ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ทำไมต้องใช้ชีวิตตามมาตรฐานในพระคัมภีร์?
    คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 2
    • บท 34

      ทำไม​ต้อง​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์?

      ที่​โรง​เรียน คุณ​กับ​เพื่อน​อีก​สอง​คน​กำลัง​นั่ง​ทาน​ข้าว​กัน แล้ว​แจ็ก​ก็​เดิน​มา.

      เพื่อน​คน​แรก​พูด​กับ​คุณ​ว่า “ฉัน​ว่า​แจ็ก​ชอบ​เธอ​นะ. ดู​เวลา​เขา​มอง​เธอ​สิ ตา​เยิ้ม​เชียว.”

      คน​ที่​สอง​ก็​ยื่น​หน้า​มา​กระซิบ​ว่า “เขา​ยัง​ไม่​มี​แฟน​ด้วย.”

      คุณ​รู้​ว่า​แจ็ก​ชอบ​คุณ​เพราะ​วัน​ก่อน​เขา​ชวน​คุณ​ไป​ปาร์ตี้​ที่​บ้าน. แน่นอน​คุณ​ปฏิเสธ แต่​ก็​อด​คิด​ไม่​ได้​ว่า​ถ้า​ไป​จะ​เป็น​อย่าง​ไร.

      ขณะ​ที่​คุณ​กำลัง​คิด เพื่อน​คน​แรก​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า

      “เสียดาย​ฉัน​มี​แฟน​แล้ว ไม่​งั้น​ฉัน​ควง​เขา​ไป​แล้ว​ล่ะ.”

      แล้ว​เพื่อน​คน​นั้น​ก็​หัน​มา​มอง​คุณ​ด้วย​ความ​สงสัย. คุณ​รู้​เลย​ว่า​เขา​จะ​พูด​อะไร​ต่อ.

      “แล้ว​ทำไม​เธอ​ไม่​มี​แฟน?” เขา​ถาม.

      คุณ​ไม่​อยาก​ได้​ยิน​คำ​ถาม​แบบ​นี้. ที่​จริง คุณ​ก็​อยาก​มี​แฟน แต่​รู้​ว่า​ต้อง​รอ​ให้​พร้อม​จะ​แต่งงาน​ก่อน​ถึง​จะ​มี​แฟน​ได้. แล้ว​ยัง . . .

      “ศาสนา​เธอ​ใช่​ไหม​ล่ะ?” เพื่อน​คน​ที่​สอง​ถาม.

      คุณ​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘เพื่อน​อ่าน​ใจ​ฉัน​ได้​อย่าง​ไร?’

      แล้ว​เขา​ก็​พูด​กระแนะกระแหน​ว่า “ชีวิต​เธอ​ก็​มี​แต่​พระ​คัมภีร์ พระ​คัมภีร์ พระ​คัมภีร์. ทำไม​ไม่​รู้​จัก​สนุก​อย่าง​คน​อื่น​บ้าง?”

      คุณ​เคย​ถูก​เยาะเย้ย​เพราะ​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​ไหม? ถ้า​อย่าง​นั้น คุณ​อาจ​สงสัย​ว่า​ชีวิต​คุณ​คง​ขาด​อะไร​ไป. เดโบรา​รู้สึก​อย่าง​นั้น เธอ​บอก​ว่า “มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​เข้มงวด​เกิน​ไป. ฉัน​อยาก​มี​อิสระ​เหมือน​เพื่อน ๆ ที่​โรง​เรียน.”

      มอง​ตาม​ความ​เป็น​จริง

      การ​เรียน​รู้​ด้วย​ประสบการณ์​ของ​ตัว​เอง​ไม่​ใช่​จะ​ดี​เสมอ​ไป. ที่​จริง พระ​คัมภีร์​แนะ​นำ​เรา​ให้​เรียน​รู้​จาก​ความ​ผิด​พลาด​ของ​คน​อื่น นั่น​เป็น​วิธี​ที่​ฉลาด. อาซาฟ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ทำ​อย่าง​นั้น. ช่วง​หนึ่ง​ท่าน​เคย​คิด​ว่า​มาตรฐาน​ของ​พระเจ้า​เข้มงวด​เกิน​ไป. แต่​พอ​ท่าน​สังเกต​ชีวิต​ของ​คน​ที่​ละ​ทิ้ง​แนว​ทาง​ของ​พระเจ้า ท่าน​จึง​รู้​ว่า​อะไร​เป็น​อะไร. ต่อ​มา ท่าน​สรุป​ว่า​พวก​เขา​ยืน​อยู่​ใน “ที่​ลื่น.”—บทเพลง​สรรเสริญ 73:18

      ที​นี้​ให้​มา​พิจารณา​ความ​คิด​เห็น​ของ​หนุ่ม​สาว​บาง​คน​ที่​เคย​ละ​ทิ้ง​มาตรฐาน​ของ​พระ​คัมภีร์​และ​มี​เซ็กซ์​ก่อน​แต่ง.

      ● อะไร​ทำ​ให้​คุณ​คิด​และ​ทำ​อย่าง​นั้น?

      เดโบรา: “ที่​โรง​เรียน ทุก​คน​มี​แฟน​และ​ดู​เหมือน​เขา​มี​ความ​สุข. เวลา​ไป​ไหน​มา​ไหน​กับ​พวก​เขา ฉัน​เห็น​พวก​เขา​กอด​กัน จูบ​กัน ฉัน​รู้สึก​อิจฉา​และ​เหงา. วัน ๆ ฉัน​จะ​ฝัน​หวาน​ถึง​หนุ่ม​ที่​ฉัน​ชอบ. ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​อยาก​อยู่​ใกล้​เขา.”

      ไมค์: “ผม​ชอบ​อ่าน​หนังสือ​หรือ​ดู​รายการ​ที่​พูด​ถึง​เรื่อง​เซ็กซ์ ผม​เลย​รู้สึก​ว่า​เซ็กซ์​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​ตื่นเต้น​น่า​ลอง. เมื่อ​คุย​กับ​เพื่อน ๆ เรื่อง​เซ็กซ์​ยิ่ง​ทำ​ให้​ผม​อยาก​รู้​อยาก​ลอง​มาก​ขึ้น. พอ​มี​โอกาส​อยู่​กับ​สาว​สอง​ต่อ​สอง ผม​คิด​ว่า​จะ​แค่​กอด​จูบ​ลูบ​คลำ​โดย​ไม่​มี​เซ็กซ์​และ​จะ​หยุด​เมื่อ​ไร​ก็​ได้ แต่​แล้ว​ก็​หยุด​ไม่​ได้.”

      แอนดรูว์: “ผม​ชอบ​ดู​ภาพ​โป๊​ทาง​อินเทอร์เน็ต เริ่ม​ดื่ม​จัด และ​ไป​ปาร์ตี้​กับ​เพื่อน​ที่​ไม่​ได้​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์.”

      เทรซี: “ฉัน​รู้​ว่า​การ​มี​เซ็กซ์​ก่อน​แต่ง​เป็น​เรื่อง​ผิด แต่​ไม่​ได้​รู้สึก​เกลียด. ฉัน​ไม่​ได้​ตั้งใจ​จะ​ทำ​ผิด แต่​อารมณ์​พา​ไป. ช่วง​นั้น​ฉัน​ไม่​ได้​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ทำ​ผิด​เพราะ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ด้าน​ชา​ไป​หมด.”

      ● การ​ใช้​ชีวิต​แบบ​นั้น​ทำ​ให้​คุณ​มี​ความ​สุข​ไหม?

      เดโบรา: “ตอน​แรก​ฉัน​ดีใจ​ที่​มี​อิสระ​และ​เข้า​กับ​เพื่อน ๆ ได้. แต่​ความ​รู้สึก​นั้น​อยู่​ไม่​นาน. ฉัน​เริ่ม​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​สกปรก ไม่​บริสุทธิ์ และ​ว่าง​เปล่า. ฉัน​เสียใจ​มาก​ที่​ยอม​เสีย​ตัว​ง่าย ๆ.”

      แอนดรูว์: “ผม​ทำ​ผิด​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ. ขณะ​เดียว​กัน ผม​ก็​ผิด​หวัง​กับ​ตัว​เอง​และ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​คน​เลว.”

      เทรซี: “การ​มี​เซ็กซ์​ก่อน​แต่ง​ทำลาย​ชีวิต​วัย​สาว​ของ​ฉัน. ฉัน​เคย​คิด​ว่า​ฉัน​กับ​แฟน​จะ​มี​ความ​สุข​มาก แต่​ไม่​เลย. เรา​ต่าง​ทำ​ให้​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​เจ็บ​ปวด​และ​ทุกข์​ทรมาน. ฉัน​ร้องไห้​ทุก​คืน​คิด​ว่า​ถ้า​ฉัน​ทำ​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ก็​คง​ดี.”

      ไมค์: “ผม​รู้สึก​เหมือน​ตาย​ทั้ง​เป็น. ผม​พยายาม​ทำ​เป็น​ไม่​รู้​ร้อน​รู้​หนาว​กับ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น แต่​ทำ​ไม่​ได้. เมื่อ​คิด​ว่า​กำลัง​หา​ความ​สุข​บน​ความ​ทุกข์​ของ​คน​อื่น ผม​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​จริง ๆ.”

      ● คุณ​จะ​แนะ​นำ​หนุ่ม​สาว​คน​อื่น​ที่​คิด​ว่า​มาตรฐาน​ทาง​ศีลธรรม​ของ​พระ​คัมภีร์​เข้มงวด​เกิน​ไป​อย่าง​ไร?

      เทรซี: “เรา​จะ​มี​ความ​สุข​กว่า​ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​คบ​คน​ที่​ใช้​ชีวิต​แบบ​นี้.”

      เดโบรา: “อย่า​คิด​ถึง​แต่​ตัว​เอง​และ​สิ่ง​ที่​เรา​ต้องการ. การ​กระทำ​ของ​เรา​จะ​มี​ผล​ต่อ​คน​อื่น. ถ้า​เรา​ไม่​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระเจ้า​ก็​เท่า​กับ​หา​ความ​ทุกข์​ใส่​ตัว.”

      แอนดรูว์: “ถ้า​เรา​ยัง​ขาด​ประสบการณ์ เรา​คง​คิด​ว่า​ชีวิต​เพื่อน ๆ น่า​ตื่นเต้น. เรา​ต้อง​รู้​จัก​เลือก​เพื่อน​เพราะ​ทัศนะ​ของ​พวก​เขา​จะ​มี​ผล​ต่อ​เรา. ให้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​เสียใจ​ภาย​หลัง.”

      ไมค์: “ความ​บริสุทธิ์​และ​ความ​นับถือ​ตัว​เอง​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​มาก. พระ​ยะโฮวา​ตั้งใจ​ให้​สอง​สิ่ง​นี้​แก่​เรา. ถ้า​เรา​ควบคุม​ตัว​เอง​ไม่​ได้​แล้ว​ทำ​ให้​เสีย​ไป​ก็​เท่า​กับ​ทำ​ให้​ตัว​เอง​ด้อย​ค่า. ถ้า​มี​ปัญหา​ให้​คุย​กับ​พ่อ​แม่​หรือ​คน​ที่​เรา​ไว้​ใจ. ถ้า​ทำ​ผิด ก็​ให้​รีบ​บอก​และ​แก้ไข. ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา เรา​จะ​สบาย​ใจ​และ​มี​ความ​สุข.”

      มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​ช่วย​ปก​ป้อง​หรือ​ทำ​ให้​ขาด​อิสระ?

      พระ​ยะโฮวา​เป็น “พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​สุข” พระองค์​อยาก​ให้​คุณ​มี​ความ​สุข​ด้วย. (1 ติโมเธียว 1:11; ท่าน​ผู้​ประกาศ 11:9) มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​มี​ไว้​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​คุณ. แต่​คุณ​อาจ​มอง​ว่า​มัน​ทำ​ให้​คุณ​ขาด​อิสระ. ที่​จริง หลัก​ศีลธรรม​ใน​พระ​คัมภีร์​เป็น​เหมือน​เข็มขัด​นิรภัย​ที่​ช่วย​ปก​ป้อง​คุณ​ไม่​ให้​ได้​รับ​อันตราย.

      แน่นอน คุณ​ไว้​ใจ​พระ​คัมภีร์​ได้. ถ้า​คุณ​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​ไม่​เพียง​จะ​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​สุข แต่​ตัว​คุณ​เอง​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​ด้วย.—ยะซายา 48:17

      ใน​บท​ต่อ​ไป

      คุณ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​ได้. ให้​มา​ดู​ว่า​จะ​เป็น​ไป​ได้​อย่าง​ไร.

      ข้อ​คัมภีร์​หลัก

      “เรา​คือ​ยะโฮวา, พระเจ้า​ของ​เจ้า​ผู้​สั่ง​สอน​เจ้า, เพื่อ​ประโยชน์​แก่​ตัว​ของ​เจ้า​เอง.”—ยะซายา 48:17

      ข้อ​แนะ

      ถ้า​คุณ​มี​น้อง คุณ​จะ​ช่วย​น้อง​อย่าง​ไร​ให้​เห็น​ว่า​การ​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​เป็น​แนว​ทาง​ที่​ฉลาด. การ​พูด​ออก​มา​จะ​ช่วย​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​ฝัง​ลึก​ลง​ใน​หัวใจ.

      คุณ​รู้​ไหม . . . ?

      แค่​ชั่ว​เวลา​สั้น ๆ คุณ​ก็​ทำลาย​สาย​สัมพันธ์​ของ​คุณ​กับ​พระ​ยะโฮวา​ได้ แต่​ถ้า​อยาก​กู้​กลับ​มา​ต้อง​ใช้​เวลา​เป็น​ปี ๆ.

      แผน​ปฏิบัติการ

      เพื่อ​จะ​มั่น​ใจ​ว่า​การ​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​เป็น​แนว​ทาง​ที่​ฉลาด ฉัน​จะ ․․․․․

      ถ้า​ฉัน​เริ่ม​อิจฉา​คน​ที่​ใช้​ชีวิต​ตาม​มาตรฐาน​ของ​โลก ฉัน​จะ ․․․․․

      สิ่ง​ที่​ฉัน​อยาก​ถาม​พ่อ​แม่​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​คือ ․․․․․

      คุณ​คิด​อย่าง​ไร?

      ● ทำไม​การ​เรียน​รู้​ด้วย​ประสบการณ์​ของ​ตัว​เอง​จึง​ไม่​ใช่​วิธี​ที่​ฉลาด?

      ● คุณ​ได้​เรียน​รู้​อะไร​จาก​ความ​คิด​เห็น​ของ​เดโบรา ไมค์ แอนดรูว์ และ​เทรซี?

      ● ทำไม​บาง​คน​มอง​ว่า​มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​ทำ​ให้​ขาด​อิสระ และ​ทำไม​การ​คิด​แบบ​นี้​จึง​ไม่​ฉลาด?

      [คำ​โปรย​หน้า 285]

      “ถ้า​คุณ​ทำ​ผิด​แล้ว​ถูก​ตี​สอน คุณ​คง​ทุกข์​ใจ แต่​ถ้า​คุณ​พยายาม​ปก​ปิด คุณ​จะ​เจ็บ​ปวด​มาก​กว่า.”—ดอนนา

      [ภาพ​หน้า 288]

      มาตรฐาน​ใน​พระ​คัมภีร์​ไม่​ได้​ทำ​ให้​คุณ​ขาด​ความ​สุข แต่​ช่วย​ปก​ป้อง​คุณ

  • ฉันจะเป็นเพื่อนกับพระเจ้าได้อย่างไร?
    คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 2
    • บท 35

      ฉัน​จะ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​ได้​อย่าง​ไร?

      หลัง​จาก​เจเรมี​เจอ​เหตุ​การณ์​ที่​ทำ​ให้​เป็น​ทุกข์ เขา​รู้สึก​ว่า​การ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​มี​ค่า​มาก. เขา​เล่า​ว่า “ตอน​ผม​อายุ 12 พ่อ​ทิ้ง​ครอบครัว​เรา​ไป. มี​คืน​หนึ่ง ผม​อ้อน​วอน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​บังคับ​ให้​พ่อ​กลับ​มา.”

      เมื่อ​เจเรมี​จม​อยู่​ใน​ความ​ทุกข์ เขา​เริ่ม​อ่าน​พระ​คัมภีร์. เขา​เปิด​ไป​เจอ​บทเพลง​สรรเสริญ 10:14 ทำ​ให้​เขา​ตื้นตัน​มาก. ข้อ​นั้น​ใน​ฉบับ 1971 พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “คน​ไร้​ที่​พึ่ง​มอบ​ตัว​ไว้​กับ​พระองค์. พระองค์​ทรง​เป็น​ผู้​ช่วย​คน​กำพร้า​พ่อ.” เจเรมี​บอก​ว่า “ผม​รู้สึก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​พูด​กับ​ผม พระองค์​บอก​ผม​ว่า​จะ​คอย​ช่วยเหลือ​ผม พระองค์​เป็น​พ่อ​ของ​ผม. ผม​จะ​หา​พ่อ​ที่​ดี​กว่า​นี้​ได้​อย่าง​ไร?”

      ไม่​ว่า​สภาพการณ์​ของ​คุณ​จะ​เหมือน​เจเรมี​หรือ​ไม่ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยาก เป็น​เพื่อน​กับ​คุณ โดย​กล่าว​ว่า ‘จง​เข้า​ไป​ใกล้​พระเจ้า แล้ว​พระองค์​จะ​ทรง​เข้า​มา​ใกล้​คุณ.’ (ยาโกโบ 4:8) ลอง​คิด​ดู​สิ แม้​คุณ​จะ​มอง​ไม่​เห็น​พระองค์​และ​ไม่​มี​ทาง​เทียบเท่า​พระองค์​ได้ แต่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ยัง​เชิญ​คุณ​ให้​เป็น​เพื่อน​กับ​พระองค์.

      แต่​การ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระ​ยะโฮวา​คุณ​เอง​ก็​ต้อง​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ด้วย. อย่าง​เช่น ถ้า​คุณ​มี​ต้น​ไม้​กระถาง​หนึ่ง มัน​คง​โต​เอง​ไม่​ได้ คุณ​ต้อง​รู้​ว่า​มัน​ชอบ​อากาศ​แบบ​ไหน​และ​ต้อง​คอย​รด​น้ำ​เป็น​ประจำ. การ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​ก็​เหมือน​กัน. คุณ​จะ​ทำ​ให้​มิตรภาพ​นั้น​งอกงาม​ได้​อย่าง​ไร?

      ต้อง​ศึกษา​ส่วน​ตัว

      คน​เรา​จะ​เป็น​เพื่อน​กัน​ได้​ต้อง​มี​การ​พูด​คุย​กัน. ใน​การ​พูด​คุย​นั้น​ต้อง​มี​ทั้ง​ฝ่าย​ที่​พูด​และ​ฝ่าย​ที่​ฟัง. การ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​ก็​เหมือน​กัน เมื่อ​เรา​อ่าน​และ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ก็​เท่า​กับ​เรา​กำลัง​ฟัง​พระเจ้า​พูด.—บทเพลง​สรรเสริญ 1:2, 3

      คุณ​อาจ​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​อ่าน​หนังสือ. หนุ่ม​สาว​ส่วน​ใหญ่​มัก​ชอบ​ดู​ทีวี เล่น​เกม หรือ​ไป​เที่ยว​กับ​เพื่อน ๆ. แต่​ถ้า​คุณ​อยาก​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​ก็​ไม่​มี​วิธี​อื่น คุณ​ต้อง​ฟัง พระองค์​โดย​อ่าน​และ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระองค์.

      คุณ​ไม่​ชอบ​อ่าน​ไม่​ชอบ​ศึกษา​ใช่​ไหม? ถ้า​อย่าง​นั้น การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อาจ​ดู​เป็น​เรื่อง​น่า​เบื่อ. แต่​ถ้า​พยายาม​สัก​หน่อย คุณ​จะ​ชอบ เอง. สิ่ง​แรก​ที่​คุณ​ต้อง​ทำ​คือ​จัด​เวลา. ไลอิส​บอก​ว่า “เมื่อ​ตื่น​ขึ้น​มา ฉัน​จะ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​หนึ่ง​บท​ทุก​เช้า.” มาเรีย อายุ 15 จัด​เวลา​อีก​แบบ​หนึ่ง. เธอ​บอก​ว่า “ฉัน​จะ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ก่อน​นอน​ทุก​คืน.”

      ถ้า​คุณ​ไม่​รู้​จะ​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ไร ให้​ดู​ที่​หน้า 292. คุณ​คิด​ว่า​จะ​ใช้​เวลา​ช่วง​ไหน​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ได้​สัก 30 นาที?

      ․․․․․

      การ​จัด​เวลา​เป็น​เพียง​การ​เริ่ม​ต้น. เมื่อ​คุณ​เริ่ม​ศึกษา​จริง ๆ คุณ​จะ​พบ​ว่า​การ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ไม่​ง่าย​เลย. คุณ​คง​เห็น​ด้วย​กับ​เจซรีล อายุ 11 ที่​พูด​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า “พระ​คัมภีร์​บาง​ตอน​อ่าน​ยาก​ไม่​สนุก​เลย.” ถ้า​คุณ​รู้สึก​อย่าง​นั้น อย่า​เพิ่ง​ท้อ. พยายาม​คิด​ว่า​การ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​เป็น​การ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เพื่อน​ของ​คุณ. แล้ว​การ​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ก็​จะ​กลาย​เป็น​เรื่อง​สนุก.

      ต้อง​อธิษฐาน

      การ​อธิษฐาน​เป็น​การ​คุย​กับ​พระเจ้า. ลอง​คิด​ดู​สิ นั่น​วิเศษ​ขนาด​ไหน. คุณ​จะ​คุย​กับ​พระเจ้า​เวลา​ไหน​ก็​ได้ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​กลางวัน​หรือ​กลางคืน. พระองค์​พร้อม​จะ​ฟัง​คุณ​เสมอ. ยิ่ง​กว่า​นั้น พระองค์​อยาก​ฟัง​คุณ. ด้วย​เหตุ​นี้ พระ​คัมภีร์​จึง​เชิญ​ชวน​คุณ​ว่า ‘จง​ทูล​ทุก​สิ่ง​ที่​คุณ​ปรารถนา​ต่อ​พระเจ้า​โดย​การ​อธิษฐาน​และ​การ​วิงวอน​พร้อม​กับ​การ​ขอบพระคุณ.’—ฟิลิปปอย 4:6

      ตาม​ที่​พระ​คัมภีร์​ข้อ​นี้​บอก มี​หลาย​สิ่ง​ที่​คุณ​คุย​กับ​พระเจ้า​ได้ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น​หรือ​เรื่อง​ที่​คุณ​กังวล. และ​เมื่อ​คิด​ถึง​สิ่ง​ดี ๆ คุณ​คง​อยาก​ขอบคุณ​พระเจ้า. ถ้า​เพื่อน​ทำ​อะไร​ดี ๆ ให้ คุณ​คง​อยาก​ขอบคุณ​เขา​ไม่​ใช่​หรือ? เช่น​เดียว​กัน คุณ​ควร​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​พระองค์​ให้​อะไร​ดี ๆ แก่​คุณ​มาก​มาย​เกิน​กว่า​ที่​เพื่อน​คน​ใด​จะ​ให้​ได้.—บทเพลง​สรรเสริญ 106:1

      มี​อะไร​บ้าง​ที่​คุณ​อยาก​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา?

      ․․․․․

      บาง​ครั้ง​คุณ​คง​รู้สึก​กลัว​และ​กังวล. บทเพลง​สรรเสริญ 55:22 (ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย) บอก​ว่า “จง​มอบ​ภาระ​ของ​ท่าน​ไว้​กับ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระองค์​จะ​ทรง​ค้ำ​ชู​ท่าน​ไว้. พระองค์​จะ​ไม่​ทรง​ปล่อย​ให้​คน​ชอบธรรม​ล้ม​ลง.”

      มี​เรื่อง​ใด​บ้าง​ที่​คุณ​กังวล​และ​อยาก​บอก​พระองค์?

      ․․․․․

      ประสบการณ์​ส่วน​ตัว

      การ​เป็น​เพื่อน​กับ​พระเจ้า​ยัง​มี​อีก​แง่​หนึ่ง​ที่​ไม่​ควร​มอง​ข้าม. ดาวิด​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​เขียน​ว่า “เชิญ​ชิม​ดู​แล้ว​จะ​รู้​ว่า​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​แสน​ดี.” (บทเพลง​สรรเสริญ 34:8, ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย) ตอน​ที่​ดาวิด​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​บท 34 ท่าน​เพิ่ง​ผ่าน​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​หวาด​กลัว​มา. นอก​จาก​จะ​ถูก​กษัตริย์​ซาอูล​ตาม​ล่า​แล้ว ท่าน​ยัง​ต้อง​หนี​ไป​หลบ​ภัย​ใน​เมือง​ของ​ศัตรู​คือ​ชาว​ฟิลิสติน. ตอน​นั้น​ท่าน​ต้อง​เผชิญ​หน้า​กับ​ความ​ตาย​จึง​แกล้ง​ทำ​เป็น​บ้า​เพื่อ​เอา​ตัว​รอด.—1 ซามูเอล 21:10-15

      หลัง​จาก​ดาวิด​รอด​ตาย​มา​อย่าง​หวุดหวิด ท่าน​ไม่​ได้​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ฉลาด แต่​บอก​ว่า​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ท่าน. ท่าน​บอก​ไว้​ใน​เพลง​สรรเสริญ​ว่า “เมื่อ​ข้าพเจ้า​ได้​แสวง​หา​พระ​ยะโฮวา, พระองค์​ได้​ทรง​ตอบ​ข้าพเจ้า, และ​ได้​ทรง​ช่วย​ข้าพเจ้า​ให้​พ้น​จาก​ความ​หวาด​กลัว​ทั้ง​ปวง.” (บทเพลง​สรรเสริญ 34:4) เมื่อ​ดาวิด​ประสบ​ด้วย​ตัว​เอง ท่าน​จึง​เชิญ​ชวน​คน​อื่น​ให้ “ชิม​ดู​แล้ว​จะ​รู้​ว่า​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​แสน​ดี.”a

      คุณ​เห็น​หลักฐาน​อะไร​ไหม​ที่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รัก​และ​เอา​ใจ​ใส่​คุณ? ให้​เขียน​ลง​ไป. ไม่​ต้อง​เป็น​ประสบการณ์​ที่​น่า​ตื่นเต้น​มาก​ก็​ได้. ลอง​คิด​ถึง​สิ่ง​ดี ๆ ที่​คุณ​ได้​รับ​ใน​แต่​ละ​วัน บาง​ครั้ง​คุณ​อาจ​มอง​ข้าม​ไป.

      ․․․․․

      พ่อ​แม่​คง​สอน​ความ​จริง​ใน​พระ​คัมภีร์​ให้​คุณ. แต่​คุณ​ต้อง​สร้าง​สาย​สัมพันธ์​กับ​พระเจ้า​ด้วย​ตัว​เอง. ถ้า​ยัง​ไม่​ได้​ทำ คำ​แนะ​นำ​ใน​บท​นี้​จะ​ช่วย​คุณ​ได้. พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​ทำ​สำเร็จ. พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “จง​ขอ​ต่อ ๆ ไป​แล้ว​จะ​ได้​รับ จง​หา​ต่อ ๆ ไป​แล้ว​จะ​พบ.”—มัดธาย 7:7

      เชิญ​อ่าน​เรื่อง​นี้​เพิ่ม​เติม​ได้​ใน​เล่ม 1 บท 38 และ 39

      ใน​บท​ต่อ​ไป

      คุณ​คิด​ว่า​การ​พูด​กับ​คน​อื่น​เรื่อง​พระเจ้า​เป็น​เรื่อง​ยาก​ไหม? คุณ​จะ​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​ได้​อย่าง​ไร?

      [เชิงอรรถ]

      a พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​แปล​วลี “ชิม​ดู​แล้ว​จะ​รู้” ไว้​ว่า “ค้น​พบ​ด้วย​ตัว​เอง,” “ค้น​หา​ด้วย​ตัว​เอง” และ “รู้​จาก​ประสบการณ์.”—ฉบับ​คอนเทมโพรารี อิงลิช, ฉบับ​ทูเดส์ อิงลิช และ​ฉบับ​เดอะ ไบเบิล อิน เบสิก อิงลิช

      ข้อ​คัมภีร์​หลัก

      “ผู้​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ก็​มี​ความ​สุข.”—มัดธาย 5:3

      ข้อ​แนะ

      ให้​อ่าน​พระ​คัมภีร์​วัน​ละ​ห้า​ถึง​หก​หน้า แล้ว​คุณ​จะ​อ่าน​จบ​เล่ม​ภาย​ใน​หนึ่ง​ปี.

      คุณ​รู้​ไหม . . . ?

      การ​ที่​คุณ​ได้​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​นี้​และ​นำ​คำ​แนะ​นำ​ไป​ใช้​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สนใจ​คุณ จริง ๆ.—โยฮัน 6:44

      แผน​ปฏิบัติการ

      เพื่อ​จะ​ได้​ประโยชน์​มาก​ขึ้น​จาก​การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว ฉัน​จะ ․․․․․

      เพื่อ​จะ​อธิษฐาน​บ่อย​ขึ้น ฉัน​จะ ․․․․․

      สิ่ง​ที่​ฉัน​อยาก​ถาม​พ่อ​แม่​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​คือ ․․․․․

      คุณ​คิด​อย่าง​ไร?

      ● คุณ​จะ​ทำ​ให้​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​น่า​สนใจ​มาก​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร?

      ● ทำไม​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​มนุษย์​ที่​ไม่​สมบูรณ์?

      ● คุณ​จะ​ปรับ​ปรุง​คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ​ได้​อย่าง​ไร?

      [คำ​โปรย​หน้า 291]

      “ตอน​เป็น​เด็ก ฉัน​จะ​อธิษฐาน​ซ้ำ ๆ แบบ​เดิม. แต่​ตอน​นี้​ฉัน​จะ​พูด​ทั้ง​เรื่อง​ที่​ดี​และ​ไม่​ดี​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​แต่​ละ​วัน ไม่​ได้​พูด​เหมือน​กัน​ทุก​วัน​เพราะ​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​ทุก​วัน​จะ​เหมือน​กัน.”—อีฟ

      [กรอบ/ภาพ​หน้า 292]

      วิธี​ค้นคว้า​พระ​คัมภีร์

      1. เลือก​พระ​คัมภีร์​สัก​ตอน​ที่​คุณ​อยาก​อ่าน. อธิษฐาน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​คุณ​ให้​เข้าใจ​เรื่อง​นั้น.

      2. อ่าน​ไป​มโนภาพ​ไป. ไม่​ต้อง​รีบ​ร้อน. ขณะ​อ่าน​ให้​มโนภาพ​ไป​ด้วย. ให้​ใช้​ประสาท​สัมผัส​ต่าง ๆ เช่น ได้​ยิน เสียง​คน​พูด รับ​รู้​รส ของ​อาหาร ได้​กลิ่น และ​เห็น ภาพ​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น. ให้​ทำ​เหมือน​คุณ​อยู่​ใน​เหตุ​การณ์​นั้น​จริง ๆ.

      3. คิด​ถึง​เรื่อง​ที่​เพิ่ง​อ่าน. ลอง​ตอบ​คำ​ถาม​ต่อ​ไป​นี้.

      ● ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ให้​บันทึก​เรื่อง​ราว​นี้​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์?

      ● ตัว​อย่าง​ไหน​น่า​เลียน​แบบ และ​ตัว​อย่าง​ไหน​ควร​หลีก​เลี่ยง?

      ● มี​บทเรียน​อะไร​บ้าง​ที่​ฉัน​จะ​เอา​ไป​ใช้​ได้?

      ● ฉัน​รู้​อะไร​บ้าง​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​เหตุ​ผล​ที่​พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น?

      4. อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​สั้น ๆ. บอก​พระองค์​ว่า​คุณ​ได้​เรียน​รู้​อะไร​บ้าง​จาก​เรื่อง​ที่​อ่าน​และ​จะ​เอา​ไป​ใช้​อย่าง​ไร. ให้​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​เสมอ​สำหรับ​คัมภีร์​ไบเบิล​พระ​คำ​ของ​พระองค์​ซึ่ง​เป็น​ของ​ขวัญ​อัน​ล้ำ​ค่า.

      [ภาพ]

      “พระ​วจนะ​ของ​พระองค์​เป็น​โคม​สำหรับ​เท้า​ของ​ข้าพเจ้า, และ​เป็น​แสง​สว่าง​ตาม​ทาง​ของ​ข้าพเจ้า.”—บทเพลง​สรรเสริญ 119:105

      [กรอบ/ภาพ​หน้า 294]

      สิ่ง​สำคัญ​ต้อง​มา​ก่อน

      คุณ​ไม่​มี​เวลา​อธิษฐาน​หรือ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ไหม? ส่วน​ใหญ่​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​คุณ​ให้​ความ​สำคัญ​กับ​อะไร.

      ลอง​ทำ​แบบ​นี้: ให้​เอา​ถัง​มา​ใบ​หนึ่ง​แล้ว​ใส่​หิน​ก้อน​ใหญ่ ๆ ลง​ไป. จาก​นั้น เท​ทราย​ให้​เต็ม​ถัง. ตอน​นี้​ใน​ถัง​ก็​จะ​มี​ทั้ง​หิน​และ ทราย.

      ที​นี้​ให้​เท​หิน​และ​ทราย​ออก​มา​จาก​ถัง​ให้​หมด. คราว​นี้​ทำ​กลับ​กัน ให้​ใส่​ทราย​ลง​ไป​ก่อน แล้ว​ค่อย​ใส่​หิน​ลง​ไป. ใส่​หิน​ไม่​หมด​ใช่​ไหม? นั่น​เพราะ​คุณ​ใส่​ทราย​ลง​ไป​ก่อน.

      บทเรียน​คือ​อะไร? พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า ‘ให้​ตรวจ​ดู​ให้​แน่​ใจ​ว่า​สิ่ง​ไหน​สำคัญ​กว่า.’ (ฟิลิปปอย 1:10) ถ้า​คุณ​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​สำคัญ​ก่อน เช่น นันทนาการ คุณ​จะ​ไม่​มี​เวลา​พอ​สำหรับ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ใน​ชีวิต​คือ​กิจกรรม​คริสเตียน. แต่​ถ้า​คุณ​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ใน​พระ​คัมภีร์ คุณ​จะ​มี​เวลา​สำหรับ​ทั้ง​สอง​สิ่ง​คือ​รับใช้​พระเจ้า​ได้​และ มี​นันทนาการ​อย่าง​พอ​เหมาะ. นี่​ขึ้น​อยู่​กับ​ว่า​คุณ​ทำ​อะไร​ก่อน.

      [ภาพ​หน้า 290]

      สาย​สัมพันธ์​ของ​คุณ​กับ​พระเจ้า​ก็​เหมือน​ต้น​ไม้ ต้อง​คอย​ดู​แล​ถึง​เติบโต

  • ทำอย่างไรฉันจึงจะกล้าพูดถึงความเชื่อของฉัน?
    คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 2
    • บท 36

      ทำ​อย่าง​ไร​ฉัน​จึง​จะ​กล้า​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​ฉัน?

      ทำไม​คุณ​ไม่​กล้า​บอก​เพื่อน ๆ ว่า​คุณ​เชื่อ​อย่าง​ไร?

      □ มี​ความ​รู้​เรื่อง​พระ​คัมภีร์​ไม่​ดี​พอ

      □ กลัว​ถูก​เยาะเย้ย

      □ ไม่​รู้​จะ​เริ่ม​อย่าง​ไร

      ถ้า​จะ​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​คุณ​เชื่อ คุณ​คิด​ว่า​วิธี​ไหน​ง่าย​ที่​สุด?

      □ พูด​กับ​เพื่อน​สอง​ต่อ​สอง

      □ พูด​หน้า​ชั้น​เรียน

      □ เขียน​ลง​ใน​รายงาน

      ถ้า​จะ​พูด​เรื่อง​พระเจ้า คุณ​คิด​ว่า​เพื่อน​คน​ไหน​จะ​ยอม​ฟัง​คุณ? ․․․․․

      เรื่อง​พระเจ้า​คง​ไม่​ใช่​เรื่อง​ที่​เพื่อน ๆ คุณ​อยาก​ฟัง. ถ้า​คุณ​พูด​เรื่อง​กีฬา เสื้อ​ผ้า หรือ​เพศ​ตรง​ข้าม คง​คุย​กัน​สนุก. แต่​พอ​เริ่ม​พูด​เรื่อง​พระเจ้า ทุก​คน​อาจ​เงียบ​กัน​หมด.

      นี่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​เพื่อน ๆ คุณ​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า หลาย​คน​เชื่อ. แต่​บาง​คน​ไม่​อยาก​พูด​ถึง​เรื่อง​นี้ เขา​อาจ​คิด​ว่า ‘มัน​น่า​เบื่อ​ไม่​สนุก.’

      แล้ว​คุณ ล่ะ?

      ถ้า​คุณ​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​พระเจ้า​กับ​เพื่อน ๆ ก็​ไม่​แปลก. ไม่​มี​ใคร​อยาก​ถูก​ปฏิเสธ หรือ​แย่​กว่า​นั้น​คือ​ถูก​ล้อเลียน. ถ้า​คุณ​พูด​ออก​ไป คุณ​จะ​โดน​อย่าง​นั้น​ไหม? เป็น​ไป​ได้. แต่​คุณ​อาจ​แปลก​ใจ​ก็​ได้​ที่​เพื่อน​บาง​คน​อยาก​รู้​ว่า​ต่อ​ไป​โลก​จะ​เป็น​อย่าง​ไร? หรือ​ทำไม​โลก​เรา​มี​แต่​ปัญหา? เพื่อน​คุณ​คง​อยาก​คุย​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​คน​ที่​อยู่​ใน​วัย​เดียว​กับ​เขา ไม่​ใช่​พวก​ผู้​ใหญ่.

      แต่​การ​พูด​เรื่อง​ศาสนา กับ​เพื่อน ๆ เป็น​เรื่อง​ยาก​มาก​ใช่​ไหม? ที่​จริง คุณ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​พูด​เรื่อง​นี้​ตลอด​เวลา​เหมือน​คน​คลั่ง​ศาสนา หรือ​กลัว​ว่า​จะ​อธิบาย​ไม่​ถูก​ร้อย​เปอร์เซ็นต์. การ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​เป็น​เหมือน​การ​เล่น​ดนตรี. แรก ๆ คุณ​คง​รู้สึก​ยาก แต่​ถ้า​ฝึก​ไป​เรื่อย ๆ คุณ​จะ​รู้สึก​ง่าย​ขึ้น​และ​คิด​ว่า​คุ้ม​แล้ว​ที่​พยายาม. แต่​จะ​เริ่ม​อย่าง​ไร​ล่ะ?

      ปกติ​แล้ว​เมื่อ​คุย​กับ​เพื่อน คุณ​คง​มี​โอกาส​พูด​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ได้ เช่น ถ้า​เพื่อน​ที่​โรง​เรียน​กำลัง​คุย​กัน​เรื่อง​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น คุณ​อาจ​แทรก​เรื่อง​พระ​คัมภีร์​เข้า​ไป​ได้. หรือ​อาจ​ชวน​เพื่อน​สัก​คน​คุย​เรื่อง​พระ​คัมภีร์. วิธี​ที่​ง่าย​กว่า​นี้​คือ หนุ่ม​สาว​คริสเตียน​บาง​คน​เอา​หนังสือ​ของ​เรา​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​แล้ว​ดู​ว่า​มี​เพื่อน​คน​ไหน​สนใจ. ส่วน​ใหญ่​มัก​ได้​ผล จาก​นั้น​ก็​จะ​พูด​คุย​กัน​ต่อ.

      คุณ อยาก​ลอง​วิธี​ไหน? ․․․․․

      คุณ​คิด​ว่า​มี​วิธี​ไหน​อีก​ที่​จะ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​กับ​เพื่อน​นัก​เรียน?

      ․․․․․

      บาง​ครั้ง​การ​ทำ​โครง​งาน​ใน​ชั้น​เรียน​อาจ​ทำ​ให้​คุณ​มี​โอกาส​ให้​คำ​พยาน​ด้วย. เช่น เมื่อ​ต้อง​ทำ​รายงาน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​วิวัฒนาการ​คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร? คุณ​จะ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ใน​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง​อย่าง​ไร?

      พูด​เรื่อง​พระเจ้า​สร้าง

      ไร​อัน​บอก​ว่า “เมื่อ​มี​การ​พูด​เรื่อง​วิวัฒนาการ​ใน​ห้อง​เรียน เขา​พูด​เหมือน​เป็น​ความ​จริง​ต่าง​จาก​ที่​พ่อ​แม่​สอน​ผม. ผม​เลย​เงียบ​ไม่​กล้า​พูด.” ราเคล​ก็​พูด​คล้าย​กัน. เธอ​บอก​ว่า “พอ​ครู​บอก​ว่า​คราว​หน้า​จะ​เรียน​เรื่อง​วิวัฒนาการ ฉัน​ตกใจ​แทบ​แย่​ไม่​อยาก​อธิบาย​ถึง​สิ่ง​ที่​ฉัน​เชื่อ.”

      คุณ รู้สึก​อย่าง​ไร​เมื่อ​มี​การ​พูด​เรื่อง​วิวัฒนาการ​ใน​ห้อง​เรียน? คุณ​เชื่อ​ว่า​พระเจ้า “สร้าง​ทุก​สิ่ง.” (วิวรณ์ 4:11) รอบ ๆ ตัว​คุณ​มี​หลักฐาน​ที่​แสดง​ว่า​ต้อง​มี​การ​ออก​แบบ​ที่​ชาญ​ฉลาด. แต่​ครู​กับ​ตำรา​เรียน​บอก​ว่า​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​โดย​วิวัฒนาการ. คุณ​เป็น​ใคร​ล่ะ​ที่​จะ​ไป​เถียง​กับ “ผู้​ทรง​คุณวุฒิ” เหล่า​นั้น?

      แน่นอน ไม่​ใช่​คุณ​คน​เดียว​ที่​ไม่​เชื่อ​ทฤษฎี​วิวัฒนาการ. แม้​แต่​นัก​วิทยาศาสตร์​เอง​ก็​มี​หลาย​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ทฤษฎี​นี้ ยัง​มี​ครู​และ​นัก​เรียน​อีก​จำนวน​มาก​ที่​ไม่​เชื่อ​เช่น​กัน.

      ก่อน​จะ​พูด​เรื่อง​พระเจ้า​สร้าง คุณ​ต้อง​รู้​ว่า​จริง ๆ แล้ว​พระ​คัมภีร์​สอน​เรื่อง​นี้​อย่าง​ไร. ไม่​จำเป็น​ต้อง​เถียง​กับ​คน​อื่น​ใน​เรื่อง​ที่​พระ​คัมภีร์​ไม่​ได้​พูด​ถึง. ให้​มา​ดู​บาง​ตัว​อย่าง.

      ตำรา​วิทยาศาสตร์​บอก​ว่า แผ่นดิน​โลก​และ​ระบบ​สุริยะ​มี​มา​หลาย​พัน​ล้าน​ปี​แล้ว. พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า​เอกภพ​และ​แผ่นดิน​โลก​มี​อยู่​ก่อน​วัน​ที่​หนึ่ง​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง. ดัง​นั้น แผ่นดิน​โลก​และ​ระบบ​สุริยะ​อาจ​มี​อยู่​หลาย​พัน​ล้าน​ปี​แล้ว.—เยเนซิศ 1:1

      ครู​บอก​ว่า​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​แผ่นดิน​โลก​จะ​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ภาย​ใน​หก​วัน. พระ​คัมภีร์​ไม่​ได้​บอก​ว่า​วัน​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​แต่​ละ​วัน​มี​แค่ 24 ชั่วโมง.

      ใน​ชั้น​เรียน​มี​การ​พูด​ถึง​มนุษย์​และ​สัตว์​หลาย​ชนิด​ที่​เปลี่ยน​แปลง​ไป​ตาม​กาล​เวลา. พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า​พระเจ้า​สร้าง​สิ่ง​มี​ชีวิต “ตาม​ชนิด​ของ​มัน.” (เยเนซิศ 1:20, 21) แนว​คิด​ที่​ว่า​ชีวิต​เกิด​จาก​สิ่ง​ไม่​มี​ชีวิต​หรือ​พระเจ้า​สร้าง​เซลล์​เซลล์​เดียว​แล้ว​ปล่อย​ให้​มัน​วิวัฒนาการ​จึง​ไม่ ตรง​กับ​สิ่ง​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก. กระนั้น สิ่ง​มี​ชีวิต​ใน​แต่​ละ “ชนิด” สามารถ​แยก​ออก​มา​เป็น​หลาก​หลาย​พันธุ์​ได้. ดัง​นั้น พระ​คัมภีร์​แสดง​ว่า​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​ภาย​ใน​ขอบ​เขต​ของ​แต่​ละ “ชนิด.”

      เมื่อ​พิจารณา​ถึง​สิ่ง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​บท​นี้ คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร​ถ้า​ครู​หรือ​เพื่อน​บอก​ว่า

      “นัก​วิทยาศาสตร์​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​มนุษย์​เรา​เกิด​ขึ้น​โดย​วิวัฒนาการ.” ․․․․․

      “ฉัน​ไม่​เชื่อ​ว่า​มี​พระเจ้า​เพราะ​มอง​ไม่​เห็น.” ․․․․․

      มั่น​ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​เชื่อ

      ถ้า​พ่อ​แม่​คุณ​เป็น​พยาน​ฯ คุณ​คง​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า​สร้าง​เพราะ​ถูก​สอน​มา​อย่าง​นั้น. แต่​ตอน​นี้​คุณ​โต​แล้ว คุณ​อยาก​หา​เหตุ​ผล​เอง​เพื่อ​จะ​มี​พื้น​ฐาน​ที่​หนักแน่น​ใน​การ​เชื่อ​และ​นมัสการ​พระเจ้า. (โรม 12:1) เมื่อ​เป็น​เช่น​นั้น คุณ​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘อะไร​ทำ​ให้​ฉัน เชื่อ​ว่า​มี​พระ​ผู้​สร้าง?’ แซม​อายุ 14 หลัง​จาก​ได้​พิจารณา​ร่าง​กาย​มนุษย์ เขา​บอก​ว่า “ร่าง​กาย​เรา​ละเอียด​ซับซ้อน​มาก ทุก​ส่วน​ทำ​งาน​ประสาน​กัน​อย่าง​ดี เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​วิวัฒนาการ​มา.” ฮอลลี อายุ 16 มี​ความ​เห็น​ตรง​กัน. เธอ​บอก​ว่า “พอ​หมอ​บอก​ว่า​เป็น​เบาหวาน ฉัน​เลย​หา​ข้อมูล​ว่า​ร่าง​กาย​ทำ​งาน​อย่าง​ไร. มัน​น่า​ทึ่ง​จริง ๆ เช่น ตับ​อ่อน​แม้​จะ​เป็น​อวัยวะ​เล็ก ๆ ที่​ซ่อน​อยู่​หลัง​กระเพาะ แต่​กลับ​ทำ​หน้า​ที่​สำคัญ​คือ​ทำ​ให้​เลือด​และ​อวัยวะ​ต่าง ๆ ทำ​งาน​ได้​ดี.”

      ให้​เขียน​เหตุ​ผล​สาม​ข้อ​ที่​ทำ​ให้​คุณ เชื่อ​ว่า​มี​พระ​ผู้​สร้าง.

      1. ․․․․․

      2. ․․․․․

      3. ․․․․․

      คุณ​ไม่​ต้อง​อาย​ที่​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า​และ​การ​ทรง​สร้าง. หลักฐาน​ต่าง ๆ แสดง​ว่า​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​มนุษย์​เรา​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​มา​เอง แต่​ถูก​ออก​แบบ​มา​อย่าง​ชาญ​ฉลาด.

      สรุป​แล้ว การ​เชื่อ​วิวัฒนาการ​นั่น​แหละ​ที่​ต้อง​ใช้​ความ​เชื่อ​มหาศาล​เหมือน​กับ​เชื่อ​ว่า​มี​สิ่ง​อัศจรรย์​เกิด​ขึ้น​โดย​ไม่​มี​ใคร​ทำ. เมื่อ​คุณ​คิด​ทบทวน​เรื่อง​นี้​ดี ๆ คุณ​จะ​กล้า​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ใน​เรื่อง​พระเจ้า​มาก​ขึ้น.

      ใน​บท​ต่อ​ไป

      คุณ​เห็น​คน​อื่น​ที่​อายุ​พอ ๆ กับ​คุณ​รับ​บัพติสมา. คุณ​ล่ะ​พร้อม​ไหม?

      ข้อ​คัมภีร์​หลัก

      “ข้าพเจ้า​ไม่​อาย​ใน​เรื่อง​ข่าว​ดี ที่​จริง ข่าว​ดี​เป็น​ฤทธิ์​ของ​พระเจ้า​เพื่อ​ทุก​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​จะ​รอด.”—โรม 1:16

      ข้อ​แนะ

      เมื่อ​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​คุณ​เชื่อ ท่า​ทาง​และ​น้ำ​เสียง​ของ​คุณ​เป็น​สิ่ง​สำคัญ. ถ้า​คุณ​แสดง​ท่า​ทาง​ว่า​สิ่ง​ที่​พูด​เป็น​เรื่อง​น่า​อาย เพื่อน ๆ จะ​เยาะเย้ย​คุณ. แต่​ถ้า​คุณ​พูด​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​เหมือน​ที่​เพื่อน ๆ พูด​ถึง​ความ​คิด​ของ​เขา พวก​เขา​อาจ​ยอม​ฟัง​คุณ.

      คุณ​รู้​ไหม . . . ?

      บาง​ครั้ง​เมื่อ​ขอ​ให้​ครู​พิสูจน์​เรื่อง​วิวัฒนาการ เขา​พิสูจน์​ไม่​ได้​จึง​ยอม​รับ​ว่า​ที่​เชื่อ​ทฤษฎี​นี้​เพราะ​เรียน​มา​อย่าง​นั้น.

      แผน​ปฏิบัติการ

      ฉัน​จะ​หา​โอกาส​คุย​กับ​เพื่อน​เรื่อง​พระ​คัมภีร์​โดย ․․․․․

      ถ้า​มี​คน​ถาม​ว่า​ทำไม​ฉัน​เชื่อ​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง ฉัน​จะ​บอก​ว่า ․․․․․

      สิ่ง​ที่​ฉัน​อยาก​ถาม​พ่อ​แม่​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​คือ ․․․․․

      คุณ​คิด​อย่าง​ไร?

      ● การ​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​คุณ​เชื่อ​ทำไม​จึง​สำคัญ?

      ● มี​วิธี​ไหน​บ้าง​ที่​คุณ​จะ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ใน​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง​ได้​ที่​โรง​เรียน?

      ● คุณ​จะ​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​รู้สึก​ขอบคุณ​ผู้​ที่​สร้าง​สิ่ง​สารพัด?—กิจการ 17:26, 27

      [คำ​โปรย​หน้า 299]

      “โรง​เรียน​เป็น​เขต​ประกาศ​สำหรับ​พวก​เรา​โดย​เฉพาะ.”—อิไรดา

      [ภาพ​หน้า 298]

      การ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ก็​เหมือน​การ​เล่น​ดนตรี ต้อง​ทำ​บ่อย ๆ แล้ว​คุณ​จะ​ชำนาญ

      [ภาพ​หน้า 300, 301]

      คุณ​จะ​เอา​ชนะ​ความ​กลัว​และ​กล้า​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​คุณ​เชื่อ​ได้

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์