ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ‘สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ก็​ลึกซึ้ง​อะไร​อย่าง​นี้’
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • ฝูง​ห่าน​กำลัง​บิน​อยู่

      บท 17

      ‘สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ก็​ลึกซึ้ง​อะไร​อย่าง​นี้’

      1, 2. พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​ประสงค์​อะไร​สำหรับ​วัน​ที่​เจ็ด แต่​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​ตอน​เริ่ม​ต้น​ของ​วัน​นั้น?

      ใน​วัน​ที่​หก​หลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา​ได้​สร้าง​มนุษย์​แล้ว พระองค์​ก็​มอง​ดู “ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​สร้าง​ขึ้น” และ​บอก​ว่า “ดี​ยอด​เยี่ยม” (ปฐมกาล 1:31) แต่​ใน​ตอน​เริ่ม​ต้น​ของ​วัน​ที่​เจ็ด อาดัม​กับ​เอวา​เลือก​ที่​จะ​ฟัง​ซาตาน​และ​กบฏ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา มนุษย์​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​บน​โลก​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​ได้​ทำ​บาป กลาย​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ และ​ต้อง​ตาย นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​เศร้า​จริง ๆ

      2 นี่​อาจ​ดู​เหมือน​ว่า​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​สำหรับ​วัน​ที่​เจ็ด​จะ​ไม่​ได้​เป็น​ตาม​ที่​พระองค์​ต้องการ เหมือน​กับ​หก​วัน​ก่อน​หน้า​นั้น​วัน​ที่​เจ็ด​คง​ต้อง​เป็น​ช่วง​เวลา​นาน​หลาย​พัน​ปี พระ​ยะโฮวา​ได้​อวยพร​ให้​วัน​นั้น​เป็น​วัน​บริสุทธิ์ และ​จะ​ทำ​ให้​โลก​กลาย​เป็น​อุทยาน​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ครอบครัว​มนุษย์​ที่​สมบูรณ์​แบบ (ปฐมกาล 1:28; 2:3) แต่​หลัง​จาก​อาดัม​กับ​เอวา​กบฏ​ความ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​จะ​เกิด​ขึ้น​จริง​ได้​ยังไง? พระเจ้า​จะ​ทำ​ยังไง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้? ให้​เรา​มา​ดู​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ใน​แบบ​ที่​น่า​ประทับใจ

      3, 4. (ก) เรา​เรียน​อะไร​ได้​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​วิธี​ที่​พระองค์​จัด​การ​กับ​การ​กบฏ​ใน​สวน​เอเดน? (ข) เรา​จะ​เข้าใจ​เรื่อง​อะไร​มาก​ขึ้น​ตอน​ที่​เรา​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า?

      3 พระ​ยะโฮวา​จัด​การ​กับ​เรื่อง​นั้น​ทันที พระองค์​บอก​ว่า​จะ​ลง​โทษ​พวก​กบฏ​ยังไง และ​ยัง​บอก​ให้​รู้​ด้วย​ว่า​พระองค์​จะ​แก้​ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น​ยังไง (ปฐมกาล 3:15) พระ​ยะโฮวา​เริ่ม​จัด​การ​กับ​ปัญหา​นี้​ตั้งแต่​ใน​สวน​เอเดน ตลอด​หลาย​พัน​ปี​ที่​ผ่าน​มา​จน​ถึง​ตอน​นี้​พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น​และ​จะ​ทำ​ต่อ​ไป​จน​กว่า​ผล​เสีย​ทุก​อย่าง​จาก​การ​กบฏ​จะ​ได้​รับ​การ​แก้ไข​ใน​อนาคต พระองค์​แก้ไข​เรื่อง​นี้​ใน​วิธี​ที่​เรียบ​ง่าย แต่​ก็​ฉลาด​มาก​ซึ่ง​ทำ​ให้​เรา​สามารถ​ใช้​เวลา​ศึกษา คิด​ใคร่ครวญ และ​รับ​ประโยชน์​ได้​ตลอด​ชีวิต ความ​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​เป็น​จริง​อย่าง​แน่นอน ใน​ตอน​นั้น​ความ​ชั่ว​ทั้ง​หมด บาป ความ​ตาย​จะ​หมด​ไป และ​คน​ที่​ซื่อสัตย์​ก็​จะ​เป็น​คน​สมบูรณ์​แบบ ทั้ง​หมด​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ก่อน​วัน​ที่​เจ็ด​สิ้น​สุด​ลง พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ให้​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์​สำหรับ​โลก​และ​มนุษย์​เป็น​จริง​ตาม​เวลา​ที่​พระองค์​กำหนด​ไว้

      4 สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เรา​ประทับใจ​มาก​จริง ๆ อัครสาวก​เปาโล​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​เขียน​ว่า ‘สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ก็​ลึกซึ้ง​อะไร​อย่าง​นี้’ (โรม 11:33) ตอน​ที่​เรา​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​จะ​เข้าใจ​ชัดเจน​ว่า​เรา​ควร​เป็น​คน​ถ่อม ถึง​แม้​เรา​จะ​เรียน​รู้​เรื่อง​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​มาก​แค่​ไหน​แล้ว เรา​ก็​เข้าใจ​สติ​ปัญญา​ที่​ลึกซึ้ง​ของ​พระองค์​แค่​นิด​เดียว​เท่า​นั้น (โยบ 26:14) ตอน​นี้​ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​คุณลักษณะ​ที่​น่า​ประทับใจ​นี้​หมาย​ถึง​อะไร

      สติ​ปัญญา​แท้​คือ​อะไร?

      5, 6. ทำไม​เรา​ต้อง​มี​ความ​รู้​เพื่อ​จะ​เป็น​คน​ฉลาด และ​พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​รู้​มาก​ขนาด​ไหน?

      5 สติ​ปัญญา​แตกต่าง​กับ​ความ​รู้ ถึง​คอมพิวเตอร์​จะ​เก็บ​ข้อมูล​ที่​เป็น​ความ​รู้​ได้​มาก​มาย แต่​ก็​คง​ไม่​มี​ใคร​บอก​ว่า​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​นั้น​ฉลาด แต่​เพื่อ​จะ​เป็น​คน​ฉลาด​เรา​ก็​ต้อง​มี​ความ​รู้ (สุภาษิต 10:14) ตัวอย่าง​เช่น ถ้า​เรา​อยาก​ได้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ดี​เพื่อ​รับมือ​กับ​ปัญหา​สุขภาพ เรา​จะ​ปรึกษา​คน​ที่​ไม่​รู้​เรื่อง​การ​รักษา​เลย​ไหม? เรา​คง​ไม่​ทำ​อย่าง​นั้น​แน่นอน ดังนั้น คน​ที่​มี​ความ​รู้​ที่​ถูก​ต้อง​ก็​เป็น​คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​แท้

      6 พระ​ยะโฮวา​รู้​ทุก​อย่าง พระองค์​เป็น “กษัตริย์​ตลอด​ไป” พระองค์​ผู้​เดียว​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป (วิวรณ์ 15:3) และ​พระองค์​รู้​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​เกิด​ขึ้น คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “สิ่ง​ที่​พระเจ้า​สร้าง​ขึ้น​มา ไม่​มี​สิ่ง​ไหน​ถูก​ปิด​ซ่อน​ไว้​จาก​สายตา​พระองค์​ได้ แต่​ทุก​สิ่ง​ถูก​เปิด​เผย​และ​ปรากฏ​ชัด​ต่อ​สายตา​พระองค์​ผู้​ที่​เรา​ต้อง​ให้​การ” (ฮีบรู 4:13; สุภาษิต 15:3) ใน​ฐานะ​ผู้​สร้าง พระ​ยะโฮวา​รู้​ทุก​อย่าง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พระองค์​สร้าง และ​พระองค์​เห็น​ทุก​สิ่ง​ที่​มนุษย์​ทำ​ตั้งแต่​ตอน​ที่​พระองค์​สร้าง​พวก​เขา พระองค์​รู้​ความ​คิด​และ​ความ​รู้สึก​ของ​ทุก​คน (1 พงศาวดาร 28:9) พระองค์​สร้าง​เรา​ให้​มี​อิสระ​ใน​การ​เลือก และ​เมื่อ​พระองค์​เห็น​ว่า​เรา​เลือก​สิ่ง​ที่​ดี พระองค์​ก็​มี​ความ​สุข นอกจากนั้น พระองค์​ยัง​เป็น “ผู้​ฟัง​คำ​อธิษฐาน” พระองค์​สามารถ​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​หลาย​ล้าน​คน​ใน​เวลา​เดียว​กัน (สดุดี 65:2) และ​พระ​ยะโฮวา​ก็​มี​ความ​จำ​ที่​สมบูรณ์​แบบ​ด้วย

      7, 8. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ว่า​พระองค์​มี​ความ​เข้าใจ​และ​สติ​ปัญญา​ยังไง?

      7 พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​มี​แค่​ความ​รู้​เท่า​นั้น แต่​พระองค์​มี​ความ​เข้าใจ​ด้วย นี่​หมายความ​ว่า​พระองค์​รู้​ดี​ว่า​ทุก​อย่าง​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ยังไง​และ​เข้าใจ​ภาพ​รวม​ทั้ง​หมด พระองค์​รู้​ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ไม่​ดี และ​มอง​ออก​ว่า​เรื่อง​ไหน​สำคัญ​หรือ​ไม่​สำคัญ นอกจากนั้น พระองค์​ไม่​ได้​มอง​แค่​ภาย​นอก​แต่​ดู​ที่​หัวใจ (1 ซามูเอล 16:7) พระ​ยะโฮวา​มี​ความ​เข้าใจ​ซึ่ง​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​กว่า​ความ​รู้ แต่​สติ​ปัญญา​ก็​ยัง​ดี​กว่า​ความ​เข้าใจ​อีก

      8 สติ​ปัญญา​หมาย​ถึง​การ​เรียน​รู้​บาง​อย่าง​และ​มี​ความ​เข้าใจ​ใน​เรื่อง​นั้น และ​เอา​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​มา​ใช้​แล้ว​เกิด​ผล​ที่​ดี คัมภีร์​ไบเบิล​อธิบาย​ว่า “สติ​ปัญญา” หมาย​ถึง​การ​ทำ​บาง​อย่าง​ให้​สำเร็จ พระ​ยะโฮวา​ใช้​ความ​รู้​และ​ความ​เข้าใจ​เพื่อ​ทำ​ให้​ความ​ประสงค์​ทุก​อย่าง​ของ​พระองค์​เกิด​ขึ้น​จริง พระองค์​รู้​และ​เข้าใจ​ทุก​อย่าง พระองค์​ตัดสิน​ใจ​ได้​ดี​และ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​วิธี​ที่​ดี​ที่​สุด​เสมอ พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา​แท้ และ​เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ที่​บอก​ว่า “สติ​ปัญญา​ที่​แท้​จริง​ก็​เห็น​ได้​จาก​ผล​ที่​ปรากฏ​ออก​มา” (มัทธิว 11:19) ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก

      สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​แสดง​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา

      9, 10. (ก) พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ใน​เรื่อง​อะไร และ​พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น​ยังไง? (ข) ความ​รู้​เรื่อง​เซลล์​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา​ยังไง?

      9 คุณ​ประทับใจ​ไหม​ตอน​ที่​เห็น​ใคร​สัก​คน​ทำ​อะไร​ที่​สวย​มาก​และ​ใช้​งาน​ได้​ดี? (อพยพ 31:1-3) มนุษย์​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ได้ แต่​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​กว่า​มนุษย์​ทุก​คน กษัตริย์​ดาวิด​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “ผม​สรรเสริญ​พระองค์ เพราะ​ผม​ถูก​สร้าง​อย่าง​น่า​อัศจรรย์​และ​น่า​เกรง​ขาม ผล​งาน​ของ​พระองค์​ยอด​เยี่ยม ผม​รู้​เรื่อง​นี้​ดี” (สดุดี 139:14) ถ้า​เรา​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ร่าง​กาย​มนุษย์​มาก​ขึ้น เรา​ก็​จะ​ยิ่ง​ประทับใจ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น

      10 ตัวอย่าง​เช่น ชีวิต​ของ​เรา​เริ่ม​ตอน​ที่​เซลล์​ไข่​เซลล์​หนึ่ง​ผสม​กับ​อสุจิ หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน​เซลล์​ก็​เริ่ม​แบ่ง​ตัว แล้ว​ก็​เกิด​เป็น​ตัว​เรา​ที่​มี​เซลล์​ประมาณ 100 ล้าน​ล้าน​เซลล์ เซลล์​เหล่า​นี้​มี​ขนาด​เล็ก​มาก ถ้า​เอา​เซลล์​ประมาณ 10,000 เซลล์​มา​รวม​กัน​จะ​มี​ขนาด​เท่า​กับ​หัว​เข็ม​หมุด ถึงอย่างนั้น​แต่​ละ​เซลล์​ก็​มี​ความ​ซับซ้อน​มาก​กว่า​เครื่องจักร​หรือ​โรง​งาน​ที่​มนุษย์​สร้าง​ขึ้น​มา นัก​วิทยาศาสตร์​บอก​ว่า​เซลล์​เซลล์​หนึ่ง​เป็น​เหมือน​เมือง​ที่​มี​กำแพง​และ​ประตู​ล้อม​รอบ มี​ระบบ​ขน​ส่ง มี​เครือข่าย​การ​ติด​ต่อ​สื่อสาร มี​โรง​ไฟฟ้า โรง​งาน ระบบ​กำจัด​ของ​เสีย​และ​ระบบ​รีไซเคิล มี​หน่วย​ป้องกัน​ภัย และ​ถึง​กับ​มี​ส่วน​ที่​เป็น​เหมือน​รัฐบาล​กลาง​ใน​นิวเคลียส​ของ​เซลล์​ด้วย​ซ้ำ นอกจากนั้น ภาย​ใน​แค่​ไม่​กี่​ชั่วโมง​เซลล์​ยัง​สามารถ​สร้าง​แบบ​จำลอง​ของ​ตัว​มัน​เอง​ได้​อย่าง​สมบูรณ์

      11, 12. (ก) ข้อมูล​ที่​จำเป็น​เพื่อ​สร้าง​เซลล์​ชนิด​ต่าง ๆ มา​จาก​ไหน และ​เรื่อง​นี้​เหมือน​กับ​ที่​บอก​ใน​สดุดี 139:16 ยังไง? (ข) สมอง​ของ​มนุษย์​ทำ​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เรา “ถูก​สร้าง​อย่าง​น่า​อัศจรรย์”?

      11 ถึง​แม้​ตัว​เรา​จะ​มี​เซลล์​จำนวน​มาก​แต่​ไม่​ใช่​ทุก​เซลล์​เหมือน​กัน ตอน​ที่​ทารก​กำลัง​เติบโต​ใน​ท้อง​แม่ เซลล์​หลาย​เซลล์​ก็​แบ่ง​ตัว​เพิ่ม​ออก​เป็น​เซลล์​หลาย​ชนิด เช่น เซลล์​ประสาท เซลล์​กระดูก เซลล์​กล้ามเนื้อ เซลล์​เม็ด​เลือด หรือ​เซลล์​ตา และ​เพื่อ​จะ​สร้าง​เซลล์​ทั้ง​หมด​นี้​ต้อง​มี​ข้อมูล​ที่​จำเป็น​ที่​เก็บ​ไว้​ใน​แต่​ละ​เซลล์​ที่​เป็น​เหมือน​กับ “ห้อง​สมุด” ขนาด​ใหญ่​ที่​เรียก​ว่า ดีเอ็นเอ ดาวิด​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​พลัง​บริสุทธิ์​ให้​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระองค์​เห็น​ผม​ตอน​ที่​ยัง​เป็น​ตัว​อ่อน พระองค์​จด​ร่าง​กาย​ทุก​ส่วน​ของ​ผม​ไว้​ใน​สมุด​ของ​พระองค์”—สดุดี 139:16

      12 อวัยวะ​บาง​ส่วน​ของ​ร่าง​กาย​มนุษย์​ซับซ้อน​มาก​จริง ๆ ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​ของ​สมอง​ด้วย​กัน นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​บอก​ว่า​สมอง​เป็น​สิ่ง​ที่​ซับซ้อน​มาก​ที่​สุด​ใน​เอกภพ สมอง​มี​เซลล์​ประสาท​ประมาณ 1 แสน​ล้าน​เซลล์ ซึ่ง​มาก​พอ ๆ กับ​จำนวน​ดาว​ใน​กาแล็กซี​ของ​เรา เซลล์​เหล่า​นั้น​แต่​ละ​เซลล์​เชื่อม​ต่อ​กับ​เซลล์​อื่น ๆ หลาย​พัน​เซลล์ นัก​วิทยาศาสตร์​บอก​ว่า​สมอง​ของ​มนุษย์​สามารถ​เก็บ​ข้อมูล​จาก​หนังสือ​ทุก​เล่ม​ใน​ห้อง​สมุด​ทั่ว​โลก​ได้​และ​อาจ​จะ​มาก​กว่า​นั้น​อีก​ด้วย ถึง​แม้​นัก​วิทยาศาสตร์​จะ​ใช้​เวลา​นาน​หลาย​ปี​ใน​การ​ศึกษา​สมอง พวก​เขา​ก็​ยอม​รับ​ว่า​ไม่​ได้​เข้าใจ​เต็ม​ที่​เกี่ยว​กับ​การ​ทำ​งาน​ของ​มัน

      13, 14. (ก) มด​และ​สัตว์​อื่น ๆ แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พวก​มัน “ฉลาด​โดย​สัญชาตญาณ” และ​เรื่อง​นั้น​สอน​อะไร​เรา​เกี่ยว​กับ​ผู้​สร้าง​สัตว์​เหล่า​นั้น? (ข) ทำไม​เรา​บอก​ได้​ว่า​ใย​แมงมุม​ถูก​สร้าง​ขึ้น “ด้วย​สติ​ปัญญา” ของ​พระเจ้า?

      13 มนุษย์​เป็น​แค่​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​สร้าง สดุดี 104:24 บอก​ว่า “พระ​ยะโฮวา ผล​งาน​ของ​พระองค์​มี​มาก​มาย​จริง ๆ พระองค์​สร้าง​ทุก​อย่าง​ด้วย​สติ​ปัญญา โลก​เต็ม​ไป​ด้วย​สิ่ง​ที่​พระองค์​สร้าง​ไว้” สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยัง​เห็น​ชัด​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​สร้าง​ซึ่ง​อยู่​รอบ​ตัว​เรา ตัวอย่าง​เช่น มด “ฉลาด​โดย​สัญชาตญาณ” (สุภาษิต 30:24) เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​การ​ที่​มัน​จัด​กลุ่ม​อย่าง​เป็น​ระเบียบ มด​บาง​ชนิด​คอย​ดู​แล ปก​ป้อง และ​เอา​อาหาร​จาก​แมลง​ที่​เรียก​ว่า​ตัว​เพลี้ย​เหมือน​กับ​ว่า​แมลง​เหล่า​นี้​เป็น​สัตว์​เลี้ยง​ใน​ฟาร์ม​ของ​พวก​มัน มด​บาง​ชนิด​เป็น​เหมือน​ชาว​สวน​ที่​เพาะ​ปลูก “พืช​ผล” เช่น พวก​เชื้อ​รา พระ​ยะโฮวา​ให้​สัตว์​ต่าง ๆ มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​น่า​ทึ่ง ตัวอย่าง​เช่น แมลงวัน​สามารถ​บิน​ได้​ดี​กว่า​เครื่องบิน​ใน​ทุก​วัน​นี้ นก​ที่​อพยพ​เป็น​ระยะ​ทาง​ไกล​อาศัย​ดวง​ดาว สนาม​แม่เหล็ก​โลก หรือ​แผนที่​ซึ่ง​อยู่​ใน​ตัว​มัน​เป็น​เครื่อง​นำ​ทาง นัก​วิทยาศาสตร์​ใช้​เวลา​หลาย​ปี​ศึกษา​ความ​สามารถ​ที่​น่า​ทึ่ง​ของ​สัตว​เหล่า​นี้ ดังนั้น ผู้​ที่​ให้​ความ​สามารถ​เหล่า​นี้​กับ​สัตว์​ต่าง ๆ ต้อง​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ

      14 นัก​วิทยาศาสตร์​เรียน​หลาย​อย่าง​จาก​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​สร้าง มี​สาขา​วิชา​ด้าน​วิศวกรรม​ที่​เรียก​ว่า​ไบโอไมเมติกส์ ซึ่ง​พยายาม​เลียน​แบบ​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​มี​อยู่​ใน​ธรรมชาติ ตัวอย่าง​เช่น เมื่อ​คุณ​มอง​ใย​แมงมุม​คุณ​อาจ​รู้สึก​ทึ่ง​ที่​มัน​สวย​มาก แต่​นัก​วิทยาศาสตร์​อาจ​รู้สึก​ทึ่ง​ใน​การ​ออก​แบบ​ของ​มัน เพราะ​ถึง​เส้นใย​แมงมุม​จะ​ดู​บอบบาง​และ​ขาด​ง่าย แต่​มัน​ก็​แข็งแรง​กว่า​เหล็ก​หรือ​เส้นใย​ใน​เสื้อ​กัน​กระสุน แล้ว​ใย​แมงมุม​แข็งแรง​มาก​ขนาด​ไหน? ขอ​ให้​นึก​ภาพ​ว่า​ถ้า​มัน​มี​ขนาด​เท่า​กับ​อวน​ที่​ใช้​ใน​การ​จับ​ปลา ใย​แมงมุม​นั้น​ก็​จะ​สามารถ​หยุด​เครื่องบิน​ลำ​ใหญ่​ที่​กำลัง​บิน​อยู่​ได้ เรา​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สร้าง​สิ่ง​ทั้ง​หมด​นี้ “ด้วย​สติ​ปัญญา” ของ​พระองค์​จริง ๆ

      รูปภาพ:เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​การ​สร้าง 1. ใย​แมงมุม 2. มด​ขน​ใบ​ไม้​และ​เดิน​อย่าง​เป็น​ระเบียบ 3. ฝูง​ห่าน​กำลัง​บิน​อยู่

      ใคร​สร้าง​ให้​สัตว์​ต่าง ๆ บน​โลก “ฉลาด​โดย​สัญชาตญาณ”?

      สติ​ปัญญา​ใน​การ​จัด​ระเบียบ​ดวง​ดาว​และ​ทูตสวรรค์

      15, 16. (ก) ดวง​ดาว​และ​กาแล็กซี​สอน​อะไร​เรา​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา? (ข) การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ทูตสวรรค์​มี​งาน​มาก​มาย​บอก​ให้​เรา​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์?

      15 สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เห็น​แค่​ใน​โลก​เท่า​นั้น ใน​บท 5 เรา​ได้​เรียน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ โคจร​อย่าง​เป็น​ระเบียบ​ตาม “กฎ​ควบคุม​ท้องฟ้า” ของ​พระองค์ (โยบ 38:33) เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​จาก​การ​ที่​พระองค์​จัด​ระเบียบ​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ ใน​กาแล็กซี จัด​กาแล็กซี​เป็น​กลุ่ม ๆ และ​ให้​อยู่​รวม​กัน​เป็น​กลุ่ม​กาแล็กซี​ขนาด​ใหญ่ นี่​ทำ​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ถึง​เปรียบ​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ เหมือน​กับ “กองทัพ” (อิสยาห์ 40:26) แต่​มี​กองทัพ​อีก​แบบ​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​กว่า​นี้​อีก

      16 ใน​บท 4 เรา​ได้​เรียน​รู้​ว่า​พระเจ้า​ถูก​เรียก​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​เป็น​จอม​ทัพ” เพราะ​พระองค์​เป็น​ผู้​นำ​กองทัพ​ใหญ่​ของ​ทูตสวรรค์ นี่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มี​พลัง​มาก​จริง ๆ แต่​เรื่อง​นี้​ยัง​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​ด้วย ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น? ลอง​คิด​ดู​ว่า​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู​ไม่​เคย​หยุด​ทำ​งาน (ยอห์น 5:17) ทูตสวรรค์​ที่​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ก็​มี​งาน​เยอะ​ด้วย​เหมือน​กัน ถึง​แม้​ทูตสวรรค์​มี​ความ​สามารถ​และ​พลัง​มาก​กว่า​มนุษย์ แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​มี​งาน​มาก​มาย​ให้​พวก​เขา​ทำ​ตั้งแต่​พวก​เขา​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มา (ฮีบรู 1:7; 2:7) ทูตสวรรค์​มี​ความ​สุข​ที่​ได้ “ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​พระองค์” และ “ทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์” เป็น​เวลา​หลาย​พัน​ล้าน​ปี (สดุดี 103:20, 21) เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ

      พระ​ยะโฮวา “เท่า​นั้น​ที่​ฉลาด​รอบรู้”

      17, 18. ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​ถึง​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา “เท่า​นั้น​ที่​ฉลาด​รอบรู้” และ​เรา​เรียน​อะไร​ได้​จาก​สิ่ง​ที่​เปาโล​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า?

      17 เรา​เข้าใจ​ได้​ว่า​ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​ถึง​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา​มาก ตัวอย่าง​เช่น คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา “เท่า​นั้น​ที่​ฉลาด​รอบรู้” (โรม 16:27) พระ​ยะโฮวา​ผู้​เดียว​มี​สติ​ปัญญา​สม​บรูณ์​แบบ ดังนั้น สติ​ปัญญา​แท้​มา​จาก​พระองค์ (สุภาษิต 2:6) แม้​พระ​เยซู​จะ​เป็น​ผู้​ฉลาด​ที่​สุด​ที่​พระ​ยะโฮวา​สร้าง ท่าน​ก็​ไม่​ได้​พึ่ง​สติ​ปัญญา​ของ​ตัว​เอง แต่​ท่าน​ก็​พูด​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พ่อ​ของ​ท่าน​บอก​ไว้—ยอห์น 12:48-50

      18 ขอ​สังเกต​ว่า​อัครสาวก​เปาโล​พูด​ถึง​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ไม่​มี​ใคร​เทียบ​ได้​ว่า​ยังไง เขา​บอก​ว่า “พร​จาก​พระเจ้า​มาก​มาย​จริง ๆ สติ​ปัญญา​และ​ความ​รู้​ของ​พระองค์​ก็​ลึกซึ้ง​อะไร​อย่าง​นี้ ใคร​จะ​รู้​ได้​ว่า​พระองค์​จะ​ตัดสิน​ใจ​อย่างไร และ​ใคร​จะ​คาด​เดา​ได้​ว่า​พระองค์​จะ​ทำ​อะไร​ต่อ​ไป” (โรม 11:33) เปาโล​รู้สึก​ประทับใจ​มาก ใน​ภาษา​เดิม​เขา​เลือก​ใช้​คำ​ว่า “ลึกซึ้ง” ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​ที่​แปล​ว่า “ขุม​ลึก” คำ​นี้​ช่วย​ให้​เห็น​ภาพ​ชัดเจน​และ​หมาย​ถึง​ที่​ที่​ลึก​มาก ๆ และ​ไร้​ขอบ​เขต แม้​เรา​จะ​พยายาม​มาก​แค่​ไหน​เพื่อ​เข้าใจ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เรา​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​ได้​อย่าง​เต็ม​ที่ และ​เรา​จะ​ไม่​มี​วัน​รู้​ทุก​อย่าง​เหมือน​กับ​พระองค์ (สดุดี 92:5) นี่​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เรา​แทบ​ไม่​รู้​อะไร​เลย

      19, 20. (ก) ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ถึง​ใช้​นก​อินทรี​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์? (ข) อะไร​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​อนาคต?

      19 พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​เดียว “เท่า​นั้น​ที่​ฉลาด​รอบรู้” ใน​อีก​ความหมาย​หนึ่ง​คือ พระองค์​ผู้​เดียว​ที่​รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​อนาคต อย่า​ลืม​ว่า พระ​ยะโฮวา​ใช้​นก​อินทรี​ที่​มี​สายตา​ที่​ดี​มาก​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์ นก​อินทรี​ทอง​อาจ​หนัก​แค่ 5 กิโลกรัม แต่​มัน​มี​ตา​ที่​ใหญ่​กว่า​ตา​ของ​มนุษย์ สายตา​ที่​ดี​มาก​ของ​นก​อินทรี​ทำ​ให้​มัน​สามารถ​มอง​เห็น​เหยื่อ​ที่​เล็ก​มาก​จาก​ที่​สูง​หลาย​ร้อย​เมตร และ​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​มาก​กว่า​หนึ่ง​กิโลเมตร​ด้วย​ซ้ำ ครั้ง​หนึ่ง​พระ​ยะโฮวา​พูด​ถึง​นก​อินทรี​ว่า “ตา​ของ​มัน​มอง​เห็น​แต่​ไกล” (โยบ 39:29) คล้าย​กัน พระ​ยะโฮวา​ก็​สามารถ​มอง​ไป​ไกล​ถึง​อนาคต​ได้

      20 ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​คำ​พยากรณ์​หรือ​เหตุ​การณ์​ที่​เขียน​ไว้​ล่วง​หน้า​หลาย​ร้อย​ข้อ นี่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​อนาคต พระ​ยะโฮวา​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​ใคร​จะ​ชนะ​สงคราม ใคร​จะ​เป็น​มหาอำนาจ​โลก และ​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​พวก​เขา​จะ​ชนะ​ยังไง บาง​เรื่อง​ก็​บอก​ล่วง​หน้า​เป็น​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​ด้วย​ซ้ำ—อิสยาห์ 44:25-45:4; ดาเนียล 8:2-8, 20-22

      21, 22. (ก) ทำไม​ถึง​ผิด​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ลิขิต​ชีวิต​ของ​เรา​ไว้​ล่วง​หน้า? ขอ​ยก​ตัวอย่าง (ข) เรา​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ใช้​สติ​ปัญญา​ใน​แบบ​ที่​ไม่​มี​ความ​รัก?

      21 แต่​นี่​หมายความ​ว่า​พระเจ้า​รู้​ล่วง​หน้า​ทุก​อย่าง​ที่​คุณ​จะ​ทำ​ไหม? บาง​ศาสนา​สอน​ว่า​พระเจ้า​เป็น​ผู้​ลิขิต​ชีวิต​ของ​เรา แต่​ความ​คิด​แบบ​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​เข้าใจ​ผิด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​มี​สติ​ปัญญา​จริง ๆ เพราะ​นั่น​จะ​แสดง​ว่า​พระองค์​ไม่​สามารถ​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​อนาคต ตัวอย่าง​เช่น ถ้า​คุณ​เสียง​ดี​และ​ร้อง​เพลง​เก่ง นั่น​หมายความ​ว่า​คุณ​จะ​ต้อง​ร้อง​เพลง​ตลอด​เวลา​ไหม? ไม่ คล้าย​กัน แม้​พระ​ยะโฮวา​สามารถ​รู้​ว่า​อนาคต​จะ​เป็น​ยังไง แต่​พระองค์​ก็​ไม่​ได้​ใช้​ความ​สามารถ​นั้น​ตลอด​เวลา ถ้า​พระองค์​ทำ​อย่าง​นั้น​เรา​ก็​ไม่​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​เลือก​เอง​ว่า​เรา​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​บ้าง การ​มี​อิสระ​ที่​จะ​เลือก​เป็น​ของ​ขวัญ​ที่​มี​ค่า​จาก​พระ​ยะโฮวา​และ​พระองค์​จะ​ไม่​เอา​สิทธิ์​นั้น​ไป​จาก​เรา​แน่นอน—เฉลย​ธรรมบัญญัติ 30:19, 20

      22 คน​ที่​เชื่อ​ว่า​พระเจ้า​ลิขิต​ทุก​อย่าง​ไว้​ล่วง​หน้า​ก็​กำลัง​โทษ​พระองค์​ว่า​เป็น​ต้น​เหตุ​ที่​ทำ​ให้​เรื่อง​ไม่​ดี​เกิด​ขึ้น และ​คิด​ว่า​พระองค์​ใช้​สติ​ปัญญา​ใน​แบบ​ที่​ไม่​มี​ความ​รัก แต่​นั่น​ไม่​เป็น​ความ​จริง​เลย คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา “เป็น​ความ​รัก” (1 ยอห์น 4:8) นี่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​แสดง​สติ​ปัญญา​ด้วย​ความ​รัก​เหมือน​กับ​คุณลักษณะ​อื่น ๆ ของ​พระองค์​เสมอ

      23. ทำไม​เรา​ควร​วางใจ​ใน​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​เรา​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​ยังไง?

      23 เห็น​ได้​ชัด​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​สมบูรณ์​แบบ พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​กว่า​เรา คัมภีร์​ไบเบิล​กระตุ้น​เรา​ด้วย​ความ​รัก​ว่า “ขอ​ให้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา​สุด​หัวใจ และ​อย่า​พึ่ง​ความ​เข้าใจ​ของ​ตัว​เอง คิด​ถึง​พระองค์​เสมอ​ไม่​ว่า​จะ​ทำ​อะไร แล้ว​พระองค์​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​ราบรื่น” (สุภาษิต 3:5, 6) ให้​เรา​เรียน​รู้​ต่อ ๆ ไป​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​เรา​จะ​ใกล้​ชิด​มาก​ขึ้น​กับ​พระเจ้า​ของ​เรา​ผู้​รอบรู้​ทุก​สิ่ง

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • โยบ 28:11-28 สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​มี​ค่า​มาก​ขนาด​ไหน และ​การ​คิด​ใคร่ครวญ​เรื่อง​นี้​มี​ประโยชน์​กับ​เรา​ยังไง?

      • สดุดี 104:1-25 เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง​ใน​สิ่ง​ที่​พระองค์​สร้าง และ​นั่น​ทำ​ให้​คุณ​รู้สึก​ยังไง?

      • สุภาษิต 3:19-26 เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร​บ้าง​ถ้า​เรา​คิด​ใคร่ครวญ​และ​ทำ​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทุก​วัน?

      • ดาเนียล 2:19-28 ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​เปิด​เผย​เรื่อง​ที่​ปก​ปิด​ไว้ และ​เรา​จะ​ทำ​ยังไง​ถ้า​เรา​เห็น​ค่า​คำ​พยากรณ์​ที่​อยู่​ใน​คำ​ของ​พระองค์?

  • สติ​ปัญญา​ใน “คำ​สอน​ของ​พระเจ้า”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​กำลัง​เขียน​ข้อ​ความ​ลง​ใน​ม้วน​หนังสือ

      บท 18

      สติ​ปัญญา​ใน “คำ​สอน​ของ​พระเจ้า”

      1, 2. พระ​ยะโฮวา​ให้​มี​การ​เขียน​ข้อ​ความ​อะไร​ที่​เป็น​เหมือน “จดหมาย” ถึง​เรา และ​ทำไม?

      คุณ​เคย​ได้​รับ​จดหมาย​จาก​คน​ที่​คุณ​รัก​ไหม? การ​ได้​รับ​จดหมาย​จาก​คน​ที่​เรา​รัก​เป็น​เรื่อง​ที่ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​มาก เรา​รู้สึก​ดีใจ​ที่​รู้​ว่า​เขา​เป็น​ยังไง เขา​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง และ​เขา​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​ใน​วัน​ข้าง​หน้า ถึง​แม้​เรา​จะ​อยู่​ไกล​กัน​แต่​การ​ติด​ต่อ​กัน​แบบ​นี้​ก็​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​สนิท​กัน​มาก​ขึ้น​ได้

      2 การ​ได้​รับ​จดหมาย​จาก​คน​ที่​เรา​รัก​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​มาก แต่​การ​ได้​รับ​ข้อ​ความ​จาก​พระเจ้า​ที่​เรา​รัก​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า พระ​ยะโฮวา​ให้​มี​การ​เขียน​ข้อ​ความ​ที่​เป็น​เหมือน “จดหมาย” ถึง​เรา นั่น​คือ​คัมภีร์​ไบเบิล ใน​จดหมาย​นั้น พระองค์​บอก​เรา​ว่า​พระองค์​เป็น​ใคร พระองค์​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง พระองค์​อยาก​จะ​ทำ​อะไร และ​เรื่อง​อื่น ๆ อีก​มาก​มาย พระ​ยะโฮวา​ให้​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​เรา​เพราะ​อยาก​ให้​เรา​ใกล้​ชิด​กับ​พระองค์ พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ฉลาด​รอบรู้ พระองค์​รู้​ดี​ที่​สุด​ว่า​จะ​ติด​ต่อ​กับ​เรา​ยังไง เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ที่​ยอด​เยี่ยม​ของ​พระองค์​ใน​เนื้อหา​และ​วิธี​ที่​มี​การ​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล

      ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ให้​มี​การ​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      3. พระ​ยะโฮวา​ให้​กฎหมาย​กับ​โมเสส​ยังไง?

      3 บาง​คน​อาจ​สงสัย​ว่า ‘ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ไม่​พูด​กับ​มนุษย์​โดย​ตรง​จาก​สวรรค์’? พวก​เขา​คิด​ว่า​นั่น​จะ​เป็น​วิธี​ที่​น่า​สนใจ​มาก​กว่า​การ​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล ที่​จริง พระ​ยะโฮวา​เคย​พูด​กับ​มนุษย์​โดย​ทาง​ทูตสวรรค์ ตัวอย่าง​เช่น ตอน​ที่​พระองค์​ให้​กฎหมาย​กับ​ชาว​อิสราเอล (กาลาเทีย 3:19) ชาว​อิสราเอล​ตกใจ​กลัว​เมื่อ​ได้​ยิน​เสียง​ของ​พระองค์​จาก​สวรรค์ พวก​เขา​ขอ​ไม่​ให้​พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​พวก​เขา​โดย​ตรง​แต่​ขอ​ให้​พระองค์​ติด​ต่อ​กับ​พวก​เขา​ผ่าน​ทาง​โมเสส (อพยพ 20:18-20) ดังนั้น พระ​ยะโฮวา​ให้​กฎหมาย​ประมาณ 600 ข้อ​กับ​พวก​เขา​โดย​พูด​กับ​โมเสส

      4. จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​โมเสส​ไม่​ได้​เขียน​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ไว้​เลย?

      4 แต่​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​โมเสส​ไม่​ได้​เขียน​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ไว้​เลย? เขา​จะ​จำ​สิ่ง​พระ​ยะโฮวา​บอก​กับ​เขา​และ​เอา​ไป​บอก​ต่อ​กับ​ชาว​อิสราเอล​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ไหม? พวก​เขา​จะ​จำ​ทุก​อย่าง​ที่​โมเสส​บอก​เพื่อ​จะ​บอก​ให้​ลูก​หลาน​ของ​พวก​เขา​ฟัง​ได้​ไหม? และ​ลูก​หลาน​ของ​พวก​เขา​จะ​บอก​ให้​คน​รุ่น​ต่อ​ไป​ฟัง​ได้​ไหม? นั่น​คง​ไม่​ใช่​วิธี​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​ทำ​ให้​ทุก​คน​รู้​จัก​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง คิด​ดู​สิ​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้า​คุณ​ต้อง​เล่า​บาง​เรื่อง​ให้​หลาย​คน​ที่​ยืน​เรียง​แถว​ยาว​เหยียด​ฟัง คุณ​เล่า​เรื่อง​นั้น​ให้​คน​แรก​ฟัง​แล้ว​ให้​เขา​เล่า​ต่อ ๆ กัน​ไป​จน​ถึง​คน​สุด​ท้าย​ใน​แถว สิ่ง​ที่​คน​สุด​ท้าย​ใน​แถว​ได้​ยิน​คง​จะ​ต่าง​กัน​มาก​กับ​สิ่ง​ที่​คน​แรก​บอก แต่​เรื่อง​นี้​ไม่​เกิด​ขึ้น​กับ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​แน่ ๆ เพราะ​อะไร?

      5, 6. พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​โมเสส​ทำ​อะไร​กับ​ถ้อย​คำ​ของ​พระองค์ และ​ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ของขวัญ​ที่​มี​ค่า​มาก​จาก​พระ​ยะโฮวา?

      5 พระ​ยะโฮวา​เลือก​วิธี​ดี​ที่​สุด​เพื่อ​ให้​เขียน​คำ​ของ​พระองค์​ไว้ พระองค์​บอก​โมเสส​ว่า “ให้​บันทึก​ถ้อย​คำ​ทั้ง​หมด​นี้​ไว้ เพราะ​เรา​จะ​ทำ​สัญญา​กับ​เจ้า​และ​ชาว​อิสราเอล​ตาม​ถ้อย​คำ​ทั้ง​หมด​นี้” (อพยพ 34:27) ดังนั้น ใน​ปี 1513 ก่อน ค.ศ. โมเสส​เป็น​คน​แรก​ที่​เริ่ม​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล ตลอด​ช่วง​เวลา 1,610 ปี​ต่อ​มา พระ​ยะโฮวา “พูด . . . ใน​หลาย​โอกาส​และ​หลาย​วิธี” กับ​ผู้​เขียน​คน​อื่น​อีก​ประมาณ 40 คน (ฮีบรู 1:1) ใน​ช่วง​เวลา​เดียว​กัน​นั้น ผู้​คัด​ลอก​ที่​ซื่อสัตย์​ได้​ทำ​สำเนา​ที่​ถูก​ต้อง​เพื่อ​จะ​รักษา​ถ้อย​คำ​ของ​พระเจ้า​ไว้—เอสรา 7:6; สดุดี 45:1

      6 คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ของขวัญ​ที่​มี​ค่า​มาก​จาก​พระ​ยะโฮวา คุณ​เคย​ได้​รับ​จดหมาย​ที่​ให้​กำลังใจ​และ​ชอบ​อ่าน​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก​ไหม? คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​เป็น “จดหมาย” แบบ​นั้น​จาก​พระเจ้า เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ให้​คำ​สอน​ของ​พระองค์​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร เรา​เลย​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ประจำ​และ​คิด​ใคร่ครวญ​ได้ (สดุดี 1:2) เมื่อ​เรา​เจอ​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​ท้อ​และ​ต้องการ​กำลังใจ ‘พระ​คัมภีร์​ช่วย​ให้​เรา​มี​กำลังใจ’ ได้—โรม 15:4

      ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ให้​มนุษย์​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      7. เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง​เมื่อ​พระองค์​ให้​มนุษย์​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      7 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​โดย​ให้​มนุษย์​ให้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล ขอ​ให้​คิด​ดู​ว่า ถ้า​พระ​ยะโฮวา​ให้​ทูตสวรรค์​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรา​จะ​รู้สึก​ประทับใจ​กับ​เรื่อง​ที่​อ่าน​ไหม? จริง​อยู่ ทูตสวรรค์​อาจ​อธิบาย​ได้​จาก​มุม​มอง​ของ​พวก​เขา​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ยังไง ทำไม​พวก​เขา​รัก​และ​นมัสการ​พระองค์ พวก​เขา​ยัง​จะ​บอก​เรื่อง​มนุษย์​ที่​รับใช้​พระเจ้า​อย่าง​ซื่อสัตย์​ได้​ด้วย แต่​ทูตสวรรค์​มี​ฐานะ​สูง​กว่า​เรา พวก​เขา​สมบูรณ์​แบบ มี​ความ​รู้ มี​ประสบการณ์ และ​มี​อำนาจ​มาก​กว่า​เรา แล้ว​เรา​จะ​เข้าใจ​ได้​จริง ๆ ไหม​ว่า​พวก​เขา​อยาก​จะ​บอก​อะไร​กับ​เรา?—ฮีบรู 2:6, 7

      8. พระ​ยะโฮวา​ให้​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​โอกาส​ทำ​อะไร? (ดู​เชิงอรรถ)

      8 โดย​การ​ให้​มนุษย์​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​พระ​ยะโฮวา​ให้​สิ่ง​ที่​มี​ประโยชน์​มาก​กับ​เรา คือ​หนังสือ​ที่ “พระเจ้า​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ขึ้น​มา” ซึ่ง​มี​ความ​คิด​ของ​พระองค์​และ​เรื่อง​ราว​ที่​ประทับใจ​เรา (2 ทิโมธี 3:16) พระองค์​ทำ​ให้​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​ยังไง? หลาย​ครั้ง​พระองค์​ให้​ผู้​เขียน​ใช้​ความ​คิด​ของ​เขา​เอง​ใน​การ​เลือก “คำ​ที่​สละสลวย” และ​บันทึก “ถ้อย​คำ​ที่​เป็น​ความ​จริง​อย่าง​ถูก​ต้อง” (ปัญญาจารย์ 12:10, 11) นี่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​วิธี​การ​เขียน​ที่​หลาก​หลาย​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เห็น​ว่า​ผู้​เขียน​เป็น​คน​แบบ​ไหน และ​มี​ประสบการณ์​แบบ​ไหน​บ้าง​ใน​ชีวิตa แต่​พวก​เขา “พูด​สิ่ง​ที่​มา​จาก​พระเจ้า​ตาม​ที่​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์​ชี้​นำ” (2 เปโตร 1:21) ดังนั้น คัมภีร์​ไบเบิล​จึง​เป็น “คำ​สอน​ของ​พระเจ้า”—1 เธสะโลนิกา 2:13

      “พระ​คัมภีร์​ทุก​ตอน พระเจ้า​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ขึ้น​มา”

      9, 10. ทำไม​เรา​ถึง​ประทับใจ​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      9 การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​มนุษย์​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​ประทับใจ​เรื่อง​ที่​อ่าน ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​คน​ธรรมดา​และ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​เหมือน​เรา พวก​เขา​เจอ​ความ​ลำบาก​และ​ความ​กดดัน​คล้าย​กัน​กับ​เรา บาง​ครั้ง​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ดล​ใจ​ให้​พวก​เขา​เขียน​เกี่ยว​กับ​ความ​รู้สึก​และ​ปัญหา​ของ​ตัว​เอง (2 โครินธ์ 12:7-10) ดังนั้น เขา​เขียน​เกี่ยว​กับ​ประสบการณ์​ที่​เขา​เจอ​ด้วย​คำ​พูด​ของ​ตัว​เอง ซึ่ง​ทูตสวรรค์​จะ​ไม่​สามารถ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้

      10 ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​ของ​กษัตริย์​ดาวิด​ด้วย​กัน หลัง​จาก​เขา​ได้​ทำ​บาป​ร้ายแรง เขา​แต่ง​เพลง​สดุดี​ที่​ระบาย​ความ​ใน​ใจ​ออก​มา​และ​อ้อน​วอน​ขอ​การ​อภัย​จาก​พระเจ้า เขา​เขียน​ว่า “โปรด . . . ชำระ​บาป​ให้​ผม เพราะ​ผม​รู้​ตัว​ดี​ว่า​ทำ​ผิด​ไป​แล้ว บาป​ที่​ผม​ทำ​ไป​ก็​ติด​อยู่​ใน​ใจ​ผม​เสมอ ผม​มี​ความ​ผิด​ติด​ตัว​มา​ตั้งแต่​เกิด และ​มี​บาป​ตั้งแต่​อยู่​ใน​ท้อง​แม่ ขอ​อย่า​ไล่​ผม​ไป​จาก​พระองค์ และ​ขอ​อย่า​เอา​พลัง​บริสุทธิ์​ไป​จาก​ผม เครื่อง​บูชา​ที่​พระเจ้า​พอ​ใจ​คือ​หัวใจ​ที่​สำนึก​ผิด พระองค์​จะ​ไม่​ดูถูก​ใจ​ที่​แตก​สลาย​เลย” (สดุดี 51:2, 3, 5, 11, 17) ตอน​ที่​เรา​อ่าน​ข้อ​เหล่า​นี้​เรา​รู้สึก​ได้​เลย​ว่า​ดาวิด​เจ็บ​ปวด​และ​ทุกข์​ใจ​มาก​จริง ๆ มี​แต่​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​เท่า​นั้น​ที่​จะ​แสดง​ความ​รู้สึก​แบบ​นั้น​ได้

      คัมภีร์​ไบเบิล​มี​เรื่อง​ราว​ของ​ผู้​คน​มาก​มาย

      11. ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ให้​มี​ตัวอย่าง​ชีวิต​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      11 มี​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​ประทับใจ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​เรื่อง​ราว​ของ​ผู้​คน​มาก​มาย ทั้ง​คน​ที่​รับใช้​พระเจ้า​และ​คน​ที่​ไม่​ได้​รับใช้​พระองค์ ตอน​ที่​อ่าน​เรา​จะ​เห็น​ว่า​มี​เรื่อง​อะไร​ที่​ทำ​ให้​พวก​เขา​ทุกข์​ใจ และ​มี​เรื่อง​อะไร​ทำ​ให้​พวก​เขา​มี​ความ​สุข เรา​เรียน​จาก​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​พวก​เขา​และ​เห็น​ว่า​ผล​เป็น​ยังไง มี​การ​รวม​เรื่อง​ราว​เหล่า​นี้​ไว้ “เพื่อ​สอน​เรา” (โรม 15:4) จาก​ตัวอย่าง​ชีวิต​จริง​เหล่า​นี้ พระ​ยะโฮวา​สอน​เรา​ใน​แบบ​ที่​น่า​ประทับใจ​จริง ๆ ให้​เรา​มา​ดู​บาง​ตัวอย่าง​ด้วย​กัน

      12. เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​คน​ที่​ไม่​ซื่อสัตย์​ช่วย​เรา​ยังไง?

      12 คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​คน​ที่​ไม่​ซื่อสัตย์​และ​คน​ชั่ว และ​ยัง​บอก​ด้วย​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​พวก​เขา เรื่อง​ราว​ของ​พวก​เขา​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​ชัด​ว่า​ทำไม​ลักษณะ​นิสัย​เหล่า​นั้น​ถึง​เลว​ร้าย​มาก ตัวอย่าง​เช่น คัมภีร์​ไบเบิล​อาจ​บอก​ตรง ๆ ว่า​เป็น​เรื่อง​ผิด​ที่​จะ​ไม่​ภักดี​กับ​เพื่อน แต่​คุณ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​ได้​อ่าน​ว่า​ยูดาส​ทรยศ​พระ​เยซู (มัทธิว 26:14-16, 46-50; 27:3-10) วิธี​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เขียน​เรื่อง​ต่าง ๆ ประทับใจ​เรา​มาก​กว่า และ​ช่วย​ให้​มอง​ออก​ว่า​ทำไม​เรา​ต้อง​หลีก​เลี่ยง​นิสัย​ที่​ไม่​ดี​แบบ​นั้น

      13. คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​และ​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ได้​ยังไง?

      13 คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​พูด​ถึง​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​หลาย​คน​ของ​พระเจ้า​ด้วย เรา​อ่าน​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ภักดี​ของ​เขา เรา​เห็น​คุณลักษณะ​ดี ๆ ของ​พวก​เขา​ที่​เรา​ต้อง​มี​เพื่อ​จะ​ใกล้​ชิด​กับ​พระเจ้า เช่น ความ​เชื่อ คัมภีร์​ไบเบิล​อธิบาย​ความหมาย​ของ​ความ​เชื่อ​และ​บอก​ว่า​ความ​เชื่อ​สำคัญ​มาก​ถ้า​เรา​อยาก​ให้​พระเจ้า​พอ​ใจ (ฮีบรู 11:1, 6) แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​มี​ตัวอย่าง​ของ​คน​ที่​แสดง​ความ​เชื่อ​ด้วย ขอ​ให้​คิด​ถึง​ว่า​อับราฮัม​มี​ความ​เชื่อ​ที่​เข้มแข็ง​มาก​ขนาด​ไหน​ตอน​ที่​เขา​ถวาย​อิสอัค​เป็น​เครื่อง​บูชา (ปฐมกาล บท 22; ฮีบรู 11:17-19) เรื่อง​ราว​แบบ​นี้​ทำ​ให้​เรา​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า “ความ​เชื่อ” มาก​ขึ้น ดังนั้น พระ​ยะโฮวา​ไม่​เพียง​แค่​บอก​เรา​ให้​พยายาม​มี​คุณลักษณะ​ที่​ดี​เหล่า​นี้ แต่​พระองค์​ยัง​ให้​เรา​เห็น​ตัวอย่าง​ชีวิต​จริง​เกี่ยว​กับ​คุณลักษณะ​เหล่า​นี้​ด้วย เรา​เห็น​ชัด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ

      14, 15. คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​อะไร​เกี่ยว​กับ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​มา​วิหาร และ​เรา​เรียน​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​จาก​เรื่อง​นี้?

      14 เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แบบ​ไหน ขอ​มา​ดู​เรื่อง​ของ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​เห็น​ใน​วิหาร ตอน​ที่​ท่าน​นั่ง​อยู่​ใกล้ ๆ ตู้​บริจาค​และ​สังเกต​ดู​ผู้​คน​ที่​กำลัง​หยอด​เงิน​ลง​ไป​ใน​ตู้​เหล่า​นั้น ท่าน​เห็น​คน​รวย​หลาย​คน​เอา “เงิน​เหลือ​ใช้” มา​บริจาค แต่​ท่าน​ก็​เห็น​แม่​ม่าย​ยาก​จน​คน​หนึ่ง​มา​หยอด “เงิน​เหรียญ​เล็ก ๆ 2 เหรียญ​ที่​มี​ค่า​น้อย​มาก”b นี่​เป็น​เงิน​ทั้ง​หมด​ที่​เธอ​มี สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​พูด​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​รู้สึก​ยังไง ท่าน​บอก​ว่า “แม่​ม่าย​ยาก​จน​คน​นี้​หยอด​เงิน​ลง​ไป​ใน​ตู้​บริจาค​มาก​กว่า​ทุก​คน” พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​เงิน​ที่​เธอ​ได้​บริจาค​นั้น​มี​ค่า​มาก​กว่า​ของ​ทุก​คน​รวม​กัน—มาระโก 12:41-44; ลูกา 21:1-4; ยอห์น 8:28

      15 คิด​ดู​สิ ถึง​จะ​มี​คน​มาก​มาย​มา​ที่​วิหาร​ใน​วัน​นั้น แต่​พระ​เยซู​ก็​ตั้งใจ​สังเกต​ดู​แม่​ม่าย​คน​นี้​และ​พระ​ยะโฮวา​ยัง​ให้​เรื่อง​ของ​เธอ​เขียน​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล จาก​ตัวอย่าง​นี้​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​เข้าใจ​ว่า​พระองค์​เห็น​ค่า​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ​เพื่อ​พระองค์ แม้​สิ่ง​ที่​เรา​ให้​จะ​ไม่​มาก​เหมือน​คน​อื่น แต่​ถ้า​เป็น​สิ่ง​ดี​ที่​สุด​ที่​เรา​ให้​พระองค์​ได้ พระองค์​ก็​พอ​ใจ คุณ​รู้สึก​ยังไง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ใช้​ตัวอย่าง​ของ​แม่​ม่าย​คน​นี้​สอน​ความ​จริง​ที่​ให้​กำลังใจ?

      ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​ให้​ราย​ละเอียด​ทุก​อย่าง?

      16, 17. ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ให้​ราย​ละเอียด​ทั้ง​หมด​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก?

      16 เมื่อ​คุณ​เขียน​จดหมาย​ถึง​ใคร​สัก​คน​ที่​คุณ​รัก คุณ​คง​เขียน​ทุก​เรื่อง​ไม่​ได้ และ​คุณ​ต้อง​เลือก​ว่า​จะ​เขียน​เรื่อง​อะไร​บ้าง คล้าย​กัน พระ​ยะโฮวา​เลือก​ที่​จะ​พูด​ถึง​บาง​คน​และ​บาง​เหตุ​การณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​พระองค์​ก็​ไม่​ได้​บอก​ราย​ละเอียด​ทุก​อย่าง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​เหล่า​นั้น (ยอห์น 21:25) ตัวอย่าง​เช่น อาจ​มี​บาง​เหตุ​การณ์​ที่​เรา​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​พระเจ้า​ถึง​ลง​โทษ​ผู้​คน แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​ไม่​ได้​ตอบ​คำ​ถาม​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​สงสัย ที่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ให้​ราย​ละเอียด​ทั้ง​หมด​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ ทำไม​ถึง​บอก​ได้​อย่าง​นั้น?

      17 คัมภีร์​ไบเบิล​เขียน​ใน​แบบ​ที่​ช่วย​ให้​เรา​รู้​ว่า​เรา​เป็น​คน​แบบ​ไหน ฮีบรู 4:12 บอก​ว่า “ถ้อย​คำ [หรือ​คำ​สอน] ของ​พระเจ้า​มี​ชีวิต ทรง​พลัง คม​ยิ่ง​กว่า​ดาบ​สอง​คม แทง​ทะลุ​ได้​ถึง​ขนาด​ที่​แยก​ออก​ระหว่าง​ตัว​ตน​ที่​เห็น​กับ​ตัว​ตน​จริง ๆ. . . และ​สามารถ​รู้​ถึง​ความ​คิด​และ​เจตนา​ใน​ใจ” คำ​สอน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​ให้​เรา​เป็น​คน​ซื่อสัตย์ ช่วย​ให้​ตรวจ​สอบ​ความ​คิด​และ​การ​กระทำ​ของ​เรา บ่อย​ครั้ง​คน​ที่​มี​เจตนา​จับ​ผิด​จะ​ไม่​พอ​ใจ​ที่​บาง​เหตุ​การณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​ให้​ราย​ละเอียด​ทั้ง​หมด​ที่​เขา​อยาก​รู้ พวก​เขา​อาจ​ถึง​กับ​สงสัย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​มี​ความ​รัก มี​สติ​ปัญญา และ​ยุติธรรม​จริง ๆ ไหม

      18, 19. (ก) ทำไม​เรา​ไม่​ควร​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ได้​รับ​คำ​ตอบ​สำหรับ​ทุก​เรื่อง​ที่​เรา​สงสัย? (ข) เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​เข้าใจ​คำ​สอน​ของ​พระเจ้า และ​นี่​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ที่​ลึกซึ้ง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง?

      18 แต่​ถ้า​เรา​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​เจตนา​ที่​ถูก​ต้อง และ​ถึง​แม้​บาง​เรื่อง​อาจ​จะ​ไม่​มี​ราย​ละเอียด​ทุก​อย่าง เรา​ก็​จะ​ไม่​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ได้​รับ​คำ​ตอบ​สำหรับ​ทุก​เรื่อง​ที่​เรา​สงสัย เพราะ​อะไร? เมื่อ​เรา​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​จะ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา เรา​จะ​ค่อย ๆ รู้​และ​เข้าใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แบบ​ไหน ถึง​แม้​ตอน​แรก​เรา​จะ​ไม่​เข้าใจ​บาง​เรื่อง​ที่​ได้​อ่าน​หรือ​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นั้น​ไม่​สอดคล้อง​กับ​คุณลักษณะ​ของ​พระเจ้า แต่​เรา​ก็​ได้​เรียน​มาก​พอ​จน​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​และ​ยุติธรรม​เสมอ

      19 ดังนั้น เพื่อ​เรา​จะ​เข้าใจ​คำ​สอน​ของ​พระเจ้า เรา​ต้อง​อ่าน​และ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ด้วย​เจตนา​ที่​ถูก​ต้อง เรา​จะ​ได้​เห็น​สติ​ปัญญา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​ยะโฮวา ทำไม​เรา​บอก​ได้​อย่าง​นั้น? ส่วน​ใหญ่​แล้ว​คน​ที่​ฉลาด​อาจ​เขียน​หนังสือ​เพื่อ​ให้​เฉพาะ “คน​มี​ความ​รู้​และ​คน​ฉลาด” อ่าน​และ​เข้าใจ​ได้ แต่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​มี​สติ​ปัญญา​ที่​ลึกซึ้ง​เท่า​นั้น​ที่​ดล​ใจ​ให้​เขียน​หนังสือ​เพื่อ​ให้​คน​ที่​มี​หัวใจ​ดี​และ​มี​เจตนา​ที่​ถูก​ต้อง​อ่าน​และ​เข้าใจ​ได้—มัทธิว 11:25

      หนังสือ​ที่​สอน​ให้​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​ความ​สุข

      20. ทำไม​พระ​ยะโฮวา​เท่า​นั้น​ที่​บอก​ได้​ว่า​เรา​จะ​ใช้​ชีวิต​ยังไง​ถึง​จะ​ดี​ที่​สุด และ​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​อะไร​ที่​ช่วย​เรา​ได้?

      20 โดย​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​จะ​ใช้​ชีวิต​ยังไง​ถึง​จะ​ดี​ที่​สุด ใน​ฐานะ​ผู้​สร้าง พระองค์​รู้​ความ​จำเป็น​ของ​เรา​ดี​กว่า​ตัว​เรา​เอง มนุษย์​ทุก​คน​ต้องการ​ได้​รับ​ความ​รัก มี​ความ​สุข มี​ครอบครัว​และ​มี​เพื่อน​ที่​ดี และ​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่​ได้​เปลี่ยน​ไป​เลย​ตั้งแต่​เริ่ม​มี​การ​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล คัมภีร์​ไบเบิล​มี​คำ​แนะ​นำ​ดี ๆ ที่​ช่วย​เรา​ให้​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​ความสุข (สุภาษิต 2:7) บท​สุด​ท้าย​ของ​แต่​ละ​ตอน​ใน​หนังสือ​เล่ม​นี้​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​ว่า​จะ​เอา​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ใช้​ได้​ยังไง ตอน​นี้​ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ด้วย​กัน

      21-23. มี​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​อะไร​ที่​ช่วย​เรา​ให้​เลิก​โกรธ​คน​อื่น?

      21 คุณ​เคย​สังเกต​ไหม​ว่า​คน​ที่​ไม่​ยอม​ให้​อภัย​คน​อื่น​มัก​จะ​ไม่​มี​ความ​สุข? ตอน​ที่​เรา​โกรธ​คน​อื่น​ไม่​หาย เรา​จะ​เอา​แต่​คิด​ถึง​เรื่อง​นั้น​จน​ทำ​ให้​เรา​ไม่​มี​สันติ​สุข​และ​ความ​ยินดี หมอ​หลาย​คน​บอก​ว่า​ถ้า​เรา​โกรธ​ไม่​หาย​ก็​จะ​ทำ​ให้​เรา​ป่วย​ได้ แต่​นาน​ก่อน​ที่​หมอ​หลาย​คน​จะ​เข้าใจ​เรื่อง​นี้ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ไว้​ว่า “อย่า​โกรธ​และ​อย่า​โมโห” (สดุดี 37:8) และ​เรา​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้​ยังไง?

      22 คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​กับ​เรา​ว่า “คน​ที่​เข้าใจ​ลึกซึ้ง​จะ​ไม่​โกรธ​ง่าย และ​การ​มอง​ข้าม​ความ​ผิด​ทำ​ให้​เขา​มี​สง่า​ราศี” (สุภาษิต 19:11) คน​ที่​มี​ความ​เข้าใจ​ลึกซึ้ง​จะ​ไม่​มอง​แค่​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​พูด​หรือ​ทำ แต่​เขา​จะ​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​คน​อื่น​พูด​หรือ​ทำ​แบบ​นั้น​ด้วย ถ้า​เรา​พยายาม​เข้าใจ​เจตนา ความ​รู้สึก​และ​สภาพการณ์​ของ​คน​อื่น​เรา​ก็​จะ​ไม่​โกรธ​หรือ​มอง​เขา​ไม่​ดี

      23 คัมภีร์​ไบเบิล​ยัง​แนะ​นำ​เรา​อีก​ว่า “ขอ​ให้​ทน​กัน​และ​กัน และ​ให้​อภัย​กัน​อย่าง​ใจ​กว้าง​ต่อ​ไป” (โคโลสี 3:13) คำ​ว่า “ขอ​ให้​ทน​กัน​และ​กัน” หมายความ​ว่า​เรา​ต้อง​อดทน​กับ​คน​อื่น​และ​ไม่​โกรธ​ตอน​ที่​พวก​เขา​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​รำคาญ นี่​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ไม่​ทำ​อะไร​ที่​ทำ​ให้​เขา​รู้สึก​ไม่​ดี ส่วน​คำ​ว่า “ให้​อภัย” ทำ​ให้​เรา​คิด​ถึง​การ​เลิก​โกรธ​คน​อื่น​และ​ไม่​คิด​ถึง​เรื่อง​ที่​เขา​ทำ​อีก​ต่อ​ไป พระ​ยะโฮวา​รู้​ว่า​เรา​จำเป็น​ต้อง​ให้​อภัย​คน​อื่น​เมื่อ​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น เมื่อ​เรา​ให้​อภัย​คน​อื่น​ก็​จะ​ช่วย​ทั้ง​เขา​และ​เรา​ให้​สงบ​ใจ​และ​มี​สันติ​สุข (ลูกา 17:3, 4) คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หนังสือ​ที่​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ

      24. ผล​จะ​เป็น​ยังไง​ถ้า​เรา​เอา​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไป​ใช้?

      24 เพราะ​พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา​มาก พระองค์​เลย​อยาก​ติด​ต่อ​กับ​เรา พระองค์​เลือก​วิธี​ดี​ที่​สุด​โดย​ใช้​พลัง​บริสุทธิ์​ชี้​นำ​มนุษย์​ให้​เขียน​ข้อ​ความ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​จดหมาย​ถึง​เรา นี่​ทำ​ให้​เรา​ได้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​แต่​ละ​หน้า​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล สติ​ปัญญา​นี้ “ไว้​ใจ​ได้” (สดุดี 93:5) ถ้า​เรา​เอา​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​ใช้​ใน​ชีวิต​และ​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​คน​อื่น เรา​ก็​จะ​ใกล้​ชิด​กับ​พระองค์​มาก​ขึ้น ใน​บท​ต่อ​ไป​เรา​จะ​ดู​อีก​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​ยอด​เยี่ยม​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​เป็น​ความ​สามารถ​ของ​พระองค์​ที่​จะ​บอก​อนาคต​ล่วง​หน้า​และ​ทำ​ให้​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์​เกิด​ขึ้น​จริง

      a ตัวอย่าง​เช่น ดาวิด​ซึ่ง​เป็น​คน​เลี้ยง​แกะ​ใช้​ตัวอย่าง​จาก​การ​เลี้ยง​แกะ​ของ​เขา (สดุดี 23) มัทธิว​ซึ่ง​เคย​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี​ได้​พูด​ถึง​ตัว​เลข​และ​เงิน​หลาย​ครั้ง (มัทธิว 17:27; 26:15; 27:3) ลูกา​ซึ่ง​เป็น​แพทย์​ได้​พูด​ถึง​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​โรค​ต่าง ๆ ที่​ผู้​คน​เป็น—ลูกา 4:38; 14:2; 16:20

      b ใน​ตอน​นั้น​คน​งาน​จะ​ได้​ค่า​แรง 2 เลฟตัน​สำหรับ​การ​ทำ​งาน​แค่​ประมาณ 15 นาที เงิน 2 เหรียญ​นี้​ไม่​พอ​แม้​จะ​ซื้อ​นก​กระจอก​หนึ่ง​ตัว​ซึ่ง​เป็น​อาหาร​ที่​ถูก​ที่​สุด​ของ​คน​จน​ด้วย​ซ้ำ

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • สุภาษิต 2:1-6 เรา​ต้อง​ทำ​ยังไง​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      • สุภาษิต 2:10-22 เรา​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​อะไร​ถ้า​เรา​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      • โรม 7:15-25 ข้อ​คัมภีร์​นี้​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ยังไง​ใน​การ​ใช้​มนุษย์​ให้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล?

      • 1 โครินธ์ 10:6-12 เรา​ได้​รับ​บทเรียน​อะไร​เมื่อ​เรา​อ่าน​เรื่อง​ของ​ชาว​อิสราเอล​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล?

  • “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ที่​ซ่อน​อยู่​ใน​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • อับราฮัม​เงย​หน้า​ดู​ดวง​ดาว​ใน​ท้องฟ้า​ที่​มี​มาก​มาย

      บท 19

      “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ที่​ซ่อน​อยู่​ใน​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์”

      1, 2. มี​ความ​ลับ​อะไร​ที่​น่า​สนใจ​สำหรับ​เรา และ​เพราะ​อะไร?

      ถ้า​เรา​รู้​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​คน​อื่น​ไม่​รู้​หรือ​ไม่​เข้าใจ​ก็​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​เก็บ​ความ​ลับ​นั้น​ไว้ แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระเจ้า​ได้​รับ​เกียรติ​เมื่อ​ปิด​ซ่อน​สิ่ง​ต่าง ๆ” (สุภาษิต 25:2) พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด พระองค์​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​เก็บ​บาง​เรื่อง​ไว้​เป็น​ความ​ลับ​จน​กว่า​จะ​ถึง​เวลา​กำหนด​ของ​พระองค์​ที่​จะ​เปิด​เผย​เรื่อง​นั้น​กับ​มนุษย์

      2 แต่​มี​ความ​ลับ​ที่​น่า​สนใจ​ซึ่ง​พระ​ยะโฮวา​เปิด​เผย​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล ความ​ลับ​นั้น​ถูก​เรียก​ว่า “ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พระองค์​ตั้งใจ​จะ​ทำ” (เอเฟซัส 1:9) การ​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​นั้น​ไม่​ใช่​แค่​รู้​เรื่อง​ที่​น่า​สนใจ​เท่า​นั้น แต่​เป็น​เรื่อง​ที่​สำคัญ​มาก​เพราะ​จะ​ทำ​ให้​เรา​ได้​รับ​ความ​รอด​และ​เข้าใจ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น

      พระ​ยะโฮวา​ค่อย ๆ เปิด​เผย​ความ​ลับ

      3, 4. คำ​พยากรณ์​ที่​ปฐมกาล 3:15 ให้​ความ​หวัง​ยังไง และ​คำ​พยากรณ์​นี้​พูด​ถึง “ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์” อะไร?

      3 เมื่อ​อาดัม​กับ​เอวา​ทำ​บาป นี่​อาจ​ดู​เหมือน​ว่า​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ให้​มนุษย์​สมบูรณ์​แบบ​อยู่​ใน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน​ไม่​ได้​เป็น​จริง​ตาม​ที่​พระองค์​ต้องการ แต่​พระเจ้า​บอก​ทันที​ว่า​จะ​แก้​ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น พระองค์​พูด​ว่า “เรา​จะ​ให้​เจ้า [งู] กับ​ผู้​หญิง​เป็น​ศัตรู​กัน และ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​กับ​ลูก​หลาน​ของ​เธอ​เป็น​ศัตรู​กัน เขา​จะ​บดขยี้​หัว​เจ้า​และ​เจ้า​จะ​ทำ​ให้​ส้น​เท้า​เขา​ฟก​ช้ำ”—ปฐมกาล 3:15

      4 สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​พูด​หมาย​ถึง​อะไร? ใคร​คือ​ผู้​หญิง? ใคร​คือ​งู? ใคร​คือ “ลูก​หลาน” ที่​จะ​บดขยี้​หัว​งู? อาดัม​กับ​เอวา​ไม่​รู้​เรื่อง​นี้ แต่​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​พูด​ก็​ให้​ความ​หวัง​กับ​ลูก​หลาน​ของ​พวก​เขา​ที่​ซื่อสัตย์​ต่อ​พระ​ยะโฮวา ลูก​หลาน​ที่​ซื่อสัตย์​เหล่า​นี้​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​ให้​ความ​ชั่ว บาป และ​ความ​ตาย​หมด​ไป และ​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์​ก็​จะ​เป็น​จริง แต่​เรื่อง​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ได้​ยังไง? ใน​ตอน​นั้น​เรื่อง​นี้​ยัง​เป็น​ความ​ลับ​อยู่ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า . . . ซ่อน​อยู่​ใน​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์”—1 โครินธ์ 2:7

      5. ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ค่อย ๆ เปิด​เผย​ความ​ลับ​ของ​พระองค์? ขอ​ยก​ตัวอย่าง

      5 พระ​ยะโฮวา​เป็น ‘พระเจ้า​ที่​เปิด​เผย​เรื่อง​ลึกลับ​ได้’ และ​ใน​ที่​สุด​พระองค์​จะ​เปิด​เผย​ความ​ลับ​นี้​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เข้าใจ​มาก​ขึ้น (ดาเนียล 2:28) แต่​พระองค์​จะ​ค่อย ๆ เปิด​เผย​เรื่อง​นี้ เพื่อ​เป็น​ตัวอย่าง เรา​อาจ​คิด​ถึง​ตอน​ที่​พ่อ​ตอบ​คำ​ถาม​ลูก เมื่อ​ลูก​ถาม​ว่า “พ่อ​ครับ ผม​เกิด​มา​จาก​ไหน​ครับ?” พ่อ​จะ​ตอบ​ลูก​ใน​แบบ​ที่​ลูก​จะ​เข้าใจ​ได้ และ​เมื่อ​ลูก​โต​ขึ้น​พ่อ​ก็​จะ​บอก​เขา​มาก​ขึ้น คล้าย​กัน พระ​ยะโฮวา​คิด​ไว้​แล้ว​ว่า​ตอน​ไหน​ดี​ที่​สุด​ที่​พระองค์​จะ​เปิด​เผย​ความ​ประสงค์​ให้​คน​ของ​พระองค์​ฟัง—สุภาษิต 4:18; ดาเนียล 12:4

      6. (ก) ทำไม​ต้อง​มี​การ​ทำ​สัญญา​หรือ​ข้อ​ตก​ลง​ต่าง ๆ? (ข) ทำไม​พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​กับ​มนุษย์?

      6 พระ​ยะโฮวา​บอก​ความ​ลับ​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​ยังไง? พระองค์​ทำ​สัญญา​หลาย​อย่าง​ที่​เป็น​เหมือน​ข้อ​ตก​ลง​ทาง​กฎหมาย บาง​ที​คุณ​อาจ​เคย​ทำ​สัญญา​บาง​อย่าง เช่น ตอน​ซื้อ​ที่​ดิน ซื้อ​รถ หรือ​อย่าง​อื่น สัญญา​แบบ​นั้น​รับประกัน​ตาม​กฎหมาย​ว่า​จะ​มี​การ​ทำ​ตาม​เงื่อนไข​ที่​ได้​ตก​ลง​กัน​ไว้ แต่​ทำไม​พระ​ยะโฮวา​จะ​ต้อง​ทำ​สัญญา​หรือ​ข้อ​ตก​ลง​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​กับ​มนุษย์​ล่ะ? ก็​เพราะ​พระองค์​อยาก​ช่วย​ให้​เรา​ที่​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​มั่น​ใจ​ว่า​พระองค์​จะ​ทำ​ตาม​ทุก​อย่าง​ที่​สัญญา​ไว้ พระองค์​เลย​ทำ​สัญญา​ต่าง ๆ เพื่อ​รับประกัน​ว่า​พระองค์​จะ​ทำ​ตาม​ที่​บอก—ฮีบรู 6:16-18

      สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​อับราฮัม

      7, 8. (ก) พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​อะไร​กับ​อับราฮัม และ​สัญญา​นี้​บอก​ให้​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์? (ข) พระ​ยะโฮวา​ค่อย ๆ เปิด​เผย​ยังไง​ว่า​ใคร​เป็น​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้?

      7 มาก​กว่า 2,000 ปี​หลัง​จาก​ที่​พระ​ยะโฮวา​ไล่​อาดัม​กับ​เอวา​ออก​จาก​สวน​เอเดน พระองค์​บอก​กับ​อับราฮัม​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​ว่า “เรา​จะ​อวยพร​เจ้า​แน่ ๆ และ​เรา​จะ​ทำ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​ให้​มี​มาก​เหมือน​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า . . . และ​ทุก​ชาติ​ใน​โลก​จะ​ได้​รับ​พร​เพราะ​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า และ​เพราะ​เจ้า​เชื่อ​ฟัง​เรา” (ปฐมกาล 22:17, 18) นี่​ไม่​ได้​เป็น​แค่​คำ​สัญญา​เท่า​นั้น พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​ที่​มี​ผล​ตาม​กฎหมาย​กับ​อับราฮัม​และ​สาบาน​โดย​อ้าง​ชื่อ​ของ​พระองค์​เอง (ปฐมกาล 17:1, 2; ฮีบรู 6:13-15) นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​ทึ่ง​จริง ๆ ที่​พระเจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด​ทำ​สัญญา​ว่า​จะ​อวยพร​มนุษย์

      “เรา​จะ​ทำ​ให้​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​ให้​มี​มาก​เหมือน​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า”

      8 ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​อับราฮัม​รู้​ว่า​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้​จะ​มา​ทาง​อิสอัค​ลูก​ชาย​ของ​เขา​และ​ทาง​ยาโคบ​หลาน​ของ​เขา (ปฐมกาล 21:12; 28:13, 14) พระ​ยะโฮวา​ดล​ใจ​ให้​ยาโคบ​พยากรณ์​เรื่อง​นี้​เกี่ยว​กับ​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​ของ​เขา​ว่า “คทา​จะ​เป็น​ของ​ยูดาห์​เสมอ และ​ไม้เท้า​ของ​ผู้​ปกครอง​จะ​อยู่​ระหว่าง​เท้า​ของ​เขา​จน​กว่า​ชิโลห์ [หรือ “ผู้​เป็น​เจ้า​ของ”, เชิงอรรถ] จะ​มา และ​ชน​ชาติ​ต่าง ๆ จะ​ต้อง​เชื่อ​ฟัง​เขา” (ปฐมกาล 49:10) ใน​ตอน​นั้น ผู้​คน​เข้าใจ​กัน​ว่า​ลูก​หลาน​ที่​จะ​มา​เป็น​กษัตริย์​นั้น​ต้อง​มา​จาก​ตระกูล​ยูดาห์

      สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​ชาติ​อิสราเอล

      9, 10. (ก) พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​อะไร​กับ​ชาติ​อิสราเอล และ​สัญญา​นั้น​ช่วย​ปก​ป้อง​พวก​เขา​ยังไง? (ข) กฎหมาย​ของ​โมเสส​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​มนุษย์​จำเป็น​ต้อง​มี​ค่า​ไถ่?

      9 ใน​ปี 1513 ก่อน ค.ศ. พระ​ยะโฮวา​ค่อย ๆ เปิด​เผย​เรื่อง​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​โดย​ทำ​สัญญา​กับ​ชาติ​อิสราเอล​ลูก​หลาน​ของ​อับราฮัม ถึง​แม้​สัญญา​นี้​จะ​ไม่​มี​ผล​บังคับ​ใช้​แล้ว​ใน​ทุก​วัน​นี้ แต่​ก็​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ใช้​เพื่อ​บอก​ว่า​ใคร​เป็น​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้ เรา​รู้​เรื่อง​นี้​ได้​ยังไง? มา​ดู​เหตุ​ผล 3 อย่าง​ด้วย​กัน อย่าง​แรก กฎหมาย​เป็น​เหมือน​กำแพง​ที่​กั้น​ระหว่าง​คน​ยิว​กับ​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา (เอเฟซัส 2:14) ด้วย​วิธี​นี้ กฎหมาย​ของ​โมเสส​ได้​ช่วย​ปก​ป้อง​ชาติ​อิสราเอล​เพื่อ​ทำ​ให้​เมสสิยาห์​ซึ่ง​เป็น​ลูก​หลาน​ที่​พระเจ้า​สัญญา​จะ​ได้​มา​เกิด​ใน​ตระกูล​ยูดาห์

      10 อย่าง​ที่​สอง กฎหมาย​ของ​โมเสส​แสดง​ให้​เห็น​ชัดเจน​ว่า​มนุษย์​จำเป็น​ต้อง​มี​ค่า​ไถ่ เพราะ​เป็น​กฎหมาย​ที่​สมบูรณ์​แบบ นี่​เลย​ทำ​ให้​ชาว​อิสราเอล​เห็น​ว่า​มนุษย์​ผิด​บาป​ไม่​สามารถ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​นั้น​ได้​อย่าง​ครบ​ถ้วน กฎหมาย​นั้น​มี​ไว้ “เพื่อ​ให้​เห็น​ชัด​ว่า​คน​เรา​ทำ​ผิด และ​กฎหมาย​นั้น​จะ​อยู่​แค่​ชั่ว​คราว​จน​กว่า​ลูก​หลาน​คน​นั้น​ที่​ได้​รับ​คำ​สัญญา​จะ​มา” (กาลาเทีย 3:19) เครื่อง​บูชา​ที่​เป็น​สัตว์​ที่​ชาว​อิสราเอล​ถวาย​ให้​กับ​พระเจ้า​ไม่​สามารถ​ไถ่​บาป​ได้​อย่าง​ครบ​ถ้วน อัคร​เปาโล​เขียน​ไว้​ว่า “เลือด​วัว​ตัว​ผู้​และ​เลือด​แพะ​ขจัด​บาป​ไม่​ได้” เครื่อง​บูชา​เหล่า​นี้​ช่วย​ให้​พวก​เขา​เข้าใจ​ว่า​ต้อง​มี​ค่า​ไถ่​ที่​สมบูรณ์​แบบ​เพื่อ​บาป​ของ​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​ให้​อภัย​ได้​อย่าง​ครบ​ถ้วน (ฮีบรู 10:1-4) ดังนั้น กฎหมาย​นั้น​จึง​เป็น​เหมือน “พี่​เลี้ยง” ที่​พา​ชาว​ยิว​ที่​ซื่อสัตย์​ไป​หา​พระ​คริสต์—กาลาเทีย 3:24

      11. สัญญา​เกี่ยว​กับ​กฎหมาย​ให้​ความ​หวัง​ที่​ยอด​เยี่ยม​อะไร​กับ​ชาติ​อิสราเอล แต่​ทำไม​พวก​เขา​ส่วน​ใหญ่​ไม่​มี​ส่วน​ใน​ความ​หวัง​นี้?

      11 อย่าง​ที่​สาม สัญญา​นั้น​ทำ​ให้​ชาติ​อิสราเอล​มี​ความ​หวัง​ที่​ยอด​เยี่ยม พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า​ถ้า​พวก​เขา​เชื่อ​ฟัง​และ​ทำ​ตาม​สัญญา​นี้ พวก​เขา​จะ​เป็น “รัฐบาล​ที่​มี​ปุโรหิต​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์ และ​เป็น​ชาติ​บริสุทธิ์” (อพยพ 19:5, 6) คน​กลุ่ม​แรก​ที่​พระ​ยะโฮวา​เลือก​ให้​มา​เป็น​สมาชิก​ของ​รัฐบาล​ที่​มี​ปุโรหิต​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​มา​จาก​ชาติ​อิสราเอล แต่​ส่วน​ใหญ่​แล้ว​พวก​เขา​ไม่​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​ปฏิเสธ​เมสสิยาห์ พระ​ยะโฮวา​เลย​ปฏิเสธ​พวก​เขา ถ้า​อย่าง​นั้น พระ​ยะโฮวา​จะ​เลือก​ใคร​ให้​มา​เป็น​รัฐบาล​ที่​มี​ปุโรหิต​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​แทน​พวก​เขา? และ​คน​ที่​พระเจ้า​เลือก​จะ​เกี่ยว​ข้อง​ยังไง​กับ​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้? พระเจ้า​จะ​บอก​ให้​รู้​คำ​ตอบ​ใน​ภาย​หลัง

      สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​ดาวิด

      12. พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​อะไร​กับ​ดาวิด และ​นั่น​บอก​ให้​รู้​อะไร​มาก​ขึ้น​เรื่อง​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระเจ้า?

      12 ใน​ศตวรรษ​ที่ 11 ก่อน ค.ศ. พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​รู้​มาก​ขึ้น​เรื่อง​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ตอน​ที่​ทำ​สัญญา​กับ​ดาวิด พระองค์​สัญญา​กับ​กษัตริย์​ดาวิด​ผู้​ซื่อสัตย์​ว่า ‘เรา​จะ​ยก​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​ต่อ​จาก​เจ้า และ​เรา​จะ​ช่วย​ให้​อาณาจักร​ของ​เขา​มั่นคง และ​เรา​จะ​ให้​เขา​ครอง​บัลลังก์​อาณาจักร​อย่าง​มั่นคง​ตลอด​ไป’ (2 ซามูเอล 7:12, 13; สดุดี 89:3) คำ​พูด​นี้​บอก​ให้​รู้​ว่า​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​จะ​มา​จาก​ตระกูล​ของ​ดาวิด แต่​มนุษย์​ธรรมดา​จะ​ปกครอง​ตลอด​ไป​ได้​ยังไง? (สดุดี 89:20, 29, 34-36) และ​กษัตริย์​ที่​เป็น​มนุษย์​จะ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​พ้น​จาก​บาป​และ​ความ​ตาย​ได้​ไหม?

      13, 14. (ก) ใน​สดุดี 110 พระ​ยะโฮวา​ทำ​สัญญา​อะไร​กับ​กษัตริย์​ที่​พระองค์​เจิม? (ข) พระ​ยะโฮวา​ให้​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระองค์​บอก​เรื่อง​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​ยังไง?

      13 ดาวิด​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ว่า “พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​ผู้​เป็น​นาย​ของ​ผม​ว่า ‘นั่ง​ข้าง​ขวา​มือ​ของ​เรา​ไป​ก่อน จน​กว่า​เรา​จะ​ทำ​ให้​พวก​ศัตรู​ของ​เจ้า​เป็น​ที่​วาง​เท้า​ของ​เจ้า’ พระ​ยะโฮวา​สาบาน​ไว้​แล้ว และ​จะ​ไม่​เปลี่ยน​ใจ พระองค์​พูด​ว่า ‘เจ้า​จะ​เป็น​ปุโรหิต​ตลอด​ไป​ตาม​อย่าง​เมลคีเซเดค’” (สดุดี 110:1, 4) ใน​ข้อ​นี้​ดาวิด​กำลัง​พูด​ถึง​ลูก​หลาน​ที่​พระเจ้า​สัญญา​ไว้​หรือ​เมสสิยาห์ (กิจการ 2:35, 36) กษัตริย์​องค์​นี้​ไม่​ได้​ปกครอง​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​แต่​จะ​ปกครอง​จาก​สวรรค์​และ “นั่ง​ข้าง​ขวา​มือ” ของ​พระ​ยะโฮวา พระ​ยะโฮวา​จะ​ให้​ท่าน​มี​อำนาจ​ปกครอง​ไม่​เพียง​แค่​ประเทศ​อิสราเอล​เท่า​นั้น​แต่​จะ​ปกครอง​ทั่ว​ทั้ง​โลก (สดุดี 2:6-8) ข้อ​นี้​ยัง​บอก​ให้​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​สาบาน​ว่า​เมสสิยาห์​จะ​เป็น “ปุโรหิต . . . ตาม​อย่าง​เมลคีเซเดค” เหมือน​เมลคีเซเดค​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สมัย​ของ​อับราฮัม ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้​จะ​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​จาก​พระเจ้า​ให้​เป็น​ทั้ง​กษัตริย์​และ​ปุโรหิต—ปฐมกาล 14:17-20

      14 ตลอด​เวลา​หลาย​ปี พระ​ยะโฮวา​ให้​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระองค์​บอก​เรื่อง​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์​เพิ่ม​มาก​ขึ้น ตัวอย่าง​เช่น อิสยาห์​ได้​บอก​ว่า​ลูก​หลาน​จะ​ต้อง​มา​สละ​ชีวิต​เป็น​เครื่อง​บูชา (อิสยาห์ 53:3-12) มีคาห์​ได้​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​เมสสิยาห์​จะ​มา​เกิด​ที่​ไหน (มีคาห์ 5:2) ดาเนียล​พยากรณ์​ชัดเจน​ว่า​เมสสิยาห์​จะ​มา​เมื่อไหร่​และ​ท่าน​จะ​เสีย​ชีวิต​ตอน​ไหน—ดาเนียล 9:24-27

      ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ได้​รับ​การ​เปิด​เผย

      15, 16. (ก) ลูก​ของ​พระ​ยะโฮวา “เกิด​จาก​ผู้​หญิง” ได้​ยังไง? (ข) พระ​เยซู​ได้​สิทธิ์​อะไร​จาก​มารีย์​กับ​โยเซฟ และ​ท่าน​มา​ใน​ฐานะ​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้​เมื่อไหร่?

      15 คำ​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​เมสสิยาห์​ยัง​คง​เป็น​ความ​ลับ​จน​กว่า​ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้​จะ​มา กาลาเทีย 4:4 บอก​ว่า “เมื่อ​ถึง​เวลา พระเจ้า​ก็​ใช้​ลูก​ของ​พระองค์​มา ท่าน​เกิด​จาก​ผู้​หญิง” ใน​ปี 2 ก่อน ค.ศ. ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​ได้​บอก​สาว​บริสุทธิ์​ชาว​ยิว​ชื่อ​มารีย์​ว่า “คุณ​จะ​ตั้ง​ท้อง​และ​คลอด​ลูก​ชาย ให้​ตั้ง​ชื่อ​เด็ก​ว่า​เยซู ท่าน​ผู้​นี้​จะ​ยิ่ง​ใหญ่ และ​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จะ​ยก​บัลลังก์​ของ​ดาวิด​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​ให้​กับ​ท่าน . . . คุณ​จะ​ได้​รับ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า และ​ฤทธิ์​อำนาจ​ของ​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด​จะ​ปก​คลุม​คุณ​ไว้ ดังนั้น เด็ก​ที่​เกิด​มา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ผู้​บริสุทธิ์​และ​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า”—ลูกา 1:31, 32, 35

      16 ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​ย้าย​ชีวิต​ลูก​ของ​พระองค์​จาก​สวรรค์​ให้​มา​อยู่​ใน​ท้อง​ของ​มารีย์​เพื่อ​ให้​ท่าน​มา​เกิด​เป็น​มนุษย์ ถึง​มารีย์​จะ​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ แต่​พระ​เยซู​ก็​ไม่​ได้​รับ​ความ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​จาก​เธอ​เพราะ​ท่าน​เป็น “ลูก​ของ​พระเจ้า” แต่​เพราะ​มารีย์​กับ​โยเซฟ​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด พระ​เยซู​เลย​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​นั่ง​บน​บัลลังก์​ของ​ดาวิด​และ​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์ (กิจการ 13:22, 23) ตอน​ที่​ท่าน​รับ​บัพติศมา​ใน​ปี ค.ศ. 29 พระ​ยะโฮวา​เจิม​ท่าน​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์​และ​บอก​ว่า “นี่​คือ​ลูก​รัก​ของ​เรา” (มัทธิว 3:16, 17) ใน​ที่​สุด ลูก​หลาน​ที่​สัญญา​ไว้​ก็​ได้​มา​ถึง (กาลาเทีย 3:16) และ​นั่น​ก็​ถึง​เวลา​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​เปิด​เผย​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์—2 ทิโมธี 1:10

      17. มี​การ​บอก​ให้​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​คำ​พยากรณ์​ใน​ปฐมกาล 3:15?

      17 ตอน​ที่​พระ​เยซู​รับใช้​บน​โลก ท่าน​บอก​ให้​รู้​ว่า​งู​ใน​ปฐมกาล 3:15 คือ​ซาตาน​และ​ลูก​หลาน​ของ​งู​คือ​ผู้​ที่​ติด​ตาม​ซาตาน (มัทธิว 23:33; ยอห์น 8:44) ต่อ​มา​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​บอก​ให้​รู้​ว่า​พวก​เขา​จะ​ถูก​ทำลาย​ตลอด​ไป (วิวรณ์ 20:1-3, 10, 15) และ​ยัง​บอก​อีก​ด้วย​ว่า​ผู้​หญิง​ที่​พูด​ถึง​ใน​ปฐมกาล 3:15 เป็น “เยรูซาเล็ม​ที่​อยู่​เบื้อง​บน” หรือ​ภรรยา​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​ก็​คือ​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ส่วน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์​ที่​มี​ทูตสวรรค์​ที่​ซื่อสัตย์a—กาลาเทีย 4:26; วิวรณ์ 12:1-6

      สัญญา​ใหม่

      18. จุด​ประสงค์​ของ “สัญญา​ใหม่” คือ​อะไร?

      18 ใน​คืน​ก่อน​ที่​พระ​เยซู​จะ​เสีย​ชีวิต ท่าน​เปิด​เผย​เรื่อง​ที่​ตื่นเต้น​ที่​สุด​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์ ท่าน​บอก​สาวก​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​ท่าน​เรื่อง “สัญญา​ใหม่” (ลูกา 22:20) เหมือน​กับ​สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​ชาติ​อิสราเอล​ผ่าน​ทาง​โมเสส สัญญา​ใหม่​นี้​ก็​มี​จุด​ประสงค์​คล้าย​กัน​คือ​ทำ​ให้​มี “รัฐบาล​ที่​มี​ปุโรหิต​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์” (อพยพ 19:6; 1 เปโตร 2:9) สัญญา​ใหม่​นี้​ไม่​ได้​ทำ​กับ​ชาติ​อิสราเอล​จริง ๆ แต่​ทำ​กับ “อิสราเอล​ของ​พระเจ้า” ที่​มี​แต่​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระ​คริสต์ (กาลาเทีย 6:16) พวก​เขา​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​กับ​พระ​เยซู​เพื่อ​ทำ​ให้​มนุษย์​ที่​ซื่อสัตย์​บน​โลก​ได้​รับ​พร

      19. (ก) ทำไม​สัญญา​ใหม่​ถึง​ทำ​ให้​มี “รัฐบาล​ที่​มี​ปุโรหิต​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์” ได้? (ข) ทำไม​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ถูก​เรียก​ว่า “เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใหม่” และ​มี​กี่​คน​ที่​จะ​ไป​ปกครอง​ใน​สวรรค์​กับ​พระ​คริสต์?

      19 แต่​สัญญา​ใหม่​ที่​มี “รัฐบาล​ที่​มี​ปุโรหิต​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์” จะ​ทำ​ให้​มนุษย์​ได้​รับ​พร​ยังไง? สัญญา​ใหม่​นี้​ไม่​ได้​เน้น​ความ​คิด​ที่​ว่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​เป็น​คน​บาป แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น สัญญา​นี้​เน้น​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย​บาป​โดย​ทาง​เครื่อง​บูชา​ของ​พระ​เยซู (เยเรมีย์ 31:31-34) พระ​ยะโฮวา​มอง​ว่า​พวก​เขา​เป็น​คน​ดี ไม่​มี​บาป พระองค์​รับ​พวก​เขา​เข้า​มา​ใน​ครอบครัว​ฝ่าย​สวรรค์​ของ​พระองค์​และ​เจิม​พวก​เขา​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์ (โรม 8:15-17; 2 โครินธ์ 1:21) โดย​วิธี​นี้​พวก​เขา​ได้ ‘เกิด​ใหม่​เพื่อ​ให้​มี​ความ​หวัง​ใน​สวรรค์’ (1 เปโตร 1:3, 4) เพราะ​มนุษย์​ถูก​สร้าง​ให้​มี​ชีวิต​อยู่​บน​โลก คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​เลย​ถูก​เรียก​ว่า “เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใหม่” (2 โครินธ์ 5:17) คัมภีร์​ไบเบิล​เปิด​เผย​ว่า 144,000 คน​จะ​เป็น​กษัตริย์​ด้วย​กัน​กับ​พระ​เยซู​ใน​สวรรค์​และ​พวก​เขา​จะ​ปกครอง​มนุษย์​ที่​ได้​รับ​การ​ไถ่​บาป—วิวรณ์ 5:9, 10; 14:1-4

      20. (ก) มี​การ​เปิด​เผย​อะไร​อีก​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​ปี ค.ศ. 36? (ข) ใคร​บ้าง​จะ​ได้​รับ​พร​จาก​สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​อับราฮัม?

      20 คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​กับ​พระ​เยซู​เป็น “ลูก​หลาน​ของ​อับราฮัม”b (กาลาเทีย 3:29) กลุ่ม​แรก​ที่​ถูก​เลือก​เป็น​คน​ยิว​ตาม​สาย​เลือด แต่​ใน​ปี ค.ศ. 36 พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​รู้​บาง​อย่าง​มาก​ขึ้น​อีก​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์​เลือก​คน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว​ให้​ปกครอง​กับ​พระ​เยซู​ใน​สวรรค์​ด้วย (โรม 9:6-8; 11:25, 26; เอเฟซัส 3:5, 6) คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​เป็น​กลุ่ม​เดียว​ไหม​ที่​ได้​รับ​พร​จาก​สัญญา​ที่​พระเจ้า​ทำ​กับ​อับราฮัม? ไม่ เพราะ​เครื่อง​บูชา​ของ​พระ​เยซู​เป็น​ประโยชน์​กับ​ผู้​คน​ทั้ง​โลก (1 ยอห์น 2:2) ต่อ​มา​พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​รู้​ว่า “ชน​ฝูง​ใหญ่” ที่​ไม่​มี​ใคร​นับ​จำนวน​ได้​จะ​รอด​ผ่าน​โลก​ชั่ว​ของ​ซาตาน (วิวรณ์ 7:9, 14) และ​คน​อีก​มาก​มาย​จะ​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน—ลูกา 23:43; ยอห์น 5:28, 29; วิวรณ์ 20:11-15; 21:3, 4

      สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​และ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์

      21, 22. ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ยังไง​บ้าง?

      21 ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​นี้​ทำ​ให้​เรา “ได้​รู้​จัก​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ใน​หลาย ๆ วิธี” (เอเฟซัส 3:8-10) เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​และ​วิธี​ที่​พระองค์​ค่อย ๆ เปิด​เผย​เรื่อง​นี้ พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​และ​รู้​ว่า​มนุษย์​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​ได้​ทันที พระองค์​เลย​ค่อย ๆ บอก​ให้​เรา​รู้​มาก​ขึ้น และ​เปิด​โอกาส​ให้​เรา​ได้​แสดง​ว่า​เรา​ไว้​วางใจ​พระองค์—สดุดี 103:14

      22 การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​เลือก​พระ​เยซู​ให้​เป็น​กษัตริย์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​กว่า​ใคร พระ​เยซู​เป็น​ผู้​ที่​พระเจ้า​สร้าง​ที่​น่า​ไว้​วางใจ​มาก​ที่​สุด​ใน​เอกภพ ตอน​ที่​ท่าน​มี​ชีวิต​อยู่​บน​โลก พระ​เยซู​ต้อง​เจอ​กับ​ความ​ทุกข์​ยาก​ลำบาก​หลาย​อย่าง ท่าน​เลย​เข้าใจ​ได้​ดี​เกี่ยว​กับ​ปัญหา​ที่​มนุษย์​ต้อง​เจอ (ฮีบรู 5:7-9) ผู้​ที่​จะ​ปกครอง​กับ​พระ​เยซู​ก็​เหมือน​กัน ตลอด​หลาย​ศตวรรษ พระ​ยะโฮวา​ได้​เลือก​ผู้​ถูก​เจิม​ทั้ง​ชาย​และ​หญิง​จาก​ทุก​เชื้อชาติ ทุก​ภาษา และ​ทุก​ภูมิหลัง ดังนั้น ไม่​ว่า​เรา​จะ​ต้อง​เจอ​กับ​ปัญหา​อะไร เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พวก​ผู้​ถูก​เจิม​ก็​เคย​เจอ​กับ​ปัญหา​เหล่า​นั้น​ด้วย และ​พวก​เขา​ก็​รับมือ​ได้ (เอเฟซัส 4:22-24) ดี​จริง ๆ ที่​เรา​จะ​ได้​อยู่​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​กษัตริย์​และ​ปุโรหิต​เหล่า​นี้​ที่​เข้าใจ​และ​อยาก​จะ​ช่วย​เรา

      23. คริสเตียน​มี​สิทธิ​พิเศษ​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      23 อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​ถูก​ปก​ปิด​ไว้​จาก​คน​รุ่น​ก่อน ๆ ตลอด​หลาย​ยุค​หลาย​สมัย . . . ถูก​เปิด​เผย​กับ​พวก​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์​แล้ว” (โคโลสี 1:26) คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์ และ​ได้​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​หลาย​ล้าน​คน เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา “ให้​เรา​รู้​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​พระองค์​ตั้งใจ​จะ​ทำ” (เอเฟซัส 1:9) ขอ​ให้​เรา​บอก​ความ​ลับ​ที่​น่า​ตื่นเต้น​นี้​กับ​คน​อื่น​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​มี​โอกาส​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ที่​น่า​ตื่นเต้น​นี้​ด้วย​เหมือน​กัน

      a มี​การ​เปิด​เผย “ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​เกี่ยว​กับ​ความ​เลื่อมใส​พระเจ้า” ใน​ตัว​พระ​เยซู​ด้วย (1 ทิโมธี 3:16) คำ​ถาม​ที่​ว่า​มี​ใคร​สัก​คน​ไหม​ที่​จะ​ซื่อสัตย์​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ เรื่อง​นี้​เป็น​ความ​ลับ​มา​นาน​หลาย​ปี​แล้ว พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็น​ไป​ได้ แม้​ท่าน​จะ​ถูก​ซาตาน​ทดสอบ​หลาย​ครั้ง แต่​ท่าน​ก็​ซื่อสัตย์​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​เสมอ—มัทธิว 4:1-11; 27:26-50

      b พระ​เยซู​ยัง​ทำ ‘สัญญา​กับ​พวก​เขา​ว่า​จะ​ให้​พวก​เขา​ปกครอง​ใน​รัฐบาล’ ของ​ท่าน (ลูกา 22:29, 30) พระ​เยซู​สัญญา​กับ​ทุก​คน​ที่​เป็น​แกะ “ฝูง​เล็ก” ว่า​พวก​เขา​จะ​ปกครอง​กับ​ท่าน​ใน​สวรรค์​ฐานะ​เป็น​ลูก​หลาน​ที่​สำคัญ​รอง​ลง​มา​ของ​อับราฮัม—ลูกา 12:32

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • ยอห์น 16:7-12 การ​ที่​พระ​เยซู​ค่อย ๆ เปิด​เผย​ความ​จริง​เป็น​การ​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​ยังไง?

      • 1 โครินธ์ 2:6-16 ทำไม​หลาย​คน​ถึง​ไม่​เข้าใจ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา และ​เรา​จะ​เข้าใจ​ความ​ลับ​นี้​ได้​ยังไง?

      • เอเฟซัส 3:10 คริสเตียน​ใน​ทุก​วัน​นี้​มี​สิทธิ​พิเศษ​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      • ฮีบรู 11:8-10 ถึง​แม้​คน​ใน​สมัย​ก่อน​ไม่​เข้าใจ​ความ​ลับ​ศักดิ์สิทธิ์​อย่าง​เต็ม​ที่ แต่​ความ​ลับ​นี้​ช่วย​พวก​เขา​ให้​ซื่อสัตย์​ต่อ​ไป​ได้​ยังไง?

  • “พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา” แต่​ก็​ถ่อม
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พ่อ​ย่อ​ตัว​ลง​มา​แล้ว​พูด​กับ​ลูก​อย่าง​อ่อนโยน

      บท 20

      “พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา” แต่​ก็​ถ่อม

      1-3. ทำไม​เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม?

      ขอ​นึก​ภาพ​พ่อ​คน​หนึ่ง​ที่​อยาก​สอน​เรื่อง​สำคัญ​ให้​กับ​ลูก​ตัว​น้อย​ของ​เขา ถ้า​เขา​อยาก​ให้​ลูก​ของ​เขา​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​เรื่อง​นี้​จริง ๆ เขา​จะ​บอก​ลูก​ยังไง? เขา​จะ​ยืน​จ้อง​หน้า​ลูก​และ​ใช้​คำ​พูด​ที่​ทำ​ให้​ลูก​กลัว​ไหม? หรือ​เขา​จะ​ย่อ​ตัว​ลง​มา​แล้ว​พูด​กับ​ลูก​อย่าง​อ่อนโยน? พ่อ​ที่​ฉลาด​และ​ถ่อม​จะ​คุย​กับ​ลูก​แบบ​นั้น​แน่ ๆ

      2 พระ​ยะโฮวา​เป็น​พ่อ​ที่​หยิ่ง​หรือ​ถ่อม พระองค์​ดุ​หรือ​ว่า​ใจ​ดี? พระ​ยะโฮวา​รู้​ทุก​อย่าง​และ​พระองค์​ฉลาด​กว่า​ทุก​คน คุณ​อาจ​สังเกต​ว่า​คน​ที่​ฉลาด​และ​มี​ความ​รู้​ไม่​ได้​ถ่อม​เสมอ​ไป เหมือน​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “ความ​รู้​ทำ​ให้​คน​อวดดี” (1 โครินธ์ 3:19; 8:1) แต่​พระ​ยะโฮวา​ผู้​ที่ “มี​สติ​ปัญญา​และ​มี​พลัง​มาก” ก็​ถ่อม​ด้วย (โยบ 9:4) นี่​ไม่​ได้​ทำ​ให้​พระองค์​ดู​ไม่​มี​อำนาจ​หรือ​ไม่​น่า​นับถือ แต่​หมายความ​ว่า​พระองค์​ไม่​เคย​หยิ่ง ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น?

      3 พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​บริสุทธิ์ พระองค์​เลย​ไม่​มี​คุณลักษณะ​ไม่​ดี เช่น ความ​หยิ่ง (มาระโก 7:20-22) ขอ​ให้​เรา​นึก​ถึง​สิ่ง​ที่​ผู้​พยากรณ์​เยเรมีย์​พูด​กับ​พระ​ยะโฮวา เขา​บอก​ว่า “พระองค์​จะ​ระลึก​ถึง​ผม​และ​ก้ม​ลง​มา​หา​ผม​แน่ ๆ”a (เพลง​คร่ำครวญ 3:20) นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​ประทับใจ​จริง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด​เต็ม​ใจ “ก้ม​ลง​มา” หรือ​ลด​ตัว​ลง​มา​หา​เยเรมีย์​เพื่อ​แสดง​ความ​สนใจ​มนุษย์​ที่​ไม่​สมบูรณ์​แบบ (สดุดี 113:7) พระ​ยะโฮวา​ถ่อม​มาก​จริง ๆ แต่​พระองค์​แสดง​ความ​ถ่อม​ยังไง? ความ​ถ่อม​ของ​พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา? และ​เรื่อง​นี้​สำคัญ​กับ​เรา​ยังไง?

      พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​ถ่อม

      4, 5. (ก) ความ​ถ่อม​คือ​อะไร พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​ถ่อม และ​ความ​ถ่อม​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​อะไร? (ข) พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ถ่อม​กับ​ดาวิด​ยังไง และ​ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา​ยังไง?

      4 คน​ถ่อม​จะ​ไม่​คิด​ถึง​หรือ​ภูมิ​ใจ​ใน​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป คน​ถ่อม​จะ​อ่อนโยน อดทน และ​มี​เหตุ​ผล (กาลาเทีย 5:22, 23) เรา​ไม่​ควร​คิด​ว่า​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม อ่อนโยน​และ​อดทน พระองค์​จะ​ไม่​โกรธ​เมื่อ​มี​เรื่อง​ไม่​ยุติธรรม​เกิด​ขึ้น หรือ​อ่อนแอ​จน​ไม่​กล้า​ทำลาย​คน​ชั่ว แต่​การ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ถ่อม​และ​อ่อนโยน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ควบคุม​ตัว​เอง​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ และ​ใช้​อำนาจ​อย่าง​ถูก​ต้อง​เสมอ (อิสยาห์ 42:14) ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก เป็น​อย่าง​นั้น​ได้​ยังไง? ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า​คน​ถ่อม​ต้อง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว และ​คน​แบบ​นั้น​เท่า​นั้น​ที่​มี​สติ​ปัญญา​แท้ แล้ว​ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา​ยังไง?

      พ่อ​ที่​ฉลาด​แสดง​ความ​ถ่อม​และ​อ่อนโยน​กับ​ลูก​ของ​เขา

      5 กษัตริย์​ดาวิด​เขียน​เพลง​ที่​พูด​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ว่า “พระองค์​ช่วย​ให้​ผม​พ้น​ภัย​ด้วย​โล่​ของ​พระองค์ มือ​ขวา​ของ​พระองค์​พยุง​ผม​ไว้ เพราะ​พระองค์​ถ่อม​ตัว​ลง ผม​จึง​ยิ่ง​ใหญ่​ขึ้น” (สดุดี 18:35) ดาวิด​รู้สึก​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​โน้ม​ตัว​มา​หา​เขา​และ​ปก​ป้อง​ดู​แล​เขา​ที่​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ ดาวิด​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​เขา​จาก​พวก​ศัตรู​และ​ทำ​ให้​เขา​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​ได้​เพราะ​พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม คล้าย​กัน เรา​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​รอด​ก็​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ถ่อม พระองค์​รัก​เรา​และ​ช่วย​เรา​เหมือน​กับ​พ่อ​ที่​ใจ​ดี

      6, 7. (ก) ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​เคย​พูด​ถึง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เจียม​ตัว? (ข) ความ​อ่อนโยน​กับ​สติ​ปัญญา​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ยังไง และ​ใคร​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ยอด​เยี่ยม​ที่​สุด?

      6 น่า​สังเกต​ว่า​ความ​ถ่อม​กับ​ความ​เจียม​ตัว​ไม่​เหมือน​กัน ความ​เจียม​ตัว​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​อย่าง​หนึ่ง​ที่​คน​ซื่อสัตย์​ควร​มี เหมือน​กับ​ความ​ถ่อม ความ​เจียม​ตัว​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สติ​ปัญญา ตัวอย่าง​เช่น สุภาษิต 11:2 บอก​ว่า “คน​เจียม​ตัว​จะ​มี​สติ​ปัญญา” แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​เคย​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เจียม​ตัว ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น? เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​คำ​นี้​กับ​มนุษย์​เท่า​นั้น​และ​หมาย​ถึง​การ​ยอม​รับ​ว่า​ตัว​เอง​มี​ขีด​จำกัด พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด​ไม่​มี​ขีด​จำกัด แต่​คน​ที่​ทำ​ตาม​มาตรฐาน​ที่​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม​ของ​พระองค์​จะ​เข้าใจ​ว่า​เขา​ไม่​สามารถ​ทำ​ได้​ทุก​อย่าง (มาระโก 10:27; ทิตัส 1:2) และ​ไม่​มี​ใคร​จะ​มา​สั่ง​ว่า​พระองค์​ต้อง​ทำ​อะไร เพราะ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด ดังนั้น ความ​เจียม​ตัว​จึง​เอา​มา​ใช้​กับ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้

      7 แต่​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระ​จ้า​ที่​ถ่อม​และ​อ่อนโยน พระองค์​สอน​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ว่า​เพื่อ​จะ​มี​สติ​ปัญญา​แท้​พวก​เขา​ต้อง​อ่อนโยน คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า ‘ความ​อ่อนโยน​เกิด​จาก​สติ​ปัญญา’b (ยากอบ 3:13) เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​กัน

      พระ​ยะโฮวา​มอบหมาย​งาน​ให้​คน​อื่น​และ​ฟัง​พวก​เขา

      8-10. (ก) ทำไม​ถึง​น่า​ประทับ​ที่​พระ​ยะโฮวา​เต็ม​ใจ​มอบหมาย​งาน​และ​พร้อม​ที่​จะ​รับ​ฟัง? (ข) พระเจ้า​ผู้​มี​พลัง​อำนาจ​สูง​สุด​แสดง​ความ​ถ่อม​กับ​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์​ยังไง?

      8 ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​เรา​ประทับใจ​ใน​พระองค์ ตัวอย่าง​เช่น พระองค์​เต็ม​ใจ​มอบหมาย​งาน​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​และ​รับ​ฟัง​พวก​เขา นี่​เป็น​เรื่อง​น่า​ทึ่ง​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​หรือ​คำ​แนะ​นำ​จาก​ใคร (อิสยาห์ 40:13, 14; โรม 11:34, 35) แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​หลาย​ครั้ง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม

      9 ขอ​ให้​คิด​ถึง​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​ใน​ชีวิต​ของ​อับราฮัม มี​สาม​คน​มา​หา​อับราฮัม​และ​เขา​เรียก​คน​หนึ่ง​ว่า “พระ​ยะโฮวา” ที่​จริง​พวก​เขา​เป็น​ทูตสวรรค์​ที่​พระ​ยะโฮวา​ส่ง​มา​เพื่อ​ทำ​งาน​มอบหมาย​ของ​พระองค์ เมื่อ​ทูตสวรรค์​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ก็​เหมือน​กับ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​ทำ​อย่าง​นั้น​ด้วย โดย​วิธี​นี้​พระ​ยะโฮวา​บอก​กับ​อับราฮัม​ว่า​พระองค์​ได้​ยิน ‘ผู้​คน​ร้อง​บ่น​เกี่ยว​กับ​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์’ พระ​ยะโฮวา​บอก​อีก​ว่า “เรา​จะ​ลง​ไป​ดู​ให้​รู้​ว่า พวก​เขา​ทำ​ชั่ว​อย่าง​ที่​เรา​ได้​ยิน​เสียง​ร้อง​บ่น​ว่า​นั้น​หรือ​เปล่า” (ปฐมกาล 18:3, 20, 21) แต่​นั่น​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ “ลง​ไป” ดู​ด้วย​พระองค์​เอง แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น พระองค์​ส่ง​ทูตสวรรค์​ไป​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระองค์​เพื่อ​ไป​ดู​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น (ปฐมกาล 19:1) ถ้า​พระ​ยะโฮวา​มอง​เห็น​ทุก​อย่าง​แล้ว​ทำไม​พระองค์​ถึง​ต้อง​ส่ง​ทูตสวรรค์​ลง​มา? พระองค์​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ให้​พวก​เขา​ช่วย​เพื่อ​จะ “รู้” ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์ แต่​พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ถ่อม​โดย​ให้​ทูตสวรรค์​ลง​ไป​ดู​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​และ​ไป​เยี่ยม​โลท​กับ​ครอบครัว​ของ​เขา​ใน​เมือง​โสโดม

      10 นอกจากนั้น พระ​ยะโฮวา​ยัง​พร้อม​ที่​จะ​รับ​ฟัง​ด้วย ครั้ง​หนึ่ง​พระองค์​ขอ​ทูตสวรรค์​ของ​พระองค์​ให้​เสนอ​วิธี​ต่าง ๆ เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​กษัตริย์​อาหับ​ที่​ชั่ว​ร้าย​ไป​ตาย​ใน​สงคราม พระ​ยะโฮวา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ทูตสวรรค์ แต่​เมื่อ​ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​มี​ข้อ​เสนอ​ที่​ดี พระองค์​ก็​ฟัง​และ​บอก​ให้​เขา​ทำ​ตาม​ข้อ​เสนอ​ของ​เขา (1 พงศ์กษัตริย์ 22:19-22) นั่น​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ถ่อม​จริง ๆ

      11, 12. อับราฮัม​ได้​เข้าใจ​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม?

      11 เมื่อ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​บอก​เรื่อง​ที่​เขา​กังวล พระ​ยะโฮวา​ก็​เต็ม​ใจ​ฟัง​ด้วย ตัวอย่าง​เช่น เมื่อ​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำลาย​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์ อับราฮัม​แปลก​ใจ​และ​พูด​ว่า “พระองค์​ไม่​มี​ทาง​ทำ​อย่าง​นั้น” เขา​ยัง​บอก​อีก​ว่า “ผู้​พิพากษา​โลก​ทั้ง​สิ้น​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​อย่าง​แน่นอน” เขา​ถาม​ว่า​ถ้า​มี​คน​ดี 50 คน 45 คน หรือ 40 คน​ที่​นั่น พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำลาย​เมือง​นั้น​ไหม ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​จะ​รับรอง​กับ​อับราฮัม​แล้ว​แต่​เขา​ก็​ยัง​ถาม​เหมือน​เดิม จน​สุด​ท้าย​เขา​ถาม​ว่า​ถ้า​เหลือ​คน​ดี​แค่ 10 คน​พระองค์​จะ​ยัง​ทำลาย​เมือง​นั้น​ไหม บาง​ที​อับราฮัม​อาจ​ยัง​ไม่​เข้าใจ​เต็ม​ที่​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เมตตา​มาก​ขนาด​ไหน แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​อดทน​และ​ถ่อม พระองค์​ยอม​ให้​อับราฮัม​ที่​เป็น​เพื่อน​และ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​บอก​เรื่อง​ที่​เขา​กังวล—ปฐมกาล 18:23-33

      12 หลาย​คน​ที่​มี​ความ​รู้​มาก​มัก​จะ​ไม่​อดทน​ฟัง​คน​อื่น​ที่​มี​ความ​รู้​น้อย​กว่า​เขาc แต่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เรา​ฟัง​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ด้วย​ความ​ถ่อม ตอน​ที่​อับราฮัม​ถาม​พระองค์​หลาย​ครั้ง​เกี่ยว​กับ​การ​ทำลาย​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์ เขา​ก็​ได้​มา​เข้าใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา “ไม่​โกรธ​ง่าย” (อพยพ 34:6) เขา​อาจ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​สงสัย​การ​กระทำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด เขา​เลย​บอก​ถึง​สอง​ครั้ง​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ อย่า​เพิ่ง​โกรธ​นะ​ครับ” (ปฐมกาล 18:30, 32) พระ​ยะโฮวา​ไม่​โกรธ​เพื่อน​ของ​พระองค์​เพราะ​พระองค์​มี “ความ​อ่อนโยน​ที่​เกิด​จาก​สติ​ปัญญา”

      พระ​ยะโฮวา​มี​เหตุ​ผล

      13. ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คำ​ว่า “มี​เหตุ​ผล” หมายความ​ว่า​ยังไง และ​ทำไม​คำ​นี้​ถึง​เหมาะ​กับ​พระ​ยะโฮวา?

      13 เรา​เห็น​ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​จาก​คุณลักษณะ​ที่​ยอด​เยี่ยม​อีก​อย่าง​หนึ่ง คือ​ความ​มี​เหตุ​ผล น่า​เศร้า​ที่​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​มัก​จะ​ไม่​ค่อย​มี​เหตุ​ผล เรา​ได้​เรียน​แล้ว​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​แค่​เต็ม​ใจ​ฟัง​สิ่ง​ที่​มนุษย์​และ​ทูตสวรรค์​บอก​เท่า​นั้น แต่​พระองค์​ยัง​เต็ม​ใจ​ยอม​ทำ​ตาม​ข้อ​เสนอ​ของ​พวก​เขา​ด้วย​ถ้า​เรื่อง​นั้น​ไม่​ขัด​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระองค์ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​คำ​ว่า “มี​เหตุ​ผล” มี​ความหมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ว่า “ยินยอม” คุณลักษณะ​นี้​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ ยากอบ 3:17 บอก​ว่า “แต่​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น . . . มี​เหตุ​ผล” พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​มี​เหตุ​ผล? อย่าง​แรก พระองค์​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน อย่า​ลืม​ว่า​ชื่อ​ของ​พระองค์​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระองค์​จะ​เป็น​อะไร​ก็​ได้​ที่​จำเป็น​เพื่อ​ทำ​ให้​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์​สำเร็จ (อพยพ 3:14) นี่​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​และ​มี​เหตุ​ผล

      14, 15. นิมิต​ของ​เอเสเคียล​เรื่อง​ราชรถ​ของ​พระ​ยะโฮวา​สอน​อะไร​เรา​เกี่ยว​กับ​องค์การ​ส่วน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์​ของ​พระองค์ และ​องค์การ​นี้​ไม่​เหมือน​องค์การ​ของ​มนุษย์​ยังไง?

      14 ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​ข้อ​ความ​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​ที่​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน ผู้​พยากรณ์​เอเสเคียล​ได้​เห็น​นิมิต​เกี่ยว​กับ​องค์การ​ส่วน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​มี​ทูตสวรรค์​ที่​ซื่อสัตย์ เขา​เห็น​ราชรถ​ที่​ใหญ่​มาก​ซึ่ง​พระ​ยะโฮวา​เอง​ควบคุม​อยู่ วิธี​ที่​รถ​นี้​เคลื่อน​ที่​น่า​สนใจ​มาก รถ​นี้​มี​สี่​ล้อ​และ​มี​ตา​อยู่​รอบ ๆ ที่​สามารถ​มอง​เห็น​ได้​ทุก​ที่​และ​เปลี่ยน​ทิศ​ทาง​ได้​ทันที​โดย​ไม่​ต้อง​หยุด​หรือ​เลี้ยว และ​ราชรถ​ขนาด​ใหญ่​นี้​ไม่​ได้​เคลื่อน​ที่​อย่าง​ช้า ๆ เหมือน​พาหนะ​ใหญ่ ๆ ที่​มนุษย์​สร้าง​ขึ้น แต่​สามารถ​เคลื่อน​ที่​ได้​เร็ว​เท่า​กับ​ความ​เร็ว​ของ​แสง และ​ทุก​ล้อ​ก็​เลี้ยว​ได้​ทั้ง​สี่​ทิศ​โดย​ไม่​ต้อง​หัน​เลย (เอเสเคียล 1:1, 14-28) เห็น​ชัด​ว่า​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​อยู่​ใต้​การ​ควบคุม​ของ​พระองค์​และ​พร้อม​ปรับ​เปลี่ยน​อย่าง​รวด​เร็ว​เสมอ

      15 ตอน​ที่​สถานการณ์​เปลี่ยน​ไป​มนุษย์​อาจ​พยายาม​ปรับ​เปลี่ยน แต่​บ่อย​ครั้ง​ตัว​เขา​เอง​และ​องค์การ​ของ​เขา​ก็​ปรับ​เปลี่ยน​อะไร ๆ ได้​ช้า​มาก เพื่อ​เป็น​ตัวอย่าง เรือ​บรรทุก​น้ำมัน​หรือ​รถไฟ​บรรทุก​สินค้า​อาจ​ดู​น่า​ประทับใจ​เพราะ​มี​ขนาด​ใหญ่​และ​มี​พลัง​มาก แต่​ถ้า​อยู่ ๆ มี​อะไร​มา​ขวาง​อยู่​ข้าง​หน้า​พาหนะ​เหล่า​นี้​จะ​หลบ​ได้​ทัน​ไหม? คง​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​รถไฟ​บรรทุก​สินค้า​หนัก​จะ​หยุด​เพื่อ​ไม่​ชน​สิ่ง​ที่​อยู่​ข้าง​หน้า ถึง​รถไฟ​จะ​เริ่ม​เบรก​แล้ว​แต่​หลัง​จาก​นั้น​ก็​ยัง​ต้อง​ใช้​ระยะ​ทาง​ประมาณ 2 กิโลเมตร​กว่า​จะ​หยุด​ได้ คล้าย​กัน เรือ​บรรทุก​น้ำมัน​ขนาด​ใหญ่​หลัง​จาก​ดับ​เครื่อง​ยนต์​แล้ว​ก็​อาจ​แล่น​ต่อ​ไป​ได้​อีก​ถึง 8 กิโลเมตร และ​ถ้า​เดิน​เครื่อง​ยนต์​ถอย​หลัง​แล้ว​เรือ​ก็​ยัง​อาจ​แล่น​ไป​ได้​อีก​ถึง 3 กิโลเมตร เรื่อง​นี้​คล้าย​กัน​กับ​องค์การ​ของ​มนุษย์​ที่​ไม่​ยืดหยุ่น​และ​ไม่​มี​เหตุ​ผล เพราะ​ความ​หยิ่ง​มัก​จะ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​ยอม​ปรับ​เปลี่ยน​ให้​เข้า​กับ​ความ​จำเป็น​หรือ​สถานการณ์​ที่​เปลี่ยน​ไป การ​ไม่​ยอม​ปรับ​เปลี่ยน​นี้​ทำ​ให้​บริษัท​ล้ม​ละลาย​และ​ถึง​กับ​ทำ​ให้​รัฐบาล​ถูก​ล้ม​ด้วย​ซ้ำ (สุภาษิต 16:18) เรา​ดีใจ​มาก​ที่​พระ​ยะโฮวา​และ​องค์การ​ของ​พระองค์​ไม่​ได้​เป็น​แบบ​นั้น

      พระ​ยะโฮวา​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระองค์​มี​เหตุ​ผล

      16. ก่อน​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำลาย​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์ พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​มี​เหตุ​ผล​กับ​โลท?

      16 ขอ​ให้​คิด​ถึง​การ​ทำลาย​เมือง​โสโดม​และ​โกโมราห์​อีก​ครั้ง ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​บอก​โลท​กับ​ครอบครัว​ของ​เขา​อย่าง​ชัดเจน​ว่า “ให้​หนี​ไป​ที่​เขต​เทือก​เขา” แต่​โลท​ไม่​อยาก​ไป​ที่​นั่น เขา​เลย​ขอร้อง​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ครับ อย่า​ให้​ผม​ไป​ที่​นั่น​เลย” เพราะ​เขา​กลัว​ว่า​ถ้า​ต้อง​หนี​ไป​ที่​นั่น​เขา​คง​จะ​ตาย​แน่ ๆ โลท​ขอ​ให้​เขา​กับ​ครอบครัว​หนี​ไป​ที่​เมือง​โศอาร์​ที่​อยู่​ใกล้ ๆ แต่​โลท​ไม่​ต้อง​กลัว​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​สามารถ​ปก​ป้อง​เขา​ให้​ปลอด​ภัย​ที่​เทือก​เขา​ได้ ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​ตั้งใจ​จะ​ทำลาย​เมือง​นั้น แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​ยอม​ให้​โลท​ทำ​ตาม​ที่​ขอ พระองค์​บอก​โลท​ว่า “ได้ เรา​จะ​ให้​ตาม​ที่​ขอ และ​เรา​จะ​ไม่​ทำลาย​เมือง​นั้น” (ปฐมกาล 19:17-22) นี่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​มี​เหตุ​ผล​จริง ๆ

      17, 18. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ยังไง​ว่า​มี​เหตุ​ผล​กับ​ชาว​นีนะเวห์?

      17 พระ​ยะโฮวา​เมตตา​และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​เสมอ ดังนั้น พระองค์​ก็​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​ด้วย​ถ้า​มี​คน​กลับ​ใจ​อย่าง​แท้​จริง ขอ​ให้​คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ตอน​ที่​ผู้​พยากรณ์​โยนาห์​ถูก​ส่ง​ไป​เมือง​นีนะเวห์​ที่​มี​คน​ชั่ว​และ​โหด​เหี้ยม​มาก เมื่อ​โยนาห์​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​ใน​เมือง​นีนะเวห์ เขา​ประกาศ​ข่าวสาร​จาก​พระเจ้า​ว่า​ใน​อีก 40 วัน​เมือง​ใหญ่​นี้​จะ​ถูก​ทำลาย แต่​เหตุ​การณ์​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​ไม่​น่า​เชื่อ​เพราะ​ชาว​นีนะเวห์​กลับ​ใจ—โยนาห์​บท 3

      18 ขอ​สังเกต​ว่า​ใน​เหตุ​การณ์​นี้​ปฏิกิริยา​ของ​พระ​ยะโฮวา​กับ​ของ​โยนาห์​ต่าง​กัน​ยังไง พระ​ยะโฮวา​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​ตาม​สถานการณ์ แทน​ที่​จะ​เป็น “นัก​รบ​ที่​เก่ง​กาจ”d และ​ทำลาย​ชาว​นีนะเวห์ พระองค์​กลับ​ให้​อภัย​พวก​เขา (อพยพ 15:3) แต่​โยนาห์​ไม่​พร้อม​ปรับ​เปลี่ยน​และ​ไม่​แสดง​ความ​เมตตา แทน​ที่​จะ​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​เขา​กลับ​ไม่​มี​เหตุ​ผล เขา​ประกาศ​ว่า​ชาว​นีนะเวห์​จะ​ถูก​ทำลาย​และ​เขา​ก็​อยาก​ให้​เรื่อง​นี้​เกิด​ขึ้น​จริง แต่​พระ​ยะโฮวา​ก็​อดทน​กับ​โยนาห์​และ​สอน​บทเรียน​ที่​สำคัญ​กับ​เขา​ใน​เรื่อง​ความ​มี​เหตุ​ผล​และ​ความ​เมตตา—โยนาห์​บท 4

      พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ช่วยเหลือ​พี่​น้อง​ชาย​สูง​อายุ​ใน​งาน​ประกาศ

      พระ​ยะโฮวา​มี​เหตุ​ผล​และ​เข้าใจ​ขีด​จำกัด​ของ​เรา

      19. (ก) ทำไม​เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​คาด​หมาย​จาก​เรา​อย่าง​มี​เหตุ​ผล? (ข) สุภาษิต 19:17 แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่ “ดี​และ​มี​เหตุ​ผล” และ​ถ่อม​มาก?

      19 พระ​ยะโฮวา​คาด​หมาย​จาก​เรา​อย่าง​มี​เหตุ​ผล กษัตริย์​ดาวิด​บอก​ว่า “พระองค์​รู้​ดี​ว่า​พวก​เรา​ถูก​สร้าง​มา​อย่างไร และ​ไม่​ลืม​ว่า​พวก​เรา​เป็น​แค่​ดิน” (สดุดี 103:14) พระ​ยะโฮวา​เข้าใจ​ขีด​จำกัด​และ​ความ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ​ของ​เรา​มาก​กว่า​ที่​เรา​เข้าใจ​ตัว​เอง พระองค์​ไม่​เคย​คาด​หมาย​จาก​เรา​มาก​กว่า​ที่​เรา​ทำ​ได้ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​บาง​คน​ก็​เป็น​คน “ดี​และ​มี​เหตุ​ผล” ส่วน​บาง​คน​ก็​เป็น​คน “เอา​ใจ​ยาก” (1 เปโตร 2:18) เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ดี มี​เหตุ​ผล และ​ไม่​ได้​เอา​ใจ​ยาก ขอ​สังเกต​สุภาษิต 19:17 ที่​นั่น​บอก​ว่า “คน​ที่​เมตตา​คน​จน​ก็​เหมือน​ให้​พระ​ยะโฮวา​ยืม” นี่​หมายความ​ว่า​พระองค์​สนใจ​สิ่ง​ดี ๆ ที่​เรา​ทำ​เพื่อ​คน​อื่น พระองค์​ดี​และ​มี​เหตุ​ผล​จริง ๆ ยิ่ง​กว่า​นั้น พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​สูง​สุด​ยัง​มอง​ว่า​พระองค์​เป็น​หนี้​มนุษย์​ที่​ต่ำต้อย​และ​พระองค์​จะ​ตอบ​แทน​เรา​ใน​สิ่ง​ดี​ที่​เรา​ทำ​กับ​คน​อื่น เห็น​ชัด​เลย​ว่า​พระองค์​ถ่อม​มาก​จริง ๆ

      20. ทำไม​เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ฟัง​และ​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา?

      20 พระ​ยะโฮวา​ปฏิบัติ​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ใน​ทุก​วัน​นี้​ด้วย​ความ​อ่อนโยน​และ​มี​เหตุ​ผล​เหมือน​ที่​พระองค์​ทำ​ใน​อดีต เมื่อ​เรา​อธิษฐาน​ด้วย​ความ​เชื่อ พระองค์​จะ​ฟัง​เรา และ​ถึง​แม้​พระองค์​ไม่​ได้​ให้​ทูตสวรรค์​มา​พูด​กับ​เรา เรา​ก็​ไม่​ควร​คิด​ว่า​พระองค์​ไม่​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา ขอ​จำ​ไว้​ว่า​ตอน​ที่​อัครสาวก​เปาโล​ขอ​ให้​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ ‘อธิษฐานต่อ​ไป’ เพื่อ​เขา​จะ​ได้​ถูก​ปล่อย​ตัว​ออก​จาก​คุก เขา​บอก​ว่า “เพื่อ​ให้​ผม​ได้​กลับ​ไป​หา​พวก​คุณ​เร็ว​ขึ้น” (ฮีบรู 13:18, 19) ดังนั้น คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา​อาจ​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ทำ​บาง​อย่าง​ที่​พระองค์​ไม่​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ทำ​ตั้งแต่​แรก​ก็​ได้—ยากอบ 5:16

      21. ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​อะไร และ​คุณ​รู้สึก​ยังไง​ที่​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม?

      21 ถึง​แม้​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม อ่อนโยน เต็ม​ใจ​รับ​ฟัง อดทน และ​มี​เหตุ​ผล แต่​พระองค์​จะ​ไม่​ยอม​อะลุ่มอล่วย​เมื่อ​มี​คน​ไม่​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​พระองค์ ผู้​นำ​ใน​โบสถ์​อาจ​คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​เมื่อ​สอน​ว่า​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​เกลียด​ไม่​ใช่​เรื่อง​ผิด เพราะ​รู้​ว่า​คน​ส่วน​ใหญ่​อยาก​ได้​ยิน​แบบ​นั้น (2 ทิโมธี 4:3) บาง​ครั้ง​เรา​ก็​ทำ​บาง​อย่าง​ทั้ง ๆ ที่​รู้​ว่า​ผิด​และ​อ้าง​ว่า​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น แต่​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เป็น​แบบ​นั้น พระองค์​บริสุทธิ์​และ​ไม่​ทำ​อะไร​ที่​ขัด​กับ​กฎหมาย​ของ​พระองค์​แน่นอน (เลวีนิติ 11:44) เรา​เห็น​ว่า​ความ​ถ่อม​ทำ​ให้​พระเจ้า​มี​เหตุ​ผล และ​นี่​ทำ​ให้​เรา​รัก​พระองค์​มาก คุณ​รู้สึก​ยังไง​ที่​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ผู้​มี​สติ​ปัญญา​มาก​ที่​สุด​ใน​เอกภพ​เป็น​พระเจ้า​ที่​ถ่อม​ที่​สุด​ด้วย? เรา​มี​ความ​สุข​มาก​ที่​ได้​ใกล้​ชิด​กับ​พระเจ้า​ที่​มี​อำนาจ​มาก​แต่​ก็​อ่อนโยน อดทน และ​มี​เหตุ​ผล

      a ผู้​คัด​ลอก​คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​คน​ใน​อดีต​ได้​เปลี่ยน​ข้อ​ความ​ใน​ข้อ​นี้​โดย​บอก​ว่า​เยเรมีย์​เป็น​ผู้​ที่​ก้ม​ตัว​ลง ไม่​ใช่​พระ​ยะโฮวา​ที่​ทำ​แบบ​นั้น พวก​เขา​อาจ​คิด​ว่า​เป็น​เรื่อง​ผิด​ที่​จะ​บอก​ว่า​พระเจ้า​ลด​ตัว​ลง​มา​ช่วย​มนุษย์ นี่​เลย​ทำ​ให้​ฉบับ​แปล​หลาย​ฉบับ​ขาด​จุด​สำคัญ​ที่​น่า​ประทับใจ​นี้​ไป

      b ฉบับ​แปล​อื่น ๆ บอก​ว่า “ความ​ถ่อม​ซึ่ง​เกิด​จาก​สติ​ปัญญา” และ “ความ​สุภาพ​นั้น​ซึ่ง​เป็น​เครื่องหมาย​ของ​สติ​ปัญญา”

      c คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​อย่าง​น่า​สนใจ​ว่า​คน​ที่​ไม่​อดทน​ก็​เป็น​คน​หยิ่ง (ปัญญาจารย์ 7:8) ดังนั้น​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​อดทน พระองค์​ก็​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระองค์​ถ่อม​มาก​จริง ๆ—2 เปโตร 3:9

      d สดุดี 86:5 บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา “ดี​จริง ๆ และ​พร้อม​จะ​ให้​อภัย” เมื่อ​แปล​สดุดี​บท​นี้​เป็น​ภาษา​กรีก คำ​ว่า “พร้อม​จะ​ให้​อภัย” ถูก​แปล​ว่า เอพิอิคิส หรือ “มี​เหตุ​ผล”

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • อพยพ 32:9-14 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ถ่อม​ยังไง​ตอน​ที่​โมเสส​ขอ​ให้​พระองค์​เมตตา​ชาว​อิสราเอล?

      • ผู้​วินิจฉัย 6:36-40 ตอน​ที่​กิเดโอน​ขอร้อง​บาง​เรื่อง​กับ​พระ​ยะโฮวา พระองค์​แสดง​ความ​อดทน​และ​มี​เหตุ​ผล​ยังไง?

      • สดุดี 113:1-9 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​ถ่อม​กับ​มนุษย์​ยังไง?

      • ลูกา 1:46-55 มารีย์​พูด​อะไร​ที่​แสดง​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำ​สิ่ง​ดี ๆ เพื่อ​คน​ถ่อม​และ​คน​ต่ำต้อย? และ​เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระองค์​ได้​ยังไง?

  • พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า”
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พระ​เยซู​กำลัง​สอน​ประชาชน​กลุ่ม​ใหญ่

      บท 21

      พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า”

      1-3. คน​ที่​เคย​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​พระ​เยซู​มี​ท่าที​ยังไง​กับ​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน และ​ทำไม?

      ตอน​ที่​พระ​เยซู​สอน​ใน​ที่​ประชุม​ของ​คน​ยิว ผู้​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​รู้สึก​ทึ่ง​มาก พวก​เขา​รู้​จัก​ท่าน​ดี เพราะ​ท่าน​โต​มา​ใน​เมือง​นั้น และ​ทำ​งาน​เป็น​ช่าง​ไม้​อยู่​หลาย​ปี พวก​เขา​บาง​คน​อาจ​จะ​อยู่​ใน​บ้าน​ที่​พระ​เยซู​ช่วย​สร้าง หรือ​เป็น​ชาว​ไร่​ชาว​นา​ที่​ทำ​งาน​โดย​ใช้​คัน​ไถ​และ​แอก​ที่​ท่าน​ทำa แต่​พวก​เขา​จะ​รู้สึก​ยังไง​ตอน​ที่​ได้​ยิน​คน​ที่​เคย​เป็น​ช่าง​ไม้​คน​นี้​สอน?

      2 คน​ส่วน​ใหญ่​ที่​ได้​ยิน​ท่าน​สอน​รู้สึก​ประหลาด​ใจ เลย​ถาม​กัน​ว่า “คน​นี้​ไป​ได้​สติ​ปัญญา​มา​จาก​ไหน?” แต่​ก็​มี​บาง​คน​บอก​ว่า “เขา​เป็น​ช่าง​ไม้ ลูก​ชาย​มารีย์” (มัทธิว 13:54-58; มาระโก 6:1-3) น่า​เสียดาย คน​ที่​เคย​เป็น​เพื่อน​บ้าน​ของ​พระ​เยซู​อาจ​จะ​คิด​ว่า ‘คน​นี้​ก็​เป็น​แค่​ช่าง​ไม้​ใน​เมือง​ของ​เรา​และ​เขา​ก็​ไม่​ได้​เป็น​คน​พิเศษ​อะไร’ ถึง​สิ่ง​ที่​ท่าน​สอน​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ถึง​สติ​ปัญญา พวก​เขา​ก็​ปฏิเสธ​ท่าน​อยู่​ดี พวก​เขา​ไม่​รู้​เลย​ว่า​ท่าน​ได้​สติ​ปัญญา​นั้น​จาก​ที่​ไหน

      3 แล้ว​พระ​เยซู​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​ที่​ไหน? ท่าน​บอก​ว่า “ผม​ไม่​ได้​สอน​คำ​สอน​ของ​ผม​เอง แต่​เป็น​ของ​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา” (ยอห์น 7:16) อัครสาวก​เปาโล​บอก​ว่า​พระ​เยซู “ทำ​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า” (1 โครินธ์ 1:30) เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​จาก​พระ​เยซู​ลูก​ชาย​ของ​พระองค์ ท่าน​ทำ​ได้​ดี​จน​ถึง​ขนาด​ที่​ท่าน​บอก​ว่า “ผม​กับ​พ่อ​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน” (ยอห์น 10:30) ให้​เรา​มา​ดู 3 อย่าง​ที่​พระ​เยซู​แสดง​ว่า​ท่าน​มี “สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า”

      เรื่อง​ที่​ท่าน​สอน

      4. (ก) อะไร​เป็น​เรื่อง​หลัก​ที่​พระ​เยซู​สอน และ​ทำไม​เรื่อง​นั้น​ถึง​สำคัญ​มาก? (ข) ทำไม​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​เป็น​ประโยชน์​และ​ช่วย​ผู้​คน​ได้​จริง ๆ?

      4 ให้​เรา​มา​ดู​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​สอน เรื่อง​หลัก​ที่​ท่าน​สอน​คือ “ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า” (ลูกา 4:43) นี่​เป็น​เรื่อง​ที่​สำคัญ​มาก​เพราะ​รัฐบาล​นี้​จะ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​สรรเสริญ​และ​พิสูจน์​ว่า​พระองค์​เป็น​ผู้​ปกครอง​ที่​ดี​ที่​สุด รวม​ถึง​ทำ​ให้​ทั้ง​โลก​กลาย​เป็น​สวน​อุทยาน​และ​ผู้​คน​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ที่​นั่น​ได้​ตลอด​ไป พระ​เยซู​ยัง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​ชีวิต​ประจำ​วัน​ด้วย ท่าน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ท่าน​เป็น “ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์” ตาม​ที่​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า (อิสยาห์ 9:6) ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​เป็น “ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์” หรือ​เป็น​ครู​ที่​ดี? ก็​เพราะ​ท่าน​รู้​จัก​คำ​สอน​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​อย่าง​ดี​และ​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​เรา​รับใช้​พระองค์​ยังไง ท่าน​ยัง​รู้​ด้วย​ว่า​มนุษย์​คิด​และ​รู้สึก​ยังไง และ​ท่าน​รัก​มนุษย์​มาก ดังนั้น คำ​แนะ​นำ​ของ​ท่าน​เลย​เป็น​ประโยชน์​และ​ช่วย​ผู้​คน​ได้​จริง ๆ พระ​เยซู​มี “คำ​สอน​ที่​ให้​ชีวิต​ตลอด​ไป” เมื่อ​เรา​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​ท่าน เรา​ก็​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป—ยอห์น 6:68

      5. ใน​คำ​บรรยาย​บน​ภูเขา​พระ​เยซู​สอน​เรื่อง​อะไร​บ้าง?

      5 คำ​บรรยาย​บน​ภูเขา​เป็น​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ชัด​ว่า​พระ​เยซู​สอน​ด้วย​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า ถึง​แม้​คำ​บรรยาย​ที่​อยู่​ใน​มัทธิว 5:3–7:27 อาจ​จะ​ใช้​เวลา​บรรยาย​แค่ 20 นาที แต่​คำ​แนะ​นำ​เหล่า​นั้น​ยัง​ใช้​ได้​ใน​ทุก​วัน​นี้ พระ​เยซู​พูด​ถึง​หลาย​เรื่อง​รวม​ทั้ง​วิธี​ที่​เรา​จะ​เข้า​กับ​คน​อื่น​ได้​ดี (5:23-26, 38-42; 7:1-5, 12) วิธี​ที่​จะ​เป็น​คน​สะอาด​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม (5:27-32) และ​วิธี​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​ความ​สุข (6:19-24; 7:24-27) พระ​เยซู​ไม่​ได้​แค่​บอก​ผู้​ฟัง​ว่า​ทำ​ยังไง​ถึง​จะ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ฉลาด แต่​ท่าน​ยัง​อธิบาย​ว่า​ทำไม​ท่าน​ถึง​บอก​แบบ​นั้น​และ​ทำ​ให้​เห็น​เป็น​ตัวอย่าง​ด้วย

      6-8. (ก) พระ​เยซู​บอก​เหตุ​ผล​ที่​ดี​อะไร​ว่า​เรา​ไม่​ควร​กังวล​มาก​เกิน​ไป? (ข) คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ยังไง?

      6 ตัวอย่าง​เช่น คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​วิธี​รับมือ​กับ​ความ​กังวล​ใน​ชีวิต ใน​มัทธิว​บท 6 พระ​เยซู​แนะ​นำ​เรา​ว่า “เลิก​กังวล​ได้​แล้ว​กับ​เรื่อง​ชีวิต​ความ​เป็น​อยู่​ว่า​จะ​มี​กิน​มี​ดื่ม​ไหม หรือ​กังวล​ว่า​จะ​มี​เสื้อ​ผ้า​ใส่​หรือ​เปล่า” (ข้อ 25) อาหาร​และ​เสื้อ​ผ้า​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​พื้น​ฐาน เลย​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​ผู้​คน​มัก​จะ​กังวล แต่​ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​บอก​เรา​ให้ “เลิก​กังวล”?b

      7 พระ​เยซู​บอก​เหตุ​ผล​ที่​ดี​หลาย​อย่าง​ว่า​ทำไม​ผู้​ฟัง​ของ​ท่าน​ไม่​ควร​กังวล​มาก​เกิน​ไป เช่น พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​สร้าง​เรา ดังนั้น พระองค์​จะ​ให้​เรา​มี​เสื้อ​ผ้า​และ​อาหาร​เพื่อ​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​แน่นอน (ข้อ 25) ถ้า​พระเจ้า​ให้​นก​มี​อาหาร​กิน​และ​ดู​แล​ดอกไม้​ให้​สวย​งาม​ได้ พระองค์​ก็​จะ​ดู​แล​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ด้วย (ข้อ 26, 28-30) จริง ๆ แล้ว​ความ​กังวล​ไม่​มี​ประโยชน์​อะไร​และ​ไม่​ได้​ช่วย​ให้​เรา​มี​ชีวิต​ยืน​ยาว​ขึ้นc (ข้อ 27) แล้ว​เรา​จะ​เลิก​กังวล​ได้​ยังไง? พระ​เยซู​แนะ​นำ​ว่า​เรา​ต้อง​ให้​การ​นมัสการ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ต่อ ๆ ไป ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​เรา​ก็​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พ่อ​ใน​สวรรค์ ‘จะ​ให้​เรา​มี’ สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต (ข้อ 33) พระ​เยซู​ยัง​บอก​ให้​เรา​รับมือ​กับ​ปัญหา​เป็น​วัน ๆ ไป​และ​ไม่​ต้อง​กังวล​เรื่อง​ของ​วัน​พรุ่ง​นี้ (ข้อ 34) เพราะ​บาง​ที​เรื่อง​ที่​เรา​กังวล​อาจ​จะ​ไม่​เกิด​ขึ้น​ด้วย​ซ้ำ การ​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​นี้​จะ​ช่วย​ให้​เรา​ไม่​ต้อง​เจอ​กับ​เรื่อง​เครียด ๆ ที่​ทำ​ให้​เรา​ไม่​มี​ความ​สุข

      8 เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​คำ​แนะ​นำ​ของ​มนุษย์​ก็​อาจ​จะ​ต้อง​มี​การ​ปรับ​เปลี่ยน เพราะ​บาง​คำ​แนะ​นำ​ก็​ใช้​ไม่​ได้​แล้ว แต่​เรื่อง​ที่​พระ​เยซู​สอน​ไว้​เมื่อ 2,000 ปี​ที่​แล้ว​ยัง​ใช้​ได้​ใน​ทุก​วัน​นี้ นี่​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​ท่าน​มา​จาก​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พ่อ​ของ​ท่าน เรา​เห็น​ได้​ชัดเจน​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์​และ​ท่าน​ถ่ายทอด ‘คำ​พูด​ของ​พระเจ้า’—ยอห์น 3:34

      วิธี​ที่​ท่าน​สอน

      9. พวก​ทหาร​พูด​ยังไง​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​พระ​เยซู​สอน และ​ทำไม​พวก​เขา​ถึง​ไม่​ได้​พูด​เกิน​จริง?

      9 อย่าง​ที่​สอง​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​สอน​ด้วย​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​คือ วิธี​ที่​ท่าน​สอน ครั้ง​หนึ่ง พวก​ผู้​นำศาสนา​ชาว​ยิว​ส่ง​ทหาร​ไป​จับ​พระ​เยซู​แต่​กลับ​มา​มือ​เปล่า พวก​เขา​บอก​ว่า “พวก​เรา​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ใคร​พูด​เหมือน​ผู้​ชาย​คน​นี้​มา​ก่อน​เลย” (ยอห์น 7:45, 46) พวก​เขา​ไม่​ได้​พูด​เกิน​จริง เพราะ​พระ​เยซู​มี​ชีวิต​อยู่​บน​สวรรค์​นาน​ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​มา​บน​โลก ดังนั้น ท่าน​มี​ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​มาก​กว่า​มนุษย์​ทุก​คน (ยอห์น 8:23) ไม่​มี​ใคร​จะ​สอน​ได้​เหมือน​ท่าน ให้​เรา​มา​ดู​วิธี​สอน​สอง​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​ครู​ที่​ฉลาด​ด้วย​กัน

      “คน​ที่​มา​ฟัง​ก็​รู้สึก​ทึ่ง​กับ​วิธี​สอน​ของ​ท่าน”

      10, 11. (ก) ทำไม​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​เรา​ประทับใจ? (ข) ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​คือ​อะไร และ​พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​อะไร​บ้าง​เพื่อ​สอน​บทเรียน​ที่​สำคัญ?

      10 ใช้​ตัวอย่าง​ที่​เข้า​ถึง​หัวใจ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “พระ​เยซู​พูด​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​กับ​ผู้​คน​โดย​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ ที่​จริง ท่าน​สอน​พวก​เขา​โดย​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เสมอ” (มัทธิว 13:34) พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​ง่าย ๆ ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​ได้​อย่าง​น่า​ประทับใจ ท่าน​พูด​ถึง​ชาว​นา​ที่​หว่าน​เมล็ด​พืช ผู้​หญิง​ทำ​ขนมปัง เด็ก ๆ ที่​เล่น​กัน​ใน​ตลาด ชาว​ประมง​ลาก​อวน คน​เลี้ยง​แกะ​ตาม​หา​แกะ​ที่​หาย​ไป ทั้ง​หมด​นี้​เป็น​เรื่อง​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​ท่าน​เห็น​อยู่​บ่อย ๆ เมื่อ​ท่าน​ใช้​เรื่อง​ที่​ผู้​คน​คุ้น​เคย​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ พวก​เขา​ก็​จะ​เข้าใจ จด​จำ และ​เอา​คำ​สอน​ที่​สำคัญ​นี้​ไป​ใช้​ได้​ง่าย​ขึ้น—มัทธิว 11:16-19; 13:3-8, 33, 47-50; 18:12-14

      11 บ่อย​ครั้ง​พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​เป็น​เรื่อง​สั้น ๆ ซึ่ง​สอน​บทเรียน​ที่​สำคัญ ท่าน​ทำ​แบบ​นั้น​เพราะ​อยาก​ให้​ผู้​ฟัง​เข้าใจ​และ​จำ​บทเรียน​ต่าง ๆ ได้ ใน​หลาย​ตัวอย่าง พระ​เยซู​พูด​ถึง​พ่อ​ของ​ท่าน​โดย​ใช้​ภาพ​เปรียบ​เทียบ​ที่​ชัดเจน​และ​จำ​ได้​ง่าย เช่น ตัวอย่าง​เรื่อง​ลูก​ที่​หลง​หาย​สอน​ให้​เรา​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แบบ​ไหน และ​ยัง​สอน​ว่า​เมื่อ​คน​ที่​ทำ​ผิด​กลับ​ใจ​จริง ๆ พระองค์​ก็​พร้อม​จะ​ให้​อภัย​และ​ต้อนรับ​เขา​กลับ​มา—ลูกา 15:11-32

      12. (ก) พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​คำ​ถาม​แบบ​ไหน​บ้าง? (ข) พระ​เยซู​ถาม​คน​ที่​สงสัย​เรื่อง​อำนาจ​ของ​ท่าน​ยังไง​ที่​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​กล้า​ตอบ?

      12 ใช้​คำ​ถาม​ที่​เหมาะ​สม พระ​เยซู​ใช้​คำ​ถาม​เพื่อ​ช่วย​ผู้​ฟัง​ให้​คิด ตรวจ​ดู​แรง​กระตุ้น หรือ​ลง​มือ​ตัดสิน​ใจ (มัทธิว 12:24-30; 17:24-27; 22:41-46) เช่น ตอน​ที่​พวก​ผู้​นำศาสนา​ชาว​ยิว​ถาม​พระ​เยซู​ว่า​ใคร​ให้​อำนาจ​ท่าน ท่าน​เลย​บอก​ว่า “ที่​ยอห์น​ให้​บัพติศมา​นั้น ใคร​ให้​อำนาจ​เขา พระเจ้า​หรือ​มนุษย์?” พวก​เขา​ไม่​ตอบ​และ​คุย​กัน​ว่า “ถ้า​เรา​ตอบ​ว่า ‘พระเจ้า’ เขา​ก็​จะ​ถาม​ว่า ‘ถ้า​อย่าง​นั้น ทำไม​ถึง​ไม่​เชื่อ​ยอห์น?’ แต่​ใคร​จะ​ไป​กล้า​ตอบ​ว่า ‘มนุษย์’ ล่ะ” ที่​พวก​เขา​พูด​กัน​อย่าง​นั้น “เพราะ​กลัว​ประชาชน​จะ​โกรธ​แค้น เพราะ​ประชาชน​ถือ​ว่า​ยอห์น​เป็น​ผู้​พยากรณ์​จริง ๆ” ใน​ที่​สุด​พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ไม่​รู้​สิ” (มาระโก 11:27-33; มัทธิว 21:23-27) พระ​เยซู​ใช้​คำ​ถาม​ง่าย ๆ แต่​พวก​เขา​กลับ​ไม่​กล้า​ตอบ​เพราะ​มี​ความ​คิด​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง

      13-15. ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​คน​สะมาเรีย​ทำ​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​เยซู​ยังไง?

      13 บาง​ครั้ง​พระ​เยซู​ก็​ใช้​ทั้ง​สอง​วิธี​ใน​การ​สอน คือ​ใช้​คำ​ถาม​เพื่อ​ช่วย​ให้​ผู้​ฟัง​คิด​เกี่ยว​กับ​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​ท่าน​ใช้ เช่น มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ถาม​พระ​เยซู​ว่า​ต้อง​ทำ​อะไร​ถึง​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป พระ​เยซู​เลย​บอก​ให้​เขา​คิด​ถึง​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ที่​สอน​ให้​รัก​พระเจ้า​และ​รัก​คน​อื่น แต่​ผู้​ชาย​คน​นี้​อยาก​แสดง​ว่า​เขา​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​อยู่​แล้ว เขา​เลย​ถาม​ว่า “แล้ว​ใคร​คือ​คน​ที่​ผม​จะ​ต้อง​รัก?” พระ​เยซู​ตอบ​โดย​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​หนึ่ง ท่าน​เล่า​ว่า​มี​คน​ยิว​คน​หนึ่ง​เดิน​ทาง​คน​เดียว เขา​ถูก​โจร​ปล้น​และ​ทุบ​ตี​จน​เกือบ​ตาย ต่อ​มา​มี​คน​ยิว​สอง​คน​ผ่าน​มา​เห็น คน​แรก​เป็น​ปุโรหิต ส่วน​อีก​คน​เป็น​คน​เล​วี แต่​พวก​เขา​ทั้ง​สอง​คน​ไม่​สนใจ​ที่​จะ​ช่วย แล้ว​ใน​ที่​สุด​ก็​มี​คน​สะมาเรีย​คน​หนึ่ง​เดิน​ผ่าน​มา​เห็น​ผู้​ชาย​คน​นี้​ก็​รู้สึก​สงสาร เขา​เลย​ค่อย ๆ พัน​แผล​ให้ แล้ว​พา​ผู้​ชาย​ที่​บาดเจ็บ​ไป​พัก​รักษา​ตัว​ที่​โรงแรม เมื่อ​พระ​เยซู​เล่า​เรื่อง​นี้​จบ ท่าน​ถาม​ผู้​ชาย​ที่​เชี่ยวชาญ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​คน​นั้น​ว่า “ใน​สาม​คน​นี้ คุณ​ว่า​คน​ไหน​รัก​คน​ที่​ถูก​ปล้น​เหมือน​รัก​ตัว​เอง?” เขา​ต้อง​จำ​ใจ​ตอบ​ว่า “คน​ที่​ช่วยเหลือ​เขา”—ลูกา 10:25-37

      14 ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​นี้​ช่วย​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​เยซู​ยังไง? ใน​สมัย​ของ​พระ​เยซู คน​ยิว​คิด​ว่า “คน​อื่น” ใน​ที่​นี้​หมาย​ถึง​คน​ที่​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​ของ​พวก​เขา​เท่า​นั้น​ซึ่ง​ไม่​ใช่​คน​สะมาเรีย​แน่นอน (ยอห์น 4:9) ดังนั้น ถ้า​พระ​เยซู​เล่า​เรื่อง​โดย​ให้​คน​สะมาเรีย​เป็น​คน​ถูก​ทำ​ร้าย และ​คน​ยิว​เป็น​คน​ช่วย นั่น​จะ​ทำ​ให้​ผู้​ชาย​คน​นี้​เลิก​มี​อคติ​ไหม? พระ​เยซู​ฉลาด​มาก ท่าน​เล่า​เรื่อง​นี้​โดย​ให้​คน​สะมาเรีย​เป็น​ฝ่าย​ดู​แล​คน​ยิว หลัง​จาก​เล่า​จบ​ท่าน​ก็​ถาม​คำ​ถาม​เพื่อ​ช่วย​ให้​ผู้​ชาย​คน​นี้​เข้าใจ​ว่า​การ​รัก “คน​อื่น” หมาย​ถึง​อะไร​จริง ๆ ก่อน​หน้า​นี้​เขา​ถาม​เพราะ​อยาก​รู้​ว่า ‘ใคร​คือ​คน​ที่​ผม​จะ​ต้อง​รัก?’ แต่​เมื่อ​พระ​เยซู​ถาม​ว่า “ใน​สาม​คน​นี้ คุณ​ว่า​คน​ไหน​รัก​คน​ที่​ถูก​ปล้น​เหมือน​รัก​ตัว​เอง?” ท่าน​ไม่​ได้​เน้น​คน​ที่​ได้​รับ​ความ​กรุณา​ซึ่ง​ก็​คือ​คน​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย แต่​ท่าน​เน้น​คน​ที่​แสดง​ความ​กรุณา​ซึ่ง​ก็​คือ​คน​สะมาเรีย​นั่น​เอง คน​ที่​รัก​คน​อื่น​จะ​แสดง​ความ​กรุณา​กับ​ทุก​คน​ไม่​ว่า​จะ​มี​ภูมิหลัง​หรือ​เชื้อชาติ​อะไร​ก็​ตาม พระ​เยซู​สอน​อย่าง​ฉลาด​จริง ๆ

      15 ไม่​แปลก​ที่​ผู้​คน​จะ​รู้สึก​ทึ่ง​ใน “วิธี​สอน” ของ​พระ​เยซู​และ​อยาก​ฟัง​ท่าน (มัทธิว 7:28, 29) ครั้ง​หนึ่ง “มี​คน​มาก​มาย” อยู่​กับ​ท่าน​นาน​ถึง 3 วัน​และ​ไม่​ยอม​ไป​กิน​อาหาร—มาระโก 8:1, 2

      วิธี​ที่​ท่าน​ใช้​ชีวิต

      16. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ท่าน​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ไป​ใช้​ใน​ชีวิต?

      16 อย่าง​ที่​สาม​ที่​พระ​เยซู​ทำ​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​คือ​วิธี​ที่​ท่าน​ใช้​ชีวิต สติ​ปัญญา​คือ​การ​เอา​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​มา​ใช้​แล้ว​เกิด​ผล​ที่​ดี ยากอบ​ถาม​ว่า “ใคร​บ้าง​ใน​พวก​คุณ​มี​สติ​ปัญญา?” แล้ว​เขา​ก็​พูด​ต่อ​ไป​ว่า “ให้​เขา​แสดง​ออก​โดย​ความ​ประพฤติ​ที่​ดี คือ​การ​กระทำ​ด้วย​ความ​อ่อนโยน​ที่​เกิด​จาก​สติ​ปัญญา” (ยากอบ 3:13) ตัวอย่าง​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ท่าน​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ไป​ใช้ ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​สติ​ปัญญา​ยังไง​ใน​การ​ใช้​ชีวิต​และ​การ​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น

      17. อะไร​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​คน​ที่​สมดุล​อยู่​เสมอ?

      17 คุณ​อาจ​เห็น​ว่า​คน​ที่​ไม่​มี​สติ​ปัญญา​จะ​เป็น​คน​ที่​เข้มงวด​และ​มัก​จะ​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​แบบ​ไม่​มี​เหตุ​ผล แต่​พระ​เยซู​เป็น​คน​ที่​สมดุล​เสมอ​เพราะ​ท่าน​เลียน​แบบ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า นอกจากนั้น ท่าน​มอง​ว่า​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต ท่าน​ขยัน​ทำ​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี พระ​เยซู​บอก​ว่า “ที่​ผม​มา​ก็​เพื่อ​ทำ​งาน​นี้” (มาระโก 1:38) เห็น​ชัด​ว่า​ทรัพย์​สิน​เงิน​ทอง​ไม่​ใช่​เรื่อง​สำคัญ​ที่​สุด​สำหรับ​ท่าน​และ​ดู​เหมือน​ว่า​ท่าน​ไม่​มี​สิ่ง​ของ​อะไร​มาก​มาย (มัทธิว 8:20) แต่​นี่​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​มี​ของ​ดี ๆ ใช้​หรือ​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​สนุก ๆ เลย ท่าน​เป็น​คน​ร่าเริง​และ​ทำ​ให้​คน​อื่น​มี​ความ​สุข​เหมือน​กับ​พ่อ​ของ​ท่าน​ที่​เป็น “พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​สุข” (1 ทิโมธี 1:11; 6:15) เมื่อ​พระ​เยซู​ไป​งาน​เลี้ยง​ซึ่ง​มัก​จะ​มี​ดนตรี การ​ร้อง​เพลง และ​บรรยากาศ​ที่​สนุกสนาน ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ไป​ทำ​ให้​งาน​นั้น​หมด​สนุก​และ​ตอน​ที่​เหล้า​องุ่น​หมด ท่าน​ก็​เปลี่ยน​น้ำ​ให้​เป็น​เหล้า​องุ่น​อย่าง​ดี​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่ “ทำ​ให้​ใจ​มนุษย์​เบิกบาน” (สดุดี 104:15; ยอห์น 2:1-11) มี​หลาย​ครั้ง​ที่​พระ​เยซู​ถูก​เชิญ​ไป​กิน​อาหาร​และ​ท่าน​ก็​มัก​จะ​ใช้​โอกาส​นั้น​เพื่อ​สอน​ด้วย—ลูกา 10:38-42; 14:1-6

      18. พระ​เยซู​แสดง​ว่า​ท่าน​มี​สติ​ปัญญา​ยังไง​ตอน​ที่​ปฏิบัติ​กับ​พวก​สาวก?

      18 พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ท่าน​มี​สติ​ปัญญา​มาก​จริง ๆ ตอน​ที่​ท่าน​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น ท่าน​เข้าใจ​ความ​คิด ความ​รู้สึก​และ​แรง​กระตุ้น​ของ​สาวก​อย่าง​ดี ถึง​แม้​พวก​เขา​จะ​ไม่​สมบูรณ์​แบบ แต่​ท่าน​ก็​ยัง​เห็น​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ของ​พวก​เขา​และ​ท่าน​รู้​ด้วย​ว่า​แต่​ละ​คน​ที่​พระ​ยะโฮวา​ชัก​นำ​เข้า​มา​เป็น​คน​แบบ​ไหน (ยอห์น 6:44) ถึง​บาง​ครั้ง​พวก​สาวก​จะ​ทำ​ผิด​พลาด​แต่​พระ​เยซู​ก็​ยัง​ไว้​ใจ​พวก​เขา​โดย​ให้​พวก​เขา​ทำ​งาน​มอบหมาย​ที่​สำคัญ​คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี และ​ท่าน​ก็​มั่น​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​งาน​นี้​สำเร็จ (มัทธิว 28:19, 20) เมื่อ​เรา​อ่าน​หนังสือ​กิจการ เรา​เห็น​ว่า​พวก​สาวก​ทำ​งาน​ที่​พระ​เยซู​มอบหมาย​อย่าง​ซื่อสัตย์ (กิจการ 2:41, 42; 4:33; 5:27-32) นี่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​มี​สติ​ปัญญา​จริง ๆ

      19. พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​ท่าน “เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ถ่อม​ตัว”?

      19 ใน​บท 20 เรา​ได้​เรียน​ว่า​คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​แท้​จะ​เป็น​คน​ถ่อม​และ​อ่อนโยน พระ​ยะโฮวา​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​เรื่อง​ความ​ถ่อม​และ​อ่อนโยน พระ​เยซู​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​ด้วย​เหมือน​กัน เรา​ประทับใจ​มาก​เมื่อ​เห็น​ว่า​ท่าน​แสดง​ความ​ถ่อม​ตอน​ที่​ปฏิบัติ​กับ​สาวก​ของ​ท่าน ถึง​แม้​จะ​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​แบบ แต่​ท่าน​ก็​ไม่​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ดี​กว่า​พวก​เขา ท่าน​ไม่​อยาก​ให้​พวก​เขา​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​สำคัญ​หรือ​ทำ​อะไร​ก็​ไม่​สำเร็จ แต่​ท่าน​คิด​ถึง​ข้อ​จำกัด​ของ​พวก​เขา​และ​อดทน​ตอน​ที่​พวก​เขา​ทำ​ผิด​พลาด (มาระโก 14:34-38; ยอห์น 16:12) แม้​แต่​เด็ก ๆ ก็​ชอบ​อยู่​กับ​พระ​เยซู ทำไม? พวก​เขา​อยาก​อยู่​ใกล้​ท่าน​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ท่าน “เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​ถ่อม​ตัว”—มัทธิว 11:29; มาระโก 10:13-16

      20. พระ​เยซู​แสดง​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ยังไง​ตอน​ที่​ปฏิบัติ​กับ​ผู้​หญิง​ต่าง​ชาติ​ที่​ลูก​สาว​ถูก​ผี​สิง?

      20 พระ​เยซู​เลียน​แบบ​ความ​ถ่อม​ของ​พระ​ยะโฮวา​โดย​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​และ​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน ท่าน​แสดง​ความ​เมตตา​เมื่อ​เห็น​ว่า​เหมาะ​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น ขอ​คิด​ถึง​ตัวอย่าง​ของ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่​ใช่​คน​ยิว เธอ​ขอ​ให้​พระ​เยซู​รักษา​ลูก​สาว​ที่​ถูก​ผี​สิง แต่​ท่าน​พยายาม​ปฏิเสธ ตอน​แรก ท่าน​ไม่​ตอบ​อะไร​เลย​ตอน​ที่​ผู้​หญิง​คน​นี้​ขอ​ให้​ช่วย หลัง​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ก็​บอก​เธอ​ว่า​พระเจ้า​ส่ง​ท่าน​มา​เพื่อ​ช่วย​คน​ยิว​ไม่​ใช่​คน​ต่าง​ชาติ และ​สุด​ท้าย​ท่าน​ก็​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​กรุณา​ว่า​ทำไม​ท่าน​ถึง​ไม่​ช่วย​เธอ แต่​ผู้​หญิง​คน​นี้​มี​ความ​เชื่อ​มาก​เธอ​เลย​ไม่​เลิก​ขอ​ให้​พระ​เยซู​ช่วย แล้ว​พระ​เยซู​ทำ​ยังไง? ท่าน​ช่วย​รักษา​ลูก​สาว​ของ​เธอ​ให้​หาย​ทั้ง ๆ ที่​ตอน​แรก​ท่าน​บอก​ว่า​จะ​ไม่​ช่วย (มัทธิว 15:21-28) พระ​เยซู​ถ่อม​มาก​จริง ๆ และ​คน​ถ่อม​เท่า​นั้น​ที่​จะ​มี​สติ​ปัญญา​แท้

      21. ทำไม​เรา​ควร​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ คำ​พูด และ​การ​กระทำ​ของ​พระ​เยซู?

      21 เรา​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ ที่​บอก​เรา​หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​ซึ่ง​เป็น​คน​ฉลาด​ที่​สุด​ใน​โลก คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา​รู้​ว่า​ท่าน​พูด​และ​ทำ​อะไร​บ้าง ให้​เรา​จำ​ไว้​ว่า​พระ​เยซู​เลียน​แบบ​พ่อ​ของ​ท่าน​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ ดังนั้น ถ้า​เรา​เลียน​แบบ​คุณลักษณะ​ของ​พระ​เยซู​ทั้ง​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ เรา​ก็​กำลัง​เลียน​แบบ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ด้วย ใน​บท​ต่อ​ไป​ให้​มา​ดู​กัน​ว่า​เรา​จะ​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​มา​ใช้​ใน​ชีวิต​ได้​ยังไง?

      a ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล ช่าง​ไม้​ถูก​จ้าง​ให้​สร้าง​บ้าน ทำ​เฟอร์นิเจอร์ และ​ทำ​เครื่อง​มือ​การ​เกษตร นัก​เขียน​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ประมาณ 100 ปี​หลัง​จาก​พระ​เยซู​เสีย​ชีวิต​ได้​เขียน​เกี่ยว​กับ​ท่าน​ว่า “ตอน​ที่​ท่าน​มี​ชีวิต​อยู่ ท่าน​ทำ​งาน​เป็น​ช่าง​ไม้ งาน​ที่​ท่าน​ทำ​เป็น​ประจำ​คือ ทำ​คัน​ไถ​และ​แอก”

      b คำ​กริยา​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “กังวล” หมาย​ถึง “ความ​หนัก​ใจ​ที่​ทำ​ให้​จิตใจ​คน​เรา​แบ่ง​แยก ไขว้เขว” ใน​มัทธิว 6:25 คำ​นี้​ใช้​กับ​คน​ที่​กังวล​มาก​จน​ไม่​คิด​ถึง​เรื่อง​อื่น​และ​ทำ​ให้​เขา​ไม่​มี​ความ​สุข

      c แพทย์​หลาย​คน​เห็น​ว่า​การ​เครียด​มาก​เกิน​ไป​อาจ​ทำ​ให้​เรา​เสี่ยง​ต่อ​การ​เป็น​โรค​หัวใจ​และ​อีก​หลาย​โรค​ที่​อาจ​ทำ​ให้​ตาย​เร็ว​ขึ้น

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • สุภาษิต 8:22-31 ความหมาย​ของ​คำ​ว่า​สติ​ปัญญา​สอดคล้อง​ยังไง​กับ​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู?

      • มัทธิว 13:10-15 เหตุ​ผล​อย่าง​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​คือ​อะไร?

      • ยอห์น 1:9-18 ทำไม​พระ​เยซู​ถึง​ทำ​ให้​เรา​เห็น​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ได้?

      • ยอห์น 13:2-5, 12-17 พระ​เยซู​ทำ​อะไร​เพื่อ​ช่วย​อัครสาวก​ให้​เข้าใจ​วิธี​ที่​พวก​เขา​ควร​ปฏิบัติ​กับ​คน​อื่น?

  • “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน” มี​ผล​กับ​ชีวิต​ของ​คุณ​ไหม?
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
    • พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​กำลัง​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​หนังสือ​ที่​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล

      บท 22

      “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน” มี​ผล​กับ​ชีวิต​ของ​คุณ​ไหม?

      1-3. (ก) โซโลมอน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​สติ​ปัญญา​ยังไง​ตอน​ที่​เขา​ตัดสิน​คดี​ระหว่าง​ผู้​หญิง​สอง​คน? (ข) พระ​ยะโฮวา​สัญญา​ว่า​จะ​ให้​อะไร​กับ​เรา และ​เรา​จะ​คุย​อะไร​กัน​บ้าง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้?

      มี​ผู้​หญิง​สอง​คน​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​เดียว​กัน ทั้ง​สอง​คลอด​ลูก​ชาย​ใน​เวลา​ใกล้​เคียง​กัน​แต่​เด็ก​คน​หนึ่ง​ตาย ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​ต่าง​ก็​อ้าง​ว่า​เป็น​แม่​ของ​เด็ก​ที่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่a ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​จริง ๆ ผู้​พิพากษา​พยายาม​ค้น​หา​ความ​จริง​แต่​ก็​ทำ​ไม่​ได้ ใน​ที่​สุด​ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​ก็​มา​ขอ​ให้​โซโลมอน​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​ช่วย​ตัดสิน​คดี​นี้ แล้ว​เขา​จะ​บอก​ได้​ไหม​ว่า​ใคร​เป็น​แม่​จริง ๆ?

      2 หลัง​จาก​ฟัง​ผู้​หญิง​ทั้ง​สอง​คน​เถียง​กัน​สัก​พัก​หนึ่ง โซโลมอน​บอก​ให้​เอา​ดาบ​มา เขา​สั่ง​ให้​ผ่า​เด็ก​เป็น​สอง​ส่วน​แล้ว​แบ่ง​ให้​พวก​เธอ​คน​ละ​ครึ่ง ผู้​หญิง​ที่​เป็น​แม่​ของ​เด็ก​ขอร้อง​ให้​กษัตริย์​ยก​เด็ก​ให้​กับ​ผู้​หญิง​อีก​คน แต่​ผู้​หญิง​คน​นั้น​บอก​ให้​ผ่า​เด็ก​เป็น​สอง​ส่วน นี่​ทำ​ให้​โซโลมอน​รู้​เลย​ว่า​ใคร​เป็น​แม่​ของ​เด็ก​จริง ๆ เขา​รู้​ว่า​คน​ที่​เป็น​แม่​จะ​รัก​ลูก​ของ​ตัว​เอง​มาก นี่​ทำ​ให้​เขา​ตัดสิน​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง ลอง​คิด​ดู​สิ​ว่า​คน​ที่​เป็น​แม่​จะ​ดีใจ​มาก​ขนาด​ไหน​ตอน​ที่​โซโลมอน​อุ้ม​เด็ก​มา​ให้​และ​บอก​ว่า “เธอ​เป็น​แม่​ของ​เด็ก”—1 พงศ์กษัตริย์ 3:16-27

      3 นั่น​เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ฉลาด​จริง ๆ เมื่อ​ประชาชน​ได้​ยิน​ว่า​โซโลมอน​ตัดสิน​คดี​นั้น​ยังไง พวก​เขา​ก็​รู้สึก​ประทับใจ​มาก “เพราะ​เห็น​ว่า​โซโลมอน​ได้​รับ​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า” จน​ตัดสิน​ได้​อย่าง​ยุติธรรม สติ​ปัญญา​ของ​โซโลมอน​เป็น​ของ​ขวัญ​จาก​พระ​ยะโฮวา พระองค์​ให้​เขา​มี “ปัญญา​และ​มี​ความ​เข้าใจ” (1 พงศ์กษัตริย์ 3:12, 28) แล้ว​พวก​เรา​ล่ะ? พระองค์​จะ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​พวก​เรา​ด้วย​ไหม? แน่นอน เพราะ​โซโลมอน​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ว่า “พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​ให้​สติ​ปัญญา” (สุภาษิต 2:6) พระองค์​สัญญา​ว่า​จะ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​ทุก​คน​ที่​ขอ แต่​เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา? และ​เรา​จะ​ใช้​สติ​ปัญญา​นั้น​ใน​ชีวิต​ยังไง?

      เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา

      4-7. มี 4 อย่าง​อะไร​บ้าง​ที่​เรา​ต้อง​ทำ​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า?

      4 เรา​ต้อง​เป็น​คน​ฉลาด​มาก​หรือ​มี​การ​ศึกษา​สูง​ไหม​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า? ไม่ พระ​ยะโฮวา​เต็ม​ใจ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​เรา​ทุก​คน​ไม่​ว่า​เป็น​ใคร​หรือ​มี​ความ​รู้​มาก​น้อย​แค่​ไหน (1 โครินธ์ 1:26-29) แต่​เรา​ก็​ต้อง​ทำ​บาง​อย่าง​ด้วย​เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ให้ “เสาะ​หา​สติ​ปัญญา” (สุภาษิต 4:7) แล้ว​เรา​จะ​ทำ​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง?

      5 อย่าง​แรก เรา​ต้อง​เกรง​กลัว​พระเจ้า สุภาษิต 9:10 บอก​ว่า “ความ​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา​เป็น​จุด​เริ่ม​ต้น​ของ​สติ​ปัญญา” ดังนั้น เพื่อ​จะ​มี​สติ​ปัญญา​แท้​เรา​ต้อง​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา ทำไม​ถึง​เป็น​อย่าง​นั้น? ก่อน​หน้า​นี้​เรา​ได้​เรียน​แล้ว​ว่า​เพื่อ​จะ​เป็น​คน​ฉลาด​จริง ๆ เรา​ต้อง​ใช้​ความ​รู้​และ​ความ​เข้าใจ​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ดี ความ​เกรง​กลัว​พระเจ้า​หมาย​ถึง​การ​เชื่อ​ฟัง​และ​ไว้​วางใจ​พระองค์​สุด​หัวใจ ไม่​ใช่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​พระเจ้า​ลง​โทษ ความ​เกรง​กลัว​พระเจ้า​มี​ประโยชน์​และ​ช่วย​ให้​เรา​ใช้​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​สิ่ง​ที่​พระองค์​อยาก​ให้​เรา​ทำ การ​ใช้​ชีวิต​แบบ​นี้​ดี​ที่​สุด​เพราะ​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​เรา​ทำ​มี​ประโยชน์​กับ​เรา​เสมอ

      6 อย่าง​ที่​สอง เรา​ต้อง​เป็น​คน​ถ่อม​และ​เจียม​ตัว มี​แต่​คน​ถ่อม​เท่า​นั้น​ที่​จะ​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​ได้ (สุภาษิต 11:2) ทำไม​ถึง​เป็น​แบบ​นั้น? ถ้า​เรา​ถ่อม​และ​เจียม​ตัว​เรา​ก็​จะ​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ไม่​ได้​รู้​ทุก​อย่าง ความ​คิด​ของ​เรา​อาจ​ไม่​ถูก​ต้อง​เสมอ​ไป และ​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ต้อง​เรียน​รู้​ที่​จะ​มอง​เรื่อง​ต่าง ๆ แบบ​พระ​ยะโฮวา คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา “ต่อต้าน​คน​หยิ่ง” แต่​พระองค์​ยินดี​ที่​จะ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​คน​ที่​มี​หัวใจ​ถ่อม—ยากอบ 4:6

      7 สิ่ง​สำคัญ​อย่าง​ที่​สาม​คือ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​ยะโฮวา​บอก​ให้​เรา​รู้​เกี่ยว​กับ​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล เพื่อ​จะ​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​เรา​ต้อง​พยายาม​ค้น​หา​สติ​ปัญญา​นั้น (สุภาษิต 2:1-5) อย่าง​ที่​สี่​คือ​การ​อธิษฐาน ถ้า​เรา​อธิษฐาน​ขอ​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​อย่าง​จริง​ใจ พระองค์​ก็​จะ​เต็ม​ใจ​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​เรา (ยากอบ 1:5) พระองค์​จะ​ให้​พลัง​บริสุทธิ์​กับ​เรา​ด้วย​ถ้า​เรา​อธิษฐาน​ขอ​จาก​พระองค์ และ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์​จะ​ช่วย​ให้​เรา​พบ​คำ​แนะ​นำ​ที่​ฉลาด​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​จะ​ช่วย​เรา​รับมือ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ หลีก​เลี่ยง​อันตราย และ​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง—ลูกา 11:13

      เพื่อ​เรา​จะ​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​ต้อง​พยายาม​ค้น​หา​สติ​ปัญญา​นั้น

      8. ถ้า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​คน​อื่น​จะ​สังเกต​เห็น​อะไร​บ้าง?

      8 ใน​บท 17 เรา​ได้​เรียน​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ประโยชน์​กับ​เรา​เสมอ คน​อื่น​จะ​สังเกต​เห็น​ได้​ว่า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​จาก​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ ยากอบ​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​อธิบาย​ว่า​คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​จะ​เป็น​คน​แบบ​ไหน เขา​เขียน​ว่า “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น อย่าง​แรก​คือ​บริสุทธิ์ แล้ว​ก็​ทำ​ให้​มี​สันติ​สุข มี​เหตุ​ผล พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา ทำ​ให้​เกิด​ผล​ดี​มาก​มาย ไม่​ลำเอียง และ​ไม่​เสแสร้ง” (ยากอบ 3:17) ตอน​ที่​เรา​ดู​แต่​ละ​แง่​มุม​ของ​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​มี​ผล​ยังไง​บ้าง​กับ​ชีวิต​ของ​ฉัน?’

      “บริสุทธิ์ แล้ว​ก็​ทำ​ให้​มี​สันติ​สุข”

      9. ความ​บริสุทธิ์​หมายความ​ว่า​ยังไง และ​ทำไม​ถึง​บอก​ได้​ว่า​ความ​บริสุทธิ์​เป็น​คุณลักษณะ​แรก​ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน?

      9 “อย่าง​แรก​คือ​บริสุทธิ์” เพื่อ​จะ​เป็น​คน​บริสุทธิ์​เรา​ต้อง​สะอาด​ทั้ง​ด้าน​การ​กระทำ ความ​คิด และ​ความ​รู้สึก​ด้วย คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​สติ​ปัญญา “เข้า​มา” ใน​หัวใจ แต่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​ให้​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​กับ​คน​ที่​มี​ความ​คิด ความ​ต้องการ และ​เจตนา​ที่​ชั่ว​ร้าย (สุภาษิต 2:10; มัทธิว 15:19, 20) แต่​ถ้า​หัวใจ​เรา​บริสุทธิ์​เท่า​ที่​จะ​เป็น​ไป​ได้​สำหรับ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​แบบ เรา​ก็​จะ ‘เลิก​ทำ​ชั่ว และ​ทำ​ดี’ (สดุดี 37:27; สุภาษิต 3:7) คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เข้าใจ​ชัดเจน​ว่า​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​เรา​ต้อง​เป็น​คน​สะอาด​ใน​ทุก​ด้าน​ก่อน เรา​ถึง​จะ​มี​คุณลักษณะ​อื่น ๆ ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​ได้

      10, 11. (ก) ทำไม​ถึง​สำคัญ​ที่​เรา​จะ​มี​สันติ​สุข​กับ​คน​อื่น? (ข) ถ้า​คุณ​รู้สึก​ว่า​ทำ​ให้​พี่​น้อง​โกรธ​คุณ​จะ​ทำ​ยังไง​เพื่อ​จะ​คืน​ดี​กับ​เขา? (ดู​เชิงอรรถ)

      10 “สันติ​สุข” ถ้า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา​เรา​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​จะ​มี​สันติ​สุข​กับ​คน​อื่น ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​การ​ชี้​นำ​จาก​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า (กาลาเทีย 5:22) เรา​พยายาม​ที่​จะ​ไม่​ทำลาย “สันติ​สุข​ที่​ผูก​พัน” คน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน (เอเฟซัส 4:3) เรา​ยัง​พยายาม​ที่​จะ​ได้​สันติ​สุข​กลับ​คืน​มา​ถ้า​เรา​มี​ปัญหา​กับ​พี่​น้อง ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​สำคัญ? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา “ใช้​ชีวิต​อย่าง​สงบ​สุข​ต่อ ๆ ไป แล้ว​พระเจ้า​ผู้​มี​ความ​รัก​และ​เป็น​ผู้​ให้​สันติ​สุข​จะ​อยู่​กับ​พวก​คุณ” (2 โครินธ์ 13:11) ดังนั้น ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​สันติ​สุข​ต่อ ๆ ไป​พระเจ้า​ผู้​ให้​สันติ​สุข​จะ​อยู่​กับ​เรา สิ่ง​ที่​เรา​พูด​และ​ทำ​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​มี​ผล​มาก​กับ​ความ​สัมพันธ์​ของ​เรา​กับ​พระ​ยะโฮวา แต่​เรา​จะ​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เรา​เป็น​คน​ที่​สร้าง​สันติ​ได้​ยังไง? ให้​เรา​มา​ดู​ตัวอย่าง​หนึ่ง​ด้วย​กัน

      11 คุณ​ควร​ทำ​ยังไง​ถ้า​รู้สึก​ว่า​ทำ​ให้​พี่​น้อง​โกรธ? พระ​เยซู​บอก​ว่า “ดังนั้น ถ้า​คุณ​เอา​ของ​ถวาย​มา​ที่​แท่น​บูชา​และ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​มี​คน​โกรธ​คุณ​อยู่ ให้​วาง​ของ​ถวาย​ไว้​หน้า​แท่น​บูชา​ก่อน​และ​ไป​คืน​ดี​กับ​เขา แล้ว​ค่อย​กลับ​มา​ถวาย​ของ​นั้น” (มัดธาย 5:23, 24) ดังนั้น คุณ​ควร​เข้า​ไป​หา​พี่​น้อง​และ​คุย​กับ​เขา​โดย​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ “คืน​ดี” กับ​เขาb แทน​ที่​จะ​บอก​ว่า​เขา​ไม่​มี​เหตุ​ผล​เลย​ที่​รู้สึก​อย่าง​นั้น คุณ​อาจ​ต้อง​ไป​ขอ​โทษ​ที่​ทำ​ให้​เขา​เสียใจ ถ้า​คุณ​เข้า​ไป​หา​เขา​โดย​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ​คืน​ดี​และ​พยายาม​ที่​จะ​ได้​สันติ​สุข​กลับ​คืน​มา พวก​คุณ​ก็​จะ​แก้ไข​เรื่อง​ที่​เข้าใจ​ผิด​กัน​ได้ พร้อม​จะ​ขอ​โทษ​และ​ให้​อภัย​กัน เมื่อ​คุณ​พยายาม​เต็ม​ที่​เพื่อ​จะ​คืน​ดี​กับ​พี่​น้อง คุณ​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คุณ​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า

      “มี​เหตุ​ผล พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง”

      12, 13. (ก) คำ​ว่า “มี​เหตุ​ผล” ที่​ยากอบ 3:17 มี​ความหมาย​ว่า​ยังไง? (ข) เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เรา​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล?

      12 “มี​เหตุ​ผล” การ​มี​เหตุ​ผล​หมาย​ถึง​อะไร? นัก​วิชาการ​บอก​ว่า​คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “มี​เหตุ​ผล” ใน​ยากอบ 3:17 เป็น​คำ​ที่​แปล​ยาก คำ​นี้​อาจ​หมาย​ถึง “อ่อนโยน” “อดทน​อด​กลั้น” หรือ “กรุณา” เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล?

      13 ฟีลิปปี 4:5 บอก​ว่า “ให้​คน​อื่น​เห็น​ว่า​พวก​คุณ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล” ข้อ​นี้​แสดง​ว่า​แค่​เรา​คิด​ว่า​เรา​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ยัง​ไม่​พอ แต่​ที่​สำคัญ​คือ​คน​อื่น​มอง​เรา​ยังไง เรา​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ไหม คน​ที่​มี​เหตุ​ผล​จะ​ไม่​ยืนกราน​ให้​ทุก​อย่าง​เป็น​ไป​ตาม​กฎ​อย่าง​เคร่งครัด​หรือ​เรียก​ร้อง​ให้​คน​อื่น​ทำ​ตาม​ที่​เขา​ต้องการ​เสมอ แต่​เขา​เต็ม​ใจ​รับ​ฟัง​คน​อื่น​และ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เหมาะ​สม​ก็​ยอม​ทำ​ตาม​ที่​คน​อื่น​ต้องการ เขา​จะ​อ่อนโยน​และ​ไม่​หยาบคาย​กับ​คน​อื่น​ด้วย ถึง​แม้​เรื่อง​นี้​สำคัญ​สำหรับ​คริสเตียน​ทุก​คน แต่​สำคัญ​เป็น​พิเศษ​สำหรับ​ผู้​ดู​แล เพราะ​ถ้า​เขา​อ่อนโยน​คน​อื่น​ก็​อยาก​เข้า​มา​หา​และ​คุย​กับ​เขา​ได้​ง่าย​ขึ้น (1 เธสะโลนิกา 2:7, 8) เรา​ทุก​คน​ควร​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘คน​อื่น​คิด​ว่า​ฉัน​เป็น​คน​เห็น​อก​เห็น​ใจ ยอม​คน​อื่น และ​อ่อนโยน​ไหม?’

      14. เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​ยังไง​ว่า​เรา “พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง”?

      14 “พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง” คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง” มี​อยู่​แค่​ครั้ง​เดียว​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก นัก​วิชาการ​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า คำ​นี้ “ใช้​บ่อย​ครั้ง​กับ​ทหาร​ที่​พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง” คำ​นี้​ยัง​ถ่าย​ทอด​ความ​คิด​เกี่ยว​กับ​การ​เป็น​คน “ว่า​นอน​สอน​ง่าย” ด้วย คน​ที่​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​พร้อม​จะ​เชื่อ​ฟัง​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก คน​อื่น​มอง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ไม่​เอา​ความ​คิด​เห็น​ของ​ตัว​เอง​เป็น​ใหญ่ และ​ถ้า​มี​หลักฐาน​ชัดเจน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​แสดง​ว่า​เขา​ตัดสิน​ใจ​ผิด​หรือ​ทำ​อะไร​ผิด​ไป เขา​ก็​พร้อม​จะ​เปลี่ยน​ทันที คน​อื่น​มอง​ว่า​คุณ​เป็น​อย่าง​นั้น​ไหม?

      “เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา ทำ​ให้​เกิด​ผล​ดี​มาก​มาย”

      15. ความ​เมตตา​คือ​อะไร และ​ทำไม​ถึง​เหมาะ​ที่​ยากอบ 3:17 พูด​ถึง “ความ​เมตตา” และ “เกิด​ผล​ดี” พร้อม​กัน?

      15 “เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา ทำ​ให้​เกิด​ผล​ดี​มาก​มาย” ความ​เมตตา​เป็น​ส่วน​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​สติ​ปัญญา “เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เมตตา” สังเกต​ว่า​มี​การ​พูด​ถึง “ความ​เมตตา” และ “เกิด​ผล​ดี” พร้อม​กัน เรื่อง​นี้​เหมาะ​มาก​เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​มัก​จะ​ใช้​คำ​ว่า “เมตตา” เพื่อ​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​คน​ที่​สงสาร​คน​อื่น​และ​อยาก​จะ​ทำ​หลาย​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​เขา พจนานุกรม​เล่ม​หนึ่ง​อธิบาย​ความหมาย​ของ​ความ​เมตตา​ว่า​เป็น “ความ​รู้สึก​ทุกข์​ใจ​เมื่อ​เห็น​ใคร​บาง​คน​เจอ​เรื่อง​แย่ ๆ และ​พยายาม​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​เพื่อ​ช่วย​เขา” ดังนั้น คน​ที่​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​จะ​ไม่​สนใจ​ที่​ข้อ​เท็จ​จริง​และ​ข้อมูล​บาง​อย่าง​เท่า​นั้น แต่​เขา​จะ​สนใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น เขา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​และ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คน​อื่น​ด้วย แล้ว​เรา​จะ​แสดง​ว่า​เรา​เมตตา​คน​อื่น​ได้​ยังไง?

      16, 17. (ก) นอกจาก​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​แล้ว อะไร​กระตุ้น​เรา​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ และ​ทำไม? (ข) เรา​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​อีก​ว่า​เรา​มี​ความ​เมตตา?

      16 วิธี​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า อะไร​กระตุ้น​เรา​ให้​ทำ​งาน​นี้? อย่าง​แรก​คือ​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า และ​เรา​ก็​อยาก​ทำ​งาน​นี้​เพราะ​เรา​สงสาร​คน​อื่น​ด้วย (มัทธิว 22:37-39) หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้ “ถูก​ขูดรีด​และ​ถูก​ทอดทิ้ง​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​คน​เลี้ยง” (มัทธิว 9:36) พวก​หัวหน้า​ศาสนา​ไม่​สนใจ​และ​ปิด​หู​ปิด​ตา​พวก​เขา​ไม่​ให้​รู้​ความ​จริง​จาก​คำ​สอน​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​เลย​ไม่​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​และ​ไม่​รู้​สิ่ง​ดี​ต่าง ๆ ที่​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น​บน​โลก​นี้ เมื่อ​เรา​คิด​ถึง​ว่า​มี​หลาย​คน​ที่​ต้อง​ได้​ยิน​ข่าว​ดี เรา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​สงสาร​พวก​เขา​และ​อยาก​จะ​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​บอก​พวก​เขา​เรื่อง​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา

      ครอบครัว​หนึ่ง​เอา​ของ​ไป​ให้​พี่​น้อง​สูง​อายุ

      เมื่อ​เรา​เมตตา​หรือ​สงสาร​คน​อื่น นั่น​แสดง​ว่า​เรา​มี “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน”

      17 มี​วิธี​อื่น​อีก​ไหม​ที่​เรา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​ได้? ให้​เรา​นึก​ถึง​ตัวอย่าง​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​คน​สะมาเรีย​ที่​เจอ​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​นอน​อยู่​ข้าง​ถนน​เพราะ​ถูก​ปล้น​และ​ถูก​ทำ​ร้าย พอ​คน​สะมาเรีย​เห็น​แบบ​นั้น​ก็​รู้สึก​สงสาร​และ “ช่วยเหลือ​เขา” โดย​พัน​แผล​ให้​คน​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​และ​ดู​แล​เขา​อย่าง​ดี (ลูกา 10:29-37) เรื่อง​นี้​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ความ​เมตตา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ลง​มือ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ให้​เรา “ทำ​ดี​กับ​ทุก​คน โดย​เฉพาะ​กับ​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา” (กาลาเทีย 6:10) ลอง​คิด​ถึง​บาง​อย่าง​ที่​คุณ​อาจ​ทำ​ได้ เช่น พี่​น้อง​สูง​อายุ​อาจ​จำเป็น​ต้อง​มี​คน​ช่วย​พา​ไป​หอ​ประชุม แม่​ม่าย​ใน​ประชาคม​อาจ​ต้องการ​คน​มา​ช่วย​ซ่อมแซม​บ้าน (ยากอบ 1:27) คน​ที่​ท้อ​ใจ​อาจ​ต้องการ “คำ​พูด​ดี ๆ” เพื่อ​จะ​มี​กำลังใจ (สุภาษิต 12:25) เมื่อ​เรา​แสดง​ความ​เมตตา​ใน​วิธี​ต่าง ๆ แบบ​นี้ เรา​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​จาก​พระเจ้า​จริง ๆ

      “ไม่​ลำเอียง และ​ไม่​เสแสร้ง”

      18. ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​เรา​จะ​ขจัด​อะไร​จาก​ใจ​เรา และ​ทำไม?

      18 “ไม่​ลำเอียง” สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ช่วย​เรา​ไม่​ให้​คิด​ว่า​เรา​ดี​กว่า​คน​อื่น​ที่​มี​เชื้อชาติ​หรือ​สี​ผิว​ต่าง​จาก​เรา ถ้า​เรา​ใช้​ชีวิต​ตาม​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​ก็​จะ​พยายาม​ขจัด​ความ​ลำเอียง​ออก​จาก​ใจ​เรา (ยากอบ 2:9) เรา​ไม่​ทำ​ดี​เฉพาะ​กับ​คน​ที่​มี​การ​ศึกษา คน​รวย หรือ​คน​ที่​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​ประชาคม​เท่า​นั้น และ​เรา​จะ​ไม่​ดูถูก​พี่​น้อง​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​ถึง​เขา​จะ​ดู​เป็น​คน​ที่​ไม่​สำคัญ​อะไร ถ้า​พระ​ยะโฮวา​เปิด​โอกาส​ให้​พวก​เขา​ได้​มา​รับ​ความ​รัก​ของ​พระองค์​แล้ว เรา​ก็​น่า​จะ​รัก​พวก​เขา​ด้วย​เหมือน​กัน

      19, 20. (ก) คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสแสร้ง” มี​ที่​มา​ยังไง? (ข) เรา​จะ​แสดง​ว่า​เรา​มี “ความ​รัก​อย่าง​จริง​ใจ​แบบ​พี่​น้อง” ได้​ยังไง และ​ทำไม​เรื่อง​นี้​ถึง​สำคัญ?

      19 “ไม่​เสแสร้ง” คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสแสร้ง” หมาย​ถึง “นัก​แสดง​บน​เวที” ใน​สมัย​ก่อน นัก​แสดง​กรีก​และ​โรมัน​จะ​สวม​หน้ากาก​ขนาด​ใหญ่​ตอน​แสดง​บน​เวที ดังนั้น คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “เสแสร้ง” เลย​ใช้​กับ​คน​ที่​ไม่​จริง​ใจ หรือ​คน​ที่​พยายาม​หลอก​คน​อื่น ถ้า​เรา​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำ​แบบ​นั้น​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา และ​สติ​ปัญญา​นี้​ยัง​มี​ผล​กับ​ความ​รู้สึก​ที่​เรา​มี​กับ​พี่​น้อง​ด้วย

      20 อัครสาวก​เปโตร​บอก​ว่า การ​ที่​เรา “เชื่อ​ฟัง​ความ​จริง” น่า​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี “ความ​รัก​อย่าง​จริง​ใจ​แบบ​พี่​น้อง” (1 เปโตร 1:22) ความ​รัก​ที่​เรา​มี​ต่อ​พี่​น้อง​ต้อง​ไม่​เห็น​ได้​จาก​ภาย​นอก​เท่า​นั้น เรา​จะ​ไม่​ทำ​เป็น​ว่า​รัก​พี่​น้อง​เพื่อ​ทำ​ให้​ตัว​เอง​ดู​ดี ความ​รัก​ของ​เรา​ต้อง​เป็น​แบบ​ที่​ออก​มา​จาก​ใจ​จริง ๆ ถ้า​เรา​ทำ​แบบ​นั้น พี่​น้อง​ก็​จะ​ไว้​ใจ​เรา​เพราะ​พวก​เขา​เห็น​ว่า​เรา​จริง​ใจ​กับ​เขา นี่​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พี่​น้อง และ​เรา​ก็​จะ​รู้สึก​ปลอด​ภัย​เมื่อ​อยู่​ใน​ประชาคม

      “รักษา​สติ​ปัญญา . . . เอา​ไว้”

      21, 22. (ก) มี​อะไร​ที่​ทำ​ให้​เรา​เห็น​ว่า​โซโลมอน​ไม่​ได้​รักษา​สติ​ปัญญา​ไว้? (ข) เรา​จะ​รักษา​สติ​ปัญญา​ไว้​ได้​ยังไง และ​การ​ทำ​แบบ​นั้น​มี​ประโยชน์​อะไร?

      21 สติ​ปัญญา​เป็น​ของ​ขวัญ​จาก​พระ​ยะโฮวา ดังนั้น เรา​ควร​รักษา​เอา​ไว้ โซโลมอน​บอก​ว่า “ลูก​พ่อ . . . รักษา​สติ​ปัญญา​กับ​ความ​สุขุม​รอบคอบ​เอา​ไว้” (สุภาษิต 3:21) แต่​โซโลมอน​ก็​ไม่​ได้​ทำ​แบบ​นั้น ถ้า​เขา​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​เสมอ​เขา​จะ​มี​สติ​ปัญญา ใน​ที่​สุด พวก​ภรรยา​ต่าง​ชาติ​ก็​ทำ​ให้​เขา​ไม่​ได้​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ที่​พระองค์​ยอม​รับ​อีก​ต่อ​ไป (1 พงศ์กษัตริย์ 11:1-8) สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​โซโลมอน​แสดง​ให้​เห็น​ว่าความ​รู้​จะ​ไม่​มี​ประโยชน์​อะไร​เลย​ถ้า​เรา​ไม่​ได้​เอา​มัน​ไป​ใช้

      22 เรา​จะ​รักษา​สติ​ปัญญา​เอา​ไว้​ได้​ยังไง? แค่​การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​หนังสือ​ต่าง ๆ ที่ “ทาส​ที่​ซื่อสัตย์​และ​สุขุม” เตรียม​ให้​นั้น​ยัง​ไม่​พอ เรา​ต้อง​พยายาม​เอา​สิ่ง​ที่​เรียน​ไป​ใช้​ด้วย (มัทธิว 24:45) เรา​มี​เหตุ​ผล​มาก​มาย​ที่​จะ​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​มา​ใช้​ใน​ชีวิต นี่​จะ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​ใน​ตอน​นี้ และ​ทำ​ให้​เรา “ยึด​ความ​หวัง​เรื่อง​ชีวิต​แท้​ไว้​ให้​มั่น” นั่น​คือ​ชีวิต​ใน​โลก​ใหม่ (1 ทิโมธี 6:19) และ​สำคัญ​ที่​สุด การ​เอา​สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​ไป​ใช้​จะ​ทำ​ให้​เรา​ใกล้​ชิด​มาก​ขึ้น​กับ​พระ​ยะโฮวา​ผู้​ให้​สติ​ปัญญา​กับ​เรา

      a 1 พงศ์กษัตริย์ 3:16 บอก​ว่า​ผู้​หญิง​ทั้ง​สอง​คน​เป็น​โสเภณี หนังสือ​การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) บอก​ว่า “ใน​ภาษา​ฮีบรู ผู้​หญิง​สอง​คน​นี้​ถูก​พูด​ถึง​ว่า​เป็น​โสเภณี ซึ่ง​อาจ​ไม่​ใช่​ใน​แง่​ของ​การ​ค้า​ประเวณี แต่​เป็น​ผู้​หญิง​ที่​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ ทั้ง​สอง​คน​อาจ​เป็น​คน​ยิว​หรือ​อาจ​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​ก็​ได้”—จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา

      b คำ​ภาษา​กรีก​ที่​แปล​ว่า “คืน​ดี” หมาย​ถึง “เปลี่ยน​จาก​ศัตรู​มา​เป็น​เพื่อน กลับ​มา​ดี​กัน​เหมือน​เดิม และ​ฟื้นฟู​ความ​สัมพันธ์​ให้​กลับ​เป็น​ปกติ​และ​ปรองดอง​กัน” ดังนั้น คุณ​ควร​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ​ทำ​ให้​พี่​น้อง​หาย​โกรธ—โรม 12:18

      คำ​ถาม​สำหรับ​คิด​ใคร่ครวญ

      • เฉลย​ธรรมบัญญัติ 4:4-6 เรา​จะ​แสดง​ว่า​มี​สติ​ปัญญา​ได้​ยังไง?

      • สดุดี 119:97-105 เรา​จะ​ได้​ประโยชน์​ยังไง​ถ้า​เรา​ขยัน​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​นำ​ไป​ใช้?

      • สุภาษิต 4:10-13, 20-27 ทำไม​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ที่​เรา​ต้อง​มี​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ยะโฮวา?

      • ยากอบ 3:1-16 ผู้​ดู​แล​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​มี​สติ​ปัญญา?

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์