
1. (ก) สมัยของเราซึ่งเปี่ยมด้วยความยากลำบากแสดงถึงอะไร? (ข) คัมภีร์ไบเบิลกล่าวอย่างไรเกี่ยวกับผู้รอดชีวิต?
เราอยู่ในยุคภัยพิบัติ. แผ่นดินไหว, น้ำท่วม, การกันดารอาหาร, โรคภัย, การละเลยกฎหมาย, การลอบวางระเบิด, สงครามอันน่าสยดสยอง—ความทุกข์เดือดร้อนเหล่านี้และอีกมากมายโถมทับมนุษย์ในศตวรรษที่ 20 นี้. อย่างไรก็ตาม ความทุกข์ยากแสนเข็ญอย่างยิ่งส่อเค้าว่าจะมีมาในอนาคตอันใกล้นี้. สิ่งนั้นคืออะไร? นั่นคือ “ความทุกข์ลำบากใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีโลกจนกระทั่งบัดนี้ ใช่ และจะไม่เกิดขึ้นอีก.” (มัดธาย 24:21, ล.ม.) กระนั้น หลายคนท่ามกลางพวกเราอาจเฝ้ารอท่าอนาคตที่น่ายินดี! เพราะเหตุใด? เพราะพระคำของพระเจ้าพรรณนาถึง “ชนฝูงใหญ่ ซึ่งไม่มีใครนับจำนวนได้ จากชาติและตระกูลและชนชาติและภาษาทั้งปวง . . . ‘คนเหล่านี้คือผู้ที่ออกมาจากความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่. . . . พวกเขาจะไม่หิวอีกทั้งจะไม่กระหายอีก . . . และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของเขา.’”—วิวรณ์ 7:1, 9, 14-17, ล.ม.
2. ข้อต้น ๆ ของพระธรรมมัดธายบท 24, มาระโกบท 13, และลูกาบท 21 ได้สำเร็จเป็นจริงไปแล้วขั้นแรกในเชิงพยากรณ์อย่างไร?
2 บันทึกที่เขียนโดยการดลใจที่มัดธาย 24:3-22, มาระโก 13:3-20, และลูกา 21:7-24 เสนอคำพรรณนาเชิงพยากรณ์ของพระเยซูเกี่ยวด้วย “ช่วงอวสานแห่งระบบ.”a คำพยากรณ์นี้สำเร็จเป็นจริงเบื้องแรกกับระบบที่เสื่อมทรามของชาวยิวแห่งศตวรรษที่หนึ่งสากลศักราช ซึ่งลงเอยด้วย “ความทุกข์ลำบากใหญ่” สำหรับพวกยิวอย่างไม่เคยมีมาก่อน. โครงสร้างทางด้านศาสนาและการเมืองแห่งระบบยิวทั้งหมดซึ่งมีศูนย์รวมอยู่ที่พระวิหารในกรุงยะรูซาเลมได้ถูกทำลายย่อยยับ แล้วไม่ได้รับการกอบกู้อีก.
3. ทำไมจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราในทุกวันนี้จะเอาใจใส่ฟังคำพยากรณ์ของพระเยซู?
3 ตอนนี้ให้เราพิจารณาสภาพแวดล้อมซึ่งเกี่ยวข้องกับความสมจริงครั้งแรกแห่งคำพยากรณ์ของพระเยซู. การทำเช่นนี้จะช่วยเราเข้าใจความสำเร็จเป็นจริงคล้ายกันในสมัยปัจจุบันได้ดีขึ้น ทั้งจะชี้ให้เราเห็นว่าเป็นการเร่งด่วนเพียงไรที่พึงลงมือกระทำอย่างถูกต้องเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อจะรอดผ่านความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่สุดซึ่งจวนจะเกิดกับมนุษยชาติทั้งมวล.—โรม 10:9-13; 15:4; 1 โกรินโธ 10:11; 15:58.
“อวสาน”—เมื่อไร?
4, 5. (ก) เพราะเหตุใดชาวยิวศตวรรษแรกที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงสนใจคำพยากรณ์ในดานิเอล 9:24-27? (ข) คำพยากรณ์นี้ได้สำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
4 ประมาณปี 539 ก่อนสากลศักราช ดานิเอลผู้พยากรณ์ของพระเจ้าได้รับนิมิตบอกเหตุการณ์อันจะอุบัติขึ้นในระหว่าง “สัปดาห์” สุดท้ายของช่วงเวลา “เจ็ดสิบสัปดาห์” ที่กำหนดวันเป็นปี. (ดานิเอล 9:24-27) “สัปดาห์” เหล่านี้เริ่มปี 455 ก่อนสากลศักราช เมื่อกษัตริย์อะระธาสัศธาแห่งเปอร์เซียมีคำสั่งให้บูรณะกรุงยะรูซาเลม. “สัปดาห์” สุดท้ายเริ่มต้นเมื่อพระเยซูคริสต์พระมาซีฮาเสด็จมาปรากฏ คราวที่พระองค์ได้รับบัพติสมาและรับการเจิมในปีสากลศักราช 29.b ชาวยิวสมัยศตวรรษแรกที่เกรงกลัวพระเจ้าต่างก็ทราบกาลเวลาที่นับเป็นเรื่องเด่นในคำพยากรณ์ของดานิเอล. ยกตัวอย่าง เกี่ยวกับฝูงชนที่รวมกลุ่มกันฟังการประกาศสั่งสอนของโยฮันผู้ให้บัพติสมาปีสากลศักราช 29 ลูกา 3:15 บอกว่า “เมื่อคนทั้งหลายกำลังมุ่งคอยพระคริสต์อยู่, จึงได้ใคร่ครวญถึงโยฮันว่าตัวท่านเป็นพระคริสต์หรือมิใช่.’”
5 “สัปดาห์” ที่เจ็ดสิบนั้นจะเป็นระยะเจ็ดปีแห่งความโปรดปรานพิเศษซึ่งแผ่ให้แก่พวกยิว. “สัปดาห์” นั้นเริ่มต้นในปีสากลศักราชที่ 29 คลุมระยะเวลาตั้งแต่การรับบัพติสมาและงานสั่งสอนของพระเยซู, การสละชีวิตของพระองค์เป็นเครื่องบูชาตอน “กึ่งสัปดาห์” ในปีสากลศักราช 33, และอีก ‘กึ่งสัปดาห์’ จนถึงปีสากลศักราช 36. ระหว่างช่วง “สัปดาห์” นั้น โอกาสจะได้มาเป็นสาวกที่รับการเจิมของพระเยซูเปิดให้เฉพาะแก่ชาวยิวที่เกรงกลัวพระเจ้าและแก่คนที่เปลี่ยนมาเข้าศาสนายิว. ครั้นแล้ว ปีสากลศักราช 70 วันเวลาซึ่งไม่มีใครรู้ล่วงหน้า กองทัพโรมันภายใต้แม่ทัพไททุสทำลายล้างระบบยิวที่ออกหากเสียสิ้น.—ดานิเอล 9:26, 27, ล.ม.
6. (ก) “ความทุกข์ลำบาก” ที่เริ่มขึ้นในปีสากลศักราช 66 นั้นเป็นการทำลายล้างถึงขนาดไหน? (ข) ใครบ้างรอดชีวิต และเนื่องจากการกระทำที่เร่งด่วนอะไร?
6 ด้วยเหตุนั้น พวกปุโรหิตชาวยิว ซึ่งได้ทำความเสื่อมเสียแก่พระวิหารในกรุงยะรูซาเลมและได้รวมหัวกันคิดอุบายสังหารพระบุตรของพระเจ้า จึงถูกทำลายสิ้น. ประวัติบันทึกเกี่ยวด้วยเชื้อชาติและวงศ์ตระกูลก็ถูกทำลายไปด้วย. ต่อจากนั้น คนยิวจึงไม่มีหลักฐานจะยกขึ้นอ้างได้เพื่อการสืบทอดตำแหน่งปุโรหิตหรือกษัตริย์ตามกฎหมาย. แต่น่ายินดีจริง ๆ ยิวฝ่ายวิญญาณที่ได้รับการเจิมถูกแยกออกมาเป็นคณะปุโรหิตหลวงเพื่อจะ “ประกาศเผยแพร่พระบารมีคุณ” ของพระเจ้ายะโฮวา. (1 เปโตร 2:9, ล.ม.) เมื่อกองทัพโรมันล้อมกรุงยะรูซาเลมครั้งแรก และถึงกับขุดอุโมงค์ใต้บริเวณพระวิหารในปีสากลศักราช 66 พวกคริสเตียนได้ตระหนักว่ากองกำลังทหารนั้นเป็น “สิ่งน่าสะอิดสะเอียนซึ่งทำให้ร้างเปล่า ดังที่ดานิเอลผู้พยากรณ์ได้กล่าวไว้นั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์.” ด้วยการเชื่อฟังคำสั่งเชิงพยากรณ์ของพระเยซู พวกคริสเตียนที่อยู่ในกรุงยะรูซาเลมและมณฑลยูเดียจึงหนีไปยังแถบภูเขาเพื่อความปลอดภัย.—มัดธาย 24:15, 16; ลูกา 21:20, 21, ล.ม.
7, 8. คริสเตียนได้สังเกตดู “สัญลักษณ์” อะไร แต่พวกเขาไม่รู้อะไร?
7 คริสเตียนชาวยิวที่สัตย์ซื่อเหล่านั้นได้สังเกตเห็นความสำเร็จสมจริงแห่งคำพยากรณ์ของดานิเอล ทั้งยังเป็นประจักษ์พยานถึงสงครามอันน่าเศร้าสลด, การกันดารอาหาร, โรคระบาด, แผ่นดินไหว, และการละเลยกฎหมายซึ่งพระเยซูทรงพยากรณ์ว่าเป็นส่วนแห่ง “สัญลักษณ์แห่ง . . . ช่วงอวสานของระบบ.” (มัดธาย 24:3, ล.ม.) ทว่า พระเยซูตรัสแก่เขาหรือเปล่าว่าเมื่อไร พระยะโฮวาจะทรงสำเร็จโทษระบบนั้น? ไม่ได้ตรัส. สิ่งที่พระองค์พยากรณ์เกี่ยวกับจุดสุดยอดของการประทับด้วยขัตติยอำนาจที่จะมีในอนาคต ใช้ได้แน่นอนกับ “ความทุกข์ลำบากใหญ่” สมัยศตวรรษแรกเช่นกันที่ว่า “เกี่ยวด้วยวันนั้นและโมงนั้นไม่มีผู้ใดรู้ ถึงเทวทูตในสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว.”—มัดธาย 24:36, ล.ม.
8 จากคำพยากรณ์ของดานิเอล ชาวยิวคงได้คำนวณเวลาแล้วว่าการปรากฏตัว ของพระเยซูฐานะพระมาซีฮานั้นจะมีมาเมื่อไร. (ดานิเอล 9:25) กระนั้น พวกเขาไม่ได้รับการบอกกล่าวให้รู้ถึงวันเวลาแห่ง “ความทุกข์ลำบากใหญ่” ซึ่งในที่สุดก็ได้ทำลายล้างระบบยิวที่ออกหาก. เพียงแต่ภายหลัง ยะรูซาเลมและวิหารแห่งกรุงนั้นถึงกาลพินาศแล้วเท่านั้น เขาถึงได้รู้ว่าวันเวลานั้นคือปีสากลศักราช 70. อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้ถ้อยคำเชิงพยากรณ์ของพระเยซูที่ว่า “คนชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนสิ่งทั้งปวงนั้นจะบังเกิดขึ้น.” (มัดธาย 24:34) ดูเหมือนว่า ความหมายของ “คนชั่วอายุนี้” ในข้อนี้ต่างไปจากถ้อยคำในพระธรรมท่านผู้ประกาศ 1:4 ซึ่งพูดถึงชั่วอายุต่าง ๆ ที่ต่อเนื่องกันมาแล้วก็ผ่านไปตามห้วงเวลา.
“คนชั่วอายุนี้”—หมายถึงอะไร?
9. พจนานุกรมต่าง ๆ นิยามคำภาษากรีก เกเนอาʹ อย่างไร?
9 เมื่ออัครสาวกสี่คนที่นั่งอยู่กับพระเยซูบนภูเขามะกอกเทศได้ฟังพระองค์ตรัสพยากรณ์เรื่อง “ช่วงอวสานของระบบ” พวกเขาจะเข้าใจถ้อยคำ “คนชั่วอายุนี้” อย่างไร? คำ “ชั่วอายุ” ที่ปรากฏในพระธรรมกิตติคุณได้แปลมาจากคำภาษากรีก เกเนอาʹ ซึ่งพจนานุกรมปัจจุบันนิยามคำนี้ว่า “ตามตัวอักษรแล้วคือคนเหล่านั้นที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพชนร่วมกัน.” (พจนานุกรมกรีก-อังกฤษสำหรับคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ของวอลเตอร์ เบาเออร์) “ผู้ซึ่งถือกำเนิดมา, ครอบครัว . . . สมาชิกสืบต่อกันมาของเผ่าพันธุ์วงศ์วาน . . . หรือตามเชื้อชาติของผู้คน . . . หรือกลุ่มมวลชนร่วมสมัย, มัด. 24:34; มโก. 13:30; ลูกา 1:48; 21:32; ฟิลิป. 2:15, และโดยเฉพาะหมายถึงคนเชื้อสายยิวร่วมยุคสมัยเดียวกัน.” (พจนานุกรมอธิบายศัพท์คัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ของดับเบิลยู.อี. ไวน์) “ผู้ซึ่งถือกำเนิดมา, คนที่สืบเชื้อสายเดียวกัน, ครอบครัว; . . . กลุ่มมวลชนร่วมสมัย: มัด. 24:34; มโก. 13:30; ลูกา 1:48 . . . คำนี้ใช้โดยเฉพาะกับผู้คนเชื้อสายยิวที่อยู่สมัยเดียวกัน.”—พจนานุกรมกรีก-อังกฤษสำหรับคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ของเจ.เอช. เทเยอร์.
10. (ก) แหล่งอ้างอิงสองแหล่งได้ให้คำจำกัดความอะไรที่ตรงกันเมื่อกล่าวถึงมัดธาย 24:34? (ข) พจนานุกรมทางเทววิทยาและคัมภีร์ฉบับแปลบางฉบับสนับสนุนคำจำกัดความนี้อย่างไร?
10 ทั้งไวน์และเทเยอร์ต่างก็อ้างอิงมัดธาย 24:34 เมื่อนิยามคำ “คนชั่วอายุนี้” (เฮ เกเนอาʹ เฮาʹเท) ว่าเป็น “กลุ่มมวลชนร่วมสมัย.” พจนานุกรมเทววิทยาของคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ (1964 ภาษาอังกฤษ) สนับสนุนคำจำกัดความนี้โดยกล่าวว่า “การที่พระเยซูใช้วลี ‘คนชั่วอายุนี้’ แสดงว่า พระองค์ทรงมีความมุ่งหมายกว้างไกล: พระองค์มุ่งเป้าไปที่ผู้คนโดยรวม และทรงตระหนักถึงความเป็นหนึ่งเดียวของเขาในบาป.” จริง ๆ แล้ว “ความเป็นหนึ่งเดียวในบาป” ปรากฏชัดเจนท่ามกลางชนชาติยิวเมื่อพระเยซูอยู่บนแผ่นดินโลก เหมือนท่ามกลางระบบของโลกสมัยปัจจุบัน.c
11. (ก) แหล่งอ้างอิงแหล่งไหนซึ่งน่าจะชี้นำเราเป็นประการสำคัญในการวินิจฉัยว่าจะใช้คำ เฮ เกเนอาʹ เฮาʹเท อย่างไร? (ข) แหล่งอ้างอิงนั้นได้ใช้คำนี้อย่างไร?
11 แน่นอน คริสเตียนที่ศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้ชี้นำแนวคิดของตนโดยอาศัยวิธีที่ผู้เขียนกิตติคุณซึ่งได้รับการดลใจใช้คำกรีก เฮ เกเนอาʹ เฮาʹเท หรือ “คนชั่วอายุนี้” ในการบอกถึงคำตรัสของพระเยซูเป็นประการสำคัญ. คำนี้มีการใช้ในทางลบอย่างเสมอต้นเสมอปลาย. ฉะนั้น พระเยซูให้ฉายาผู้นำศาสนายิวว่า “พวกชาติงูร้าย” และตรัสต่อไปว่า “คนชั่วอายุนี้” จะต้องได้รับโทษในเกเฮนนา. (มัดธาย 23:33, 36) อย่างไรก็ดี การพิพากษานี้จำกัดเฉพาะพวกนักเทศน์นักบวชหน้าซื่อใจคดไหม? หามิได้. ในหลายโอกาสสาวกของพระเยซูได้ยินพระองค์ตรัสถึง “คนชั่วอายุนี้” โดยทรงใช้ถ้อยคำอย่างเดียวกันตลอดในความหมายที่ครอบคลุมกว้างกว่า. ในความหมายอะไร?
“ชนชาติชั่วนี้”
12. ขณะที่เหล่าสาวกฟังพระองค์อยู่ พระเยซูได้เชื่อม “ชนเหล่านั้น” เข้ากับ “คนชั่วอายุนี้” อย่างไร?
12 ปีสากลศักราช 31 ระหว่างการเผยแพร่ครั้งใหญ่ของพระเยซูแถบฆาลิลายและไม่นานภายหลังเทศกาลปัศคา เหล่าสาวกได้ยินพระองค์ตรัสต่อ “ชนเหล่านั้น” ดังนี้: “คนสมัยนี้ [คนชั่วอายุนี้] เราจะเปรียบเหมือนกับอะไร? เปรียบเหมือนเด็กนั่งที่กลางตลาดร้องแก่เพื่อนว่า, ‘เราได้เป่าปี่ให้เจ้า, และเจ้ามิได้เต้นรำ เราได้พิลาปร่ำไร, และเจ้ามิได้ตีอกร้องไห้.’ ด้วยว่าโยฮัน [ผู้ให้บัพติสมา] มาก็ไม่ได้กินหรือดื่ม, และเขาว่า, ‘มีผีสิงอยู่.’ ฝ่ายบุตรมนุษย์มาทั้งกินและดื่ม, เขาก็ว่า, ‘นี่เป็นคนกินเติบและดื่มน้ำองุ่นมาก, เป็นมิตรสหายกับคนเก็บภาษีและคนบาป.’” ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สบอารมณ์ “ชนเหล่านั้น” ที่ไม่มีหลักการ.—มัดธาย 11:7, 16-19.
13. ขณะอยู่พร้อมหน้ากับเหล่าสาวกของพระองค์ พระเยซูได้ระบุตัวผู้ใด และประณามว่าเป็น “ชนชาติชั่ว”?
13 ในเวลาต่อมาของปีสากลศักราช 31 ขณะที่พระเยซูพร้อมด้วยเหล่าสาวกเดินทางสั่งสอนทั่วมณฑลฆาลิลายเป็นรอบที่สอง “มีบางคนในพวกอาลักษณ์และพวกฟาริซาย” ได้มาขอพระเยซูสำแดงนิมิต. พระองค์ได้ตรัสแก่พวกที่ขอร้องและ “ชนเหล่านั้น” ที่มาฟังพระองค์ดังนี้: “คนชาติชั่วและคิดคดทรยศแสวงหาแต่นิมิต, และจะไม่โปรดให้นิมิตแก่เขา, เว้นไว้แต่นิมิตของโยนาศาสดาพยากรณ์. ด้วยว่าโยนาได้อยู่ในท้องปลาวาฬสามวันสามคืนฉันใด, บุตรมนุษย์จะอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืนฉันนั้น . . . ชนชาติชั่วนี้ก็จะเป็นอย่างนั้นแหละ.” (มัดธาย 12:38-46) เห็นได้ชัดว่า “ชนชาติชั่วนี้” หมายรวมทั้งผู้นำทางศาสนาและ “ชนเหล่านั้น” ซึ่งไม่เคยเข้าใจนิมิตหรือสัญลักษณ์ซึ่งได้ปรากฏเป็นจริงเมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์และได้รับการปลุกขึ้นมา.d
14. สาวกของพระเยซูได้ยินพระองค์กล่าวตำหนิพวกซาดูกายและฟาริซายว่าอย่างไร?
14 หลังจากเทศกาลปัศคาปีสากลศักราช 32 ขณะพระเยซูและเหล่าสาวกได้เข้าไปเขตเมืองมัฆดาลาในแถบฆาลิลาย พวกซาดูกายและฟาริซายได้ขอพระเยซูสำแดงนิมิตอีก. พระองค์ตรัสซ้ำแก่เขาว่า “คนชาติชั่วคิดคดทรยศแสวงหานิมิต แต่จะไม่โปรดให้, เว้นไว้แต่เครื่องหมายของโยนาศาสดาพยากรณ์. แล้วพระองค์ก็เสด็จไปจากเขา.” (มัดธาย 16:1-4) คนหน้าซื่อใจคดทางศาสนาเหล่านั้นพึงได้รับการตำหนิมากที่สุดจริง ๆ ในฐานะผู้นำ “ชนเหล่านั้น” ที่ไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งพระเยซูได้ทรงประณามว่าเป็น “คนชาติชั่วนี้.”
15. ไม่นานก่อนการจำแลงพระกาย และทันทีภายหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น พระเยซูและเหล่าสาวกได้เผชิญอย่างไรกับ ‘คนชั่วอายุนี้’?
15 ใกล้สิ้นเวลาการสั่งสอนของพระองค์แถบฆาลิลาย พระเยซูทรงเรียกฝูงชนและบรรดาสาวกให้มาหาพระองค์ และตรัสว่า “ผู้ใดมีความอายเพราะเราและถ้อยคำของเราในชั่วอายุนี้ซึ่งประกอบด้วยการชั่วคิดคดทรยศ, บุตรมนุษย์ก็จะมีความอายเพราะผู้นั้น.” (มาระโก 8:34, 38) ฉะนั้น ชัดแจ้งว่า พวกยิวจำนวนมากที่ไม่กลับใจสมัยนั้นก็เป็นคน “ชั่วอายุนี้ซึ่งประกอบด้วยการชั่วคิดคดทรยศ.” ไม่กี่วันต่อมา ภายหลังการจำแลงกายของพระเยซู พระเยซูพร้อมด้วยเหล่าสาวก “มาถึงหมู่ประชาชน” และมีชายคนหนึ่งทูลขอพระองค์รักษาบุตรชายของตน. พระเยซูตรัสดังนี้: “โอ คนในยุคที่ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่ว เราจะต้องอยู่กับเจ้าทั้งหลาย และอดทนเพราะพวกเจ้านานเท่าใด.”—มัดธาย 17:14-17; ลูกา 9:37-41, ฉบับแปลใหม่.
16. (ก) พระเยซูกล่าวตำหนิอะไรแก่ “ชนเหล่านั้น” ซ้ำอีกในแคว้นยูเดีย? (ข) โดยวิธีใด “คนสมัยนี้” ได้กระทำการชั่วที่สุดในบรรดาการชั่วทั้งปวง?
16 คงจะอยู่ที่แคว้นยูเดียหลังจากเทศกาลตั้งทับอาศัยปีสากลศักราช 32 “เมื่อคนทั้งปวงประชุมแน่น” ห้อมล้อมพระเยซู พระองค์ก็ได้ตำหนิพวกเขาซ้ำอีกว่า “คนสมัยนี้เป็นคนชั่ว, มีแต่แสวงหาหมายสำคัญ. และจะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขาเว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนา.” (ลูกา 11:29) ท้ายสุด เมื่อพวกผู้นำทางศาสนาได้นำพระเยซูมาเพื่อพิจารณาคดี ปีลาตเสนอจะปล่อยพระองค์. บันทึกบอกดังนี้: “ปุโรหิตใหญ่และผู้เฒ่าก็ยุยงฝูงคนให้ขอบาระบาไว้, ให้ประหารพระเยซูเสีย . . . ปีลาตจึงถามว่า, ‘ถ้าอย่างนั้น, เราจะทำอย่างไรแก่พระเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์?’ เขาพากันร้องว่า: ‘ให้ตรึงเสียที่กางเขนเถิด.’ เจ้าเมืองถามว่า, ‘ตรึงทำไม, เขาได้ทำผิดอะไรเล่า?’ แต่เขาทั้งหลายยิ่งร้องว่า, ‘ให้ตรึงเสียที่กางเขนเถิด.’” “คนสมัยนี้ . . . ชั่ว” นั่นเองเรียกร้องให้ประหารชีวิตพระองค์.—มัดธาย 27:20-25.
17. บางคนในหมู่ “คนชาติทุจริตนี้” ได้ตอบสนองการประกาศของเปโตรเมื่อวันเพนเตคอสเตอย่างไร?
17 “คนขาดความเชื่อมีทิฐิชั่ว” ซึ่งได้รับการยุยงส่งเสริมจากผู้นำทางศาสนา จึงมีบทบาทสำคัญทำให้พระเยซูคริสต์ต้องสิ้นพระชนม์. อีกห้าสิบวันต่อมา ณ วันเพนเตคอสเต ปีสากลศักราช 33 เหล่าสาวกได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วเริ่มพูดภาษาต่าง ๆ. ครั้นได้ยินเสียงดัง “ประชาชนจึงพากันมาประชุม” และอัครสาวกเปโตรได้แถลงต่อคนทั้งปวงคือ “ชาวยูดายและบรรดาคนที่อยู่ในกรุงยะรูซาเลม” กล่าวดังนี้: “พระเยซูนี้ . . . ท่านทั้งหลายได้ให้คนใจอำมหิตจับพระองค์ไปตรึงที่กางเขนและประหารเสีย.” บางคนในกลุ่มผู้ฟังแสดงท่าทีอย่างไร? พวกเขา “รู้สึกแปลบปลาบใจ.” ครั้นแล้ว เปโตรได้วิงวอนพวกเขาให้กลับใจ. ท่าน “จึงอ้างพยานด้วยคำอื่นหลายคำและได้เตือนสติเขาว่า, ‘จงเอาตัวรอดจากคนชาติทุจริตนี้เถิด.’” ในการตอบรับ ประมาณสามพันคนได้ ‘รับคำของท่านด้วยความเต็มใจและได้รับบัพติสมา.’—กิจการ 2:6, 14, 23, 37, 40, 41.
“คนชั่วอายุนี้” ถูกชี้ตัวแล้ว
18. พระเยซูทรงใช้ถ้อยคำที่ว่า “คนชั่วอายุนี้” พาดพิงถึงอะไรอย่างเสมอต้นเสมอปลาย?
18 ทีนี้ “ชั่วอายุ” ได้แก่อะไรซึ่งพระเยซูได้ตรัสถึงบ่อย ๆ ขณะอยู่พร้อมหน้ากับเหล่าสาวก? พวกเขาเข้าใจว่าเมื่อพระองค์ตรัสว่า “คนชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนสิ่งทั้งปวงนั้นจะบังเกิดขึ้น” พระองค์หมายถึงอะไร? เป็นที่แน่นอนว่า พระเยซูหาได้เปลี่ยนวิธีที่พระองค์ใช้วลี “คนชั่วอายุนี้” ซึ่งพระองค์ได้นำไปใช้อย่างเสมอต้นเสมอปลายกับกลุ่มมวลชนร่วมสมัยกับ “คนนำทางตาบอด” ซึ่งประกอบกันเป็นชนชาติยิว. (มัดธาย 15:14, ล.ม.) “คนชั่วอายุนี้” ประสบความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นตามที่พระเยซูทรงพยากรณ์ ครั้นแล้วก็ล่วงลับไปเมื่อกรุงยะรูซาเลมประสบ “ความทุกข์ลำบากใหญ่” ที่ไม่มีอะไรเทียบได้.—มัดธาย 24:21, 34.
19. “ฟ้าและดิน” อันเกี่ยวข้องกับระบบของพวกยิวได้ล่วงไปเมื่อไรและอย่างไร?
19 ในศตวรรษแรก พระยะโฮวาได้ทรงพิพากษาชนชาติยิว. ผู้ที่กลับใจ ซึ่งหันมาสำแดงความเชื่อในการจัดเตรียมของพระยะโฮวาอันเปี่ยมด้วยเมตตาผ่านทางพระคริสต์ ได้รับการช่วยให้รอดพ้นผ่าน “ความทุกข์ลำบากใหญ่” นั้น. จริงตามคำตรัสของพระเยซู ทุกสิ่งที่พยากรณ์ไว้ได้อุบัติขึ้น ครั้นแล้ว “ฟ้าและดิน” แห่งระบบยิว—ทั้งชาติพร้อมด้วยพวกผู้นำศาสนาและสังคมชั่ว—ได้ล่วงพ้นไป. พระยะโฮวาได้ทรงลงโทษตามคำพิพากษา!—มัดธาย 24:35; เทียบกับ 2 เปโตร 3:7.
20. คำเตือนสติอะไรที่ทันกาลซึ่งนำมาใช้กับคริสเตียนทุกคนอย่างเร่งด่วน?
20 ชาวยิวที่ใส่ใจต่อคำตรัสเชิงพยากรณ์ของพระเยซูต่างก็ตระหนักว่า ความรอดของตนหาได้ขึ้นอยู่กับความพยายามที่จะคำนวณระยะเวลาของ “ชั่วอายุ” หนึ่งหรือกับการรู้ “เวลาและกาลกำหนด” แต่อยู่ที่การแยกตัวออกจากคนชาติชั่วร่วมสมัย และกระทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้าด้วยความกระตือรือร้น. แม้คำตรัสสุดท้ายในการพยากรณ์ของพระเยซูจะหมายถึงความสำเร็จสมจริงครั้งใหญ่ในสมัยของเรา ถึงกระนั้น คริสเตียนชาวยิวศตวรรษแรกก็เช่นกันต้องเชื่อคำเตือนสติที่ว่า “จงตื่นตัว เฝ้าวิงวอนอยู่ตลอดเวลา เพื่อเจ้าจะประสบผลสำเร็จในการหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ซึ่งถูกกำหนดไว้ว่าจะเกิดขึ้น และในการยืนอยู่ต่อหน้าบุตรมนุษย์.”—ลูกา 21:32-36, ล.ม.; กิจการ 1:6-8.
21. ในอนาคตอันใกล้นี้เราอาจคาดหมายเหตุการณ์อะไรอย่างฉับพลัน?
21 เวลานี้ “วันใหญ่แห่งพระยะโฮวาใกล้จวนเข้าแลเร็วรีบเข้ามาแล้ว.” (ซะฟันยา 1:14-18; ยะซายา 13:9, 13) อย่างฉับพลันเมื่อ “วันนั้นโมงนั้น” ที่พระยะโฮวาเองทรงกำหนดไว้มาถึง พระพิโรธของพระองค์จะถูกปล่อยเหนือศาสนา, การเมือง, และการพาณิชย์ของโลก รวมทั้งผู้คนร่วมสมัยที่ดื้อรั้นซึ่งประกอบกันเป็น “คนชาติชั่วและคิดคดทรยศ.” (มัดธาย 12:39; 24:36; วิวรณ์ 7:1-3, 9, 14) คุณอาจรับการช่วยให้รอดพ้น “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” ได้อย่างไร? บทความถัดไปจะให้คำตอบและบอกถึงเรื่องความหวังอันดีเยี่ยมเกี่ยวกับอนาคต.
[เชิงอรรถ]
a สำหรับรายละเอียดของคำพยากรณ์นี้ โปรดดูแผนภูมิหน้า 14, 15 ของวารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 กุมภาพันธ์ 1994.
b เพื่อจะได้ข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่อง “สัปดาห์” ที่นับวันเป็นปี โปรดดูจากหนังสือคัมภีร์ไบเบิล—คำของพระเจ้าหรือของมนุษย์? (ภาษาอังกฤษ) จัดพิมพ์โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่ง นิวยอร์ก.
c คัมภีร์บางฉบับแปลคำ เฮ เกเนอาʹ เฮาʹเท ที่มัดธาย 24:34 ดังนี้: “ผู้คนเหล่านี้” (คัมภีร์ไบเบิลศักดิ์สิทธิ์ในภาษาสมัยปัจจุบัน, [1976 ภาษาอังกฤษ] โดยดับเบิลยู.เอฟ. เบก) “ชนชาตินี้” (คัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่—การแปลที่ละเอียด [1961 ภาษาอังกฤษ] โดย เค.เอส. วูเอสต์) “ประชาชนพวกนี้” (คัมภีร์พันธสัญญาใหม่ของยิว [1979 ภาษาอังกฤษ] โดยดี.เอช. สเตอร์น).
d “ชนเหล่านั้น” ที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่ควรนำมาปะปนกับพวก อัมฮาอาʹเร็ต หรือ “คนบ้านนอก” ซึ่งพวกผู้นำศาสนายโสไม่ยอมคบหาด้วย แต่พระเยซู “ทรงพระกรุณา” พวกเขา.—มัดธาย 9:36; โยฮัน 7:49.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ เราเรียนรู้อะไรจากความสำเร็จสมจริงของพระธรรมดานิเอล 9:24-27?
▫ พจนานุกรมปัจจุบันหลายฉบับนิยามคำ “คนชั่วอายุนี้” อย่างไร ตามที่ใช้ในคัมภีร์ไบเบิล?
▫ พระเยซูทรงใช้ถ้อยคำ “ชั่วอายุ” เสมอต้นเสมอปลายอย่างไร?
▫ มัดธาย 24:34, 35 สำเร็จสมจริงอย่างไรในศตวรรษแรก?
[รูปภาพหน้า 12]
พระเยซูทรงเปรียบเทียบ “คนชั่วอายุนี้”กับกลุ่มเด็กที่ดื้อดึง
[รูปภาพหน้า 15]
เฉพาะแต่พระยะโฮวาทรงทราบล่วงหน้าเวลาแห่งการสำเร็จโทษต่อการพิพากษาระบบชั่วของชาติยิว