ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห25 สิงหาคม น. 26-30
  • จาก​คน​ขี้อาย​กลาย​เป็น​มิชชันนารี

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • จาก​คน​ขี้อาย​กลาย​เป็น​มิชชันนารี
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2025
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา
  • เริ่ม​ตั้ง​เป้า​อยาก​จะ​เป็น​มิชชันนารี
  • รับใช้​ใน​ประเทศ​ที่​มี​สงคราม
  • งาน​มอบหมาย​ใหม่
  • รับมือ​กับ​ปัญหา​ส่วน​ตัว
  • ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ช่วย​ฉัน
  • สิ่งที่มีค่ามากกว่าชีวิตของเราในปัจจุบัน
    ตื่นเถิด! 2011
  • การรณรงค์พิเศษในบัลแกเรียประสบความสำเร็จ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2010
  • พระยะโฮวา ‘ทำให้ชีวิตผมราบรื่น’
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2021
  • ตั้งใจแน่วแน่จะรับใช้พระยะโฮวา
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2006
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2025
ห25 สิงหาคม น. 26-30
มารีอันเน เวิร์ทโฮลซ์

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

จาก​คน​ขี้อาย​กลาย​เป็น​มิชชันนารี

เล่า​โดย​มารีอันเน เวิร์ทโฮลซ์

ตอน​เป็น​เด็ก ฉัน​ทั้ง​ขี้อาย​และ​ขี้​กลัว แต่​ใน​เวลา​ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​ฉัน​เป็น​มิชชันนารี​ที่​รัก​และ​ห่วงใย​คน​อื่น เป็น​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง? ตอน​แรก​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​ผ่าน​ทาง​พ่อ​ซึ่ง​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี ต่อ​มา​พี่​น้อง​หญิง​วัยรุ่น​คน​หนึ่ง​ก็​เป็น​แบบ​อย่าง​ที่​ดี​ให้​กับ​ฉัน​ด้วย และ​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ฉัน​ก็​คือ​สามี เขา​ให้​คำ​แนะ​นำ​ดี ๆ และ​อ่อนโยน​กับ​ฉัน คุณ​อยาก​ฟัง​เรื่อง​ราว​ชีวิต​ของ​ฉัน​ไหม? เดี๋ยว​ฉัน​จะ​เล่า​ให้​ฟัง

ฉัน​เกิด​ใน​ปี 1951 ที่​กรุง​เวียนนา ออสเตรีย ครอบครัว​ฉัน​เป็น​คาทอลิก ฉัน​ขี้อาย ไม่​ค่อย​กล้า​เล่า​ความ​รู้สึก​ของ​ตัว​เอง​กับ​ใคร แต่​ฉัน​กลับ​รู้สึก​สบาย​ใจ​ที่​จะ​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​บ่อย ๆ ตอน​ฉัน​อายุ 9 ขวบ พ่อ​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​ต่อ​มา​ไม่​นาน​แม่​ก็​เริ่ม​ศึกษา​ด้วย

กับ​เอลีซาเบ็ธ น้อง​สาว​ของ​ฉัน (คน​ซ้าย)

เรา​อยู่​ใน​ประชาคม​ด็อบลิง​ที่​กรุง​เวียนนา เรา​ทำ​อะไร​หลาย​อย่าง​ด้วย​กัน​เป็น​ครอบครัว เช่น อ่าน​และ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​กัน ไป​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม และ​อาสา​สมัคร​ช่วย​งาน​ใน​การ​ประชุม​ใหญ่ ตั้งแต่​ตอน​ที่​ฉัน​ยัง​เด็ก​พ่อ​สอน​ให้​ฉัน​รัก​พระ​ยะโฮวา รู้​ไหม​ว่า​พ่อ​ถึง​กับ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ฉัน​กับ​น้อง​สาว​โต​ขึ้น​มา​เป็น​ไพโอเนียร์ แต่​ตอน​นั้น​ฉัน​ไม่​มี​เป้า​หมาย​อย่าง​นั้น​เลย

เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา

ฉัน​รับ​บัพติศมา​ใน​ปี 1965 ตอน​ที่​อายุ 14 แต่​ถึง​จะ​รับ​บัพติศมา​แล้ว ฉัน​ก็​รู้สึก​ยาก​มาก​ที่​จะ​ต้อง​คุย​กับ​คน​แปลก​หน้า​ตอน​ที่​ไป​ประกาศ และ​ยัง​รู้สึก​ด้วย​ว่า​ตัว​เอง​ด้อย​กว่า​เพื่อน ๆ ใน​วัย​เดียว​กัน ฉัน​ก็​เลย​พยายาม​ทำ​ทุก​วิถี​ทาง​เพื่อ​จะ​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ของ​พวก​เขา ดังนั้น หลัง​จาก​รับ​บัพติศมา​ไม่​นาน ฉัน​เริ่ม​ไป​คบ​กับ​เพื่อน​ที่​ไม่​ได้​เป็น​พยาน​ฯ​ ฉัน​ชอบ​อยู่​กับ​พวก​เขา​มาก แต่​ความ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​ก็​รบกวน​ใจ​ฉัน​เหลือ​เกิน​เพราะ​ฉัน​ใช้​เวลา​กับ​พวก​เขา​มาก​เกิน​ไป ทั้ง​ที่​รู้สึก​แบบ​นี้ แต่​ฉัน​ก็​ไม่​มี​แรง​ที่​จะ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง แต่​รู้​ไหม​อะไร​ที่​ช่วย​ฉัน?

มารีอันเน​กับ​โดโรธี

ฉัน​ได้​เรียน​หลาย​อย่าง​จาก​โดโรธี (คน​ซ้าย)

ตอน​นั้น​มี​พี่​น้อง​หญิง​วัยรุ่น​คน​หนึ่ง​อายุ 16 ชื่อ​โดโรธี​มา​ที่​ประชาคม​ของ​เรา ฉัน​ประทับใจ​ความ​กระตือรือร้น​ของ​เธอ​ใน​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน​มาก ฉัน​อายุ​มาก​กว่า​เธอ​นิด​หน่อย​แต่​ฉัน​ไม่​ค่อย​ขยัน​ประกาศ​สัก​เท่าไหร่ ฉัน​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘พ่อ​แม่​ของ​ฉัน​เป็น​พยาน​ฯ​ ทั้ง​คู่ แต่​โดโรธี​ไม่​มี​ใคร​ใน​ครอบครัว​เป็น​พยาน​ฯ​ เลย เธอ​อยู่​กับ​แม่​แค่​สอง​คน แถม​แม่​ของ​เธอ​ก็​ป่วย แต่​เธอ​ก็​ยัง​ไป​ประกาศ​เป็น​ประจำ’ ตัวอย่าง​ของ​เธอ​กระตุ้น​ให้​ฉัน​อยาก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น ฉัน​กับ​โดโรธี​ก็​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ด้วย​กัน ตอน​แรก​เรา​เป็น​ไพโอเนียร์​สมทบ​ซึ่ง​ใน​สมัย​นั้น​เรียก​ว่า​ไพโอเนียร์​พัก​งาน ต่อ​มา​เรา​ก็​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ​ด้วย​กัน เมื่อ​เห็น​โดโรธี​กระตือรือร้น​ใน​งาน​รับใช้ มัน​ก็​ทำ​ให้​ฉัน​รู้สึก​แบบ​นั้น​ตาม​ไป​ด้วย เธอ​ช่วย​ฉัน​ให้​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​นัก​ศึกษา​คน​แรก ต่อ​มา ฉัน​ก็​เริ่ม​รู้สึก​ง่าย​ขึ้น​ที่​จะ​ประกาศ​กับ​ผู้​คน​ตาม​บ้าน ตาม​ถนน และ​ใน​ที่​อื่น ๆ

ช่วง​ปี​แรก​ที่​ฉัน​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ มี​พี่​น้อง​ชาย​ชาว​ออสเตรีย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ไฮนซ์​ย้าย​มา​ที่​ประชาคม​ของ​เรา เขา​เรียน​ความ​จริง​ที่​แคนาดา​ตอน​ที่​ไป​เยี่ยม​พี่​ชาย​ซึ่ง​เป็น​พยาน​ฯ​ ไฮนซ์​ถูก​มอบหมาย​ให้​มา​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ใน​ประชาคม​ของ​เรา​ที่​กรุง​เวียนนา ครั้ง​แรก​ที่​ฉัน​เจอ​เขา ฉัน​ก็​รู้สึก​ชอบ​เขา​ทันที แต่​เขา​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ​เป็น​มิชชันนารี ส่วน​ฉัน​ไม่​มี​เป้าหมาย​แบบ​นั้น ฉัน​ก็​เลย​เก็บ​ความ​รู้สึก​ของ​ฉัน​เอา​ไว้​ก่อน แต่​ต่อ​มา​ฉัน​กับ​ไฮนซ์​ก็​เริ่ม​คบ​กัน แล้ว​เรา​ก็​แต่งงาน​กัน หลัง​จาก​นั้น​เรา​เริ่ม​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ด้วย​กัน​ที่​ออสเตรีย

เริ่ม​ตั้ง​เป้า​อยาก​จะ​เป็น​มิชชันนารี

ไฮนซ์​พูด​กับ​ฉัน​บ่อย ๆ ว่า​เขา​อยาก​เป็น​มิชชันนารี แต่​เขา​ไม่​เคย​กดดัน​ฉัน​เลย เขา​มัก​จะ​กระตุ้น​ให้​ฉัน​คิด​โดย​พูด​ว่า “เรา​สอง​คน​ก็​ไม่​มี​ลูก งั้น​เรา​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น​ดี​ไหม?” แต่​ฉัน​เป็น​คน​ขี้อาย ฉัน​เลย​ไม่​กล้า​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี ก็​จริง​ที่​ฉัน​เป็น​ไพโอเนียร์​อยู่ แต่​การ​เป็น​มิชชันนารี​มัน​เป็น​อะไร​ที่​ไกล​เกิน​เอื้อม​สำหรับ​ฉัน ถึงอย่างนั้น​ไฮนซ์​ก็​อดทน เขา​คอย​ชวน​ฉัน​ให้​คิด​ถึง​เป้าหมาย​นี้​บ่อย ๆ เขา​ยัง​กระตุ้น​ให้​ฉัน​สนใจ​ที่​การ​ช่วยเหลือ​ผู้​คน​แทน​ที่​จะ​เอา​แต่​คิด​ถึง​ตัว​เอง และ​คำ​แนะ​นำ​ของ​เขา​ก็​ช่วย​ฉัน​ได้​มาก​จริง ๆ

ไฮนซ์​นำ​การ​ศึกษา​หอสังเกตการณ์​ใน​ประชาคม​เล็ก ๆ ที่​ใช้​ภาษา​เซอร์เบีย-โครเอเชีย​ที่​เมือง​ซาลซ์บูร์ก ประเทศ​ออสเตรีย ปี 1974

แล้ว​ฉัน​ก็​ค่อย ๆ อยาก​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี ใน​ที่​สุด​เรา​ก็​เลย​ส่ง​ใบ​สมัคร​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด แต่​พี่​น้อง​ที่​ทำ​งาน​ใน​สาขา​แนะ​นำ​ให้​ฉัน​ฝึก​พูด​ภาษา​อังกฤษ​ให้​เก่ง​ขึ้น​กว่า​นี้​ก่อน หลัง​จาก​ฝึก​ภาษา​อังกฤษ​อยู่ 3 ปี​เรา​ก็​ตกใจ​มาก​ที่​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​ใน​ประชาคม​ที่​ใช้​ภาษา​เซอร์เบีย-โครเอเชีย​ที่​เมือง​ซาลซ์บูร์ก ประเทศ​ออสเตรีย เรา​รับใช้​อยู่​ที่​นั่น 7 ปี ซึ่ง​ใน​ช่วง​นั้น​สามี​ฉัน​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด​ด้วย 1 ปี ภาษา​เซอร์เบีย-โครเอเชีย​ยาก​มาก แต่​เรา​ก็​มี​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​หลาย​คน

ใน​ปี 1979 เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป “เที่ยว​พักผ่อน” ที่​บัลแกเรีย งาน​ประกาศ​ที่​นั่น​ถูก​สั่ง​ห้าม เรา​เลย​ไม่​ได้​ไป​ประกาศ​ใน​ตอน​นั้น แต่​เรา​แอบ​เอา​หนังสือ​นิด​หน่อย​ไป​ให้​พี่​น้อง​หญิง 5 คน​ที่​อยู่​ใน​เมือง​โซเฟีย​ซึ่ง​เป็น​เมือง​หลวง​ของ​บัลแกเรีย ตอน​แรก​ฉัน​กลัว​มาก แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​ช่วย​ให้​ฉัน​ทำ​งาน​มอบหมาย​ที่​น่า​ตื่นเต้น​นี้​ได้ การ​ได้​เห็น​พี่​น้อง​หญิง​เหล่า​นี้​กล้า​หาญ​และ​มี​ความ​สุข​ทั้ง ๆ ที่​พวก​เธอ​เสี่ยง​ที่​จะ​ต้อง​ติด​คุก มัน​ช่วย​ให้​ฉัน​อยาก​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​ที่​ไม่​ว่า​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​มอบหมาย​ให้​ฉัน​ทำ​อะไร

หลัง​จาก​นั้น เรา​ก็​ส่ง​ใบ​สมัคร​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​อีก​ครั้ง​และ​เรา​ก็​ได้​รับ​เชิญ ตอน​แรก​เรา​คิด​ว่า​จะ​ได้​เข้า​เรียน​ใน​ภาษา​อังกฤษ​ที่​สหรัฐ​อเมริกา แต่​เดือน​พฤศจิกายน​ปี 1981 มี​การ​จัด​ชั้น​เรียน​ที่​สำนักงาน​สาขา​ใน​เมือง​วีสบาเดิน เยอรมนี เรา​ก็​เลย​ได้​เข้า​เรียน​ใน​ภาษา​เยอรมัน​ซึ่ง​ง่าย​กว่า​สำหรับ​ฉัน แต่​เมื่อ​เรียน​จบ​แล้ว เรา​จะ​ถูก​ส่ง​ไป​ที่​ไหน?

รับใช้​ใน​ประเทศ​ที่​มี​สงคราม

เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ที่​เคนยา แต่​สำนักงาน​สาขา​ที่​นั่น​กลับ​ถาม​ว่า​เรา​จะ​ไป​รับใช้​ที่​ยูกันดา​ได้​ไหม สิบ​ปี​ก่อน​หน้า​นี้ รัฐบาล​ยูกันดา​ถูก​รัฐประหาร​โดย​นาย​พล​อี​ดี อา​มิน ใน​ช่วง​ที่​เขา​ปกครอง​มี​หลาย​พัน​คน​ถูก​ฆ่า​และ​หลาย​ล้าน​คน​มี​ชีวิต​ที่​ยาก​ลำบาก แล้ว​ใน​ปี 1979 รัฐบาล​ยูกันดา​ก็​ถูก​รัฐประหาร​อีก​ครั้ง คุณ​คง​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ทำไม​ฉัน​ถึง​กลัว​และ​ไม่​กล้า​ย้าย​ไป​รับใช้​ใน​ประเทศ​นี้ แต่​โรง​เรียน​กิเลียด​สอน​ให้​เรา​ไว้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา เรา​ก็​เลย​ตอบรับ​งาน​มอบหมาย​นี้

สถานการณ์​ที่​ยูกันดา​น่า​กลัว​และ​สับสน​วุ่นวาย​มาก ไฮนซ์​เล่า​ไว้​ใน​หนังสือ​ประจำ​ปี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา 2010 (ภาษา​อังกฤษ) ว่า “ระบบ​สาธารณูปโภค​ต่าง ๆ. . . เช่น น้ำ​ประปา​และ​ระบบ​สื่อสาร​ใช้​การ​ไม่​ได้​เลย การ​ยิง​กัน​และ​การ​บุก​ปล้น​เป็น​เรื่อง​ปกติ​โดย​เฉพาะ​ใน​ตอน​กลาง​คืน . . . ผู้​คน​จะ​อยู่​ใน​บ้าน​และ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​คืน​นี้​ผ่าน​พ้น​ไป​โดย​ไม่​มี​ใคร​บุก​เข้า​มา​ใน​บ้าน” ถึง​แม้​จะ​ลำบาก​มาก​ขนาด​นี้ แต่​พี่​น้อง​ก็​ยัง​คง​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง

ทำ​อาหาร​ที่​บ้าน​ของ​ครอบครัว​พี่​น้อง​วาอิสวา

ใน​ปี 1982 ฉัน​กับ​สามี​เดิน​ทาง​มา​ถึง​เมือง​กัมปาลา​ซึ่ง​เป็น​เมือง​หลวง​ของ​ยูกันดา ใน​ช่วง 5 เดือน​แรก​เรา​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​แซม​กับ​คริส​ติ​น่า วาอิสวา ซึ่ง​ใน​บ้าน​นี้​มี​ลูก 5 คน​และ​ญาติ ๆ อีก 4 คน ถึง​ช่วง​นั้น​แซม​กับ​คริส​ติ​น่า​และ​ลูก ๆ จะ​กิน​ข้าว​แค่​วัน​ละ 1 มื้อ​เท่า​นั้น แต่​พวก​เขา​ก็​เต็ม​ใจ​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​มี​ให้​พวก​เรา​เสมอ ใน​ช่วง​ที่​พัก​อยู่​กับ​ครอบครัว​นี้​ฉัน​กับ​สามี​ได้​เรียน​หลาย​อย่าง​ที่​ช่วย​ให้​เรา​ใช้​ชีวิต​มิชชันนารี​ได้ เช่น เรา​ได้​เรียน​รู้​วิธี​ประหยัด​น้ำ​โดย​อาบ​น้ำ​แบบ​ใช้​น้ำ​น้อย ๆ แล้ว​ก็​เก็บ​น้ำ​ที่​ล้าง​ตัว​นั้น​มา​ราด​โถ​ส้วม​ด้วย ใน​ปี 1983 ฉัน​กับ​ไฮนซ์​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ใน​พื้น​ที่​ที่​ปลอด​ภัย​ใน​เมือง​กัมปาลา

เรา​มี​ความ​สุข​กับ​งาน​รับใช้​ที่​นั่น​มาก ฉัน​จำ​ได้​ว่า​มี​เดือน​หนึ่ง​เรา​ให้​วารสาร​ไป​มาก​กว่า 4,000 เล่ม และ​ผู้​คน​ที่​นั่น​ก็​สุด​ยอด​มาก พวก​เขา​นับถือ​พระเจ้า​และ​อยาก​คุย​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล ปกติ​แล้ว​ฉัน​กับ​ไฮนซ์​มี​นัก​ศึกษา​คน​ละ 10-15 ราย เรา​ได้​เรียน​หลาย​อย่าง​จาก​นัก​ศึกษา​ของ​เรา​ด้วย เช่น เรา​เห็น​ค่า​มาก​ที่​พวก​เขา​เดิน​ไป​หอ​ประชุม​โดย​ที่​ไม่​เคย​บ่น​และ​ยิ้ม​อย่าง​มี​ความ​สุข​ตลอด

ใน​ปี 1985 และ​ปี 1986 มี​สงคราม​กลาง​เมือง​เกิด​ขึ้น​อีก 2 ครั้ง​ที่​ยูกันดา เรา​มัก​จะ​เห็น​เด็ก ๆ ที่​ถูก​บังคับ​ให้​เป็น​ทหาร​ถือ​ปืน​ไรเฟิล​และ​อยู่​ตาม​ด่าน​ต่าง ๆ ใน​ช่วง​เวลา​นั้น​ตอน​ที่​เรา​ไป​หา​คน​ที่​สนใจ​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล เรา​จะ​อธิษฐาน​ขอ​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา​และ​ขอ​พระองค์​ช่วย​ให้​เรา​สงบ​ใจ และ​พระ​ยะโฮวา​ก็​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา พอ​ได้​เจอ​คน​ที่​สนใจ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า เรา​ก็​ลืม​ความ​กลัว​ไป​เลย

ไฮนซ์​กับ​ฉัน​และ​ตัตยานา (คน​กลาง)

เรา​ยัง​ชอบ​ประกาศ​กับ​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​อยู่​ใน​ยูกันดา​ด้วย เรา​ได้​ศึกษา​กับ​มูรัต​และ​ดิลบาร์ อิเบตุ​ลลิน ที่​มา​จาก​สาธารณรัฐ​ตาตาร์สถาน​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตอน​กลาง​ของ​รัสเซีย มูรัต​เป็น​หมอ เขา​กับ​ภรรยา​เข้า​มา​ใน​ความ​จริง​และ​รับใช้​อย่าง​กระตือรือร้น​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ต่อ​มา ฉัน​ก็​ได้​เจอ​กับ​ตัตยานา วีเลย์สกา เธอ​มา​จาก​ยูเครน ตัตยานา​มี​อาการ​ซึมเศร้า​มาก​จน​เคย​คิด​จะ​ฆ่า​ตัว​ตาย แต่​หลัง​จาก​ที่​เธอ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​รับ​บัพติศมา​แล้ว เธอ​ก็​ย้าย​กลับ​ไป​ที่​ยูเครน และ​ต่อ​มา​เธอ​ก็​ช่วย​ทำ​งาน​แปล​หนังสือ​ของ​องค์การ​ด้วยa

งาน​มอบหมาย​ใหม่

ใน​ปี 1991 ตอน​ที่​ฉัน​กับ​ไฮนซ์​ลา​พัก​อยู่​ที่​ออสเตรีย เรา​ได้​รับ​การ​ติด​ต่อ​จาก​สำนักงาน​สาขา​ที่​ออสเตรีย​ว่า​เรา​ได้​รับ​งาน​มอบหมาย​ใหม่​ให้​ไป​รับใช้​ที่​บัลแกเรีย หลัง​จาก​ระบบ​คอมมิวนิสต์​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ออก​ล่ม​สลาย งาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​บัลแกเรีย​ก็​ได้​รับ​การ​รับ​รอง​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย ก่อน​หน้า​นี้​ฉัน​กับ​ไฮนซ์​เคย​แอบ​เอา​หนังสือ​เข้า​ไป​ใน​บัลแกเรีย​มา​แล้ว​ตอน​ที่​งาน​ประกาศ​ถูก​สั่ง​ห้าม แต่​ตอน​นี้​เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​ประกาศ​ที่​นั่น

เรา​ได้​รับ​คำ​แนะ​นำ​ว่า​ไม่​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​ยูกันดา เรา​เลย​ไม่​ได้​เก็บ​ข้าว​เก็บ​ของ​และ​บอก​ลา​เพื่อน ๆ ที่​นั่น เรา​เดิน​ทาง​จาก​ออสเตรีย​ไป​ที่​เบเธล​เยอรมนี​เพื่อ​ไป​เอา​รถ​แล้ว​ก็​ขับ​ไป​ที่​บัลแกเรีย พอ​ไป​ถึง เรา​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​สมทบ​กับ​กลุ่ม​พี่​น้อง​ซึ่ง​มี​ผู้​ประกาศ​ประมาณ 20 คน​ใน​เมือง​โซเฟีย

ตอน​ที่​รับใช้​ใน​บัลแกเรีย เรา​เจอ​ข้อ​ท้าทาย​ใหม่ ๆ หลาย​อย่าง เช่น เรา​พูด​ภาษา​บัลแกเรีย​ไม่​ได้ นอกจากนั้น มี​หนังสือ​ใน​ภาษา​บัลแกเรีย​แค่ 2 เล่ม​ก็​คือ​หนังสือ​ความ​จริง​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​ถาวร และ​หนังสือ​ของ​ฉัน​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​ราว​ใน​พระ​คัมภีร์​ไบเบิ้ล นอกจากนั้น การ​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​ยาก​มาก แต่​ถึง​แม้​จะ​เจอ​กับ​ข้อ​ท้าทาย​เหล่า​นี้ พี่​น้อง​ใน​กลุ่ม​เล็ก ๆ ของ​เรา​ก็​ประกาศ​อย่าง​กระตือรือร้น แต่​คน​ใน​คริสตจักร​ออร์โทด็อกซ์​ไม่​ชอบ​ที่​เรา​ประกาศ พวก​เขา​ก็​เลย​เริ่ม​ข่มเหง​เรา

ใน​ปี 1994 รัฐบาล​บัลแกเรีย​ยก​เลิก​การ​จด​ทะเบียน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา หลาย​คน​ก็​เลย​ทำ​เหมือน​กับ​ว่า​เรา​เป็น​ลัทธิ​อันตราย พี่​น้อง​หลาย​คน​ถูก​จับ และ​เนื่อง​จาก​พวก​เรา​ไม่​ยอม​เติม​เลือด สื่อ​ต่าง ๆ เลย​แพร่​คำ​โกหก​เกี่ยว​กับ​เรา​โดย​อ้าง​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ใช่​แค่​ฆ่า​ลูก​ของ​ตัว​เอง​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ยุยง​ให้​สมาชิก​คน​อื่น ๆ ฆ่า​ตัว​ตาย​ด้วย ฉัน​กับ​ไฮนซ์​ทำ​งาน​ประกาศ​ยาก​มาก มี​หลาย​ครั้ง​ที่​ผู้​คน​ตะโกน​ใส่​หน้า​เรา เรียก​ตำรวจ​มา​จับ​เรา หรือ​ขว้าง​ปา​ข้าว​ของ​ใส่​เรา การ​เอา​หนังสือ​ของ​องค์การ​เข้า​มา​ใน​ประเทศ​ก็​ยาก​มาก แถม​การ​เช่า​สถาน​ที่​เพื่อ​จัด​การ​ประชุม​ก็​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​ด้วย มี​อยู่​ครั้ง​หนึ่ง​ตอน​ที่​เรา​จัด​การ​ประชุม​ใหญ่ ตำรวจ​ได้​บุก​เข้า​มา​และ​สั่ง​ให้​เรา​หยุด​การ​ประชุม เรา​สอง​คน​ไม่​เคย​เจอ​คน​ที่​เก​ลี​ยด​เรา​มาก​ขนาด​นี้ มัน​ไม่​เหมือน​กับ​เขต​งาน​ใน​ยูกันดา​เลย ที่​นั่น​เรา​เจอ​แต่​คน​ใจ​ดี​ที่​อยาก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล แล้ว​อะไร​ช่วย​เรา​ให้​รับมือ​กับ​เรื่อง​พวก​นี้​ได้?

เรา​ใช้​เวลา​กับ​พี่​น้อง​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ช่วย​เรา​ได้​มาก พี่​น้อง​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​เจอ​ความ​จริง​และ​เห็น​ค่า​ที่​เรา​มา​ช่วย​พวก​เขา พี่​น้อง​ทุก​คน​พยายาม​สนิท​กัน​และ​ช่วยเหลือ​กัน​เสมอ เรา​ได้​เรียน​จาก​ประสบการณ์​นี้​ว่า เรา​สามารถ​มี​ความ​สุข​กับ​งาน​มอบหมาย​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​ได้​รับ​ถ้า​เรา​สนใจ​ผู้​คน​แทน​ที่​จะ​สนใจ​ปัญหา​ของ​เรา

มารีอันเน​กับ​ไฮนซ์ เวิร์ทโฮลซ์

ที่​สำนัก​สาขา​บัลแกเรีย ปี 2007

แต่​พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​สิ่ง​ต่าง ๆ ก็​เริ่ม​ดี​ขึ้น ใน​ปี 1998 รัฐบาล​บัลแกเรีย​อนุญาต​ให้​เรา​จด​ทะเบียน​เป็น​ศาสนา​อีก​ครั้ง และ​สิ่ง​พิมพ์​หลาย​เล่ม​ของ​เรา​ก็​ได้​รับ​การ​แปล​เป็น​ภาษา​บัลแกเรีย ใน​ปี 2004 มี​การ​อุทิศ​สำนักงาน​สาขา​ใหม่​ที่​นั่น และ​ทุก​วัน​นี้​มี​ผู้​ประกาศ​ใน​บัลแกเรีย​ถึง 2,953 คน​และ​มี 57 ประชาคม ใน​ปี​การ​รับใช้ 2024 มี​ยอด​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​อนุสรณ์​มาก​ถึง 6,475 คน จาก​ตอน​แรก​ที่​มี​พี่​น้อง​หญิง​แค่ 5 คน​ใน​เมือง​โซเฟีย ตอน​นี้​เรา​มี​ถึง 9 ประชาคม​ที่​นั่น เรา​ได้​เห็น​คำ​พยากรณ์​นี้​เป็น​จริง​เลย​ที่​ว่า “คน​จำนวน​น้อย​จะ​เพิ่ม​เป็น​จำนวน​พัน”—อสย. 60:22

รับมือ​กับ​ปัญหา​ส่วน​ตัว

ฉัน​เอง​ก็​มี​ปัญหา​สุขภาพ​หลาย​อย่าง ตลอด​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา ฉัน​มี​เนื้อ​งอก​ขึ้น​มา​หลาย​ที่​และ​มี​เนื้อ​งอก​ใน​สมอง​ก้อน​หนึ่ง​ด้วย ฉัน​ได้​รับ​การ​รักษา​โดย​การ​ฉาย​รังสี และ​ได้​เดิน​ทาง​ไป​ที่​อินเดีย​เพื่อ​จะ​ผ่าตัด​เอา​เนื้อ​งอก​ออก หมอ​ผ่าตัด​นาน​ถึง 12 ชั่วโมง​และ​สามารถ​เอา​เนื้อ​งอก​ออก​ไป​ได้​เกือบ​ทั้ง​หมด หลัง​จาก​นั้น ฉัน​ก็​พักฟื้น​อยู่​ที่​สำนักงาน​สาขา​อินเดีย และ​พอ​รู้สึก​ดี​ขึ้น​ฉัน​ก็​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​บัลแกเรีย

ช่วง​นั้น​ไฮนซ์​เริ่ม​เป็น​โรค​ทาง​พันธุกรรม​ที่​หา​ยาก​ที่​เรียก​ว่า​โรค​ประสาท​ชัก​กระตุก โรค​นี้​ทำ​ให้​เขา​มี​ปัญหา​เรื่อง​การ​เดิน การ​พูด และ​การ​ควบคุม​กล้ามเนื้อ ยิ่ง​เวลา​ผ่าน​ไป​ฉัน​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ช่วย​ไฮนซ์​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ บาง​ครั้ง​ฉัน​รู้สึก​เหนื่อย​มาก​และ​กังวล​ว่า​ฉัน​จะ​ดู​แล​เขา​ต่อ​ไป​ได้​หรือ​เปล่า แต่​ช่วง​เวลา​นั้น​เอง มี​พี่​น้อง​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​ชื่อ​บ็อบบี้​ชอบ​ชวน​ไฮนซ์​ไป​ประกาศ​บ่อย ๆ บ็อบบี้​ไม่​อาย​ตอน​ที่​ไฮนซ์​พูด​ไม่​ชัด​หรือ​ทำ​อะไร​ได้​ลำบาก ตอน​ที่​ฉัน​ดู​แล​ไฮนซ์​ไม่​ไหว บ็อบ​บี้​ก็​เป็น​ที่​พึ่ง​ให้​ฉัน​ได้​เสมอ ถึง​แม้​ว่า​ฉัน​กับ​ไฮนซ์​จะ​ไม่​มี​ลูก แต่​เรา​สอง​คน​รู้สึก​เลย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ให้​บ็อบบี้​มา​เป็น​เหมือน​ลูก​ชาย​ของ​เรา—มก. 10:29, 30

นอกจากนั้น​ไฮนซ์​ยัง​เป็น​มะเร็ง​ด้วย น่า​เศร้า​ที่​เขา​จาก​ฉัน​ไป​ใน​ปี 2015 ฉัน​คิด​ถึง​เขา​มาก​เพราะ​เขา​เป็น​คน​ที่​คอย​ทำ​ให้​ฉัน​หาย​กังวล ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​จริง ๆ เลย​ว่า​ไฮนซ์​ไม่​อยู่​แล้ว ถึงอย่างนั้น ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​ฉัน ภาพ​ของ​เขา​ก็​ยัง​ชัดเจน​อยู่​เสมอ (ลก. 20:38) ฉัน​ยัง​จำ​คำ​พูด​และ​คำ​แนะ​นำ​ของ​เขา​ได้​ดี ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​เรา​ได้​รับใช้​ด้วย​กัน​มา​นาน​หลาย​ปี

ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ช่วย​ฉัน

พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ให้​ฉัน​รับมือ​กับ​ความ​ยาก​ลำบาก​ทุก​อย่าง​ได้ และ​พระองค์​ยัง​ช่วย​ฉัน​ให้​เอา​ชนะ​ความ​ขี้อาย​และ​กลาย​เป็น​มิชชันนารี​ที่​รัก​และ​ห่วงใย​คน​อื่น​ด้วย (2 ทธ. 1:7) นอกจากนั้น ฉัน​ยัง​ต้อง​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ที่​พระองค์​ช่วย​ให้​ตอน​นี้​ทั้ง​ฉัน​และ​น้อง​สาว​ยัง​คง​รับใช้​เต็ม​เวลา​อยู่ ทุก​วัน​นี้​น้อง​สาว​กับ​สามี​ของ​เธอ​ทำ​งาน​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ใน​ยุโรป​ที่​ใช้​ภาษา​เซอร์เบีย เห็น​ได้​ชัด​เลย​ว่า​คำ​อธิษฐาน​ของ​พ่อ​เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อน​กลาย​เป็น​จริง

การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว​ช่วย​ให้​ฉัน​มี​ความ​สงบ​ใจ และ​ตอน​ที่​ฉัน​รู้สึก​แย่​ฉัน​ก็​จะ “อธิษฐาน​อ้อน​วอน​อย่าง​หนัก” เหมือน​ที่​พระ​เยซู​ทำ (ลก. 22:44) วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ตอบ​ฉัน​ก็​คือ​โดย​ผ่าน​ทาง​พี่​น้อง​ที่​น่า​รัก​ใน​ประชาคม​นา​เดช​ดา​ใน​เมือง​โซเฟีย พวก​เขา​ชอบ​ชวน​ฉัน​ไป​ทำ​อะไร ๆ ด้วย​กัน​และ​แสดง​ความ​รัก​กับ​ฉัน​บ่อย ๆ ซึ่ง​นี่​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​สุข​มาก

ฉัน​มัก​จะ​คิด​ถึง​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​อยู่​บ่อย ๆ ฉัน​ชอบ​นึก​ภาพ​ใน​โลก​ใหม่ ตอน​ที่​พ่อ​แม่​ยืน​อยู่​หน้า​บ้าน พวก​เขา​ดู​เป็น​หนุ่ม​เป็น​สาว​เหมือน​เพิ่ง​แต่งงาน​กัน​ใหม่ ๆ ฉัน​เห็น​น้อง​สาว​กำลัง​ทำ​อาหาร และ​เห็น​ไฮนซ์​กำลัง​จูง​ม้า​ของ​เขา ภาพ​แบบ​นี้​แหละ​ที่​ทำ​ให้​ฉัน​มี​ความ​สุข​มาก มัน​ช่วย​ให้​ฉัน​อดทน​ได้​และ​ใจ​ของ​ฉัน​รู้สึก​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​เสมอ

เมื่อ​คิด​ถึง​สิ่ง​ดี ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​ให้​กับ​ฉัน​มา​แล้ว และ​คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​พระองค์​จะ​ทำ​เพื่อ​ฉัน​ใน​อนาคต มัน​ทำ​ให้​ฉัน​รู้สึก​เหมือน​กับ​ดาวิด​ที่​พูด​ไว้​ใน​สดุดี 27:13, 14 ว่า “ถ้า​ผม​ไม่​เชื่อ​ว่า​จะ​ได้​เห็น​ความ​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​เมื่อ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ ตอน​นี้​ผม​จะ​เป็น​อย่างไร? รอ​คอย​พระ​ยะโฮวา​เถอะ กล้า​หาญ​และ​เข้มแข็ง​เข้า​ไว้ รอ​คอย​พระ​ยะโฮวา​เถอะ”

a ดู​เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง​ของ​พี่​น้อง​ตัตยานา วีเลย์สกา​ใน​ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) 22 ธันวาคม 2000 น. 20-24

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์