16-22 มีนาคม 2026
เพลง 20 พระองค์สละลูกที่รักเพื่อเรา
ทำไมเราต้องมีค่าไถ่?
“ใครจะช่วยผมให้พ้นจากร่างกายที่ต้องตายนี้ได้?”—รม. 7:24
จุดสำคัญ
มาดูว่าค่าไถ่ช่วยเรายังไงให้ได้รับการอภัยบาป สามารถกลับมาเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบได้อีกครั้ง และกลับมาคืนดีกับพระเจ้า
1-2. เราต้องได้รับความช่วยเหลือให้พ้นจากอะไร? และทำไม? (โรม 7:22-24) (ดูภาพด้วย)
ลองนึกภาพฉากเหตุการณ์ต่อไปนี้ มีตึกหลังหนึ่งถล่มลงมาและมีผู้ชายคนหนึ่งติดอยู่ในนั้น เขายังไม่ตายแต่ขยับตัวไม่ได้เพราะเศษซากของตึกทับเขาอยู่ เขาตกอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เขาทำได้แค่ร้องขอความช่วยเหลือและหวังว่าจะมีใครสักคนมาช่วยเขา
2 เราทุกคนก็เป็นเหมือนกับผู้ชายคนนี้ เมื่ออาดัมกบฏต่อพระยะโฮวา เขาก็กลายเป็นคนบาปและได้ส่งต่อความบาปให้กับลูกหลานของเขา ผลก็คือมนุษย์ทุกคนกลายเป็นคนบาปและไม่มีทางหนีพ้นจากผลของบาปได้ สภาพของเราเป็นเหมือนผู้ชายที่ติดอยู่ใต้ซากตึกและไม่มีทางออกมาได้ด้วยตัวเอง ในจดหมายที่เปาโลเขียนถึงคริสเตียนในกรุงโรม เขาพรรณนาสภาพของคนบาปได้อย่างชัดเจน (อ่านโรม 7:22-24) ในจดหมายนั้น เปาโลอ้อนวอนขอให้ได้รับการช่วย “ให้พ้นจากร่างกายที่ต้องตายนี้” เขาติดอยู่ในสภาพของการเป็นคนบาปและในที่สุดก็ต้องตาย ไม่มีทางหนีพ้นได้ (รม. 6:23) เราทุกคนก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเปาโลและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ
เหมือนผู้ชายที่ติดอยู่ใต้ซากตึกและไม่มีทางออกมาได้ด้วยตัวเอง เราก็ติดอยู่ในสภาพของการเป็นคนบาปและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ (ดูข้อ 1-2)
3. ค่าไถ่ช่วยเรายังไงบ้าง?
3 แต่คำพูดของเปาโลไม่ได้จบแค่การพูดถึงสภาพที่ย่ำแย่ของการเป็นคนบาปเท่านั้น หลังจากที่พูดว่า “ใครจะช่วยผมให้พ้นจากร่างกายที่ต้องตายนี้ได้?” เขาก็พูดออกมาด้วยความรู้สึกมั่นใจว่า “ขอขอบคุณพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ผู้เป็นนายของเรา” (รม. 7:25) เปาโลกำลังพูดถึงค่าไถ่ของพระเยซูa ซึ่งค่าไถ่นี้ช่วยเราให้ (1) ได้รับการอภัยบาป (2) สามารถกลับมาเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบได้อีกครั้ง และ (3) กลับมาคืนดีกับพระเจ้า ตอนที่เราคุยกันเกี่ยวกับจุดต่าง ๆ เหล่านี้เราจะยิ่งรักพระยะโฮวา “พระเจ้าผู้ทำให้ . . . มีความหวัง” (รม. 15:13) และจะช่วยให้เรารู้สึกขอบคุณพระเยซูเพราะ “ลูกของพระเจ้าท่านนี้ปลดปล่อยเราด้วยค่าไถ่”—คส. 1:14
ค่าไถ่ช่วยให้เราได้รับการอภัยบาป
4-5. ทำไมเราทุกคนถึงจำเป็นต้องมีค่าไถ่? (ปัญญาจารย์ 7:20)
4 เราจำเป็นต้องมีค่าไถ่เพื่อจะได้รับการอภัยบาป เราทุกคนที่เป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบทำบาปทั้งโดยทางคำพูดและการกระทำ (อ่านปัญญาจารย์ 7:20) บาปบางอย่างก็เป็นบาปที่ร้ายแรง เช่น การเล่นชู้และการฆ่าคนเป็นบาปร้ายแรงที่ต้องถูกลงโทษถึงตายตามที่กฎหมายของโมเสสบอกไว้ (ลนต. 20:10; กดว. 35:30, 31) แม้บาปบางอย่างจะไม่ใช่บาปร้ายแรง แต่มันก็ยังเป็นบาปอยู่ดี เช่น ดาวิดบอกว่า “ผมจะระวังตัว จะได้ไม่พูดสิ่งที่เป็นบาป” (สด. 39:1) ข้อนี้ทำให้เห็นว่าบางครั้งบาปที่เราทำเกี่ยวข้องกับคำพูดของเรา—ยก. 3:2
5 ลองคิดถึงสิ่งที่คุณเคยพูดและทำ คุณเคยพูดอะไรบางอย่างออกไปแล้วรู้สึกว่าไม่น่าพูดเลยไหม? หรือคุณเคยทำผิดพลาดบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเสียใจทีหลังไหม? คุณคงตอบว่าเคยแน่นอน คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ถ้าเราบอกว่า ‘เราไม่มีบาป’ เราก็หลอกตัวเองและไม่ได้เชื่อความจริง”—1 ยน. 1:8
6-7. อะไรคือสิ่งที่ช่วยให้พระยะโฮวาสามารถให้อภัยบาปของเราได้? (ดูภาพด้วย)
6 เนื่องจากพระยะโฮวามีมาตรฐานความยุติธรรมของพระองค์ และความยุติธรรมของพระองค์สมบูรณ์แบบ พระองค์เลยต้องให้มีสิ่งที่จะช่วยพระองค์สามารถให้อภัยบาปเราได้ สิ่งนั้นก็คือค่าไถ่ (อฟ. 1:7) แต่นี่หมายความว่าพระยะโฮวาทำเป็นมองไม่เห็นบาปหรือความผิดที่เราทำเหมือนกับว่ามันไม่สำคัญไหม? ไม่เลย บาปเป็นสิ่งที่พระยะโฮวามองข้ามไม่ได้—อสย. 59:2
7 กฎหมายของโมเสสบอกว่าชาวอิสราเอลต้องถวายสัตว์เป็นเครื่องบูชาเพื่อไถ่บาปของพวกเขา (ลนต. 4:27-31; 17:11) เครื่องบูชาเหล่านี้แสดงให้เห็นล่วงหน้าถึงการสละชีวิตของพระเยซูที่ยิ่งใหญ่กว่าและทำให้มนุษย์ได้รับพรมากกว่า การสละชีวิตของพระเยซูทำให้พระยะโฮวาสามารถให้อภัยบาปของเราได้ สิ่งที่เปาโลเขียนถึงคริสเตียนในเมืองโครินธ์ทำให้เห็นว่าเปาโลเข้าใจดีว่าการสละชีวิตของพระเยซูมีค่ามากแค่ไหน หลังจากที่เปาโลพูดถึงการกระทำที่ไม่ดีหลายอย่างที่คริสเตียนในเมืองโครินธ์เคยทำ เปาโลก็บอกกับพวกเขาว่า “พระเจ้าชำระพวกคุณให้สะอาดแล้ว พระองค์ทำให้บริสุทธิ์แล้ว และถือว่าพวกคุณเป็นที่ยอมรับของพระองค์ในนามพระเยซูคริสต์ผู้เป็นนายและด้วยพลังของพระองค์”—1 คร. 6:9-11
เครื่องบูชาที่เป็นสัตว์สำหรับการไถ่บาปเป็นภาพแสดงให้เห็นล่วงหน้าว่าต้องมีค่าไถ่ของพระเยซูเพื่อเราจะได้รับการไถ่บาปและได้รับประโยชน์จากค่าไถ่ (ดูข้อ 6-7)
8. คุณคิดถึงอะไรได้บ้างตอนที่เตรียมตัวจะเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ในปีนี้?
8 ตอนที่คุณเตรียมตัวจะเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ในปีนี้ ให้ใช้เวลาคิดว่าการให้อภัยจากพระยะโฮวามีค่ามากแค่ไหนสำหรับคุณ ตัวอย่างเช่น เพราะพระยะโฮวาจัดเตรียมค่าไถ่ คุณเลยไม่ต้องรู้สึกผิดมากเกินไปกับบาปที่เคยทำเพราะคุณกลับใจแล้ว แต่ถ้าคุณยังรู้สึกผิดไม่หายล่ะ? บางทีคุณอาจจะพูดกับตัวเองว่า ‘ฉันรู้นะว่าพระยะโฮวาให้อภัยฉันแล้ว แต่ฉันให้อภัยตัวเองไม่ได้เลย’ ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นขอให้จำไว้ว่าพระยะโฮวาคือผู้ที่ให้อภัยบาป และพระองค์ก็ให้อำนาจพระเยซูมีหน้าที่ที่จะตัดสินว่าใครสมควรได้รับการอภัยหรือไม่ให้อภัย พระองค์ไม่ได้ให้หน้าที่นี้กับคุณหรือมนุษย์คนไหนเลย คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ถ้าเราเดินอยู่ในความสว่างอย่างที่ [พระยะโฮวา] อยู่ในความสว่าง . . . เลือดของพระเยซูลูกของพระองค์จะลบล้างบาปทั้งหมดของเรา” (1 ยน. 1:6, 7) เรามั่นใจในเรื่องนี้ได้เหมือนกับที่เรามั่นใจในคำสอนอื่น ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล ค่าไถ่ทำให้พระยะโฮวาสามารถให้อภัยบาปเราได้ และคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระองค์ “พร้อมจะให้อภัย”—สด. 86:5
ค่าไถ่ช่วยให้เรากลับมาเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบได้อีกครั้ง
9. นอกจากการทำผิดแล้ว บาปยังหมายถึงอะไรอีก? (สดุดี 51:5)
9 ในคัมภีร์ไบเบิล คำว่า “บาป” ไม่ใช่แค่การทำผิดเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสภาพของการเป็นคนบาปตั้งแต่ตอนที่เราเกิดมา (อ่านสดุดี 51:5) บาปทำให้เราไม่เพียงแต่มีแนวโน้มที่จะทำผิดเท่านั้น แต่ยังทำให้เรามีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แบบซึ่งทำให้เราต้องเจ็บป่วย แก่ลง และตาย นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำไมแม้แต่เด็กทารกที่ยังไม่เคยทำผิดอะไรเลยก็ยังป่วยและตายได้ และนี่ยังช่วยให้เราเข้าใจด้วยว่าทำไมทั้งคนชั่วและคนดีก็ยังต้องตาย เราซึ่งเป็นลูกหลานของอาดัมอยู่ในสภาพของการเป็นคนบาปกันทุกคน
10. สภาพของการเป็นคนบาปมีผลยังไงกับอาดัมและเอวา?
10 ลองคิดดูว่าสภาพของการเป็นคนบาปมีผลยังไงกับอาดัมและเอวา หลังจากที่ทั้งสองคนกบฏต่อพระเจ้า พวกเขาก็ได้รับผลทันทีจากการฝ่าฝืน ‘กฎหมายที่อยู่ในใจเขา’ (รม. 2:15) พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง พวกเขารู้สึกว่าต้องหาอะไรมาปกปิดร่างกายและซ่อนตัวจากพระยะโฮวา (ปฐก. 3:7, 8) นี่เป็นครั้งแรกที่อาดัมกับเอวารู้สึกผิด กังวล กระวนกระวายใจ เจ็บปวดใจ และอับอาย และพวกเขาต้องรู้สึกแบบนี้ไปจนวันตาย—ปฐก. 3:16-19
11. สภาพของการเป็นคนบาปมีผลยังไงกับเรา?
11 สภาพของการเป็นคนบาปมีผลกับเราเหมือนที่มีผลกับอาดัมและเอวา การที่เราเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจก็มีสาเหตุมาจากบาป ต่อให้เราพยายามมากแค่ไหนที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตและหลีกเลี่ยงปัญหา เราก็ยังต้องเจอกับปัญหาที่เราไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะอะไร? เพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าเรา “ตกอยู่ในสภาพที่ไร้ประโยชน์” (รม. 8:20) นี่เป็นความจริงไม่ใช่เฉพาะแค่เราเป็นส่วนตัว แต่มนุษย์ทั้งโลกด้วย ตัวอย่างเช่น ลองคิดดูสิว่ามนุษย์ทุ่มเทความพยายามมากขนาดไหนที่จะจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ขจัดความยากจน และยุติสงคราม แม้พวกเขาอาจทำสำเร็จอยู่บ้าง แต่ความพยายามของพวกเขาก็ไร้ประโยชน์ แล้วค่าไถ่จะช่วยเราให้พ้นจากความบาปได้ยังไง?
12. ค่าไถ่ทำให้เรามีความหวังอะไร?
12 ค่าไถ่ทำให้เรามีความหวังว่า “สิ่งที่พระเจ้าสร้างจะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสความเสื่อม” (รม. 8:21) เมื่อมีการใช้คุณค่าของค่าไถ่อย่างเต็มที่ในโลกใหม่ เราก็จะไม่ต้องเจอกับความเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจอีกเลย เราจะหลุดพ้นจากความรู้สึกผิด กังวล กระวนกระวายใจ เจ็บปวดใจ และอับอาย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่คอยกัดกินหัวใจของเรา ไม่เพียงเท่านั้น ความพยายามของเราที่จะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทำให้โลกมีสันติสุขจะไม่ไร้ประโยชน์ แต่มันจะประสบความสำเร็จแน่นอนภายใต้การปกครองของพระเยซูคริสต์ “เจ้าชายแห่งสันติสุข” ผู้สละตัวเองเป็นค่าไถ่ให้เรา—อสย. 9:6, 7
13. มีอะไรอีกที่คุณจะคิดถึงได้ตอนที่เตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ในปีนี้?
13 ลองนึกดูสิว่าชีวิตคุณจะเป็นยังไงเมื่อได้รับการช่วยให้พ้นจากสภาพของการเป็นคนบาป คุณจะตื่นนอนอย่างสดชื่นทุกเช้า คุณหรือคนที่คุณรักจะไม่ต้องกลัวว่าจะต้องหิว เจ็บป่วย หรือต้องตายอีกเลย แม้แต่ในตอนนี้คุณก็มีความสงบใจได้ เพราะคุณ “ยึดมั่นกับความหวัง . . . ความหวังนี้เป็นเหมือนสมอเรือของชีวิตที่มั่นคงแน่นอน” (ฮบ. 6:18, 19) เหมือนกับสมอเรือที่ช่วยให้เรือไม่ลอยไปในทะเลอย่างไร้จุดหมาย ความหวังของคริสเตียนก็ช่วยให้ความเชื่อของคุณไม่สั่นคลอนและช่วยให้คุณอดทนกับปัญหาทุกอย่างที่เจอในตอนนี้ได้ คุณมั่นใจได้แน่นอนว่าพระยะโฮวาจะ “ให้รางวัลกับคนที่เสาะหาพระองค์อย่างจริงจัง” (ฮบ. 11:6) ที่คุณมีกำลังใจในตอนนี้และมีความหวังเกี่ยวกับอนาคตได้ก็เป็นเพราะค่าไถ่ที่พระยะโฮวาให้กับคุณ
ค่าไถ่ช่วยให้เราคืนดีกับพระเจ้า
14. บาปมีผลยังไงกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระยะโฮวา? และเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น?
14 ตั้งแต่ตอนที่อาดัมกับเอวาทำบาป มนุษย์ก็อยู่ห่างไกลจากพระเจ้าและไม่สามารถมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระองค์ได้ คัมภีร์ไบเบิลถึงกับบอกว่ามนุษยชาติเป็นศัตรูกับพระเจ้าผู้สร้างพวกเขา (รม. 8:7, 8; คส. 1:21) ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? มาตรฐานความยุติธรรมที่สมบูรณ์แบบของพระยะโฮวาทำให้พระองค์มองข้ามบาปไม่ได้ คัมภีร์ไบเบิลพูดเกี่ยวกับพระยะโฮวาว่า “ตาของพระองค์บริสุทธิ์เกินกว่าจะมองดูสิ่งชั่วช้า พระองค์ทนดูความชั่วไม่ได้” (ฮบก. 1:13) มันเหมือนกับว่าบาปได้สร้างรอยร้าวขนาดใหญ่ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ไม่มีใครในพวกเราสามารถมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาได้ เว้นแต่จะมีการสมานรอยร้าวนั้นและทำให้เราสามารถกลับมาคืนดีกับพระองค์ สิ่งที่ช่วยเราได้มีเพียงอย่างเดียวก็คือค่าไถ่
15. ค่าไถ่ช่วยให้มนุษย์กลับมาคืนดีกับพระยะโฮวาได้ยังไง?
15 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระเยซูเป็น “เครื่องบูชาไถ่บาปของเราเพื่อให้เราคืนดีกับพระเจ้า” (1 ยน. 2:2) แล้วค่าไถ่ของพระเยซูช่วยให้เราคืนดีกับพระยะโฮวาได้ยังไง? ค่าไถ่คือสิ่งที่สอดคล้องกับมาตรฐานความยุติธรรมของพระยะโฮวา สิ่งนี้เองที่ช่วยให้มนุษย์กลับมาคืนดีและมีโอกาสสนิทกับพระองค์ได้เหมือนเดิม (รม. 3:23-26) ค่าไถ่นี้ยังทำให้พระยะโฮวาสามารถมองว่าผู้รับใช้ของพระองค์ที่ตายไปแล้วก่อนสมัยของพระเยซูเป็นคนที่มีความถูกต้องชอบธรรมด้วย (ปฐก. 15:1, 6, เชิงอรรถ) ที่พระยะโฮวามองอย่างนั้นได้ก็เพราะพระองค์มั่นใจแน่นอนว่าพระเยซูจะเต็มใจสละชีวิตเป็นค่าไถ่ (อสย. 46:10) ค่าไถ่จึงเปิดโอกาสให้มนุษย์กลับมาคืนดีกับพระเจ้าได้
16. ยังมีอะไรอีกที่คุณจะคิดถึงได้ตอนที่เตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ปีนี้? (ดูภาพด้วย)
16 ลองคิดดูว่าเมื่อคุณได้กลับมาคืนดีกับพระยะโฮวา มันมีผลกับตัวคุณมากขนาดไหนในตอนนี้ คุณสามารถเรียกพระองค์ว่า “พ่อ” ได้อย่างที่พระเยซูสอนไว้ (มธ. 6:9) และคุณอาจถึงกับเรียกพระองค์ว่า “เพื่อน” ของคุณด้วย ตอนที่เราเรียกพระยะโฮวาว่า “พ่อ” และ “เพื่อน” เราต้องพูดในแบบที่แสดงถึงความเคารพยำเกรงและถ่อมตัวด้วย เพราะอะไร? เพราะตอนนี้เรายังเป็นคนบาป การที่เราสนิทกับพระองค์ได้ไม่ใช่เพราะตัวเราเอง แต่เพราะค่าไถ่ของพระเยซูเท่านั้น และโดยทางพระเยซู พระยะโฮวาสามารถ “ทำให้สิ่งอื่นทั้งหมดคืนดีกับพระเจ้า . . . การคืนดีนั้นเกิดขึ้นได้ด้วยเลือดที่ท่านหลั่งบนเสาทรมาน” (คส. 1:19, 20) นี่แหละเป็นเหตุผลที่เราสามารถมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาได้แม้แต่ตอนนี้ที่เราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ
การตายของพระเยซูเท่านั้นที่จะช่วยให้มนุษย์กลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวาเหมือนเดิม (ดูข้อ 16)
ค่าไถ่พิสูจน์ว่าพระยะโฮวาเมตตา
17. ค่าไถ่พิสูจน์ให้เห็นยังไงว่าพระยะโฮวาเมตตา? (เอเฟซัส 2:4, 5)
17 ค่าไถ่พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าพระยะโฮวา “มีเมตตาล้นเหลือ” พระองค์ “ทำให้เรามีชีวิต . . . แม้เราตายไปแล้วเพราะการทำผิด” (อ่านเอเฟซัส 2:4, 5) ผู้คนที่ “เต็มใจตอบรับความจริงซึ่งทำให้ได้ชีวิตตลอดไป” กำลังร้องขอความช่วยเหลือ พวกเขารู้ว่าตัวเองติดอยู่กับสภาพของการเป็นคนบาปและต้องได้รับการช่วยให้พ้นจากสภาพนี้ (กจ. 13:48) พระยะโฮวาก็ช่วยพวกเขาโดยให้มีการประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้า เพื่อพวกเขาจะมีโอกาสได้รู้จักกับพระองค์และพระเยซู (ยน. 17:3) ถ้าซาตานคิดว่าการล่อใจให้อาดัมกับเอวาทำผิดจะทำให้ความประสงค์ของพระเจ้าล้มเหลว มันก็คิดผิดจริง ๆ
18. ตอนที่เราคิดใคร่ครวญเรื่องค่าไถ่ เราต้องจำเหตุผลสำคัญอะไรไว้?
18 เมื่อเราคิดใคร่ครวญถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่เราได้จากค่าไถ่ เราต้องจำเหตุผลหลักที่พระยะโฮวาให้มีค่าไถ่ นั่นก็คือนี่เป็นสิ่งที่พระยะโฮวาใช้เพื่อตอบข้อกล่าวหาของซาตานที่มันยกขึ้นมาในสวนเอเดน พระองค์ไม่ได้ให้มีค่าไถ่เพื่อผลประโยชน์ของเราอย่างเดียวเท่านั้น (ปฐก. 3:1-5, 15) ค่าไถ่ทำให้ชื่อของพระยะโฮวาได้รับความเคารพนับถืออยู่เสมอและทำให้ชื่อของพระองค์พ้นจากคำตำหนิทุกอย่าง นอกจากนั้น พระยะโฮวาให้มีค่าไถ่เพื่อช่วยเราให้พ้นจากบาปและความตาย นี่แสดงให้เห็นเลยว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแห่งความรัก เนื่องจากพระยะโฮวาแสดงความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ต่อเรา พระองค์ก็เลยให้เรามีส่วนร่วมในการตอบข้อกล่าวหาของซาตานแม้ว่าเราจะเป็นคนบาป (สภษ. 27:11) แล้วคุณจะแสดงให้เห็นยังไงว่าคุณเห็นค่าที่พระยะโฮวาให้มีค่าไถ่? เราจะตอบคำถามนี้ในบทความถัดไป
เพลง 19 อาหารมื้อเย็นของพระคริสต์
a อธิบายคำศัพท์ คำว่าค่าไถ่คือราคาที่จ่ายเพื่อปลดปล่อยจากการถูกกักขังหรือกักตัว พระเยซูสละชีวิตเป็นค่าไถ่เพื่อปลดปล่อยมนุษย์ที่เชื่อฟังให้พ้นจากบาปและความตาย