ทำไมควรดำเนินชีวิตตามมาตรฐานคัมภีร์ไบเบิล?
ทัศนะของคัมภีร์ไบเบิลในเรื่องเพศคร่ำครึและเข้มงวดเกินไปไหม? ไม่เลย. ตรงกันข้าม ทัศนะของคัมภีร์ไบเบิลในเรื่องเพศสามารถช่วยเราให้หลีกเลี่ยงปัญหาต่อไปนี้:
▪ โรคติดต่อทางเพศ
▪ การตั้งครรภ์โดยไม่ได้สมรส
▪ ผลกระทบที่เจ็บปวดเนื่องจากชีวิตสมรสพังทลาย
▪ ความรู้สึกผิด
▪ ความรู้สึกไร้ค่าเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นเพียงเครื่องสนองตัณหาของคนอื่น
พระยะโฮวาพระเจ้าa ผู้สร้างมนุษย์ทรงประสงค์ให้เรามีความสุขและได้รับประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์ประทานให้. พระเจ้าเป็น ‘ผู้สั่งสอนคุณ, เพื่อประโยชน์ของคุณเอง.’ (ยะซายา 48:17) คนที่ดำเนินชีวิตตามคำแนะนำของคัมภีร์ไบเบิลในเรื่องเพศจะได้รับผลดีต่อไปนี้:
▪ เป็นคนที่พระเจ้าพอพระทัย
▪ มีสันติสุขในใจ
▪ สายสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้น
▪ มีชื่อเสียงดี
▪ มีความนับถือต่อตัวเอง
แต่จะว่าอย่างไรถ้าตอนนี้คุณไม่ได้ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานศีลธรรมของคัมภีร์ไบเบิล? เป็นไปได้ไหมที่คุณจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ? พระเจ้าทรงถือว่าคุณต้องรับผิดชอบสำหรับการกระทำในอดีตไหม?
ขอพิจารณาเรื่องนี้: บางคนในประชาคมคริสเตียนสมัยศตวรรษแรกเคยทำผิดประเวณี เล่นชู้ และรักร่วมเพศ. แต่พวกเขาเลือกที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนและพวกเขาก็ได้รับประโยชน์มากมาย. (1 โครินท์ 6:9-11) ทุกวันนี้ หลายหมื่นคนทั่วโลกได้ทำแบบเดียวกัน. พวกเขาเลิกใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีการเหนี่ยวรั้งตัว และได้รับประโยชน์มากมายจากการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิล. ขอให้ดูประสบการณ์ของซาราห์ที่กล่าวถึงในตอนต้นเป็นตัวอย่าง.
“ฉันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก”
ซาราห์ได้พบว่าการใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีการเหนี่ยวรั้งตัวไม่ได้ทำให้เธอมีอิสระเสรีและอิ่มใจพอใจอย่างที่เธอปรารถนา. เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกว่าสติรู้สึกผิดชอบของฉันตายด้านไปแล้ว. ฉันอับอายและกลัวว่าจะท้องหรือติดโรคร้าย. ฉันเชื่อมาตลอดว่าพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และฉันรู้ว่าพระองค์เสียพระทัยที่เห็นฉันประพฤติตัวแบบนี้. ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าขยะแขยง และความรู้สึกนี้กัดกินใจฉันอยู่ทุกวัน.”
ในที่สุด ซาราห์ก็รวบรวมความกล้าและตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง. เธอได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ซึ่งเป็นพยานพระยะโฮวา. นอกจากนั้น เธอยังขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครองที่มีคุณวุฒิในประชาคมคริสเตียน. ซาราห์บอกว่า “ฉันแปลกใจมากและตื้นตันใจที่ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่และผู้ปกครองในประชาคม. ฉันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก.”
ตอนนี้ซาราห์มีลูกสองคนแล้ว. ซาราห์บอกว่า “ฉันเล่าให้ลูก ๆ ฟังอย่างไม่ปิดบังว่าฉันเคยใช้ชีวิตแบบไหน. ฉันอยากให้ลูกรู้ว่าการละเลยมาตรฐานของพระเจ้าทำให้ฉันได้รับผลอย่างไร. ฉันต้องการช่วยลูกให้เห็นว่าการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของพระเจ้าในเรื่องเพศเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ. ฉันเชื่อมั่นว่าพระเจ้าประทานมาตรฐานทางศีลธรรมแก่เราเพราะพระองค์ไม่อยากเห็นเราทุกข์ทรมานใจ.”
คุณเองก็สามารถได้รับประโยชน์จากการทำตามคำแนะนำที่พระเจ้าประทานให้ด้วยความรัก. คัมภีร์ไบเบิลสัญญาว่า “ข้อสั่งสอนของพระยะโฮวานั้นเที่ยงตรง, ทำให้จิตต์วิญญาณได้ความชื่นบาน ข้อบัญญัติของพระยะโฮวาก็บริสุทธิ์, กระทำให้ดวงตากระจ่างสว่างไป. . . . การรักษาข้อความเหล่านั้นไว้จะมีบำเหน็จเป็นอันมาก.”—บทเพลงสรรเสริญ 19:8, 11b
[เชิงอรรถ]
a ยะโฮวา เป็นพระนามของพระเจ้าตามที่บอกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล.
b ถ้าคุณต้องการรู้มากขึ้นเกี่ยวกับคำแนะนำที่ใช้ได้จริงของคัมภีร์ไบเบิล โปรดติดต่อพยานพระยะโฮวาในประเทศของคุณ หรือเขียนไปตามที่อยู่ในหน้า 4 หรือดูที่เว็บไซต์ www.watchtower.org.
[คำโปรยหน้า 8]
คนที่ไม่ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิลมักทำให้คนอื่นเจ็บช้ำน้ำใจ
[คำโปรยหน้า 9]
คนที่ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิลมีสติรู้สึกผิดชอบที่สะอาดและสายสัมพันธ์ในครอบครัวก็แน่นแฟ้นขึ้น