-
พระยะโฮวาทรงเป็น “ผู้ไขความลับลึก”หอสังเกตการณ์ 2012 | 15 มิถุนายน
-
-
พระยะโฮวาทรงเป็น “ผู้ไขความลับลึก”
“พระเจ้าของท่านเป็นพระของพระทั้งปวงอย่างแม่นมั่น, และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของกษัตริย์ทั้งหลาย, และเป็นผู้ไขความลับลึกออกได้.”—ดานิ. 2:47
คุณจะตอบอย่างไร?
พระยะโฮวาทรงเปิดเผยให้เราทราบรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับอนาคต?
หกหัวแรกของสัตว์ร้ายหมายถึงมหาอำนาจใด?
เราพบความสัมพันธ์เช่นไรระหว่างสัตว์ร้ายกับรูปปั้นที่นะบูคัดเนซัรเห็นในความฝัน?
1, 2. พระยะโฮวาทรงเปิดเผยอะไรแก่เรา และเหตุใดพระองค์ทรงทำเช่นนั้น?
รัฐบาลใดจะเป็นมหาอำนาจโลกตอนที่ราชอาณาจักรของพระเจ้านำอวสานมาสู่การปกครองของมนุษย์? เรารู้คำตอบ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้า “ผู้ไขความลับลึก” ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่เรา. พระองค์ทรงช่วยเราให้เข้าใจว่าเป็นรัฐบาลไหนโดยอาศัยข้อเขียนของผู้พยากรณ์ดานิเอลและอัครสาวกโยฮัน.
2 พระยะโฮวาทรงเปิดเผยนิมิตที่ต่อเนื่องกันเกี่ยวกับการสืบทอดอำนาจของสัตว์ร้ายแก่ท่านทั้งสอง. พระองค์ยังทรงบอกดานิเอลด้วยเกี่ยวกับความหมายของรูปปั้นมหึมาที่เป็นโลหะซึ่งปรากฏอยู่ในความฝันที่เป็นนิมิต. พระยะโฮวาทรงให้มีการบันทึกและเก็บรักษาเรื่องราวเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของเรา. (โรม 15:4) พระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อทำให้เรามั่นใจมากขึ้นในความหวังที่ว่าในไม่ช้าราชอาณาจักรของพระองค์จะบดขยี้รัฐบาลทั้งสิ้นของมนุษย์.—ดานิ. 2:44
3. เพื่อจะเข้าใจคำพยากรณ์อย่างถูกต้อง เราต้องเข้าใจอะไรก่อน และเพราะเหตุใด?
3 เมื่อพิจารณาบันทึกของดานิเอลและโยฮันประกอบกัน บันทึกเหล่านั้นไม่เพียงแต่จะบอกว่ากษัตริย์แปดองค์หรือการปกครองของมนุษย์ได้แก่ใคร แต่ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าอำนาจปกครองเหล่านั้นจะปรากฏขึ้นตามลำดับอย่างไร. อย่างไรก็ตาม เราจะเข้าใจคำพยากรณ์นั้นได้ถูกต้องก็ต่อเมื่อเราเข้าใจคำพยากรณ์แรกสุดที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล. เพราะเหตุใด? เพราะคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่มและคำพยากรณ์ทั้งหมดในพระคัมภีร์เชื่อมโยงกับคำพยากรณ์นี้.
ผู้สืบเชื้อสายของงูกับสัตว์ร้าย
4. ใครประกอบกันเป็นผู้สืบเชื้อสายของหญิง และผู้สืบเชื้อสายนี้จะทำอะไร?
4 ไม่นานหลังจากที่เกิดการขืนอำนาจในสวนเอเดน พระยะโฮวาทรงทำสัญญาข้อหนึ่งว่า “หญิง” จะให้กำเนิด “เผ่าพันธุ์ [“ผู้สืบเชื้อสาย,” ล.ม.].”a (อ่านเยเนซิศ 3:15) ในที่สุด ผู้สืบเชื้อสายนี้จะบดขยี้หัวของงู คือซาตาน. ในภายหลัง พระยะโฮวาทรงเปิดเผยว่าผู้สืบเชื้อสายนี้จะมาทางเชื้อวงศ์ของอับราฮาม จะมาเกิดในชาติอิสราเอล จะอยู่ในตระกูลยูดาห์ และจะเป็นลูกหลานคนหนึ่งของกษัตริย์ดาวิด. (เย. 22:15-18; 49:10; เพลง. 89:3, 4; ลูกา 1:30-33) ผู้สืบเชื้อสายหลักได้แก่พระคริสต์เยซู. (กลา. 3:16) ผู้สืบเชื้อสายอันดับรองประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณของประชาคมคริสเตียน. (กลา. 3:26-29) ผู้ถูกเจิมได้เข้ามาร่วมกับพระเยซูเพื่อก่อตั้งราชอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พระเจ้าจะใช้เพื่อบดขยี้ทำลายซาตาน.—ลูกา 12:32; โรม 16:20
5, 6. (ก) ดานิเอลและโยฮันระบุว่ามีมหาอำนาจกี่มหาอำนาจ? (ข) หัวของสัตว์ร้ายในหนังสือวิวรณ์หมายถึงอะไร?
5 คำพยากรณ์แรกในสวนเอเดนยังบอกด้วยว่าซาตานจะมี “พงศ์พันธุ์ [“ผู้สืบเชื้อสาย,” ล.ม.].” ผู้สืบเชื้อสายของมันจะแสดงความเป็นปฏิปักษ์หรือความเกลียดชังต่อผู้สืบเชื้อสายของหญิง. ใครประกอบกันเป็นผู้สืบเชื้อสายของงู? ทุกคนที่เลียนแบบซาตานด้วยการเกลียดชังพระเจ้าและต่อต้านประชาชนของพระองค์. ตลอดประวัติศาสตร์ ซาตานรวบรวมผู้สืบเชื้อสายของมันในรูปขบวนการทางการเมืองหรืออาณาจักรต่าง ๆ. (ลูกา 4:5, 6) อย่างไรก็ตาม มีอาณาจักรของมนุษย์เพียงไม่กี่อาณาจักรที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อประชาชนของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นชาติอิสราเอลหรือประชาคมคริสเตียนผู้ถูกเจิม. เหตุใดข้อเท็จจริงนี้จึงสำคัญ? เพราะเรื่องนี้อธิบายว่าทำไมนิมิตที่ดานิเอลและโยฮันเห็นจึงพรรณนาถึงมหาอำนาจทั้งหมดเพียงแค่แปดมหาอำนาจ.
6 เมื่อใกล้จะสิ้นศตวรรษแรกแห่งสากลศักราช พระเยซูผู้ถูกปลุกให้คืนพระชนม์ประทานนิมิตหลายนิมิตที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่อัครสาวกโยฮัน. (วิ. 1:1) ในนิมิตหนึ่ง โยฮันเห็นพญานาค ซึ่งก็คือพญามาร ยืนอยู่ที่ชายฝั่งของทะเลที่กว้างใหญ่. (อ่านวิวรณ์ 13:1, 2) โยฮันยังได้เห็นสัตว์ที่แปลกประหลาดตัวหนึ่งซึ่งมีเจ็ดหัวขึ้นมาจากทะเลและได้รับอำนาจใหญ่ยิ่งจากพญามารด้วย. ต่อมา โยฮันเห็นสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งที่มีสีแดงเข้มและมีเจ็ดหัวเช่นกัน. สัตว์ร้ายสีแดงเข้มนี้คือรูปของสัตว์ร้ายที่ถูกกล่าวถึงในวิวรณ์ 13:1. ทูตสวรรค์องค์หนึ่งบอกโยฮันว่าหัวเจ็ดหัวของสัตว์ร้ายสีแดงเข้มหมายถึง “กษัตริย์เจ็ดองค์” หรือรัฐบาล. (วิ. 13:14, 15; 17:3, 9, 10) ตอนที่โยฮันเขียนหนังสือวิวรณ์ กษัตริย์ห้าองค์หมดอำนาจไปแล้ว องค์หนึ่งมีอำนาจอยู่ในขณะนั้น และอีกองค์หนึ่ง “ยังไม่มา.” อาณาจักรหรือมหาอำนาจโลกเหล่านั้นได้แก่มหาอำนาจใดบ้าง? ขอให้เรามาพิจารณาหัวแต่ละหัวของสัตว์ร้ายที่พรรณนาในหนังสือวิวรณ์. เราจะเห็นด้วยว่าบันทึกของดานิเอลให้รายละเอียดที่ช่วยให้เข้าใจอาณาจักรเหล่านี้มากขึ้นอย่างไร ซึ่งบางครั้งเขียนไว้ก่อนที่จะมีอาณาจักรเหล่านั้นหลายศตวรรษ.
อียิปต์และอัสซีเรีย—สองหัวแรก
7. หัวแรกหมายถึงอะไร และเพราะเหตุใด?
7 หัวแรกของสัตว์ร้ายหมายถึงอียิปต์. เพราะเหตุใด? เพราะอียิปต์เป็นมหาอำนาจแรกที่แสดงความเป็นศัตรูต่อประชาชนของพระเจ้า. ผู้สืบเชื้อสายของหญิงที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้จะเกิดมาจากลูกหลานของอับราฮามซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมายในอียิปต์. ต่อมา อียิปต์กดขี่ชาติอิสราเอล. ซาตานพยายามกวาดล้างประชาชนของพระเจ้าเพื่อผู้สืบเชื้อสายนั้นจะมาเกิดในชาตินี้ไม่ได้. โดยวิธีใด? โดยกระตุ้นฟาโรห์ให้สังหารทารกชายชาวอิสราเอลทั้งหมด. พระยะโฮวาทรงขัดขวางความพยายามดังกล่าวและทรงปลดปล่อยประชาชนของพระองค์จากการเป็นทาสของอียิปต์. (เอ็ก. 1:15-20; 14:13) ต่อมา พระองค์ทรงโปรดให้พวกเขาตั้งรกรากในแผ่นดินที่พระองค์ทรงสัญญา.
8. หัวที่สองได้แก่อาณาจักรใด และอาณาจักรนี้พยายามทำอะไร?
8 หัวที่สองของสัตว์ร้ายหมายถึงอัสซีเรีย. อาณาจักรที่มีอำนาจมากนี้ได้พยายามกวาดล้างประชาชนของพระเจ้าด้วย. จริงอยู่ พระยะโฮวาทรงใช้อัสซีเรียเป็นเครื่องมือในการลงโทษอาณาจักรสิบตระกูลเพราะการไหว้รูปเคารพและการขืนอำนาจของพวกเขา. แต่ต่อมาอัสซีเรียก็โจมตีกรุงเยรูซาเลม. ซาตานอาจมีเป้าหมายที่จะทำลายล้างราชวงศ์ที่ในที่สุดจะนำไปถึงพระเยซู. การทำลายนั้นไม่ใช่พระประสงค์ของพระยะโฮวา และพระองค์ทรงช่วยประชาชนที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ให้รอดอย่างอัศจรรย์ด้วยการทำลายผู้รุกราน.—2 กษัต. 19:32-35; ยซา. 10:5, 6, 12-15
บาบิโลน—หัวที่สาม
9, 10. (ก) พระยะโฮวาทรงอนุญาตให้ชาวบาบิโลนทำอะไร? (ข) เพื่อคำพยากรณ์จะสำเร็จเป็นจริง จะต้องมีอะไรเกิดขึ้น?
9 หัวที่สามของสัตว์ร้ายที่โยฮันเห็นหมายถึงอาณาจักรที่มีบาบิโลนเป็นเมืองหลวง. พระยะโฮวาทรงอนุญาตให้กองทัพบาบิโลนพิชิตกรุงเยรูซาเลมและจับประชาชนของพระองค์ไปเป็นเชลย. แต่ก่อนที่พระยะโฮวาจะยอมให้เกิดความอัปยศนี้ พระองค์ทรงเตือนชาวอิสราเอลที่ขืนอำนาจว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้กับพวกเขา. (2 กษัต. 20:16-18) พระองค์ทรงบอกล่วงหน้าว่าเชื้อวงศ์ของกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ที่นั่งบน “พระที่นั่งของพระยะโฮวา” ในกรุงเยรูซาเลมจะถูกถอดออก. (1 โคร. 29:23) อย่างไรก็ตาม พระยะโฮวาทรงสัญญาด้วยว่าผู้สืบเชื้อวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดซึ่งมี “สิทธิ์อันชอบธรรม” จะมาทวงอำนาจคืน.—ยเอศ. 21:25-27, ฉบับ R73
10 คำพยากรณ์อีกข้อหนึ่งระบุว่าชาวยิวจะยังคงนมัสการ ณ พระวิหารในกรุงเยรูซาเลมเมื่อพระมาซีฮาหรือผู้ถูกเจิมที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้มาถึง. (ดานิ. 9:24-27) คำพยากรณ์หนึ่งก่อนหน้านั้น ซึ่งเขียนก่อนที่ชาวอิสราเอลจะถูกจับไปเป็นเชลยในบาบิโลน กล่าวว่าพระมาซีฮาจะประสูติที่เมืองเบทเลเฮม. (มีคา 5:2) เพื่อคำพยากรณ์เหล่านี้จะสำเร็จเป็นจริงได้ ชาวยิวจะต้องถูกปลดปล่อยจากการเป็นเชลย กลับสู่มาตุภูมิ และสร้างพระวิหารขึ้นใหม่. แต่บาบิโลนไม่มีนโยบายปล่อยตัวเชลย. จะมีการแก้ปัญหานี้อย่างไร? พระยะโฮวาทรงเปิดเผยคำตอบแก่ผู้พยากรณ์ของพระองค์.—อาโมศ 3:7
11. พระคัมภีร์แสดงภาพจักรวรรดิบาบิโลนไว้เช่นไร? (โปรดดูเชิงอรรถ)
11 ผู้พยากรณ์ดานิเอลอยู่ในกลุ่มเชลยที่ถูกจับไปบาบิโลน. (ดานิ. 1:1-6) พระยะโฮวาทรงใช้ท่านให้เปิดเผยลำดับของอาณาจักรต่าง ๆ ที่จะเป็นมหาอำนาจโลกต่อจากบาบิโลน. พระยะโฮวาทรงเปิดเผยความลับเหล่านี้โดยใช้สัญลักษณ์หลายอย่าง. ตัวอย่างเช่น พระองค์ทรงบันดาลให้นะบูคัดเนซัรกษัตริย์บาบิโลนฝันเห็นรูปปั้นมหึมาที่ทำด้วยโลหะหลายชนิด. (อ่านดานิเอล 2:1, 19, 31-38) โดยทางดานิเอล พระยะโฮวาทรงเปิดเผยว่าหัวทองคำของรูปปั้นนี้หมายถึงจักรวรรดิบาบิโลน.b อกและแขนที่ทำด้วยเงินเป็นภาพหมายถึงมหาอำนาจโลกถัดจากบาบิโลน. มหาอำนาจนั้นจะได้แก่มหาอำนาจใด และมหาอำนาจนั้นจะปฏิบัติต่อประชาชนของพระเจ้าอย่างไร?
มิโด-เปอร์เซีย—หัวที่สี่
12, 13. (ก) พระยะโฮวาทรงเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับการพิชิตบาบิโลน? (ข) เหตุใดจึงเหมาะที่มิโด-เปอร์เซียถูกพรรณนาว่าเป็นหัวที่สี่ของสัตว์ร้าย?
12 กว่าหนึ่งศตวรรษก่อนสมัยของดานิเอล พระยะโฮวาทรงเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมหาอำนาจโลกที่จะพิชิตบาบิโลนโดยทางผู้พยากรณ์ยะซายาห์. พระยะโฮวาไม่เพียงแต่เปิดเผยว่ากรุงบาบิโลนจะถูกพิชิตอย่างไร แต่ทรงบอกชื่อของผู้พิชิตด้วย. ผู้นำนั้นได้แก่ไซรัส กษัตริย์เปอร์เซีย. (ยซา. 44:28–45:2) ดานิเอลได้รับนิมิตอีกสองนิมิตที่เกี่ยวกับมหาอำนาจโลกมิโด-เปอร์เซีย. นิมิตหนึ่งพรรณนาว่าอาณาจักรนี้เป็นเหมือนหมียืนตะแคงอยู่ข้างหนึ่ง. มีคำสั่งให้มัน “กินเนื้อมาก ๆ.” (ดานิ. 7:5) ในอีกนิมิตหนึ่ง ดานิเอลเห็นแกะตัวผู้ที่มีสองเขาซึ่งเป็นสัญลักษณ์หมายถึงมหาอำนาจคู่ดังกล่าว.—ดานิ. 8:3, 20
13 พระยะโฮวาทรงใช้จักรวรรดิมิโด-เปอร์เซียเพื่อทำให้คำพยากรณ์สำเร็จเป็นจริงด้วยการพิชิตกรุงบาบิโลนและนำชาวอิสราเอลกลับสู่มาตุภูมิ. (2 โคร. 36:22, 23) อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมามหาอำนาจเดียวกันนี้เกือบทำลายล้างประชาชนของพระเจ้า. หนังสือเอศเธระในคัมภีร์ไบเบิลบันทึกเรื่องแผนชั่วของนามาน มหาเสนาบดีของเปอร์เซีย. เขาวางแผนทำลายล้างชาวยิวทั้งหมดที่อยู่ในจักรวรรดิเปอร์เซียอันกว้างใหญ่และกำหนดวันหนึ่งไว้ที่จะฆ่าล้างชาติพันธุ์ชาวยิว. เพราะพระยะโฮวาทรงเข้าแทรกแซง ประชาชนของพระองค์จึงได้รับการปกป้องไว้อีกครั้งหนึ่งจากผู้สืบเชื้อสายของซาตานที่จงเกลียดจงชังพวกเขา. (เอศ. 1:1-3; 3:8, 9; 8:3, 9-14) ด้วยเหตุนั้น จึงนับว่าเหมาะที่มิโด-เปอร์เซียถูกพรรณนาว่าเป็นหัวที่สี่ของสัตว์ร้ายในหนังสือวิวรณ์.
กรีซ—หัวที่ห้า
14, 15. พระยะโฮวาทรงเปิดเผยรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับจักรวรรดิกรีซโบราณ?
14 หัวที่ห้าของสัตว์ร้ายในหนังสือวิวรณ์หมายถึงมหาอำนาจกรีซ. ดังที่ดานิเอลเปิดเผยไว้ก่อนหน้านั้นเมื่อท่านบอกความหมายของความฝันของนะบูคัดเนซัร ส่วนท้องและโคนขาทองแดงของรูปปั้นหมายถึงมหาอำนาจเดียวกันนี้. ดานิเอลยังได้รับนิมิตอีกสองนิมิตที่ให้รายละเอียดที่น่าทึ่งเกี่ยวกับลักษณะและผู้ปกครองที่โดดเด่นที่สุดของจักรวรรดินี้.
15 ในนิมิตหนึ่ง ดานิเอลเห็นภาพอาณาจักรกรีซเป็นเสือดาวที่มีสี่ปีก ซึ่งแสดงว่าจักรวรรดินี้จะพิชิตชาติต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว. (ดานิ. 7:6) ในอีกนิมิตหนึ่ง ดานิเอลพรรณนาว่าแพะตัวหนึ่งซึ่งมีเขาเดียวที่โดดเด่นได้ฆ่าแกะตัวผู้ที่มีสองเขา คือมิโด-เปอร์เซีย อย่างรวดเร็ว. พระยะโฮวาทรงบอกดานิเอลว่าแพะนี้หมายถึงกรีซและเขาใหญ่หมายถึงกษัตริย์องค์หนึ่งของอาณาจักรนี้. ดานิเอลบันทึกต่อไปอีกว่าเขาใหญ่นั้นจะหักแล้วมีสี่เขาที่เล็กกว่างอกขึ้นมาแทน. แม้ว่าคำพยากรณ์นี้เขียนไว้แล้วหลายร้อยปีก่อนกรีซจะเป็นมหาอำนาจ แต่ก็สำเร็จเป็นจริงตามคำพยากรณ์นี้ในทุกรายละเอียด. อะเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่เด่นที่สุดของกรีซในสมัยโบราณ นำกองทัพโจมตีมิโด-เปอร์เซีย. แต่ไม่นานเขานี้ก็หักลง โดยที่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่องค์นี้ตายขณะเรืองอำนาจถึงขีดสุดและอายุเพียง 32 ปี. แล้วในที่สุดอาณาจักรของเขาก็ถูกแบ่งแยกและปกครองโดยนายพลสี่คนของเขา.—อ่านดานิเอล 8:20-22
16. อันทิโอกุสที่สี่ทำอะไร?
16 หลังจากพิชิตเปอร์เซียแล้ว กรีซก็ปกครองดินแดนของประชาชนของพระเจ้า. เมื่อถึงตอนนี้ ชาวยิวก็กลับมาตั้งรกรากในแผ่นดินที่ทรงสัญญาและสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ในกรุงเยรูซาเลม. พวกเขายังคงเป็นประชาชนที่พระเจ้าทรงเลือกสรร และพระวิหารที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางการนมัสการแท้. อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่สองก่อน ส.ศ. กรีซซึ่งเป็นหัวที่ห้าของสัตว์ร้ายก็โจมตีประชาชนของพระเจ้า. อันทิโอกุสที่สี่ ซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของอาณาจักรที่แตกแยกของอะเล็กซานเดอร์ ตั้งแท่นบูชานอกรีตขึ้นที่ลานพระวิหารในกรุงเยรูซาเลมและกำหนดบทลงโทษให้คนที่ปฏิบัติศาสนายิวมีโทษถึงตาย. ผู้สืบเชื้อสายของซาตานลงมือกระทำด้วยความเกลียดชังจริง ๆ! แต่ในไม่ช้าก็มีอีกมหาอำนาจหนึ่งเข้ามาแทนที่กรีซ. หัวที่หกของสัตว์ร้ายจะได้แก่มหาอำนาจใด?
โรม—หัวที่หกที่ “น่ากลัวขนลุกขนพอง”
17. หัวที่หกมีบทบาทสำคัญอย่างไรในการทำให้เยเนซิศ 3:15 สำเร็จเป็นจริง?
17 โรมเป็นมหาอำนาจตอนที่โยฮันได้รับนิมิตเกี่ยวกับสัตว์ร้าย. (วิ. 17:10) หัวที่หกมีบทบาทสำคัญในการทำให้คำพยากรณ์ที่บันทึกไว้ในเยเนซิศ 3:15 สำเร็จเป็นจริง. ซาตานใช้เจ้าหน้าที่โรมันทำให้ “ส้นเท้า” ของผู้สืบเชื้อสายฟกช้ำหรือทำให้เดินไม่ได้ไปชั่วระยะหนึ่ง. เป็นเช่นนั้นอย่างไร? พวกเขาพิจารณาคดีพระเยซูโดยใช้ข้อกล่าวหาเท็จว่าพระองค์มีความผิดฐานปลุกปั่นให้ขืนอำนาจปกครองและประหารพระองค์. (มัด. 27:26) แต่ไม่นานบาดแผลนั้นก็หาย เพราะพระยะโฮวาทรงปลุกพระเยซูให้ฟื้นคืนพระชนม์.
18. (ก) พระยะโฮวาทรงเลือกใครเป็นชาติใหม่ และเพราะเหตุใด? (ข) ผู้สืบเชื้อสายของงูยังคงแสดงความชิงชังรังเกียจต่อผู้สืบเชื้อสายของหญิงต่อไปอย่างไร?
18 พวกหัวหน้าศาสนาของชาติอิสราเอลคบคิดกับโรมต่อต้านพระเยซู และคนส่วนใหญ่ในชาตินี้ก็ปฏิเสธพระองค์ด้วย. ด้วยเหตุนั้น พระยะโฮวาทรงละทิ้งชาติอิสราเอลโดยกำเนิดและไม่ถือว่าพวกเขาเป็นประชาชนของพระองค์อีกต่อไป. (มัด. 23:38; กิจ. 2:22, 23) เมื่อถึงตอนนี้ พระองค์ทรงเลือกชาติใหม่ คือ “อิสราเอลของพระเจ้า.” (กลา. 3:26-29; 6:16) ชาตินี้ได้แก่ประชาคมแห่งคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ประกอบด้วยชาวยิวและคนต่างชาติ. (เอเฟ. 2:11-18) หลังจากพระเยซูสิ้นพระชนม์และถูกปลุกให้คืนพระชนม์ ผู้สืบเชื้อสายของงูยังคงแสดงความชิงชังรังเกียจต่อผู้สืบเชื้อสายของหญิงต่อไป. โรมพยายามกวาดล้างประชาคมคริสเตียนซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายอันดับรองมากกว่าหนึ่งครั้ง.c
19. (ก) ดานิเอลพรรณนามหาอำนาจที่หกไว้อย่างไร? (ข) เราจะพิจารณาอะไรในบทความศึกษาถัดไป?
19 ดานิเอลบอกความหมายของรูปปั้นในความฝันของนะบูคัดเนซัรว่าส่วนขาที่เป็นเหล็กหมายถึงโรม. (ดานิ. 2:33) ดานิเอลยังเห็นอีกนิมิตหนึ่งด้วยซึ่งไม่เพียงแต่พรรณนาจักรวรรดิโรมันอย่างชัดเจน แต่ยังบอกด้วยว่าจะมีมหาอำนาจโลกถัดไปเติบโตขึ้นมาจากจักรวรรดิโรมัน. (อ่านดานิเอล 7:7, 8) เป็นเวลาหลายศตวรรษ ศัตรูของโรมมองอาณาจักรนี้ว่า “น่ากลัวขนลุกขนพอง [และ] แข็งแรงยิ่งนัก.” อย่างไรก็ตาม คำพยากรณ์นี้บอกล่วงหน้าว่า “เขาสิบเขา” จะเติบโตขึ้นจากจักรวรรดินี้และมีเขาอันหนึ่งที่เด่นเป็นพิเศษซึ่งถูกพรรณนาว่าเป็น “เขาอันเล็ก.” เขาสิบเขาได้แก่อะไร และเขาอันเล็กนั้นได้แก่อะไร? เขาอันเล็กนั้นมีลักษณะตรงกับคำพรรณนาเกี่ยวกับรูปปั้นมหึมาที่นะบูคัดเนซัรเห็นอย่างไร? บทความในหน้า 14 จะตอบคำถามเหล่านี้.
-
-
พระยะโฮวาทรงเปิดเผยสิ่ง “ซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่ช้า”หอสังเกตการณ์ 2012 | 15 มิถุนายน
-
-
พระยะโฮวาทรงเปิดเผยสิ่ง “ซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่ช้า”
“วิวรณ์โดยพระเยซูคริสต์ ซึ่งพระเจ้าทรงประทานแก่พระองค์เพื่อแสดงให้ทาสทั้งหลายของพระองค์เห็นสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่ช้า.”—วิ. 1:1
คุณจะตอบอย่างไร?
ส่วนไหนของรูปปั้นมหึมาที่หมายถึงมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกัน?
โยฮันพรรณนาความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันกับสหประชาชาติไว้อย่างไร?
ดานิเอลและโยฮันแสดงให้เห็นอย่างไรว่ารัฐบาลทั้งหมดของโลกนี้จะถูกทำลาย?
1, 2. (ก) เราจะเข้าใจอะไรเมื่อเปรียบเทียบคำพยากรณ์ของดานิเอลกับคำพยากรณ์ของโยฮัน? (ข) หกหัวแรกของสัตว์ร้ายหมายถึงอะไร?
คำพยากรณ์ของดานิเอลและโยฮันตรงกันในหลายทางซึ่งช่วยให้เราเข้าใจความหมายของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. เราจะเรียนรู้อะไรได้ด้วยการเปรียบเทียบนิมิตที่โยฮันเห็นเกี่ยวกับสัตว์ร้าย บันทึกของดานิเอลเกี่ยวกับสัตว์ที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งมีเขาสิบเขา และสิ่งที่ดานิเอลบอกเกี่ยวกับความหมายของรูปปั้นมหึมา? และความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับคำพยากรณ์เหล่านั้นควรกระตุ้นเราให้ทำอะไร?
2 ขอให้เรามาพิจารณานิมิตที่โยฮันเห็นเกี่ยวกับสัตว์ร้ายในวิวรณ์บท 13. ดังที่เราเห็นแล้วในบทความก่อน หกหัวแรกของสัตว์ร้ายหมายถึงอียิปต์ อัสซีเรีย บาบิโลน มิโด-เปอร์เซีย กรีซ และโรม. มหาอำนาจทั้งหมดนี้ได้แสดงความเกลียดชังต่อผู้สืบเชื้อสายของหญิง. (เย. 3:15) โรม ซึ่งเป็นหัวที่หกยังคงเป็นมหาอำนาจต่อไปหลายศตวรรษหลังจากที่โยฮันบันทึกนิมิตนั้น. ในที่สุด หัวที่เจ็ดจะเข้ามาแทนที่โรม. หัวที่เจ็ดนั้นหมายถึงมหาอำนาจใด และมหาอำนาจนั้นจะปฏิบัติต่อผู้สืบเชื้อสายของหญิงอย่างไร?
บริเตนและสหรัฐขึ้นมามีอำนาจ
3. สัตว์ร้ายสิบเขาที่น่ากลัวนั้นหมายถึงอะไร และเขาสิบเขาหมายถึงอะไร?
3 เราจะระบุหัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายในวิวรณ์บท 13 ได้โดยเปรียบเทียบนิมิตที่โยฮันเห็นกับนิมิตที่ดานิเอลเห็นเกี่ยวกับสัตว์ร้ายสิบเขาที่น่ากลัว.a (อ่านดานิเอล 7:7, 8, 23, 24) สัตว์ร้ายที่ดานิเอลเห็นหมายถึงมหาอำนาจโลกโรม. (โปรดดูแผนภูมิหน้า 12-13) ในศตวรรษที่ห้าแห่งสากลศักราช จักรวรรดิโรมันเริ่มแตกแยกเป็นหลายส่วน. เขาสิบเขาซึ่งงอกขึ้นจากหัวของสัตว์ร้ายที่น่ากลัวนั้นหมายถึงอาณาจักรต่าง ๆ ที่เกิดจากจักรวรรดินั้น.
4, 5. (ก) เขาอันเล็กทำอะไร? (ข) หัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายได้แก่ใคร?
4 สี่เขาหรือสี่อาณาจักรที่งอกจากหัวของสัตว์ร้ายที่ดุร้ายนี้ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษ. เขาสามเขาถูกถอนให้หลุดออกไปโดยอีกเขาหนึ่ง ซึ่งเป็น “เขาอันเล็ก.” คำพยากรณ์นี้สำเร็จเป็นจริงเมื่อบริเตน ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหน้าด่านของจักรวรรดิโรมัน ได้กลายมาเป็นอาณาจักรที่โดดเด่น. บริเตนยังเป็นแคว้นที่ไม่ค่อยมีความสำคัญจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 17. อีกสามแคว้นของจักรวรรดิโรมัน คือสเปน เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส มีอำนาจและอิทธิพลมากกว่าบริเตนมาก. บริเตนถอนเขาแห่งอำนาจของสามแคว้นนี้ทีละแคว้น และถอดแคว้นทั้งสามออกจากฐานะอันทรงเกียรติ. เมื่อถึงกลางศตวรรษที่ 18 บริเตนอยู่บนเส้นทางที่จะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลบนเวทีโลก. แต่บริเตนก็ยังไม่ได้กลายมาเป็นหัวที่เจ็ดของสัตว์ร้าย.
5 แม้ว่าบริเตนกลายมาเป็นมหาอำนาจ แต่อาณานิคมในอเมริกาเหนือก็แยกตัวเป็นอิสระ. บริเตนยอมให้สหรัฐขึ้นมาเป็นประเทศที่ทรงอำนาจและถึงกับปกป้องรัฐนี้ด้วยกองทัพเรือของตน. เมื่อวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าเริ่มต้นขึ้นในปี 1914 บริเตนได้สร้างจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และสหรัฐได้กลายมาเป็นมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก.b ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 สหรัฐจับมือเป็นพันธมิตรกับบริเตน. ถึงตอนนี้ หัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายก็ได้ปรากฏขึ้นมาในฐานะมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกัน. หัวนี้ของสัตว์ร้ายปฏิบัติต่อผู้สืบเชื้อสายของหญิงอย่างไร?
6. หัวที่เจ็ดปฏิบัติต่อประชาชนของพระเจ้าอย่างไร?
6 ไม่นานหลังจากที่วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าเริ่มต้น หัวที่เจ็ดโจมตีประชาชนของพระเจ้า คือชนที่เหลือของพี่น้องของพระคริสต์ที่ยังอยู่บนแผ่นดินโลก. (มัด. 25:40) พระเยซูทรงระบุว่าระหว่างการประทับของพระองค์ ชนที่เหลือแห่งผู้สืบเชื้อสายจะทำหน้าที่อย่างขันแข็งบนแผ่นดินโลก. (มัด. 24:45-47; กลา. 3:26-29) มหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันทำสงครามกับผู้บริสุทธิ์เหล่านี้. (วิ. 13:3, 7) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 มหาอำนาจนี้กดขี่ประชาชนของพระเจ้า สั่งห้ามหนังสือบางเล่ม และจับตัวแทนของชนชั้นทาสสัตย์ซื่อขังคุก. หัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายทำให้งานประกาศหยุดชะงักลงชั่วเวลาหนึ่ง ราวกับว่าได้ฆ่างานนี้. พระยะโฮวาทรงเห็นเหตุการณ์นี้ล่วงหน้าและเปิดเผยเรื่องนี้แก่โยฮัน. พระเจ้ายังทรงบอกโยฮันด้วยว่าผู้สืบเชื้อสายอันดับรองจะได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาทำการงาน ราวกับว่ามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง. (วิ. 11:3, 7-11) ประวัติศาสตร์ของผู้รับใช้ในสมัยปัจจุบันของพระยะโฮวายืนยันว่าได้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นจริง.
มหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันและเท้าที่เป็นเหล็กปนดินเหนียว
7. มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรระหว่างหัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายกับรูปปั้นมหึมา?
7 มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรระหว่างหัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายกับรูปปั้นมหึมา? บริเตนมาจากจักรวรรดิโรมัน. และเนื่องจากสหรัฐมาจากบริเตน จึงกล่าวได้ว่าสหรัฐก็มาจากจักรวรรดิโรมันด้วย. ส่วนเท้าของรูปปั้นเป็นอย่างไร? มีคำพรรณนาว่าเท้านี้เป็นส่วนผสมระหว่างเหล็กกับดินเหนียว. (อ่านดานิเอล 2:41, 42) คำพรรณนาเกี่ยวกับเท้าของรูปปั้นนี้ตรงกันกับช่วงเวลาที่หัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายซึ่งก็คือมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันขึ้นมามีอำนาจ. เช่นเดียวกับโครงสร้างที่เป็นเหล็กปนดินเหนียวอ่อนกว่าเหล็กล้วน ๆ มหาอำนาจแองโกล-อเมริกันก็อ่อนแอกว่ามหาอำนาจโรม. เป็นเช่นนั้นอย่างไร?
8, 9. (ก) มหาอำนาจโลกที่เจ็ดแสดงความแข็งแกร่งดุจเหล็กอย่างไร? (ข) ดินเหนียวที่เท้าของรูปปั้นนั้นหมายถึงอะไร?
8 บางครั้งหัวที่เจ็ดของสัตว์ร้ายแสดงลักษณะที่แข็งแกร่งดุจเหล็ก. ตัวอย่างเช่น หัวที่เจ็ดนี้แสดงอำนาจด้วยการชนะสงครามโลกครั้งที่ 1. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อำนาจที่แข็งแกร่งดุจเหล็กของหัวที่เจ็ดนั้นก็เห็นได้ชัดเจนด้วย.c ภายหลังสงครามนี้ หัวที่เจ็ดยังคงแสดงลักษณะที่แข็งแกร่งดุจเหล็กเป็นครั้งคราว. อย่างไรก็ตาม เหล็กถูกปนด้วยดินเหนียวตั้งแต่แรก.
9 ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาได้พยายามมาเป็นเวลานานแล้วที่จะเข้าใจว่าเท้าของรูปปั้นหมายถึงอะไร. ดานิเอล 2:41 พรรณนาส่วนผสมที่เป็นเหล็กปนดินเหนียวว่าเป็น “อาณาจักร” หนึ่ง ไม่ใช่หลายอาณาจักร. ด้วยเหตุนั้น ดินเหนียวจึงหมายถึงประชาชนที่อยู่ภายใต้อำนาจและอิทธิพลของมหาอำนาจแองโกล-อเมริกัน ซึ่งทำให้มหาอำนาจนี้อ่อนแอกว่าจักรวรรดิโรมันที่เป็นดุจเหล็กล้วน ๆ. มีการกล่าวถึงดินเหนียวนี้ว่าเป็น “บุตรหลานของมนุษยชาติ” หรือสามัญชน. (อ่านดานิเอล 2:43, ล.ม.)d ประชาชนทำให้มหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันอ่อนแอลงเมื่อพวกเขารณรงค์เรียกร้องสิทธิของตนเองในฐานะพลเมือง เมื่อสหภาพแรงงานเรียกร้องสิทธิของคนทำงาน และเมื่อบางกลุ่มเรียกร้องที่จะแยกตัวเป็นอิสระ. สามัญชนได้ทำให้เป็นเรื่องยากที่มหาอำนาจนี้จะปฏิบัติการอย่างแข็งแกร่งดุจเหล็ก. อีกสิ่งหนึ่งที่ถ่วงอำนาจคืออุดมการณ์ที่ขัดแย้งกัน. เมื่อผู้นำคนหนึ่งชนะคู่แข่งในการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงที่ห่างกันไม่มาก เขาก็ไม่มีอำนาจอย่างเด็ดขาดที่จะทำตามนโยบายของเขา. ดานิเอลบอกไว้ล่วงหน้าว่า “อาณาจักรที่เกิดแยกกันนั้น, บ้างก็จะแข็ง, บ้างก็จะเปราะ.”—ดานิ. 2:42; 2 ติโม. 3:1-3
10, 11. (ก) ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับ “เท้า”? (ข) เราอาจลงความเห็นอะไรได้เกี่ยวกับจำนวนนิ้วเท้า?
10 ในศตวรรษที่ 21 นี้ บริเตนและสหรัฐยังคงเป็นหุ้นส่วนพิเศษกัน และมักร่วมมือกันในเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลก. คำพยากรณ์เกี่ยวกับรูปปั้นมหึมาและสัตว์ร้ายยืนยันว่ามหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันจะไม่ถูกแทนที่โดยมหาอำนาจที่จะมีมาในอนาคต. แม้ว่ามหาอำนาจสุดท้ายนี้อ่อนแอกว่ามหาอำนาจก่อนซึ่งมีขาที่เป็นเหล็กเป็นสัญลักษณ์ แต่มหาอำนาจนี้จะไม่ล่มสลายไปเอง.
11 จำนวนนิ้วเท้าของรูปปั้นมีความหมายเป็นพิเศษไหม? ขอให้พิจารณาอย่างนี้: ในนิมิตอื่น ๆ ดานิเอลกล่าวถึงจำนวนที่เจาะจง เช่น จำนวนเขาบนหัวของสัตว์ร้ายต่าง ๆ. จำนวนเหล่านั้นมีความหมาย. อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรณนารูปปั้น ดานิเอลไม่ได้กล่าวถึงจำนวนนิ้วเท้า. ด้วยเหตุนั้น จำนวนนิ้วเท้าจึงดูเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับข้อเท็จจริงที่ว่ารูปปั้นนั้นมีแขนสองข้าง มือสองมือ นิ้วสิบนิ้ว ขาสองขา และเท้าสองเท้า. สิ่งที่ดานิเอลกล่าวถึงอย่างเจาะจงก็คือนิ้วเท้าจะเป็นเหล็กปนดินเหนียว. จากคำพรรณนานี้ เราลงความเห็นได้ว่ามหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันจะยังมีอำนาจและอิทธิพลอยู่เมื่อถึงตอนที่ “หิน” ซึ่งหมายถึงราชอาณาจักรของพระเจ้ามากระแทกเท้าของรูปปั้นนั้น.—ดานิ. 2:45
แองโกล-อเมริกันและสัตว์ร้ายสองเขา
12, 13. สัตว์ร้ายสองเขาหมายถึงอะไร และสัตว์ร้ายนี้ทำอะไร?
12 แม้ว่ามหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันเป็นเหล็กปนดินเหนียว แต่นิมิตที่พระเยซูประทานแก่โยฮันชี้ว่ามหาอำนาจนี้จะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไปในสมัยสุดท้ายนี้. เป็นเช่นนั้นอย่างไร? โยฮันเห็นนิมิตหนึ่งเกี่ยวกับสัตว์ร้ายสองเขาที่พูดจาคล้ายพญานาค. สัตว์แปลกประหลาดตัวนี้หมายถึงใคร? สัตว์ตัวนี้มีสองเขา มันจึงหมายถึงมหาอำนาจคู่. สัตว์ร้ายนี้ที่โยฮันเห็นหมายถึงมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกัน แต่ว่าตอนนี้มันมีบทบาทพิเศษอย่างหนึ่ง.—อ่านวิวรณ์ 13:11-15
13 สัตว์ร้ายนี้ส่งเสริมให้มีการทำรูปของสัตว์ร้ายขึ้นมา. โยฮันเขียนว่ารูปของสัตว์ร้ายนั้นจะปรากฏ หายไป แล้วก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง. นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับองค์การหนึ่งที่บริเตนและสหรัฐสนับสนุน ซึ่งองค์การนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะรวมอาณาจักรต่าง ๆ ในโลกให้เป็นหนึ่งเดียวและเป็นตัวแทนอาณาจักรเหล่านั้น.e องค์การนี้ปรากฏขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและเป็นที่รู้จักกันในนามสันนิบาตชาติ. องค์การนี้หายไปเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง. ในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ประชาชนของพระเจ้าประกาศว่ารูปของสัตว์ร้ายนี้จะปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งตามคำพยากรณ์ในหนังสือวิวรณ์. และรูปของสัตว์ร้ายนี้ก็ปรากฏขึ้นมาอีกจริง ๆ โดยใช้ชื่อว่าองค์การสหประชาชาติ.—วิ. 17:8
14. รูปของสัตว์ร้ายเป็น “กษัตริย์องค์ที่แปด” ในความหมายใด?
14 โยฮันพรรณนารูปของสัตว์ร้ายนั้นว่าเป็น “กษัตริย์องค์ที่แปด.” ทำไมท่านจึงเรียกรูปของสัตว์ร้ายนี้ว่า “กษัตริย์”? รูปนี้ไม่ได้ถูกพรรณนาว่าเป็นหัวที่แปดของสัตว์ร้ายตัวแรก. มันเป็นเพียงรูปของสัตว์ร้ายนั้น. อำนาจใด ๆ ที่รูปนี้มีอยู่มาจากชาติต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสำคัญขององค์การนี้. (วิ. 17:10, 11) แต่องค์การนี้ได้รับอำนาจที่จะปฏิบัติหน้าที่เหมือนกษัตริย์ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นภารกิจที่จะจุดชนวนให้เกิดหลายเหตุการณ์ตามมาและเปลี่ยนประวัติศาสตร์.
รูปของสัตว์ร้ายทำลายหญิงแพศยา
15, 16. หญิงแพศยาหมายถึงอะไร และเกิดอะไรขึ้นกับศาสนาในทุกวันนี้?
15 โยฮันยังพรรณนาด้วยว่าหญิงแพศยานั่งบนสัตว์ร้ายสีแดงเข้ม. สัตว์ร้ายสีแดงเข้มนี้คือรูปของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัว. หญิงแพศยานี้ถูกเรียกว่า “บาบิโลนใหญ่.” (วิ. 17:1-6) หญิงแพศยานี้หมายถึงศาสนาเท็จทั้งหมด ซึ่งมีคริสต์ศาสนจักรเป็นหัวแถว. องค์การศาสนาได้อวยพรแก่รูปของสัตว์ร้ายและพยายามจะมีอิทธิพลครอบงำรูปของสัตว์ร้าย.
16 อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า น้ำทั้งหลายซึ่งหมายถึงประชาชนที่สนับสนุนบาบิโลนใหญ่ได้แห้งหายไปมาก. (วิ. 16:12; 17:15) ตัวอย่างเช่น เมื่อรูปของสัตว์ร้ายปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งแรก คริสต์ศาสนจักรซึ่งเป็นส่วนสำคัญของบาบิโลนใหญ่มีอิทธิพลเหนือโลกตะวันตก. ปัจจุบัน คริสตจักรต่าง ๆ และบรรดานักเทศน์ไม่ได้รับความนับถือและการสนับสนุนจากมหาชนมากเหมือนเมื่อก่อน. ที่จริง หลายคนเชื่อว่าศาสนาส่งเสริมหรือแม้แต่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความขัดแย้ง. มีปัญญาชนที่หัวรุนแรงและกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกตะวันตก และคนเหล่านี้เรียกร้องให้ขจัดอิทธิพลของศาสนาที่มีต่อสังคม.
17. ในไม่ช้าจะเกิดอะไรขึ้นกับศาสนาเท็จ และเพราะเหตุใด?
17 อย่างไรก็ตาม ศาสนาเท็จจะไม่เพียงแค่ค่อย ๆ เสื่อมและหายไป. หญิงแพศยาจะยังคงมีอำนาจมากและพยายามโน้มน้าวกษัตริย์ทั้งหลายให้ทำตามความประสงค์ของตนจนกระทั่งพระเจ้าทรงใส่ความคิดอย่างหนึ่งในหัวใจของพวกผู้มีอำนาจ. (อ่านวิวรณ์ 17:16, 17) ในไม่ช้า พระยะโฮวาจะทรงทำให้ส่วนทางการเมืองในระบบของซาตาน ซึ่งมีสหประชาชาติเป็นตัวแทน โจมตีศาสนาเท็จ. พวกเขาจะทำลายอิทธิพลและความมั่งคั่งของศาสนาเท็จ. หากย้อนกลับไปเพียงไม่กี่สิบปี เหตุการณ์เช่นนี้อาจดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นไปได้. ปัจจุบัน หญิงแพศยานั่งโงนเงนอยู่บนหลังสัตว์ร้ายสีแดงเข้ม. แม้กระนั้น นางจะไม่ค่อย ๆ ไถลร่วงลงจากที่นั่ง. นางจะตกลงมาอย่างกะทันหันและอย่างแรง.—วิ. 18:7, 8, 15-19
สัตว์ร้ายถึงจุดจบ
18. (ก) สัตว์ร้ายจะทำอะไร และผลจะเป็นเช่นไร? (ข) ตามในดานิเอล 2:44 ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะทำลายอาณาจักรใด? (ดูกรอบหน้า 17)
18 หลังจากที่ศาสนาเท็จถูกทำลาย สัตว์ร้ายหรือองค์การทางการเมืองของซาตานจะถูกกระตุ้นให้โจมตีราชอาณาจักรของพระเจ้า. เนื่องจากไปถึงสวรรค์ไม่ได้ กษัตริย์ทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะระบายความโกรธแค้นต่อคนที่อยู่บนแผ่นดินโลกที่สนับสนุนราชอาณาจักรของพระเจ้า. นั่นจะทำให้กษัตริย์เหล่านี้เข้าสู่สงครามครั้งสุดท้ายกับพระเจ้า. (วิ. 16:13-16; 17:12-14) ดานิเอลบอกให้เรารู้บางสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสงครามครั้งสุดท้ายนั้น. (อ่านดานิเอล 2:44) สัตว์ร้ายที่กล่าวถึงในวิวรณ์ 13:1 รูปของมัน และสัตว์ร้ายสองเขาจะถูกทำลาย.
19. เรามั่นใจได้ในเรื่องใด และเราต้องทำอะไรในตอนนี้?
19 เรามีชีวิตอยู่ในสมัยของหัวที่เจ็ดของสัตว์ร้าย. จะไม่มีหัวอื่นใดปรากฏขึ้นอีกจากสัตว์ร้ายนี้ก่อนที่มันจะถูกทำลาย. มหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันจะเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลมากที่สุดตอนที่ศาสนาเท็จถูกทำลายจนหมดสิ้น. คำพยากรณ์ของดานิเอลและโยฮันสำเร็จเป็นจริงมาโดยตลอดในรายละเอียดปลีกย่อยทุกอย่าง. เรามั่นใจได้ว่าการทำลายศาสนาเท็จและสงครามอาร์มาเก็ดดอนจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า. พระเจ้าทรงเปิดเผยรายละเอียดเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า. แต่เราจะใส่ใจฟังคำเตือนในคำพยากรณ์เหล่านี้ไหม? (2 เป. 1:19) บัดนี้เป็นเวลาที่จะเลือกอยู่ฝ่ายพระยะโฮวาและสนับสนุนราชอาณาจักรของพระองค์.—วิ. 14:6, 7
[เชิงอรรถ]
a ในคัมภีร์ไบเบิล เลขสิบมักใช้เป็นสัญลักษณ์หมายถึงความครบถ้วน และในกรณีนี้ หมายถึงอาณาจักรทั้งหมดที่เกิดจากจักรวรรดิโรมัน.
b แม้ว่าจักรวรรดิอังกฤษและสหรัฐมีอยู่แล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แต่โยฮันพรรณนาว่าทั้งสองจะร่วมกันเป็นมหาอำนาจโลกในตอนเริ่มต้นวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า. ที่จริง ความสำเร็จของนิมิตต่าง ๆ ที่บันทึกในหนังสือวิวรณ์เกิดขึ้นในช่วง “วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า.” (วิ. 1:10) ต้องรอจนกระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 หัวที่เจ็ดนี้จึงได้เริ่มปฏิบัติการในฐานะมหาอำนาจคู่.
c ดานิเอลเห็นล่วงหน้าถึงการทำลายที่กษัตริย์องค์นี้จะก่อให้เกิดขึ้นระหว่างสงครามนั้น โดยเขียนว่า “เขาจะทำให้เกิดความพินาศอันน่าสยดสยอง.” (ดานิ. 8:24) ตัวอย่างเช่น สหรัฐก่อให้เกิดความเสียหายที่น่าสยดสยองในขอบเขตที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์สองลูกโจมตีประเทศหนึ่งที่เป็นศัตรูของมหาอำนาจแองโกล-อเมริกัน.
d ดานิเอล 2:43 (ล.ม.): “ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเห็นเหล็กปนดินเหนียวที่ชื้น ทั้งสองอย่างนั้นจะเข้ามาปะปนกับบุตรหลานของมนุษยชาติ; แต่มันจะไม่ยึดติดกันและกัน เหมือนเหล็กไม่เข้ากันกับดินเหนียว.”
e โปรดดูหนังสือพระธรรมวิวรณ์—ใกล้จะถึงจุดสุดยอด! หน้า 240, 241, 253
[กรอบหน้า 17]
ใครคือ “ราชอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมด”?
คำพยากรณ์ที่ดานิเอล 2:44 (พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน) กล่าวว่าราชอาณาจักรของพระเจ้า “จะทำให้ราชอาณาจักรเหล่านี้ ทั้งหมดแตกเป็นชิ้น ๆ จนพินาศไป.” คำพยากรณ์นี้กล่าวถึงเฉพาะอาณาจักรที่เป็นส่วนต่าง ๆ ของรูปปั้น.
จะว่าอย่างไรสำหรับรัฐบาลอื่น ๆ ทั้งหมดของมนุษย์? คำพยากรณ์ที่กล่าวถึงเรื่องเดียวกันในหนังสือวิวรณ์บอกรายละเอียดแก่เรามากกว่านั้น. คำพยากรณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “กษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก” จะถูกรวบรวมมาต่อสู้กับพระยะโฮวาใน “วันใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง.” (วิ. 16:14; 19:19-21) ดังนั้น นอกจากอาณาจักรที่เป็นส่วนต่าง ๆ ของรูปปั้นแล้ว รัฐบาลอื่น ๆ ทั้งหมดของมนุษย์ก็จะถูกทำลาย ณ อาร์มาเก็ดดอนด้วย.
-
-
เปิดเผยกษัตริย์แปดองค์หอสังเกตการณ์ 2012 | 15 มิถุนายน
-
-
เปิดเผยกษัตริย์แปดองค์
เมื่อพิจารณาหนังสือดานิเอลและวิวรณ์ประกอบกัน หนังสือทั้งสองเล่มนี้ไม่เพียงแต่จะบอกว่ากษัตริย์แปดองค์หรือการปกครองของมนุษย์ได้แก่ใคร แต่ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าอำนาจปกครองเหล่านั้นจะปรากฏขึ้นตามลำดับอย่างไร. เราจะแปลความหมายคำพยากรณ์เหล่านั้นได้เมื่อเราเข้าใจคำพยากรณ์แรกสุดที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล.
ตลอดประวัติศาสตร์ ซาตานรวบรวมผู้สืบเชื้อสายของมันในรูปขบวนการทางการเมืองหรืออาณาจักรต่าง ๆ. (ลูกา 4:5, 6) อย่างไรก็ตาม มีอาณาจักรของมนุษย์เพียงไม่กี่อาณาจักรที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อประชาชนของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นชาติอิสราเอลหรือประชาคมคริสเตียนผู้ถูกเจิม. นิมิตที่ดานิเอลและโยฮันเห็นพรรณนาถึงมหาอำนาจโลกทั้งหมดเพียงแค่แปดมหาอำนาจ.
[แผนภูมิ/ภาพหน้า 12, 13]
(ดูรายละเอียดจากวารสาร)
คำพยากรณ์ คำพยากรณ์
ในหนังสือดานิเอล ในหนังสือวิวรณ์
1. อียิปต์
2. อัสซีเรีย
3. บาบิโลน
4. มิโด-
เปอร์เซีย
5. กรีซ
6. โรม
7. บริเตนและ
สหรัฐอเมริกาa
8. สันนิบาตชาติ
และสหประชาชาติb
ประชาชนของพระเจ้า
2000 ก่อน ส.ศ.
อับราฮาม
1500
ชาติอิสราเอล
1000
ดานิเอล 500
ก่อน ส.ศ./ส.ศ.
โยฮัน
อิสราเอลของพระเจ้า 500
1000
1500
ส.ศ. 2000
[เชิงอรรถ]
[ภาพ]
รูปปั้นมหึมา (ดานิ. 2:31-45)
สัตว์ใหญ่สี่ตัวขึ้นมาจากทะเล (ดานิ. 7:3-8, 17, 25)
แกะตัวผู้และแพะผู้ (ดานิ. บท 8)
สัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัว (วิ. 13:1-10, 16-18)
สัตว์ร้ายที่มีสองเขาส่งเสริมการทำรูปของสัตว์ร้าย (วิ. 13:11-15)
[ที่มาของภาพ]
Photo credits: Egypt and Rome: Photograph taken by courtesy of the British Museum; Medo-Persia: Musée du Louvre Paris
-
-
คำถามจากผู้อ่านหอสังเกตการณ์ 2012 | 15 มิถุนายน
-
-
คำถามจากผู้อ่าน
มหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันเป็นมหาอำนาจโลกที่เจ็ดตามคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลเมื่อไร?
▪ รูปปั้นโลหะมหึมาที่กษัตริย์นะบูคัดเนซัรเห็นไม่ได้หมายถึงมหาอำนาจโลกทั้งหมด. (ดานิ. 2:31-45) รูปปั้นนี้พรรณนาถึงมหาอำนาจโลกแค่ห้ามหาอำนาจที่ปกครองตั้งแต่สมัยของดานิเอลเป็นต้นมาและเป็นมหาอำนาจโลกที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชนของพระเจ้า.
คำพรรณนาของดานิเอลเกี่ยวกับรูปปั้นโลหะนี้ทำให้เราสรุปได้ว่ามหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันจะเกิดขึ้นมาจากอาณาจักรโรม ไม่ใช่ขึ้นมาเป็นมหาอำนาจด้วยการพิชิตโรม. ในรูปปั้นนั้น ดานิเอลเห็นขาที่เป็นเหล็กต่อเนื่องลงไปจนถึงส่วนเท้าและนิ้วเท้า. (ส่วนที่เป็นเท้าและนิ้วเท้าเป็นเหล็กปนดินเหนียว)a คำพรรณนานี้ชี้ว่ามหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกันจะขึ้นมามีอำนาจสืบเนื่องจากขาที่เป็นเหล็ก. ประวัติศาสตร์ยืนยันความถูกต้องแม่นยำของคำพรรณนาดังกล่าว. บริเตน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน เริ่มเรืองอำนาจขึ้นมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 18. ต่อมา สหรัฐอเมริกาได้กลายมาเป็นชาติหนึ่งที่มีอำนาจมาก. อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นบริเตนกับสหรัฐยังไม่ได้เป็นมหาอำนาจโลกที่เจ็ดตามคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล. เพราะเหตุใด? เพราะทั้งสองยังไม่ได้ร่วมมือกันในแนวทางพิเศษ. การร่วมมือกันดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1.
ในเวลานั้น “เหล่าบุตรแห่งราชอาณาจักร” ทำงานอย่างขันแข็งในสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ และสำนักงานใหญ่ของพวกเขาตั้งอยู่ที่บรุกลิน นิวยอร์ก. (มัด. 13:36-43) สมาชิกของชนชั้นผู้ถูกเจิมกำลังประกาศอย่างขันแข็งในหลายประเทศที่อยู่ใต้อำนาจของจักรวรรดิอังกฤษ. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 บริเตนและอเมริกาได้กลายมาเป็นหุ้นส่วนพิเศษและรบกับศัตรูทางการเมืองของพวกเขา. เมื่อสงครามทำให้เกิดความคลั่งชาติมากขึ้นในบริเตนและสหรัฐ ทั้งสองประเทศก็แสดงความเป็นศัตรูต่อคนที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้สืบเชื้อสายของ “หญิง” สั่งห้ามหนังสือของพวกเขาและจำคุกเหล่าคนที่นำหน้าในงานประกาศ.—วิ. 12:17
ดังนั้น จากคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล เราได้เรียนรู้ว่ามหาอำนาจโลกที่เจ็ดไม่ได้ปรากฏขึ้นมาในปลายศตวรรษที่ 18 เมื่อบริเตนเริ่มมีอำนาจและอิทธิพลมากขึ้น. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น มหาอำนาจโลกที่เจ็ดปรากฏขึ้นในตอนเริ่มต้นวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า.b
-