ดูผู้ภักดีซิ!
“พระยะโฮวา ผู้ใดเล่าจะไม่เกรงกลัวพระองค์อย่างแท้จริง และไม่ถวายสง่าราศีแด่พระนามพระองค์ เพราะพระองค์ผู้เดียวทรงภักดี?”—วิวรณ์ 15:4, ล.ม.
1. เจ. เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ดได้ให้การอย่างไรถึงเรื่องความภักดีของซี. ที. รัสเซลล์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว?
โจเซฟ เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกสมาคมว็อชเทาเวอร์ต่อจากซี. ที. รัสเซลล์เมื่อปี 1917 ได้ขึ้นต้นคำบรรยายของท่าน ณ งานศพบราเดอร์รัสเซลล์โดยกล่าวว่า “ชาลส์ เทซ รัสเซลล์ภักดีต่อพระเจ้า, ภักดีต่อพระเยซูคริสต์, ภักดีต่อราชอาณาจักรมาซีฮา. ท่านภักดีจนถึงแก่นแท้—ภักดีกระทั่งสิ้นชีวิต.” นี่แหละคือการยกย่องที่ดีงามอย่างแท้จริงอันพึงให้แก่ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้ายะโฮวา. ไม่มีคำยกย่องสำหรับปัจเจกบุคคลใด ๆ จะยิ่งใหญ่กว่าคำพูดที่ว่า เขาผ่านการทดสอบความภักดี เขาได้แสดงความภักดี—ภักดีถึงที่สุด.
2, 3. (ก) เหตุใดความภักดีจึงก่อให้เกิดการท้าทาย? (ข) ใครด้วยที่วางแผนต่อสู้คริสเตียนแท้ที่บากบั่นแสดงความภักดี?
2 ความภักดีก่อให้เกิดการท้าทาย. เพราะเหตุใด? เนื่องจากความภักดีขัดกันกับการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว. ในบรรดาผู้ไม่ภักดีต่อพระเจ้าคงไม่มีใครเกินนักเทศน์นักบวชของคริสต์ศาสนจักร. นอกจากนั้น ความไม่ภักดีของคู่สมรสสมัยนี้ยิ่งระบาดหนักอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน. การเล่นชู้เป็นเรื่องธรรมดา. ความไม่ภักดีแพร่หลายในโลกธุรกิจเช่นกัน. เกี่ยวกับเรื่องนี้ บางคนบอกว่า “ผู้จัดการและผู้มีวิชาชีพหลายคน . . . เชื่อว่า พวกที่ภักดีต่อบริษัทจะมีก็แต่คนประเภทหลงกลและถูกหลอกง่าย.” คนที่ “ภักดีมากเกินไป” มักจะถูกดูหมิ่น. “ความภักดีเบื้องแรกและอย่างเดียวเท่านั้น คุณควรให้แก่ตัวเอง” เป็นคำพูดของประธานบริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการและจัดหาผู้บริหารให้บริษัทอื่น. อย่างไรก็ตาม การพูดถึงความภักดีต่อตัวเองก็เท่ากับเป็นการบิดเบือนความหมายของคำนี้ นี่จึงทำให้เรานึกถึงข้อความในพระธรรมมีคา 7:2 (ล.ม.) ที่ว่า “ผู้ภักดีสูญหายไปจากแผ่นดินโลก.”
3 เมื่อพูดถึงขอบข่ายที่มีความสำคัญมากกว่า ซาตานกับทั้งบริวารได้ต่อสู้พวกเรา หมายมั่นจะทำให้เราไม่ภักดีต่อพระเจ้า. ด้วยเหตุผลนี้จึงมีคำเตือนให้แก่คริสเตียนที่เอเฟโซ 6:12 (ล.ม.) ว่า “เรามีการปล้ำสู้ ไม่ใช่กับเลือดและเนื้อ แต่ต่อสู้กับการปกครอง ต่อสู้กับผู้มีอำนาจ ต่อสู้กับผู้ครอบครองโลกแห่งความมืดนี้ ต่อสู้กับอำนาจวิญญาณชั่วในสวรรค์สถาน.” ใช่แล้ว เราจำต้องเชื่อฟังคำเตือนข้อนี้: “จงรักษาสติของท่านไว้ จงระวังระไวให้ดี. พญามาร ปรปักษ์ของท่านทั้งหลาย เที่ยวเดินไปเหมือนสิงโต แผดเสียงร้อง เสาะหา คนหนึ่งคนใดที่มัน จะขย้ำกลืนเสีย.”—1 เปโตร 5:8, ล.ม.
4. ความโน้มเอียงอะไรบ้างทำให้ยากแก่การแสดงความภักดี?
4 อนึ่ง ปัจจัยที่ทำให้ความภักดีเป็นเรื่องยากคือแนวโน้มในทางเห็นแก่ตัวที่เราได้รับสืบทอดมาจากบิดามารดา ดังกล่าวไว้ที่เยเนซิศ 8:21 (ล.ม.) ดังนี้: “ความเอนเอียงแห่งหัวใจของมนุษย์นั้นชั่ว”—และเห็นแก่ตัว—“ตั้งแต่เด็กมา.” พวกเราทุกคนมีปัญหาซึ่งอัครสาวกเปาโลก็ยอมรับว่าท่านมี: “การดีนั้นซึ่งข้าพเจ้าปรารถนาทำข้าพเจ้าไม่ได้กระทำ, แต่การชั่วซึ่งข้าพเจ้ามิได้ปรารถนาทำข้าพเจ้ายังทำอยู่.”—โรม 7:19.
ความภักดีมีความสำคัญเป็นพิเศษ
5, 6. อาจพูดได้อย่างไรเกี่ยวกับความหมายของความภักดี และมีการนิยามคำนี้อย่างไร?
5 “ความภักดี” เป็นคำพิเศษเฉพาะ. ด้วยเหตุนี้ หนังสือ การหยั่งเห็นเข้าใจพระคัมภีร์ (ภาษาอังกฤษ) ชี้แจงดังนี้: “ดูเหมือนว่าไม่มีคำภาษาอังกฤษที่ให้ความหมายครบถ้วนสำหรับคำภาษาฮีบรูและกรีกนี้ แต่คำ ‘ความภักดี’ ซึ่งรวมเอาแนวคิดเกี่ยวกับความเลื่อมใสและความซื่อสัตย์ด้วยนั้น เมื่อใช้เกี่ยวข้องกับพระเจ้าและงานรับใช้พระองค์ จึงพอจะให้ความหมายที่ใกล้เคียง.”a เกี่ยวกับคำ “ความภักดี” วารสารหอสังเกตการณ์ เคยชี้แจงว่า “ความซื่อสัตย์, หน้าที่, ความรัก, พันธะ, ความจงรักภักดี. คำเหล่านี้มีอะไรร่วมกัน? คำเหล่านี้คือลักษณะต่าง ๆ ของความภักดี.” ใช่แล้ว มีคุณลักษณะที่ดีหลากหลายซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแต่แง่มุมต่าง ๆ ของความภักดี จริง ๆ แล้ว น่าสังเกตว่า ความภักดีกับความชอบธรรมมักจะเกี่ยวโยงกันอยู่บ่อยครั้งในพระคัมภีร์.
6 นอกจากนี้ คำจำกัดความต่อไปนี้ก็เป็นประโยชน์ด้วย: ‘ความภักดีอาจบ่งชี้ถึงความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีที่ต่อเนื่อง วางใจได้ ไม่สั่นคลอนและต้านทานการล่อใจอย่างมั่นคง.’ ‘ความภักดีบอกเป็นนัยถึงการซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญา หรือจงรักภักดีอยู่เรื่อยไปต่อสถาบันหรือหลักการซึ่งคนเรารู้สึกว่าตนเองมีพันธะผูกพันทางศีลธรรมอยู่ด้วย คำศัพท์นี้ชวนให้นึกถึงไม่เฉพาะการยึดติดเท่านั้น แต่การต้านทานการล่อใจและการชักนำซึ่งจะพาออกไปจากการยึดติดกับสิ่งนั้น.’ ดังนั้น บุคคลที่ยังคงซื่อสัตย์อยู่เสมอ ทั้งในยามที่มีการทดลอง, การต่อต้านขัดขวาง, หรือการข่มเหงจึงสมควรเรียกได้ว่า “ภักดี.”
7. อาจจำแนกความแตกต่างระหว่างความภักดีกับความซื่อสัตย์ได้อย่างไร?
7 อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับความภักดี คงจะดีที่จะยกตัวอย่างซึ่งชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างความภักดีและความซื่อสัตย์. ทางตะวันตกของประเทศสหรัฐมีพุน้ำร้อนซึ่งน้ำพุ่งขึ้นสูงเป็นพัก ๆ ทุก ๆ ชั่วโมงโดยประมาณ. เป็นอย่างนี้สม่ำเสมอจนมีชื่อเรียกว่า โอลด์เฟทฟูล (เพื่อนซื่อสัตย์แต่ดึกดำบรรพ์). คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ดวงจันทร์ว่าซื่อสัตย์ เพราะเชื่อถือได้. บทเพลงสรรเสริญ 89:37 กล่าวถึงดวงจันทร์เสมือน “พยาน [“สัตย์ซื่อ”, ล.ม.] ในท้องฟ้า.” มีการกล่าวไว้ว่าคำตรัสของพระเจ้าเป็นคำซื่อสัตย์. วิวรณ์ 21:5 (ล.ม.) กล่าวดังนี้: “พระองค์ผู้ประทับบนราชบัลลังก์นั้นตรัสว่า ‘นี่แน่ะ! เรากำลังทำสิ่งทั้งปวงให้ใหม่.’ พระองค์ตรัสด้วยว่า ‘จงเขียนไว้เถิด เพราะถ้อยคำเหล่านี้สัตย์ซื่อและสัตย์จริง.’” ตัวอย่างเหล่านี้ทั้งหมดสัตย์ซื่อ, วางใจได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถก่อความผูกพันหรือคุณลักษณะทางศีลธรรมแต่อย่างใดดังเช่นความภักดี.
พระยะโฮวาผู้ทรงภักดีเป็นเลิศ
8. พยานหลักฐานอะไรในพระคัมภีร์บ่งชี้ถึงตัวอย่างเยี่ยมยอดเกี่ยวกับความภักดี?
8 โดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ พระเจ้ายะโฮวาทรงเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมทางด้านความภักดี. พระยะโฮวาทรงภักดีต่อชาติพันธุ์มนุษย์ ถึงกับทรงเตรียมการผ่านทางพระบุตรของพระองค์เพื่อมนุษย์จะได้รับชีวิตนิรันดร์. (โยฮัน 3:16) เราอ่านที่ยิระมะยา 3:12 ดังนี้: “ดูกรพวกยิศราเอล, ที่มักถอยหลังนั้น, จงกลับเสียเถิด, พระยะโฮวาได้ตรัส, และเราจะไม่กระทำให้ความพิโรธของเราตกเหนือพวกเจ้า, เพราะเราประกอบด้วยความเมตตา [“ภักดี,” ล.ม.].” พยานหลักฐานมากขึ้นอีกว่าด้วยความภักดีของพระยะโฮวาก็คือคำจารึกที่พระธรรมวิวรณ์ 16:5 (ล.ม.) ที่ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ผู้เป็นอยู่เดี๋ยวนี้และผู้เป็นอยู่ในกาลก่อน ผู้ภักดี พระองค์ทรงความชอบธรรม.” แล้วก็อีกครั้งหนึ่ง บทเพลงสรรเสริญ 145:17 (ล.ม.) บอกเราดังนี้: “พระยะโฮวาทรงชอบธรรมในทางทั้งปวงของพระองค์ และภักดีในกิจการทั้งสิ้นของพระองค์.” ตามจริงแล้ว พระยะโฮวาทรงโดดเด่นยิ่งในความภักดีของพระองค์ วิวรณ์ 15:4 (ล.ม.) จึงแถลงว่า “พระยะโฮวา ผู้ใดเล่าจะไม่เกรงกลัวพระองค์อย่างแท้จริง และไม่เทิดทูนแด่พระนามพระองค์ เพราะพระองค์ผู้เดียวทรงภักดี?” พระเจ้ายะโฮวาทรงภักดีเป็นเลิศ.
9, 10. พระยะโฮวาทรงมีประวัติบันทึกอะไรเกี่ยวกับความภักดีเมื่อพระองค์ดำเนินการกับชาติยิศราเอล?
9 ประวัติชาติยิศราเอลโดยเฉพาะบรรจุหลักฐานมากมายแสดงถึงความภักดีของพระยะโฮวาต่อไพร่พลของพระองค์. สมัยผู้วินิจฉัย ชาติยิศราเอลได้พากันถอยห่างจากการนมัสการแท้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พระยะโฮวาทรงมีความโทมนัสครั้งแล้วครั้งเล่าและได้ช่วยพวกเขา. (วินิจฉัย 2:15-22) ตลอดเวลาร่วมห้าร้อยปีที่ชาติยิศราเอลมีกษัตริย์ปกครอง พระยะโฮวาทรงสำแดงความภักดีของพระองค์ต่อชาตินั้น.
10 เพราะความภักดีของพระยะโฮวานั่นเอง พระองค์จึงได้ทรงแสดงความอดกลั้นทนนานต่อไพร่พลของพระองค์ ดังบันทึกใน 2 โครนิกา 36:15, 16 (ล.ม.) แจ้งว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกเขาทรงคำเตือนต่อต้านเขาเรื่อยมาโดยทางทูตของพระองค์ ส่งครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ทรงรู้สึกสงสารต่อไพร่พลของพระองค์และต่อที่สถิตของพระองค์. แต่เขาทั้งหลายเยาะเย้ยทูตของพระเจ้าเที่ยงแท้อยู่เนือง ๆ และหมิ่นคำโอวาทของพระองค์และล้อเลียนผู้พยากรณ์ของพระองค์ จนกระทั่งพระพิโรธของพระยะโฮวาพลุ่งขึ้นต่อไพร่พลของพระองค์ จนกระทั่งไม่มีทางรักษา.”
11. ความภักดีของพระยะโฮวาให้ความมั่นใจหรือการชูใจอย่างไรสำหรับพวกเรา?
11 เนื่องจากพระยะโฮวาทรงภักดีเป็นเลิศ อัครสาวกเปาโลจึงสามารถเขียนได้ ดังบันทึกในโรม 8:38, 39 แจ้งว่า “ข้าพเจ้าเชื่อมั่นคงว่า, แม้ความตาย, หรือชีวิต, หรือทูตสวรรค์, หรือผู้มีบรรดาศักดิ์, หรือสิ่งซึ่งมีอยู่เดี๋ยวนี้, หรือสิ่งซึ่งจะเป็นมาภายหน้า, หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย, หรือความสูง, หรือความลึก, หรือสิ่งใด ๆ อื่นที่ทรงสร้างแล้ว, จะไม่อาจกระทำให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลาย.” ใช่แล้ว พระยะโฮวาทรงให้ความมั่นใจแก่พวกเราว่า “เราจะไม่ละท่านไว้เลยและจะไม่ทิ้งท่านเสียเลย.” (เฮ็บราย 13:5, ล.ม.) เป็นการปลอบประโลมอย่างแท้จริงที่รู้ว่าพระเจ้ายะโฮวาทรงภักดีเสมอ!
พระเยซูคริสต์พระบุตรผู้ภักดี
12, 13. เรามีพยานหลักฐานอะไรว่าด้วยความภักดีของพระบุตรพระเจ้า?
12 ผู้เลียนแบบพระยะโฮวาอย่างครบถ้วนไม่มีที่ตำหนิเมื่อเผชิญการท้าทายความภักดีคือพระเยซูคริสต์. อัครสาวกเปโตรสามารถยกบทเพลงสรรเสริญ 16:10 มากล่าวได้อย่างเหมาะเจาะและนำมาใช้กับพระเยซูคริสต์ดังปรากฏในกิจการ 2:27 ดังนี้: “พระองค์จะไม่ทิ้งจิตต์วิญญาณข้าพเจ้าไว้ในเมืองผี, ทั้งจะไม่ทรงให้องค์บริสุทธิ์ [“ผู้ภักดี,” ล.ม.] ของพระองค์เปื่อยเน่าไป.” เหมาะสมอย่างยิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้ฉายาว่า “ผู้ภักดี.” พระองค์ทรงแสดงความภักดีเต็มที่ต่อพระบิดาและต่อราชอาณาจักรที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้. แรกสุด ซาตานพยายามทำลายความซื่อสัตย์มั่นคงของพระเยซูโดยวิธีล่อใจ ชักชวนให้เห็นแก่ประโยชน์อันเห็นแก่ตัว. ครั้นไม่บรรลุผล พญามารหันไปใช้วิธีกดขี่ข่มเหง ขั้นสุดท้าย ทำให้พระเยซูสิ้นพระชนม์บนหลักประหาร. ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่พระเยซูได้หันเหความภักดีไปจากพระเจ้ายะโฮวาพระบิดาของพระองค์ทางภาคสวรรค์.—มัดธาย 4:1-11.
13 พระเยซูคริสต์ภักดีต่อเหล่าสาวกของพระองค์ด้วยการรักษาคำสัญญาดังบันทึกที่มัดธาย 28:20 (ล.ม.) ว่า “นี่แน่ะ! เราอยู่กับเจ้าทั้งหลายตลอดไปจนกระทั่งช่วงอวสานแห่งระบบนี้.” เพื่อให้เป็นตามคำสัญญาข้อนี้ พระองค์ได้ทรงสำแดงความเป็นผู้นำดูแลประชาคมอย่างภักดีตลอดมาตั้งแต่วันเพนเตคอสเตปีสากลศักราช 33 จนกระทั่งปัจจุบัน.
มนุษย์ไม่สมบูรณ์ผู้ซึ่งแสดงความภักดี
14. โยบได้วางตัวอย่างความภักดีไว้อย่างไร?
14 ทีนี้จะว่าอย่างไรเกี่ยวกับมนุษย์ไม่สมบูรณ์? พวกเขาจะภักดีต่อพระเจ้าได้ไหม? เรามีกรณีที่โดดเด่นของโยบ. ในกรณีของท่าน ซาตานได้ตั้งประเด็นขึ้นมาอย่างชัดแจ้ง. โยบภักดีต่อพระเจ้ายะโฮวาไหม หรือว่าท่านปฏิบัติพระเจ้าเพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว? ซาตานอวดอ้างว่าตนสามารถทำให้โยบเลิกนับถือพระยะโฮวาได้โดยก่อความทุกข์ลำบากแก่โยบ. ครั้นโยบสูญเสียสมบัติจนสิ้นเนื้อประดาตัว ลูกของท่านเสียชีวิตทุกคน กระทั่งสุขภาพร่างกายของท่านก็ทรุดโทรม ภรรยาของโยบพูดเร่งเร้าท่านให้ “แช่งด่าพระเจ้า; ถึงจะตายก็ตายเถิด.” แต่โยบยังคงภักดี เพราะท่านกล่าวแก่นางว่า “‘เจ้าพูดอย่างหญิงที่โฉดชั่ว. อะไรนะ, เราก็เคยได้รับสิ่งที่ดีจากพระหัตถ์พระเจ้า; แล้วสิ่งที่ไม่ดีจะไม่ยอมรับบ้างเจียวหรือ?’ ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ท่านโยบหาได้กระทำผิดด้วยริมฝีปากของท่านไม่.” (โยบ 2:9, 10) อันที่จริง โยบพูดกับผู้ซึ่งอ้างว่าให้การชูใจแก่ท่านดังนี้: “แม้ว่าพระองค์ [พระเจ้า] ทรงสังหารข้าฯเสีย, ข้าฯก็ยังไว้วางใจในพระองค์.” (โยบ 13:15) ไม่แปลกเลยที่โยบได้รับความโปรดปรานจากพระยะโฮวา! ด้วยเหตุนี้ พระยะโฮวาทรงตรัสแก่อะลีฟาศชาวเธมานว่า “โทโสของเราได้พลุ่งขึ้นต่อเจ้าแล้ว, และต่อมิตรสหายสองคนของเจ้าด้วย, เพราะเจ้าได้พูดอะไร ๆ ถึงเรานั้นไม่เป็นความจริง ดังโยบผู้ทาสของเราได้กล่าวแล้ว.”—โยบ 42:7, 10-16; ยาโกโบ 5:11.
15. เรามีหลักฐานอะไรในพระคัมภีร์เกี่ยวด้วยความภักดีของผู้รับใช้หลายคนของพระเจ้ายะโฮวา?
15 บรรดาชายหญิงทุกคนที่สำแดงความเชื่อตามที่มีพรรณนาในพระธรรมเฮ็บรายบท 11 พูดได้ว่าพวกเขาเป็นผู้ภักดี. พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นคนซื่อสัตย์ แต่ยังภักดีด้วยในยามที่เผชิญความกดดัน. ดังนั้น เราจึงอ่านเรื่องของคนเหล่านั้นซึ่ง “อาศัยความเชื่อ . . . ได้ปิดปากสิงโต, ได้ดับไฟอันไหม้รุนแรงมาก, ได้พ้นจากคมดาบ, . . . บางคนถูกทดลองโดยคำเยาะเย้ยและถูกเฆี่ยน, แล้วก็ถูกจำและขังไว้ในคุกด้วย. และบางคนถูกหินขว้าง, บางคนถูกเลื่อยเป็นท่อน ๆ, บางคนถูกทดลองต่าง ๆ, บางคนถูกฆ่าด้วยคมดาบ บางคนเที่ยวสัญจรไปนุ่งห่มหนังแกะหนังแพะ อดอยาก, ทนทุกขเวทนาและทนการเคี่ยวเข็ญ.”—เฮ็บราย 11:33-37.
16. อัครสาวกเปาโลได้ให้ตัวอย่างอะไรเกี่ยวกับความภักดี?
16 อนึ่ง คัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกยังให้ตัวอย่างที่เด่นชัดของอัครสาวกเปาโลไว้ด้วย. ท่านสามารถพูดถึงคริสเตียนชาวเธซะโลนิเกได้อย่างเหมาะเจาะเกี่ยวกับงานรับใช้ของท่านว่า “ท่านทั้งหลายเป็นพยานฝ่ายเรา, และพระเจ้าก็ทรงเป็นพยานด้วย, ว่าเราได้ประพฤติตามอย่างที่บริสุทธิ์ [“อย่างภักดี,” ล.ม.] และสุจริตและปราศจากตำหนิท่ามกลางท่านทั้งหลายที่เชื่อ.” (1 เธซะโลนิเก 2:10) เรามีหลักฐานยืนยันอีกเกี่ยวกับความภักดีของเปาโล ในถ้อยคำของท่านที่บันทึกไว้ที่ 2 โกรินโธ 6:4, 5 ซึ่งเราอ่านว่า “ในการทั้งปวงเราได้กระทำตัวให้เป็นที่ชอบ, เหมือนคนรับใช้ของพระเจ้า, โดยความเพียรอดทนเป็นอันมาก ในความทุกข์, ในความขัดสน, ในเหตุวิบัติ, ในการถูกเฆี่ยน, ในการที่ถูกจำคุก, ในการวุ่นวาย, ในการงานต่าง ๆ, ในการอดหลับอดนอน, ในการอดอาหาร.” ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานแสดงว่าอัครสาวกเปาโลมีความนับถือตนเองเพราะท่านเป็นผู้ภักดี.
บรรดาผู้ภักดีสมัยปัจจุบัน
17. คำกล่าวอะไรของเจ. เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ดซึ่งแสดงความแน่วแน่ของท่านที่จะเป็นผู้ภักดี?
17 พอมาถึงสมัยปัจจุบัน เรามีตัวอย่างที่ดีซึ่งพิจารณากันมาแล้วตอนเริ่มเรื่อง. จงสังเกตสิ่งที่แถลงไว้ในหนังสือ ความปลอดภัยทั่วโลกภายใต้ “องค์สันติราช” (ภาษาอังกฤษ) ที่หน้า 146 ใต้หัวข้อย่อย “ความภักดีในช่วงถูกคุมขัง.” มีข้อความเพิ่มเติมดังนี้: “การแสดงความภักดีต่อองค์การของพระยะโฮวาในช่วงที่ถูกคุมขัง นายกสมาคมว็อชเทาเวอร์ โจเซฟ เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด ได้เขียนข้อความต่อไปนี้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1918 ว่า ‘เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ยอมอะลุ้มอล่วยกับบาบูโลนใหญ่ แต่ได้พยายามรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าด้วยความซื่อสัตย์ ข้าพเจ้าติดคุกซึ่งข้าพเจ้าก็รู้สึกขอบคุณ. . . . ข้าพเจ้าพึงพอใจจะอยู่ในคุกและได้รับความโปรดปรานอันเปี่ยมด้วยความโสมนัสของพระเจ้า ยิ่งเสียกว่าการจะประนีประนอมหรืออ่อนข้อให้แก่สัตว์ร้ายแล้วถูกปล่อยเป็นอิสระ และได้รับคำสรรเสริญจากคนทั้งโลก.’”
18, 19. เรามีตัวอย่างอะไรบ้างในด้านความภักดีที่ได้มาตรฐานสูงในปัจจุบัน?
18 เรามีตัวอย่างดีเยี่ยมเกี่ยวด้วยความภักดีของคริสเตียนคนอื่น ๆ อีกหลายคนผู้ซึ่งอดทนการข่มเหง. ในท่ามกลางบุคคลที่ภักดีดังกล่าวก็มีพยานพระยะโฮวาชาวเยอรมันในช่วงนาซีปกครอง ดังปรากฏในวีดิทัศน์ชุดสามเหลี่ยมสีม่วง ซึ่งได้จำหน่ายออกไปเป็นจำนวนมากในภาษาอังกฤษ. นอกจากนี้ ที่ควรสนใจคือพยานพระยะโฮวาชาวแอฟริกาที่ภักดีจำนวนมาก เช่น พยานฯในมาลาวี. ที่นั่น พัศดีคนหนึ่งให้การถึงความภักดีของเหล่าพยานฯดังนี้: “ไม่มีทางที่พวกเขาจะประนีประนอม. พวกเขามีแต่เพิ่มทวี.”
19 คนที่ได้อ่านหนังสือประจำปีของพยานพระยะโฮวา เมื่อเร็ว ๆ นี้คงต้องรู้สึกประทับใจการแสดงความภักดีของคริสเตียนแท้ อาทิ คริสเตียนแท้ในประเทศกรีซ, โปแลนด์, และโมซัมบิก. พวกเขาหลายคนถูกทรมานอย่างแสนสาหัส บางคนถูกฆ่า. หนังสือประจำปี 1992 หน้า 177 แสดงภาพชายคริสเตียนเก้าคนในประเทศเอธิโอเปียผู้ซึ่งเผชิญการท้าทายในประเด็นความภักดี จนถึงขั้นถูกสังหาร. ในฐานะเป็นพยานพระยะโฮวา เราภูมิใจมิใช่หรือที่มีตัวอย่างดี ๆ มากมายเช่นนี้กระตุ้นใจเราให้เผชิญการท้าทายความภักดี?
20. ถ้าเราแสดงความภักดีอยู่เสมอจะมีผลพวงอะไรตามมา?
20 โดยที่เราต้านทานการล่อใจและทนความกดดันด้วยความภักดี เราสร้างความนับถือตัวเองขึ้นมา. ดังนั้นแล้ว ในประเด็นเกี่ยวกับความภักดี เราต้องการแสดงตัวว่าเราอยู่ฝ่ายไหน? โดยที่เราเผชิญการท้าทายความภักดี เราตั้งตัวอยู่ฝ่ายพระเจ้ายะโฮวาและพิสูจน์ให้เห็นว่าซาตานพญามารเป็นตัวมุสาที่ฉาวโฉ่ชั่วร้าย! โดยเหตุนี้ เราจึงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้ายะโฮวาผู้ได้สร้างตัวเรา และจะได้ชีวิตนิรันดร์ที่มีความสุขเป็นรางวัล. (บทเพลงสรรเสริญ 37:29; 144:15ข) จะมีการพิจารณาสิ่งอันพึงกระทำเมื่อเผชิญการท้าทายความภักดีต่อจากนี้.
[เชิงอรรถ]
a สารานุกรมคัมภีร์ไบเบิลชุดสองเล่มจัดพิมพ์ โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่ง นิวยอร์ก.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ ทำไมการเป็นผู้ภักดีจึงก่อให้เกิดการท้าทาย?
▫ ทำไมอาจกล่าวได้ว่า “ความภักดี” เป็นคำพิเศษจริง ๆ?
▫ เรามีตัวอย่างอะไรในพระคัมภีร์ว่าด้วยมนุษย์ไม่สมบูรณ์ผู้ซึ่งแสดงความภักดี?
▫ ปัจจุบันนี้เรามีตัวอย่างดี ๆ อะไรบ้างเกี่ยวกับความภักดี?
[รูปภาพหน้า 11]
ชาลส์ เทซ รัสเซลล์
[รูปภาพหน้า 12]
พระเยซูทรงเป็น “ผู้ภักดี” ต่อพระยะโฮวาอย่างแท้จริง
[รูปภาพหน้า 13]
โยบ แม้ไม่สมบูรณ์ แต่ได้พิสูจน์ความภักดีต่อพระเจ้า
[รูปภาพหน้า 14]
เปาโลได้วางตัวอย่างที่ดีในการแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวา