-
ชื่อหนังสือ/หน้าผู้จัดพิมพ์พยานพระยะโฮวาและการศึกษา
-
-
ชื่อหนังสือ/หน้าผู้จัดพิมพ์
พยานพระยะโฮวาและการศึกษา
จุลสารนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของการสอนคัมภีร์ไบเบิลทั่วโลกซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการบริจาคด้วยใจสมัคร
ถ้าต้องการบริจาค ไปที่ donate.jw.org
เว้นแต่มีการแสดงไว้เป็นอย่างอื่น ข้อคัมภีร์ที่ยกมากล่าวโดยตรงมาจากพระคัมภีร์ไทยฉบับแปลเก่า. ตัวย่อ ล.ม. ตามหลังข้อคัมภีร์หมายความว่า ข้อนั้นยกมาจากพระคัมภีร์บริสุทธิ์ฉบับแปลโลกใหม่ที่มีข้ออ้างอิง (ภาษาอังกฤษ)
ฉบับพิมพ์เดือนเมษายน 2019
Thai (ed-SI) (ศษ)
© 1995 2006 2019 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
-
-
วัตถุประสงค์ของจุลสารนี้พยานพระยะโฮวาและการศึกษา
-
-
วัตถุประสงค์ของจุลสารนี้
นักปรัชญาชาวดัตช์ชื่อสปิโนซาเขียนว่า “ข้าพเจ้าพยายามจะไม่หัวเราะการกระทำของมนุษย์, ไม่ร้องไห้เพราะเขา, และไม่เกลียดเขา, แต่พยายามจะเข้าใจเขา.” ในฐานะผู้ให้การศึกษา คุณเผชิญข้อท้าทายแห่งการพยายามจะเข้าใจแง่คิด, ภูมิหลัง, และความเชื่อมั่นของนักเรียนที่คุณดูแล ซึ่งรวมทั้งนักเรียนที่เป็นลูกของพยานพระยะโฮวาด้วย. บางครั้ง นักเรียนเหล่านั้นอาจดูเหมือนยึดมั่นกับจุดยืนที่ไม่เหมือนคนทั่วไปในบางประเด็น. แต่เมื่อการกระทำเหล่านั้นเกิดจากความเชื่อมั่นด้านศาสนาและศีลธรรมของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ก็เหมาะที่คุณจะเอาใจใส่การกระทำเหล่านั้น. จุลสารนี้ผลิตโดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ (ผู้จัดพิมพ์สรรพหนังสือของพยานพระยะโฮวา) และถูกจัดทำขึ้นเพื่อช่วยคุณให้เข้าใจนักเรียนที่เป็นพยานฯดีขึ้น. เราหวังว่าคุณจะใช้เวลาอ่านจุลสารนี้อย่างถี่ถ้วน.
การเข้าใจความเชื่อทางศาสนาของอีกคนหนึ่งไม่เรียกร้องให้คุณต้องยอมรับหรือทำตามความเชื่อนั้น และการให้ความรู้ก็ไม่ใช่การชักจูงให้เปลี่ยนศาสนา. จุลสารนี้ไม่พยายามจะยัดเยียดแง่คิดทางศาสนาของพวกพยานฯให้คุณหรือนักเรียนของคุณ. เราเพียงแต่ปรารถนาจะแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับหลักการและความเชื่อซึ่งนักเรียนของคุณบางคนได้รับการสอนจากบิดามารดาของเขา เพื่อคุณจะพบว่าเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่จะทั้งเข้าใจเด็ก ๆ ที่เป็นพยานฯและสอนเขา. แน่ละ สิ่งที่เด็ก ๆ ได้รับการสอนและสิ่งที่เขาทำอาจไม่สอดคล้องกันเสมอไป เพราะเด็กแต่ละคนกำลังเรียนรู้ที่จะพัฒนาสติรู้สึกผิดชอบของตนเอง.
เหมือนกับบิดามารดาส่วนใหญ่ พยานพระยะโฮวาต้องการให้ลูก ๆ ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเล่าเรียน. เพื่อจุดประสงค์นั้น พวกเขาจึงสอนลูก ๆ ให้ร่วมมือกับครู. ในมุมกลับ บิดามารดาที่เป็นพยานฯกับลูก ๆ รู้สึกหยั่งรู้ค่าเมื่อผู้สอนปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเข้าใจและความนับถือ.
พยานพระยะโฮวาเป็นคริสเตียนซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก. แต่บางครั้งพวกเขาถูกเข้าใจผิด. ฉะนั้น เราหวังว่า จุลสารนี้จะช่วยคุณให้เข้าใจเด็ก ๆ พยานฯที่อยู่ในความดูแลของคุณดีขึ้น. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราหวังว่า คุณจะเข้าใจเหตุผลที่เด็กพยานฯอาจอ้างสิทธิจะเป็นผู้ที่แตกต่างออกไปในสภาพการณ์บางอย่างโดยเฉพาะ.
-
-
พยานพระยะโฮวาคิดอย่างไรในเรื่องการศึกษาพยานพระยะโฮวาและการศึกษา
-
-
พยานพระยะโฮวาคิดอย่างไรในเรื่องการศึกษา
เหมือนกับบิดามารดาทุกคน พยานพระยะโฮวาเป็นห่วงเรื่องอนาคตของลูก. ดังนั้น พวกเขาจึงให้ความสำคัญมากแก่การศึกษา. “การศึกษาควรช่วยผู้คนให้เป็นสมาชิกที่เป็นประโยชน์ของสังคม. อนึ่ง การศึกษาควรช่วยพวกเขาพัฒนาความเข้าใจคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมของตนและดำเนินชีวิตที่น่าพอใจยิ่งขึ้น.”
ดังข้อความข้างต้นซึ่งยกมาจากสารานุกรมเดอะ เวิลด์ บุ๊ก ชี้แนะ หนึ่งในเป้าหมายหลักของการเล่าเรียนคือเพื่อฝึกอบรมเด็ก ๆ สำหรับการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึงการช่วยให้พวกเขาสามารถเอาใจใส่ความจำเป็นของครอบครัวในวันหนึ่งข้างหน้า. พยานพระยะโฮวาถือว่านี่เป็นหน้าที่รับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์. คัมภีร์ไบเบิลเองบอกดังนี้: “ถ้าแม้นผู้ใดไม่จัดหามาเลี้ยงคนเหล่านั้นซึ่งเป็นของตนเอง และโดยเฉพาะคนเหล่านั้นซึ่งเป็นสมาชิกแห่งครอบครัวของตน ผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธเสียซึ่งความเชื่อและนับว่าเลวร้ายกว่าคนที่ไม่มีความเชื่อเสียด้วยซ้ำ.” (1 ติโมเธียว 5:8, ล.ม.) หลายปีที่เรียนหนังสือเตรียมเด็ก ๆ ไว้สำหรับความรับผิดชอบซึ่งพวกเขาจะรับเอาในชีวิต. ฉะนั้น พยานฯจึงเห็นว่าควรถือการศึกษาเป็นเรื่องจริงจังอย่างยิ่ง.
“การศึกษาควรช่วยผู้คนให้เป็น สมาชิกที่เป็นประโยชน์ของสังคม. อนึ่ง การศึกษาควรช่วยพวกเขาพัฒนาความเข้าใจคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมของตน และดำเนินชีวิตที่น่าพอใจยิ่งขึ้น.”—สารานุกรมเดอะ เวิลด์ บุ๊ก
พยานฯพยายามดำเนินชีวิตประสานกับคำสั่งในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่า “ท่านจะกระทำสิ่งใด, ก็จงกระทำด้วยเต็มใจ, เหมือนกระทำถวายพระเจ้า, ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์.” (โกโลซาย 3:23) หลักการนี้ใช้กับทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน รวมทั้งในโรงเรียนด้วย. ดังนั้น พยานฯจึงสนับสนุนลูก ๆ ของเขาให้ขยันเรียนและทำงานซึ่งเขาได้รับมอบหมายที่โรงเรียนอย่างจริงจัง.
“ท่านจะทำสิ่งใด, ก็จงกระทำด้วยเต็มใจ, เหมือนกระทำถวายพระเจ้า.”—โกโลซาย 3:23
อนึ่ง คัมภีร์ไบเบิลสอนการยอมอยู่ใต้กฎหมายของประเทศที่คนเราอยู่. ดังนั้น เมื่อกฎหมายกำหนดให้ต้องจบการศึกษาภาคบังคับ พยานพระยะโฮวาจึงทำตามกฎหมายนี้.—โรม 13:1-7.
การหย่อนใจที่เป็นประโยชน์, ดนตรี, งานอดิเรก, กายบริหาร, และการไปเยี่ยมชมห้องสมุด และพิพิธภัณฑสถาน ล้วนมีบทบาทสำคัญในการศึกษาที่สมดุล
ถึงแม้จะไม่ประเมินความสำคัญของการฝึกอบรมเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันต่ำไป แต่คัมภีร์ไบเบิลก็เผยให้เห็นว่า การฝึกอบรมนี้ไม่ใช่เป้าหมายอย่างเดียวและสำคัญที่สุดของการศึกษา. การศึกษาที่ประสบผลสำเร็จควรส่งเสริมให้เด็ก ๆ มีความยินดีในการดำเนินชีวิตและช่วยพวกเขาให้เป็นสมาชิกที่มีความสมดุลเป็นอย่างดีของสังคม. ดังนั้น พยานพระยะโฮวาจึงเห็นว่าการเลือกกิจกรรมนอกหลักสูตรเป็นเรื่องสำคัญมาก. พวกเขาเชื่อว่าการหย่อนใจที่เป็นประโยชน์, ดนตรี, งานอดิเรก, กายบริหาร, การไปเยี่ยมชมห้องสมุดและพิพิธภัณฑสถาน, และอื่น ๆ มีบทบาทสำคัญในการศึกษาที่สมดุล. นอกจากนี้ พวกเขาสอนลูก ๆ ให้เคารพและหาโอกาสช่วยเหลือผู้สูงอายุด้วย.
การศึกษาเสริมล่ะจะว่าอย่างไร?
เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลาดงานจึงเปลี่ยนไปเสมอ. ยังผลให้คนหนุ่มสาวต้องทำงานในด้านหรือในสาขาอาชีพที่เขาไม่ได้รับ
-