ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • “คริสเตียน” ทุกคนเป็นคริสเตียนไหม?
    หอสังเกตการณ์ 2012 | 1 มีนาคม
    • “คริสเตียน” ทุก​คน​เป็น​คริสเตียน​ไหม?

      มี​กี่​คน​ใน​โลก​นี้​ที่​เป็น​คริสเตียน? หนังสือ​แผนที่​ศาสนา​คริสเตียน​ทั่ว​โลก (ภาษา​อังกฤษ) รายงาน​ว่า​ใน​ปี 2010 ตลอด​ทั่ว​โลก​มี​คริสเตียน​เกือบ 2.3 พัน​ล้าน​คน. แต่​หนังสือ​เล่ม​เดียว​กัน​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​คริสเตียน​เหล่า​นี้​แบ่ง​เป็น​กลุ่ม​และ​นิกาย​ต่าง ๆ มาก​กว่า 41,000 กลุ่ม และ​แต่​ละ​กลุ่ม​ต่าง​ก็​มี​หลัก​คำ​สอน​และ​แนว​ปฏิบัติ​ของ​ตัว​เอง. เมื่อ​มี​ศาสนา “คริสเตียน” มาก​มาย​เช่น​นี้​ก็​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​หลาย​คน​จะ​รู้สึก​สับสน​และ​ถึง​กับ​ผิด​หวัง​ด้วย​ซ้ำ. พวก​เขา​อาจ​สงสัย​ว่า ‘ทุก​คน​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​เป็น​คริสเตียน​จริง ๆ ไหม?’

      ให้​เรา​มา​พิจารณา​เรื่อง​นี้​ใน​อีก​มุม​หนึ่ง. ตาม​ปกติ​แล้ว นัก​ท่อง​เที่ยว​ที่​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ​จะ​ต้อง​แจ้ง​เจ้าหน้าที่​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ว่า​เขา​เป็น​พลเมือง​ประเทศ​ใด. นอก​จาก​นั้น เขา​ยัง​ต้อง​แสดง​หนังสือ​เดิน​ทาง​แก่​เจ้าหน้าที่​เพื่อ​เป็น​หลักฐาน​ยืน​ยัน​คำ​กล่าว​อ้าง​ของ​ตน. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน คริสเตียน​แท้​ต้อง​ไม่​เพียง​บอก​ว่า​เขา​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์. แต่​เขา​ต้อง​ให้​หลักฐาน​อื่น ๆ เพิ่ม​เติม​ด้วย. หลักฐาน​เหล่า​นั้น​คือ​อะไร?

      คำ​ว่า “คริสเตียน” ถูก​นำ​มา​ใช้​ครั้ง​แรก​หลัง​ปี​สากล​ศักราช 44. รายงาน​ของ​ลูกา นัก​ประวัติศาสตร์​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “เหล่า​สาวก​จึง​ถูก​เรียก​ว่า​คริสเตียน​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​เมือง​อันทิโอก.” (กิจการ 11:26) ขอ​ให้​สังเกต​ว่า คน​ที่​ถูก​เรียก​ว่า​คริสเตียน​คือ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​คริสต์. การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? พจนานุกรม​นานา​ชาติ​ฉบับ​ใหม่​เกี่ยว​กับ​เทววิทยา​แห่ง​พันธสัญญา​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ) อธิบาย​ว่า “การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​หมาย​ถึง​การ​อุทิศ​ชีวิต​ทั้ง​สิ้น​ให้​พระองค์ . . . และ​รับ​เอา​ทุก​สิ่ง​ใน​ชีวิต​ของ​พระองค์​มา​เป็น​ของ​ตน​โดย​ไม่​มี​ข้อ​แม้.” ดัง​นั้น คริสเตียน​แท้​คือ​คน​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​สั่ง​สอน​ทุก​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​ผู้​ก่อ​ตั้ง​ศาสนา​คริสเตียน​โดย​ไม่​มี​ข้อ​แม้.

      เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​จะ​พบ​คริสเตียน​แท้​ท่ามกลาง​ผู้​คน​มาก​มาย​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ใน​ทุก​วัน​นี้? พระ​เยซู​เอง​ตรัส​ไว้​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​หลักฐาน​ที่​ระบุ​ตัว​สาวก​แท้​ของ​พระองค์? ขอ​เชิญ​คุณ​มา​ดู​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​อย่าง​ไร. ใน​บทความ​ต่อ​จาก​นี้​เรา​จะ​พิจารณา​ลักษณะ​สำคัญ​ห้า​ประการ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​จะ​เป็น​หลักฐาน​ระบุ​ตัว​สาวก​แท้​ของ​พระองค์. แล้ว​เรา​จะ​พิจารณา​ว่า​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​แสดง​หลักฐาน​เหล่า​นี้​อย่าง​ไร. จาก​นั้น เรา​จะ​ช่วย​กัน​หา​ว่า​คริสเตียน​กลุ่ม​ไหน​ใน​ทุก​วัน​นี้​กำลัง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน.

  • “ยึดมั่นกับคำสอนของเรา”
    หอสังเกตการณ์ 2012 | 1 มีนาคม
    • “ยึด​มั่น​กับ​คำ​สอน​ของ​เรา”

      “ถ้า​พวก​เจ้า​ยึด​มั่น​กับ​คำ​สอน​ของ​เรา พวก​เจ้า​ก็​เป็น​สาวก​ของ​เรา​อย่าง​แท้​จริง และ​พวก​เจ้า​จะ​รู้​ความ​จริง แล้ว​ความ​จริง​จะ​ทำ​ให้​พวก​เจ้า​เป็น​อิสระ.”—โยฮัน 8:31, 32

      คำ​ตรัส​นี้​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? “คำ​สอน” ของ​พระ​เยซู​หมาย​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ตรัส​ซึ่ง​มา​จาก​พระเจ้า. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “พระ​บิดา​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา​นั้น​แหละ​ทรง​บัญชา​เรา​ว่า​จะ​บอก​อะไร​และ​จะ​พูด​อะไร.” (โยฮัน 12:49) เมื่อ​พระ​เยซู​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​พระ​บิดา​ใน​สวรรค์ พระองค์​ตรัส​ว่า “คำ​ของ​พระองค์​เป็น​ความ​จริง.” พระ​เยซู​ทรง​ยก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ขึ้น​มา​กล่าว​บ่อย ๆ เพื่อ​สนับสนุน​คำ​สอน​ของ​พระองค์. (โยฮัน 17:17; มัดธาย 4:4, 7, 10) ดัง​นั้น คริสเตียน​แท้​จะ ‘ยึด​มั่น​กับ​คำ​สอน​ของ​พระองค์’ ซึ่ง​หมาย​ถึง​การ​ยอม​รับ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น “ความ​จริง” และ​เป็น​บรรทัดฐาน​สูง​สุด​สำหรับ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ประพฤติ​ของ​พวก​เขา.

      คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม? อัครสาวก​เปาโล​ได้​ให้​ความ​นับถือ​ต่อ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู. ท่าน​เขียน​ว่า “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​จาก​พระเจ้า​และ​มี​ประโยชน์.” (2 ติโมเธียว 3:16) ผู้​ชาย​ที่​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​สอน​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ต้อง “ยึด​มั่น​กับ​พระ​คำ​อัน​สัตย์​จริง.” (ทิทุส 1:7, 9) คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ได้​รับ​คำ​เตือน​ให้​ปฏิเสธ “หลัก​ปรัชญา​และ​คำ​ล่อ​ลวง​เหลวไหล​ที่​อาศัย​ประเพณี​ของ​มนุษย์​และ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​โลก​ถือ​ว่า​สำคัญ ไม่​ใช่​อาศัย​คำ​สอน​ของ​พระ​คริสต์.”—โกโลซาย 2:8

      ใคร​กำลัง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​ใน​ทุก​วัน​นี้? คู่มือ​ถาม​ตอบ​ของ​คริสตจักร​คาทอลิก (ภาษา​อังกฤษ) บอก​ว่า “พระ​คัมภีร์​ศักดิ์สิทธิ์​ไม่​ใช่​แหล่ง​เดียว​ที่​ช่วย​ให้​คริสตจักร [คาทอลิก] มั่น​ใจ​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่​ได้​รับ​การ​เปิด​เผย​จาก​พระเจ้า. ฉะนั้น ทั้ง​คำ​สอน​สืบ​ปาก​และ​พระ​คัมภีร์​ศักดิ์สิทธิ์​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​ต้อง​ยอม​รับ อีก​ทั้ง​ยกย่อง​เทิดทูน​ด้วย​ความ​นับถือ​และ​ความ​ภักดี​อย่าง​เดียว​กัน.” บทความ​หนึ่ง​ใน​วารสาร​แมกเคลนส์ อ้าง​ถึง​คำ​กล่าว​ของ​นัก​เทศน์​คน​หนึ่ง​ใน​โทรอนโต แคนาดา ที่​ถาม​ว่า “ทำไม​เรา​ต้อง​ฟัง​เสียง​ของ ‘นัก​ปฏิวัติ’ จาก​ยุค​สอง​พัน​ปี​ก่อน​ด้วย​ล่ะ? เรา​ก็​มี​ความ​คิด​ดี ๆ ของ​เรา​เอง แต่​ความ​คิด​เหล่า​นั้น​กลับ​ถูก​บดบัง​มา​ตลอด​เพราะ​เรา​มัว​แต่​ยึด​ติด​กับ​พระ​เยซู​และ​พระ​คัมภีร์.”

      สารานุกรม​คาทอลิก​ฉบับ​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ถึง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พวก​เขา​ถือ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​บรรทัดฐาน​เพียง​อย่าง​เดียว​สำหรับ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ประพฤติ.” เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​แคนาดา​พูด​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​กำลัง​แนะ​นำ​ตัว​เธอ​ที่​หน้า​ประตู​บ้าน​ว่า “ผม​รู้​ว่า​คุณ​เป็น​ใคร.” เขา​ชี้​ไป​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​แล้ว​พูด​ว่า “นั่น​ไง​ล่ะ​หลักฐาน.”

  • “ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลก”
    หอสังเกตการณ์ 2012 | 1 มีนาคม
    • “ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก”

      “โลก​เกลียด​ชัง​พวก​เขา​เพราะ​พวก​เขา​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก.”—โยฮัน 17:14

      คำ​ตรัส​นี้​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ไม่​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก พระองค์​จึง​วาง​ตัว​เป็น​กลาง​ท่ามกลาง​ความ​ขัด​แย้ง​ทาง​สังคม​และ​การ​เมือง​ใน​สมัย​นั้น. พระองค์​อธิบาย​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​เรา​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก​นี้. ถ้า​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก​นี้ คน​ของ​เรา​คง​ต่อ​สู้​เพื่อ​ไม่​ให้​เรา​ตก​อยู่​ใน​มือ​พวก​ยิว. แต่​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​ไม่​ได้​มา​จาก​โลก​นี้.” (โยฮัน 18:36) นอก​จาก​นั้น พระองค์​ยัง​เตือน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​หลีก​เลี่ยง​การ​คิด พูด และ​ทำ​สิ่ง​ที่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ตำหนิ.—มัดธาย 20:25-27

      คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม? โจนาทาน ไดมอนด์ นัก​เขียน​เรื่อง​ทาง​ศาสนา​กล่าว​ว่า​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก “ไม่​ยอม​เข้า​ร่วม [สงคราม] ไม่​ว่า​ผล​จะ​เป็น​อย่าง​ไร ไม่​ว่า​จะ​ถูก​ประณาม ถูก​จำ​คุก หรือ​ถูก​ฆ่า.” พวก​เขา​เลือก​เอา​การ​ทน​ทุกข์​แทน​ที่​จะ​ยอม​ทำ​ผิด​หลักการ​เรื่อง​ความ​เป็น​กลาง. นอก​จาก​นั้น หลัก​ศีลธรรม​ที่​พวก​เขา​ยึด​ถือ​ยัง​ทำ​ให้​พวก​เขา​แตกต่าง​จาก​คน​อื่น. คริสเตียน​ได้​รับ​คำ​เตือน​ว่า “เพราะ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​เดิน​กับ​พวก​เขา​ใน​ทาง​เดียว​กัน​นี้​ต่อ​ไป​จน​จม​อยู่​ใน​ปลัก​แห่ง​ความ​เหลวไหล​เสเพล​เหมือน​กัน พวก​เขา​จึง​ประหลาด​ใจ​และ​กล่าว​ร้าย​ท่าน​ทั้ง​หลาย​อยู่​เรื่อย​ไป.” (1 เปโตร 4:4) นัก​ประวัติศาสตร์ วิลล์ ดูแรนต์ เขียน​ว่า​คริสเตียน “สร้าง​ความ​ไม่​พอ​ใจ​ให้​กับ​โลก​นอก​รีต​ที่​คลั่งไคล้​ความ​สนุกสนาน​เพลิดเพลิน​เพราะ​พวก​เขา​มี​ศรัทธา​แรง​กล้า​ใน​ศาสนา​และ​มี​ความ​ประพฤติ​ที่​ดี​งาม.”

      ใคร​กำลัง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​ใน​ทุก​วัน​นี้? เมื่อ​กล่าว​ถึง​ความ​เป็น​กลาง​ของ​คริสเตียน สารานุกรม​คาทอลิก​ฉบับ​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ) อ้าง​ว่า “การ​ปฏิเสธ​ไม่​ยอม​จับ​อาวุธ​โดย​อ้าง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​เป็น​เรื่อง​ที่​ฟัง​ไม่​ขึ้น.” บทความ​ใน​หนังสือ​พิมพ์​เรฟอร์เมียร์เทอ เพรสเซอ กล่าว​ว่า​รายงาน​ฉบับ​หนึ่ง​ของ​องค์กร​ด้าน​สิทธิ​มนุษยชน​แห่ง​แอฟริกา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ทุก​คริสตจักร​ต่าง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​ฆ่า​ล้าง​เผ่า​พันธุ์​ใน​รวันดา​เมื่อ​ปี 1994 “ยก​เว้น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.”

      อาจารย์​โรง​เรียน​มัธยม​คน​หนึ่ง​โอด​ครวญ​เกี่ยว​กับ​การ​สังหาร​หมู่​พลเรือน​โดย​พวก​นาซี​ว่า “ไม่​มี​คน​กลุ่ม​ใด​หรือ​องค์กร​ใด​เลย​ที่​ออก​มา​ประณาม​การ​โป้​ปด​มด​เท็จ​สารพัด​เรื่อง รวม​ทั้ง​ความ​ป่า​เถื่อน และ​ความ​โหด​ร้าย​อำมหิต.” แต่​หลัง​จาก​ได้​ไป​ที่​พิพิธภัณฑ์​อนุสรณ์​การ​สังหาร​หมู่​พลเรือน​โดย​พวก​นาซี​แห่ง​สหรัฐ เขา​เขียน​ว่า “ตอน​นี้​ผม​รู้​คำ​ตอบ​แล้ว.” เขา​ได้​รู้​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​ที่​ยืนหยัด​มั่นคง​เพื่อ​ความ​เชื่อ​แม้​จะ​ถูก​ปฏิบัติ​อย่าง​โหด​ร้าย​ทารุณ​ก็​ตาม.

      แล้ว​หลัก​ศีลธรรม​ที่​พยาน​ฯ ยึด​ถือ​เป็น​อย่าง​ไร? วารสาร​ยู. เอส. คาทอลิก บอก​ว่า “หนุ่ม​สาว​ชาว​คาทอลิก​ส่วน​ใหญ่​ใน​ทุก​วัน​นี้​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​คำ​สอน​ของ​คริสตจักร​ใน​เรื่อง​การ​อยู่​ด้วย​กัน [และ] มี​เพศ​สัมพันธ์​กัน​ก่อน​แต่งงาน.” วารสาร​ฉบับ​นี้​ยก​คำ​กล่าว​ของ​มัคนายก​คน​หนึ่ง​ที่​บอก​ว่า “ผม​เห็น​ว่า​มี​คริสเตียน​จำนวน​มาก อาจ​จะ​มาก​กว่า 50 เปอร์เซ็นต์​ด้วย​ซ้ำ​ที่​อยู่​กิน​กัน​ก่อน​แต่งงาน.” สารานุกรม​บริแทนนิกา​ฉบับ​ใหม่ กล่าว​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา “รักษา​มาตรฐาน​ที่​สูง​ส่ง​ด้าน​ศีลธรรม​ของ​ตน​อย่าง​เคร่งครัด.”

  • “ให้พวกเจ้ารักกัน”
    หอสังเกตการณ์ 2012 | 1 มีนาคม
    • “ให้​พวก​เจ้า​รัก​กัน”

      “เรา​ให้​บัญญัติ​ใหม่​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย คือ ให้​พวก​เจ้า​รัก​กัน เรา​รัก​พวก​เจ้า​มา​แล้ว​อย่าง​ไร ก็​ให้​พวก​เจ้า​รัก​กัน​อย่าง​นั้น​ด้วย. เพราะ​เหตุ​นี้​แหละ คน​ทั้ง​หลาย​จะ​รู้​ว่า​พวก​เจ้า​เป็น​สาวก​ของ​เรา ถ้า​พวก​เจ้า​รัก​กัน.”—โยฮัน 13:34, 35

      คำ​ตรัส​นี้​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? พระ​คริสต์​สั่ง​ให้​สาวก​ของ​พระองค์​รัก​กัน​อย่าง​ที่​พระองค์​ทรง​รัก​พวก​เขา. พระ​เยซู​รัก​พวก​เขา​อย่าง​ไร? พระองค์​ทรง​รัก​พวก​เขา​อย่าง​ไม่​มี​อคติ ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง หรือ​เป็น​ชน​ชาติ​ใด​ก็​ตาม ซึ่ง​ต่าง​จาก​ทัศนะ​ของ​คน​ส่วน​ใหญ่​ใน​สมัย​นั้น. (โยฮัน 4:7-10) ความ​รัก​กระตุ้น​ให้​พระ​เยซู​สละ​เวลา กำลัง และ​ความ​สะดวก​สบาย​ส่วน​ตัว​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ผู้​อื่น. (มาระโก 6:30-34) ใน​วาระ​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต พระ​คริสต์​ได้​แสดง​ความ​รัก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​เท่า​ที่​มนุษย์​จะ​ทำ​ได้. พระองค์​ตรัส​ว่า “เรา​เป็น​ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี​ย่อม​สละ​ชีวิต​เพื่อ​แกะ​ของ​ตน.”—โยฮัน 10:11

      คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม? คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ต่าง​ก็​เรียก​กัน​ว่า “พี่​น้อง.” (ฟิเลโมน 1, 2) ประชาคม​คริสเตียน​ยินดี​ต้อนรับ​ผู้​คน​ทุก​เชื้อชาติ​เพราะ​พวก​เขา​เชื่อ​ว่า “ไม่​มี​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ชาว​ยิว​กับ​ชาว​กรีก เพราะ​ทุก​คน​มี​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​องค์​เดียว​กัน.” (โรม 10:11, 12) หลัง​จาก​วัน​เพนเทคอสต์​ปี​สากล​ศักราช 33 เหล่า​สาวก​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​ได้ “ขาย​ทรัพย์​สมบัติ​และ​ที่​ดิน​แล้ว​แบ่ง​ให้​ทุก​คน​ตาม​ความ​จำเป็น.” ทำไม​พวก​เขา​จึง​ทำ​เช่น​นั้น? เพื่อ​ช่วย​เหล่า​พี่​น้อง​ที่​เพิ่ง​รับ​บัพติสมา​ให้​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​ต่อ​ไป​ได้​และ “เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​คำ​สอน​ของ​พวก​อัครสาวก​ต่อ ๆ ไป.” (กิจการ 2:41-45) อะไร​กระตุ้น​ให้​พวก​เขา​ทำ​เช่น​นั้น? หลัง​จาก​เหล่า​อัครสาวก​เสีย​ชีวิต​ไป​เกือบ 200 ปี เทอร์ทูลเลียน​ได้​ยก​คำ​กล่าว​ของ​คน​อื่น​ที่​พูด​ถึง​คริสเตียน​ว่า “พวก​เขา​รัก​กัน​มาก​จริง ๆ . . . และ​พวก​เขา​พร้อม​จะ​ตาย​แทน​กัน​ด้วย​ซ้ำ.”

      ใคร​กำลัง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​ใน​ทุก​วัน​นี้? หนังสือ​ประวัติศาสตร์​เกี่ยว​กับ​ความ​เสื่อม​ถอย​และ​ความ​ล่ม​จม​ของ​จักรวรรดิ​โรมัน (ปี 1837, ภาษา​อังกฤษ) ตั้ง​ข้อ​สังเกต​ว่า ตลอด​หลาย​ศตวรรษ​ที่​ผ่าน​มา​คน​ที่​อ้าง​ตัว​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ได้ “ปฏิบัติ​ต่อ​กัน​อย่าง​โหด​ร้าย​ทารุณ​ยิ่ง​กว่า​ที่​คน​นอก​ศาสนา [คน​ไม่​นับถือ​พระเจ้า] ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​เขา​เสีย​อีก.” การ​ศึกษา​วิจัย​ใน​สหรัฐ​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​พบ​ว่า​คน​ที่​เคร่ง​ศาสนา​มัก​จะ​มี​อคติ​ด้าน​เชื้อชาติ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​คน​ที่​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​คริสเตียน. สมาชิก​โบสถ์​ใน​ประเทศ​หนึ่ง​มัก​ไม่​สนใจ​ไยดี​สมาชิก​กลุ่ม​ศาสนา​เดียว​กัน​ใน​อีก​ประเทศ​หนึ่ง ด้วย​เหตุ​นี้ พวก​เขา​จึง​ไม่​สามารถ​ช่วยเหลือ​หรือ​ไม่​เต็ม​ใจ​ช่วย​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ใน​ยาม​ที่​เดือดร้อน.

      ใน​ปี 2004 หลัง​จาก​พายุ​เฮอร์ริเคน​สี่​ลูก​พัด​ถล่ม​ฟลอริดา​ใน​ช่วง​สอง​เดือน หัวหน้า​ศูนย์​อำนวย​การ​ฉุกเฉิน​แห่ง​ฟลอริดา​ได้​ตรวจ​สอบ​อย่าง​ละเอียด​ว่า​สิ่ง​ของ​บรรเทา​ทุกข์​ที่​มี​อยู่​ถูก​แจก​จ่าย​ไป​อย่าง​ทั่ว​ถึง​หรือ​ไม่. เขา​บอก​ว่า​ไม่​มี​คน​กลุ่ม​ไหน​ทำ​งาน​อย่าง​เป็น​ระบบ​ระเบียบ​เหมือน​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​เขา​เสนอ​ที่​จะ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​แก่​พยาน​ฯ ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​ต้องการ​อะไร. ก่อน​หน้า​นั้น​ใน​ปี 1997 กลุ่ม​อาสา​สมัคร​บรรเทา​ทุกข์​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​ขน​อาหาร เสื้อ​ผ้า และ​ยา​รักษา​โรค​ไป​ให้​พี่​น้อง​คริสเตียน​รวม​ทั้ง​คน​อื่น ๆ ที่​ขาด​แคลน​สิ่ง​จำเป็น​ใน​สาธารณรัฐ​ประชาธิปไตย​คองโก. เพื่อน​พยาน​ฯ ใน​ยุโรป​ได้​ช่วย​บริจาค​สิ่ง​ของ​ต่าง ๆ คิด​เป็น​มูลค่า​ทั้ง​สิ้น​หนึ่ง​ล้าน​ดอลลาร์​สหรัฐ.

  • “ข้าพเจ้าได้ทำให้พวกเขารู้จักพระนามของพระองค์”
    หอสังเกตการณ์ 2012 | 1 มีนาคม
    • “ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้​จัก​พระ​นาม​ของ​พระองค์”

      “ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระองค์​ปรากฏ​แจ้ง​แก่​คน​เหล่า​นั้น​ที่​พระองค์​ทรง​นำ​ออก​มา​จาก​โลก​แล้ว​ประทาน​แก่​ข้าพเจ้า. . . . ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้​จัก​พระ​นาม​ของ​พระองค์​แล้ว.”—โยฮัน 17:6, 26

      คำ​ตรัส​นี้​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​เป็น​ที่​รู้​จัก​โดย​ใช้​พระ​นาม​นี้​ใน​การ​ประกาศ​สั่ง​สอน. และ​เมื่อ​พระ​เยซู​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ให้​ผู้​คน​ฟัง​อย่าง​ที่​ทรง​ทำ​อยู่​บ่อย ๆ พระองค์​คง​ได้​ออก​เสียง​พระ​นาม​เฉพาะ​ของ​พระเจ้า​ด้วย. (ลูกา 4:16-21) พระ​เยซู​สอน​สาวก​ให้​อธิษฐาน​ว่า “ข้า​แต่​พระ​บิดา ขอ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระองค์​เป็น​ที่​นับถือ​อัน​บริสุทธิ์.”—ลูกา 11:2

      คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม? อัครสาวก​เปโตร​บอก​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​ว่า​พระเจ้า​ได้​เลือก​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ออก​มา​จาก​ชาติ​ต่าง ๆ ให้​เป็น “ประชาชน​สำหรับ​พระ​นาม​พระองค์.” (กิจการ 15:14) อัครสาวก​และ​สาวก​คน​อื่น ๆ ได้​ประกาศ​ว่า “ทุก​คน​ที่​ทูล​อ้อน​วอน​โดย​ออก​พระ​นาม​พระ​ยะโฮวา​จะ​รอด.” (กิจการ 2:21; โรม 10:13) นอก​จาก​นั้น พวก​เขา​ยัง​ใช้​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ใน​ข้อ​เขียน​ของ​พวก​เขา​ด้วย. หนังสือ​โทเซฟทา​หรือ​ประมวล​กฎหมาย​ของ​ชาว​ยิว​ที่​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร​ซึ่ง​เขียน​เสร็จ​ประมาณ​ปี​สากล​ศักราช 300 บันทึก​เหตุ​การณ์​ตอน​ที่​พวก​ผู้​ต่อ​ต้าน​ได้​เผา​ข้อ​เขียน​ของ​คริสเตียน​ไว้​ดัง​นี้: “หนังสือ​ของ​พวก​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​และ​หนังสือ​ของ​พวก​มิ​นิม [เข้าใจ​กัน​ว่า​คือ​คริสเตียน​ชาว​ยิว] ถูก​เผา​ทำลาย​จน​หมด. พวก​เขา​สั่ง​ให้​เผา​หนังสือ​เหล่า​นั้น​ทันที​ที่​พบ . . . ทั้ง​หนังสือ​และ​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ที่​อยู่​ใน​หนังสือ​เหล่า​นั้น​ก็​ถูก​เผา​ไป​ด้วย.”

      ใคร​กำลัง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​ใน​ทุก​วัน​นี้? ใน​หน้า​คำนำ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ​รีไวสด์ สแตนดาร์ด เวอร์ชัน ซึ่ง​ได้​รับ​อนุญาต​โดย​สภา​คริสตจักร​ของ​พระ​คริสต์​แห่ง​สหรัฐ กล่าว​ว่า “การ​ใช้​พระ​นาม​เฉพาะ​ของ​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว​ราว​กับ​ว่า​มี​พระเจ้า​อื่น ๆ อีก​ที่​ทำ​ให้​ต้อง​แยก​พระองค์​ไว้​ต่าง​หาก เป็น​สิ่ง​ที่​ชาว​ยิว​เลิก​ปฏิบัติ​มา​ตั้ง​แต่​ก่อน​ยุค​คริสเตียน​แล้ว และ​ไม่​สม​ควร​อย่าง​ยิ่ง​ที่​คริสตจักร​ใด ๆ ของ​คริสเตียน​จะ​ใช้​พระ​นาม​นี้.” ด้วย​เหตุ​นี้ พระ​คัมภีร์​ฉบับ​ดัง​กล่าว​จึง​แทน​ที่​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ด้วย​คำ​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” ซึ่ง​เป็น​คำ​ระบุ​ตำแหน่ง. เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ สำนัก​วาติกัน​ได้​มี​คำ​สั่ง​ไป​ยัง​บิชอป​ทุก​คน​ว่า “ห้าม​ไม่​ให้​มี​การ​ใช้​หรือ​ออก​เสียง​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​ใน​รูป​อักษร​ฮีบรู​สี่​ตัว (ยฮวฮ)a ใน​เพลง​นมัสการ​และ​ใน​บท​สวด​ภาวนา.”

      ใคร​ใน​ทุก​วัน​นี้​ที่​ใช้​และ​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​เป็น​ที่​รู้​จัก? เซอร์​เกย์​เล่า​ว่า​ตอน​เป็น​วัยรุ่น เขา​อยู่​ที่​คีร์กีซ​สถาน และ​เคย​ดู​ภาพยนตร์​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขา​รู้​ว่า​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​คือ​ยะโฮวา. แต่​หลัง​จาก​นั้น​ราว ๆ สิบ​ปี เขา​ก็​ไม่​ได้​ยิน​พระ​นาม​พระเจ้า​อีก​เลย. ต่อ​มา เมื่อ​เซอร์​เกย์​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​สหรัฐ มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอง​คน​มา​หา​ที่​บ้าน​และ​ชี้​ให้​เขา​ดู​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล. เซอร์​เกย์​ตื่นเต้น​มาก​ที่​ได้​พบ​คน​ที่​ใช้​พระ​นาม​ยะโฮวา. น่า​สนใจ พจนานุกรม​เว็บสเตอร์ส เทิร์ด นิว อินเตอร์​แนชันแนล นิยาม​คำ “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า” ว่า “พระเจ้า​องค์​สูง​สุด​และ​พระเจ้า​องค์​เดียว​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ยอม​รับ​และ​นมัสการ.”

      [เชิงอรรถ]

      a ใน​ภาษา​ไทย พระ​นาม​พระเจ้า​ออก​เสียง​ว่า “ยะโฮวา” หรือ “เยโฮวาห์.”

  • “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรจะได้รับการประกาศ”
    หอสังเกตการณ์ 2012 | 1 มีนาคม
    • “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​จะ​ได้​รับ​การ​ประกาศ”

      “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​จะ​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ไป​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก​ที่​มี​คน​อาศัย​อยู่​เพื่อ​ให้​พยาน​หลักฐาน​แก่​ทุก​ชาติ แล้ว​อวสาน​จะ​มา​ถึง.”—มัดธาย 24:14

      คำ​ตรัส​นี้​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? ลูกา​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​เล่า​ว่า​พระ​เยซู “ทรง​เดิน​ทาง​ไป​ตาม​เมือง​และ​ตาม​หมู่​บ้าน​เพื่อ​ประกาศ​เผยแพร่​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.” (ลูกา 8:1) พระ​เยซู​เอง​ตรัส​ว่า “เรา​ต้อง​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า . . . เพราะ​เรา​ถูก​ส่ง​มา​เพื่อ​การ​นี้.” (ลูกา 4:43) พระ​เยซู​ส่ง​สาวก​ออก​ไป​ประกาศ​ข่าว​ดี​ตาม​เมือง​และ​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ และ​ต่อ​มา​พระองค์​บัญชา​แก่​พวก​เขา​ว่า “เจ้า​จะ​เป็น​พยาน​ฝ่าย​เรา . . . จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก.”—กิจการ 1:8; ลูกา 10:1

      คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม? สาวก​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​พระองค์​โดย​ไม่​รอ​ช้า. “พวก​เขา​จึง​สอน​และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​พระ​คริสต์ คือ​พระ​เยซู ทั้ง​ใน​พระ​วิหาร​และ​ตาม​บ้าน​ต่อ​ไป​ทุก​วัน​มิ​ได้​ขาด.” (กิจการ 5:42) งาน​ประกาศ​ไม่​ได้​ทำ​เฉพาะ​ใน​หมู่​ชน​ชั้น​สูง​เท่า​นั้น. นัก​ประวัติศาสตร์​ชื่อ​เนอันเดอร์ กล่าว​ว่า “เซลซุส นัก​เขียน​คน​แรก​ที่​โจมตี​ศาสนา​คริสเตียน​เคย​พูด​ใน​เชิง​เย้ย​หยัน​ว่า​แม้​แต่​ช่าง​ปั่น​ขน​แกะ ช่าง​ซ่อม​รอง​เท้า ช่าง​ฟอก​หนัง คน​ไร้​การ​ศึกษา​และ​สามัญ​ชน​ก็​ยัง​เป็น​ผู้​ประกาศ​กิตติคุณ​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า.” ชอง แบร์นาร์ดี​เขียน​ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ที่​ชื่อ​ศตวรรษ​ต้น ๆ ของ​คริสตจักร (ภาษา​ฝรั่งเศส) ว่า “[คริสเตียน] ต้อง​ออก​ไป​พูด​คุย​กับ​ทุก​คน​ทุก​หน​แห่ง. ตาม​ถนน​และ​เมือง​ต่าง ๆ ที่​จัตุรัส​กลาง​เมือง​และ​ตาม​บ้าน​เรือน. ไม่​ว่า​จะ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​หรือ​ไม่. . . . และ​จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก.”

      ใคร​กำลัง​ทำ​แบบ​เดียว​กัน​ใน​ทุก​วัน​นี้? เดวิด วัตสัน นัก​บวช​นิกาย​แองกลิกัน​เขียน​ว่า “การ​ที่​คริสตจักร​ไม่​ทำ​งาน​ประกาศ​สั่ง​สอน​อย่าง​จริงจัง​เป็น​สาเหตุ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ไม่​สนใจ​เรื่อง​พระเจ้า.” ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ชื่อ​ทำไม​ชาว​คาทอลิก​จึง​ทิ้ง​ความ​เชื่อ? (ภาษา​สเปน) โฮเซ ลูอิส เปเรซ กัวดาลูเป ได้​กล่าว​ถึง​กิจกรรม​ของ​คริสตจักร​อิแวนเจลิคัล แอดเวนติสต์ และ​อื่น ๆ พร้อม​ทั้ง​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “พวก​เขา​ไม่​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน.” เขา​เขียน​เกี่ยว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พวก​เขา​ทำ​งาน​ประกาศ​ตาม​บ้าน​อย่าง​เป็น​ระบบ​ระเบียบ.”

      โจนาทาน เทอลี ได้​ให้​ข้อ​สังเกต​ที่​น่า​สนใจ​และ​ตรง​กับ​ความ​เป็น​จริง​ไว้​ใน​หนังสือ​Cato Supreme Court Review 2001-2002 ว่า “เมื่อ​พูด​ถึง​พยาน​พระ​ยะโฮวา คน​ส่วน​ใหญ่​จะ​นึก​ออก​ทันที​ว่า​คือ​ผู้​ประกาศ​ที่​มา​เยี่ยม​เรา​ที่​บ้าน​ใน​เวลา​ที่​เรา​ไม่​สะดวก. สำหรับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แล้ว การ​ไป​ตาม​บ้าน​เพื่อ​ชักชวน​ผู้​คน​ให้​เปลี่ยน​ความ​เชื่อ​ไม่​ได้​เป็น​เพียง​การ​เผยแพร่​ศาสนา​เท่า​นั้น แต่​เป็น​แก่น​แท้​ของ​ศาสนา​เลย​ที​เดียว.”

      [กรอบ​หน้า 9]

      คุณ​มอง​ออก​ไหม?

      เมื่อ​พิจารณา​หลักฐาน​ต่าง ๆ จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​กล่าว​ไป​ใน​ชุด​บทความ​นี้ คุณ​คิด​ว่า​ใคร​ใน​ทุก​วัน​นี้​ที่​เป็น​คริสเตียน​แท้? แม้​จะ​มี​คริสเตียน​มาก​มาย​หลาย​หมื่น​นิกาย​แต่​ขอ​ให้​นึก​ถึง​ถ้อย​คำ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​สาวก​ว่า “มิ​ใช่​ทุก​คน​ที่​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘พระองค์​เจ้าข้า พระองค์​เจ้าข้า’ จะ​ได้​เข้า​ราชอาณาจักร​สวรรค์ แต่​ผู้​ที่​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​จึง​จะ​ได้​เข้า.” (มัดธาย 7:21) การ​รู้​ว่า​คน​กลุ่ม​ไหน​คือ​คริสเตียน​ที่​กำลัง​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​บิดา​ซึ่ง​เป็น​เครื่อง​บ่ง​ชี้​ว่า​พวก​เขา​คือ​คริสเตียน​แท้ และ​การ​คบหา​กับ​คน​เหล่า​นั้น​จะ​ทำ​ให้​คุณ​ได้​รับ​พระ​พร​ไม่​รู้​สิ้น​สุด​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. เรา​ขอ​เชิญ​คุณ​ให้​ลอง​สอบ​ถาม​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​ให้​วารสาร​นี้​กับ​คุณ​เพื่อ​จะ​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​พร​ที่​ราชอาณาจักร​นี้​จะ​นำ​มา​ให้.—ลูกา 4:43

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์