ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • การเกิดใหม่เป็นทางสู่ความรอดไหม?
    หอสังเกตการณ์ 2009 | 1 เมษายน
    • การ​เกิด​ใหม่​เป็น​ทาง​สู่​ความ​รอด​ไหม?

      คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร​ถ้า​มี​คน​ถาม​ว่า “คุณ​เกิด​ใหม่​แล้ว​ไหม?” คริสต์​ศาสนิกชน​นับ​ล้าน ๆ ทั่ว​โลก​คง​จะ​ตอบ​อย่าง​หนักแน่น​ว่า “ใช่​สิ!” พวก​เขา​เชื่อ​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​สิ่ง​ที่​ระบุ​ตัว​คริสเตียน​แท้​ทุก​คน​และ​เป็น​ทาง​เดียว​ที่​นำ​ไป​สู่​ความ​รอด. ความ​เชื่อ​ของ​คน​เหล่า​นี้​ตรง​กับ​ทัศนะ​ของ​ผู้​นำ​ทาง​ศาสนา​หลาย​คน เช่น นัก​เทววิทยา​ชื่อ​โรเบิร์ต ซี. สปราวล์ ซึ่ง​เขียน​ไว้​ว่า “ถ้า​ใคร​ไม่​ได้​เกิด​ใหม่ . . . เขา​ก็​ไม่​ใช่​คริสเตียน.”

      คุณ​เป็น​คน​หนึ่ง​ไหม​ที่​เชื่อ​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​จะ​นำ​คุณ​ไป​สู่​ทาง​แห่ง​ความ​รอด? ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​คุณ​คง​ต้องการ​จะ​ช่วย​ญาติ ๆ และ​เพื่อน ๆ ให้​พบ​ทาง​นั้น​และ​เริ่ม​ดำเนิน​ใน​ทาง​นั้น​ด้วย. แต่​เพื่อ​จะ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้ ญาติ​และ​เพื่อน​ของ​คุณ​จำเป็น​ต้อง​เข้าใจ​ก่อน​ว่า​คน​ที่​เกิด​ใหม่​กับ​คน​ที่​ไม่​ได้​เกิด​ใหม่​แตกต่าง​กัน​อย่าง​ไร. คุณ​จะ​อธิบาย​ให้​พวก​เขา​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​การ​เกิด​ใหม่​ได้​อย่าง​ไร?

      หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​คำ​ว่า “เกิด​ใหม่” หมาย​ถึง​การ​ที่​ใคร​คน​หนึ่ง​ตั้ง​สัตย์​ปฏิญาณ​ว่า​จะ​รับใช้​พระเจ้า​และ​พระ​คริสต์ ซึ่ง​จะ​ยัง​ผล​ให้​เขา​เปลี่ยน​จาก​สภาพ​ที่​ไม่​มี​สาย​สัมพันธ์​กับ​พระเจ้า​มา​เป็น​ผู้​ที่​มี​สาย​สัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​พระองค์​ราว​กับ​มี​ชีวิต​ใหม่. ที่​จริง พจนานุกรม​ภาษา​อังกฤษ​ฉบับ​หนึ่ง​ซึ่ง​ใช้​กัน​ใน​ปัจจุบัน​ได้​ให้​ความ​หมาย​ของ​คำ ผู้​เกิด​ใหม่ ไว้​ว่า “ตาม​ปกติ​แล้ว​หมาย​ถึง​คริสเตียน​ที่​ได้​รับ​เชื่อ​อีก​ครั้ง​หรือ​ยืน​ยัน​ความ​เชื่อ​ที่​ตน​มี​อยู่ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​หลัง​จาก​ที่​ได้​ผ่าน​ประสบการณ์​ทาง​ศาสนา​ที่​ทำ​ให้​ซาบซึ้ง​ใจ​มา​แล้ว.”—มิเรียม-เวบสเตอร์ส คอลลิจิเอท ดิกชันนารี—ฉบับ​ที่​สิบ​เอ็ด

      คุณ​จะ​แปลก​ใจ​ไหม​ถ้า​ได้​ทราบ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​เห็น​พ้อง​กับ​คำ​นิยาม​นั้น? คุณ​อยาก​ทราบ​ไหม​ว่า​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​สอน​อย่าง​ไร​จริง ๆ ใน​เรื่อง​การ​เกิด​ใหม่? คุณ​จะ​ได้​ประโยชน์​จาก​การ​พิจารณา​เรื่อง​นี้​โดย​ละเอียด​อย่าง​แน่นอน. ทำไม​จึง​กล่าว​เช่น​นั้น? ก็​เพราะ​การ​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​การ​เกิด​ใหม่​อย่าง​ถูก​ต้อง​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​ของ​คุณ​รวม​ทั้ง​ความ​หวัง​ใน​อนาคต​ของ​คุณ​ด้วย.

      คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​อย่าง​ไร?

      ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เรา​พบ​คำ​ว่า “เกิด​ใหม่” ที่​โยฮัน 3:1-12 ซึ่ง​กล่าว​ถึง​การ​สนทนา​ที่​น่า​สนใจ​ระหว่าง​พระ​เยซู​กับ​ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​ใน​กรุง​เยรูซาเลม. คุณ​จะ​เห็น​ว่า​มี​การ​ยก​บันทึก​ตอน​นั้น​มา​ลง​ไว้​ใน​กรอบ​หน้า​ถัด​ไป. ขอ​เชิญ​คุณ​อ่าน​เรื่อง​ทั้ง​หมด​อย่าง​ถี่ถ้วน.

      ใน​บันทึก​นี้ พระ​เยซู​ทรง​เน้น​หลาย​แง่​มุม​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ “เกิด​ใหม่.”a ที่​จริง คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ช่วย​เรา​รู้​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​สำคัญ​ห้า​ข้อ​นี้:

      ◼ การ​เกิด​ใหม่​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ไร?

      ◼ การ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​เรา​เอง​ไหม?

      ◼ การ​เกิด​ใหม่​มี​วัตถุ​ประสงค์​อะไร?

      ◼ คน​เรา​จะ​เกิด​ใหม่​ได้​อย่าง​ไร?

      ◼ การ​เกิด​ใหม่​ทำ​ให้​สาย​สัมพันธ์​ของ​คน​เรา​กับ​พระเจ้า​เปลี่ยน​แปลง​ไป​อย่าง​ไร?

      ให้​เรา​พิจารณา​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​ที​ละ​ข้อ.

      [เชิงอรรถ]

      a คำ​ว่า “บังเกิด​ใหม่” ซึ่ง​พบ​ที่ 1 เปโตร 1:3 เป็น​อีก​คำ​หนึ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​เพื่อ​อธิบาย​เรื่อง “การ​เกิด​ใหม่.” ทั้ง​สอง​คำ​มา​จาก​คำ​กริยา​ภาษา​กรีก เก็นนาโอ.

      [กรอบ/ภาพ​หน้า 4]

      “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่”

      “มี​ฟาริซาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​นิโคเดมุส เป็น​ผู้​นำ​ชาว​ยิว. เขา​มา​หา​พระ​เยซู​ตอน​กลางคืน​และ​ทูล​พระองค์​ว่า ‘อาจารย์ พวก​เรา​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​ครู​ที่​มา​จาก​พระเจ้า เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ทำ​การ​อัศจรรย์​เหล่า​นั้น​อย่าง​ท่าน​ได้​เว้น​แต่​พระเจ้า​ทรง​อยู่​กับ​เขา.’ พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ว่า ‘เรา​บอก​เจ้า​ตาม​จริง​ว่า ไม่​มี​ใคร​จะ​เห็น​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้ เว้น​แต่​เขา​จะ​เกิด​ใหม่.’ นิโคเดมุส​ถาม​พระองค์​ว่า ‘คน​ที่​ชรา​แล้ว​จะ​เกิด​ใหม่​ได้​อย่าง​ไร? เขา​จะ​เข้า​ไป​ใน​ครรภ์​มารดา​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง​แล้ว​เกิด​มา​อีก​ได้​หรือ?’ พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า ‘เรา​บอก​เจ้า​ตาม​จริง​ว่า ไม่​มี​ใคร​จะ​เข้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้ เว้น​แต่​เขา​จะ​เกิด​จาก​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ. ผู้​ที่​เกิด​จาก​มนุษย์​ก็​เป็น​มนุษย์ ผู้​ที่​เกิด​จาก​พระ​วิญญาณ​ก็​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า. อย่า​ประหลาด​ใจ​ที่​เรา​บอก​เจ้า​ว่า เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่. ลม​อยาก​จะ​พัด​ไป​ทาง​ไหน​ก็​พัด​ไป​ทาง​นั้น เจ้า​ได้​ยิน​เสียง​ลม​แต่​ไม่​รู้​ว่า​มัน​พัด​มา​จาก​ที่​ไหน​และ​จะ​พัด​ไป​ที่​ไหน. ทุก​คน​ที่​เกิด​จาก​พระ​วิญญาณ​ก็​เป็น​เช่น​นั้น​แหละ.’ นิโคเดมุส​จึง​ถาม​พระองค์​ว่า ‘สิ่ง​เหล่า​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร?’ พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า ‘เจ้า​เป็น​ผู้​สอน​ใน​ชาติ​อิสราเอล​แต่​กลับ​ไม่​รู้​เรื่อง​เหล่า​นี้​หรือ? เรา​บอก​เจ้า​ตาม​จริง​ว่า พวก​เรา​พูด​สิ่ง​ที่​พวก​เรา​รู้​และ​ยืน​ยัน​สิ่ง​ที่​พวก​เรา​เห็น แต่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ไม่​ยอม​รับ​คำ​ยืน​ยัน​ของ​พวก​เรา. ถ้า​เรา​บอก​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​แผ่นดิน​โลก​แก่​เจ้า เจ้า​ยัง​ไม่​เชื่อ แล้ว​ถ้า​เรา​บอก​เรื่อง​ใน​สวรรค์​แก่​เจ้า เจ้า​จะ​เชื่อ​ได้​อย่าง​ไร?’ ”—โยฮัน 3:1-12

  • การเกิดใหม่มีความสำคัญอย่างไร?
    หอสังเกตการณ์ 2009 | 1 เมษายน
    • การ​เกิด​ใหม่​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ไร?

      ตลอด​การ​สนทนา​กับ​นิโคเดมุส พระ​เยซู​ทรง​เน้น​ให้​เห็น​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​หรือ​การ​บังเกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง. พระ​เยซู​ตรัส​อย่าง​ไร?

      ขอ​ให้​สังเกต​วิธี​ที่​พระ​เยซู​เน้น​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​เกิด​ใหม่​ใน​การ​สนทนา​กับ​นิโคเดมุส. พระองค์​ตรัส​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​เห็น​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้ เว้น​แต่​เขา​จะ​เกิด​ใหม่.” (โยฮัน 3:3) คำ​ว่า “ไม่​มี” และ “เว้น​แต่” เน้น​ให้​เห็น​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​สิ่ง​จำเป็น. ยก​ตัว​อย่าง​เช่น ถ้า​มี​คน​พูด​ว่า “โลก​นี้​จะ​ไม่​มี​แสง​สว่าง เว้น​แต่​ดวง​อาทิตย์​จะ​ส่อง​แสง” เขา​ก็​หมาย​ความ​ว่า​แสง​อาทิตย์​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​อย่าง​ยิ่ง​ต่อ​การ​เกิด​แสง​สว่าง. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​อย่าง​ยิ่ง​ต่อ​การ​เห็น​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.

      ท้าย​ที่​สุด พระ​เยซู​ตรัส​อย่าง​ชัดเจน​ราว​กับ​จะ​ขจัด​ข้อ​สงสัย​ใด ๆ ที่​อาจ​ยัง​มี​อยู่​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่.” (โยฮัน 3:7) คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ชัด​ว่า การ​เกิด​ใหม่​เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​หรือ​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ต้อง​ทำ เพื่อ​ที่​ใคร​คน​หนึ่ง​จะ​ได้ “เข้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.”—โยฮัน 3:5

      เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ทรง​ถือ​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​ขนาด​นั้น ผู้​ที่​เป็น​คริสเตียน​จึง​ควร​ตรวจ​ดู​ให้​แน่​ใจ​ว่า​เขา​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​อย่าง​ถ่องแท้. ตัว​อย่าง​เช่น คุณ​คิด​ว่า​คริสเตียน​คน​ใด​คน​หนึ่ง​จะ​เลือก​เกิด​ใหม่​ด้วย​ตน​เอง​ได้​ไหม?

      [คำ​โปรย​หน้า 5]

      “โลก​นี้​จะ​ไม่​มี​แสง​สว่าง​เว้น​แต่​ดวง​อาทิตย์​จะ​ส่อง​แสง”

  • การเกิดใหม่เป็นเรื่องที่เราเลือกเองไหม?
    หอสังเกตการณ์ 2009 | 1 เมษายน
    • การ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​เรา​เลือก​เอง​ไหม?

      ใคร​เป็น​ผู้​ทำ​ให้​มี​การ​เกิด​ใหม่? เมื่อ​นัก​เทศน์​บาง​คน​กระตุ้น​ผู้​ฟัง​ให้​มา​เป็น​คริสเตียน​ที่​เกิด​ใหม่ พวก​เขา​จะ​ยก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​มา​กล่าว​ที่​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่.” (โยฮัน 3:7) นัก​เทศน์​เหล่า​นี้​ใช้​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ใน​ลักษณะ​คำ​สั่ง เหมือน​กับ​จะ​บอก​ว่า “จง​เกิด​ใหม่!” โดย​กล่าว​เช่น​นี้​พวก​เขา​กำลัง​สอน​ว่า การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​เยซู​และ​ทำ​ตาม​ขั้น​ตอน​ต่าง ๆ ที่​จำเป็น​เพื่อ​จะ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​ผู้​เชื่อถือ​แต่​ละ​คน. หาก​คิด​เช่น​นี้​ก็​หมาย​ความ​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​แต่​ละ​คน​จะ​เลือก​เอง​ได้. แต่​ทัศนะ​เช่น​นั้น​สอดคล้อง​กับ​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​นิโคเดมุส​ไหม?

      เมื่อ​อ่าน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ถี่ถ้วน จะ​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​สอน​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​มนุษย์​จะ​เลือก​เอง. ทำไม​เรา​กล่าว​เช่น​นั้น? สำนวน​ภาษา​กรีก​ที่​มี​การ​แปล​ว่า “เกิด​ใหม่” สามารถ​จะ​แปล​ได้​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ว่า “ควร​เกิด​จาก​เบื้อง​บน.”a ฉะนั้น การ​แปล​แบบ​ที่​สอง​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า การ​เกิด​ใหม่​มี​ที่​มา “จาก​เบื้อง​บน” คือ “จาก​สวรรค์” หรือ “จาก​พระ​บิดา” นั่น​เอง. (โยฮัน 19:11; ยาโกโบ 1:17) ฉะนั้น ผู้​ที่​ทำ​ให้​มี​การ​เกิด​ใหม่​ก็​คือ​พระเจ้า.—1 โยฮัน 3:9

      ถ้า​เรา​จำ​ไว้​เสมอ​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​ใน​ภาษา​เดิม​อาจ​หมาย​ถึง​การ​เกิด “จาก​เบื้อง​บน” เรา​ก็​จะ​เข้าใจ​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​ทำไม​มนุษย์​จึง​ไม่​สามารถ​เกิด​ใหม่​ได้​ด้วย​ตัว​เอง. ขอ​ให้​คิด​ถึง​ตอน​ที่​คุณ​เกิด​จาก​ท้อง​แม่. คุณ​เลือก​ให้​ตัว​เอง​เกิด​ได้​ไหม? เปล่า​เลย! คุณ​เกิด​มา​ก็​เพราะ​มี​พ่อ​ผู้​ให้​กำเนิด. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน เรา​จะ​เกิด​ใหม่​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​พระเจ้า​ผู้​เป็น​พระ​บิดา​ของ​เรา​ใน​สวรรค์​ทำ​ให้​เรา​เกิด​ใหม่. (โยฮัน 1:13) ฉะนั้น อัครสาวก​เปโตร​จึง​กล่าว​ไว้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ว่า “ขอ​ให้​พระองค์​ผู้​เป็น​พระเจ้า​และ​พระ​บิดา​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​เจ้า​ของ​เรา​ได้​รับ​การ​สรรเสริญ เพราะ​พระ​เมตตา​อัน​ใหญ่​หลวง พระองค์​จึง​ทรง​ให้​เรา​บังเกิด​ใหม่.”—1 เปโตร 1:3

      เป็น​คำ​สั่ง​ไหม?

      อย่าง​ไร​ก็​ตาม บาง​คน​อาจ​สงสัย​ว่า ‘หาก​เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า​ไม่​มี​ใคร​เลือก​เกิด​ใหม่​เอง​ได้ ทำไม​พระ​เยซู​จึง​ให้​คำ​สั่ง​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​ต้อง​เกิด​ใหม่”?’ นี่​เป็น​คำ​ถาม​ที่​มี​เหตุ​ผล​ที​เดียว. ที่​จริง ถ้า​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​เป็น​คำ​สั่ง​จริง ๆ ละ​ก็ พระองค์​ก็​กำลัง​สั่ง​ให้​เรา​ทำ​สิ่ง​ที่​อยู่​เหนือ​การ​ควบคุม​ของ​เรา ซึ่ง​ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​พระองค์​จะ​สั่ง​เช่น​นั้น. ถ้า​อย่าง​นั้น เรา​ควร​เข้าใจ​คำ​ตรัส​ที่​ว่า เจ้า​ต้อง “เกิด​ใหม่” อย่าง​ไร?

      เมื่อ​พิจารณา​ประโยค​นี้​ใน​ภาษา​เดิม​อย่าง​ถี่ถ้วน​จะ​เห็น​ว่า​ไม่​ได้​เขียน​ใน​ลักษณะ​คำ​สั่ง. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น ประโยค​นี้​เขียน​ใน​ลักษณะ​บอก​เล่า. กล่าว​อีก​อย่าง​หนึ่ง​คือ เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​เจ้า​ต้อง “เกิด​ใหม่” พระองค์​กำลัง​ตรัส​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง ไม่​ใช่​สั่ง​ให้​ทำ. พระองค์​ตรัส​ว่า “เป็น​เรื่อง​จำเป็น​ที่​เจ้า​จะ​เกิด​จาก​เบื้อง​บน.”—โยฮัน 3:7, ฉบับ​โมเดิร์น ยังส์ ลิเทอรัล แทรนสเลชัน (ภาษา​อังกฤษ)

      เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ประโยค​คำ​สั่ง​กับ​ประโยค​บอก​เล่า ขอ​ให้​คิด​ถึง​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​หนึ่ง. ลอง​นึก​ภาพ​เมือง​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​โรง​เรียน​อยู่​หลาย​โรง. มี​โรง​เรียน​หนึ่ง​ที่​แตกต่าง​จาก​โรง​เรียน​อื่น ๆ เพราะ​เป็น​โรง​เรียน​กิน​นอน​สำหรับ​นัก​เรียน​ชาว​พื้นเมือง​กลุ่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ไกล​จาก​ตัว​เมือง. วัน​หนึ่ง มี​เด็ก​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ไม่​ใช่​ชาว​พื้นเมือง​กลุ่ม​นั้น​มา​บอก​กับ​ครู​ใหญ่​ของ​โรง​เรียน​ว่า “ผม​ต้องการ​สมัคร​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ของ​ท่าน​ครับ.” ครู​ใหญ่​บอก​เขา​ว่า “ถ้า​จะ​มา​สมัคร​เรียน​ที่​นี่ เธอ​จะ​ต้อง​เป็น​คน​พื้นเมือง.” แน่นอน​ว่า​คำ​พูด​ของ​ครู​ใหญ่​ไม่​ใช่​คำ​สั่ง. เขา​ไม่​ได้​สั่ง​นัก​เรียน​คน​นั้น​ว่า “จง​เป็น​คน​พื้นเมือง!” ครู​ใหญ่​เพียง​แต่​กำลัง​บอก​ข้อ​เท็จ​จริง ซึ่ง​เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​ผู้​ที่​จะ​เข้า​เรียน​ที่​โรง​เรียน​นี้. ทำนอง​เดียว​กัน เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ต้อง​เกิด​ใหม่” พระองค์​ก็​เพียง​แต่​ตรัส​ถึง​ข้อ​เท็จ​จริง ซึ่ง​เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​ผู้​ที่​จะ “เข้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.”

      ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​นี้​ยัง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อีก​แง่​มุม​หนึ่ง​ของ​การ​เกิด​ใหม่​ด้วย คือ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คำ​ถาม​ที่​ว่า การ​เกิด​ใหม่​นี้​มี​วัตถุ​ประสงค์​อะไร? หาก​เรา​ทราบ​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​นี้ เรา​ก็​จะ​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​การ​เกิด​ใหม่​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง.

      [เชิงอรรถ]

      a คัมภีร์​ไบเบิล​บาง​ฉบับ​แปล​โยฮัน 3:3 โดย​ใช้​สำนวน​คล้าย ๆ กัน​นี้ เช่น พระ​คัมภีร์​ภาษา​ไทย​ฉบับ​มาตรฐาน 2002 กล่าว​ว่า “ถ้า​คน​ใด​ไม่​ได้​เกิด​ใหม่ (แปล​ได้​อีก​ว่า เกิด​จาก​เบื้อง​บน) คน​นั้น​ไม่​สามารถ​เห็น​แผ่นดิน​ของ​พระเจ้า.”

      [ภาพ​หน้า 6]

      มี​ความ​คล้ายคลึง​อะไร​ระหว่าง​การ​เกิด​ใหม่​กับ​การ​เกิด​ของ​มนุษย์​โดย​ทั่ว​ไป?

  • การเกิดใหม่มีวัตถุประสงค์อะไร?
    หอสังเกตการณ์ 2009 | 1 เมษายน
    • การ​เกิด​ใหม่​มี​วัตถุ​ประสงค์​อะไร?

      หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​คน​เรา​จำเป็น​ต้อง​เกิด​ใหม่​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​รอด​ตลอด​ไป. แต่​ขอ​ให้​สังเกต​ว่า​พระ​เยซู​เอง​ตรัส​ถึง​วัตถุ​ประสงค์​ของ​การ​เกิด​ใหม่​อย่าง​ไร. พระองค์​ตรัส​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​เห็น​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้ เว้น​แต่​เขา​จะ​เกิด​ใหม่.” (โยฮัน 3:3) ฉะนั้น คน​เรา​จำเป็น​ต้อง​เกิด​ใหม่​เพื่อ​จะ​เข้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า ไม่​ใช่​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​รอด. บาง​คน​อาจ​บอก​ว่า ‘แต่​ทั้ง​สอง​สิ่ง​นี้ คือ​การ​เข้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​การ​ได้​รับ​ความ​รอด​ก็​หมาย​ถึง​รางวัล​อย่าง​เดียว​กัน​ไม่​ใช่​หรือ?’ ไม่​ใช่​เช่น​นั้น. เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​คำ​กล่าว​ทั้ง​สอง​นี้ ให้​เรา​มา​ดู​ความ​หมาย​ของ​คำ​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” ก่อน.

      ราชอาณาจักร​คือ​รัฐบาล​รูป​แบบ​หนึ่ง. ดัง​นั้น คำ​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” ก็​หมาย​ถึง “รัฐบาล​ของ​พระเจ้า.” คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​เป็น “บุตร​มนุษย์” ทรง​เป็น​กษัตริย์​แห่ง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​คริสต์​ทรง​มี​ผู้​ที่​ร่วม​ปกครอง​ด้วย. (ดานิเอล 7:1, 13, 14; มัดธาย 26:63, 64) นอก​จาก​นี้ นิมิต​ที่​อัครสาวก​โยฮัน​ได้​รับ​ยัง​เผย​ให้​ทราบ​ด้วย​ว่า​ผู้​ที่​ร่วม​ปกครอง​กับ​พระ​คริสต์​คือ​คน​ที่​ได้​รับ​เลือก “จาก​ทุก​ตระกูล ทุก​ภาษา ทุก​ชน​ชาติ และ​ทุก​ประเทศ” และ​จะ “เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​แผ่นดิน​โลก.” (วิวรณ์ 5:9, 10; 20:6) พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ยัง​เปิด​เผย​อีก​ว่า​ผู้​ที่​จะ​ร่วม​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​นั้น​ประกอบ​กัน​เป็น “ฝูง​น้อย” จำนวน 144,000 คน “ซึ่ง​ถูก​ซื้อ​ไว้​แล้ว​จาก​แผ่นดิน​โลก.”—ลูกา 12:32; วิวรณ์ 14:1, 3

      ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ตั้ง​ขึ้น​ที่​ไหน? มี​การ​เรียก “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” อีก​อย่าง​หนึ่ง​ว่า “ราชอาณาจักร​สวรรค์” ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​และ​ผู้​ที่​ร่วม​เป็น​กษัตริย์​กับ​พระองค์​จะ​ปกครอง​จาก​สวรรค์. (ลูกา 8:10; มัดธาย 13:11) ดัง​นั้น ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ก็​คือ​รัฐบาล​ใน​สวรรค์​ที่​ประกอบ​ด้วย​พระ​เยซู​คริสต์​และ​ผู้​ปกครอง​กลุ่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​รับ​เลือก​จาก​ท่ามกลาง​มนุษยชาติ.

      แล้ว​พระ​เยซู​ทรง​หมาย​ถึง​อะไร​เมื่อ​ตรัส​ว่า​คน​เรา​ต้อง​เกิด​ใหม่​เพื่อ​จะ “เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า”? พระองค์​ทรง​หมาย​ความ​ว่า​คน​เรา​ต้อง​เกิด​ใหม่​จึง​จะ​ได้​เป็น​ผู้​ร่วม​ปกครอง​กับ​พระ​คริสต์​ใน​สวรรค์. พูด​ง่าย ๆ ก็​คือ การ​เกิด​ใหม่​มี​วัตถุ​ประสงค์​เพื่อ​จะ​เตรียม​มนุษย์​จำนวน​หนึ่ง​ไว้​พร้อม​สำหรับ​การ​ปกครอง​ใน​สวรรค์.

      ถึง​ตอน​นี้ เรา​ก็​ได้​เห็น​แล้ว​ว่า การ​เกิด​ใหม่​มี​ความ​สำคัญ​มาก, เกิด​ขึ้น​โดย​พระเจ้า และ​เป็น​การ​เตรียม​มนุษย์​กลุ่ม​หนึ่ง​ไว้​เพื่อ​จะ​ไป​ปกครอง​ใน​สวรรค์. แต่​การ​เกิด​ใหม่​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร​จริง ๆ?

      [คำ​โปรย​หน้า 7]

      วัตถุ​ประสงค์​ของ​การ​เกิด​ใหม่​คือ​เพื่อ​จะ​เตรียม​มนุษย์​จำนวน​หนึ่ง​ไว้​สำหรับ​การ​ปกครอง​ใน​สวรรค์

      [ภาพ​หน้า 7]

      พระ​เยซู​คริสต์​และ​ผู้​ร่วม​ปกครอง​กลุ่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​รับ​เลือก​จาก​มนุษยชาติ​ประกอบ​กัน​เป็น​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า

  • การเกิดใหม่เกิดขึ้นโดยวิธีใด?
    หอสังเกตการณ์ 2009 | 1 เมษายน
    • การ​เกิด​ใหม่​เกิด​ขึ้น​โดย​วิธี​ใด?

      พระ​เยซู​ไม่​เพียง​ตรัส​กับ​นิโคเดมุส​เกี่ยว​กับ​ความ​สำคัญ, ผู้​ทำ​ให้​เกิด, และ​วัตถุ​ประสงค์​ของ​การ​เกิด​ใหม่​เท่า​นั้น แต่​พระองค์​ยัง​ตรัส​ด้วย​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​นี้​เกิด​ขึ้น​โดย​วิธี​ใด. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ไม่​มี​ใคร​จะ​เข้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้ เว้น​แต่​เขา​จะ​เกิด​จาก​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ.” (โยฮัน 3:5) ฉะนั้น คน​เรา​เกิด​ใหม่​โดย​ทาง​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ. แต่​คำ​ว่า “น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ” นั้น​หมาย​ถึง​อะไร?

      “น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ”—คือ​อะไร?

      ใน​ฐานะ​ผู้​คง​แก่​เรียน​ใน​ศาสนา​ยิว ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​นิโคเดมุส​คง​คุ้น​เคย​กับ​วิธี​ที่​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ใช้​คำ​ว่า “พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า” คือ​ใช้​หมาย​ถึง​พลัง​ปฏิบัติการ​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​อำนาจ​ช่วย​ให้​คน​เรา​มี​ความ​สามารถ​พิเศษ. (เยเนซิศ 41:38; เอ็กโซโด 31:3; 1 ซามูเอล 10:6) ดัง​นั้น เมื่อ​พระ​เยซู​ใช้​คำ​ว่า “พระ​วิญญาณ” นิโคเดมุส​คง​ต้อง​เข้าใจ​ว่า​พระองค์​หมาย​ถึง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ ซึ่ง​เป็น​พลัง​ปฏิบัติการ​ของ​พระเจ้า.

      แล้ว​พระ​เยซู​ทรง​หมาย​ถึง​อะไร​เมื่อ​ตรัส​ถึง​น้ำ? ขอ​พิจารณา​เหตุ​การณ์​ที่​มี​การ​บันทึก​ก่อน​และ​หลัง​บท​สนทนา​ของ​พระ​เยซู​กับ​นิโคเดมุส. บันทึก​เหล่า​นั้น​แสดง​ว่า​ทั้ง​สาวก​ของ​โยฮัน​และ​ของ​พระ​เยซู​ต่าง​ก็​ให้​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ. (โยฮัน 1:19, 31; 3:22; 4:1-3) การ​บัพติสมา​กลาย​เป็น​สิ่ง​ที่​คน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​รู้​จัก​ดี. ดัง​นั้น เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​น้ำ นิโคเดมุส​คง​เข้าใจ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​หมาย​ถึง​น้ำ​ที่​ใช้​ใน​การ​บัพติสมา ไม่​ใช่​น้ำ​ทั่ว ๆ ไป.

      รับ​บัพติสมา “ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์”

      ถ้า​การ “เกิด​จาก​น้ำ” เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ แล้ว​การ “เกิด​จาก . . . พระ​วิญญาณ” จะ​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? ก่อน​หน้า​การ​สนทนา​ของ​พระ​เยซู​กับ​นิโคเดมุส โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​ได้​ประกาศ​ว่า​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​ใน​การ​บัพติสมา​ไม่​ได้​มี​เพียง​น้ำ​เท่า​นั้น แต่​ยัง​มี​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ด้วย. ท่าน​กล่าว​ว่า “ข้าพเจ้า​ให้​บัพติสมา​แก่​พวก​ท่าน​ด้วย​น้ำ แต่​พระองค์ [พระ​เยซู] จะ​ให้​บัพติสมา​แก่​พวก​ท่าน​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” (มาระโก 1:7, 8) มาระโก​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ได้​พรรณนา​ถึง​เหตุ​การณ์​ตอน​ที่​มี​การ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​ครั้ง​แรก. ท่าน​เขียน​ว่า “ใน​ช่วง​นั้น​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​จาก​เมือง​นาซาเรท​ใน​แคว้น​แกลิลี​และ​ทรง​รับ​บัพติสมา​จาก​โยฮัน​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน. ทันที​ที่​พระองค์​เสด็จ​ขึ้น​จาก​น้ำ​ก็​ทรง​เห็น​ท้องฟ้า​แยก​ออก และ​ทรง​เห็น​พระ​วิญญาณ​ลง​มา​บน​พระองค์​ดุจ​นก​พิราบ.” (มาระโก 1:9, 10) เมื่อ​พระ​เยซู​ถูก​จุ่ม​ตัว​มิด​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน พระองค์​ทรง​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ. ใน​ตอน​ที่​พระองค์​ได้​รับ​พระ​วิญญาณ​จาก​สวรรค์ พระองค์​ทรง​รับ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.

      ประมาณ​สาม​ปี​หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​ทรง​รับ​บัพติสมา​แล้ว พระองค์​ได้​ให้​คำ​รับรอง​แก่​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “ใน​อีก​ไม่​กี่​วัน​หลัง​จาก​นี้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” (กิจการ 1:5) เหตุ​การณ์​นั้น​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ไร?

      ใน​วัน​เพนเทคอสต์​ปี​สากล​ศักราช 33 สาวก​ของ​พระ​เยซู​ประมาณ 120 คน​มา​ประชุม​กัน​ที่​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ใน​กรุง​เยรูซาเลม. “ทันใด​นั้น มี​เสียง​ดัง​จาก​ฟ้า​เหมือน​เสียง​พายุ เสียง​นั้น​ดัง​ไป​ทั่ว​บ้าน​ที่​พวก​เขา​นั่ง​อยู่ และ​มี​สิ่ง​ที่​คล้าย​เปลว​ไฟ​รูป​ทรง​คล้าย​ลิ้น​ปรากฏ​ขึ้น . . . พวก​เขา​จึง​เปี่ยม​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” (กิจการ 2:1-4) ใน​วัน​เดียว​กัน​นั้น มี​อีก​หลาย​คน​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ. อัครสาวก​เปโตร​บอก​กับ​ฝูง​ชน​กลุ่ม​หนึ่ง​ว่า “จง​กลับ​ใจ และ​ให้​พวก​ท่าน​ทุก​คน​รับ​บัพติสมา​ใน​พระ​นาม​พระ​เยซู​คริสต์​เพื่อ​บาป​ของ​พวก​ท่าน​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย และ​พวก​ท่าน​จะ​ได้​รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” ฝูง​ชน​ตอบรับ​อย่าง​ไร? “คน​ที่​เชื่อ​คำ​ของ​เปโตร​อย่าง​จริง​ใจ​จึง​รับ​บัพติสมา และ​ใน​วัน​นั้น​มี​สาวก​เพิ่ม​เข้า​มา​ประมาณ​สาม​พัน​คน.”—กิจการ 2:38, 41

      สอง​ขั้น​ตอน​ที่​สำคัญ

      การ​บัพติสมา​ทั้ง​สอง​อย่าง​นี้​เผย​ให้​ทราบ​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​เกิด​ใหม่? ก็​ทำ​ให้​เรา​ทราบ​ว่า​การ​เกิด​ใหม่​เกิด​ขึ้น​จาก​สอง​ขั้น​ตอน. ขอ​ให้​สังเกต​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ​ก่อน หลัง​จาก​นั้น​จึง​ได้​รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. สาวก​รุ่น​แรก​ก็​เช่น​กัน พวก​เขา​ได้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ​ก่อน (บาง​คน​ได้​รับ​จาก​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา) แล้ว​จาก​นั้น​จึง​ได้​รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. (โยฮัน 1:26-36) เช่น​เดียว​กัน ผู้​ที่​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน 3,000 คน​ได้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ​ก่อน แล้ว​จาก​นั้น​จึง​ได้​รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.

      เมื่อ​คำนึง​ถึง​การ​บัพติสมา​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​วัน​เพนเทคอสต์​ปี ส.ศ. 33 เรา​ควร​คาด​หมาย​ให้​การ​เกิด​ใหม่​ใน​ทุก​วัน​นี้​เป็น​อย่าง​ไร? ก็​น่า​จะ​เป็น​เช่น​เดียว​กับ​ใน​สมัย​ของ​อัครสาวก​และ​สาวก​รุ่น​แรก​ของ​พระ​เยซู. ขั้น​ตอน​แรก คน​เรา​ต้อง​กลับ​ใจ​จาก​บาป​ที่​ได้​ทำ เลิก​ทำ​สิ่ง​ที่​ผิด อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​จะ​นมัสการ​และ​รับใช้​พระองค์ แล้ว​ประกาศ​การ​อุทิศ​ตัว​ของ​ตน​ให้​ผู้​อื่น​ได้​รับ​ทราบ​โดย​การ​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ. หลัง​จาก​นั้น ถ้า​พระเจ้า​ทรง​เลือก​เขา​ให้​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์ พระองค์​ก็​จะ​ทรง​เจิม​เขา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. ขั้น​ตอน​แรก (การ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ) เป็น​เรื่อง​ที่​แต่​ละ​คน​จะ​ทำ​ด้วย​ตน​เอง ส่วน​ขั้น​ตอน​ที่​สอง (การ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ) พระเจ้า​ทรง​เป็น​ผู้​ทำ​ให้​เกิด​ขึ้น. เมื่อ​ใคร​คน​หนึ่ง​ได้​รับ​บัพติสมา​ทั้ง​สอง​อย่าง​แล้ว เขา​ก็​ได้​เกิด​ใหม่.

      แต่​ทำไม​ตอน​ที่​พระ​เยซู​สนทนา​กับ​นิโคเดมุส พระองค์​จึง​ใช้​คำ​ว่า “เกิด​จาก​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ”? นั่น​ก็​เพื่อ​เน้น​ว่า​จะ​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​สำคัญ​เกิด​ขึ้น​กับ​ผู้​ที่​ได้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ. ใน​บทความ​ถัด​ไป​จะ​พิจารณา​เรื่อง​นี้​ซึ่ง​เป็น​อีก​แง่​มุม​หนึ่ง​ของ​การ​เกิด​ใหม่.

      [ภาพ​หน้า 9]

      โยฮัน​ให้​บัพติสมา​ด้วย​น้ำ​แก่​ชาว​อิสราเอล​ที่​กลับ​ใจ

  • การเกิดใหม่ทำให้สิ่งใดบรรลุผลสำเร็จ?
    หอสังเกตการณ์ 2009 | 1 เมษายน
    • การ​เกิด​ใหม่​ทำ​ให้​สิ่ง​ใด​บรรลุ​ผล​สำเร็จ?

      เหตุ​ใด​พระ​เยซู​จึง​ใช้​สำนวน “เกิด . . . จาก​พระ​วิญญาณ” เมื่อ​ตรัส​ถึง​การ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์? (โยฮัน 3:5) คำ​ว่า “เกิด” หรือ “กำเนิด” เมื่อ​ใช้​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย​อาจ​หมาย​ถึง “การ​เริ่ม​ต้น” ก็​ได้. ดัง​นั้น คำ​ว่า “เกิด​ใหม่” จึง​มี​ความ​หมาย​ว่า “เริ่ม​ต้น​ใหม่.” ด้วย​เหตุ​นี้ เมื่อ​ใช้​คำ​ว่า “เกิด” และ “เกิด​ใหม่” ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย​จึง​เป็น​การ​เน้น​ว่า จะ​มี​การ​เริ่ม​ต้น​ใหม่​ของ​สัมพันธภาพ​ระหว่าง​พระเจ้า​กับ​ผู้​ที่​ได้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. การ​เปลี่ยน​แปลง​อย่าง​สิ้นเชิง​นี้​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร?

      เมื่อ​เปาโล​อธิบาย​ถึง​วิธี​ที่​พระเจ้า​ทรง​เตรียม​มนุษย์​บาง​คน​ไว้​เพื่อ​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​สวรรค์ ท่าน​ได้​ใช้​ตัว​อย่าง​ชีวิต​จริง​ใน​ครอบครัว​มนุษย์. ท่าน​เขียน​ถึง​คริสเตียน​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ว่า​พวก​เขา​จะ​ถูก ‘รับ​เป็น​บุตร’ และ​เพราะ​เหตุ​นั้น พระเจ้า​จึง​ทรง​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​เขา “เหมือน​เป็น​บุตร.” (กาลาเทีย 4:5; ฮีบรู 12:7) เพื่อ​จะ​เห็น​ว่า​ตัว​อย่าง​เรื่อง​การ​รับ​เป็น​บุตร​ช่วย​เรา​อย่าง​ไร​ให้​เข้าใจ​เรื่อง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ผู้​ที่​ได้​รับ​บัพติสมา​ด้วย​พระ​วิญญาณ ขอ​ให้​นึก​ถึง​ตัว​อย่าง​ของ​เด็ก​หนุ่ม​ที่​ต้องการ​จะ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​สำหรับ​นัก​เรียน​ที่​เป็น​ชาว​พื้นเมือง​อีก​ครั้ง​หนึ่ง.

      การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​ถูก​รับ​เป็น​บุตร

      ใน​ตัว​อย่าง​นั้น เด็ก​หนุ่ม​คน​นั้น​ไม่​สามารถ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​นั้น​ได้​เพราะ​เขา​ไม่​ใช่​ชาว​พื้นเมือง. ตอน​นี้​ลอง​นึก​ภาพ​ว่า วัน​หนึ่ง​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใหญ่​เกิด​ขึ้น. บิดา​ของ​ครอบครัว​ชาว​พื้นเมือง​ครอบครัว​หนึ่ง​ได้​รับ​เขา​เป็น​บุตร​บุญธรรม​ตาม​กฎหมาย. เรื่อง​นี้​จะ​มี​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​เด็ก​หนุ่ม​คน​นั้น? ก็​เนื่อง​จาก​เขา​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​แล้ว ตอน​นี้​เขา​จึง​อาจ​มี​สิทธิ​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ เหมือน​กับ​เยาวชน​ชาว​พื้นเมือง​คน​อื่น ๆ รวม​ทั้ง​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​นั้น​ด้วย. การ​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​ได้​เปลี่ยน​อนาคต​ของ​เขา​อย่าง​สิ้นเชิง.

      ตัว​อย่าง​นี้​ช่วย​เรา​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ผู้​ที่​เกิด​ใหม่​ซึ่ง​เป็น​สภาพการณ์​ที่​คล้าย​กัน​แต่​มี​ความ​สำคัญ​กว่า​มาก. ให้​เรา​เปรียบ​เทียบ​แง่​มุม​บาง​อย่าง​ที่​คล้ายคลึง​กัน. เด็ก​หนุ่ม​ใน​ตัว​อย่าง​นั้น​จะ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​เขา​มี​คุณสมบัติ​ตาม​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​การ​สมัคร​เรียน นั่น​คือ​เขา​ต้อง​เป็น​ชาว​พื้นเมือง. แต่​เขา​ไม่​สามารถ​บรรลุ​ข้อ​เรียก​ร้อง​นี้​ได้​ด้วย​ตัว​เอง. คล้าย​กัน มนุษย์​บาง​คน​จะ​เป็น​ผู้​ร่วม​ปกครอง​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​เขา​มี​คุณสมบัติ​ตาม​ข้อ​เรียก​ร้อง​ที่​กำหนด​ไว้ นั่น​คือ​เขา​ต้อง “เกิด​ใหม่.” แต่​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​จะ​บรรลุ​ข้อ​เรียก​ร้อง​นั้น​ได้​ด้วย​ตัว​เอง เพราะ​การ​เกิด​ใหม่​เป็น​เรื่อง​ที่​ขึ้น​อยู่​กับ​พระเจ้า.

      อะไร​ทำ​ให้​สภาพการณ์​ของ​เด็ก​หนุ่ม​คน​นี้​เปลี่ยน​ไป? สิ่ง​นั้น​ก็​คือ​การ​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. จริง​อยู่ การ​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​ไม่​ได้​เปลี่ยน​ตัว​ตน​เดิม​ของ​เด็ก​หนุ่ม. หลัง​จาก​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​แล้ว เขา​ก็​ยัง​เป็น​คน​เดิม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลัง​จาก​บรรลุ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ตาม​กฎหมาย​สำหรับ​การ​รับ​เป็น​บุตร​แล้ว เด็ก​หนุ่ม​คน​นี้​ก็​ได้​รับ​ฐานะ​ใหม่. ที่​จริง อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​เขา​ได้​เริ่ม​ต้น​ชีวิต​ใหม่​หรือ​เกิด​ใหม่​นั่น​เอง. เขา​กลาย​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​ชาว​พื้นเมือง​ซึ่ง​ทำ​ให้​เขา​มี​สิทธิ​ที่​จะ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​แห่ง​นั้น​และ​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ครอบครัว​ใหม่.

      ใน​ทำนอง​เดียว​กัน พระ​ยะโฮวา​ทรง​เปลี่ยน​ฐานะ​ของ​มนุษย์​ที่​ไม่​สมบูรณ์​กลุ่ม​หนึ่ง​โดย​ดำเนิน​การ​ตาม​ขั้น​ตอน​ทาง​กฎหมาย​อย่าง​หนึ่ง​เพื่อ​จะ​รับ​พวก​เขา​มา​เป็น​บุตร​ของ​พระองค์. อัครสาวก​เปาโล ซึ่ง​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​นี้ ได้​เขียน​ไป​ถึง​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​ว่า “พวก​ท่าน​ได้​รับ​จิตใจ​อย่าง​ผู้​ที่​ถูก​รับ​เป็น​บุตร ซึ่ง​โดย​จิตใจ​เช่น​นั้น เรา​จึง​ร้อง​ว่า ‘อับบา พระ​บิดา!’ พระ​วิญญาณ​นั้น​เป็น​พยาน​ยืน​ยัน​ร่วม​กับ​จิตใจ​ของ​เรา​ว่า​เรา​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า.” (โรม 8:15, 16) โดย​ผ่าน​ขั้น​ตอน​การ​รับ​เป็น​บุตร​นี้​เอง คริสเตียน​เหล่า​นั้น​จึง​ได้​กลาย​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​ครอบครัว​ของ​พระเจ้า หรือ​เป็น “บุตร​ของ​พระเจ้า.”—1 โยฮัน 3:1; 2 โครินท์ 6:18

      แน่นอน​ว่า การ​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า​ไม่​ได้​เปลี่ยน​ตัว​ตน​เดิม​ของ​ผู้​ที่​ถูก​รับ​เป็น​บุตร เพราะ​พวก​เขา​ยัง​คง​เป็น​มนุษย์​ที่​ไม่​สมบูรณ์. (1 โยฮัน 1:8) แต่​ดัง​ที่​เปาโล​อธิบาย​ต่อ​ไป หลัง​จาก​บรรลุ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ตาม​กฎหมาย​สำหรับ​การ​รับ​เป็น​บุตร​แล้ว พวก​เขา​ก็​ได้​รับ​ฐานะ​ใหม่. ใน​ขณะ​เดียว​กัน พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ก็​ทำ​ให้​ผู้​ถูก​รับ​เป็น​บุตร​เหล่า​นี้​เกิด​ความ​เชื่อ​มั่น​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​อยู่​กับ​พระ​เยซู​ใน​สวรรค์. (1 โยฮัน 3:2) ความ​เชื่อ​มั่น​ที่​แน่นอน​ซึ่ง​ได้​รับ​จาก​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​นี้​ทำ​ให้​พวก​เขา​มอง​ชีวิต​ต่าง​ไป​จาก​เดิม. (2 โครินท์ 1:21, 22) พวก​เขา​มี​ชีวิต​ใหม่​แล้ว หรือ​กล่าว​ได้​ว่า พวก​เขา​ได้​เกิด​ใหม่​แล้ว​นั่น​เอง.

      คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ถึง​ผู้​ที่​พระเจ้า​ทรง​รับ​เป็น​บุตร​ดัง​นี้: “พวก​เขา​จะ​เป็น​ปุโรหิต​ของ​พระเจ้า​และ​ของ​พระ​คริสต์ และ​จะ​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​กับ​พระ​คริสต์​เป็น​เวลา​หนึ่ง​พัน​ปี.” (วิวรณ์ 20:6) คน​เหล่า​นี้​ที่​พระเจ้า​ทรง​รับ​เป็น​บุตร​จะ​ได้​รับ​ตำแหน่ง​กษัตริย์​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​ใน​ราชอาณาจักร​หรือ​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​อยู่​ใน​สวรรค์. อัครสาวก​เปโตร​บอก​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ “ทรัพย์​สมบัติ​ที่​ไม่​เน่า​เปื่อย ไม่​มี​มลทิน และ​ไม่​ร่วงโรย” ซึ่ง​ถูก “เก็บ​ไว้​ใน​สวรรค์” สำหรับ​พวก​เขา. (1 เปโตร 1:3, 4) ช่าง​เป็น​ทรัพย์​ที่​ล้ำ​ค่า​จริง ๆ!

      อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรื่อง​การ​ปกครอง​นี้​ได้​ทำ​ให้​เกิด​คำ​ถาม​ขึ้น​มา​ข้อ​หนึ่ง นั่น​คือ ถ้า​ผู้​ที่​เกิด​ใหม่​จะ​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์​ใน​สวรรค์ แล้ว​ใคร​คือ​ผู้​ที่​อยู่​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​พวก​เขา? จะ​มี​การ​พิจารณา​คำ​ถาม​นี้​ใน​บทความ​ถัด​ไป.

      [ภาพ​หน้า 10]

      เปาโล​กล่าว​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​รับ​เป็น​บุตร?

หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
  • ไทย
  • แชร์
  • การตั้งค่า
  • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
  • เงื่อนไขการใช้งาน
  • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
  • JW.ORG
  • เข้าสู่ระบบ
แชร์