100 ปีที่ราชอาณาจักรปกครอง คุณได้ประโยชน์อะไรบ้าง?
“ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้า . . . พระราชกิจของพระองค์ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ ข้าแต่พระมหากษัตริย์แห่งนิรันดรกาล”—วิ. 15:3
1, 2. พระเจ้าตั้งราชอาณาจักรเพื่ออะไร และทำไมเราเชื่อมั่นว่าราชอาณาจักรจะมาแน่นอน?
ในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 31 บนภูเขาลูกหนึ่งใกล้เมืองคาเปอร์นาอุม พระเยซูคริสต์สอนสาวกให้อธิษฐานว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด” (มัด. 6:10) คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ไม่เชื่อว่าราชอาณาจักรของพระเจ้าจะมาจริง ๆ แต่เราเชื่อและมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะตอบคำอธิษฐานนี้อย่างแน่นอน
2 พระยะโฮวาตั้งราชอาณาจักรขึ้นเพื่อรวบรวมครอบครัวของพระองค์ทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกให้เป็นหนึ่งเดียว ทุกสิ่งที่พระเจ้าตั้งใจไว้จะต้องสำเร็จเป็นจริง (ยซา. 55:10, 11) เหตุการณ์น่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นในช่วง 100 ปีที่ผ่านไปพิสูจน์ว่าพระยะโฮวาเป็นกษัตริย์ที่ปกครองอยู่ในสมัยของเราและกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์เพื่อประชาชนหลายล้านคนของพระองค์ (ซคา. 14:9; วิ. 15:3) แต่การเป็นกษัตริย์ของพระยะโฮวากับการมาของราชอาณาจักรนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เหตุการณ์สองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร และมีผลต่อเราอย่างไร?
กษัตริย์ที่พระยะโฮวาแต่งตั้งลงมือทำงาน
3. (ก) พระเยซูได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์เมื่อไรและปกครองที่ไหน? (ข) คุณจะพิสูจน์อย่างไรว่าพระเยซูเริ่มปกครองในปี 1914? (ดูเชิงอรรถ)
3 ประมาณ 20 ปีก่อนจะถึงปี 1900 ผู้รับใช้ของพระเจ้าเริ่มเข้าใจคำพยากรณ์ที่ดานิเอลเขียนไว้เมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว ที่ว่า “ในสมัยเมื่อกษัตริย์เหล่านั้นกำลังเสวยราชย์อยู่, พระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรอันหนึ่งขึ้น, ซึ่งจะไม่มีวันทำลายเสียได้” (ดานิ. 2:44) นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้านานเป็นสิบ ๆ ปีว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในปี 1914 (พ.ศ. 2457) ผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานั้นมองอนาคตในแง่ที่ดี นักเขียนคนหนึ่งเขียนว่า “โลกในปี 1914 เต็มไปด้วยความหวังและมีแววว่าจะรุ่งโรจน์” แต่ในปีนั้นเองเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นตามคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล สงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้น ตามด้วยการขาดแคลนอาหาร แผ่นดินไหว โรคระบาด และเหตุการณ์อื่น ๆ ที่คัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์ไว้ ทั้งหมดนี้เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าพระเยซูคริสต์ได้เริ่มปกครองในสวรรค์ฐานะกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าในปี 1914a การที่พระยะโฮวาแต่งตั้งพระบุตรให้เป็นกษัตริย์ของราชอาณาจักรแสดงให้เห็นว่าพระองค์ยังเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจสูงสุดอยู่
4. สิ่งแรกที่พระเยซูทำเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์คืออะไร และท่านทำอะไรต่อจากนั้น?
4 สิ่งแรกที่พระเยซูทำเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์คือทำสงครามกับซาตาน ศัตรูตัวสำคัญของพระเจ้า พระเยซูและเหล่าทูตสวรรค์เหวี่ยงซาตานกับพวกปิศาจออกจากสวรรค์ ทำให้สวรรค์มีความยินดีอย่างยิ่ง แต่บนแผ่นดินโลกมีความทุกข์มากขึ้น (อ่านวิวรณ์ 12:7-9, 12) หลังจากนั้น กษัตริย์องค์ใหม่ก็ลงมือทำงานทันทีเพื่อช่วยประชาชนบนแผ่นดินโลกให้ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า โดยชำระให้สะอาด ฝึกสอน และจัดระเบียบงานของพวกเขา ให้เรามาดูกันว่าการที่พวกเขาเชื่อฟังการชี้นำของพระเยซูเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเราในทุกวันนี้อย่างไร
กษัตริย์มาซีฮาชำระ ประชาชนที่ภักดี
5. มีการชำระอะไรให้บริสุทธิ์สะอาดในช่วงปี 1914 จนถึงต้นปี 1919?
5 หลังจากพระเยซูขจัดอิทธิพลชั่วของซาตานและพวกปิศาจให้หมดไปจากสวรรค์แล้ว พระยะโฮวาก็สั่งพระเยซูตรวจตราและชำระเหล่าสาวกบนแผ่นดินโลกให้สะอาด ซึ่งเป็นเหมือนการถลุงตามคำพยากรณ์ของมาลาคี (มลคี. 3:1-3) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1914 จนถึงต้นปี 1919b ถ้าเราต้องการเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระยะโฮวา เราต้องเป็นคนบริสุทธิ์สะอาด (1 เป. 1:15, 16) การนมัสการของเราต้องไม่แปดเปื้อนมลทินของศาสนาเท็จและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองของโลก
6. พระเยซูแจกจ่ายความรู้ของพระเจ้าแก่เราอย่างไร และเราได้รับประโยชน์อะไร?
6 หลังจากนั้น พระเยซูใช้อำนาจในฐานะกษัตริย์แต่งตั้ง “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” เพื่อแจกจ่ายความรู้ของพระเจ้าซึ่งเป็นเหมือนอาหารแก่ทุกคนที่เป็นแกะของพระเยซู (มัด. 24:45-47; โย. 10:16) ตั้งแต่ปี 1919 ทาสสัตย์ซื่อและสุขุมกลุ่มนี้ได้ทำหน้าที่เลี้ยงดู “คนรับใช้” หรือแกะของพระเยซูและทำงานมอบหมายสำคัญนี้อย่างภักดีเสมอมา พวกเขาได้แจกจ่ายความรู้ของพระเจ้าอย่างบริบูรณ์เพื่อช่วยเราให้มีความเชื่อที่มั่นคงและตั้งใจแน่วแน่มากขึ้นที่จะรักษาตัวให้บริสุทธิ์สะอาดตามมาตรฐานของพระเจ้า ทั้งในด้านการนมัสการ ความประพฤติ ความคิด และร่างกาย นอกจากนั้น ความรู้ที่เราได้รับจากทาสสัตย์ซื่อและสุขุมยังเตรียมเราให้พร้อมสำหรับงานมอบหมายสำคัญที่สุดในโลก คืองานประกาศข่าวดี คุณรับประโยชน์จากความรู้ที่พวกเขาเตรียมให้อย่างเต็มที่ไหม?
กษัตริย์ฝึกสอน ประชาชนให้ประกาศไปทั่วโลก
7. พระเยซูเริ่มงานสำคัญอะไรไว้เมื่ออยู่บนแผ่นดินโลก และงานนี้จะทำต่อไปจนถึงเมื่อไร?
7 เมื่อพระเยซูเริ่มทำงานรับใช้บนแผ่นดินโลก ท่านบอกว่า “เราต้องประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าแก่เมืองอื่น ๆ ด้วย เพราะเราถูกส่งมาเพื่อการนี้” (ลูกา 4:43) ตลอดสามปีครึ่ง งานประกาศเป็นงานสำคัญที่สุดในชีวิตของพระเยซู ท่านสอนสาวกว่า “ขณะที่พวกเจ้าไป จงประกาศว่า ‘ราชอาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว’” (มัด. 10:7) หลังจากฟื้นขึ้นจากตาย พระเยซูบอกล่วงหน้าว่าสาวกของท่านจะประกาศข่าวดีนี้ “จนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (กิจ. 1:8) พระเยซูสัญญากับสาวกว่าจะสนับสนุนและดูแลงานสำคัญนี้ไปจนถึงช่วงสุดท้ายของยุค—มัด. 28:19, 20
8. กษัตริย์ของราชอาณาจักรกระตุ้นประชาชนให้ทำอะไร?
8 เมื่อถึงปี 1919 ผู้รับใช้ของพระเจ้าได้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร” (มัด. 24:14) กษัตริย์ของราชอาณาจักรปกครองแล้วในสวรรค์ และบนแผ่นดินโลกก็มีประชาชนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ได้รับการชำระให้สะอาด พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของพระเยซูที่ให้ประกาศข่าวดีไปทั่วโลกว่าราชอาณาจักรของพระเจ้ากำลังปกครองในสวรรค์! (กิจ. 10:42) ตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายน 1922 ผู้สนับสนุนราชอาณาจักรเกือบ 20,000 คนได้มาร่วมการประชุมนานาชาติที่เมืองซีดาร์พอยต์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ขอให้นึกถึงความตื่นเต้นของพวกเขาเมื่อบราเดอร์รัทเทอร์ฟอร์ดบรรยายเรื่อง “ราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์มาใกล้แล้ว” และประกาศว่า “ดูเถิด พระมหากษัตริย์ทรงครองราชย์แล้ว! คุณเป็นผู้เผยแพร่ของพระองค์ เหตุฉะนั้น จงโฆษณา โฆษณา โฆษณาพระมหากษัตริย์และราชอาณาจักรของพระองค์” วันถัดมา ผู้เข้าร่วมประชุมสองพันคนได้ออกไปประกาศตามบ้าน บางคนไปไกลถึง 72 กิโลเมตรจากสถานที่ประชุม พี่น้องชายคนหนึ่งบอกว่า “ผมจะไม่มีวันลืมคำเชิญให้โฆษณาราชอาณาจักรและความกระตือรือร้นของฝูงชนที่มาประชุมกันในวันนั้น!” คนอื่นที่เข้าร่วมประชุมก็รู้สึกแบบเดียวกัน
9, 10. (ก) มีโรงเรียนอะไรบ้างที่ช่วยฝึกสอนเราในงานรับใช้? (ข) คุณเองได้รับประโยชน์จากการฝึกอบรมนี้อย่างไร?
9 เมื่อถึงปี 1922 มีผู้ประกาศราชอาณาจักรมากกว่า 17,000 คนใน 58 ประเทศทั่วโลก แต่พวกเขาต้องได้รับการฝึกอบรม เมื่อพระเยซูอยู่บนโลกในศตวรรษแรก ท่านได้สอนสาวกว่าต้องประกาศเรื่องอะไร ประกาศที่ไหน และประกาศอย่างไร (มัด. 10:5-7; ลูกา 9:1-6; 10:1-11) ทุกวันนี้ พระเยซูก็สอนวิธีประกาศและเตรียมเครื่องมือต่าง ๆ ให้สาวกทุกคนเพื่อจะเป็นครูที่ดี (2 ติโม. 3:17) พระเยซูฝึกอบรมพวกเขาโดยทางประชาคมคริสเตียน วิธีหนึ่งคือจัดให้มีโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าในประชาคมต่าง ๆ มากกว่า 111,000 ประชาคมทั่วโลก โรงเรียนนี้กำลังสอนผู้ประกาศมากกว่าเจ็ดล้านคนให้ประกาศข่าวดีอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วย “คนทุกชนิด”—อ่าน 1 โครินท์ 9:20-23
10 นอกจากโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าแล้ว ยังมีโรงเรียนอื่น ๆ ด้วยที่ฝึกอบรมผู้ปกครอง ไพโอเนียร์ พี่น้องชายโสด คู่สมรสคริสเตียน สมาชิกคณะกรรมการสาขาและภรรยา ผู้ดูแลเดินทางและภรรยา รวมทั้งมิชชันนารีc พี่น้องที่ได้เข้าโรงเรียนพระคัมภีร์สำหรับคู่สมรสพูดด้วยความขอบคุณว่า “การฝึกอบรมพิเศษที่เราได้รับทำให้เรารักพระยะโฮวาและพร้อมจะช่วยคนอื่น ๆ มากขึ้น”
11. สาวกของพระเยซูประกาศต่อไปได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่ถูกซาตานโจมตี?
11 ซาตาน ศัตรูของเราเห็นความพยายามทั้งหมดในการประกาศและสอนข่าวดี มันอยากให้เราเลิกประกาศและทำทุกอย่างเพื่อโจมตีข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรและคนที่ประกาศข่าวสารนี้ แต่การโจมตีของซาตานจะไม่สำเร็จ พระยะโฮวาได้ตั้งพระบุตรให้ “อยู่สูงกว่าการปกครองทุกแบบ อีกทั้งบรรดาผู้มีอำนาจ ผู้มีฤทธิ์ ผู้เป็นนาย” (เอเฟ. 1:20-22) พระเยซูผู้เป็นกษัตริย์ได้ใช้อำนาจเพื่อปกป้องและชี้นำประชาชนให้ทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวาd ทุกวันนี้ ประชาชนของพระเจ้ายังประกาศข่าวดีต่อ ๆ ไป และหลายล้านคนที่จริงใจกำลังได้รับการสอนให้นมัสการพระยะโฮวาอย่างถูกต้อง ถือเป็นเกียรติจริง ๆ ที่เราได้มีส่วนในงานอันยอดเยี่ยมนี้!
กษัตริย์จัดระเบียบ ประชาชนให้ทำงานได้ดีขึ้น
12. ตั้งแต่ปี 1914 ประชาชนของพระเจ้าได้รับการจัดระเบียบอย่างไรเพื่อจะทำงานได้ดียิ่งขึ้น?
12 ตั้งแต่พระเยซูเริ่มปกครองในปี 1914 ก็ได้ปรับเปลี่ยนวิธีบริหารงานในองค์การบนแผ่นดินโลกอยู่เรื่อย ๆ และจัดระเบียบประชาชนของพระเจ้าให้พร้อมจะทำงาน (อ่านยะซายา 60:17) ในปี 1919 มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการรับใช้ในแต่ละประชาคมให้นำหน้าในงานประกาศ ปี 1927 ประชาคมต่าง ๆ จัดให้มีการประกาศเป็นประจำในวันอาทิตย์ ปี 1931 ประชาชนของพระเจ้าเริ่มใช้ชื่อพยานพระยะโฮวาและตั้งแต่นั้นพวกเขาก็กระตือรือร้นในงานประกาศมากขึ้นอีก (ยซา. 43:10-12) ปี 1938 คนที่นำหน้าในประชาคมไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอีกต่อไป แต่มาจากการแต่งตั้งและคนที่จะได้รับการแต่งตั้งต้องมีคุณสมบัติตามหลักพระคัมภีร์ ปี 1972 มีการมอบหมายให้ผู้ปกครองทั้งคณะดูแลประชาคมแทนที่จะให้พี่น้องชายคนเดียวดูแล มีการสนับสนุนให้ผู้ปกครองและผู้ช่วยงานรับใช้อยู่พร้อมที่จะ ‘บำรุงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าซึ่งอยู่ในความดูแลของเขา’ (1 เป. 5:2) ปี 1976 สมาชิกของคณะกรรมการปกครองได้แยกเป็นหกคณะเพื่อดูแลงานราชอาณาจักรทั่วโลก เห็นได้ชัดว่า พระเยซูได้จัดระเบียบประชาชนของพระเจ้าเรื่อยมาเพื่อช่วยพวกเขาให้ทำงานตามแบบแผนที่พระเจ้าต้องการ
13. คุณได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการปกครองของราชอาณาจักรในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา?
13 คิดดูสิว่ากษัตริย์มาซีฮาได้ทำงานไปมากขนาดไหนในช่วง 100 ปีแรกที่ปกครอง! ท่านได้ชำระประชาชนกลุ่มหนึ่งให้สะอาดเพื่อเป็นตัวแทนของพระยะโฮวา ได้ชี้นำงานประกาศข่าวดีใน 239 ประเทศและสอนหลายล้านคนให้นมัสการพระยะโฮวาอย่างถูกต้อง ท่านได้รวบรวมประชาชนที่ภักดีมากกว่าเจ็ดล้านคนให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมจะทำตามพระประสงค์ของพระบิดาอย่างสุดหัวใจ (เพลง. 110:3) ราชอาณาจักรมาซีฮาที่พระยะโฮวาตั้งขึ้นมีผลงานที่น่าทึ่งจริง ๆ แต่ยังมีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นอีกมากมายรอเราอยู่!
สิ่งดี ๆ ที่ราชอาณาจักรมาซีฮาจะทำในอนาคต
14. (ก) เรากำลังขอให้พระเจ้าทำอะไรเมื่ออธิษฐานว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด”? (ข) ข้อคัมภีร์ประจำปี 2014 คืออะไร และทำไมจึงเป็นข้อที่เหมาะมาก?
14 แม้ว่าพระยะโฮวาได้แต่งตั้งพระเยซูคริสต์เป็นกษัตริย์แล้วตั้งแต่ปี 1914 แต่คำอธิษฐานของเราที่ว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด” นั้นยังไม่เป็นจริงทั้งหมด (มัด. 6:10) คัมภีร์ไบเบิลบอกไว้ว่าพระเยซูจะ “ครอบครองในท่ามกลางศัตรู” (เพลง. 110:2) รัฐบาลมนุษย์ที่อยู่ใต้การควบคุมของซาตานยังไม่เลิกต่อต้านราชอาณาจักรของพระเจ้า ดังนั้น เมื่อเราอธิษฐานขอให้ราชอาณาจักรมา ก็หมายความว่าเรากำลังขอให้พระเจ้าส่งกษัตริย์มาซีฮามาทำลายการปกครองของมนุษย์และกำจัดพวกที่ต่อต้านราชอาณาจักร เมื่อถึงเวลานั้น คำพยากรณ์ที่ดานิเอล 2:44 จะสำเร็จเป็นจริง ราชอาณาจักรของพระเจ้า “จะทำลายอาณาจักรอื่น ๆ ลงให้ย่อยยับและเผาผลาญเสียสิ้น” ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะทำลายรัฐบาลอื่น ๆ ของศัตรูให้สิ้นซาก (วิ. 6:1, 2; 13:1-18; 19:11-21) อีกไม่นานเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น และในโอกาสครบรอบ 100 ปีที่พระเยซูเริ่มปกครองในสวรรค์ เหมาะจริง ๆ ที่เราจะใช้มัดธาย 6:10 เป็นข้อคัมภีร์ประจำปี 2014 ซึ่งข้อนั้นอ่านว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด”!
ข้อคัมภีร์ประจำปี 2014 คือ “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด”—มัดธาย 6:10
15, 16. (ก) ในช่วงพันปีที่พระคริสต์ปกครองจะเกิดเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นอะไรบ้าง? (ข) สิ่งสุดท้ายที่พระเยซูจะทำในฐานะกษัตริย์มาซีฮาคืออะไร? แล้วพระประสงค์ของพระยะโฮวาจะเป็นจริงอย่างไร?
15 หลังจากกษัตริย์มาซีฮาทำลายศัตรูของพระเจ้าแล้ว ท่านจะเหวี่ยงซาตานกับพวกปิศาจลงในขุมลึกและขังพวกมันไว้หนึ่งพันปี (วิ. 20:1-3) เมื่ออิทธิพลชั่วของซาตานหมดไปแล้ว กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรจะรีบช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับประโยชน์จากเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู ท่านจะขจัดผลกระทบทุกอย่างที่เกิดจากบาปของอาดาม จะปลุกคนตายนับล้าน ๆ ทั่วโลกและให้ทุกคนได้รับการสอนเรื่องพระยะโฮวา (วิ. 20:12, 13) แผ่นดินโลกจะถูกเปลี่ยนเป็นอุทยานที่สวยงามเหมือนสวนเอเดน และมนุษย์ที่ซื่อสัตย์ทุกคนจะกลายเป็นคนสมบูรณ์
16 เมื่อสิ้นสุดการปกครองหนึ่งพันปีของพระคริสต์ พระประสงค์ของพระยะโฮวาจะสำเร็จเป็นจริงอย่างครบถ้วนบนแผ่นดินโลก และพระเยซูจะมอบราชอาณาจักรคืนให้พระบิดา (อ่าน 1 โครินท์ 15:24-28) ไม่จำเป็นต้องมีผู้กลางระหว่างพระยะโฮวากับมนุษย์อีกต่อไป บุตรของพระเจ้าทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกจะอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเดียวภายใต้การดูแลของพระยะโฮวาพระบิดาในสวรรค์
17. คุณตั้งใจจะทำอะไรเพื่อราชอาณาจักร?
17 เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากมายในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาทำให้เรามั่นใจว่าพระยะโฮวายังเป็นผู้ปกครององค์สูงสุดและพระประสงค์ของพระองค์จะต้องสำเร็จอย่างครบถ้วนบนแผ่นดินโลก ขอให้เรารับใช้พระองค์อย่างภักดีและโฆษณาพระมหากษัตริย์และราชอาณาจักรของพระองค์ต่อ ๆ ไป เพราะเราเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานพระยะโฮวาจะตอบคำอธิษฐานของเราที่ว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด”!
a ดูหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? หน้า 88-92
c ดูบทความ “โรงเรียนตามระบอบของพระเจ้า—หลักฐานที่แสดงถึงความรักของพระยะโฮวา” ในหอสังเกตการณ์ 15 กันยายน 2012 หน้า 13-17
d ดูตัวอย่างการต่อสู้คดีในหลายประเทศที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าได้รับชัยชนะในหอสังเกตการณ์ 1 ธันวาคม 1998 หน้า 19-22