-
การพิชิตทั้งซาตานและกิจการของมันหอสังเกตการณ์ 1995 | มกราคม 1
-
-
ของเราเสื่อมทรามไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเหมือนอัครสาวกเปาโลกล่าวเตือนไว้ที่ 2 โกรินโธ 11:3 ดังนี้: “แต่ข้าพเจ้าเกรงว่า, งูนั้นได้ล่อลวงนางฮาวาด้วยอุบายของมันฉันใด, จะมีเหตุอันหนึ่งอันใดล่อลวงจิตใจของท่านทั้งหลายให้หลงจากความสัตย์ซื่อและความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์ฉันนั้น.” ความเสื่อมเสียของบรรดาเนื้อหนังหรือสังคมมนุษยชาติที่ห่างเหินพระเจ้าในทุกวันนี้สะกิดใจเราให้นึกถึงความเสื่อมเสียซึ่ง “ผู้โค่นล้ม” ลูกพันธุ์ผสมที่เสื่อมทรามและรุนแรงในสมัยโนฮาก่อให้เกิด. (เยเนซิศ 6:4, 12, 13, ล.ม., เชิงอรรถ; ลูกา 17:26) เหตุฉะนั้น ไม่แปลกที่ซาตานจะกระทำการอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและอาศัยกลวิธีเพื่อระบายความโกรธแค้น โดยเฉพาะต่อไพร่พลของเจ้า.—1 เปโตร 5:8; วิวรณ์ 12:17.
22. เมื่อซาตานไม่ก่อกวนพวกเราอีกต่อไป จึงอาจคาดหมายจะรับพระพรอะไร?
22 ไม่มีการเอ่ยชื่อซาตานเสียด้วยซ้ำในบทท้าย ๆ ของพระธรรมโยบ. การท้าทายอันหยาบหยามของมันที่ว่ามนุษย์ไม่สามารถรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงต่อพระเจ้านั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริงก็โดยที่โยบได้แสดงความซื่อสัตย์มั่นคง. ทำนองเดียวกัน ในอนาคตอันใกล้เมื่อ “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งประกอบด้วยผู้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคงพากัน “ออกมาจากความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” ซาตานจะถูกกักไว้ในเหว. มนุษย์ชายหญิงที่มีความเชื่อ รวมทั้งโยบผู้ซื่อสัตย์จะสมทบกับ “ชนฝูงใหญ่” ร่วมรับพระพรนานัปการในอุทยาน เลอเลิศยิ่งกว่าบำเหน็จตอบแทนที่โยบเคยได้รับเสียอีก.—วิวรณ์ 7:9-17; 20:1-3, 11-13; โยบ 14:13.
-
-
ชนชาติที่รักษาความซื่อสัตย์มั่นคงหอสังเกตการณ์ 1995 | มกราคม 1
-
-
ชนชาติที่รักษาความซื่อสัตย์มั่นคง
“จงเปิดประตูเมืองออกเถิด เพื่อให้ชนชาติชอบธรรมซึ่งรักษาความซื่อสัตย์ไว้จะได้เข้าไปได้.”—ยะซายา 26:2.
1. ทำไมถ้อยแถลงของยะซายาเกี่ยวกับ “ชนชาติชอบธรรม” อาจก่อให้เกิดความประหลาดใจ?
สมัยนี้มีประเทศชาติต่าง ๆ มากมาย. บ้างก็เป็นประเทศประชาธิปไตย บ้างก็ปกครองโดยระบอบเผด็จการ. บางประเทศมั่งคั่งร่ำรวย บางประเทศยากจน. สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ทุกชาติเป็นส่วนของโลกซึ่งมีซาตานเป็นพระเจ้า. (2 โกรินโธ 4:4) เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ ถ้อยคำของยะซายาอาจยังความประหลาดใจแก่บางคนเมื่อท่านพูดว่า “จงเปิดประตูเมืองออกเถิด, เพื่อให้ชนชาติชอบธรรมซึ่งรักษาความซื่อสัตย์ไว้ได้เข้าไปได้.” (ยะซายา 26:2) ชนชาติชอบธรรมหรือ? ถูกแล้ว มีชนชาติชอบธรรม เนื่องจากคำพยากรณ์ชี้ถึงการดำรงอยู่ของชนชาติชอบธรรมในสมัยของเรา. จะรู้จักชนชาติที่ผิดธรรมดานี้โดยวิธีใด?
2. “ชนชาติชอบธรรม” คืออะไร? เรารู้ได้อย่างไร?
2 คัมภีร์ฉบับแปลโลกใหม่ (ภาษาอังกฤษ) ได้กล่าวถึงชนชาตินั้นที่ยะซายา 26:2 ว่า “รักษาความประพฤติซื่อสัตย์.” ฉบับคิงเจมส์ (ที่ช่องหมายเหตุ) ให้ความหมายข้อนี้ว่า “ชนชาติชอบธรรมซึ่งรักษาสัจจะ.” คำพรรณนาของทั้งสองฉบับนับว่าเหมาะสม. ที่จริง ชนชาติชอบธรรมนั้นสังเกตได้ง่าย เพราะเป็นชนชาติเดียวบนแผ่นดินโลกซึ่งยอมอยู่ใต้อำนาจพระมหากษัตริย์เยซูคริสต์ ฉะนั้น จึงไม่ใช่ส่วนของโลกซาตาน. (โยฮัน 17:16) เมื่อเป็นเช่นนั้น สมาชิกของชนชาตินี้จึงเป็นที่รู้จักกันว่า ‘รักษาความประพฤติอันดีงามท่ามกลางนานาชาติ.’ พวกเขาติดตามรูปแบบชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า. (1 เปโตร 2:12) ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหนในโลก เขาเป็นส่วนของ “ประชาคมของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ซึ่งเป็นหลัก และรากแห่งความจริง.” (1 ติโมเธียว 3:15, ล.ม.) ด้วยการส่งเสริมความจริง เขาปฏิเสธปรัชญานอกรีตที่คริสต์ศาสนจักรนำมาสอน และเขาส่งเสริม “น้ำนมอันไม่มีอะไรเจือปนที่เป็นของพระคำ” อันได้แก่คัมภีร์ไบเบิล พระคำของพระเจ้า. (1 เปโตร 2:2, ล.ม.) นอกเหนือจากนี้ เขาประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรอย่างกระตือรือร้น “แก่มนุษย์ทุกคนที่อยู่ใต้ฟ้า.” (โกโลซาย 1:23) จะมีข้อสงสัยใด ๆ ไหมที่ชนชาตินี้ประกอบด้วยชนที่เหลือแห่ง “ยิศราเอลของพระเจ้า” คือประชาคมคริสเตียนผู้ถูกเจิม? ไม่เลย.—ฆะลาเตีย 6:16.
ชนชาตินี้ถือกำเนิด
3. จงพรรณนาการกำเนิด “ชนชาติชอบธรรม” ว่าเป็นมาอย่างไร.
3 “ชนชาติชอบธรรม” มีขึ้นเมื่อไร? การเริ่มต้นของชาตินี้มีพยากรณ์ไว้ในพระธรรมยะซายา. ที่ยะซายา 66:7, 8 (ฉบับแปลใหม่) เราอ่านว่า “ก่อนที่นางจะปวดครรภ์ นางก็คลอดบุตร ก่อนที่ความเจ็บปวดจะมาถึงนาง นางก็ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง. . . . พอศิโยน [ซีโอน] ปวดครรภ์ เธอก็คลอดบุตรทั้งหลายของเธอ.” เป็นเรื่องที่ผิดธรรมดาอย่างยิ่ง ซีโอนหรือองค์การฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้าได้ให้กำเนิด “บุตรชาย” คนหนึ่งก่อนนางเจ็บครรภ์คลอดบุตร. ปี 1914 ราชอาณาจักรมาซีฮาได้รับการสถาปนาในสวรรค์. (วิวรณ์ 12:5) หลังจากนั้นหลายชาติได้พัวพันกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และคริสเตียนผู้ถูกเจิมทนความทุกข์ลำบากและการข่มเหงอย่างหนัก. ในที่สุด ในปี 1919 ชนชาติฝ่ายวิญญาณ “บุตรชาย” ก็ถูกนำออกมาบนแผ่นดินโลก. โดยวิธีนี้ กรุงซีโอน ‘ได้ให้กำเนิดบุตรทั้งหลายของเธอ’—สมาชิกผู้ถูกเจิมแห่ง “ชนชาติชอบธรรม”—และบุตรเหล่านี้ถูกรวบรวมเข้ามาสำหรับงานให้คำพยานซึ่งขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้ง.—มัดธาย 24:3, 7, 8, 14; 1 เปโตร 2:9.
4. ทำไมชนชาติชอบธรรมของพระเจ้าจึงต้องบากบั่นเพื่อรักษาความซื่อสัตย์มั่นคง?
4 นับตั้งแต่แรกทีเดียว ชนชาตินี้ได้เผชิญการทดลองอย่างหนักเกี่ยวกับประเด็นความซื่อสัตย์มั่นคงของตน. เพราะเหตุใด? เมื่อราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นมา ซาตานพร้อมกับพวกผีปิศาจถูกเหวี่ยงจากสวรรค์ลงมาที่แผ่นดินโลก. มีเสียงดังประกาศว่า “บัดนี้ความรอดและฤทธิ์เดชและราชอาณาจักรของพระเจ้าของเราและอำนาจของพระคริสต์ของพระองค์ได้มาถึงแล้ว เพราะว่าผู้กล่าวโทษพี่น้องของเราถูกเหวี่ยงลงแล้ว ผู้ซึ่งกล่าวโทษพวกเขาทั้งวันทั้งคืนต่อพระพักตร์พระเจ้าของเรา! และพวกเขาได้มีชัยชนะต่อมันเนื่องด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และเนื่องด้วยถ้อยคำแห่งการให้คำพยานของเขา และพวกเขาไม่ได้รักจิตวิญญาณของตนแม้จะเผชิญกับความตาย.” ซาตานได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ด้วยความโกรธแค้น “และออกไปทำสงครามกับผู้ที่เหลืออยู่แห่งพงศ์พันธุ์ของนาง ซึ่งปฏิบัติตามข้อบัญญัติต่าง ๆ ของพระเจ้าและมีงานเป็นพยานถึงพระเยซู.” เมื่อเผชิญกับการโจมตีอย่างดุเดือดของซาตาน คริสเตียนผู้ถูกเจิมได้ยืนหยัดมั่นคง. จวบจนถึงเวลานี้ สมาชิกผู้กระตือรือร้นของชนชาติชอบธรรมของพระเจ้าก็ยังคงแสดงความเชื่อในโลหิตของพระเยซูที่ประทานเป็นค่าไถ่ และให้พระยะโฮวามีคำตอบสำหรับผู้ที่ตำหนิพระองค์โดยการรักษาความซื่อสัตย์มั่นคง “แม้จะเผชิญกับความตาย.”—วิวรณ์ 12:1, 5, 9-12, 17; สุภาษิต 27:11.
5. พยานฯสมัยปัจจุบันมีทัศนะที่ดีเช่นไร ซึ่งได้ช่วยเขารักษาความซื่อสัตย์มั่นคง?
5 เมื่องานให้คำพยานเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าสมัยปัจจุบันได้เริ่มขึ้นในปี 1919 นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลซึ่งมีชื่อเรียกสมัยนี้ว่าพยานพระยะโฮวายังมีไม่มาก แต่มีความเชื่อเข้มแข็ง. คนเหล่านี้แหละกลายมาเป็นสมาชิกที่เป็นฐานรากของ ‘เมืองอันเข้มแข็งพร้อมกับมีความรอดเป็นกำแพงและปราการ.’ ความวางใจของเขาอยู่ใน ‘พระยะโฮวาผู้ทรงเป็นศิลาที่ตั้งมั่นคงไม่รู้สิ้นสุดเลย.’ (ยะซายา 26:1, 3, 4) เหมือนโมเซในสมัยโบราณ พวกเขาประกาศว่า “เราจะประกาศพระนามพระยะโฮวา จงถวายสาธุการในความเป็นใหญ่แก่พระเจ้าของเรา พระองค์เป็นศิลา, กิจการของพระองค์ดีรอบคอบ; เพราะทางทั้งปวงของพระองค์ยุติธรรม. พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความจริงปราศจากความอสัตย์, เป็นผู้ชอบธรรมและซื่อสัตย์.”—พระบัญญัติ 32:3, 4.
6. สมัยสุดท้ายนี้ พระยะโฮวาทรงอวยพรไพร่พลของพระองค์ในทางใด?
6 นับตั้งแต่เวลานั้น ประตูแห่งการจัดเตรียมโดยทางราชอาณาจักรของพระเจ้าเปิดไว้กว้างเสมอมา ทีแรกเป็นการรวบรวมชนที่เหลือในจำพวกผู้ถูกเจิม 144,000 คนเข้า
-