จงกล่าวถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวาเรื่อยไป
1. ราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวาในด้านใดบ้างที่คุณหยั่งรู้ค่าเป็นพิเศษ?
1 ไม่มีผู้ใดอาจเทียบกับพระยะโฮวา พระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่ของเราได้! ดาวิดเขียนว่า “ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของข้าพเจ้า, พระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์มาก, พระดำริของพระองค์มีต่อพวกข้าพเจ้ามากมาย: จะหาผู้ใดเทียมพระองค์บ่มิได้.” (เพลง. 40:5) พระราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวารวมไปถึงการสร้างเอกภพ, ราชอาณาจักรมาซีฮา, การปฏิบัติต่อประชาชนของพระองค์ด้วยความกรุณารักใคร่, และการรณรงค์ประกาศตลอดทั่วโลก. (เพลง. 17:7, 8; 139:14; ดานิ. 2:44; มัด. 24:14) ความรักต่อพระยะโฮวาและความหยั่งรู้ค่าต่อทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำจะกระตุ้นให้เราบอกคนอื่น ๆ ถึงเรื่องของพระองค์. (เพลง. 145:5-7) ในช่วงเดือนมีนาคม, เมษายน, และพฤษภาคม เรามีโอกาสทำเช่นนี้ได้อย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น.
2. การเป็นไพโอเนียร์สมทบทำให้เราได้รับประโยชน์เป็นส่วนตัวอย่างไร?
2 เป็นไพโอเนียร์สมทบ: คุณสามารถจัดเวลา 50 ชั่วโมงเพื่อทำงานรับใช้ในช่วงเดือนที่มีกิจกรรมพิเศษนี้สักเดือนหนึ่งหรือมากกว่านั้นได้ไหม? ไม่ว่าคุณจะทำการปรับเปลี่ยนใด ๆ กับกิจวัตรของคุณ นั่นจะให้ผลคุ้มค่าอย่างแน่นอน. (เอเฟ. 5:16) หลายคนพบว่าการเป็นไพโอเนียร์สมทบช่วยเขาให้ปรับปรุงคุณภาพงานรับใช้. พวกเขารู้สึกว่าสามารถประกาศตามบ้านได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสใช้พระคัมภีร์มากกว่า. การใช้เวลาเพิ่มขึ้นในงานรับใช้ทำให้เขามีโอกาสติดตามผู้สนใจที่พบได้อย่างต่อเนื่อง และคนที่ยังไม่เคยนำการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลมาก่อนก็มีโอกาสเริ่มการศึกษาขณะที่เป็นไพโอเนียร์สมทบ. เนื่องจากการเป็นไพโอเนียร์สมทบเกี่ยวข้องกับการทุ่มเทตัวเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่น ๆ จึงนับว่าเป็นกิจกรรมที่ให้ความสุขอย่างแท้จริง.—กิจ. 20:35.
3. บางคนเป็นไพโอเนียร์สมทบได้อย่างไรแม้ว่าสภาพการณ์ไม่เอื้ออำนวย?
3 อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าสภาพการณ์ของคุณไม่เอื้ออำนวยให้คุณเข้าส่วนในงานนี้. ผู้ปกครองคนหนึ่งซึ่งเป็นไพโอเนียร์สมทบเมื่อปีที่แล้วมีลูกสองคนและทำงานอาชีพเต็มเวลา. พี่น้องที่มีธุระยุ่งคนนี้ทำเช่นนั้นได้อย่างไร? เนื่องจากเขาทำงานระหว่างสัปดาห์ เขาจึงวางแผนที่จะทำงานรับใช้เต็มวันในช่วงสุดสัปดาห์ โดยเริ่มให้คำพยานที่ถนนตั้งแต่ 7 โมงเช้าวันเสาร์. หลายคนในประชาคมที่มีสภาพการณ์คล้ายกันนี้ได้เป็นไพโอเนียร์ด้วย และพวกเขาต่างก็สนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน. ในอีกประชาคมหนึ่ง พี่น้องหญิงอายุ 99 ปีตัดสินใจเป็นไพโอเนียร์ในเดือนพฤษภาคมหลังจากที่ลูกสาวชวนเธอให้ร่วมรับใช้ด้วยกัน. คนอื่น ๆ ในประชาคมช่วยเข็นเก้าอี้ล้อให้พี่น้องหญิงสูงอายุคนนี้เมื่อไปตามบ้านและนำการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. เธอยังให้คำพยานทางโทรศัพท์, ตามถนน, และทางจดหมายด้วย. เธอเชื่อมั่นว่า ที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ไม่ใช่เพราะกำลังของตัวเองแต่เป็นเพราะการช่วยเหลือจากพระยะโฮวา.—ยซา. 40:29-31.
4. ปัจจัยอะไรที่เราอาจพิจารณาเมื่อจัดตารางเวลาเพื่อเป็นไพโอเนียร์สมทบ?
4 จงพยายามจัดตารางเวลาให้เหมาะกับสภาพการณ์ของคุณให้มากที่สุด. ตัวอย่างตารางเวลาทำงานที่ลงในฉบับนี้อาจเป็นประโยชน์. คุณทำงานเต็มเวลาหรือยังเรียนหนังสืออยู่ไหม? ตารางเวลาที่เน้นการประกาศในช่วงสุดสัปดาห์เป็นหลักอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ. หากคุณมีปัญหาสุขภาพและไม่มีแรงพอที่จะทำงานรับใช้ตลอดทั้งวัน ตารางเวลาที่ใช้เวลาไม่มากในแต่ละวันอาจเหมาะที่สุด. จงคุยกับคนอื่น ๆ ถึงความปรารถนาของคุณที่จะเป็นไพโอเนียร์สมทบ. บางทีพวกเขาอาจตั้งเป้าหมายเช่นนั้นด้วย.
5. เยาวชนอาจตั้งเป้าอะไรได้ในเดือนมีนาคม, เมษายน, และพฤษภาคม?
5 วิธีที่เยาวชนเข้าส่วนได้: พระยะโฮวาทรงพอพระทัยเมื่อเยาวชนกล่าวถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระองค์. (เพลง. 71:17; มัด. 21:16) หากคุณเป็นเยาวชนและรับบัพติสมาแล้ว บางทีคุณอาจเป็นไพโอเนียร์สมทบในช่วงปิดเทอมได้. หากคุณไม่สามารถเป็นไพโอเนียร์สมทบ คุณจะตั้งเป้าหมายที่แน่นอนเพื่อเข้าส่วนมากขึ้นและปรับปรุงคุณภาพงานรับใช้ในช่วงเดือนเหล่านี้ได้ไหม? ถ้าคุณเคยไปประกาศกับบิดามารดาแต่ยังไม่ได้เป็นผู้ประกาศที่ยังไม่ได้รับบัพติสมา ตอนนี้คงเป็นเวลาเหมาะที่จะพยายามบรรลุคุณสมบัตินั้น. คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตอบคำถามจากคัมภีร์ไบเบิล หรือต้องมีความรู้มากพอ ๆ กับผู้ใหญ่ที่รับบัพติสมาแล้ว. คุณเข้าใจคำสอนพื้นฐานของคัมภีร์ไบเบิลไหม? คุณยึดมั่นกับมาตรฐานทางศีลธรรมของคัมภีร์ไบเบิลไหม? คุณต้องการแสดงตัวว่าเป็นพยานพระยะโฮวาคนหนึ่งไหม? ถ้าอย่างนั้น จงคุยกับบิดามารดาของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้. ท่านจะจัดการให้คุณได้เข้าพบผู้ปกครองเพื่อดูว่าคุณบรรลุข้อเรียกร้องหรือไม่.—ดูหนังสือจัดให้เป็นระเบียบ หน้า 98-99.
6. เราจะช่วยนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลให้เป็นผู้ประกาศข่าวดีได้อย่างไร?
6 การช่วยคนอื่น ๆ ให้ประกาศ: นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่ก้าวหน้าอาจมีคุณสมบัติที่จะทำงานร่วมกับพวกเราในฐานะผู้ประกาศในเดือนที่มีกิจกรรมพิเศษซึ่งใกล้จะถึงนี้. หากคุณมีนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่กำลังทำความก้าวหน้าเป็นอย่างดี จงขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคมหรือผู้ดูแลการรับใช้. พวกเขาคนใดคนหนึ่งอาจมาร่วมศึกษากับคุณเพื่อประเมินความก้าวหน้าของนักศึกษา. หากนักศึกษามีคุณสมบัติและอยากเป็นผู้ประกาศ ผู้ดูแลผู้เป็นประธานจะจัดให้ผู้ปกครองสองคนไปพบกับคุณและนักศึกษา. (ดูหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 พฤศจิกายน 1988 หน้า 19.) เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ให้เริ่มฝึกนักศึกษาในงานรับใช้ทันที.
7. อาจช่วยผู้ประกาศที่ไม่สม่ำเสมอและผู้ที่เลิกประกาศได้อย่างไร?
7 ผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคมควรเอาใจใส่เป็นพิเศษต่อคนที่เลิกเป็นผู้ประกาศหรือเป็นผู้ประกาศไม่สม่ำเสมอในกลุ่มของเขา. จงเชิญเขาเป็นส่วนตัวให้ทำงานรับใช้ร่วมกับคุณ. ถ้าพวกเขาเลิกเป็นผู้ประกาศนานแล้ว นับว่าเหมาะที่จะให้ผู้ปกครองสองคนคุยกับเขาก่อนเพื่อดูว่าเขามีคุณสมบัติหรือไม่. (ดูตู้ปัญหาในพระราชกิจของเรา เดือนพฤศจิกายน 2000.) ความกระตือรือร้นของประชาคมในเดือนที่มีกิจกรรมพิเศษนี้อาจกระตุ้นพวกเขาให้เข้าส่วนในงานรับใช้เป็นประจำอีกครั้ง.
8, 9. ผู้ปกครองอาจทำอะไรได้บ้างเพื่อกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นในช่วงกิจกรรมพิเศษนี้?
8 จงเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้สำหรับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น: ผู้ปกครองทั้งหลาย จงเริ่มกระตุ้นประชาคมให้มีความกระตือร้นที่จะเป็นไพโอเนียร์สมทบตั้งแต่ตอนนี้. การที่คุณออกความคิดเห็นในแง่บวกและเป็นตัวอย่างที่ดีนั้นช่วยได้มาก. (1 เป. 5:3) ยอดไพโอเนียร์สมทบของประชาคมคราวที่แล้วมีกี่คน? ปีนี้จะทำให้ยอดสูงขึ้นได้ไหม? ผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคมและผู้ช่วยควรหาวิธีสนับสนุนทุกคนในกลุ่มการศึกษาให้ทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น. ผู้ดูแลการรับใช้อาจจัดให้มีการประชุมเพื่อการประกาศเพิ่มเติม. แจ้งให้ประชาคมรู้ล่วงหน้าถึงสิ่งที่ได้จัดเตรียม. จงทำให้แน่ใจว่ามีการมอบหมายผู้ประกาศที่มีความสามารถให้นำการประชุมเพื่อการประกาศและทำให้แน่ใจว่าการประชุมนั้นจะเริ่มและจบตรงเวลา. (ดูตู้ปัญหาจากพระราชกิจของเรา เดือนกันยายน 2001.) ผู้ดูแลการรับใช้ควรจัดให้มีเขตทำงาน, วารสาร, และสรรพหนังสือเพียงพอ.
9 เมื่อปีที่แล้วพวกผู้ปกครองในประชาคมหนึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสนับสนุนการเป็นไพโอเนียร์สมทบด้วยความกระตือรือร้น พร้อมทั้งมีหลายคนในพวกเขาส่งใบสมัคร. พวกเขาจัดให้มีการประชุมเพื่อการประกาศเพิ่มขึ้นคือ ช่วงแรกเวลา 05:30 น. สำหรับการให้คำพยานที่ถนน, ช่วงต่อมาคือเวลา 15:00 น. สำหรับคนที่กลับจากโรงเรียน, และช่วงที่สามเวลา 18:00 น. สำหรับคนที่เลิกงานแล้ว. นอกจากนี้ ในวันเสาร์ยังได้จัดการประชุมเพื่อการประกาศสามช่วงด้วย. พี่น้องในประชาคมตอบรับอย่างดีโดยมีผู้สมัครเป็นไพโอเนียร์สมทบในเดือนเมษายนถึง 66 คน!
10. ครอบครัวจะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อเพิ่มกิจกรรมงานรับใช้?
10 ทำไมไม่ลองกันเวลาจากช่วงการศึกษาประจำครอบครัวคราวหน้าเพื่อตั้งเป้าหมายที่ตรงกับความเป็นจริงถึงสิ่งที่จะทำในเดือนที่ใกล้จะถึงนี้ล่ะ? โดยการร่วมมือกันและการวางแผนที่ดี บางคนหรือทุกคนในครอบครัวอาจเป็นไพโอเนียร์สมทบได้. หากไม่มีทางทำได้ จงตั้งเป้าที่จะเพิ่มกิจกรรมของคุณโดยเพิ่มเวลาทำงานรับใช้ให้นานขึ้นหรือออกไปประกาศในโอกาสอื่น ๆ เพิ่มเติม. จงอธิษฐานถึงเรื่องนี้ด้วยกันทั้งครอบครัว. คุณสามารถมั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะทรงอวยพรความพยายามของคุณ.—1 โย. 3:22.
11. (ก) เครื่องบูชาของพระคริสต์ทำให้สิ่งมหัศจรรย์อะไรบรรลุผลสำเร็จ? (ข) การประชุมอนุสรณ์ในท้องถิ่นจัดขึ้นเมื่อไรและที่ไหน?
11 พระราชกิจอันมหัศจรรย์ที่สุดของพระเจ้า: การแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระยะโฮวาคือการประทานพระบุตรของพระองค์ฐานะเป็นค่าไถ่เพื่อประโยชน์ของพวกเรา. (1 โย. 4:9, 10) เครื่องบูชาไถ่เป็นพื้นฐานตามกฎหมายที่จะไถ่มนุษยชาติพ้นจากความบาปและความตาย. (โรม 3:23, 24) สัญญาไมตรีใหม่มีผลบังคับใช้โดยพระโลหิตที่หลั่งออกของพระเยซู ทำให้มีทางเป็นไปได้ที่มนุษย์ไม่สมบูรณ์จะได้รับการยอมรับฐานะบุตรของพระเจ้าพร้อมด้วยความหวังที่จะปกครองในราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์. (ยิระ. 31:31-34; มโก. 14:24) ที่สำคัญยิ่งคือ แนวทางที่เชื่อฟังอย่างสมบูรณ์แบบของพระเยซูทำให้พระนามของพระยะโฮวาเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์. (บัญ. 32:4; สุภา. 27:11) วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนหลังดวงอาทิตย์ตก จะมีการประชุมอนุสรณ์ทั่วโลกเพื่อระลึกถึงการวายพระชนม์ของพระคริสต์.
12. การเข้าร่วมฉลองอาหารมื้อเย็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจอย่างไร?
12 การฉลองอาหารมื้อเย็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นการสรรเสริญพระราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวา. คำบรรยายช่วยเสริมสร้างความหยั่งรู้ค่าต่อสิ่งที่พระยะโฮวาทรงทำในการจัดเตรียมค่าไถ่. ผู้สนใจที่เข้าร่วมการประชุมจะทราบถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์อื่น ๆ ของพระเจ้า. พวกเขาจะสามารถมองเห็นความเป็นเอกภาพและความรักอันอบอุ่นที่พระยะโฮวาทรงสอนให้ประชาชนของพระองค์แสดงออก. (เอเฟ. 4:16, 22-24; ยโก. 3:17, 18) การเข้าร่วมในโอกาสสำคัญนี้อาจมีผลกระทบต่อความคิดของผู้คนอย่างแท้จริง ดังนั้น เราอยากให้มีผู้คนเข้าร่วมการประชุมนี้ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้.—2 โก. 5:14, 15.
13, 14. ใครบ้างที่เราควรเชิญให้เข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ และโดยวิธีใด?
13 การเชิญคนอื่น ๆ ให้เข้าร่วม: เริ่มเตรียมการทันทีโดยจดรายชื่อคนที่ต้องการเชิญ. ในรายชื่อนั้นควรมีสมาชิกครอบครัวที่ไม่มีความเชื่อ, เพื่อนบ้าน, คนรู้จักในที่ทำงานหรือที่โรงเรียน, นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทั้งในอดีตและปัจจุบัน, และทุกคนที่คุณกลับเยี่ยม. ผู้ดูแลการศึกษาหนังสือประจำประชาคมควรจดชื่อผู้ประกาศทุกคนที่เลิกประกาศ.
14 จงใช้ใบเชิญการประชุมอนุสรณ์ซึ่งพิมพ์ไว้แล้ว และใส่เวลากับสถานที่การประชุมโดยพิมพ์หรือเขียนให้เรียบร้อย. หรือคุณอาจต้องการใช้ใบเชิญที่ปรากฏในปกหลังของวารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 มีนาคม 2004. เมื่อใกล้จะถึงวันที่ 4 เมษายน ให้เตือนคนที่อยู่ในรายชื่อของคุณ โดยไปเยี่ยมเขาหรือโดยทางโทรศัพท์.
15. เราจะแสดงน้ำใจรับรองแขกในคืนที่มีการประชุมอนุสรณ์ได้อย่างไร?
15 ณ การประชุมอนุสรณ์: ในเย็นวันที่จะมีการประชุมอนุสรณ์ จงพยายามมาแต่เนิ่น ๆ. จงแสดงน้ำใจรับรองแขกโดยต้อนรับผู้สนใจใหม่อย่างอบอุ่น. (โรม 12:13) คุณมีหน้าที่รับผิดชอบเป็นพิเศษต่อแขกที่คุณเชิญมา. จงทำให้เขารู้สึกว่าเรายินดีต้อนรับเขา และแนะนำเขาให้คนอื่น ๆ ในประชาคมรู้จัก. บางทีคุณอาจพาเขามานั่งใกล้ ๆ คุณ. หากบางคนไม่มีพระคัมภีร์หรือหนังสือเพลง ให้ดูด้วยกันกับคุณหรือกับคนอื่น. หลังจากการประชุมจบลง จงอยู่พร้อมที่จะตอบคำถามที่เขาอาจถาม. ถ้าบางคนเพิ่งมาเป็นครั้งแรก ให้ถามว่าเขาต้องการจะเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวพระคำและพระประสงค์ของพระเจ้าไหม. เสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่บ้านกับพวกเขา.
16. จะทำอะไรได้เพื่อช่วยคนที่เข้าร่วมการประชุมให้ทำความก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณ?
16 จงช่วยคนที่เข้าร่วมประชุมต่อ ๆ ไป: ในสัปดาห์ถัดจากวันประชุมอนุสรณ์ คนที่เข้าร่วมประชุมอาจต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม. รวมถึงคนที่เคยเข้าร่วมประชุมเป็นประจำแต่ตอนนี้แทบไม่ได้ร่วมสมทบกับประชาคมเลย. ผู้ปกครองจะคอยสังเกตดูเพื่อจะไม่มองข้ามคนเหล่านั้นไป และพยายามวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงหยุดทำความก้าวหน้าทางฝ่ายวิญญาณ. ให้ดึงความสนใจของคนเหล่านี้มาที่ความเร่งด่วนของยุคสมัย. (1 เป. 4:7) ช่วยทุกคนเห็นประโยชน์ของการเชื่อฟังคำกระตุ้นเตือนจากพระคัมภีร์ที่ให้ประชุมร่วมกันเป็นประจำกับประชาชนของพระเจ้า.—เฮ็บ. 10:24, 25.
17. เหตุใดเราควรกล่าวถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวาเรื่อยไป?
17 พระราชกิจของพระยะโฮวาเป็นสิ่งมหัศจรรย์เกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้อย่างครบถ้วนแม้ว่าเราจะมีชีวิตตลอดไปก็ตาม. (โยบ 42:2, 3; ผู้ป. 3:11) ด้วยเหตุนี้ เราจะไม่มีวันเลิกทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นการสรรเสริญพระองค์. ในช่วงการประชุมอนุสรณ์ เราสามารถแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อพระราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระยะโฮวาโดยพยายามเป็นพิเศษในการขยายงานรับใช้ของเรา.
[แผนภูมิหน้า 5]
คุณจะเป็นไพโอเนียร์สมทบโดยใช้ประโยชน์จากตารางเหล่านี้สักแบบหนึ่งได้ไหม?
มีนาคม อา. จ.* อ.* พ.* พฤ. ศ. ส. รวมยอดทั้งเดือน
ทุกวัน 2 1 1 1 1 1 5 51
สองวัน 0 5 0 5 0 0 0 50
เฉพาะสุดสัปดาห์ 5 0 0 0 0 0 8 52
สุดสัปดาห์กับ
วันธรรมดาสองวัน 2 0 0 2 0 2 6 50
เมษายน อา. จ. อ. พ. พฤ.* ศ.* ส. รวมยอดทั้งเดือน
ทุกวัน 2 1 1 1 1 1 5 50
สองวัน 0 0 0 0 5 5 0 50
เฉพาะสุดสัปดาห์ 5 0 0 0 0 0 8 52
สุดสัปดาห์กับ
วันธรรมดาสองวัน 2 0 0 2 0 2 6 50
พฤษภาคม อา.* จ.* อ. พ. พฤ. ศ. ส.* รวมยอดทั้งเดือน
ทุกวัน 2 1 1 1 1 1 4 51
สองวัน 0 5 0 0 0 0 5 51
เฉพาะสุดสัปดาห์ 3 0 0 0 0 0 7 50
สุดสัปดาห์กับ
วันธรรมดาสองวัน 2 0 0 2 0 2 5 51
* ห้าครั้งในหนึ่งเดือน