-
เลือด (จากหนังสือ การหาเหตุผลจากพระคัมภีร์ หน้า 70 ถึง 76)พระราชกิจ 2005 | ธันวาคม
-
-
การถ่ายเลือดเหมือนการกินเลือดจริง ๆ หรือ?
หากมีคนไข้คนใดในโรงพยาบาลกินอาหารทางปากไม่ได้ เขาจะได้รับอาหารทางเส้นเลือด. ดังนั้น คนหนึ่งคนใดซึ่งแม้จะไม่เคยเอาเลือดเข้าปาก แต่รับเอาการถ่ายเลือดจะถือว่าเขาเป็นผู้ที่เชื่อฟังพระบัญชาที่ให้ “ละเว้นเสมอจาก . . . เลือด” อย่างแท้จริงไหม? (กิจการ 15:29, ล.ม.) ในเชิงเปรียบเทียบ ขอให้พิจารณาชายคนหนึ่งซึ่งหมอห้ามไม่ให้เขาดื่มสุรา. จะถือว่าเขาเชื่อฟังหมอได้ไหมหากเขาเลิกดื่มสุราแต่กลับฉีดสุราเข้าไปในเส้นเลือดของตน?
ในกรณีที่คนไข้ปฏิเสธการถ่ายเลือด มีการรักษาแบบอื่นแทนการถ่ายเลือดไหม?
บ่อยครั้งเพียงแต่น้ำเกลือ, สารละลายริงเกอร์, และเดกซ์แทรน ก็อาจนำมาใช้เป็นสารขยายปริมาตรพลาสมาได้ และสารน้ำเหล่านี้มีใช้ตามโรงพยาบาลสมัยใหม่เกือบทุกแห่ง. ที่จริง จะหลีกเลี่ยงการเสี่ยงอันตรายจากการถ่ายเลือด โดยการใช้สารน้ำเหล่านี้. วารสารสมาคมวิสัญญีแพทย์แห่งแคนาดา (ฉบับมกราคม 1975 หน้า 12, ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “ข้อได้เปรียบของสารที่ใช้ทดแทนปริมาตรพลาสมา คือลดการเสี่ยงต่ออันตรายที่มาจากการถ่ายเลือด เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส และปฏิกิริยาระหว่างเลือดต่างหมู่กัน.” พยานพระยะโฮวาไม่มีข้อคัดค้านทางด้านศาสนาหากจะมีการใช้สารขยายปริมาตรพลาสมาที่ไม่มีส่วนประกอบของเลือด.
ที่จริงพยานพระยะโฮวาได้รับประโยชน์จากการรักษาที่ดีกว่าทางการแพทย์ เนื่องจากพวกเขาไม่รับเลือด. แพทย์ท่านหนึ่งเขียนลงในวารสารสูติ-นรีเวชแห่งอเมริกา (ฉบับ 1 มิถุนายน 1968 หน้า 395) ยอมรับว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า หากคุณ [ศัลยแพทย์] ต้องทำการผ่าตัดโดยที่ไม่มีการถ่ายเลือด นั่นย่อมมีส่วนเสริมให้คุณเป็นศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญยิ่งขึ้น. ทำให้คุณเด็ดขาดยิ่งขึ้นในการหนีบหลอดเลือดทุกหลอดที่มีเลือดไหลออก.”
การผ่าตัดทุกรูปแบบกระทำได้อย่างสำเร็จผลโดยไม่มีการถ่ายเลือด. นี่รวมถึงการผ่าตัดเปิดหัวใจ, การผ่าตัดสมอง, การตัดแขนขา, และการตัดทิ้งอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายที่เป็นมะเร็ง. นายแพทย์ฟิลิป โรเอน เขียนลงในวารสารการแพทย์แห่งมลรัฐนิวยอร์ก (ฉบับ 15 ตุลาคม 1972 หน้า 2527, ภาษาอังกฤษ) ว่า “เราไม่เคยลังเลใจที่จะทำการผ่าตัดใด ๆ แม้แต่เมื่อมีการสั่งห้ามไม่ให้เติมเลือด.” นายแพทย์เด็นตัน คูลีย์จากสถาบันโรคหัวใจแห่งมลรัฐเทกซัสกล่าวว่า “เราเกิดความประทับใจมากจากผลที่เกิดขึ้น [จากการใช้สารขยายปริมาตรพลาสมาที่ไม่มีส่วนประกอบของเลือด] กับพวกพยานพระยะโฮวาถึงขนาดที่เราเริ่มใช้วิธีการเดียวกันนี้กับคนไข้โรคหัวใจทุกคนที่มาหาเรา.” (เดอะ แซนดิเอโก ยูเนียน, 27 ธันวาคม 1970 หน้า เอ–10, ภาษาอังกฤษ) “การผ่าตัดเปิดหัวใจ ‘โดยไม่ใช้เลือด’ ซึ่งเดิมพัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการแก่ผู้ใหญ่ที่เป็นพยานพระยะโฮวาเนื่องจากศาสนาของพวกเขาห้ามการถ่ายเลือด บัดนี้ได้รับการปรับปรุงถึงขั้นที่ปลอดภัยเพื่อจะใช้ในการผ่าตัดหัวใจทารกและเด็ก ๆ ซึ่งต้องใช้ความละเอียดอ่อน.”—คาดิโอแว็สคิวละ นิวส์, (ภาษาอังกฤษ) ฉบับ กุมภาพันธ์ 1984 หน้า 5.
หากบางคนพูดว่า—
‘คุณยอมให้ลูกของคุณเสียชีวิตเพราะคุณไม่ยอมรับการถ่ายเลือด. ผม [ดิฉัน] คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่แย่มาก’
คุณอาจตอบว่า: ‘แต่เรายอมให้พวกเขารับสารน้ำผ่านทางเส้นเลือดซึ่งปลอดภัยกว่า. การรับสารน้ำที่ไม่ใช่เลือดทำให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ อย่างเช่น เอดส์, ตับอักเสบ, และมาลาเรีย. เราต้องการการรักษาที่ดีที่สุด เพื่อลูก ๆ ของเรา และผม [ดิฉัน] ก็แน่ใจด้วยว่านี่เป็นความประสงค์ของบิดามารดาทุกคนที่รักลูก.’ จากนั้นอาจเสริมว่า: (1) ‘เมื่อเกิดการสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือการทดแทนปริมาตรพลาสมาที่เสียไป. คุณคงรู้ว่า เลือดของเราประกอบไปด้วยน้ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์; แล้วก็มีเม็ดเลือดแดง, เม็ดเลือดขาว, และอื่น ๆ. เมื่อเสียเลือดไปจำนวนมาก ร่างกายสามารถสร้างเม็ดเลือดใหม่ ๆ ขึ้นมาแล้วส่งเข้าสู่กระแสเลือดของร่างกาย แต่ต้องมีการทดแทนปริมาตรพลาสมา. สารขยายปริมาตรพลาสมาที่ไม่มีส่วนประกอบของเลือดนำมาใช้เพื่อสนองความจำเป็นในเรื่องนี้ได้ และพวกเรายอมรับสารเหล่านั้น.’ (2) ‘มีการใช้สารขยายปริมาตรพลาสมากับผู้คนเป็นจำนวนพัน ๆ มาแล้ว พร้อมกับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม.’ (3) ‘เหตุผลสำคัญยิ่งกว่านี้อีกสำหรับพวกเราก็คือข้อความที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ที่กิจการ 15:28, 29.’
หรือคุณอาจพูดว่า: ‘ผม [ดิฉัน] เข้าใจแง่คิดของคุณในเรื่องนี้. ผม [ดิฉัน] สันนิษฐานว่าคุณกำลังนึกภาพว่าลูกของคุณอยู่ในสถานการณ์นี้. ในฐานะบิดามารดา เราย่อมทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อปกป้องสวัสดิภาพแห่งลูก ๆ ของเรามิใช่หรือ? ดังนั้น หากคนอย่างคุณและผม [ดิฉัน] ปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกของเรารับการรักษาทางการแพทย์บางอย่าง นั่นย่อมแสดงว่าต้องมีเหตุผลหนักแน่นบางอย่างที่กระตุ้นให้เราทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน.’ จากนั้นอาจเสริมว่า: (1) ‘คุณคิดว่า จะมีบิดามารดาบางคนไหมที่ได้รับแรงกระตุ้นเนื่องด้วยสิ่งที่พระคำของพระเจ้ากล่าวไว้ที่นี่ที่กิจการ 15:28, 29?’ (2) ‘ดังนั้นมีคำถามว่า เรามีความเชื่อพอที่จะทำตามพระบัญชาของพระเจ้าไหม?’
‘พวกคุณไม่ยอมรับการถ่ายเลือด’
คุณอาจพูดว่า: ‘หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ได้ลงเรื่องเกี่ยวกับบางสภาพการณ์ซึ่งพวกเขาคิดว่า ในบางกรณีพวกพยานฯ คงจะตายถ้าเขาไม่ยอมรับเลือด. ไม่ทราบว่าคุณหมายถึงสิ่งนี้ไหม? . . . ทำไมพวกเราจึงมีจุดยืนเช่นนี้?’ จากนั้นอาจเสริมว่า: (1) ‘คุณรักภรรยา [สามี] ของคุณพอที่จะยอมเสี่ยงชีวิตของคุณเพื่อเธอ [เขา] ไหม? . . . ยังมีชายบางคนที่ยอมเสี่ยงชีวิตของตนเพื่อประเทศชาติ และพวกเขาก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นวีรบุรุษมิใช่หรือ? ถึงกระนั้น มีผู้หนึ่งซึ่งยิ่งใหญ่กว่าทุกคนหรือทุกสิ่งบนโลกนี้ และผู้นั้นก็คือพระเจ้า. คุณจะยอมเสี่ยงชีวิตของคุณเพื่อพระองค์ เนื่องจากคุณมีความรักและความภักดีต่อการปกครองของพระองค์ไหม?’ (2) ‘ประเด็นที่แท้จริงในที่นี้ก็คือความภักดีต่อพระเจ้า. พระคำของพระเจ้าเองบอกเราให้ละเว้นจากเลือด. (กิจการ 15:28, 29)’
หรือคุณอาจพูดว่า: ‘มีหลายสิ่งในทุกวันนี้ที่ถือกันว่าเป็นเรื่องธรรมดาและที่พยานพระยะโฮวาหลีกเลี่ยง เช่น การโกหก, การเล่นชู้, การขโมย, การสูบบุหรี่, และอย่างที่คุณกล่าวมาคือการใช้เลือด. ทำไมล่ะ? ก็เพราะเราดำเนินชีวิตตามการชี้นำแห่งพระคำของพระเจ้า.’ จากนั้นอาจเสริมว่า: (1) ‘คุณทราบไหมว่าคัมภีร์ไบเบิล บอกว่าเราต้อง ‘ละเว้นจากเลือด’? ผม [ดิฉัน] อยากจะเปิดให้คุณดู. (กิจ. 15:28, 29)’ (2) ‘คุณคงจำได้ว่าพระเจ้าทรงบัญชาแก่อาดามกับฮาวาบิดามารดาคู่แรกของเราว่า เขาจะกินผลไม้ในสวนเอเดนได้ทุกต้นเว้นไว้ต้นเดียว. แต่เขาไม่ได้เชื่อฟังและกินผลไม้ที่ต้องห้ามนั้น จึงสูญเสียทุกสิ่ง. ไม่ฉลาดสุขุมอะไรเช่นนี้! แน่นอน ในทุกวันนี้ไม่มีต้นไม้ที่มีผลไม้ที่ต้องห้าม. แต่หลังจากน้ำท่วมในสมัยของโนฮา อีกครั้งหนึ่งที่พระเจ้าทรงมีพระบัญชาห้ามข้อหนึ่งสำหรับมนุษยชาติ. คราวนี้เกี่ยวข้องกับเลือด. (เย. 9:3, 4)’ (3) ‘ดังนั้น ปัญหาที่แท้จริงก็คือเรามีความเชื่อในพระเจ้าไหม? หากเราเชื่อฟังพระองค์ เรามีความหวังที่จะมีชีวิตนิรันดร์ในสภาพสมบูรณ์ภายใต้ราชอาณาจักรของพระองค์อยู่ต่อหน้าเรา. แม้เราจะตาย พระองค์ทรงรับรองกับเราในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย.’
‘จะว่าอย่างไรหากหมอบอกว่า “คุณจะตายถ้าไม่รับการถ่ายเลือด”?’
คุณอาจตอบว่า: ‘ถ้าสถานการณ์ร้ายแรงถึงขั้นนี้แล้ว หมอคนนั้นจะรับประกันได้ไหมว่าคนไข้จะไม่ตายถ้ามีการเติมเลือด?’ จากนั้นอาจเสริมว่า: ‘แต่มีผู้หนึ่งซึ่งอาจทำให้คนเรามีชีวิตอีก และผู้นั้นก็คือพระเจ้า. คุณไม่เห็นด้วยหรือที่ว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย การหันหลังให้กับพระเจ้าโดยการละเมิดกฎหมายของพระองค์ย่อมเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดสุขุม? ผม [ดิฉัน] มีความเชื่ออย่างแท้จริงในพระเจ้า. คุณล่ะครับ/คะ? พระคำของพระองค์ให้คำมั่นสัญญาในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายสำหรับคนเหล่านั้นที่แสดงความเชื่อในพระบุตรของพระองค์. คุณเชื่ออย่างนั้นไหม? (โยฮัน 11:25)’
หรือคุณอาจพูดว่า: ‘อาจหมายความว่าหมอคนนั้นไม่ทราบวิธีรักษาที่ไม่จำเป็นต้องใช้เลือด. หากเป็นไปได้ เราจะพยายามให้เขาติดต่อกับหมอที่เคยมีประสบการณ์ที่จำเป็นในด้านนี้มาแล้ว หรือไม่เราก็จะขอรับการรักษาจากหมออื่น.’
-
-
การทบทวนโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าพระราชกิจ 2005 | ธันวาคม
-
-
การทบทวนโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้า
คำถามต่อไปนี้จะมีการพิจารณาปากเปล่าในโรงเรียนการรับใช้ตามระบอบของพระเจ้าระหว่างสัปดาห์ซึ่งเริ่มวันที่ 26 ธันวาคม 2005. ผู้ดูแลโรงเรียนจะดำเนินการทบทวน 30 นาทีโดยอาศัยเนื้อหาที่ครอบคลุมส่วนมอบหมายในสัปดาห์ 7 พฤศจิกายน จนถึง 26 ธันวาคม 2005. [หมายเหตุ: สำหรับคำถามที่ไม่มีข้ออ้างอิง คุณจำต้องทำการค้นคว้าด้วยตัวเองเพื่อจะได้คำตอบ—ดูคู่มือโรงเรียนการรับใช้ หน้า 36-37.]
ลักษณะการพูด
1. เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแน่ใจว่าเราให้คำกระตุ้นเตือน ‘โดยอาศัยความรัก’? (ฟิเล. 9) [โรงเรียน หน้า 266]
2. เราจะ “กระตุ้นเตือนโดยคำสอนที่ก่อประโยชน์” ได้อย่างไร? (ติโต 1:9, ล.ม.) [โรงเรียน หน้า 266 วรรค 5 และ 267 วรรค 1]
3. เหตุใดเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้คำบรรยายของเราเป็นการหนุนใจ และเราจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร? [โรงเรียน หน้า 268 วรรค 1-3 และกรอบ]
4. โดยการเลียนแบบโมเซ การช่วยผู้อื่นให้นึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทำเพื่อประชาชนของพระองค์จะหนุนกำลังใจคนอื่น ๆ อย่างไร? (บัญ. 3:28; 31:1-8) [โรงเรียน หน้า 268 วรรค 5 ถึงหน้า 269 วรรค 1]
5. เหตุใดการพูดด้วยความชื่นชมยินดีเกี่ยวกับสิ่งที่พระยะโฮวาทรงทำอยู่ในขณะนี้ และเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์จะทำในอนาคตจึงเป็นการหนุนใจผู้ฟัง? [โรงเรียน หน้า 270-271]
การมอบหมายที่ 1
6. เซปตัวจินต์ คืออะไร และเหตุใดจึงน่าสนใจสำหรับคริสเตียน? [ทุกตอน หน้า 390 วรรค 12-14]
7. พวกมาโซเรตคือใคร และพวกเขาได้ให้การช่วยเหลือที่สำคัญเช่นไรสำหรับการแปลคัมภีร์ไบเบิล? [ทุกตอน หน้า 391 วรรค 18; หน้า 392 วรรค 20-21]
8. ฉบับแปลใดเป็นข้อความพื้นฐานสำหรับภาคภาษาฮีบรูของฉบับแปลโลกใหม่? และเหตุใดจึงกล่าวได้ว่าการแปลนี้น่าเชื่อถือและไว้ใจได้? [ทุกตอน หน้า 394 วรรค 28, 30]
9. คริสเตียนรุ่นแรกแสดงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะประกาศพระคำของพระเจ้าอย่างไร? [ทุกตอน หน้า 397 วรรค 1-5]
10. การศึกษาสำเนาต้นฉบับและข้อความในพระคัมภีร์บริสุทธิ์เผยให้เห็นอะไรเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล? [ทุกตอน หน้า 403 วรรค 32]
การอ่านพระคัมภีร์ประจำสัปดาห์
11. เหตุใดจึงมีการใช้รูปโคเป็นฐานของทะเลหล่อ? (2 โคร. 4:2-4) [หอฯ 1/12/05 “พระคำของพระยะโฮวามีชีวิต—จุดเด่นจากพระธรรมโครนิกาฉบับสอง”]
12. ในคำอธิษฐานของซะโลโมคราวการอุทิศพระวิหาร ท่านยอมรับอย่างไรว่าพระยะโฮวาไม่เพียงใส่ใจต่อความจำเป็นของผู้รับใช้พระองค์ฐานะเป็นกลุ่มเท่านั้น แต่ทรงทราบสภาพการณ์เฉพาะอย่างของแต่ละบุคคลที่ยำเกรงพระองค์
-